บทนำ
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวไบค์เกอร์และคนที่กำลังมองหารถสองล้อคู่ใจ! วันนี้เรามาเจอกันในหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดส่งท้ายปี กับคำถามที่ว่า มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราได้ดีที่สุดในปี 2025 ที่จะถึงนี้ บอกเลยว่าปีนี้แต่ละค่ายจัดหนักจัดเต็ม เปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ ดีไซน์สุดเฉียบ และสมรรถนะที่เร้าใจกว่าเดิมเยอะมากครับ ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเป็นสายซิ่งที่รักความเร็ว, สายทัวริ่งที่ชอบเดินทางไกล, สายคลาสสิกที่หลงใหลในความเก๋า หรือแม้แต่สายใช้งานในเมืองที่เน้นความคล่องตัวและประหยัดน้ำมัน บทความนี้มีคำตอบให้แน่นอน เพราะผมในฐานะเพื่อนที่รักสองล้อเหมือนกัน ได้ไปรวบรวมข้อมูล, สเปก, และรีวิวจากผู้ใช้งานจริง มาจัดอันดับ 10 รุ่นที่น่าจับตามองที่สุด
การตัดสินใจเลือกซื้อ มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี สักคันมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยใช่ไหมครับ มันคือการลงทุนกับพาหนะที่จะพาเราไปทุกที่ เป็นเพื่อนคู่ใจบนท้องถนน และยังบ่งบอกสไตล์ความเป็นตัวเราอีกด้วย ดังนั้น การหาข้อมูลให้แน่นก่อนตัดสินใจจึงสำคัญมาก ๆ ในบทความนี้ เราจะไม่ได้มาแค่บอกว่ารุ่นไหนดี แต่จะเจาะลึกให้เห็นกันไปเลยว่าแต่ละคันมีจุดเด่น-จุดด้อยยังไง เหมาะกับใคร และคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไปหรือเปล่า ถ้าใครกำลังลังเลอยู่ ผมรับรองว่าอ่านจบแล้วจะได้ไอเดียและคำตอบที่ชัดเจนขึ้นแน่นอนครับ
เพื่อให้เพื่อน ๆ เห็นภาพรวมได้ง่ายขึ้น ผมได้ทำตารางเปรียบเทียบสเปกเด่น ๆ และให้คะแนนแต่ละรุ่นไว้ให้ด้วย สามารถใช้เป็นไกด์เบื้องต้นก่อนจะเลื่อนลงไปอ่านรีวิวฉบับเจาะลึกของแต่ละคันได้เลย และสำหรับใครที่ขี่รถแล้วยังขาดอุปกรณ์เสริมเท่ ๆ ลองแวะไปดู 10 สุดยอด หมวกกันน็อค ยี่ห้อไหนดี เพิ่มเติมได้นะครับ รับรองว่ามีแต่รุ่นเด็ด ๆ เอาล่ะครับ ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยว่า 10 อันดับ มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี แห่งปี 2025 จะมีรุ่นไหนมาวินกันบ้าง!
