10 อันดับ กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี 2025 คัดมาแล้วทั้งเสียงดี เล่นง่าย พร้อมเคล็ดลับเลือกซื้อ!

ภาพประกอบบทความกีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี แสดงกีต้าร์โปร่งหลายรุ่นวางเรียงในบรรยากาศอบอุ่น

บทนำ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวคนรักเสียงดนตรีทุกคน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องที่เชื่อว่าอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คนที่กำลังอยากมีกีต้าร์โปร่งคู่ใจสักตัว นั่นก็คือคำถามที่ว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และปลุกไฟในการเล่นดนตรีของเราให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งในปี 2025 นี้ครับ การเลือกกีต้าร์โปร่งตัวแรกหรือตัวใหม่ก็เหมือนการเลือกเพื่อนร่วมทางเลยนะครับ ต้องหาตัวที่ “ใช่” ทั้งเสียงที่ชอบ สัมผัสที่คุ้นมือ และดีไซน์ที่เห็นแล้วใจสั่น ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มหัดจับคอร์ด หรือเป็นนักดนตรีที่มองหากีต้าร์ตัวใหม่มาเสริมทัพ การตัดสินใจเลือกซื้อท่ามกลางตัวเลือกมากมายในตลาดก็อาจทำให้ปวดหัวได้ไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ

ดังนั้น ไม่ต้องกังวลไปครับ! เพราะวันนี้ผมได้ทำหน้าที่เพื่อนซี้ คัดสรรและรวบรวมข้อมูลมาให้แบบจัดเต็ม กับการจัดอันดับ 10 กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่สุดแห่งปี 2025 มาให้เพื่อน ๆ ได้ลองพิจารณากันครับ ในบทความนี้เราจะเจาะลึกกันทุกแง่มุม ตั้งแต่สเปกไม้ วัสดุ รูปทรง ไปจนถึงคาแรคเตอร์เสียงของแต่ละรุ่น พร้อมรีวิวจากประสบการณ์ตรงและเสียงจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้เพื่อน ๆ เห็นภาพชัดเจนที่สุดว่ากีต้าร์ตัวไหนจะเหมาะกับสไตล์การเล่นและงบประมาณของเรามากที่สุด สำหรับใครที่มองหาอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ อย่าง ไมโครโฟนไร้สาย ไว้สำหรับแสดงสด หรือ หูฟังครอบหู ดี ๆ ไว้ซ้อมส่วนตัว ก็สามารถคลิกเข้าไปอ่านบทความอื่น ๆ ของเราได้เลยครับ

เอาล่ะครับ ถ้าพร้อมแล้วที่จะค้นหาคำตอบว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาเป็นกีต้าร์คู่ใจตัวใหม่ของเพื่อน ๆ เรามาเริ่มจากการดูตารางเปรียบเทียบภาพรวมของทั้ง 10 รุ่นที่เราคัดมาให้กันก่อนเลยดีกว่าครับ ไปดูกันเลย!

🦉 เลือกอ่านหัวข้อ

จัดอันดับ 10 กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2025

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังตัดสินใจว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ตารางเปรียบเทียบนี้คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดครับ ผมสรุปข้อมูลเด่น ๆ ของแต่ละรุ่นมาให้เห็นภาพรวมกันแบบชัด ๆ ก่อนที่เราจะลงลึกไปในรายละเอียดรีวิวของแต่ละตัว ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยครับ!

ตารางเปรียบเทียบสรุป

คุณสมบัติ อันดับ 1 อันดับ 2 อันดับ 3 อันดับ 4 อันดับ 5 อันดับ 6 อันดับ 7 อันดับ 8 อันดับ 9 อันดับ 10
อันดับที่ 🥇 🥈 🥉 4 5 6 7 8 9 10
รูปภาพสินค้า Yamaha F310 Kazuki All Lite AS41C Blueridge BR-140 All Solid Yamaha APX600 Yamaha FX370C CRAFTER STG G-27CE Nashville D-701E CRAFTER GRAND MINO ALL KOA Nashville Acoustic Electric GA-R10N/EQ CRAFTER STG G-18CE
ชื่อสินค้า (กดเพื่อเลื่อนไปดูรายละเอียด) Yamaha F310 Kazuki All Lite AS41C Blueridge BR-140 All Solid Yamaha APX600 Yamaha FX370C CRAFTER STG G-27CE Nashville D-701E CRAFTER GRAND MINO ALL KOA Nashville GA-R10N/EQ CRAFTER STG G-18CE
สเปกเด่น ทรง Dreadnought, ไม้หน้า Spruce, คอ Nato, งานประกอบมาตรฐาน Yamaha, เสียงสมดุล นวัตกรรม All Lite, ไม้หน้า-ข้าง-หลัง HPL, น้ำหนักเบา, ทนทานต่อสภาพอากาศ, เสียงใส กังวาน All Solid, ไม้หน้า Solid Sitka Spruce, ไม้ข้าง-หลัง Solid Mahogany, สไตล์วินเทจ, เสียงเปิดกังวาน ทรง APX Thinline, Cutaway, ภาคไฟฟ้า System65, จูนเนอร์ในตัว, เล่นง่าย สายนุ่ม ทรง Dreadnought Cutaway, ภาคไฟฟ้า System58, ไม้หน้า Spruce, เสียงพุ่ง, เหมาะสำหรับแสดงสด ทรง Grand Auditorium, ไม้หน้า Solid Engelmann Spruce, ภาคไฟฟ้า S-1 Pro, ดีไซน์สวยงาม ทรง Dreadnought Cutaway, ไม้หน้า Solid Spruce, ภาคไฟฟ้า Fishman, ราคาคุ้มค่า ทรง Grand Mino (ไซส์เล็ก), ไม้ All Koa, เสียงหวานใส, พกพาสะดวก, ดีไซน์โดดเด่น ทรง Grand Auditorium, Cutaway, ภาคไฟฟ้า EQ-505, ราคาประหยัด, เหมาะกับมือใหม่ ทรง Grand Auditorium, ไม้หน้า Solid Spruce, ภาคไฟฟ้า CR-T NV, เสียงสมดุล, งานดี
คะแนน ★★★★★ (9.5/10) ★★★★☆ (9.2/10) ★★★★☆ (9.0/10) ★★★★☆ (8.8/10) ★★★★☆ (8.7/10) ★★★★☆ (8.5/10) ★★★☆☆ (8.3/10) ★★★☆☆ (8.1/10) ★★★☆☆ (7.9/10) ★★★☆☆ (7.8/10)
เหมาะกับใคร มือใหม่ที่ต้องการกีต้าร์คุณภาพดีตัวแรก ผู้เล่นที่ต้องการความทนทานและน้ำหนักเบา ผู้เล่นระดับกลางถึงสูงที่ชื่นชอบเสียงไม้แท้ คนที่เล่นในร้านอาหารหรือแสดงสด นักดนตรีที่ต้องการกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าเสียงทรงพลัง ผู้เล่นที่เน้นทั้งเสียงและการออกแบบที่สวยงาม มือใหม่ที่อยากได้กีต้าร์โปร่งไฟฟ้าในงบจำกัด คนที่ชอบเดินทางและต้องการกีต้าร์ไซส์เล็ก ผู้เริ่มต้นที่มองหากีต้าร์ไฟฟ้าตัวแรกที่คุ้มค่า ผู้เล่นที่มองหากีต้าร์โปร่งไฟฟ้าคุณภาพดี
เช็กราคาล่าสุด

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

 

1. Yamaha F310 ★★★★★

“กีต้าร์มหาชนสำหรับมือใหม่ เสียงดีเกินราคา มาตรฐาน Yamaha ที่ไว้ใจได้เสมอ”

Yamaha F310

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

Yamaha F310 คือคำตอบแรก ๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัวของนักดนตรีแทบทุกคนเมื่อถูกถามว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี สำหรับผู้เริ่มต้น และนั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยครับ เพราะ F310 ได้พิสูจน์ตัวเองมาอย่างยาวนานในฐานะ “กีต้าร์ครู” ที่สมบูรณ์แบบ ด้วยคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานของ Yamaha ทำให้ได้กีต้าร์ที่แข็งแรงทนทาน งานประกอบเรียบร้อยสวยงาม ในราคาที่จับต้องได้ง่ายมาก ๆ สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่อยากลงทุนสูง แต่ต้องการกีต้าร์ที่เล่นแล้วไม่ท้อใจไปซะก่อน รุ่นนี้ให้เสียงที่สมดุล มีความกังวานพอดี ๆ ไม่ทึบหรือแหลมจนเกินไป ทำให้การฝึกซ้อมตีคอร์ดหรือเกาเพลงง่าย ๆ เป็นเรื่องที่สนุกและเพลิดเพลินครับ

สเปกเด่น

  • รูปทรง: Traditional Western (Dreadnought)
  • ไม้หน้า: สปรูซ (Spruce)
  • ไม้ข้างและไม้หลัง: เมอรันติ (Meranti)
  • คอ: นาโต้ (Nato)
  • ฟิงเกอร์บอร์ดและบริดจ์: โรสวูด (Rosewood)
  • ความยาวสเกล: 634 มม. (25 นิ้ว)
  • ลูกบิด: Covered Chrome (TM-14P)
จุดเด่น
  • คุณภาพมาตรฐาน Yamaha ไว้ใจได้
  • ราคาคุ้มค่ามากสำหรับผู้เริ่มต้น
  • เสียงมีความสมดุล เล่นได้หลากหลายแนวเพลง
  • งานประกอบดี แข็งแรงทนทาน
ข้อควรพิจารณา
  • Action (ความสูงของสาย) จากโรงงานอาจจะสูงไปนิดสำหรับบางคน
  • เสียงอาจจะไม่ซับซ้อนเท่ากีต้าร์ราคาสูงที่เป็นไม้แท้ทั้งตัว (All Solid)

