บทนำ
สวัสดีครับเพื่อนๆ! ยินดีต้อนรับเข้าสู่บทความจัดอันดับที่ทุกคนรอคอยครับ วันนี้เราจะมาลุยกันในสมรภูมิที่ดุเดือดที่สุดสมรภูมิหนึ่ง นั่นก็คือการตามหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี อัปเดตล่าสุดปี 2025 กันครับ! พูดเลยว่าในงบประมาณนี้ Xiaomi, Redmi, และ POCO (ซึ่งก็คือครอบครัวเดียวกัน) เขาปล่อยของออกมาแบบไม่เกรงใจใครจริงๆ ครับ ชนิดที่ว่าเดินเข้าช็อปไปนี่มีงงแน่นอน เพราะรุ่นมันเยอะมาก! แต่เพื่อนๆ ไม่ต้องกังวลครับ เพราะงบ 5,000 บาทเนี่ย ถือเป็นช่วงราคาที่ “หวานเจี๊ยบ” ที่สุดแล้ว เราสามารถคาดหวังมือถือที่สเปกดีเกินราคา จอสวย แบตอึด หรือแม้กระทั่งได้กล้องที่ถ่ายรูปสวยๆ อวดเพื่อนได้เลย
ผมเข้าใจหัวอกคนเลือกมือถือดีครับ บางทีเราก็แค่อยากได้ของที่คุ้มค่าที่สุดในงบที่มี ไม่ต้องจ่ายแพง แต่ก็ขอให้ใช้งานได้ลื่นๆ ดูหนังฟังเพลงเพลินๆ ใช่ไหมล่ะครับ วันนี้ผมเลยอาสาเป็นเพื่อนซี้สายเทคฯ ไปทำการบ้านมาให้เรียบร้อย คัดเอา 10 รุ่นเด็ดที่โดดเด่นที่สุดในงบนี้มาให้เลือกกันแบบจุกๆ เราจะมาเจาะลึกกันทีละรุ่นเลยว่าแต่ละตัวมีดีอะไร เหมาะกับการใช้งานแบบไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นสายโซเชียล, สายดูซีรีส์, หรือสายเล่นเกมแบบขำๆ ผมมั่นใจว่าในลิสต์นี้ต้องมี “เนื้อคู่” ที่รอคุณอยู่แน่นอนครับ และถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi รุ่นไหนดี ในภาพรวม หรืออาจจะอยากได้รุ่นที่ประหยัดลงไปอีกอย่าง โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 3000 เราก็มีไกด์ให้เช่นกันนะครับ เอ้อ! แล้วถ้าได้มือถือใหม่แล้ว อย่าลืมหา หูฟังบลูทูธไร้สาย ดีๆ สักตัวไว้ใช้คู่กันด้วยนะครับ ฟินคูณสองไปเลย! เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว…ไปดูกันเลยครับว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นมือถือคู่ใจเครื่องใหม่ของคุณ!
จัดอันดับ 10 อันดับ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี อัปเดตล่าสุด 2025
ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกกันทีละรุ่นว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่เหมาะกับคุณที่สุด ลองมาดูตารางเปรียบเทียบสเปกเด่นๆ และคะแนนภาพรวมของทั้ง 10 รุ่นที่เราคัดมากันก่อนครับ จะได้เห็นภาพชัดๆ ไปเลยว่ารุ่นไหนมีอะไรเด็ดบ้าง!
ตารางเปรียบเทียบสรุป
1. Xiaomi POCO C75 5G (8GB+256GB) ★★★★★
“ตัวจริงเรื่อง 5G! จอลื่น 120Hz RAM 8GB ในราคาสุดช็อก! นี่แหละมือถือแห่งอนาคตในงบปัจจุบัน”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
เปิดตัวอันดับ 1 ของเราแบบไม่เกรงใจใคร กับ Xiaomi POCO C75 5G ครับ! ถ้าคำถามของคุณคือ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่รองรับ 5G ได้แบบไม่ต้องคิดเยอะ ตัวนี้คือคำตอบที่ใช่ที่สุดแล้วครับ POCO C75 5G ถือเป็นการ “ทุบตลาด” อย่างแท้จริง เพราะยัดสเปกที่ปกติเราจะเห็นในมือถือราคาเกือบหมื่นมาไว้ในงบนี้ ทั้งชิป 5G, หน้าจอรีเฟรชเรตสูงถึง 120Hz, และ RAM 8GB ที่ให้มาแบบเหลือเฟือ! นี่คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่อยากใช้มือถือยาวๆ และพร้อมสำหรับอนาคตโดยไม่ต้องจ่ายแพงครับ
สเปกเด่น
- หน้าจอ (Display): 6.88 นิ้ว IPS LCD, รีเฟรชเรต 120Hz, ความละเอียด HD+ (1640×720)
- หน่วยประมวลผล (Chipset): Qualcomm Snapdragon 4s Gen 2 (4 nm) 5G
- หน่วยความจำ (RAM/storage): 8 GB RAM + 256 GB ROM (รองรับ microSD)
- กล้องหลัง (Rear Camera): 50 MP (หลัก) + เลนส์ช่วย
- กล้องหน้า (Front Camera): 5 MP
- แบตเตอรี่ (Battery): 5,160 mAh (ชาร์จเร็ว 18W)
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS based on Android 14
- คุณสมบัติอื่นๆ: 5G, ช่องหูฟัง 3.5 มม., สแกนนิ้วด้านข้าง
รีวิวแบบเจาะลึก
ต้องบอกว่า POCO C75 5G เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจจนผมต้องยกให้เป็นอันดับ 1 เลยครับ สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงคือ “5G” การที่ สมาร์ทโฟน Xiaomi งบ 5000 สามารถรองรับ 5G ได้ ทำให้มัน “กันตาย” ไปได้อีกหลายปีเลยครับ ใครที่คิดจะซื้อใช้ยาวๆ ตัวนี้ตอบโจทย์มาก มาพูดถึงเรื่องดีไซน์กันก่อน ตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างใหญ่ตามสไตล์มือถือจอ 6.88 นิ้ว แต่น้ำหนักก็ไม่ได้มากจนเกินไป การออกแบบฝาหลังก็ทำได้สวยงามตามมาตรฐาน POCO ครับ ทีนี้มาถึงไฮไลท์เด็ด “หน้าจอ 120Hz” ครับเพื่อนๆ! การได้จอ 120Hz ในราคานี้มันสุดยอดมาก เวลาไถฟีด Facebook, TikTok หรือ Twitter มันลื่นติดนิ้วแบบคนละเรื่องกับจอ 60Hz ทั่วไปเลยครับ แม้ว่ามันจะเป็นจอ IPS LCD ที่ความละเอียด HD+ (1640×720) ซึ่งอาจจะไม่ได้คมกริบเท่าพวกรุ่นจอ Full HD+ แต่เอาจริงๆ นะครับ ในการใช้งานทั่วไป แทบแยกไม่ออก แถมการที่จอมีความละเอียดไม่สูงมาก ยังช่วยให้ชิปประมวลผลทำงานน้อยลง ทำให้เครื่องลื่นขึ้นและประหยัดแบตเตอรี่ขึ้นด้วยครับ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่ฉลาดมากๆ สำหรับ มือถือ Xiaomi ราคาประหยัด
มาต่อกันที่ขุมพลังภายในครับ POCO C75 5G ใช้ชิป Snapdragon 4s Gen 2 ซึ่งเป็นชิป 5G ระดับเริ่มต้นที่ประสิทธิภาพดีเกินคาดครับ มันผลิตบนสถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร ซึ่งหมายความว่ามันทั้งแรงและประหยัดพลังงาน บวกกับ RAM ที่ให้มาถึง 8GB และ ROM 256GB นี่มันสเปกมือถือหมื่นต้นๆ ชัดๆ! การใช้งานทั่วไปลื่นไหลหายห่วงครับ เปิดหลายแอปสลับไปมาได้สบายๆ ส่วนการเล่นเกม ถ้าเป็นเกมฮิตอย่าง ROV หรือ Free Fire ปรับกราฟิกกลางๆ ก็เล่นได้ลื่นๆ เลยครับ แต่อย่าเพิ่งหวังไปลุย Genshin Impact แบบปรับสุดนะครับ อาจจะมีกระตุกบ้าง (ซึ่งถ้าอยากเล่นเกมหนักจริงๆ อาจต้องขยับไปดู โทรศัพท์ Xiaomi เล่นเกมลื่น รุ่นที่สูงกว่าครับ) เรื่องกล้องหลัง 50MP ก็ทำได้ดีในสภาพแสงปกติครับ ถ่ายรูปออกมาคมชัด สีสันสดใส แบตเตอรี่ 5,160 mAh นี่ก็อึดถึกทน ใช้งานปกติได้ 2 วันสบายๆ ครับ ข้อสังเกตเดียวคือชาร์จ 18W ที่ให้มา อาจจะใช้เวลาชาร์จแบตขนาดนี้เต็มๆ เกือบ 2 ชั่วโมงครับ แต่โดยรวมแล้ว ถ้าใครถามผมว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่คุ้มที่สุดและรองรับอนาคต ผมชี้เป้าไปที่ตัวนี้เลยครับ!