จัดอันดับ 10 มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี แห่งปี 2025
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่า มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่จะใช่สำหรับคุณที่สุด ลองดูตารางเปรียบเทียบภาพรวมด้านล่างนี้ก่อนได้เลยครับ ผมสรุปไฮไลต์เด่น ๆ ของแต่ละรุ่นมาให้แล้ว จากนั้นค่อยตามไปอ่านรีวิวแบบจัดเต็มที่ผมตั้งใจเขียนให้เหมือนเพื่อนเล่าให้ฟังกันครับ
1. Yamaha XMAX 300 TechMax 2024 ★★★★★
“ที่สุดแห่งความสปอร์ตพรีเมียม เทคโนโลยีจัดเต็ม สมรรถนะเร้าใจ ขี่ทางไกลก็หล่อ ขี่ในเมืองก็เท่”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้าจะถามว่า มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่เป็นราชาแห่งคลาส 300cc ในตอนนี้ ชื่อของ Yamaha XMAX 300 TechMax ต้องขึ้นมาเป็นอันดับแรก ๆ อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ นี่คือสกู๊ตเตอร์ที่ผสมผสานความสปอร์ต, ความหรูหรา และเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวที่สุด ด้วยดีไซน์ใหม่ที่ดุดัน โฉบเฉี่ยวทุกมิติ ไฟหน้า-ไฟท้าย Full LED ทรง X-motif ที่เป็นเอกลักษณ์ แค่เห็นก็รู้ทันทีว่านี่คือ XMAX รุ่นใหม่ ยิ่งในเวอร์ชัน TechMax ที่เป็นตัวท็อปสุด ยิ่งเสริมความพรีเมียมขึ้นไปอีกขั้นด้วยเบาะนั่งดีไซน์พิเศษ, ปลอกแฮนด์, และฝาปิดช่องเก็บของที่หุ้มด้วยวัสดุคุณภาพสูง ทำให้มันไม่ใช่แค่รถ แต่เป็นเหมือนแฟชั่นไอเท็มที่บ่งบอกรสนิยมของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดีเลยครับ
สเปกเด่น
- เครื่องยนต์: Blue Core 292 ซีซี 4 จังหวะ สูบเดี่ยว SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- ระบบจ่ายน้ำมัน: แบบหัวฉีด
- ระบบเกียร์: ออโตเมติก (V-Belt)
- หน้าจอแสดงผล: Dual Screen TFT Infotainment 4.2 นิ้ว + Digital LCD 3.2 นิ้ว
- ระบบเชื่อมต่อ: Y-Connect, Garmin StreetCross Navigation
- ระบบความปลอดภัย: Traction Control System (TCS), ABS Dual Channel, Smart Key System
- ช่วงล่าง: โช้คหน้าเทเลสโกปิก, โช้คหลังยูนิตสวิง
- ความจุถังน้ำมัน: 13 ลิตร
รีวิวแบบเจาะลึก
หัวใจสำคัญของ XMAX 300 TechMax คือเครื่องยนต์ Blue Core ขนาด 292 ซีซี ที่ขึ้นชื่อเรื่องอัตราเร่งที่จัดจ้านและตอบสนองทันใจในทุกย่านความเร็ว ไม่ว่าจะเร่งแซงในเมืองหรือลากยาว ๆ ออกทริปทางไกลก็ทำได้อย่างมั่นใจ แถมยังประหยัดน้ำมันได้อย่างน่าทึ่งอีกด้วยครับ ประกอบกับระบบ Traction Control (TCS) ที่ช่วยป้องกันล้อหลังหมุนฟรีบนสภาพถนนที่ลื่น ทำให้การควบคุมรถทำได้ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น นี่คือฟีเจอร์ระดับเดียวกับบิ๊กไบค์ที่ใส่มาให้ในสกู๊ตเตอร์เลยทีเดียว และแน่นอนว่ามีระบบเบรก ABS ทั้งหน้าและหลังเป็นมาตรฐาน ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเบรกทุกสถานการณ์ สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย นี่คือหนึ่งในคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคำถามที่ว่า มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ครับ ส่วนเรื่องการดูแลรักษาก็ไม่จุกจิก สามารถหา น้ำมันเครื่อง มอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อไหนดี มาเปลี่ยนถ่ายได้ตามระยะ ทำให้รถพร้อมใช้งานเสมอ