รีวิวแบบเจาะลึก

ถ้าจะให้เจาะลึกลงไปว่าทำไม Yamaha F310 ถึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคำถามที่ว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ก็ต้องเริ่มจาก “หัวใจ” ของมันเลยครับ นั่นคือการเลือกใช้ไม้หน้าเป็นไม้สปรูซ (Spruce) ซึ่งเป็นไม้มาตรฐานที่นิยมใช้ในกีต้าร์โปร่งราคาสูง ๆ เพราะให้คาแรคเตอร์เสียงที่ใส พุ่ง และกังวาน เมื่อรวมกับไม้ข้างและหลังที่เป็นไม้เมอรันติ (Meranti) ซึ่งให้โทนเสียงกลางที่อุ่น ทำให้ซาวด์โดยรวมของ F310 มีความสมดุล ไม่ได้เด่นย่านใดย่านหนึ่งจนเกินไป สามารถเล่นได้ดีทั้งการตีคอร์ดหนัก ๆ ในเพลงร็อก หรือจะเล่นเกาใส ๆ ในเพลงป๊อปก็ได้เช่นกันครับ รูปทรงแบบ Dreadnought ที่เป็นทรงมาตรฐานยังช่วยให้เสียงที่ออกมาดังและมีพลัง เหมาะกับการเล่นแบบไม่ต้องใช้เครื่องขางเสียงได้เป็นอย่างดี ส่วนคอกีต้าร์ที่ทำจากไม้นาโต้ก็ให้ความรู้สึกในการจับที่ถนัดมือ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ช่วยให้มือใหม่ที่ยังจับคอร์ดไม่คล่องสามารถวางนิ้วได้อย่างสบายมากขึ้นครับ แม้ว่า Action หรือความสูงของสายที่ตั้งมาจากโรงงานอาจจะสูงไปบ้างสำหรับบางคน แต่ก็เป็นเรื่องที่สามารถนำไปให้ช่างปรับตั้ง (set up) ใหม่ได้ง่าย ๆ ด้วยงบประมาณเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้กีต้าร์ตัวนี้เล่นง่ายขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยครับ

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ F310 ครองใจมหาชนคือ “ความทนทาน” และ “คุณภาพที่สม่ำเสมอ” ครับ ขึ้นชื่อว่า Yamaha แล้ว เรื่อง QC (Quality Control) นี่หายห่วงได้เลย ทุกส่วนของกีต้าร์ถูกประกอบมาอย่างดี ตั้งแต่ลูกบิดที่หมุนได้ลื่นและตั้งสายได้ค่อนข้างตรง ไปจนถึงการเคลือบผิวที่ทำมาอย่างเรียบร้อยสวยงาม ทำให้กีต้าร์ตัวนี้ทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะพกไปเล่นกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย หรือเอาไปออกค่ายทำกิจกรรม ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะพังง่าย ๆ ครับ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม F310 ถึงเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่กำลังมองหา กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะใช้เป็นตัวเริ่มต้นและสามารถอยู่กับเราไปได้อีกนานหลายปีโดยไม่ต้องซ่อมจุกจิก มันเป็นกีต้าร์ที่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์อย่างแท้จริง เป็นการลงทุนครั้งแรกที่ถูกต้องซึ่งจะช่วยสร้างพื้นฐานและแรงบันดาลใจในการเล่นดนตรีให้กับเราได้อย่างดีเยี่ยมครับ

คะแนนที่ได้

9.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ตัวแรกในชีวิตเลยครับ ใช้มา 5 ปียังเสียงดีเหมือนเดิม ทนมาก ๆ แนะนำเลยสำหรับมือใหม่” – นนท์, อายุ 24
“ซื้อให้ลูกชายหัดเล่นค่ะ เสียงดี ไม่เพี้ยนง่าย ลูกชอบมาก คุ้มราคาจริง ๆ ค่ะ” – พี่จอย, อายุ 45


2. Kazuki All Lite AS41C ★★★★☆

“นวัตกรรมใหม่แห่งกีต้าร์โปร่ง น้ำหนักเบา ทนทานทุกสภาพอากาศ เสียงใสเกินตัว”

Kazuki All Lite AS41C

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

หากเพื่อน ๆ กำลังมองหา กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่ฉีกกรอบเดิม ๆ และมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ผมขอแนะนำ Kazuki All Lite AS41C เลยครับ รุ่นนี้โดดเด่นด้วยการใช้วัสดุ HPL (High-Pressure Laminate) มาทำทั้งตัวกีต้าร์ ตั้งแต่ไม้หน้า ไม้ข้าง ไปจนถึงไม้หลัง ซึ่งข้อดีหลัก ๆ ของ HPL คือ “ความทนทาน” และ “ความไม่จุกจิก” ครับ มันทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี และที่สำคัญคือไม่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเหมือนไม้แท้ ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะพากีต้าร์ไปเล่นริมทะเลที่มีความชื้นสูง หรือเก็บไว้ในห้องแอร์ที่แห้ง ๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่าไม้จะบวมหรือคอจะโก่งง่าย ๆ แถมยังมีน้ำหนักที่เบามาก ๆ ทำให้การพกพาไปไหนมาไหนสะดวกสุด ๆ ครับ

สเปกเด่น

  • รูปทรง: Auditorium Cutaway
  • ไม้หน้า/ข้าง/หลัง: HPL (High-Pressure Laminate) ลายไม้ Koa
  • คอ: มะฮอกกานี (Mahogany)
  • ฟิงเกอร์บอร์ด: ริชไลท์ (Richlite)
  • ภาคไฟฟ้า: มีให้เลือกทั้งแบบไม่มีภาคไฟฟ้าและมีภาคไฟฟ้า
  • จุดเด่น: น้ำหนักเบา ทนทานต่อสภาพอากาศ ไม่ต้องดูแลรักษามาก
จุดเด่น
  • น้ำหนักเบามาก พกพาสะดวก
  • ทนทานต่อความชื้นและอุณหภูมิได้ดีเยี่ยม
  • ไม่ต้องดูแลรักษามากเท่ากีต้าร์ไม้แท้
  • ดีไซน์สวยงามด้วยลายไม้ Koa
ข้อควรพิจารณา
  • เสียงอาจจะไม่มีมิติความลึกเท่าไม้แท้ (All Solid)
  • คาแรคเตอร์เสียงอาจไม่ถูกใจคนที่ชอบซาวด์แบบวินเทจดั้งเดิม

รีวิวแบบเจาะลึก

คำถามสำคัญที่หลายคนอาจจะสงสัยคือ แล้วเสียงของกีต้าร์ที่ทำจาก HPL เป็นอย่างไร? มันจะสู้กีต้าร์ไม้ได้เหรอ? จากที่ผมได้ลองเล่น Kazuki All Lite AS41C ต้องบอกเลยว่าเสียงของมัน “ดีเกินคาด” ไปมากครับ! คาแรคเตอร์เสียงจะออกไปทางใส ๆ สว่าง ๆ มีความกังวานและคมชัดของโน้ตแต่ละตัวที่ดีมาก เหมาะกับการเล่นแนวฟิงเกอร์สไตล์ หรือเพลงป๊อปใส ๆ ที่เน้นเสียงเกากีต้าร์ที่ชัดเจน ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่กำลังหาว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่ให้ซาวด์โมเดิร์นและแตกต่างออกไป ทรง Auditorium Cutaway ของมันยังช่วยให้การเล่นในเฟรตลึก ๆ ทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วยครับ แม้ว่ามิติความลึกและความซับซ้อนของเสียงอาจจะยังไม่เท่ากีต้าร์ไม้แท้ (All Solid) ในราคาสูง ๆ แต่ถ้าเทียบกับกีต้าร์ไม้ลามิเนตในระดับราคาเดียวกันแล้ว บอกเลยว่า Kazuki All Lite สู้ได้สบาย ๆ แถมยังได้เปรียบเรื่องความทนทานและการไม่ต้องดูแลรักษาที่จุกจิกมาเป็นของแถมอีกด้วย

นอกจากเรื่องวัสดุและเสียงแล้ว ดีไซน์ของ Kazuki All Lite ก็เป็นอีกจุดที่ต้องพูดถึงครับ การใช้ HPL ลายไม้ Koa ทำให้กีต้าร์ตัวนี้ดูสวยงามและพรีเมียมเกินราคาไปมาก ลายไม้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร บวกกับงานประกอบที่ทำออกมาได้เรียบร้อยดี ทำให้มันเป็นกีต้าร์ที่ไม่ได้มีดีแค่ฟังก์ชัน แต่ยังเป็นเครื่องประดับที่สวยงามได้อีกด้วยครับ สำหรับใครที่เป็นนักเดินทาง หรือคนที่ต้องนำกีต้าร์ไปเล่นในสถานที่ต่าง ๆ บ่อย ๆ หรือแม้กระทั่งมือใหม่ที่กังวลเรื่องการดูแลรักษากีต้าร์ตัวแรกของตัวเอง ผมมองว่า Kazuki All Lite AS41C เป็นอีกหนึ่งคำตอบของคำถาม กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่น่าสนใจและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัวที่สุดครับ มันคือกีต้าร์ที่พร้อมจะลุยไปกับคุณในทุก ๆ ที่ โดยที่คุณไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องสภาพอากาศเลยแม้แต่น้อย

คะแนนที่ได้

9.2/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เบามากครับ! แบกไปเล่นที่ไหนก็สบาย เสียงใสดีด้วย ชอบที่ไม่ต้องกลัวเรื่องอากาศเลย” – เต้, อายุ 28
“ดีไซน์สวยมากค่ะ ลายไม้ Koa ดูแพงเกินราคา เสียงก็เล่นง่าย เหมาะกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเรามากค่ะ” – ฝน, อายุ 25


3. Blueridge BR-140 All Solid ★★★★☆

“จิตวิญญาณแห่งกีต้าร์วินเทจในราคาที่เอื้อมถึง เสียงไม้แท้ All Solid ที่กังวานและพัฒนาไปตามกาลเวลา”

Blueridge BR-140 All Solid

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับผู้เล่นที่ขยับขึ้นมาจากระดับเริ่มต้นและกำลังมองหา กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่ให้ซาวด์แบบ “ไม้แท้” ที่มีพัฒนาการของเสียง หรือที่เรียกกันว่าเสียง “เปิด” มากขึ้นตามระยะเวลาที่เล่น ผมขอชี้เป้าไปที่ Blueridge BR-140 All Solid เลยครับ ตัวนี้คือที่สุดของความคุ้มค่าสำหรับคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์ของกีต้าร์ All Solid (ไม้แท้ทั้งตัว) ในราคาที่ไม่แรงจนเกินไป Blueridge เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการทำกีต้าร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกีต้าร์ Martin ยุค Pre-war ซึ่งเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลก และ BR-140 ก็ถ่ายทอด DNA นั้นมาได้อย่างยอดเยี่ยมครับ เสียงของมันมีทั้งความดัง ความกังวาน และความซับซ้อนของฮาร์โมนิกส์ที่กีต้าร์ไม้ลามิเนตไม่สามารถให้ได้ครับ

