Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra: ศึกเรือธงที่แท้ทรู! เทียบหมัดต่อหมัด ใครคือราชา Android ตัวจริง?

Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra: ภาพหน้าปกกราฟิกที่มีข้อความเปรียบเทียบชื่อรุ่น พร้อมภาพด้านหลัง Xiaomi 15 Ultra และภาพการใช้งาน Samsung Galaxy S25 Ultra

ไงครับเพื่อนๆ! เปิดปีใหม่มา ตลาดมือถือเรือธงก็ลุกเป็นไฟกันอีกแล้วครับ และคู่มวยที่ทุกคนรอคอยมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra บอกเลยว่านี่คือการชนกันของยักษ์ใหญ่ที่แท้ทจริงครับ! ฝั่งหนึ่งคือ “Xiaomi” ที่มาพร้อมสโลแกน “ของดี สเปกแน่น ราคาโดน” ที่ตอนนี้อัปเกรดตัวเองขึ้นมาเป็นแบรนด์พรีเมียมเต็มตัว โดยเฉพาะกับไลน์ Ultra ที่จัดหนักจัดเต็มเรื่องกล้องแบบไม่มีกั๊ก ส่วนอีกฝั่งคือ “Samsung” เจ้าตลาด Android ตลอดกาล ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเสถียร, Ecosystem สุดแกร่ง และแน่นอน… ปากกา S Pen ในตำนาน การต่อสู้ของ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การวัดกันที่สเปก แต่คือการเดิมพันศักดิ์ศรีของสองค่ายยักษ์ครับ

ผมรู้ว่าเพื่อนๆ หลายคนกำลังกำเงินในมือแน่น และลังเลสุดๆ ว่าจะไปทางไหนดีระหว่าง Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra วันนี้ ToplistPlus เลยขออาสาเป็น “เพื่อน” ช่วยวิเคราะห์เทียบกันให้เห็นแบบชัดๆ ไปเลยครับว่า เรือธงสองลำนี้ ใครมีดีอะไร ใครเหมาะกับใคร บอกเลยว่าข้อมูลแน่นเอี๊ยด อ้างอิงจากสเปกที่หลุดออกมาและข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือที่สุด (ณ ตอนนี้) เพื่อให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายถ่ายรูป, สายเกมมิ่ง, หรือสายทำงาน การเปรียบเทียบ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ครั้งนี้ มีคำตอบให้แน่นอนครับ! และสำหรับใครที่กำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi รุ่นไหนดี รุ่นอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจ ก็คลิกเข้าไปอ่านบทความรวมของเราได้เลยครับ ส่วนใครที่อยากรู้ว่าศึกระหว่าง Xiaomi vs Vivo ใครจะแน่กว่ากัน ก็มีให้อ่านเช่นกันครับ! เอาล่ะ… พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยครับ!

🦉 เลือกอ่านหัวข้อ

เทียบสเปก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra (แบบรวบรัด)

ก่อนจะไปเจาะลึกกันทีละจุด ผมขอเปิดด้วยตารางเทียบสเปกฉบับย่อให้เห็นภาพรวมกันก่อนครับว่า ศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ครั้งนี้ สเปกบนกระดาษของใคร “จี๊ดจ๊าด” กว่ากัน นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการ ดูสเปกมือถือ Xiaomi ก่อนซื้อ หรือเทียบกับแบรนด์อื่นครับ

คุณสมบัติ Xiaomi 15 Ultra (สเปกคาดการณ์) Samsung Galaxy S25 Ultra (สเปกคาดการณ์)
ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Elite (3 nm) Qualcomm Snapdragon 8 Elite (3 nm)
หน้าจอ 6.73″ LTPO AMOLED, WQHD+, 1-120Hz 6.9″ Dynamic AMOLED 2X, QHD+, 1-120Hz
ความสว่าง (Peak) ~3,200 nits ~2,600 nits
กระจกกันรอย Xiaomi Shield Glass 2.0 Corning Gorilla Glass Armor 2
RAM / Storage 12GB/16GB (UFS 4.1) 12GB/16GB (UFS 4.1)
กล้องหลัก 50 MP (เซนเซอร์ 1 นิ้ว) + Leica 200 MP (f/1.7)
กล้อง Ultra-wide 50 MP 50 MP (f/1.9)
กล้อง Telephoto 50 MP (3x) + 200 MP Periscope (4.3x) 10 MP (3x) + 50 MP Periscope (5x)
กล้องหน้า 32 MP 12 MP
แบตเตอรี่ ~5,410 mAh (Global) / ~6,000 mAh (จีน) ~5,000 mAh
ชาร์จไว (มีสาย) 90W 45W
วัสดุ หนังเทียม/กระจก, กรอบโลหะ กระจก Gorilla Armor 2, กรอบไทเทเนียม (Grade 5)
ฟีเจอร์เด่น กล้อง Leica, ชาร์จไว 90W, แบตอึด, จอสว่างสุด S Pen, Galaxy AI, จอแกร่ง, กล้อง 50MP Ultrawide
กันน้ำ IP68 IP68

*หมายเหตุ: สเปกข้างต้นอ้างอิงจากข่าวหลุดและข้อมูลคาดการณ์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเปิดตัวจริง

เจาะลึกยกที่ 1: ดีไซน์และวัสดุ (Design & Build)

มาเริ่มกันที่ “หน้าตา” และ “ความรู้สึก” เวลาถือกันก่อนครับ เรื่องนี้สำคัญมากนะ เพราะมันคือสิ่งที่เราต้องจับต้องทุกวัน ศึกดีไซน์ของ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ครั้งนี้ บอกเลยว่า “คนละสไตล์” อย่างชัดเจน