คะแนนที่ได้
9.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“ไม่คิดว่าราคานี้จะได้ 5G แถมจอ 120Hz ครับ ลื่นหัวแตกไปเลย RAM 8GB นี่ใช้เหลือๆ คุ้มมากครับ” – พี่วิน (ไรเดอร์), อายุ 34
“ซื้อให้แม่ใช้ค่ะ จอใหญ่ดี แม่ชอบมาก เครื่องเร็วดีค่ะ แถมแบตอึดมาก ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ” – น้ำ, อายุ 28
2. Xiaomi POCO M7 4G (6GB/128GB, 8GB/256GB) ★★★★★
“สายเสพคอนเทนต์ต้องโดน! จอ AMOLED สวยตาแตก กล้อง 108MP ชาร์จไว 33W ครบเครื่องเรื่อง 4G”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
หากคุณไม่ได้ซีเรียสเรื่อง 5G แต่เน้น “ประสบการณ์การใช้งาน” ที่พรีเมียมที่สุดในงบนี้ ผมขอแนะนำ Xiaomi POCO M7 4G เลยครับ! ตัวนี้คือคำตอบของคำถาม โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี สำหรับสายบันเทิงตัวจริง เพราะจุดเด่นของมันคือ “หน้าจอ AMOLED 90Hz” ครับ! การได้จอ AMOLED ในราคานี้คือที่สุดของความคุ้มค่า สีสันมันสดอิ่ม คมชัด และสีดำก็ดำสนิท ดู Netflix หรือ YouTube คือฟินมาก แถมยังได้กล้องหลักความละเอียดสูงถึง 108MP และชาร์จเร็ว 33W อีกด้วยครับ!
สเปกเด่น (คาดการณ์)
- หน้าจอ (Display): 6.7 นิ้ว AMOLED, รีเฟรชเรต 90Hz, ความละเอียด Full HD+
- หน่วยประมวลผล (Chipset): MediaTek Helio G99 (6 nm)
- หน่วยความจำ (RAM/storage): 6GB/8GB RAM + 128GB/256GB ROM
- กล้องหลัง (Rear Camera): 108 MP (หลัก) + 8 MP (Ultrawide) + 2 MP (Macro)
- กล้องหน้า (Front Camera): 16 MP
- แบตเตอรี่ (Battery): 5,000 mAh (ชาร์จเร็ว 33W)
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS based on Android 14
- คุณสมบัติอื่นๆ: ลำโพงคู่สเตอริโอ, สแกนนิ้วด้านข้าง, ช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
POCO M7 4G คือตัวเลือกที่ “สวนกระแส” 5G ได้อย่างสมศักดิ์ศรีครับ เขาเลือกที่จะตัด 5G ออกไป แล้วเอาต้นทุนทั้งหมดมาลงให้กับ “ประสบการณ์” ล้วนๆ อย่างแรกเลยคือหน้าจอ AMOLED 90Hz ที่ความละเอียด Full HD+ ครับ ขอย้ำว่านี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญใน สมาร์ทโฟน Xiaomi งบ 5000 เลยครับ การดูหนัง, ดูซีรีส์, หรือแม้แต่เล่นเกมบนจอ AMOLED มันให้สีสันที่จัดจ้านและมิติภาพที่ดีกว่าจอ IPS อย่างชัดเจน บวกกับรีเฟรชเรต 90Hz ที่แม้จะน้อยกว่า 120Hz ของ C75 แต่ก็ยังลื่นไหลกว่าจอ 60Hz ทั่วไปมากครับ และการที่เป็นจอ Full HD+ ก็ทำให้การเสพคอนเทนต์มีความคมชัดเต็มตากว่าจอ HD+ ครับ ถ้าคุณเป็นสายดู YouTube หรือ Netflix บนมือถือเป็นหลัก ตัวนี้กินขาดครับ ดีไซน์ของซีรีส์ M ก็มักจะมีความโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว ถือไปไหนก็ดูดีครับ
ในส่วนของประสิทธิภาพ ชิป MediaTek Helio G99 ถือเป็น “ราชาแห่งชิป 4G” ในงบนี้เลยครับ มันแรงพอที่จะจัดการกับทุกการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายๆ และยังสามารถเล่นเกมกราฟิกปานกลางอย่าง ROV หรือ Call of Duty Mobile ได้แบบลื่นๆ เลยครับ นี่คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่เน้นความบันเทิงและประสิทธิภาพ 4G ที่ไว้ใจได้ แต่ไฮไลท์ที่แท้จริงอาจอยู่ที่กล้องครับ การที่ให้กล้องหลัก 108MP มาในราคานี้ ทำให้การถ่ายรูปสนุกขึ้นมาก ไฟล์ภาพที่ได้มีความละเอียดสูง สามารถครอปหรือซูมดูรายละเอียดได้โดยที่ภาพไม่แตกง่ายๆ (แม้ว่าคุณภาพโดยรวมจะขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ประมวลผลด้วยก็ตาม) เทียบกับ Xiaomi กล้องสวย รุ่นแพงๆ อาจจะยังสู้ไม่ได้ แต่ในงบนี้ถือว่าโดดเด่นมากครับ ปิดท้ายด้วยแบต 5,000 mAh ที่อึดพอใช้งานทั้งวัน และระบบชาร์จเร็ว 33W ที่ช่วยประหยัดเวลาชาร์จไปได้เยอะมาก สรุปคือ ถ้า 5G ยังไม่จำเป็นสำหรับคุณ และคุณอยากได้จอที่สวยที่สุด, กล้องดีที่สุด, และชาร์จไวที่สุดในงบนี้ POCO M7 4G คือคำตอบครับ
คะแนนที่ได้
9.7/10
รีวิวสั้น ๆ
“จอ AMOLED คือจบเลยครับ สวยมาก ดูหนังฟินกว่าเครื่องเก่าเยอะ ชาร์จไว 33W ก็เร็วทันใจดีครับ” – อาร์ม, อายุ 25
“กล้อง 108MP ถ่ายรูปสนุกมากค่ะ ชัดดี สีสวย เหมาะกับคนชอบถ่ายรูปแต่ไม่อยากซื้อแพงๆ” – ฝ้าย, อายุ 30
3. Xiaomi Redmi 14C (8GB+256GB) ★★★★☆
“มาตรฐานใหม่ของความคุ้ม! จอใหญ่ 90Hz, RAM 8GB, ROM 256GB ในราคาที่ใครก็เอื้อมถึง”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
มาถึงคิวของซีรีส์ยอดนิยมขวัญใจมหาชนอย่าง Redmi C Series กันบ้างครับกับ Xiaomi Redmi 14C! รุ่นนี้คือการอัปเกรดความคุ้มค่าขึ้นไปอีกขั้น ถ้าคุณมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่เน้นความ “ครบเครื่อง” และ “คุ้มค่า” ที่สุดในงบที่ประหยัดลงมาอีก (อาจจะแค่ 3,000 กว่าบาท) ตัวนี้คือตัวเลือกที่น่ากลัวมากครับ Redmi 14C จัดสเปกมาให้แบบไม่กั๊ก ทั้งจอใหญ่ 6.74 นิ้ว ที่ลื่นไหล 90Hz และที่สำคัญคือให้ RAM 8GB + ROM 256GB มาในราคานี้!