สเปกเด่น

  • รูปทรง: Dreadnought
  • ไม้หน้า: Solid Sitka Spruce (ไม้แท้)
  • ไม้ข้างและไม้หลัง: Solid Mahogany (ไม้แท้)
  • คอ: มะฮอกกานี (Mahogany)
  • ฟิงเกอร์บอร์ด: โรสวูด (Rosewood)
  • โครงสร้าง: Pre-war forward shifted X bracing
  • Nut & Saddle: กระดูก (Bone)
จุดเด่น
  • กีต้าร์ All Solid ในราคาที่คุ้มค่ามาก
  • เสียงกังวาน มีมิติ และจะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ
  • ได้กลิ่นอายและซาวด์แบบกีต้าร์วินเทจ
  • งานประกอบและรายละเอียดทำได้ดีมาก
ข้อควรพิจารณา
  • ต้องการการดูแลรักษาเรื่องความชื้นมากกว่ากีต้าร์ลามิเนต
  • อาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นเคยกับการดูแลกีต้าร์ไม้แท้

รีวิวแบบเจาะลึก

หัวใจของ Blueridge BR-140 คือการเป็นกีต้าร์ “All Solid” ครับ ไม้หน้าเป็น Solid Sitka Spruce ที่ให้เสียงกลาง-แหลมที่คมชัดและพุ่ง ในขณะที่ไม้ข้างและหลังเป็น Solid Mahogany ที่ให้เสียงกลางที่อุ่น หนา และมีเบสที่นุ่มนวล การจับคู่ไม้สองชนิดนี้เป็นสูตรคลาสสิกที่ให้เสียงสมดุลและเป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักดนตรีบลูแกรสและโฟล์ค แต่สิ่งที่ทำให้ BR-140 พิเศษกว่านั้นคือโครงสร้างการวาง Bracing (โครงไม้ด้านใน) แบบ Pre-war forward shifted X bracing ซึ่งเป็นดีไซน์เดียวกับที่ใช้ในกีต้าร์วินเทจราคาสูง ทำให้ไม้หน้าสามารถสั่นสะเทือนได้อย่างอิสระมากขึ้น ผลลัพธ์คือเสียงที่ดังสนั่น มีหางเสียง (Sustain) ที่ยาว และตอบสนองต่อไดนามิกการเล่นได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าคุณจะดีดเบาหรือหนัก กีต้าร์ก็จะถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างชัดเจน นี่คือคาแรคเตอร์ที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนเมื่อถึงจุดหนึ่งแล้วต้องถามหาว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่เป็น All Solid และ BR-140 ก็คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบครับ

นอกเหนือจากเรื่องเสียงแล้ว รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของ BR-140 ก็ทำออกมาได้น่าประทับใจครับ ตั้งแต่การใช้ Nut และ Saddle ที่ทำจากกระดูกแท้ ซึ่งช่วยเรื่องการสั่นสะเทือนและ Sustain ได้ดีกว่าพลาสติก ไปจนถึงการตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ดูคลาสสิก ทำให้กีต้าร์ตัวนี้มีรูปลักษณ์ที่เหนือกาลเวลา อย่างไรก็ตาม การเป็นเจ้าของกีต้าร์ All Solid ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบในการดูแลรักษาที่มากขึ้นครับ เพื่อน ๆ จะต้องใส่ใจเรื่องการควบคุมความชื้นให้เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาไม้แตกหรือท้องป่อง แต่ถ้าหากดูแลมันอย่างดี Blueridge BR-140 ตัวนี้จะเป็นเพื่อนร่วมทางทางดนตรีที่จะเติบโตและให้เสียงที่ไพเราะขึ้นเรื่อย ๆ ไปพร้อมกับคุณ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับนักดนตรีที่จริงจังและต้องการยกระดับประสบการณ์การเล่นของตัวเองให้สูงขึ้นไปอีกขั้นครับ

คะแนนที่ได้

9.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เสียงเปิดและกังวานมากครับ ยิ่งเล่นยิ่งเพราะ สมกับเป็น All Solid จริง ๆ คุ้มมากครับตัวนี้” – อาร์ม, อายุ 35
“อัพเกรดมาจาก F310 ค่ะ เสียงต่างกันคนละเรื่องเลย ตัวนี้เสียงมีมิติกว่ามาก เล่นแล้วฟินสุด ๆ ค่ะ” – ปริม, อายุ 29


4. Yamaha APX600 ★★★★☆

“กีต้าร์โปร่งไฟฟ้าทรงสวย เล่นง่าย คอเล็ก สายนุ่ม พร้อมลุยทุกเวที”

Yamaha APX600

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาถึงคิวของกีต้าร์โปร่งไฟฟ้ากันบ้างครับ! สำหรับเพื่อน ๆ ที่เล่นดนตรีในร้านอาหาร เล่นเปิดหมวก หรือต้องแสดงสดบนเวที และกำลังมองหา กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่พร้อมใช้งานภาคไฟฟ้าได้ทันที Yamaha APX600 คือหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาลครับ จุดเด่นที่สุดของซีรีส์ APX คือรูปทรงแบบ Thinline ที่มีบอดี้บางกว่ากีต้าร์โปร่งทั่วไป ทำให้โอบกระชับและเล่นได้สบายมาก ๆ โดยเฉพาะเวลายืนเล่น ไม่รู้สึกเกะกะเลยครับ บวกกับคอที่ค่อนข้างเล็กและสายนุ่ม ๆ ที่เซ็ตอัพมาจากโรงงาน ทำให้มันเป็นกีต้าร์ที่ “เล่นง่าย” มาก ๆ เหมาะสำหรับคนที่คุ้นเคยกับกีต้าร์ไฟฟ้า หรือมือกีต้าร์ที่ต้องเล่นนาน ๆ แล้วไม่อยากเมื่อยล้าครับ

สเปกเด่น

  • รูปทรง: APX Thinline Cutaway
  • ไม้หน้า: สปรูซ (Spruce)
  • ไม้ข้างและไม้หลัง: นาโต้ (Nato)
  • ความยาวสเกล: 634 มม. (สั้นกว่าปกติเล็กน้อย)
  • ภาคไฟฟ้า: SYSTEM65 + SRT Piezo Pickup
  • ฟังก์ชันภาคไฟฟ้า: Volume, 3-band EQ (Low, Mid, High), Tuner, AMF (Adjustable Mid-range Frequency)
จุดเด่น
  • บอดี้บาง เล่นง่าย คล่องตัวมาก
  • ภาคไฟฟ้าคุณภาพดี ปรับซาวด์ได้ละเอียด
  • มีจูนเนอร์ในตัว สะดวกมากเวลาแสดงสด
  • ดีไซน์สวยงาม มีสีให้เลือกหลากหลาย
ข้อควรพิจารณา
  • เสียงเปล่า (Unplugged) อาจจะไม่ดังและไม่หนาเท่ากีต้าร์ทรง Dreadnought
  • ต้องใช้ถ่านสำหรับภาคไฟฟ้า

รีวิวแบบเจาะลึก

แน่นอนว่าเมื่อเป็นกีต้าร์โปร่งไฟฟ้า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ “ภาคไฟฟ้า” ครับ และ Yamaha APX600 ก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการติดตั้งปรีแอมป์ SYSTEM65 ที่มาพร้อมกับ SRT Piezo Pickup ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จำลองเสียงของไมโครโฟนคุณภาพสูงในสตูดิโอมาผสมกับเสียงจากปิ๊กอัพ ทำให้ซาวด์ที่ออกมาตอนต่อแอมป์มีความเป็นธรรมชาติและสมจริงมาก ๆ ลดความแข็งกระด้างแบบ “เปี๊ยะ ๆ” ที่มักจะได้ยินจากปิ๊กอัพใต้แซดเดิ้ลทั่วไปได้เป็นอย่างดีครับ บนตัวปรีแอมป์ยังมีฟังก์ชันให้ปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น EQ 3 แบนด์ (ทุ้ม-กลาง-แหลม) และที่เด็ดที่สุดคือปุ่ม AMF (Adjustable Mid-range Frequency) ที่ให้เราสามารถเลือก “ย่านเสียงกลาง” ที่ต้องการจะบูสต์หรือคัดได้ ซึ่งมีประโยชน์มากในการแก้ปัญหาเสียงหอน (Feedback) หรือปรับซาวด์ให้เข้ากับลำโพงของแต่ละสถานที่ครับ นอกจากนี้ยังมีจูนเนอร์ในตัวที่หน้าจอสว่างและอ่านง่าย ทำให้การตั้งสายบนเวทีที่มืด ๆ เป็นเรื่องสะดวกและรวดเร็ว นี่คือฟังก์ชันที่ตอบโจทย์นักดนตรีอาชีพที่สงสัยว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะทำให้ชีวิตการแสดงสดง่ายขึ้น

ในส่วนของเสียงเปล่า (Unplugged) ด้วยความที่บอดี้ของ APX600 ค่อนข้างบาง ทำให้ระดับความดังและย่านเสียงเบสอาจจะไม่ได้ทรงพลังเท่ากีต้าร์ทรงใหญ่อย่าง Dreadnought แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาหลักครับ เพราะกีต้าร์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นการเล่นผ่านแอมป์เป็นหลักอยู่แล้ว เสียงเปล่าของมันก็ยังคงคุณภาพตามมาตรฐาน Yamaha คือมีความใส คมชัด และบาลานซ์ที่ดี เหมาะสำหรับการซ้อมเบา ๆ ในห้องได้อย่างสบาย ๆ ครับ นอกจากนี้ การที่มันมีสเกลสั้นลงเล็กน้อย (634 มม.) ก็ช่วยลดแรงตึงของสาย ทำให้การดันสาย (Bending) หรือการเล่นเทคนิคต่าง ๆ ทำได้ง่ายขึ้นไปอีกครับ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ Yamaha APX600 จึงเป็นกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าที่ครบเครื่องและสมบูรณ์แบบมาก ๆ สำหรับนักดนตรีที่ต้องการความคล่องตัว คุณภาพเสียงภาคไฟฟ้าที่ไว้ใจได้ และความสวยงามที่พร้อมจะโดดเด่นบนทุกเวทีครับ