Xiaomi 15 Ultra: หรูหราสายกล้อง, โมดูลยักษ์… แต่พรีเมียม

Xiaomi ยังคงคอนเซปต์ “ข้าคือราชาแห่งกล้อง” ครับ โมดูลกล้องด้านหลังยังคง “ใหญ่ยักษ์” และ “โดดเด่น” สไตล์กล้อง Leica M-series ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจทุกคนที่ชอบความมินิมอล แต่ถ้าคุณชอบฟีลลิ่งแบบกล้องโปรฯ นี่คือคำตอบครับ วัสดุคาดว่าจะมีให้เลือกทั้งแบบ “หนังเทียม (Vegan Leather)” ที่ให้สัมผัสหรูหรา จับถนัดมือ ไม่ลื่น และไม่เป็นรอยนิ้วมือ หรือ “กระจก” สำหรับสายคลาสสิก ขอบเครื่องเป็นโลหะที่แข็งแกร่ง น้ำหนักตัวเครื่องอาจจะมากกว่า S25 Ultra เล็กน้อย (ประมาณ 226-229 กรัม) และหนากว่า (9.35 มม.) เพื่อรองรับเซนเซอร์กล้องขนาดใหญ่และแบตเตอรี่ที่อึดกว่าครับ

Samsung Galaxy S25 Ultra: มินิมอล เรียบหรู, ไทเทเนียม และ… ปากกา!

ส่วน Samsung S25 Ultra มาในแนวทาง “น้อยแต่มาก” (Minimalist) ครับ ดีไซน์โดยรวมยังคงเอกลักษณ์ของซีรีส์ Ultra คือ “ความเหลี่ยม” ที่มุมเครื่อง จับถนัดมือเวลาจดงาน และที่สำคัญ “ไม่มีโมดูลกล้องนูน” อีกต่อไป แต่ใช้ดีไซน์แบบ “Floating Cameras” (เลนส์ลอยๆ) ที่ดูสะอาดตาและทันสมัยมาก จุดขายสำคัญคือ “กรอบไทเทเนียม Grade 5” ที่ทั้งเบาและแข็งแกร่งกว่าอลูมิเนียม แถมยังให้ฟีลลิ่งที่พรีเมียมสุดๆ (ตามรอย Apple มาติดๆ) และแน่นอนครับ… ช่องเก็บ “S Pen” ที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวที่ทำให้ S25 Ultra แตกต่างจากเรือธงทุกตัวในตลาด S25 Ultra จะบางกว่า (8.2 มม.) และเบากว่า (218 กรัม) นิดหน่อยครับ

วิเคราะห์ยกนี้: ถ้าคุณชอบมือถือที่ให้ฟีลลิ่งเหมือน “กล้องถ่ายรูป” หรูหราด้วยวัสดุหนัง และไม่เกี่ยงเรื่องโมดูลกล้องใหญ่ Xiaomi 15 Ultra ชนะครับ แต่ถ้าคุณชอบความ “มินิมอล” เรียบหรู, วัสดุไทเทเนียมสุดแกร่ง, และต้องการ “S Pen” Samsung S25 Ultra คือผู้ชนะแบบไร้ข้อกังขาครับ การปะทะกันของ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ในยกนี้จึงอยู่ที่ “รสนิยม” ล้วนๆ ซึ่งสะท้อน ประวัติแบรนด์ Xiaomi ที่กล้าเสี่ยงด้านดีไซน์กล้อง เทียบกับ Samsung ที่เน้นความสมบูรณ์แบบที่คุ้นเคยครับ

เจาะลึกยกที่ 2: หน้าจอ (Display)

มาถึงส่วนที่เราต้อง “จ้อง” มันทั้งวันครับ เรื่องหน้าจอ ศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ครั้งนี้ แอบมีเซอร์ไพรส์ครับ!

Xiaomi 15 Ultra มาพร้อมจอ LTPO AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว (WQHD+) ที่พัฒนาร่วมกับ TCL จุดเด่นที่ “บ้าคลั่ง” ที่สุดคือ “ความสว่างสูงสุด (Peak Brightness) ที่ ~3,200 nits” ครับ! ใช่ครับ… อ่านไม่ผิด สามพันสอง! นี่สว่างกว่าทีวีหลายๆ รุ่นอีกครับ แปลว่าการใช้งานกลางแจ้งแดดเปรี้ยงๆ นี่คือ “สู้ตาย” แบบไม่ต้องหยีตาเลย แถมยังใช้กระจกกันรอยรุ่นล่าสุดอย่าง Xiaomi Shield Glass 2.0 ที่เคลมว่าแกร่งสุดๆ

ส่วน Samsung Galaxy S25 Ultra แม้จะเป็น “เจ้าพ่อ” แห่งวงการจอ AMOLED แต่รอบนี้สเปกความสว่างดู “ดรอป” กว่าเล็กน้อยครับ ที่ ~2,600 nits (ซึ่งก็สว่างมากๆ แล้วนะครับ) แต่สิ่งที่ S25 Ultra มี และ Xiaomi ไม่มี คือ “ขนาดจอที่ใหญ่กว่า” ที่ 6.9 นิ้ว (ใหญ่สะใจสายดูหนัง) และ “กระจก Corning Gorilla Glass Armor 2” ที่นอกจากจะทนทานแล้ว จุดเด่นของมันคือ “ลดแสงสะท้อน” ได้ดีกว่ากระจกทั่วไปมากๆ ทำให้จอ “ดำ” สนิท และคอนทราสต์ดีสุดๆ เวลาใช้งานจริงครับ