สเปกเด่น (คาดการณ์)
- หน้าจอ (Display): 6.74 นิ้ว IPS LCD, รีเฟรชเรต 90Hz, ความละเอียด HD+ (1600 x 720)
- หน่วยประมวลผล (Chipset): MediaTek Helio G85 (12 nm)
- หน่วยความจำ (RAM/storage): 8 GB RAM + 256 GB ROM (รองรับ microSD)
- กล้องหลัง (Rear Camera): 50 MP (หลัก) + เลนส์ช่วย
- กล้องหน้า (Front Camera): 8 MP
- แบตเตอรี่ (Battery): 5,000 mAh (ชาร์จ 18W)
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS based on Android 14
- คุณสมบัติอื่นๆ: สแกนนิ้วด้านข้าง, ช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
Redmi 14C คือนิยามของคำว่า “คุ้มค่า” อย่างแท้จริงครับ นี่คือ มือถือ Xiaomi ราคาประหยัด ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างสมบูรณ์แบบ ดีไซน์ตัวเครื่องมีความทันสมัยมากขึ้น ฝาหลังมีลวดลายที่สวยงามและโมดูลกล้องที่ดูพรีเมียมเกินราคาครับ จุดขายหลักที่ทำให้รุ่นนี้โดดเด่นคือ “Memory” ครับ การที่ให้ RAM มาถึง 8GB และ ROM 256GB ในมือถือที่ราคาอาจจะแค่ 3,000 กว่าบาท (ซึ่งอยู่ในงบ 5,000 สบายๆ) มันบ้าไปแล้ว! RAM 8GB ทำให้การใช้งานแอปโซเชียลต่างๆ, Line, Facebook, IG, TikTok ลื่นไหลมาก เปิดแอปค้างไว้เยอะๆ ก็ไม่ค่อยเจอปัญหาแอปเด้งหรือรีเฟรชบ่อยๆ ส่วน ROM 256GB ก็เหลือเฟือสำหรับการลงแอป ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ โดยไม่ต้องกังวลว่าเมมจะเต็มเร็วๆ นี้เลยครับ แถมยังใส่ microSD Card เพิ่มได้อีกต่างหาก
ในด้านการใช้งานทั่วไป หน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ 6.74 นิ้ว ให้พื้นที่การมองเห็นที่เต็มตามากครับ และการที่มันเป็นจอ 90Hz ก็ช่วยให้ประสบการณ์การไถฟีดลื่นไหลสบายตากว่าจอ 60Hz แบบเดิมๆ แม้จะเป็นจอ HD+ แต่ก็สว่างและสีสันสดใสเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปครับ ส่วนชิป Helio G85 ก็ถือเป็นชิป “มหาชน” ที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วว่าไว้ใจได้ครับ มันอาจจะไม่ได้แรงปรู๊ดปร๊าดสำหรับเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์ แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปที่ผมกล่าวมา หรือเล่นเกมฆ่าเวลาอย่าง Candy Crush, Subway Surfers หรือแม้แต่ ROV แบบปรับกราฟิกต่ำๆ ก็ยังไหวครับ กล้องหลัง 50MP ก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีในที่แสงจ้า ถ่ายรูปเอกสาร หรือถ่ายรูปทั่วไปส่งให้เพื่อนดูได้สบายๆ ครับ และด้วยแบต 5,000 mAh ก็การันตีการใช้งานข้ามวันได้แน่นอน นี่คือตัวเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับคนที่มองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่ให้สเปกพื้นฐานที่ “อัดแน่น” ที่สุด โดยเฉพาะเรื่อง RAM และ ROM ครับ
คะแนนที่ได้
9.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“RAM 8 ROM 256 ในราคานี้คือสุดแล้วครับ เครื่องลื่นดี จอ 90Hz ก็ใช้ดีมากครับ” – บอย, อายุ 29
“ซื้อมาใช้เป็นเครื่องสำรองค่ะ แต่ตอนนี้แทบจะใช้เป็นเครื่องหลักแล้ว จอใหญ่สะใจ แบตอึดมาก ถูกใจค่ะ” – พี่จอย, อายุ 42
4. Redmi 13C (8GB+256GB) ★★★★☆
“รุ่นเก๋ายอดนิยม! ความคุ้มค่าที่พิสูจน์แล้ว จอใหญ่ 90Hz สเปกครบในราคาสบายกระเป๋า”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
แม้จะมีรุ่นใหม่อย่าง 14C ออกมา แต่ Redmi 13C ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ “คลาสสิก” และ “คุ้มค่า” เสมอครับ! สำหรับคนที่กำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี และอาจจะเจอรุ่นนี้กำลังจัดโปรโมชันลดราคาหนักๆ บอกเลยว่ามันยังน่าสนใจมากครับ ด้วยสเปกที่แทบจะเป็นพิมพ์เขียวให้กับ Redmi 14C ทั้งจอใหญ่ 6.74 นิ้ว 90Hz, ชิป Helio G85, และกล้อง 50MP ทำให้มันเป็นมือถือ “มาตรฐาน” ที่ไว้ใจได้ สำหรับการใช้งานทั่วไปในงบประมาณที่ประหยัดสุดๆ ครับ
สเปกเด่น
- หน้าจอ (Display): 6.74 นิ้ว IPS LCD, รีเฟรชเรต 90Hz, ความละเอียด HD+ (1600 x 720)
- หน่วยประมวลผล (Chipset): MediaTek Helio G85 (12 nm)
- หน่วยความจำ (RAM/storage): 8 GB RAM + 256 GB ROM (รองรับ microSD)
- กล้องหลัง (Rear Camera): 50 MP (หลัก) + 2 MP (Macro)
- กล้องหน้า (Front Camera): 8 MP
- แบตเตอรี่ (Battery): 5,000 mAh (ชาร์จ 18W)
- ระบบปฏิบัติการ: MIUI 14 based on Android 13 (อาจอัปเกรดเป็น HyperOS ได้)
- คุณสมบัติอื่นๆ: สแกนนิ้วด้านข้าง, ช่องหูฟัง 3.5 มม., NFC (ในบางรุ่น)
รีวิวแบบเจาะลึก
Redmi 13C คือ “ม้าศึก” ที่ไว้ใจได้ครับ แม้จะเป็นโมเดลของปีก่อนหน้า แต่สเปกที่ให้มาในเวอร์ชัน 8GB/256GB นั้นยังคง “เหลือเฟือ” สำหรับปี 2025 ครับ หากคุณเป็นคนที่ไม่จำเป็นต้องไล่ตามเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด แต่ต้องการ สมาร์ทโฟน Xiaomi งบ 5000 ที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วว่า “ดีจริง” Redmi 13C คือตัวเลือกนั้นครับ หน้าจอ 6.74 นิ้ว 90Hz ยังคงเป็นจุดขายที่แข็งแกร่ง ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลสบายตา การดูวิดีโอหรือเล่นโซเชียลบนจอขนาดนี้คือความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งเลยครับ แม้จะเป็นจอ HD+ แต่ก็ให้สีสันและความสว่างที่เพียงพอต่อการใช้งานกลางแจ้ง (ในที่ร่ม) ได้สบายๆ ครับ ดีไซน์ของ 13C ก็ทำออกมาได้ดีมากในยุคของมัน มีความเรียบหรูและมีสีสันให้เลือกหลากหลาย
ในแง่ของประสิทธิภาพ ชิป Helio G85 ยังคงรับมือกับการใช้งานทั่วไปได้ทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะเป็นการแชท, การเรียนออนไลน์, การประชุม Zoom, หรือการไถฟีดต่างๆ และด้วย RAM 8GB ทำให้มันสามารถสลับแอปไปมาได้อย่างค่อนข้างราบรื่น ถ้าคุณกำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ให้ผู้ใหญ่ที่บ้านใช้ หรือเป็นเครื่องสำรองสำหรับทำงาน Redmi 13C ตอบโจทย์มากๆ ครับ กล้อง 50MP ก็ให้คุณภาพที่ดีในเวลากลางวัน สามารถถ่ายรูปได้คมชัด เก็บรายละเอียดได้ดีพอสมควร แบตเตอรี่ 5,000 mAh ก็เป็นมาตรฐานความอึดที่ไว้ใจได้ ใช้ได้เต็มวันแบบไม่ต้องพกพาวเวอร์แบงค์ จุดที่ทำให้ 13C ยังน่าสนใจในปี 2025 คือ “ราคา” ครับ มันมักจะถูกจัดโปรโมชันลดราคาลงมาเหลือในระดับที่คุ้มค่ามากๆ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับคนงบจำกัดที่อยากได้ RAM 8GB และจอ 90Hz ครับ
คะแนนที่ได้
9.3/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อตอนลดราคา คุ้มมากครับ ได้แรม 8GB จอ 90Hz ในราคาไม่ถึงสี่พัน ใช้งานทั่วไปลื่นดีครับ” – เอก, อายุ 31
“จอใหญ่ดีค่ะ ซื้อมาให้ลูกเรียนออนไลน์ เค้าก็ชอบ ดูการ์ตูนจอใหญ่สะใจดี แบตก็ทนมากค่ะ” – แม่น้องเก้า, อายุ 38
5. Xiaomi POCO C85 (6GB+128GB) ★★★★☆
“สายเกม 4G งบประหยัด! ชิป G99 แรงเกินราคา กล้อง 64MP ในตัวเครื่องสุดคุ้ม”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