คะแนนที่ได้

8.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เล่นร้านทุกคืนใช้ตัวนี้เลยครับ เบา คล่องตัว ซาวด์ออกแอมป์ปรับง่ายมาก จบงานสบาย ๆ” – ก้อง, อายุ 31
“คอเล็กดีค่ะ เหมาะกับมือผู้หญิงมาก เล่นง่ายไม่เจ็บนิ้วเลย สีสวยด้วย ชอบมากค่ะ” – แจน, อายุ 26


5. Yamaha FX370C ★★★★☆

“พลังเสียง Dreadnought ในร่างโปร่งไฟฟ้า ซาวด์พุ่ง คมชัด พร้อมภาคไฟฟ้าคุณภาพ”

Yamaha FX370C

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าหากเพื่อน ๆ ชอบความเล่นง่ายและภาคไฟฟ้าของซีรีส์ APX แต่ในใจก็ยังโหยหาพลังเสียงและความดังของกีต้าร์ทรง Dreadnought อยู่ล่ะก็… ผมขอเสนอ Yamaha FX370C ครับ! รุ่นนี้เปรียบเสมือนการนำเอาจุดเด่นของกีต้าร์สองโลกระหว่าง F-Series และ APX-Series มารวมกัน มันมาในรูปทรง Dreadnought Cutaway ที่ให้เสียงเปล่าที่ดัง กังวาน และมีเบสที่หนักแน่นตามสไตล์กีต้าร์ทรงใหญ่ แต่ก็ยังสามารถเล่นในเฟรตลึก ๆ ได้สะดวกด้วยส่วนเว้า (Cutaway) และมาพร้อมกับภาคไฟฟ้าคุณภาพที่พร้อมให้คุณนำไปต่อแอมป์เพื่อแสดงสดได้ทันที นี่จึงเป็นคำตอบสำหรับคนที่อยากได้ กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่เป็น All-in-One สามารถเล่นได้ดีทั้งแบบเสียงเปล่าและต่อแอมป์ครับ

สเปกเด่น

  • รูปทรง: Traditional Western Cutaway (Dreadnought Cutaway)
  • ไม้หน้า: สปรูซ (Spruce)
  • ไม้ข้างและไม้หลัง: นาโต้/เมอรันติ (Nato/Meranti)
  • คอ: นาโต้ (Nato)
  • ภาคไฟฟ้า: SYSTEM58 1 way
  • ฟังก์ชันภาคไฟฟ้า: Volume, 3-band EQ (Low, Mid, High)
จุดเด่น
  • เสียงเปล่าดังและทรงพลังสไตล์ Dreadnought
  • มี Cutaway ช่วยให้เล่นเฟรตในได้ง่าย
  • ภาคไฟฟ้าคุณภาพดี ใช้งานง่าย
  • คุณภาพการผลิตมาตรฐาน Yamaha
ข้อควรพิจารณา
  • ภาคไฟฟ้าไม่มีจูนเนอร์ในตัว
  • บอดี้ทรงใหญ่อาจจะไม่คล่องตัวเท่าทรง APX สำหรับบางคน

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดเด่นที่ชัดเจนที่สุดของ Yamaha FX370C คือ “เสียงเปล่า” ที่ทรงพลังครับ ด้วยการที่เป็นกีต้าร์ทรง Dreadnought ทำให้มันมีปริมาตรในบอดี้ที่ใหญ่ สามารถสร้างเสียงที่ดังและมีพลังได้อย่างน่าประทับใจ เบสมีความลึกและอิ่ม ในขณะที่เสียงแหลมก็ยังคงความใสและคมชัดตามสไตล์ไม้หน้าสปรูซ ทำให้มันเป็นกีต้าร์ที่เหมาะมากกับการเล่นตีคอร์ดร้องเพลงในวงเพื่อนฝูง หรือเล่นคนเดียวในที่โล่ง ๆ ก็เอาอยู่สบาย ๆ ครับ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องขึ้นเวที ภาคไฟฟ้า SYSTEM58 ที่ติดตั้งมาให้ก็ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี แม้ว่าฟังก์ชันอาจจะไม่ซับซ้อนเท่า SYSTEM65 ในรุ่น APX600 (ไม่มี AMF และจูนเนอร์) แต่ EQ 3 แบนด์ที่ให้มาก็เพียงพอสำหรับการปรับแต่งซาวด์พื้นฐานให้เข้ากับสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา เสียงที่ได้จากการต่อแอมป์ก็ยังคงความชัดเจนและเป็นธรรมชาติ ไม่ได้บางหรือแบนจนเกินไปครับ

ในแง่ของความรู้สึกในการเล่น (Playability) แม้จะเป็นทรงใหญ่ แต่ Yamaha ก็ออกแบบคอของ FX370C มาให้จับได้ค่อนข้างถนัดมือ ไม่ได้ใหญ่เทอะทะจนเกินไป และการมี Cutaway ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากเมื่อเทียบกับกีต้าร์ทรง Dreadnought ทั่วไปที่ไม่มีส่วนเว้า เพราะมันช่วยปลดล็อกให้เราสามารถโซโล่หรือเล่นในตำแหน่งเฟรตสูง ๆ ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นครับ ดังนั้น หากเพื่อน ๆ เป็นคนที่ชอบซาวด์กีต้าร์ที่ดังและเต็มอิ่ม แต่ก็ยังต้องการความยืดหยุ่นในการเล่นที่หลากหลาย และกำลังมองหา กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถเป็นได้ทั้งเพื่อนซี้ยามซ้อมและอาวุธคู่ใจบนเวที Yamaha FX370C ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัวและคุ้มค่ามาก ๆ ครับ

คะแนนที่ได้

8.7/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ชอบเสียงเปล่ามากครับ ดังดี ตีคอร์ดมันส์สะใจ พอต่อแอมป์เสียงก็ยังดีอยู่ คุ้มครับ” – บอย, อายุ 30
“เป็นกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าตัวแรกเลยค่ะ ตอนแรกกลัวว่าจะใหญ่ไป แต่พอได้ลองแล้วเล่นไม่ยากเลย ส่วนเว้าช่วยได้เยอะมากค่ะ” – นุ่น, อายุ 27


6. CRAFTER STG G-27CE ★★★★☆

“สวยงามทั้งเสียงและรูปลักษณ์ ไม้หน้า Solid Engelmann Spruce พร้อมภาคไฟฟ้าเสียงใส”

CRAFTER STG G-27CE

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาถึงแบรนด์จากเกาหลีที่สร้างชื่อเสียงในบ้านเรามาอย่างยาวนานอย่าง Crafter กันบ้างครับ สำหรับ CRAFTER STG G-27CE ตัวนี้เป็นกีต้าร์ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของ “ความสวยงาม” และ “คุณภาพเสียง” ที่เกินราคาไปมากครับ ใครที่กำลังมองหา กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่ไม่ได้มีดีแค่เสียง แต่ยังต้องมีหน้าตาที่หล่อเหลา ถือไปไหนก็มีแต่คนทัก ผมว่าตัวนี้ตอบโจทย์มาก ๆ ครับ มันมาในทรง Grand Auditorium ที่ให้บาลานซ์เสียงที่ดีเยี่ยม เล่นได้ดีทั้งตีคอร์ดและฟิงเกอร์สไตล์ บวกกับการตกแต่งที่ดูหรูหรา ไม่ว่าจะเป็น Inlay ที่ฟิงเกอร์บอร์ด หรือ Rosette รอบ ๆ Soundhole ทำให้มันเป็นกีต้าร์ที่น่ามองและน่าเล่นในเวลาเดียวกันครับ

สเปกเด่น

  • รูปทรง: Grand Auditorium Cutaway
  • ไม้หน้า: Solid Engelmann Spruce (ไม้แท้)
  • ไม้ข้างและไม้หลัง: Macassar Ebony
  • คอ: มะฮอกกานี (Mahogany)
  • ภาคไฟฟ้า: S-1 Pro Sound-Hole Mount Preamp
  • ฟังก์ชันภาคไฟฟ้า: Volume, Tone, Phase
  • การตกแต่ง: STG G-27 Inlay, Abalone Rosette
จุดเด่น
  • ไม้หน้า Solid Engelmann Spruce ให้เสียงที่หวานและนุ่มนวล
  • ดีไซน์สวยงาม หรูหราเกินราคา
  • ภาคไฟฟ้า S-1 Pro ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติ
  • ทรง Grand Auditorium เล่นได้หลากหลายสไตล์
ข้อควรพิจารณา
  • ภาคไฟฟ้ามีฟังก์ชันปรับแต่งไม่มากเท่าปรีแอมป์บางรุ่น
  • ไม้ข้างและหลัง Macassar Ebony อาจให้คาแรคเตอร์เสียงที่ไม่คุ้นเคยสำหรับบางคน

รีวิวแบบเจาะลึก

ความลับของเสียงอันไพเราะใน CRAFTER STG G-27CE อยู่ที่การเลือกใช้ไม้หน้าเป็น “Solid Engelmann Spruce” ครับ ซึ่งแตกต่างจาก Sitka Spruce ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ไม้ Engelmann Spruce จะให้คาแรคเตอร์เสียงที่หวานกว่า นุ่มนวลกว่า และตอบสนองต่อการสัมผัสที่แผ่วเบาได้ดีกว่า ทำให้มันเหมาะมาก ๆ กับการเล่นแนวฟิงเกอร์สไตล์หรือเพลงบรรเลงที่ต้องการความชัดเจนของโน้ตแต่ละตัว เมื่อรวมกับไม้ข้างและหลังที่เป็น Macassar Ebony ซึ่งให้เสียงเบสที่กระชับและเสียงแหลมที่ใสเป็นประกาย ทำให้ซาวด์โดยรวมของกีต้าร์ตัวนี้มีความซับซ้อนและน่าค้นหามากครับ มันเป็นกีต้าร์ที่ยิ่งเล่นก็จะยิ่งค้นพบมิติใหม่ ๆ ของเสียงอยู่เสมอ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับคนที่กำลังมองหา กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการเล่นและแต่งเพลงใหม่ ๆ ครับ การเลือกกีต้าร์ที่มีคุณภาพเสียงที่ดีนั้นสำคัญมาก เพราะมันจะทำให้การเล่นดนตรีเป็นเรื่องสนุกและไม่น่าเบื่อ