วิเคราะห์ยกนี้: การต่อสู้ของ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ในด้านหน้าจอ Xiaomi ชนะในเรื่อง “ตัวเลขความสว่างสูงสุด” แบบขาดลอยครับ ใครที่เน้นสู้แดดจัดๆ Xiaomi 15 Ultra คือคำตอบ แต่… Samsung S25 Ultra ก็ชนะในเรื่อง “ขนาด” และ “การลดแสงสะท้อน” ซึ่งสำคัญมากต่อการใช้งานจริง บอกเลยว่าสูสีครับ แต่ถ้าให้เลือก ผมเอนเอียงไปทาง “การลดแสงสะท้อน” ของ Samsung นิดนึงนะ มันสบายตากว่าจริงๆ

เจาะลึกยกที่ 3: ประสิทธิภาพ (Performance)

ยกนี้… ผลออกมา “เสมอ” ตั้งแต่ยังไม่เริ่มชกครับ! เพราะทั้ง Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra (ในตลาดส่วนใหญ่รวมถึงไทย) เลือกใช้ชิปเซ็ตตัวเดียวกันคือ Qualcomm Snapdragon 8 Elite (3 nm) ตัวล่าสุด! นี่คือชิปที่แรงที่สุดในฝั่ง Android แล้วครับ ไม่ว่าคุณจะเอาไปเล่น Genshin Impact ปรับสุด, ตัดต่อวิดีโอ 4K, หรือทำงาน Multitasking หนักๆ ทั้งคู่ “เอาอยู่” สบายๆ หายห่วงครับ

ทั้งคู่ยังมาพร้อม RAM LPDDR5X (คาดว่า 12GB หรือ 16GB) และ Storage แบบ UFS 4.1 ที่เร็วปรู๊ดปร๊าด เปิดแอปไว โหลดเกมเร็วเหมือนกันเด๊ะๆ ครับ

ดังนั้น ตัวตัดสินในเรื่องประสิทธิภาพของ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra จึงไม่ใช่ “ชิป” แต่เป็น 2 อย่างนี้ครับ:

  1. การระบายความร้อน (Cooling System): Xiaomi มักจะ “จัดเต็ม” เรื่องระบบระบายความร้อน (Vapor Chamber) ที่ใหญ่กว่าคู่แข่งเสมอ ซึ่งอาจจะทำให้เล่นเกมได้นิ่งกว่าในระยะเวลานานๆ ครับ (อันนี้ต้องรอผลเทสต์จริง) ซึ่งสำคัญมากสำหรับใครที่มองหา โทรศัพท์ Xiaomi เล่นเกมลื่น
  2. ซอฟต์แวร์ (Software): Xiaomi ใช้ HyperOS 2 ส่วน Samsung ใช้ One UI 7 ซึ่ง “ความลื่น” และ “การจัดการ RAM” ของแต่ละค่าย ก็มีผลต่อความรู้สึกในการใช้งานจริงครับ (เดี๋ยวไปว่ากันในยก Software)

นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังรองรับการเชื่อมต่อยุคใหม่อย่าง Wi-Fi 7 และ 5G เต็มรูปแบบครับ การใช้งานอินเทอร์เน็ตจะเร็วแรงทะลุนรกแน่นอน (ถ้าโปรฯ เน็ตคุณแรงพอนะครับ) ซึ่งถ้าเน็ตบ้านไม่แรง การใช้ เราเตอร์ใส่ซิม 5G ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ

วิเคราะห์ยกนี้: เสมอครับ! ศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ด้านความแรงดิบๆ ไม่ต่างกัน อยู่ที่ว่าใคร “คุมความร้อน” ได้ดีกว่ากัน ซึ่ง Xiaomi มักจะมีภาษีดีกว่าเล็กน้อยในจุดนี้ครับ

Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra: ภาพด้านหลังสมาร์ทโฟน Xiaomi 15 Ultra สีดำ-เงิน ที่โดดเด่นด้วยโมดูลกล้องทรงกลมขนาดใหญ่ พร้อมโลโก้ LEICA

เจาะลึกยกที่ 4: กล้อง (Camera) – ศึกชิงบัลลังก์ที่แท้ทรู!

มาถึง “ยกไฮไลท์” ที่ทุกคนรอคอยครับ! ศึกกล้อง Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ปีนี้ มันคือ “มวยคนละสไตล์” ที่น่าดูชมที่สุดในรอบหลายปีครับ นี่คือตัวตัดสินหลักเลยว่า โทรศัพท์ Xiaomi กล้องสวย จะสู้เจ้าตลาดได้หรือไม่

Xiaomi 15 Ultra: “Leica” และ “Hardware” คือคำตอบ

Xiaomi ยังคงจับมือกับ Leica อย่างเหนียวแน่น และอัปเกรดแบบ “บ้าพลัง” ครับ

  • กล้องหลัก (50 MP): ใช้เซนเซอร์ “ขนาด 1 นิ้ว” ตัวใหม่ล่าสุด! นี่คือฮาร์ดแวร์ระดับ “กล้อง Compact Pro” แล้วครับ การรับแสง, มิติภาพ, การละลายหลัง (Bokeh) จะดีกว่าเซนเซอร์เล็กๆ อย่างเห็นได้ชัด
  • กล้อง Telephoto (50 MP): ระยะซูม 3x สำหรับถ่าย Portrait สวยๆ
  • กล้อง Periscope (200 MP!!): นี่คือไม้เด็ดครับ! ยัดเซนเซอร์ 200MP มาในเลนส์ Periscope 4.3x แปลว่าคุณภาพการซูมระยะกลาง (4.3x – 10x) จะ “คมกริบ” แบบไม่เคยมีมาก่อน เพราะใช้การ Crop จากเซนเซอร์ 200MP
  • กล้อง Ultra-wide (50 MP): อัปเกรดให้คมชัดขึ้น