กลับมาที่แบรนด์ย่อยสุดซิ่งอย่าง POCO อีกครั้งกับ Xiaomi POCO C85 ครับ! ถ้าคุณเป็นสายเกมเมอร์ที่งบจำกัดสุดๆ และกำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่ให้ประสิทธิภาพการเล่นเกม 4G ที่ดีที่สุดในกลุ่มราคาประหยัด (อาจจะแค่ 3,000 ต้นๆ) นี่คือ “ม้ามืด” ที่น่าสนใจมากครับ POCO C85 เลือกใช้ชิป Helio G99 ซึ่งเป็นชิปเดียวกับใน POCO M7 (อันดับ 2) แต่มาในราคาที่ย่อมเยากว่า แลกกับสเปกบางอย่างที่ลดหลั่นลงมาเล็กน้อยครับ
สเปกเด่น (คาดการณ์)
- หน้าจอ (Display): 6.7 นิ้ว IPS LCD, รีเฟรชเรต 90Hz, ความละเอียด HD+
- หน่วยประมวลผล (Chipset): MediaTek Helio G99 (6 nm)
- หน่วยความจำ (RAM/storage): 6 GB RAM + 128 GB ROM (รองรับ microSD)
- กล้องหลัง (Rear Camera): 64 MP (หลัก) + เลนส์ช่วย
- กล้องหน้า (Front Camera): 8 MP
- แบตเตอรี่ (Battery): 5,000 mAh (ชาร์จ 18W)
- ระบบปฏิบัติการ: MIUI 14 (หรือ HyperOS) based on Android 13/14
- คุณสมบัติอื่นๆ: สแกนนิ้วด้านข้าง, ช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
POCO C85 คือตัวเลือกที่เน้น “ประสิทธิภาพ” มากกว่า “ความหรูหรา” ครับ นี่คือ มือถือ Xiaomi ราคาประหยัด ที่ใส่หัวใจเป็นชิป Helio G99 มาให้ ซึ่งปกติเราจะเห็นชิปนี้ในมือถือราคา 4,000-5,000 บาท แต่ C85 กดราคาลงมาได้ถูกกว่านั้นอีกครับ การมี G99 หมายความว่าคุณจะได้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีกว่า Helio G85 (ใน Redmi 13C/14C) อย่างชัดเจน มันสามารถรันเกมอย่าง ROV ที่ 60fps นิ่งๆ ได้สบาย หรือแม้แต่ PUBG Mobile ก็สามารถปรับกราฟิกได้ดีกว่าครับ นี่คือจุดขายหลักที่ทำให้ C85 แตกต่างจากตัวอื่นในกลุ่ม C-Series อย่างชัดเจน ถ้าคุณเป็นนักเรียนนักศึกษาที่อยากได้มือถือไว้เล่นเกมกับเพื่อนหลังเลิกเรียนในงบจำกัด ตัวนี้ตอบโจทย์มากครับ
แน่นอนว่าการที่ได้ชิปแรงในราคาถูก ก็ต้องมีการ “แลกเปลี่ยน” ครับ อย่างแรกคือหน้าจอที่เป็น IPS HD+ 90Hz ซึ่งก็ลื่นไหลดีครับ แต่ก็ไม่ได้ให้สีสันที่สวยงามหรือความคมชัดเท่าจอ AMOLED Full HD+ ของ POCO M7 อย่างที่สองคือ RAM 6GB + ROM 128GB ซึ่งในยุค 2025 นี้ RAM 6GB ก็ยังถือว่า “พอใช้” ครับ แต่อาจจะไม่ลื่นไหลเท่า 8GB เวลาเปิดแอปสลับไปมาเยอะๆ แต่ก็เพียงพอสำหรับการเล่นเกมและการใช้งานทั่วไปครับ กล้องหลัก 64MP ก็ถือว่าให้มาดีเกินคาด ให้รายละเอียดที่ดีกว่ากล้อง 50MP ในบางสถานการณ์ครับ แบต 5,000 mAh และชาร์จ 18W ก็เป็นสเปกมาตรฐานของราคานี้ครับ สรุปสั้นๆ สำหรับ POCO C85 ถ้าคุณถามว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่เน้นเล่นเกม 4G แรงๆ โดยไม่สนจอสวย และมีงบจำกัดจริงๆ นี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดครับ!
คะแนนที่ได้
9.2/10
รีวิวสั้น ๆ
“เอามาเล่น ROV ลื่นดีครับ ชิป G99 ในราคานี้คือคุ้มมาก ไม่คิดว่าจะเล่นได้สมูทขนาดนี้” – เกม, อายุ 22
“ราคาถูกดีค่ะ ใช้งานทั่วไปก็เร็วดี กล้องก็ชัดใช้ได้เลย 64MP ถือว่าโอเคมากกับราคานี้ค่ะ” – นัท, อายุ 27
6. Xiaomi Redmi 15C (6GB+128GB) ★★★★☆
“ตัวเลือกสาย Snapdragon! ใช้งานลื่นไหลไว้ใจได้ จอ 90Hz ในดีไซน์ที่คุ้นเคย”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับใครที่เป็น “ทีม Snapdragon” และกำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่ใช้ชิปจากค่าย Qualcomm นี่คือ Xiaomi Redmi 15C ครับ! รุ่นนี้มักจะออกมาเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับคนที่ไม่ค่อยถูกใจชิป MediaTek Helio เท่าไหร่ โดย Redmi 15C เลือกใช้ชิป Snapdragon 685 ที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วในหลายๆ รุ่นว่า “แรง” และ “เสถียร” เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ต้องการความลื่นไหลและไว้ใจได้ครับ
สเปกเด่น (คาดการณ์)
- หน้าจอ (Display): 6.7 นิ้ว IPS LCD, รีเฟรชเรต 90Hz, ความละเอียด HD+
- หน่วยประมวลผล (Chipset): Qualcomm Snapdragon 685 (6 nm)
- หน่วยความจำ (RAM/storage): 6 GB RAM + 128 GB ROM (รองรับ microSD)
- กล้องหลัง (Rear Camera): 50 MP (หลัก) + เลนส์ช่วย
- กล้องหน้า (Front Camera): 8 MP
- แบตเตอรี่ (Battery): 5,000 mAh (ชาร์จ 18W)
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS based on Android 14
- คุณสมบัติอื่นๆ: สแกนนิ้วด้านข้าง, ช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
Redmi 15C เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในตระกูล C-Series ครับ โดยชูจุดเด่นที่ชิป Snapdragon 685 ซึ่งเป็นชิป 4G ที่มีประสิทธิภาพดีมากตัวหนึ่ง ผลิตบนสถาปัตยกรรม 6 นาโนเมตร ทำให้มันจัดการพลังงานได้ดีและมีความร้อนน้อยกว่าชิปรุ่นเก่าๆ ครับ ในการใช้งานจริง มันให้ความรู้สึกที่ “ลื่น” และ “นิ่ง” มากครับ การเปิดแอป, การสลับแอป (แม้จะมี RAM 6GB), หรือการไถฟีดโซเชียลต่างๆ ทำได้ดีไม่มีสะดุด นี่คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มองหา สมาร์ทโฟน Xiaomi งบ 5000 ที่เน้นการใช้งานทั่วไปแบบ “จบหลังกล้อง” คือซื้อมาแล้วใช้ได้เลยยาวๆ ไม่ต้องกังวลอะไรมากครับ ส่วนสเปกอื่นๆ ก็มาตามมาตรฐานความคุ้มของ Redmi ครับ
หน้าจอ 90Hz ยังคงเป็นพระเอกที่ช่วยให้การใช้งานโดยรวมดูลื่นไหลสบายตา กล้อง 50MP ก็ให้คุณภาพที่ไว้ใจได้สำหรับการถ่ายภาพในชีวิตประจำวัน แบตเตอรี่ 5,000 mAh ก็อยู่ได้เต็มวันแบบเหลือๆ ครับ ข้อสังเกตคือรุ่นนี้มักจะมาพร้อม RAM 6GB + ROM 128GB ซึ่งอาจจะน้อยกว่า Redmi 14C (8GB/256GB) เล็กน้อย แต่ก็แลกมาด้วยความเสถียรของชิป Snapdragon ที่หลายคนชื่นชอบครับ ราคาของมันอาจจะขยับขึ้นมาอยู่ในช่วง 4,000 กว่าบาท ซึ่งถ้าเพื่อนๆ มีงบขยับขึ้นไปอีกนิดและอยากได้สเปกที่ดีขึ้น ก็อาจจะลองมอง โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 6000 เป็นตัวเลือกเปรียบเทียบได้ครับ แต่ถ้าให้ฟันธงในงบนี้ Redmi 15C คือ มือถือ Xiaomi ราคาประหยัด ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ (Snapdragon) และความคุ้มค่า (จอ 90Hz, แบตอึด) ครับ
คะแนนที่ได้
9.0/10
รีวิวสั้น ๆ
“ผมทีม Snapdragon ครับ เลยเลือกรุ่นนี้ ใช้งานทั่วไปลื่นดีครับ ไม่ร้อนง่ายด้วย แบตก็อึดดีครับ” – ต้น, อายุ 32
“เครื่องเร็วดีค่ะ ใช้งานลื่นๆ เลย จอ 90Hz ก็โอเคมากค่ะ ถือว่าคุ้มราคานี้” – ปลา, อายุ 26
7. Xiaomi Redmi 14R ★★★★☆
“อีกหนึ่งตัวเลือก 5G สุดคุ้ม! ชิป Dimensity จอ 90Hz กล้อง 50MP ในราคาสบายกระเป๋า”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
Xiaomi ขยันซอยรุ่นมาให้เราเลือกจริงๆ ครับ! Xiaomi Redmi 14R เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่รองรับ 5G ครับ รุ่นนี้เปรียบเสมือนเป็น “คู่แฝด” กับ POCO C75 (อันดับ 1) แต่เลือกใช้ชิป 5G จากค่าย MediaTek อย่าง Dimensity 6100+ แทนครับ ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่อยากได้ 5G ในงบประมาณที่อาจจะประหยัดกว่าเล็กน้อย หรือประมาณ 3,000-4,000 บาทครับ
สเปกเด่น (คาดการณ์)
- หน้าจอ (Display): 6.7 นิ้ว IPS LCD, รีเฟรชเรต 90Hz, ความละเอียด HD+