จุดที่ทำให้ XMAX TechMax โดดเด่นและทิ้งห่างคู่แข่งไปอีกขั้นคือเรื่องของเทคโนโลยีครับ หน้าจอแสดงผลแบบ Dual Screen ที่มีจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้วอยู่ด้านบน สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน Y-Connect เพื่อแสดงข้อมูลการโทร, ข้อความ, ฟังเพลง และที่เด็ดที่สุดคือรองรับระบบนำทาง Garmin StreetCross ที่แสดงแผนที่แบบ Turn-by-Turn บนหน้าจอได้เลย ทำให้การเดินทางไปยังที่ไม่คุ้นเคยสะดวกสบายและปลอดภัย ไม่ต้องละสายตาไปมองมือถือบ่อย ๆ ส่วนจอดิจิทัล LCD ด้านล่างก็แสดงข้อมูลพื้นฐานของรถครบถ้วน ชัดเจน อ่านง่าย นอกจากนี้ยังมีระบบ Smart Key ที่แค่พกกุญแจไว้กับตัวก็สามารถสตาร์ทรถ, ปลดล็อกเบาะ และเปิดฝาถังน้ำมันได้เลย สะดวกสบายสุด ๆ พร้อมช่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ที่ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบได้ถึง 2 ใบ! นี่คือความสมบูรณ์แบบที่ทำให้หลายคนยกให้เป็น มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่ครบเครื่องที่สุดในยุคนี้ครับ
คะแนนที่ได้
9.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“ขี่มันมากครับ! อัตราเร่งดีสุด ๆ ออกทริปสบายเลย หน้าจอ Garmin คือดีงามมาก ไม่ต้องกลัวหลงอีกต่อไป” – เอก, อายุ 35
“ตอนแรกคิดว่ารถจะหนัก แต่พอได้ขี่แล้วควบคุมง่ายกว่าที่คิดค่ะ ที่เก็บของใหญ่สะใจมาก ใส่ของช้อปปิ้งได้สบาย” – พลอย, อายุ 29
2. Honda Forza 350 RoadSync 2025 ★★★★★
“บิ๊กสกู๊ตเตอร์สายทัวริ่ง นั่งสบาย ฟีเจอร์อำนวยความสะดวกครบครัน ขี่ทางไกลไม่มีเมื่อย”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
หาก XMAX คือราชาสายสปอร์ต Honda Forza 350 ก็คือจักรพรรดิแห่งสายทัวริ่งอย่างแท้จริงครับ คันนี้เกิดมาเพื่อการเดินทางไกลโดยเฉพาะ ด้วยดีไซน์ที่เน้นความหรูหรา โอ่อ่า และท่านั่งที่สบายสุด ๆ เบาะนั่งขนาดใหญ่ทั้งของผู้ขี่และคนซ้อน พร้อมตำแหน่งวางเท้าที่ผ่อนคลาย ทำให้การขี่ระยะทางไกล ๆ ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป จุดเด่นที่สุดที่มัดใจสายทัวริ่งคือ “ชิลด์หน้าปรับไฟฟ้า” ที่สามารถปรับระดับความสูงได้ถึง 150 มม. ด้วยสวิตช์ที่แฮนด์ซ้าย ช่วยลดแรงลมปะทะได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะขี่เร็วแค่ไหนก็ยังนิ่งและสบาย นี่คือฟีเจอร์ที่ทำให้ Forza 350 เป็นคำตอบที่ชัดเจนสำหรับคนที่ถามว่า มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี สำหรับการออกทริปเป็นหลัก
สเปกเด่น
- เครื่องยนต์: eSP+ 330 ซีซี 4 จังหวะ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- ระบบจ่ายน้ำมัน: แบบหัวฉีด PGM-FI
- ระบบเกียร์: ออโตเมติก
- หน้าจอแสดงผล: New Premium Meter พร้อมระบบ HSVCs (Honda Smartphone Voice Control system)
- ระบบความปลอดภัย: Honda Selectable Torque Control (HSTC), ABS Dual Channel, Emergency Stop Signal (ESS)