จุดขายคือ “ฮาร์ดแวร์” (เซนเซอร์ 1 นิ้ว + 200MP Periscope) และ “Software” (โทนสี Leica Authentic/Vibrant) ใครชอบภาพโทนฟิล์ม มิติสวยๆ สไตล์ Leica… จบที่ตัวนี้ครับ และถ้าอยากรู้ วิธีถ่ายรูปสวยด้วย Xiaomi ให้ได้ฟีลลิ่ง Leica ลองไปอ่านไกด์ของเราได้ครับ รวมถึงเรื่อง การถ่ายวิดีโอ 4K ด้วย Xiaomi ก็ทำได้ดีขึ้นมาก

Samsung Galaxy S25 Ultra: “ความเก๋า”, “ความนิ่ง” และ “ความครบเครื่อง”

Samsung ไม่ได้เน้น “ตัวเลข” หวือหวาเท่า แต่เน้น “อุดรูรั่ว” และ “ความเก่งกาจ” ของ AI Processing ครับ

  • กล้องหลัก (200 MP): ยังคงใช้เซนเซอร์ 200MP (อาจจะเป็นตัวอัปเกรด) ที่เก่งเรื่องการรวมพิกเซล (Pixel Binning) ให้ภาพสว่าง คมชัดในทุกสภาพแสง และเก่งเรื่องการถ่ายวิดีโอ 8K
  • กล้อง Ultra-wide (50 MP!!): นี่คือการอัปเกรดใหญ่! จาก 12MP มาเป็น 50MP ทำให้ภาพมุมกว้างคมชัด “ยันขอบ” และยังใช้เป็นกล้อง Macro ได้ดีขึ้นด้วย
  • กล้อง Telephoto (10 MP): ระยะ 3x คลาสสิก ยังคงมีอยู่ (Xiaomi ก็มี 3x)
  • กล้อง Periscope (50 MP): ระยะ 5x ที่คมชัดมากๆ สำหรับการซูมระยะไกล

จุดขายของ Samsung คือ “ความครบเครื่อง” ครับ มีเลนส์ซูม 2 ระยะ (3x, 5x) ให้เลือกใช้, กล้อง Ultrawide ที่เทพขึ้นมาก, และ “AI Processing” ที่ฉลาดสุดๆ ภาพที่ได้จะสว่าง เคลียร์ ใส “สวยจบหลังกล้อง” สไตล์ Samsung ที่คนส่วนใหญ่ชอบครับ เรื่องวิดีโอ Samsung ก็ยังยืนหนึ่งเรื่องความนิ่งและคุณภาพไฟล์ครับ

วิเคราะห์ยกนี้: นี่คือจุดที่การตัดสินใจในศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ยากที่สุดครับ!

  • ถ้าคุณคือ “สายอาร์ต”, ชอบไฟล์ภาพที่มี “มิติ”, ชอบโทนสี Leica, และเน้นการซูมระยะกลาง (4.3x-10x) ที่คมจัดๆ… Xiaomi 15 Ultra ชนะด้วยฮาร์ดแวร์ (เซนเซอร์ 1 นิ้ว และ 200MP Periscope)
  • ถ้าคุณคือ “สาย Content Creator”, ต้องการความ “อเนกประสงค์” (มี 3x, 5x), ชอบภาพ “สวยจบหลังกล้อง”, ถ่ายวิดีโอนิ่งๆ, และต้องการ Ultrawide ที่เทพ… Samsung S25 Ultra ชนะด้วยความครบเครื่องและ AI ที่เก๋ากว่าครับ

การปะทะกันของ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ในเรื่องกล้อง จึงเป็นเรื่องของ “รสนิยม” การถ่ายภาพอย่างแท้จริงครับ

เจาะลึกยกที่ 5: แบตเตอรี่และการชาร์จ

ยกนี้… ผลการตัดสิน “ชัดเจน” และ “ขาดลอย” ครับ!

Xiaomi 15 Ultra มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ “ใหญ่มาก” ถึง ~5,410 mAh (สำหรับรุ่น Global และอาจจะแตะ 6,000 mAh ในจีน!) แค่ความจุก็ชนะแล้วครับ แต่ที่ “ฆ่า” คู่แข่งแบบตายสนิทคือ “ระบบชาร์จไว 90W” (แบบมีสาย) และยังมีชาร์จไร้สายที่ลือกันว่าอาจจะเร็วถึง 80W อีกด้วย! นี่คือการชาร์จจาก 0-100% อาจจะใช้เวลาแค่ 30-35 นาทีเท่านั้นครับ

หันมาดู Samsung Galaxy S25 Ultra… ยังคง “กั๊ก” เหมือนเดิมครับ แบตเตอรี่ ~5,000 mAh (ซึ่งก็อึดใช้ได้ทั้งวันอยู่แล้ว) แต่ระบบชาร์จไวยังคง “ย่ำอยู่กับที่” ที่ 45W ครับ… 45W ในปีนี้ สำหรับเรือธงราคาครึ่งแสน… มัน “ช้า” ไปแล้วครับเพื่อนๆ อาจจะต้องใช้เวลาชาร์จ 0-100% เกือบๆ 1 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น

วิเคราะห์ยกนี้: Xiaomi 15 Ultra ชนะน็อกครับ! ทั้ง “ความจุ” แบตเตอรี่ที่เยอะกว่า (อึดกว่าแน่นอน) และ “ความเร็ว” ในการชาร์จที่ไวกว่าเท่าตัว! นี่คือจุดแข็งที่ชัดเจนที่สุดในศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ครั้งนี้ครับ ใครหัวร้อนง่ายเวลารอชาร์จแบต… คำตอบชัดเจนครับ

เจาะลึกยกที่ 6: ซอฟต์แวร์, AI และฟีเจอร์พิเศษ

ยกสุดท้ายนี้ ว่ากันด้วย “สมอง” และ “ความฉลาด” ของทั้งคู่ครับ การต่อสู้ของ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ในด้านซอฟต์แวร์ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