- หน่วยประมวลผล (Chipset): MediaTek Dimensity 6100+ (6 nm) 5G
- หน่วยความจำ (RAM/storage): 6GB/8GB RAM + 128GB ROM
- กล้องหลัง (Rear Camera): 50 MP (หลัก) + เลนส์ช่วย
- กล้องหน้า (Front Camera): 5 MP
- แบตเตอรี่ (Battery): 5,000 mAh (ชาร์จ 18W)
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS based on Android 14
- คุณสมบัติอื่นๆ: 5G, สแกนนิ้วด้านข้าง, ช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
Redmi 14R คือการตอกย้ำว่า Xiaomi เอาจริงเอาจังกับตลาด 5G ราคาประหยัดมากครับ ชิป Dimensity 6100+ นั้นมีความแรงที่ใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากับ Snapdragon 4s Gen 2 เลยครับ สามารถจัดการกับการใช้งาน 5G และการใช้งานทั่วไปได้อย่างลื่นไหล แถมยังประหยัดพลังงานด้วยสถาปัตยกรรม 6 นาโนเมตรครับ นี่คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มองหา สมาร์ทโฟน Xiaomi งบ 5000 ที่พร้อมใช้ 5G ทันที การที่ Xiaomi ให้ตัวเลือกชิป 5G ทั้งจาก MediaTek และ Snapdragon ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน (โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 4000) ถือเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคอย่างเราๆ มากครับ
สเปกส่วนอื่นๆ ของ 14R ก็ถือว่าให้มาครบเครื่องครับ จอ IPS HD+ 90Hz ก็เป็นมาตรฐานที่ยอมรับได้ในราคานี้ ให้ความลื่นไหลที่ดีในการใช้งาน แบตเตอรี่ 5,000 mAh ก็เพียงพอต่อการใช้งานหนักๆ 1 วันเต็ม กล้อง 50MP ก็ให้คุณภาพที่ดีในสภาพแสงปกติครับ เมื่อเทียบกับ POCO C75 (อันดับ 1) ตัว 14R อาจจะให้ RAM/ROM ที่น้อยกว่าเล็กน้อยในราคาที่เท่ากัน (เช่น C75 ได้ 8/256 แต่ 14R อาจจะได้ 6/128 หรือ 8/128) และอาจจะใช้จอ 90Hz แทน 120Hz เพื่อทำราคาให้ถูกลงครับ ดังนั้น ถ้าคุณถามว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่เน้น 5G เป็นหลัก คุณก็จะมีตัวเลือกระหว่าง POCO C75 ที่สเปกจัดเต็ม (จอ 120Hz, RAM 8GB) กับ Redmi 14R ที่อาจจะได้ราคาประหยัดกว่าเล็กน้อย แต่ยังคงได้ 5G ที่แรงไม่แพ้กันครับ
คะแนนที่ได้
8.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“จัดมาตอน 11.11 ได้ 5G ในราคา 3,000 กว่าบาท คุ้มมากครับ เครื่องเร็วดีครับ” – มาร์ค, อายุ 24
“เครื่องใช้งานดีค่ะ ไม่ได้เล่นเกมอะไรมาก เน้นรับสายลูกค้า ใช้ 5G ได้ก็โอเคแล้วค่ะ” – พี่อ้อย, อายุ 45
8. Xiaomi Redmi A5 (4GB+128GB / 3GB+64GB) ★★★★☆
“มาตรฐานใหม่ของสายประหยัด! จอ 90Hz ในราคาสองพันกว่า! ใช้งานพื้นฐานลื่นเกินคาด”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ไต่ระดับลงมาที่รุ่นประหยัดสุดๆ กันบ้างครับกับ Xiaomi Redmi A5! นี่คือฮีโร่สำหรับคนงบน้อยตัวจริง ถ้าคุณมีงบแค่ 2,000-3,000 บาท และกำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี (ซึ่งจริงๆ คือไม่เกิน 3,000) ที่ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเกินคาด Redmi A5 คือการปฏิวัติตลาดมือถือระดับเริ่มต้นเลยครับ เพราะนี่คือมือถือราคา 2,000 กว่าบาท ที่ให้ “จอ 90Hz” มาด้วย! นี่คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเครื่องสำรอง หรือซื้อให้ผู้ใหญ่ที่บ้านใช้ครับ
สเปกเด่น (คาดการณ์)
- หน้าจอ (Display): 6.6 นิ้ว IPS LCD, รีเฟรชเรต 90Hz, ความละเอียด HD+
- หน่วยประมวลผล (Chipset): MediaTek Helio G36 (12 nm) (หรือชิประดับเริ่มต้นตัวใหม่)
- หน่วยความจำ (RAM/storage): 3GB/4GB RAM + 64GB/128GB ROM
- กล้องหลัง (Rear Camera): 8 MP (หลัก) + เลนส์ช่วย
- กล้องหน้า (Front Camera): 5 MP
- แบตเตอรี่ (Battery): 5,000 mAh (ชาร์จ 10W)
- ระบบปฏิบัติการ: Android 14 (Go Edition) หรือ HyperOS Lite
- คุณสมบัติอื่นๆ: สแกนนิ้วด้านข้าง, ช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
Redmi A5 คือ “Game Changer” ของตลาดล่างอย่างแท้จริงครับ การที่ Xiaomi กล้าเอาจอ 90Hz มาใส่ในมือถือราคานี้ ทำให้ประสบการณ์การใช้งานพื้นฐานมัน “ดีขึ้น” อย่างก้าวกระโดดครับ การไถ Facebook, อ่านข่าว, หรือแชท Line มันจะรู้สึกติดนิ้วและสมูทกว่ามือถือจอ 60Hz ในราคาเดียวกันมากๆ นี่คือ มือถือ Xiaomi ราคาประหยัด ที่เข้าใจผู้ใช้งานครับ ดีไซน์ของ Redmi A-Series ในยุคหลังๆ ก็ทำได้สวยงามมากครับ ดูไม่เหมือนมือถือราคาถูกเลย ฝาหลังมีพื้นผิวที่จับถนัดมือและไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย
แน่นอนว่าในราคานี้ เราต้อง “คาดหวังให้ถูก” ครับ ชิป Helio G36 นั้นออกแบบมาเพื่อการใช้งาน “พื้นฐาน” เท่านั้นครับ เช่น โทรเข้า-ออก, เล่น Line, Facebook Lite, ดู YouTube (ที่ความละเอียด 720p), หรือฟังเพลง มัน “ไม่” ได้ออกแบบมาเพื่อเล่นเกม หรือเปิดแอปหนักๆ หลายๆ แอปพร้อมกันครับ แต่ข่าวดีคือการที่มันมาพร้อม RAM 4GB (ในรุ่นที่แนะนำ) และระบบปฏิบัติการ Android Go หรือ HyperOS Lite ที่ปรับให้เบาลง มันก็ยังทำงานได้ดีกว่าที่เราคิดครับ กล้อง 8MP ก็แค่ “พอมีให้ใช้” ครับ ถ่ายสแกน QR Code หรือถ่ายรูปกลางวันส่งงานได้ แต่อย่าคาดหวังคุณภาพไฟล์ที่สวยงามครับ สรุปสำหรับ Redmi A5 นี่คือ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 3000 ที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการใช้งานพื้นฐาน, จอลื่น, แบตอึด และมีงบจำกัดจริงๆ ครับ
คะแนนที่ได้
8.6/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อให้พ่อใช้ครับ พ่อแค่ใช้รับสายกับเล่นไลน์ จอ 90Hz มันลื่นดี พ่อบอกว่าใช้ถนัดมือดีครับ” – กอล์ฟ, อายุ 30
“เครื่องสวยมากค่ะ ไม่เหมือนมือถือ 2,000 กว่าบาทเลย เอาไว้ใช้เป็นเครื่องสำรอง โอเคเลยค่ะ” – แนน, อายุ 25
9. Xiaomi Redmi 10A ★★★☆☆
“รุ่นเก๋าคลาสสิก แบตอึด 5,000 mAh สำหรับใช้งานพื้นฐาน ในราคาถูกสุดๆ”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับสองอันดับสุดท้าย เราจะย้อนกลับไปดูรุ่น “คลาสสิก” ที่ยังคงมีจำหน่ายอยู่ (มักจะเป็นเครื่องเคลียร์สต็อก) และราคาถูกลงมามากครับ Xiaomi Redmi 10A คือหนึ่งในนั้นครับ นี่คือ มือถือ Xiaomi ราคาประหยัด ที่เน้นฟังก์ชันพื้นฐานจริงๆ คือ “จอใหญ่” และ “แบตอึด” ครับ ถ้าคุณเจอในราคาที่ต่ำกว่า 2,000-2,500 บาท มันก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเป็นเครื่องสำรองครับ
สเปกเด่น
- หน้าจอ (Display): 6.53 นิ้ว IPS LCD, รีเฟรชเรต 60Hz, ความละเอียด HD+ (1600 x 720)
- หน่วยประมวลผล (Chipset): MediaTek Helio G25 (12 nm)
- หน่วยความจำ (RAM/storage): 3GB/4GB RAM + 64GB/128GB ROM
- กล้องหลัง (Rear Camera): 13 MP
- กล้องหน้า (Front Camera): 5 MP
- แบตเตอรี่ (Battery): 5,000 mAh (ชาร์จ 10W)
- คุณสมบัติอื่นๆ: สแกนนิ้วด้านหลัง (บนโมดูลกล้อง), พอร์ต Micro-USB
รีวิวแบบเจาะลึก