- ฟีเจอร์เด่น: ชิลด์หน้าปรับไฟฟ้า 150 มม., Honda Smart Key, ช่องชาร์จ USB Type-C
- ช่วงล่าง: โช้คหน้าเทเลสโกปิก, โช้คหลังทวินโช้ค
- ความจุถังน้ำมัน: 11.7 ลิตร
รีวิวแบบเจาะลึก
ขุมพลังของ Forza 350 คือเครื่องยนต์ eSP+ ขนาด 330 ซีซี ที่ให้พละกำลังสูงและแรงบิดที่ดีเยี่ยมในรอบต่ำถึงกลาง ทำให้การออกตัวและการเร่งแซงทำได้อย่างนุ่มนวลแต่ทรงพลัง การสั่นของเครื่องยนต์ก็น้อยมาก ๆ ช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่ไปอีกระดับ ในด้านความปลอดภัยก็จัดเต็มไม่แพ้กันด้วยระบบ Honda Selectable Torque Control (HSTC) หรือระบบป้องกันล้อหมุนฟรีที่สามารถเปิด-ปิดได้, เบรก ABS แบบ 2-Channel และที่พิเศษคือมีระบบ Emergency Stop Signal (ESS) ซึ่งเป็นสัญญาณไฟฉุกเฉินที่จะกะพริบอัตโนมัติเมื่อมีการเบรกกะทันหัน เป็นฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับรถยนต์เลยครับ ส่วนเรื่อง ยางมอเตอร์ไซค์ ที่ให้มาก็เกาะถนนได้ดี มั่นใจได้ในทุกโค้ง
เทคโนโลยีที่น่าสนใจของ Forza 350 คือระบบ Honda Smartphone Voice Control system (HSVCs) ที่ให้เราเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับตัวรถ และสามารถสั่งการด้วยเสียงผ่านชุดหูฟังบลูทูธที่หมวกกันน็อคได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการรับสาย-โทรออก, เปิดระบบนำทาง, ฟังเพลง หรือส่งข้อความ ทำให้เราไม่ต้องปล่อยมือจากแฮนด์เลย เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมี Honda Smart Key, ช่องชาร์จไฟ USB Type-C ในช่องเก็บของด้านหน้า และที่เก็บของใต้เบาะที่ใหญ่พอสำหรับหมวกกันน็อค 2 ใบเช่นกัน ด้วยฟีเจอร์ที่เน้นความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินทางขนาดนี้ ทำให้ Forza 350 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่กำลังมองหาว่า มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกการเดินทางครับ
คะแนนที่ได้
9.7/10
รีวิวสั้น ๆ
“ชิลด์หน้าไฟฟ้าคือที่สุดครับ! ขี่กลับบ้านต่างจังหวัดสบายมาก ไม่โดนลมตีเลย เครื่องก็นิ่งมากครับ” – นนท์, อายุ 42
“ชอบระบบสั่งงานด้วยเสียงค่ะ สะดวกดี ไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาดูเลย ที่เก็บของก็ใหญ่มาก ไปจ่ายตลาดสบาย ๆ” – แก้ว, อายุ 38
3. Yamaha NMAX Connected TECH MAX 2025 ★★★★★
“สปอร์ตสกู๊ตเตอร์ 155cc ที่ให้ฟีลลิ่งเหมือนขี่รถใหญ่ ออปชันแน่นเกินคลาส ขับสนุก คล่องตัวในเมือง”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้า XMAX คือพี่ใหญ่สุดหล่อ Yamaha NMAX Connected ก็คือน้องชายสุดแสบที่ได้ DNA ความสปอร์ตมาเต็ม ๆ ครับ นี่คือรถในคลาส 155cc ที่ให้อารมณ์การขับขี่และออปชันที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกันไปมาก จนหลายคนยกให้เป็น “Maxi-Scooter ขนาดย่อม” เลยทีเดียว ดีไซน์ของ NMAX ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตระกูล MAX Series อย่างชัดเจน ด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ดุดัน และดูเป็นผู้ใหญ่กว่าสกู๊ตเตอร์ 150cc ทั่วไป ทำให้มันเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับคนที่อยากได้รถที่ขี่สนุก คล่องตัวในเมือง แต่ก็ยังดูดีมีระดับและสามารถขี่ออกทริปสั้น ๆ ได้อย่างไม่อายใคร นี่คือคำตอบสำหรับคนเมืองที่สงสัยว่า มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่จะตอบโจทย์ได้ครบทุกมิติ