Xiaomi 15 Ultra: HyperOS 2 และ Ecosystem ที่กำลังเติบโต

Xiaomi 15 Ultra จะมาพร้อม Android 15 + HyperOS 2 ครับ ตัว HyperOS นี้ถูกออกแบบมาให้ “เชื่อมต่อทุกสิ่ง” ใน Ecosystem ของ Xiaomi (ตั้งแต่รถยนต์, ทีวี, ยันเครื่องฟอกอากาศ) ได้แบบไร้รอยต่อ มันทำงานได้ลื่นไหลและหน้าตาสวยงามสะอาดตาขึ้นมากครับ Xiaomi ยังการันตีอัปเดต OS หลัก 4 ปี และแพตช์ความปลอดภัย 6 ปี ซึ่งถือว่าดีมากครับ แน่นอนว่าต้องมีฟีเจอร์ AI ของตัวเอง (อาจจะเรียกว่า ‘Xiaomi AI’ หรืออะไรสักอย่าง) ที่ช่วยสรุปบทความ, แต่งภาพ, หรือช่วยในการทำงาน แต่คงต้องรอดูว่าจะ “ว้าว” แค่ไหนครับ นี่คือการพัฒนาที่น่าจับตาของ โทรศัพท์ Xiaomi 15 Series ที่ยกระดับมาจาก Xiaomi 14 Series อย่างชัดเจน และเมื่อเทียบกันในซีรีส์ การเปรียบเทียบ Xiaomi 15 Ultra vs Xiaomi 15 รุ่นธรรมดา ก็จะเห็นความต่างด้านฟีเจอร์กล้องและแบตเตอรี่ที่ชัดเจนครับ

Samsung Galaxy S25 Ultra: One UI 7, “Galaxy AI” และ “S Pen”

Samsung S25 Ultra มาพร้อม Android 15 + One UI 7 ที่ขึ้นชื่อเรื่อง “ความเสถียร” และ “ฟีเจอร์เยอะ” ที่สุดในตลาดครับ Ecosystem ของ Samsung (หูฟัง, นาฬิกา, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป) ก็ยังคง “แข็งแกร่งที่สุด” ในฝั่ง Android ครับ

แต่ไม้ตายของ Samsung มี 2 อย่างครับ:

  1. Galaxy AI: Samsung คือ “ผู้นำ” เรื่อง AI บนมือถือครับ ฟีเจอร์อย่าง Circle to Search, Live Translate (แปลภาษาสด), Note Assist (สรุปโน้ต) มัน “ใช้งานได้จริง” และ “ฉลาด” มากๆ ซึ่ง S25 Ultra จะยิ่งเก่งขึ้นไปอีก
  2. S Pen: “อาวุธลับ” ที่ไม่มีใครเทียบได้! ปากกา S Pen ไม่ใช่แค่ไว้จดๆ เขียนๆ ครับ มันคือ “ไม้กายสิทธิ์” ที่ใช้สั่งถ่ายรูป, แปลภาษา, วาดรูป, ตัดต่อวิดีโอ, ทำงานเอกสารได้จริงจัง นี่คือฟีเจอร์ที่ทำให้ S25 Ultra เป็น “มากกว่ามือถือ” ครับ

Samsung ยังให้การอัปเดต OS และความปลอดภัยยาวนานถึง 7 ปี! ยาวนานที่สุดในตลาดครับ

วิเคราะห์ยกนี้: ถ้าวัดกันที่ “ฟีเจอร์เฉพาะตัว” Samsung S25 Ultra ชนะขาดครับ! ศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ในยกนี้ S Pen และ Galaxy AI คือ “Game Changer” ที่ Xiaomi ไม่มีให้ครับ ใครที่เป็นสายทำงาน, นักเรียน, นักศึกษา, หรือชอบจด… จบที่ Samsung S25 Ultra ได้เลยครับ แต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้ปากกา และแค่อยากได้ OS ที่ลื่นๆ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Xiaomi อื่นๆ ได้ดี HyperOS ก็ตอบโจทย์แล้วครับ

Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra: ภาพด้านหลังสมาร์ทโฟน Xiaomi สีดำ-แดง ที่มีดีไซน์หนังและขอบกล้องวงกลมสีแดง พร้อมชุดอุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่ายภาพ (Camera Grip)

มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ (Expert Opinions)

เราลองไปฟังความเห็นจากสื่อเทคฯ และผู้เชี่ยวชาญ (สมมติ) กันบ้างครับว่า เขามองศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ครั้งนี้ยังไง

“TechByte Central” (สื่อสายฮาร์ดแวร์)

“การปะทะกันของ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ในปีนี้ คือการวัดกันระหว่าง ‘นวัตกรรมฮาร์ดแวร์’ กับ ‘ความสมบูรณ์ของซอฟต์แวร์’ ครับ Xiaomi 15 Ultra คือ ‘สัตว์ประหลาด’ ทางฮาร์ดแวร์อย่างแท้จริง ทั้งเซนเซอร์ 1 นิ้ว, 200MP Periscope, และแบต 90W… มันคือการ ‘ตะโกน’ บอกโลกว่าฉันคือที่สุด! ในขณะที่ S25 Ultra คือ ‘ความเก๋า’ Samsung ไม่ได้อัดสเปกบ้าเลือด แต่เน้น ‘อุดรูรั่ว’ (เช่น Ultrawide 50MP) และชูจุดแข็งที่ไม่มีใครล้มได้คือ S Pen และ Galaxy AI ที่ฉลาดขึ้น”

“DisplayTech Labs” (ผู้เชี่ยวชาญด้านจอภาพ)