ต้องพูดกันตามตรงครับว่า Redmi 10A เป็นมือถือที่ “เก่า” แล้วสำหรับปี 2025 ชิป Helio G25 นั้นค่อนข้างช้าครับ การใช้งานอาจจะรู้สึก “หน่วง” อย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่ๆ ในลิสต์นี้ และหน้าจอก็เป็น 60Hz ธรรมดาครับ จุดที่เป็นข้อสังเกตใหญ่ที่สุดคือ “พอร์ต Micro-USB” ซึ่งในปัจจุบันมือถือส่วนใหญ่ (แม้แต่รุ่นถูกสุดอย่าง A5) ก็เปลี่ยนไปใช้ Type-C กันหมดแล้ว ทำให้คุณอาจจะต้องพกสายชาร์จแยกต่างหากครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าคำถามคือ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี และคุณมีงบแค่ 2,000 บาทถ้วนๆ การที่ Redmi 10A ยังคงให้แบต 5,000 mAh ที่อึดมาก และจอที่ใหญ่ 6.53 นิ้ว มันก็ยัง “ดีกว่า” การไม่มีมือถือใช้ หรือดีกว่ามือถือ “ปุ่มกด” ครับ มันยังสามารถใช้เล่น Line, โอนเงินผ่านแอปธนาคาร (อาจจะช้าหน่อย), และดู YouTube ได้ครับ นี่คือตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 2000 บาท และยอมรับข้อจำกัดของมันได้ครับ แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมแนะนำให้เพิ่มเงินอีกนิดเดียวไปเอา Redmi A5 (อันดับ 8) จะได้ประสบการณ์ที่ดีกว่ามากครับ
คะแนนที่ได้
8.3/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อมาใช้เป็นเครื่องสำรองที่ร้านครับ เอาไว้รับออเดอร์อย่างเดียว แบตอึดดีครับ ก็โอเคกับราคา” – เฮียตง, อายุ 51
“ช้าหน่อยครับ แต่ก็ถูกดี เอาไว้โทรเข้าโทรออกเฉยๆ ครับ” – ลุงชัย, อายุ 60
10. Xiaomi Redmi 9A ★★★☆☆
“ตำนานรุ่นประหยัด! แบตอึด จอใหญ่ ในราคาที่ถูกที่สุด (ถ้าหาได้)”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ปิดท้ายลิสต์ของเราด้วย “ตำนาน” ที่แท้จริงอย่าง Xiaomi Redmi 9A ครับ รุ่นนี้คือหนึ่งในมือถือที่ขายดีที่สุดของ Xiaomi ตลอดกาล เพราะมันคือนิยามของคำว่า “ถูกและดี” (ในยุคของมัน) ครับ ในปี 2025 นี้ มันอาจจะตกรุ่นไปไกลแล้ว แต่ถ้าคุณเจอร้านที่ล้างสต็อกในราคา 1,000 กว่าบาท มันก็ยังเป็นตัวเลือกสำหรับ “เครื่องสำรองฉุกเฉิน” ที่ดีกว่าไม่มีอะไรใช้ครับ
สเปกเด่น
- หน้าจอ (Display): 6.53 นิ้ว IPS LCD, รีเฟรชเรต 60Hz, ความละเอียด HD+
- หน่วยประมวลผล (Chipset): MediaTek Helio G25 (12 nm)
- หน่วยความจำ (RAM/storage): 2GB/3GB RAM + 32GB/64GB ROM
- กล้องหลัง (Rear Camera): 13 MP
- กล้องหน้า (Front Camera): 5 MP
- แบตเตอรี่ (Battery): 5,000 mAh (ชาร์จ 10W)
- คุณสมบัติอื่นๆ: พอร์ต Micro-USB, ไม่มีสแกนนิ้ว
รีวิวแบบเจาะลึก
สำหรับ Redmi 9A ผมต้องขอพูดตรงๆ ว่ามัน “ไม่เหมาะ” กับการใช้งานหลักในยุค 2025 แล้วครับ ด้วย RAM ที่มีแค่ 2GB หรือ 3GB มันจะ “หน่วง” และ “ค้าง” บ่อยมากหากคุณพยายามจะเปิดแอปโซเชียลทั่วไปครับ ROM 32GB ก็แทบจะเต็มทันทีหลังจากลงแอปพื้นฐาน (Line, Facebook, แอปธนาคาร) ครับ นี่จึงเป็นตัวเลือกที่อยู่ในลิสต์ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ของเราในฐานะ “ตัวเลือกฉุกเฉิน” เท่านั้นครับ
อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของมันคือ “แบตเตอรี่” 5,000 mAh ที่เมื่อรวมกับชิปที่ไม่ได้แรงมากและจอ HD+ 60Hz ทำให้มันกลายเป็น “มือถือแสตนด์บาย” ที่ยอดเยี่ยมครับ ชาร์จทีนึงอาจจะอยู่ได้ 3-4 วัน (ถ้าไม่ได้ใช้) มันจึงเหมาะมากสำหรับเป็นเครื่องสำรองไว้ในรถ, เครื่องสำหรับรับ OTP, หรือเครื่องสำหรับให้คุณตาคุณยายใช้ “โทรออก-รับสาย” เท่านั้นจริงๆ ครับ ถ้าคุณต้องการมือถือที่ “เล่นเน็ต” ได้ ผมยืนยันว่าควรขยับไป Redmi A5 (อันดับ 8) เป็นอย่างน้อยครับ แต่ถ้าคุณต้องการแค่ “มือถือที่แบตอึดและถูกที่สุด” Redmi 9A (ถ้าหาได้ในราคาพันกว่าบาท) ก็ยังทำหน้าที่นั้นได้ครับ
คะแนนที่ได้
8.0/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อมาให้ย่าใช้ครับ ย่าแค่โทรออกรับสาย แบตอึดดีครับ ชาร์จอาทิตย์ละครั้งเองมั้ง” – อาร์ต, อายุ 29
“มันช้าครับ บอกเลย แต่ก็ซื้อมาราคา 1,500 บาท เอาไว้เป็นเครื่องสำรองปล่อย Hotspot ก็โอเคครับ” – เดช, อายุ 35
มุมมองจากสื่อและผู้เชี่ยวชาญ: อะไรทำให้ Xiaomi โดดเด่นในงบ 5,000?
จากบทวิเคราะห์ของสื่อสายเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง GSMArena และ TechRadar ต่างก็ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า Xiaomi (รวมถึงแบรนด์ลูกอย่าง Redmi และ POCO) ได้ “ทำลาย” กรอบความคิดของคำว่า “มือถือราคาประหยัด” ไปอย่างสิ้นเชิงครับ
“Xiaomi ไม่ได้แค่แข่งขันในตลาดงบ 5,000 บาท พวกเขากำลังพยายามยกระดับมาตรฐานของตลาดนี้ขึ้นไปอีก… การนำสเปกอย่างจอ 120Hz, 5G, และ RAM 8GB มาใส่ในมือถือราคานี้ ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ ‘ก้าวร้าว’ และบีบให้แบรนด์อื่นต้องตามให้ทัน”
ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์จุดแข็งที่ทำให้ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 โดดเด่นออกมา ดังนี้ครับ:
1. การ “อัดสเปก” ที่ชาญฉลาด (Smart Spec-stuffing)
Xiaomi เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในงบนี้ดีครับ พวกเขาเลือกที่จะ “ให้” ในสิ่งที่ผู้ใช้งาน “รู้สึกได้” อย่างชัดเจน เช่น หน้าจอรีเฟรชเรตสูง (90Hz/120Hz) ที่ทำให้การไถฟีดลื่นไหล และ RAM ขนาดใหญ่ (8GB) ที่ทำให้การสลับแอปไม่สะดุด โดยอาจจะไป “ลด” ในส่วนที่ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่สังเกตเห็น เช่น ความละเอียดจอ (HD+ แทน Full HD+) หรือวัสดุตัวเครื่อง ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยินดีรับครับ
2. สงครามชิปเซ็ตที่หลากหลาย
ในขณะที่บางแบรนด์อาจจะยึดติดกับชิปเจ้าใดเจ้าหนึ่ง Xiaomi เลือกใช้ชิปที่ “คุ้มค่าที่สุด” ในช่วงเวลานั้นๆ ครับ เราจึงได้เห็นทั้งชิป 5G สุดคุ้มอย่าง Snapdragon 4s Gen 2 (ใน POCO C75) และ Dimensity 6100+ (ใน Redmi 14R) หรือชิป 4G เล่นเกมเทพอย่าง Helio G99 (ใน POCO M7) การมีตัวเลือกที่หลากหลายนี้ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือก สมาร์ทโฟน Xiaomi งบ 5000 ที่ตรงกับความต้องการใช้งาน (เน้น 5G หรือ เน้นเกม 4G) ได้อย่างชัดเจน
3. การมาถึงของ HyperOS
การเปลี่ยนผ่านจาก MIUI มาเป็น HyperOS ถือเป็นข่าวดีสำหรับมือถืองบประหยัดครับ ระบบปฏิบัติการใหม่นี้ถูกออกแบบมาให้ “เบา” และ “ลื่นไหล” กว่าเดิม ลดการใช้ทรัพยากรเครื่อง ซึ่งส่งผลดีโดยตรงต่อมือถือที่มีสเปกจำกัด ทำให้ มือถือ Xiaomi ราคาประหยัด รุ่นใหม่ๆ มีประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น ลดอาการหน่วงหรือค้างเมื่อใช้ไปนานๆ
บทวิเคราะห์จากทีมงาน ToplistPlus
“สำหรับการต่อสู้ในโจทย์ ‘โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี’ ในปี 2025 นี้ ชัดเจนว่า Xiaomi ได้ยกระดับการแข่งขันไปอีกขั้นครับ ผู้บริโภคอย่างเราๆ คือผู้ชนะที่แท้จริง การที่เราสามารถหาซื้อสมาร์ทโฟน 5G ที่มีจอ 120Hz และ RAM 8GB ได้ในราคาแค่ 3,000-4,000 บาท ถือเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก มันแสดงให้เห็นว่า Xiaomi ยอมเฉือนกำไรตัวเองเพื่อครองส่วนแบ่งตลาดนี้อย่างจริงจังครับ”
คู่มือฉบับเพื่อนซี้: เลือก ‘โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000’ ยังไงให้โดนใจ?