สเปกเด่น
- เครื่องยนต์: Blue Core 155 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน (VVA) 4 จังหวะ สูบเดี่ยว SOHC 4 วาล์ว
- ระบบจ่ายน้ำมัน: แบบหัวฉีด
- ระบบเกียร์: ออโตเมติก
- หน้าจอแสดงผล: Digital LCD พร้อมระบบเชื่อมต่อ Y-Connect
- ระบบความปลอดภัย: Traction Control System (TCS), ABS Dual Channel, Smart Key System
- ช่วงล่าง: โช้คหน้าเทเลสโกปิก, โช้คหลังยูนิตสวิง พร้อมซับแทงค์ (ปรับ Preload ได้ในรุ่น Tech Max)
- ความจุถังน้ำมัน: 7.1 ลิตร
รีวิวแบบเจาะลึก
สิ่งที่ทำให้ NMAX ขับสนุกและแตกต่างจากคู่แข่งคือเครื่องยนต์ Blue Core 155cc ที่มาพร้อมกับ “ระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VVA” ครับ ระบบนี้จะทำงานเมื่อรอบเครื่องยนต์สูงกว่า 6,000 รอบต่อนาที โดยจะเปลี่ยนระยะการเปิด-ปิดของวาล์วไอดีให้มากขึ้น ทำให้รถมีกำลังและอัตราเร่งที่ดีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รอบต้นจนถึงรอบปลาย พูดง่าย ๆ คือตีนต้นก็จัดจ้าน ตีนปลายก็ยังไหลได้อีก ขี่สนุกมากครับ และที่สำคัญคือ Yamaha จัดหนักเรื่องความปลอดภัยมาให้แบบไม่กั๊ก ทั้ง Traction Control (TCS) และเบรก ABS แบบ Dual Channel ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ปกติจะเจอในรถคลาส 300cc ขึ้นไปเท่านั้น ทำให้ NMAX เป็นรถที่ขี่สนุกและมั่นใจได้ในความปลอดภัยสูงมาก ๆ
อีกหนึ่งไฮไลต์คือเทคโนโลยี Y-Connect ที่ทำให้เราเชื่อมต่อรถกับสมาร์ทโฟนได้ สามารถดูข้อมูลต่าง ๆ ของรถผ่านแอปได้เลย เช่น อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน, แจ้งเตือนการบำรุงรักษา, ตำแหน่งจอดรถล่าสุด, แสดงข้อมูลการโทรเข้า-ออก และแจ้งเตือนข้อความบนหน้าจอเรือนไมล์ได้ด้วย สะดวกและทันสมัยสุด ๆ ครับ ในรุ่นท็อปอย่าง Tech Max ยังได้โช้คอัพหลังของ Öhlins ที่มาพร้อมซับแทงค์และสามารถปรับระดับ Preload ได้ ช่วยให้การซับแรงกระแทกทำได้ดีเยี่ยมและเพิ่มความหนึบในการเข้าโค้งไปอีกขั้น ด้วยออปชันที่จัดเต็มขนาดนี้ ถ้ามีคนถามว่า มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่เป็นที่สุดของคลาส 150cc ชื่อของ Yamaha NMAX ก็ต้องติดอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอนครับ
คะแนนที่ได้
9.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“ขี่มันมากครับ ระบบ VVA ทำงานทีดึงหน้าหงายเลย ฟีลลิ่งเหมือนรถใหญ่เลยครับ ชอบมาก” – บอล, อายุ 25
“ชอบดีไซน์ค่ะ ดูเท่ไม่เหมือนใครดี Y-Connect ก็สะดวกมากค่ะ มีแจ้งเตือนโทรศัพท์บนหน้าจอด้วย ไม่พลาดสายสำคัญเลย” – ฝน, อายุ 30
4. Honda PCX160 รุ่น STD ABS 2025 ★★★★☆