“ถ้าว่ากันแค่ ‘ตัวเลข’ จอ 3,200 nits ของ Xiaomi 15 Ultra มันน่าทึ่งมากครับ แต่ในการใช้งานจริง ‘การลดแสงสะท้อน’ ของ Gorilla Armor 2 บน S25 Ultra อาจจะ ‘มีประโยชน์’ มากกว่าในชีวิตประจำวันด้วยซ้ำ เพราะมันทำให้คอนทราสต์ดีขึ้นในทุกสภาพแสง แม้ตัวเลข nits จะน้อยกว่าก็ตาม ศึกจอ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ครั้งนี้ จึงต้องเลือกระหว่าง ‘ความสว่างสุดขั้ว’ กับ ‘ความสบายตา’ ครับ”

บทวิเคราะห์จากทีมงาน ToplistPlus

“ทีมงานมองว่า ศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ครั้งนี้ คือการ ‘เลือกข้าง’ ที่ชัดเจนที่สุดครับ Xiaomi 15 Ultra พยายามอย่างหนักที่จะ ‘ล้ม’ Samsung ในจุดที่ Samsung ‘อ่อนแอ’ นั่นคือ ‘ความเร็วในการชาร์จ’ และ ‘นวัตกรรมฮาร์ดแวร์กล้อง’ (ซึ่ง Xiaomi ทำสำเร็จ!) ในขณะที่ Samsung S25 Ultra เลือกที่จะ ‘ไม่สู้’ ในเกมที่ตัวเองเสียเปรียบ (อย่างการชาร์จไว) แต่หันไป ‘ตอกย้ำ’ จุดแข็งที่ Xiaomi ‘ไม่มีทางสู้ได้’ นั่นคือ ‘S Pen’ และ ‘Ecosystem/AI’ ครับ… ดังนั้น การต่อสู้ของ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ครั้งนี้ มันอยู่ที่ว่า… คุณ ‘ต้องการ’ S Pen หรือ ‘ต้องการ’ ชาร์จ 90W มากกว่ากันครับ?”

ประเมินคะแนนดาว และ รีวิวสั้นๆ จากผู้ใช้งาน (สมมติ)

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ทีมงาน ToplistPlus ได้ลองประเมินคะแนน (จากสเปกและฟีเจอร์) และรวบรวมรีวิวสั้นๆ (สมมติ) จากผู้ใช้งานกลุ่มแรกๆ มาให้เพื่อนๆ อ่านกันครับว่า ศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ในสายตาคนทั่วไปเป็นยังไง

Xiaomi 15 Ultra: “อสูรกล้องและแบตเตอรี่”

คะแนนรวม: 9.2/10

ดีไซน์ (หนังเทียม): ★★★★★ (5/5)

หน้าจอ (ความสว่าง): ★★★★★ (5/5)

ประสิทธิภาพ: ★★★★☆ (4.5/5)

กล้อง (Leica + Hardware): ★★★★★ (5/5)

แบตเตอรี่และการชาร์จ: ★★★★★ (5/5)

ฟีเจอร์ (เทียบกับ S Pen): ★★★☆☆ (3.5/5)

รวบรวมรีวิวสั้นๆ (สมมติ):

  • “เอก” (อายุ 32, ช่างภาพ): “หลงรักโทนสี Leica ครับ เซนเซอร์ 1 นิ้วคือของจริง มิติภาพสุดยอดมาก ซูม 200MP ก็คมจัด ชาร์จ 90W คือสวรรค์ของคนทำงานครับ ศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ผมเลือก Xiaomi แบบไม่ลังเล”
  • “มายด์” (อายุ 25, ครีเอเตอร์ TikTok): “จอ… สว่างมาก! ออกไปถ่ายงานกลางแดดคือเห็นชัดสุดๆ แบตก็อึดมากค่ะ แต่โมดูลกล้องใหญ่อลังการไปหน่อย เวลานอนเล่นแล้วแอบหนักมือค่ะ”
  • “โปร” (อายุ 28, เกมเมอร์): “Snap 8 Elite เล่นเกมลื่นๆ ครับ แต่ที่ชอบคือชาร์จไวมาก หัวร้อนจากเกมปุ๊บ เสียบแป๊บเดียวเต็มละ ระบบระบายความร้อนก็ทำได้ดีกว่าที่คิด”
  • “คุณจิ๊บ” (อายุ 45, เจ้าของธุรกิจ): “ดีไซน์หนังคือหรูหรามากครับ HyperOS ก็ลื่นดี แต่แอบเสียดาย ไม่มีปากกาเหมือน S25 Ultra เลยต้องพกสมุดโน้ตแยกเหมือนเดิม”
  • “บอย” (อายุ 22, นักศึกษา): “ผมย้ายมาจากค่ายผลไม้… ประทับใจความเร็วชาร์จมากครับ กล้องก็สนุก ลูกเล่นเยอะ แต่แอบคิดว่าถ้าเทียบกับอีกตัวอย่าง Xiaomi 15 Ultra vs X200 Ultra (ถ้ามี) ก็น่าสนใจนะ” (หมายเหตุ: X200 Ultra เป็นรุ่นสมมติ) หรือแม้แต่ รีวิว Xiaomi 15 รุ่นน้อง ก็น่าสนใจสำหรับคนงบน้อยกว่าครับ

Samsung Galaxy S25 Ultra: “ราชาอเนกประสงค์”

คะแนนรวม: 9.3/10

ดีไซน์ (ไทเทเนียม + S Pen): ★★★★★ (5/5)

หน้าจอ (ลดแสงสะท้อน): ★★★★★ (5/5)

ประสิทธิภาพ: ★★★★☆ (4.5/5)

กล้อง (ความครบเครื่อง): ★★★★☆ (4.5/5)

แบตเตอรี่และการชาร์จ: ★★★☆☆ (3/5)

ฟีเจอร์ (S Pen + Galaxy AI): ★★★★★ (5/5)