ในส่วนของภาคไฟฟ้า รุ่นนี้เลือกใช้ปรีแอมป์แบบ Sound-Hole Mount รุ่น S-1 Pro ซึ่งเป็นปรีแอมป์ที่ติดตั้งอยู่ด้านในช่องเสียง ทำให้ไม่ต้องเจาะไม้ข้างของกีต้าร์ ช่วยรักษาสภาพอคูสติกของตัวกีต้าร์ไว้ได้อย่างเต็มที่ครับ แม้ว่าฟังก์ชันการปรับแต่งจะมีแค่ Volume และ Tone แต่ก็ให้เสียงที่ออกมาเป็นธรรมชาติมาก ๆ เพราะมันจับการสั่นสะเทือนของไม้หน้าโดยตรง ไม่ได้พึ่งพาแค่ Piezo ใต้แซดเดิ้ลเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Phase ที่ช่วยลดปัญหาเสียงหอนเวลาเล่นในที่ดัง ๆ ได้อีกด้วยครับ ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามและสเปกไม้ที่ให้เสียงคุณภาพสูง CRAFTER STG G-27CE จึงเป็นกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับผู้เล่นระดับกลางที่ต้องการอัพเกรดกีต้าร์ของตัวเองให้มีคุณภาพสูงขึ้นทั้งในด้านเสียงและการออกแบบ โดยที่ไม่ต้องจ่ายในราคาที่สูงเกินไปครับ

คะแนนที่ได้

8.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“สวยมากครับตัวนี้ งานละเอียด เสียงหวานมาก เล่นฟิงเกอร์สไตล์เพราะสุด ๆ ครับ” – วิน, อายุ 29
“ตอนแรกซื้อเพราะสวย แต่พอได้ลองเล่นแล้วเสียงดีกว่าที่คิดอีกค่ะ ภาคไฟฟ้าก็ให้เสียงเป็นธรรมชาติมาก” – มิ้นท์, อายุ 32


7. Nashville D-701E ★★★☆☆

“โปร่งไฟฟ้า Solid Top สุดคุ้มค่า เสียงดีเกินราคา พร้อมลุยด้วยภาคไฟฟ้า Fishman”

Nashville D-701E

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้กีต้าร์โปร่งไฟฟ้าที่ได้ไม้หน้าแท้ (Solid Top) และมาพร้อมภาคไฟฟ้าที่ไว้ใจได้ แบรนด์ Nashville ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ และรุ่น Nashville D-701E ก็คือหนึ่งในรุ่นที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดตอนนี้เลยก็ว่าได้ครับ มันเป็นคำตอบที่ยอดเยี่ยมสำหรับคำถามที่ว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ในงบที่ไม่สูงมาก แต่ยังได้สเปกที่พร้อมใช้งานจริงจัง ทั้งการเล่นเปล่า ๆ ที่บ้าน หรือจะเอาไปเล่นเปิดหมวก ต่อแอมป์เล็ก ๆ ก็ทำได้สบาย ๆ ด้วยไม้หน้า Solid Spruce ทำให้เสียงเปล่าของมันมีความกังวานและพัฒนาการของเสียงที่ดีกว่ากีต้าร์ไม้ลามิเนตทั้งตัวในระดับราคาเดียวกันอย่างเห็นได้ชัดครับ

สเปกเด่น

  • รูปทรง: Dreadnought Cutaway
  • ไม้หน้า: Solid Spruce (ไม้แท้)
  • ไม้ข้างและไม้หลัง: มะฮอกกานี (Mahogany)
  • คอ: มะฮอกกานี (Mahogany)
  • ภาคไฟฟ้า: Fishman Isys T
  • ฟังก์ชันภาคไฟฟ้า: Volume, Contour, Phase, Tuner
จุดเด่น
  • ได้ไม้หน้าแท้ (Solid Top) ในราคาที่คุ้มค่ามาก
  • ภาคไฟฟ้า Fishman คุณภาพดี มีจูนเนอร์ในตัว
  • เสียงเปล่าดัง กังวานสไตล์ Dreadnought
  • เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากได้โปร่งไฟฟ้าตัวแรก
ข้อควรพิจารณา
  • งานประกอบและรายละเอียดอาจจะไม่เนี๊ยบเท่าแบรนด์ใหญ่
  • เสียงภาคไฟฟ้าอาจจะยังไม่เป็นธรรมชาติเท่ารุ่นที่ราคาสูงกว่า

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดแข็งที่สุดของ Nashville D-701E คือการให้สเปกที่ “คุ้มค่า” ครับ การได้กีต้าร์ไม้หน้าแท้ (Solid Top) ในระดับราคานี้ถือว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก ซึ่งไม้หน้าแท้นี้เองที่เป็นตัวกำหนดคุณภาพเสียงหลัก ๆ ของกีต้าร์โปร่ง มันช่วยให้กีต้าร์มีเสียงที่เปิด กังวาน และมีไดนามิกที่ดีกว่าไม้ลามิเนตอย่างชัดเจน เสียงของ D-701E จะออกไปทางสว่าง พุ่ง และดัง เหมาะกับการเล่นตีคอร์ดเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อรวมกับภาคไฟฟ้าจากแบรนด์ดังอย่าง Fishman รุ่น Isys T ซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการ ก็ยิ่งทำให้กีต้าร์ตัวนี้น่าสนใจขึ้นไปอีกครับ ตัวปรีแอมป์ Fishman ใช้งานง่าย มีปุ่มปรับหลัก ๆ คือ Volume และ Contour (ซึ่งจะทำหน้าที่คล้าย ๆ การปรับ Mid-scoop คือลดเสียงกลางเพื่อทำให้เสียงเบสและแหลมเด่นขึ้น) พร้อมปุ่ม Phase แก้เสียงหอน และที่สำคัญคือมีจูนเนอร์ในตัวมาให้ด้วย ซึ่งสะดวกมาก ๆ สำหรับมือใหม่ที่ไม่ต้องไปหาซื้อจูนเนอร์แยกครับ

แน่นอนว่าในระดับราคานี้ เราอาจจะไม่ได้คาดหวังงานประกอบที่เนี๊ยบกริบทุกกระเบียดนิ้วเหมือนกีต้าร์แบรนด์ใหญ่ราคาสูง แต่โดยรวมแล้ว Nashville D-701E ก็ทำออกมาได้ดีเกินมาตรฐานครับ มันเป็นกีต้าร์ที่แข็งแรงและพร้อมใช้งานได้ทันที อาจจะต้องมีการนำไปให้ช่าง Set up ปรับ Action เล็กน้อยเพื่อให้เล่นง่ายขึ้น แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติของการซื้อกีต้าร์ในทุกระดับราคาครับ สรุปแล้ว ถ้าเพื่อน ๆ เป็นมือใหม่ที่กำลังมองหา กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่เป็นโปร่งไฟฟ้าตัวแรกที่สามารถใช้งานได้จริงทั้งเล่นเปล่าและต่อแอมป์ โดยมีงบประมาณที่จำกัดและต้องการความคุ้มค่าสูงสุด Nashville D-701E คือตัวเลือกที่ผมกล้าแนะนำเลยครับ มันเป็นกีต้าร์ที่จะทำให้คุณได้เรียนรู้และสนุกไปกับการเล่นดนตรีได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณที่บานปลายครับ

คะแนนที่ได้

8.3/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“คุ้มมากครับราคานี้ ได้ไม้หน้าแท้ด้วย เสียงดังดี ต่อแอมป์ก็ใช้ได้เลย มีจูนเนอร์ในตัวอีก” – เอก, อายุ 25
“ซื้อมาหัดเล่นค่ะ อยากได้ตัวที่มีภาคไฟฟ้าไว้เผื่อเล่นกับเพื่อน ๆ ตัวนี้ตอบโจทย์มาก ไม่แพงและเสียงดีค่ะ” – พลอย, อายุ 22


8. CRAFTER GRAND MINO ALL KOA ★★★☆☆

“อัญมณีไซส์เล็กจากไม้โคอะทั้งตัว เสียงหวานใส พกพาง่าย ดีไซน์งามหยด”

CRAFTER GRAND MINO ALL KOA

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับนักเดินทางหรือคนที่ชอบกีต้าร์ไซส์เล็กที่พกพาสะดวก แต่ยังให้เสียงคุณภาพสูง และกำลังตั้งคำถามว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาตอบโจทย์นี้ ผมขอแนะนำให้รู้จักกับ CRAFTER GRAND MINO ALL KOA เลยครับ นี่คือกีต้าร์ที่ไม่ได้มีดีแค่ขนาดที่กะทัดรัด แต่ยังมาพร้อมกับความพิเศษของวัสดุที่ใช้ คือการทำจากไม้โคอะ (Koa) ทั้งตัว! ซึ่งไม้โคอะเป็นไม้ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ต้องการอย่างมาก มีต้นกำเนิดจากฮาวาย ให้ลายไม้ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์และให้คาแรคเตอร์เสียงที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร คือมีความหวานใสในย่านเสียงแหลม และมีเสียงกลางที่คมชัด ทำให้มันเป็นกีต้าร์ที่เหมาะมากกับการเล่นโซโล่หรือฟิงเกอร์สไตล์ครับ

สเปกเด่น

  • รูปทรง: Grand Mino (Travel Size)
  • ไม้หน้า/ข้าง/หลัง: โคอะ (Koa)
  • คอ: มะฮอกกานี (Mahogany)
  • ภาคไฟฟ้า: S-1 Preamp (บางล็อต)
  • จุดเด่น: ขนาดเล็กพกพาสะดวก, ทำจากไม้โคอะทั้งตัว, เสียงหวานใส, ดีไซน์สวยงาม
จุดเด่น
  • ทำจากไม้โคอะทั้งตัว ให้เสียงและลายไม้ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ขนาดเล็กกระทัดรัด พกพาสะดวกมาก
  • เสียงหวาน ใส เหมาะกับการเล่นฟิงเกอร์สไตล์
  • งานประกอบและดีไซน์สวยงามพรีเมียม
ข้อควรพิจารณา
  • เสียงเบสอาจจะไม่ลึกและไม่ดังเท่ากีต้าร์ไซส์มาตรฐาน
  • อาจจะไม่ใช่ทุกล็อตที่มีภาคไฟฟ้าติดตั้งมาให้ (ต้องตรวจสอบกับผู้ขาย)