“พรีเมียมสกู๊ตเตอร์ยอดนิยมตลอดกาล ดีไซน์หรูหรา ขี่นุ่มนวล คล่องตัว ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้าพูดถึงสกู๊ตเตอร์พรีเมียมที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน ชื่อของ Honda PCX160 จะต้องเป็นชื่อแรกที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอนครับ ด้วยภาพลักษณ์ที่หรูหรา สง่างาม และการขับขี่ที่นุ่มนวลสบาย ทำให้ PCX กลายเป็นมาตรฐานของรถสกู๊ตเตอร์ในคลาสนี้ไปแล้ว ในรุ่นล่าสุดนี้ก็ยังคงเอกลักษณ์ความพรีเมียมไว้ครบถ้วน แต่เพิ่มเติมความสปอร์ตและความทันสมัยเข้าไปอีกขั้นด้วยชุดไฟ Full LED ดีไซน์ใหม่ที่เฉียบคมยิ่งขึ้น และเส้นสายบนตัวรถที่ดูมีมิติและปราดเปรียวมากขึ้น ทำให้มันเป็นรถที่ดูดีได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะขี่ไปทำงาน, ไปเรียน, ไปเที่ยว หรือไปคาเฟ่เท่ ๆ ก็เข้ากันได้หมด สำหรับใครที่กำลังหา มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่เน้นภาพลักษณ์ที่ดูดีและใช้งานง่าย PCX160 คือคำตอบที่ใช่เสมอครับ
สเปกเด่น
- เครื่องยนต์: eSP+ 157 ซีซี 4 จังหวะ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- ระบบจ่ายน้ำมัน: แบบหัวฉีด PGM-FI
- ระบบเกียร์: ออโตเมติก
- หน้าจอแสดงผล: Full Digital Speedometer
- ระบบความปลอดภัย: Honda Smart Key, ดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อมระบบ ABS (เฉพาะรุ่น ABS)
- ฟีเจอร์เด่น: Idling Stop System, ช่องชาร์จ USB Type-C, ที่เก็บของใต้เบาะ 30 ลิตร
- ช่วงล่าง: โช้คหน้าเทเลสโกปิก, โช้คหลังทวินโช้ค
- ความจุถังน้ำมัน: 8.1 ลิตร
รีวิวแบบเจาะลึก
หัวใจใหม่ของ PCX160 คือเครื่องยนต์ eSP+ ขนาด 157 ซีซี แบบ 4 วาล์ว ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่ช่วยเพิ่มทั้งกำลังและอัตราเร่งให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด การตอบสนองของคันเร่งทำได้ติดมือมากขึ้น แต่ยังคงความนุ่มนวลซึ่งเป็นจุดเด่นของ Honda ไว้ได้เป็นอย่างดี ทำให้การขับขี่ในเมืองที่ต้องเร่ง ๆ หยุด ๆ ทำได้อย่างราบรื่นและไม่กระชาก นอกจากนี้ยังมีระบบ Idling Stop ที่จะดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่งเกิน 3 วินาที และจะติดขึ้นมาใหม่ทันทีที่บิดคันเร่ง ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นไปอีกครับ ในรุ่น ABS ก็ให้ความมั่นใจด้วยดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลัง ซึ่งช่วยให้การหยุดรถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ในด้านฟีเจอร์อำนวยความสะดวก PCX160 ก็ให้มาแบบครบ ๆ ครับ ทั้งระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Honda Smart Key ที่ใช้งานง่าย, ช่องเก็บของด้านหน้าพร้อมช่องชาร์จไฟสำรอง USB Type-C ที่รองรับการชาร์จเร็ว, และไฮไลต์คือที่เก็บของใต้เบาะ หรือ U-Box ที่มีขนาดใหญ่ถึง 30 ลิตร สามารถเก็บหมวกกันน็อคเต็มใบได้สบาย ๆ และยังเหลือที่ใส่ของอื่น ๆ ได้อีกเพียบ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องพกของเยอะได้เป็นอย่างดี หน้าปัดเรือนไมล์ก็เป็นแบบ Full Digital ที่แสดงข้อมูลครบถ้วนและอ่านง่าย แม้จะไม่มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ อย่างการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน แต่ด้วยความสมดุลระหว่างความหรูหรา, สมรรถนะ, และความสะดวกสบายในการใช้งาน ก็ทำให้ PCX160 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเสมอสำหรับคนที่มองหา มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่ไว้ใจได้และตอบโจทย์รอบด้านครับ