รวบรวมรีวิวสั้นๆ (สมมติ):

  • “แพรว” (อายุ 29, AE): “S Pen คือชีวิตค่ะ! จดงาน, เซ็นเอกสาร, ไดคัทรูปส่งลูกค้า คือจบในเครื่องเดียว Galaxy AI ก็ช่วยสรุปประชุมได้จริงจังมาก ถึงจะชาร์จช้า แต่เพื่อ S Pen… ยอมค่ะ!”
  • “อาร์ม” (อายุ 35, Youtuber): “จอใหม่ที่ลดแสงสะท้อนคือดีมาก! ถ่ายงานกลางแจ้งแล้วมองจอง่ายขึ้นเยอะ กล้อง Ultrawide 50MP ก็คมชัดมาก ถ่าย Vlog สบายครับ การเปรียบเทียบ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra สำหรับสายวิดีโอ ผมว่า Samsung ยังนิ่งกว่า”
  • “พ่อ” (อายุ 55, ข้าราชการ): “ใช้ Samsung มาตลอด อัปเดต 7 ปีคือซื้อแล้วสบายใจครับ จอใหญ่ ตัวเลขชัด ใช้งานง่าย แต่ยอมรับว่าชาร์จ 45W นี่นานไปหน่อยเมื่อเทียบกับแบรนด์จีน”
  • “นัท” (อายุ 24, นักวาด): “ซื้อเพราะ S Pen ล้วนๆ ครับ เอามาสเก็ตช์งานไวๆ คือดีมาก ฟีลลิ่งเหมือนปากกาจริง วัสดุไทเทเนียมก็ดูแพงมากครับ”
  • “กอล์ฟ” (อายุ 30, พนักงานออฟฟิศ): “ลังเลกับ Xiaomi 15 Ultra นานมากครับ… แต่สุดท้ายเลือก S25 Ultra เพราะ Ecosystem ครับ ใช้นาฬิกา Galaxy Watch กับหูฟัง Buds อยู่ มันเชื่อมกันง่ายดีครับ… แต่ก็แอบอิจฉา 90W ของ Xiaomi นะ!”

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra

Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra: ภาพสมาร์ทโฟนที่กำลังถืออยู่ในมือ แสดงหน้าจอโฮมที่มีวิดเจ็ตและไอคอนแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ลอยอยู่รอบ ๆ เพื่อแสดงประสิทธิภาพของ UI/UX และระบบปฏิบัติการ

1. สรุป Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ใครดีกว่ากัน?

ไม่มีใครดีกว่า “ทุกอย่าง” ครับ!

  • เลือก Xiaomi 15 Ultra ถ้าคุณให้ความสำคัญกับ: กล้อง (เซนเซอร์ 1 นิ้ว, Leica), แบตเตอรี่ที่อึดกว่า, และ “การชาร์จที่โคตรเร็ว” (90W)
  • เลือก Samsung S25 Ultra ถ้าคุณให้ความสำคัญกับ: “S Pen” (จำเป็นต้องใช้), Galaxy AI ที่ฉลาด, จอที่ลดแสงสะท้อน, และ Ecosystem ที่ครบเครื่อง

2. กล้อง Xiaomi 15 Ultra (Leica) กับ Samsung S25 Ultra ใครถ่ายรูปสวยกว่า?

คนละสไตล์ครับ! Xiaomi 15 Ultra (ด้วยเซนเซอร์ 1 นิ้ว) จะให้ “มิติ” ภาพที่ดีกว่า, ละลายหลังธรรมชาติกว่า, และมีโทนสี Leica ที่สายอาร์ตชอบ ส่วน Samsung S25 Ultra จะให้ภาพที่ “สวยจบหลังกล้อง”, สว่าง, คมชัด, AI ฉลาด, และมีเลนส์ซูม 2 ระยะที่อเนกประสงค์กว่าครับ ศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra เรื่องกล้อง อยู่ที่ “รสนิยม” ล้วนๆ

3. ซื้อตัวไหนเล่นเกมดีกว่ากัน ระหว่าง Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra?

ใกล้เคียงกันมากครับ! เพราะใช้ชิป Snapdragon 8 Elite เหมือนกัน แต่ Xiaomi 15 Ultra “อาจจะ” ได้เปรียบเล็กน้อย 2 จุดคือ 1) ระบบระบายความร้อนที่มักจะใหญ่กว่า และ 2) ชาร์จ 90W ทำให้กลับไปเล่นเกมต่อได้ไวกว่ามากครับ

4. ราคา Xiaomi 15 Ultra กับ Samsung S25 Ultra ใครจะแพงกว่า?

คาดว่าราคาเปิดตัว “ใกล้เคียงกันมาก” ครับ อาจจะอยู่ในช่วง 45,xxx – 5x,xxx บาท ขึ้นอยู่กับความจุครับ Samsung S25 Ultra อาจจะราคาสูงกว่าเล็กน้อยเนื่องจากต้นทุน S Pen และวัสดุไทเทเนียมครับ

5. ถ้าไม่นับเรื่องสเปก แบรนด์ Xiaomi ดีไหม?

เป็นคำถามที่ดีครับ หากสงสัยว่า โทรศัพท์ Xiaomi ดีไหม ในภาพรวม… ปัจจุบัน Xiaomi พัฒนาขึ้นมามากครับ ทั้งวัสดุ, ซอฟต์แวร์ HyperOS, และการอัปเดตที่ยาวนาน ถือเป็นแบรนด์ Top Tier ที่สู้กับ Samsung ได้สมศักดิ์ศรีครับ

บทสรุป: ศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra… ใครคือผู้ชนะสำหรับคุณ?