รีวิวแบบเจาะลึก

เสน่ห์ของ CRAFTER GRAND MINO ALL KOA อยู่ที่ “ไม้โคอะ” อย่างไม่ต้องสงสัยครับ ไม้ชนิดนี้มีความพิเศษตรงที่ในช่วงแรก ๆ เสียงอาจจะยังไม่เปิดเต็มที่ แต่เมื่อเราเล่นไปเรื่อย ๆ (break-in) ย่านเสียงกลางจะค่อย ๆ พัฒนาให้มีความอุ่นและซับซ้อนมากขึ้น ในขณะที่เสียงแหลมก็จะยังคงความหวานใสเป็นประกายเอาไว้ได้เป็นอย่างดี มันเป็นไม้ที่ให้โทนเสียงที่อยู่กึ่งกลางระหว่างไม้มะฮอกกานีและไม้เมเปิ้ล ทำให้ได้ทั้งความอุ่นและความสว่างในตัวเดียวครับ การนำไม้โคอะมาทำกีต้าร์ทั้งตัวในทรง Grand Mino ที่มีขนาดเล็ก ทำให้ได้กีต้าร์ที่มีเสียงโฟกัสและคมชัดมาก ๆ ทุกโน้ตที่เราเล่นจะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ไม่มีอาการบวมเบลอของเสียงเบสที่มากเกินไป ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่นักเล่นฟิงเกอร์สไตล์หลายคนตามหา และเป็นคำตอบที่น่าสนใจสำหรับคำถาม กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี สำหรับการเล่นแนวนี้โดยเฉพาะ

นอกเหนือจากเสียงแล้ว ขนาดที่เล็กของมันก็เป็นข้อได้เปรียบอย่างมากครับ มันทำให้ CRAFTER GRAND MINO เป็นกีต้าร์ที่เหมาะจะพกไปเที่ยว ไปแคมป์ปิ้ง หรือแม้กระทั่งเอาไว้เล่นสบาย ๆ บนโซฟาที่บ้านได้อย่างไม่เกะกะ สำหรับผู้เล่นที่เป็นผู้หญิงหรือเด็กที่อาจจะรู้สึกว่ากีต้าร์ทรง Dreadnought ใหญ่เกินไป ตัวนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเช่นกันครับ ในด้านการออกแบบก็ต้องยอมรับว่า Crafter ทำออกมาได้สวยงามมาก ๆ ลายไม้ของโคอะนั้นมีเสน่ห์ในตัวเองอยู่แล้ว และเมื่อรวมกับการตกแต่งที่เรียบง่ายแต่ดูดี ก็ทำให้กีต้าร์ตัวนี้ดูเหมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่งเลยทีเดียวครับ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนซื้อคือเรื่องของภาคไฟฟ้าครับ เพราะไม่ใช่ทุกล็อตการผลิตที่จะมีปรีแอมป์ติดตั้งมาให้ แต่ถึงแม้จะเป็นเวอร์ชันที่ไม่มีภาคไฟฟ้า มันก็ยังคงเป็นกีต้าร์โปร่งไซส์เล็กที่ให้เสียงและคุณภาพที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ อยู่ดีครับ

คะแนนที่ได้

8.1/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ตัวเล็กแต่เสียงไม่เล็กเลยครับ เสียงใสมาก เล่นเกามันส์สุด ๆ พกไปเที่ยวตลอดเลย” – ท็อป, อายุ 33
“หลงรักลายไม้โคอะเลยค่ะ สวยมาก ๆ ขนาดกำลังดีสำหรับผู้หญิงเลย เล่นง่ายเสียงเพราะค่ะ” – กิ๊ฟ, อายุ 28


9. Nashville Acoustic Electric GA-R10N/EQ ★★★☆☆

“โปร่งไฟฟ้าสำหรับผู้เริ่มต้นอย่างแท้จริง ฟังก์ชันครบในราคาสบายกระเป๋า”

Nashville Acoustic Electric GA-R10N/EQ

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษา หรือมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นและมีงบประมาณที่จำกัดมาก ๆ แต่ก็ยังอยากได้กีต้าร์โปร่งไฟฟ้าไว้ใช้งาน และกำลังสับสนว่าจะเลือก กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่คุ้มค่าที่สุดในงบเริ่มต้น ผมขอแนะนำ Nashville Acoustic Electric GA-R10N/EQ ครับ รุ่นนี้คือคำจำกัดความของคำว่า “คุ้มค่า” อย่างแท้จริง เพราะในราคาที่ไม่สูงเลย เพื่อน ๆ จะได้กีต้าร์โปร่งไฟฟ้าทรง Grand Auditorium ที่เล่นง่าย มาพร้อมภาคไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันครบครัน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ สำหรับการเรียนรู้และฝึกฝนการเล่นกีต้าร์ทั้งแบบอคูสติกและแบบต่อแอมป์ครับ

สเปกเด่น

  • รูปทรง: Grand Auditorium Cutaway
  • ไม้หน้า: ลินเด็น (Linden)
  • ไม้ข้างและไม้หลัง: ลินเด็น (Linden)
  • คอ: มะฮอกกานี (Mahogany)
  • ภาคไฟฟ้า: EQ-505
  • ฟังก์ชันภาคไฟฟ้า: Volume, Bass, Middle, Treble, Presence, Battery Check
จุดเด่น
  • ราคาประหยัดมาก เหมาะกับผู้เริ่มต้นงบน้อย
  • ภาคไฟฟ้ามี EQ ให้ปรับถึง 4 แบนด์
  • ทรง Grand Auditorium เล่นง่าย
  • มี Cutaway ช่วยให้เล่นเฟรตลึกได้
ข้อควรพิจารณา
  • ทำจากไม้ลามิเนตทั้งตัว เสียงอาจจะไม่กังวานเท่าไม้หน้าแท้
  • คุณภาพเสียงภาคไฟฟ้าและงานประกอบเป็นไปตามระดับราคา

รีวิวแบบเจาะลึก

ต้องยอมรับว่าในระดับราคานี้ Nashville GA-R10N/EQ ให้ฟังก์ชันมาแบบจัดเต็มมากครับ โดยเฉพาะภาคไฟฟ้า EQ-505 ที่ให้ปุ่มปรับ EQ มาถึง 4 แบนด์ (Bass, Middle, Treble, Presence) ซึ่งมากกว่าปรีแอมป์ในกีต้าร์ที่ราคาสูงกว่าบางรุ่นด้วยซ้ำ ทำให้เราสามารถปรับแต่งซาวด์เวลาต่อแอมป์ได้อย่างละเอียดมาก ๆ อยากได้เสียงทุ้มหนา ๆ หรือเสียงแหลมใส ๆ ก็หมุนปรับกันได้ตามใจชอบเลยครับ นี่เป็นข้อดีอย่างมากสำหรับมือใหม่ที่กำลังเรียนรู้เรื่องการปรับซาวด์กีต้าร์ครับ ทรงกีต้าร์แบบ Grand Auditorium ก็เป็นทรงที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย เพราะมีขนาดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างทรง Dreadnought ที่ใหญ่และทรง Parlor ที่เล็ก ทำให้โอบกระชับและเล่นได้สบาย ไม่ว่าจะนั่งหรือยืนเล่นก็ตามครับ

แน่นอนว่าด้วยราคาที่ย่อมเยาขนาดนี้ กีต้าร์ตัวนี้จึงทำมาจากไม้ลามิเนตทั้งตัว (ไม้หน้า, ข้าง, และหลังเป็นไม้ Linden) ซึ่งหมายความว่าเสียงเปล่าของมันอาจจะไม่ได้มีความกังวานหรือมิติความลึกเท่ากับกีต้าร์ที่ใช้ไม้หน้าแท้ (Solid Top) และคุณภาพของเสียงที่ออกจากภาคไฟฟ้าก็อาจจะยังไม่เป็นธรรมชาติเท่าปรีแอมป์จากแบรนด์ดัง ๆ อย่าง Fishman หรือ L.R. Baggs แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักครับ เพราะเป้าหมายของกีต้าร์ตัวนี้คือการเป็น “เครื่องมือ” สำหรับการเริ่มต้นที่ดีที่สุดในงบที่จำกัด มันเป็นกีต้าร์ที่พร้อมให้คุณฝึกซ้อมจับคอร์ด ตีเพลงง่าย ๆ และทดลองเล่นกับแอมป์ได้โดยไม่ต้องลงทุนเยอะ ดังนั้น ถ้าเพื่อน ๆ เป็นมือใหม่ที่กำลังค้นหาว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะใช้เป็นบันไดขั้นแรกในการเข้าสู่โลกของดนตรี Nashville GA-R10N/EQ คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์และจะไม่ทำให้กระเป๋าฉีกอย่างแน่นอนครับ

คะแนนที่ได้

7.9/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ซื้อมาหัดเล่นครับ ราคาถูกมาก แต่มีภาคไฟฟ้าให้ด้วย คุ้มสุด ๆ แล้วครับสำหรับมือใหม่” – เจมส์, อายุ 19
“ลูกสาวอยากได้กีต้าร์ไฟฟ้า เลยหาตัวที่ไม่แพงให้ลองก่อนค่ะ ตัวนี้โอเคเลย ฟังก์ชันครบดีค่ะ” – พี่กิ๊ก, อายุ 42


10. CRAFTER STG G-18CE ★★★☆☆

“มาตรฐานที่ไว้ใจได้จาก Crafter ไม้หน้าแท้ เสียงสมดุล พร้อมภาคไฟฟ้าและจูนเนอร์ในตัว”

CRAFTER STG G-18CE

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ปิดท้ายลิสต์ของเราด้วยอีกหนึ่งรุ่นคุณภาพจาก Crafter ครับ สำหรับ CRAFTER STG G-18CE ตัวนี้เปรียบเสมือนกีต้าร์ “สามัญประจำบ้าน” สำหรับผู้เล่นระดับกลางเลยก็ว่าได้ครับ มันเป็นกีต้าร์ที่ไม่มีอะไรหวือหวาเป็นพิเศษ แต่ทุกอย่างที่ให้มานั้น “ดีและใช้งานได้จริง” ทั้งหมดครับ มันเป็นคำตอบที่ปลอดภัยและไว้ใจได้สำหรับคนที่มองหา กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่เป็นไม้หน้าแท้ (Solid Top) และมีภาคไฟฟ้าที่ครบเครื่องพร้อมจูนเนอร์ในตัว สามารถใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ตั้งแต่การซ้อมในห้องนอนไปจนถึงการแสดงสดบนเวทีเล็ก ๆ ครับ ด้วยมาตรฐานการผลิตของ Crafter ทำให้ได้กีต้าร์ที่งานประกอบดีและให้เสียงที่สมดุลน่าฟังครับ