คะแนนที่ได้
9.3/10
รีวิวสั้น ๆ
“ขี่นุ่มมากครับ เครื่องยนต์ใหม่เร่งดีกว่าเดิมเยอะเลย ชอบที่เก็บของใต้เบาะมาก ใหญ่จริง ๆ” – อาร์ม, อายุ 32
“เป็นรถที่ขี่ง่าย คล่องตัวมากค่ะ ดีไซน์ก็สวย ขี่ไปไหนก็มีแต่คนมอง ชอบมากค่ะ” – มิ้นท์, อายุ 26
5. Honda New Giorno+ รุ่น ABS 2024 ★★★★☆
“แฟชั่นสกู๊ตเตอร์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิก ออปชันแน่นเกินตัว ขี่ไปไหนก็โดดเด่นไม่เหมือนใคร”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
มาถึงคิวของดาวเด่นดวงใหม่ที่สร้างกระแสฮือฮาไปทั่ววงการกับ Honda New Giorno+ (ฮอนด้า นิว จีออโน่ พลัส) ครับ นี่คือรถแฟชั่นออโตเมติกที่มาในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก ผสมผสานความน่ารักแบบย้อนยุคเข้ากับเส้นสายที่ทันสมัยได้อย่างลงตัวสุด ๆ ด้วยรูปทรงที่โค้งมน ไฟหน้า-ไฟท้ายทรงกลมแบบ Full LED และการใช้ชิ้นส่วนโครเมียมตกแต่งตามจุดต่าง ๆ ทำให้ Giorno+ มีเสน่ห์ที่โดดเด่นและน่ามองมาก ๆ ครับ มันเป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อคนที่รักในแฟชั่นและอยากได้รถที่สะท้อนสไตล์ของตัวเองได้อย่างชัดเจน ถ้าเพื่อน ๆ เป็นสายคอนเทนต์ ชอบถ่ายรูปสวย ๆ หรือกำลังมองหา มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นพร็อพคู่ใจ Giorno+ คือคำตอบที่ใช่แบบไม่มีข้อโต้แย้งเลยครับ
สเปกเด่น
- เครื่องยนต์: eSP+ 125 ซีซี 4 จังหวะ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- ระบบจ่ายน้ำมัน: แบบหัวฉีด PGM-FI
- ระบบเกียร์: ออโตเมติก
- หน้าจอแสดงผล: Full Digital Meter
- ระบบความปลอดภัย: Honda Smart Key, ดิสก์เบรกหน้า พร้อมระบบ ABS (เฉพาะรุ่น ABS)
- ฟีเจอร์เด่น: ช่องชาร์จ USB-A, ที่เก็บของใต้เบาะ U-Box ขนาดใหญ่ 30 ลิตร
- ช่วงล่าง: โช้คหน้าเทเลสโกปิก, โช้คหลังยูนิตสวิง
- ความจุถังน้ำมัน: 5.4 ลิตร
รีวิวแบบเจาะลึก
แม้จะเป็นรถแฟชั่น แต่ Honda ก็ไม่ได้ละเลยเรื่องสมรรถนะเลยครับ Giorno+ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ eSP+ ขนาด 125 ซีซี แบบ 4 วาล์ว และระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดียวกับที่ใช้ใน LEAD125 เลยทีเดียว! นั่นหมายความว่ามันมีอัตราเร่งที่ดีเกินตัว ขี่สนุก และมีความทนทานสูงมาก ๆ การระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแม้จะขี่เป็นเวลานาน ๆ หรือในสภาพอากาศที่ร้อนจัดของบ้านเราก็ตาม ในรุ่นท็อปยังมีระบบเบรก ABS ที่ล้อหน้ามาให้ด้วย ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ไปอีกขั้น นอกจากนี้ยังใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น การดูแลรักษา แบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ ก็ทำได้ง่าย ตำแหน่งติดตั้งอยู่ในจุดที่สะดวกต่อการเช็ค