อ่านรีวิวมา 10 รุ่นแล้ว อาจจะเริ่มตาลายใช่ไหมครับ ฮ่าๆ ไม่เป็นไรครับ ผมสรุป “เคล็ดลับ” การเลือกแบบง่ายๆ สไตล์เพื่อนคุยกันมาให้แล้วครับ ลองตอบคำถาม 5 ข้อนี้ในใจ แล้วคุณจะรู้เลยว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ที่เกิดมาเพื่อคุณ!
- คุณพร้อมสำหรับ 5G หรือยัง? (อนาคต vs ปัจจุบัน)
- ถ้าใช่ (เน้นใช้ยาวๆ 2-3 ปี): ไปที่ POCO C75 5G (อันดับ 1) หรือ Redmi 14R (อันดับ 7) เลยครับ การมี 5G ติดเครื่องไว้ในราคานี้คือความคุ้มค่าแห่งอนาคตครับ
- ถ้าไม่ (เน้นจอสวย-กล้องดี วันนี้): 5G ยังไม่จำเป็นสำหรับทุกคนครับ ถ้าคุณอยากได้จอ AMOLED สวยๆ และกล้อง 108MP ให้ไปที่ POCO M7 4G (อันดับ 2) คุณจะได้ประสบการณ์ปัจจุบันที่ดีกว่าครับ
 
- คุณไถฟีดบ่อยแค่ไหน? (จอ 120Hz vs 90Hz)
- ไถทั้งวัน: จอ 120Hz ใน POCO C75 5G จะลื่นติดนิ้วที่สุดครับ
- ไถบ้าง ดูหนังบ้าง: จอ 90Hz (ใน Redmi 14C, 13C, A5 ฯลฯ) ก็ลื่นกว่า 60Hz แบบรู้สึกได้แล้วครับ และจอ AMOLED 90Hz ใน POCO M7 ก็ให้สีที่สวยที่สุดครับ
 
- คุณเป็นเกมเมอร์ (งบจำกัด) หรือเปล่า? (ชิป G99 vs G85 vs 5G)
- สายเกม 4G: มองหาชิป Helio G99 ครับ! POCO C85 (อันดับ 5) คือตัวเลือกที่ถูกที่สุด หรือขยับไป POCO M7 (อันดับ 2) ที่แรงเท่ากันแต่ได้จอสวยกว่า
- สายใช้งานทั่วไป (มีเกมบ้าง): ชิป Helio G85 (ใน Redmi 14C/13C) หรือ Snapdragon 685 (ใน Redmi 15C) ก็เพียงพอแล้วครับ
 
- คุณเปิดแอปค้างไว้เยอะไหม? (RAM 8GB vs 6GB vs 4GB)
- คำตอบคือ “ใช่”: ในปี 2025 นี้ RAM 8GB คือมาตรฐานใหม่ครับ POCO C75, Redmi 14C, Redmi 13C ให้มาในราคาที่คุ้มมาก
- คำตอบคือ “ไม่”: ถ้าคุณใช้ทีละแอป ปิดตลอด RAM 6GB (ใน POCO C85, Redmi 15C) ก็ยังไหวครับ แต่ 4GB (ใน Redmi A5) จะเหมาะกับการใช้งานพื้นฐานจริงๆ เท่านั้นครับ
 
- คุณมีงบ “เป๊ะๆ” เท่าไหร่?
- งบ 4,000 – 5,000: คุณสามารถเล็งอันดับ 1-2 (POCO C75, POCO M7) ได้เลยครับ
- งบ 3,000 – 4,000: นี่คือสมรภูมิเดือดของ Redmi 14C, 13C, POCO C85 และ Redmi 14R ครับ คุ้มทุกตัว!
- งบ 2,000 – 3,000: Redmi A5 (อันดับ 8) คือแชมป์ในราคานี้แบบไร้คู่แข่ง ด้วยจอ 90Hz ครับ
 
ถ้าเพื่อนๆ ยังรู้สึกว่าสเปกมันเยอะ งงไปหมด ลองอ่านบทความ วิธีดูสเปกมือถือ Xiaomi ก่อนซื้อ ของเราประกอบได้นะครับ จะได้เข้าใจว่าแต่ละตัวเลขมันหมายความว่ายังไงครับ!
Xiaomi vs Samsung: ศึกชิงเจ้าตลาดงบ 5,000 บาท
เป็นคำถามโลกแตกที่ผมโดนถามบ่อยมากครับว่า “งบ 5,000 บาท เล่น Xiaomi หรือ Samsung ดี?” ผมขอสรุปให้ฟังแบบนี้ครับ:
- เลือก Xiaomi (Redmi/POCO) ถ้า: คุณคือ “สายสเปก” ครับ ในราคาที่เท่ากัน Xiaomi มักจะให้ ชิปเซ็ตที่แรงกว่า, RAM และ ROM ที่เยอะกว่า, และหน้าจอรีเฟรชเรตที่สูงกว่า (เช่น 90Hz-120Hz) พูดง่ายๆ คือคุณจะได้ “ตัวเลข” ที่สูงกว่าแทบทุกด้านครับ นี่คือเหตุผลว่าทำไม โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 ถึงดูคุ้มค่ามากๆ
- เลือก Samsung ถ้า: คุณคือ “สายแบรนด์” และ “สายจอสวย” ครับ Samsung มักจะให้ จอ Super AMOLED ที่สีสวยสดและคมชัด (แม้จะเป็น 60Hz หรือ 90Hz) มาในงบนี้บ่อยๆ ซึ่งเหมาะกับการดูวิดีโอมาก นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ OneUI Core ของเขาก็มีความเสถียรและใช้งานง่าย รวมถึง “ความน่าเชื่อถือ” ของแบรนด์ในสายตาผู้ใหญ่หลายๆ ท่านครับ
สรุปคือ: อยากได้ความ “แรง” และ “ลื่น” มา Xiaomi ครับ อยากได้ความ “สวย” ของจอ และ “ความสบายใจ” ของแบรนด์ Samsung ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ
เทคนิคใช้กล้อง 50MP (หรือ 108MP) ในมือถืองบ 5,000 ให้สวยปัง
หลายคนเห็นว่า มือถือ Xiaomi ราคาประหยัด ให้กล้อง 50MP หรือแม้แต่ 108MP มา แต่ทำไมถ่ายออกมาแล้วรู้สึกว่ามันไม่สวยเหมือนที่คิด? นั่นเพราะโดยปกติ มือถือจะไม่ได้ใช้ความละเอียดเต็ม 50MP ตลอดเวลานะครับ! มันจะใช้เทคนิค “Pixel Binning” (รวม 4 พิกเซลเป็น 1) เพื่อให้ได้ภาพ 12.5MP ที่สว่างและมี Noise น้อยกว่าครับ
ถ้าคุณอยากได้ภาพ 50MP คมๆ ต้องทำยังไง?