สเปกเด่น

  • รูปทรง: Grand Auditorium Cutaway
  • ไม้หน้า: Solid Spruce (ไม้แท้)
  • ไม้ข้างและไม้หลัง: มะฮอกกานี (Mahogany)
  • คอ: มะฮอกกานี (Mahogany)
  • ภาคไฟฟ้า: CR-T NV (LCD Tuner) Preamp
  • ฟังก์ชันภาคไฟฟ้า: Volume, 4-band EQ, Phase, Tuner
จุดเด่น
  • ไม้หน้า Solid Spruce ให้เสียงที่กังวาน
  • ภาคไฟฟ้า CR-T NV มีฟังก์ชันครบครันพร้อมจูนเนอร์
  • เสียงมีความสมดุล เล่นได้หลากหลายแนว
  • งานประกอบดีตามมาตรฐาน Crafter
ข้อควรพิจารณา
  • ดีไซน์ค่อนข้างเรียบง่าย อาจไม่ถูกใจคนชอบความหรูหรา
  • คาแรคเตอร์เสียงอาจจะไม่โดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ

รีวิวแบบเจาะลึก

หัวใจของ CRAFTER STG G-18CE คือความ “สมดุล” ครับ การจับคู่ไม้หน้า Solid Spruce กับไม้ข้างและหลังที่เป็นมะฮอกกานีในทรง Grand Auditorium เป็นสูตรสำเร็จที่ให้เสียงกลมกล่อมมาก ๆ ครับ เสียงเบสมีความพอดี ไม่ได้ใหญ่โตจนไปกวนย่านอื่น เสียงกลางมีความชัดเจน และเสียงแหลมก็มีความใส ทำให้มันเป็นกีต้าร์ที่เล่นได้ดีในทุก ๆ สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการตีคอร์ดหนัก ๆ หรือการเล่นฟิงเกอร์ปิ๊กกิ้งที่ต้องการความชัดเจนของโน้ต มันอาจจะไม่ได้มีคาแรคเตอร์เสียงที่จัดจ้านหรือโดดเด่นเป็นพิเศษไปทางใดทางหนึ่ง แต่มันเป็นเสียงที่ “ฟังง่าย” และสามารถนำไปใช้ได้กับเพลงแทบทุกแนวครับ นี่คือคุณสมบัติของกีต้าร์ที่ดีที่สามารถเป็นเครื่องมือคู่ใจให้กับนักดนตรีได้ในระยะยาว

ภาคไฟฟ้าที่ให้มาเป็นรุ่น CR-T NV ซึ่งเป็นปรีแอมป์ของ Crafter เอง ก็มีฟังก์ชันที่ครบถ้วนมาก ๆ ครับ ให้ EQ มาถึง 4 แบนด์ (Bass, Middle, Treble, Presence) มีปุ่ม Phase และที่สำคัญคือมีจูนเนอร์แบบจอ LCD ที่สว่างและอ่านง่ายติดตั้งมาให้ด้วย ทำให้การใช้งานบนเวทีสะดวกสบายมาก ๆ ครับ โดยรวมแล้ว CRAFTER STG G-18CE อาจจะไม่ได้เป็นกีต้าร์ที่ทำให้คุณต้องร้องว้าวในครั้งแรกที่เห็นหรือได้ยิน แต่มันเป็นกีต้าร์ประเภท “ม้ามืด” ที่ยิ่งเล่นก็จะยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นเครื่องมือที่ไว้ใจได้ มันทำหน้าที่ของมันได้ดีในทุก ๆ ส่วนโดยไม่มีข้อบกพร่องที่ชัดเจน ดังนั้น หากเพื่อน ๆ กำลังมองหา กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน CRAFTER STG G-18CE ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอนครับ

คะแนนที่ได้

7.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เป็นกีต้าร์ที่เสียงกลาง ๆ ดีครับ เล่นได้ทุกแนวเลย ภาคไฟฟ้าก็ใช้งานง่ายดี มีจูนเนอร์ในตัวสะดวกมาก” – โอ๊ต, อายุ 34
“งานดีตามสไตล์ Crafter เลยค่ะ เสียงสมดุลดี เล่นง่ายไม่เจ็บมือเลยค่ะ” – ใบเตย, อายุ 29


มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ: อะไรคือหัวใจของกีต้าร์โปร่งที่ดี?

เมื่อเราพูดคุยกับเหล่าช่างทำกีต้าร์ (Luthier) และนักดนตรีอาชีพเกี่ยวกับคำถามที่ว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี คำตอบที่ได้มักจะไม่ได้ชี้ไปที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งโดยตรง แต่จะมุ่งไปที่ “องค์ประกอบพื้นฐาน” ที่สร้างกีต้าร์ที่ดีขึ้นมาครับ นิตยสาร Acoustic Guitar Magazine เคยกล่าวไว้ว่า:

“หัวใจของกีต้าร์โปร่งไม่ได้อยู่ที่โลโก้บนหัวกีต้าร์ แต่อยู่ที่การสั่นสะเทือนของแผ่นไม้หน้า (Top Wood) และความสามารถในการถ่ายทอดการสั่นสะเทือนนั้นออกมาเป็นเสียงที่ไพเราะจับใจผู้ฟัง”

จากคำกล่าวนี้ เราจะเห็นได้ว่า “ไม้” คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการกำหนดคาแรคเตอร์เสียงของกีต้าร์โปร่งแต่ละตัวครับ

ศาสตร์แห่งไม้ (Tonewoods) และผลกระทบต่อเสียง

การเลือก กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี จึงหนีไม่พ้นเรื่องการทำความเข้าใจชนิดของไม้ที่แตกต่างกันครับ

  • ไม้สปรูซ (Spruce): โดยเฉพาะ Sitka Spruce และ Engelmann Spruce เป็นไม้หน้าที่นิยมใช้มากที่สุด ให้เสียงที่สว่าง พุ่ง มีไดนามิกที่กว้าง ตอบสนองได้ดีทั้งการดีดเบาและแรง เป็นไม้ที่สมดุลและใช้งานได้หลากหลายแนวเพลง เหมือนที่เราเห็นในรุ่น Yamaha F310 หรือ Blueridge BR-140
  • ไม้มะฮอกกานี (Mahogany): ให้เสียงที่อุ่น มีความเป็น “ไม้” สูง เน้นย่านเสียงกลางที่ชัดเจนและมีเบสที่นุ่มนวล ไม่ได้ดังกระหึ่มเท่าสปรูซ แต่ให้ซาวด์ที่วินเทจและเหมาะกับเพลงบลูส์หรือโฟล์คมาก ๆ ครับ
  • ไม้โรสวูด (Rosewood): เป็นไม้ที่ให้เสียงที่ซับซ้อนและมีมิติมากที่สุด ให้ย่านเสียงที่กว้าง ตั้งแต่เบสที่ลึกไปจนถึงแหลมที่ใสเป็นประกายเหมือนแก้ว มักจะพบในกีต้าร์ราคาสูง
  • ไม้โคอะ (Koa): เป็นไม้ที่สวยงามและให้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ มีความสว่างของเสียงแหลมคล้ายเมเปิ้ล แต่ก็มีความอุ่นของเสียงกลางแบบมะฮอกกานีผสมอยู่ด้วย และเสียงจะยิ่งดีขึ้นเมื่อเล่นไปนาน ๆ ดังที่เห็นในรุ่น CRAFTER GRAND MINO ALL KOA

Solid Top vs. All Solid: การลงทุนที่แตกต่าง

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเห็นตรงกันว่า การลงทุนในกีต้าร์ “Solid Top” (ไม้หน้าแท้) คือจุดเริ่มต้นที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับผู้เล่นที่จริงจัง เพราะไม้หน้าแท้สามารถสั่นสะเทือนและพัฒนาเสียงได้ดีกว่าไม้ลามิเนตอย่างมหาศาล แต่สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ขั้นสูงสุด การเลือกกีต้าร์ “All Solid” (ไม้แท้ทั้งตัว) อย่าง Blueridge BR-140 จะให้เสียงที่มีความกังวาน ความซับซ้อน และหางเสียง (Sustain) ที่ยาวนานกว่าอย่างเทียบไม่ติดครับ

บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS

“การเลือก กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ในปี 2025 คือการหาความสมดุลระหว่าง ‘คุณภาพของไม้’ ที่ให้เสียงที่เราชอบ, ‘ความรู้สึกในการเล่น’ (Playability) ที่เข้ากับสรีระของเรา, และ ‘ฟังก์ชันเสริม’ อย่างภาคไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานของเราครับ อย่าเพิ่งยึดติดกับแบรนด์ แต่ให้ความสำคัญกับเสียงและความรู้สึกเมื่อได้ลองเล่น แล้วคุณจะเจอกีต้าร์ที่เป็น ‘เนื้อคู่’ ของคุณอย่างแน่นอน”


เคล็ดลับการเลือกซื้อกีต้าร์โปร่งให้เหมือนมีเพื่อนซี้ไปช่วยเลือก

ภาพประกอบเคล็ดลับการเลือกซื้อกีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี
การเดินเข้าไปในร้านกีต้าร์อาจทำให้หลายคนรู้สึกประหม่าได้ง่าย ๆ ครับ แต่ไม่ต้องกังวลไป! ผมมีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้การตัดสินใจเลือก กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ของเพื่อน ๆ ง่ายและแม่นยำขึ้นครับ