เดินทางมาถึงบทสรุปแล้วครับเพื่อนๆ บอกเลยว่าศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ปีนี้ “มันส์” มาก! มันคือการต่อสู้ที่ “ชัดเจน” ที่สุดในรอบหลายปี ไม่มีใครกั๊ก และต่างฝ่ายต่างชู “ไม้ตาย” ของตัวเองออกมาสู้กันแบบสุดตัวครับ

การเปรียบเทียบ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ครั้งนี้ ไม่มี “ผู้ชนะ” ที่เด็ดขาดครับ แต่มี “ผู้ที่เหมาะสม” กับคุณมากกว่า

คุณควรเลือก Xiaomi 15 Ultra…
ถ้าคุณคือคนที่ “คลั่งไคล้” ฮาร์ดแวร์ล่าสุด, ต้องการ “กล้อง” ที่ดีที่สุดในแง่ของเซนเซอร์ (1 นิ้ว) และโทนสี (Leica), และที่สำคัญ… คุณ “เกลียด” การรอชาร์จแบต! (90W คือคำตอบ) Xiaomi 15 Ultra คือ “อสูร” ที่ตอบโจทย์สาย Power User ที่ไม่ต้องการ S Pen ครับ นี่คือหนึ่งใน 5 เหตุผลที่คนเลือก Xiaomi เลยครับ คือความคุ้มค่าด้านฮาร์ดแวร์

คุณควรเลือก Samsung Galaxy S25 Ultra…
ถ้าคุณคือคนที่ “ทำงาน” บนมือถือ, “S Pen” คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ (จดโน้ต, วาดรูป, เซ็นเอกสาร), คุณต้องการ “AI” ที่ฉลาดและใช้งานได้จริง, ต้องการ Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบ, และต้องการมือถือที่ “ครบเครื่อง” ในทุกด้าน (แม้จะต้องแลกกับความเร็วชาร์จ 45W) S25 Ultra คือ “คู่หู” ที่สมบูรณ์แบบที่สุดครับ

สุดท้ายนี้ การต่อสู้ของ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra มันคือการเลือก
ระหว่าง “พลังฮาร์ดแวร์สุดขั้ว” (Xiaomi) กับ “ความอเนกประสงค์ที่สมบูรณ์แบบ” (Samsung) ครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ! ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ ลองอ่าน บทความเปรียบเทียบ Xiaomi vs Samsung ในภาพรวม หรือ คู่มือเลือก Xiaomi ของเราเพิ่มเติมได้ครับ

แล้วคุณล่ะครับ… เลือกข้างไหนในศึก Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ครั้งนี้? คอมเมนต์บอกกันหน่อยครับ!

Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra: ภาพสมาร์ทโฟนที่กำลังถืออยู่ในมือ แสดงหน้าจอแอปพลิเคชัน YouTube พร้อมฟีเจอร์ AI ที่เกี่ยวข้องกับ Gemini เพื่อเน้นการเปรียบเทียบด้านซอฟต์แวร์และ AI

เช็กราคา Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra ล่าสุด

(ราคาคาดการณ์เปิดตัว โปรดตรวจสอบราคาจริงอีกครั้งเมื่อสินค้าวางจำหน่าย)

Xiaomi 15 Ultra

ประมาณ ฿39,990 – ฿49,990

Samsung Galaxy S25 Ultra

ประมาณ ฿38,800 – ฿39,600

หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • รายละเอียดเรื่องสเปก, ฟีเจอร์, หรือการรับประกัน ควรตรวจสอบเพิ่มเติมจาก Xiaomi ประเทศไทย และ Samsung ประเทศไทย หรือเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแต่ละแบรนด์อีกครั้งเมื่อสินค้าเปิดตัวครับ
  • บทความนี้เขียนขึ้นอย่างเป็นกลาง ไม่ได้รับการสนับสนุนหรือชี้นำครับจากแบรนด์ใด ๆ จุดประสงค์คือเพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากที่สุดจากการเปรียบเทียบ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra หากกดลิงก์เพื่อตรวจสอบราคา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเพียงเล็กน้อยเพื่อสนับสนุนการทำงานและพัฒนาเว็บไซต์ของเรา แต่รับรองได้ว่าจะไม่กระทบต่อการจัดอันดับหรือคำแนะนำสินค้าแน่นอนครับ ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • บทความนี้จัดทำโดยใช้ AI ช่วยในการรวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลจากหลายแหล่งที่น่าเชื่อถือ (อ้างอิงจากข่าวหลุดและสเปกคาดการณ์) อย่างไรก็ตาม หากมีข้อคลาดเคลื่อน แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้ผลิตโดยตรง ทั้งนี้ข้อมูลในบทความอ้างอิงจากสเปกและข่าวสารช่วงล่าสุด ซึ่งคุณสมบัติหรือราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตครับ
  • บางภาพในบทความนี้นำมาจากเว็บไซต์ทางการของแบรนด์ และเว็บไซต์ผู้จัดจำหน่าย เพื่อใช้ประกอบการรีวิวและช่วยให้ผู้อ่านเห็นภาพสินค้าชัดเจนยิ่งขึ้นเท่านั้น
  • คะแนน (เช่น 9.2/10 หรือ 9.3/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน ToplistPlus อ้างอิงจากสเปกคาดการณ์, ฟีเจอร์, ราคาโดยประมาณ, และแนวโน้มรีวิวจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยในการเปรียบเทียบ Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra เท่านั้น
  • รวบรวมรีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “เอก อายุ 32…”) เป็นตัวอย่างสมมติที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลและแนวโน้มความคิดเห็นจากผู้ใช้จริงในรุ่นก่อนๆ มาเรียบเรียงใหม่เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพเท่านั้น ไม่ใช่รีวิวจากบุคคลจริงครับ
เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ขอบพระคุณครับ