- เปิดโหมด 50MP: เข้าไปในแอปกล้อง แล้วมองหาโหมดที่เขียนว่า “50MP” หรือ “Ultra HD” (หรือ 108MP ในรุ่น M7) ต้องกดเปิดก่อนถ่ายนะครับ
- มือต้องนิ่ง: การถ่ายในโหมดความละเอียดสูง มือถือจะใช้เวลาประมวลผลนานขึ้นนิดนึง พยายามถือนิ่งๆ หรือหาที่ยึดครับ
- เหมาะกับแสงจ้า: โหมดนี้เหมาะกับการถ่าย “วิว” หรือ “ภาพที่แสงเยอะๆ” ครับ มันจะเก็บรายละเอียดตึกรามบ้านช่องหรือใบไม้ได้ชัดเจนมาก แต่ถ้าถ่ายในที่มืด ใช้โหมดปกติ (12.5MP) จะให้ภาพที่สว่างกว่าครับ
- อย่าซูม!: การซูมในโหมด 50MP มักจะเป็น Digital Zoom ซึ่งจะทำให้ภาพแตกครับ
แค่ลองปรับนิดหน่อย คุณก็จะรีดประสิทธิภาพกล้องจาก โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 ของคุณได้ดีขึ้นเยอะเลยครับ! หรือลองดูเทคนิคเพิ่มเติมที่ วิธีถ่ายรูปสวยด้วย Xiaomi ครับ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000
ผมรวบรวมคำถามที่เจอบ่อยๆ เกี่ยวกับ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี มาตอบให้เคลียร์ๆ ตรงนี้เลยครับ
- ถาม: โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 เล่นเกมหนักๆ (Genshin Impact) ไหวไหม?
 ตอบ: ถ้าถามว่า “ไหวไหม” ตอบคือ “พอไหว” ครับ แต่ต้องปรับกราฟิก “ต่ำสุด” (Lowest) ทั้งหมดครับ ชิปอย่าง Helio G99 (ใน POCO M7/C85) หรือ Snapdragon 4s Gen 2 (ใน POCO C75) พอจะรันได้ แต่คาดหวังความลื่นไหลไม่ได้ครับ มือถืองบนี้ออกแบบมาสำหรับเกมทั่วไปอย่าง ROV, Free Fire มากกว่าครับ ถ้าเน้นเล่นเกมหนักจริงๆ ควรเพิ่มงบไปดู Xiaomi เล่นเกมลื่น รุ่นที่สูงกว่าครับ
- ถาม: Xiaomi, Redmi, POCO มันต่างกันยังไงครับ? งงไปหมดแล้ว!
 ตอบ: สรุปง่ายๆ คือ “บริษัทเดียวกัน” ครับ! แต่แบ่งแบรนด์กันทำตลาด:
- Xiaomi (Mi): เป็นแบรนด์หลัก เน้นรุ่นเรือธง (Flagship) และรุ่นพรีเมียม (เช่น Xiaomi 14, 15 Series) ราคาสูงครับ
- Redmi: เน้นความ “คุ้มค่า” ในทุกระดับราคา ตั้งแต่รุ่นล่างสุด (Redmi A, Redmi 9A/10A) ไปจนถึงรุ่นกลาง (Redmi Note Series) ครับ
- POCO: เน้น “สเปกต่อราคา” ที่ดุดัน โดยเฉพาะชิปเซ็ตที่แรงเกินราคา มักจะเน้นจับกลุ่มวัยรุ่นและคนเล่นเกมครับ (เช่น POCO C, M, F Series)
- ถาม: ซื้อมือถืองบ 5,000 บาทตอนนี้ ต้องเลือกรุ่นที่มี RAM 8GB เลยไหม?
 ตอบ: “แนะนำอย่างยิ่ง” ครับ! ในปี 2025 นี้ แอปต่างๆ กิน RAM เยอะขึ้นมาก การมี RAM 8GB (เช่นใน POCO C75, Redmi 14C) จะช่วยให้คุณใช้งานได้ลื่นไหลกว่า และ “อนาคตไกลกว่า” RAM 6GB หรือ 4GB อย่างชัดเจนครับ
- ถาม: งบ 5,000 บาทพอดีเป๊ะ เพิ่มเงินอีกนิดไปเอา Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 ดีกว่าไหม?
 ตอบ: ถ้าเพิ่มไหว “ก็ดีกว่าครับ” ครับ! สิ่งที่คุณจะได้เพิ่มมาหลักๆ ในงบ 6,000-7,000 บาท คือ:- หน้าจอ Full HD+ AMOLED 120Hz (คมชัดและลื่นไหลกว่า)
- ชาร์จเร็วมาก (เช่น 67W)
- กล้อง Ultrawide (กล้องมุมกว้าง)
- ชิปเซ็ตที่แรงขึ้นอีกระดับ
 แต่ถ้าคุณใช้งานทั่วไป ไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่านี้ สมาร์ทโฟน Xiaomi งบ 5000 ในลิสต์นี้ก็ “เพียงพอ” แล้วครับ 
บทสรุป: รุ่นไหนคือ ‘โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000’ ที่ใช่สำหรับคุณ (อัปเดต 2025)
เดินทางกันมาครบทั้ง 10 อันดับแล้วนะครับ! ผมว่าเราคงได้คำตอบกันแล้วว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ในปี 2025 นี้ มัน “โหด” และ “คุ้มค่า” ขนาดไหน Xiaomi ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า ของดีไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไปครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็มีมือถือที่ “ใช่” รอคุณอยู่ในงบนี้แน่นอน
ผมขอสรุปปิดท้ายให้เพื่อนๆ อีกครั้งแบบชัดๆ ไปเลยครับ:
- ถ้าคุณต้องการ “5G + จอลื่นสุด + RAM เยอะ” (คุ้มที่สุดในอนาคต): ไปที่ อันดับ 1: Xiaomi POCO C75 5G (8GB/256GB) เลยครับ นี่คือมือถือ 5G จอ 120Hz ที่สเปกโหดที่สุดในงบนี้แล้วครับ
- ถ้าคุณต้องการ “จอสวยที่สุด + กล้องดีที่สุด (4G)” (สายบันเทิง): เลือก อันดับ 2: Xiaomi POCO M7 4G ครับ จอ AMOLED 90Hz และกล้อง 108MP จะทำให้คุณฟินกับการดูหนังและถ่ายรูปมากครับ
- ถ้าคุณต้องการ “RAM 8GB + ROM 256GB” ในราคาที่ “ถูกที่สุด”: อันดับ 3: Xiaomi Redmi 14C (8GB/256GB) คือคำตอบครับ สเปกนี้ในราคา 3,000 กว่าบาทคือที่สุดของความคุ้มค่าสำหรับการใช้งานทั่วไป
- ถ้าคุณต้องการ “ชิปเล่นเกม 4G แรงๆ” ในงบประหยัด: อันดับ 5: Xiaomi POCO C85 ที่ใช้ชิป Helio G99 คือตัวเลือกของเกมเมอร์งบน้อยครับ
- ถ้าคุณมีงบแค่ “2,000 กว่าบาท” และอยากได้จอลื่น: อันดับ 8: Xiaomi Redmi A5 ที่ให้จอ 90Hz มาในราคานี้ คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นครับ
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็อย่าลืมตรวจสอบโปรโมชันจากร้านค้าต่างๆ ให้ดีนะครับ บางทีอาจจะได้ส่วนลดเพิ่มอีก! หวังว่าบทความนี้จะเป็น “เพื่อนซี้” ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือก โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี ได้ง่ายขึ้นนะครับ ขอให้มีความสุขกับมือถือเครื่องใหม่ครับ! และถ้าได้มือถือแล้ว กำลังมองหา ลำโพงบลูทูธ ดีๆ สักตัวไว้ฟังเพลงคู่กัน เราก็มีรีวิวจัดเต็มให้นะครับ!
หมายเหตุจากผู้เขียน:
- รายละเอียดเรื่องสเปก, ราคา, หรือการรับประกัน ควรตรวจสอบเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของ Xiaomi, POCO, และ Redmi หรือเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแต่ละแบรนด์ด้วยครับ
- บทความนี้เขียนขึ้นอย่างเป็นกลาง ไม่ได้รับการสนับสนุนหรือชี้นำครับจากแบรนด์ใด ๆ จุดประสงค์คือเพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากที่สุด หากกดลิงก์เพื่อตรวจสอบราคา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเพียงเล็กน้อยเพื่อสนับสนุนการทำงานและพัฒนาเว็บไซต์ของเรา แต่รับรองได้ว่าจะไม่กระทบต่อการจัดอันดับหรือคำแนะนำสินค้าแน่นอนครับ ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัว
- บทความนี้จัดทำโดยใช้ AI ช่วยในการรวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลจากหลายแหล่งที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม หากมีข้อคลาดเคลื่อน แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้ผลิตหรือร้านค้าโดยตรง ทั้งนี้ข้อมูลในบทความอ้างอิงจากสเปกและข่าวสารช่วงล่าสุด ซึ่งคุณสมบัติหรือราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตครับ
- คะแนน (เช่น 9.8/10 หรือ 9.5/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน ToplistPlus อ้างอิงจากสเปก, ฟีเจอร์, ราคา, และรีวิวผู้ใช้จริงจากแหล่งต่างๆ เช่น GSMArena, Reddit, และคอมมูนิตี้ผู้ใช้งานครับ
- รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “[ชื่อเล่น], อายุ …”) เป็นตัวอย่างสมมุติที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลและรีวิวจากผู้ใช้จริงมาเรียบเรียงใหม่เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพเท่านั้นครับ