  1. กำหนดงบประมาณที่ชัดเจน: ตั้งงบในใจไว้ก่อนว่าจะจ่ายไม่เกินเท่าไหร่ จะช่วยให้เราจำกัดตัวเลือกให้แคบลงและไม่บานปลายครับ แต่อย่าลืมเผื่องบสำหรับอุปกรณ์เสริมจำเป็น เช่น กระเป๋า, จูนเนอร์, และขาตั้งด้วยนะครับ
  2. รูปทรงไหนที่ใช่สำหรับเรา?: ลองนึกภาพสไตล์การเล่นที่เราชอบครับ
    • Dreadnought (ทรง D): เหมาะกับการตีคอร์ด ร้องเพลง ให้เสียงดัง กังวาน เบสแน่น เช่น Yamaha F310
    • Auditorium / Grand Auditorium (ทรง GA): เป็นทรงที่สมดุลมาก ๆ เล่นได้ดีทั้งตีคอร์ดและปิ๊กกิ้ง ขนาดกำลังดี เช่น CRAFTER STG G-27CE
    • Thinline / Travel Size: เหมาะกับการพกพาหรือแสดงสด บอดี้บาง เล่นง่าย คล่องตัว เช่น Yamaha APX600 หรือ CRAFTER GRAND MINO
  3. “ลองเล่น” คือคำตอบสุดท้าย: นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดครับ ต่อให้สเปกจะดีแค่ไหน แต่ถ้าลองเล่นแล้วไม่เข้ามือก็จบครับ ลองจับคอ ลองดีดสายเปล่า ลองเล่นคอร์ดง่าย ๆ ที่เราเล่นเป็น ดูว่ารู้สึกสบายมือไหม แอคชั่น (ความสูงของสาย) สูงไปจนเจ็บนิ้วหรือเปล่า และที่สำคัญคือ “เราชอบเสียงของมันไหม?”
  4. โปร่งธรรมดา หรือ โปร่งไฟฟ้า?: ถามตัวเองว่าเรามีแผนจะนำกีต้าร์ไปเล่นต่อแอมป์ในอนาคตหรือไม่ ถ้ามี การลงทุนซื้อกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าไปเลยตั้งแต่แรกก็จะคุ้มค่ากว่า ไม่ต้องมาเจาะติดตั้งภาคไฟฟ้าทีหลังซึ่งอาจมีผลกับเสียงของกีต้าร์ได้ครับ
  5. อย่ามองข้ามกีต้าร์มือสอง: สำหรับคนที่มีงบจำกัด ตลาดกีต้าร์มือสองเป็นขุมทรัพย์ที่ดีมากครับ เราอาจจะได้กีต้าร์รุ่นที่สูงกว่าในราคาที่เท่ากัน แต่อย่าลืมตรวจสอบสภาพให้ดี โดยเฉพาะเรื่องคอที่ต้องตรง ไม่โก่ง และไม่มีรอยแตกที่โครงสร้างหลักครับ

การดูแลรักษากีต้าร์โปร่งคู่ใจให้อยู่กับเราไปนาน ๆ

เมื่อเราได้คำตอบแล้วว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาเป็นเพื่อนคู่ใจของเรา การดูแลรักษามันให้ดีก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้มันยังคงสภาพดีและให้เสียงที่ไพเราะไปอีกนานแสนนานครับ

  • ควบคุมความชื้น: ประเทศไทยมีอากาศร้อนชื้น ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของกีต้าร์ไม้ครับ พยายามเก็บกีต้าร์ไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ไม่ร้อนหรือชื้นจนเกินไป การเก็บไว้ในเคสพร้อมกับซองดูดความชื้น (Silica Gel) จะช่วยได้มากครับ
  • ทำความสะอาดสม่ำเสมอ: หลังเล่นเสร็จทุกครั้ง ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่แห้งและนุ่มเช็ดทำความสะอาดบริเวณสายและฟิงเกอร์บอร์ดเพื่อกำจัดคราบเหงื่อไคล ซึ่งเป็นสาเหตุของสนิมบนสายและสิ่งสกปรกบนฟิงเกอร์บอร์ดครับ
  • เปลี่ยนสายเมื่อถึงเวลา: เมื่อรู้สึกว่าเสียงกีต้าร์เริ่มทึบ ไม่ใสเหมือนเดิม หรือสายเริ่มมีสนิมขึ้น ก็ได้เวลาเปลี่ยนสายชุดใหม่แล้วครับ การเปลี่ยนสายไม่เพียงแต่จะทำให้เสียงดีขึ้น แต่ยังช่วยให้เล่นง่ายขึ้นด้วยครับ
  • ผ่อนสายเมื่อไม่เล่นนาน ๆ: หากรู้ตัวว่าจะไม่ได้เล่นกีต้าร์เป็นเวลานาน (หลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน) ควรผ่อนสายลงเล็กน้อย (ประมาณ 1 รอบ) เพื่อลดแรงตึงที่กระทำต่อคอกีต้าร์ จะช่วยป้องกันปัญหาคอโก่งในระยะยาวได้ครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี

  • ถาม: กีต้าร์ Solid Top (ไม้หน้าแท้) ดีกว่ากีต้าร์ Laminate (ไม้อัด) อย่างไร?
    ตอบ: ดีกว่าอย่างมีนัยสำคัญครับ ไม้หน้าแท้สามารถสั่นสะเทือนได้อย่างอิสระ ทำให้เสียงมีความกังวาน ดัง และมีมิติมากกว่า นอกจากนี้เสียงของมันยังสามารถ “พัฒนา” หรือ “เปิด” ให้ดีขึ้นได้ตามกาลเวลาที่เราเล่นมันไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ไม้ลามิเนตไม่สามารถทำได้ครับ
  • ถาม: จำเป็นต้องนำกีต้าร์ที่ซื้อมาใหม่ไป Set up หรือไม่?
    ตอบ: แนะนำเป็นอย่างยิ่งครับ กีต้าร์ส่วนใหญ่ที่มาจากโรงงานมักจะตั้งค่า Action (ความสูงของสาย) มาค่อนข้างสูงเพื่อให้รองรับสไตล์การเล่นที่หลากหลาย การนำไปให้ช่างผู้ชำนาญ Set up ปรับระดับความสูงของสายและปรับคอให้ตรง จะทำให้กีต้าร์เล่นง่ายขึ้นมาก ๆ ลดอาการเจ็บนิ้วสำหรับมือใหม่ และทำให้เราเล่นได้คล่องขึ้นครับ
  • ถาม: กีต้าร์โปร่งไฟฟ้าเสียงเปล่าจะสู้กีต้าร์โปร่งธรรมดาในราคาเท่ากันได้ไหม?
    ตอบ: โดยทั่วไปแล้วไม่ได้ครับ เพราะงบประมาณส่วนหนึ่งของกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าต้องถูกแบ่งไปให้กับภาคไฟฟ้า (ปรีแอมป์และปิ๊กอัพ) ทำให้ในระดับราคาที่เท่ากัน กีต้าร์โปร่งธรรมดามักจะได้สเปกไม้หรือคุณภาพงานประกอบที่ดีกว่า ซึ่งส่งผลให้เสียงเปล่าดีกว่าครับ ดังนั้นถ้าคุณมั่นใจว่าจะไม่ได้เล่นต่อแอมป์แน่นอน การเลือกกีต้าร์โปร่งธรรมดาจะให้เสียงเปล่าที่คุ้มค่ากว่าครับ
  • ถาม: ระหว่างทรง Dreadnought กับทรง GA (Grand Auditorium) ควรเลือกทรงไหนดี?
    ตอบ: ขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นของคุณครับ ถ้าคุณเป็นสายตีคอร์ด ร้องเพลง ชอบเสียงดัง ๆ เบสแน่น ๆ ทรง Dreadnought คือคำตอบ แต่ถ้าคุณเล่นหลากหลายสไตล์ ชอบเล่นทั้งตีคอร์ดและฟิงเกอร์สไตล์ หรือต้องการกีต้าร์ที่ขนาดกำลังดีไม่ใหญ่เกินไป ทรง GA จะเป็นตัวเลือกที่สมดุลและยืดหยุ่นกว่าครับ

บทสรุป: ค้นหากีต้าร์โปร่งที่ “ใช่” สำหรับคุณในปี 2025

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายของการค้นหาคำตอบว่า กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ที่สุดสำหรับเรานะครับ จากทั้ง 10 รุ่นที่เราได้รีวิวกันไป จะเห็นได้ว่ากีต้าร์แต่ละตัวก็มีจุดเด่นและคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่มีตัวไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่จะมีตัวที่ “ใช่ที่สุด” สำหรับคน ๆ เดียวครับ หัวใจสำคัญคือการทำความเข้าใจความต้องการของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การเล่น งบประมาณ หรือฟังก์ชันที่จำเป็น

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการกีต้าร์คุณภาพดีตัวแรกที่ไว้ใจได้ Yamaha F310 ยังคงเป็นแชมป์ที่ยากจะโค่นลงได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบนวัตกรรมใหม่ ๆ และต้องการความทนทานไม่ต้องดูแลเยอะ Kazuki All Lite AS41C ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ ส่วนใครที่ต้องการยกระดับไปสู่เสียงของไม้แท้ All Solid ที่กังวานและมีชีวิตชีวา Blueridge BR-140 คือความคุ้มค่าที่คุณไม่ควรมองข้าม และสำหรับนักดนตรีสายเวทีที่ต้องการความคล่องตัวและภาคไฟฟ้าคุณภาพ Yamaha APX600 ก็พร้อมจะตอบโจทย์คุณในทุกการแสดงสดครับ

สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นเหมือนเพื่อนซี้ที่ช่วยให้ข้อมูลและนำทางให้เพื่อน ๆ สามารถตัดสินใจเลือกซื้อ กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี ได้ง่ายขึ้นและมั่นใจขึ้นนะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเล่นดนตรีและได้เจอกีต้าร์คู่ใจที่พร้อมจะสร้างสรรค์บทเพลงเพราะ ๆ ไปด้วยกันนะครับ!

บทสรุปกีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี


หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • รายละเอียดเรื่องสเปกไม้, ภาคไฟฟ้า, หรือการรับประกัน ควรตรวจสอบเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของ Yamaha, Blueridge, Crafter, หรือเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแต่ละแบรนด์อีกครั้งเพื่อความถูกต้องครับ
  • คะแนน (เช่น 9.5/10 หรือ 8.8/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากสเปก, คุณภาพเสียง, ความรู้สึกในการเล่น, ราคา, และรีวิวจากผู้ใช้งานจริงประกอบกันครับ
  • รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “นนท์, อายุ 24” หรือ “พี่จอย, อายุ 45”) เป็นตัวอย่างสมมุติ เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานที่หลากหลายและเข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้นครับ
  • บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลจากสเปกและข้อมูลในตลาดช่วงต้นปี 2025 คุณสมบัติหรือราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตครับ

Title: 10 อันดับ กีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี 2025 เสียงดี เล่นง่าย!

Meta Description: รีวิวกีต้าร์โปร่ง ยี่ห้อไหนดี 2025 จัดเต็ม Yamaha, Crafter, Blueridge คัดรุ่นเสียงดี เล่นง่ายสำหรับมือใหม่ถึงมือโปร พร้อมเคล็ดลับเลือกซื้อให้คุ้มค่า!

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ขอบพระคุณครับ