ความ “พลัส” ของ Giorno+ ไม่ได้มีแค่เครื่องยนต์ แต่ยังรวมถึงฟังก์ชันการใช้งานที่ให้มาแบบจัดเต็มเกินคาดครับ เริ่มจากระบบกุญแจรีโมท Honda Smart Key ที่ให้ความสะดวกสบายและความปลอดภัย, ช่องชาร์จไฟสำรองแบบ USB-A ในช่องเก็บของด้านหน้า และที่พีคที่สุดคือ ที่เก็บของใต้เบาะ หรือ U-Box ที่มีความจุมากถึง 30 ลิตร! ซึ่งใหญ่กว่ารถสกู๊ตเตอร์ในคลาสเดียวกันหลาย ๆ รุ่น สามารถเก็บหมวกกันน็อคและสัมภาระอื่น ๆ ได้อย่างจุใจ ทำให้ Giorno+ ไม่ใช่แค่รถที่สวยอย่างเดียว แต่ยังใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันอีกด้วย ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างดีไซน์, สมรรถนะ, และฟังก์ชันการใช้งาน ทำให้ Giorno+ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังคิดว่า มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่จะมาเติมสีสันให้กับชีวิตครับ
คะแนนที่ได้
9.1/10
รีวิวสั้น ๆ
“รถน่ารักมากเลยค่ะ ขี่ไปไหนก็มีแต่คนมอง ที่เก็บของก็ใหญ่มาก ชอบสุด ๆ เลยค่ะ” – ใบเฟิร์น, อายุ 24
“ตอนแรกนึกว่าเป็นรถสวย ๆ อย่างเดียว แต่พอได้ลองขี่แล้วเครื่องแรงกว่าที่คิดครับ ขี่สนุกมาก” – เจมส์, อายุ 28
6. Honda New Wave110i ★★★★☆
“ราชาแห่งรถครอบครัวตลอดกาล ทนทาน ประหยัดน้ำมันขั้นเทพ เพื่อนคู่ใจทุกเส้นทางของคนไทย”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
จะจัดอันดับ มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี โดยไม่มี “รถตลาดอันดับหนึ่ง” อย่าง Honda New Wave110i คงเป็นไปไม่ได้ครับ นี่คือรถมอเตอร์ไซค์ครอบครัวที่อยู่คู่คนไทยมาทุกยุคทุกสมัย และยังคงได้รับความนิยมสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลง่าย ๆ คือ “ความทนทาน, ความประหยัด, และความไว้ใจได้” ในรุ่นใหม่นี้ Honda ได้ปรับดีไซน์ให้ดูทันสมัยและปราดเปรียวขึ้น ด้วยลายกราฟิกใหม่และชุดไฟหน้าแบบ LED ที่ให้ความสว่างชัดเจน แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่คุ้นเคย Wave110i เป็นเหมือนเพื่อนแท้ที่พร้อมลุยไปกับคุณในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะขี่ไปทำงาน, ไปตลาด, รับ-ส่งลูกที่โรงเรียน หรือแม้แต่ใช้เป็นรถทำมาหากิน มันคือคำตอบที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังที่สุดสำหรับคนที่ต้องการรถที่ใช้งานได้จริงและคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ครับ
คุณสมบัติเด่น
- เครื่องยนต์: Honda Smart Engine 109.5 ซีซี 4 จังหวะ ระบบหัวฉีด PGM-FI
- ระบบจ่ายน้ำมัน: แบบหัวฉีด PGM-FI
- ระบบเกียร์: เกียร์วน 4 ระดับ
- หน้าจอแสดงผล: New Design Meter พร้อมลายกราฟิกใหม่
- ฟีเจอร์เด่น: ไฟหน้า LED, ที่เก็บของใต้เบาะ U-Box 10 ลิตร, ประหยัดน้ำมันสูงสุด 76.9 กม./ลิตร
- ช่วงล่าง: โช้คหน้าเทเลสโกปิก, โช้คหลังสวิงอาร์ม
- ความจุถังน้ำมัน: 5 ลิตร
รีวิวแบบเจาะลึก
หัวใจของ New Wave110i คือเครื่องยนต์ Honda Smart Engine ขนาด 110 ซีซี ที่มาพร้อมระบบหัวฉีด PGM-FI เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งถูกพัฒนาให้มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่น่าทึ่งถึง 76.9 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน ECE R40) เรียกได้ว่าเติมน้ำมันครั้งหนึ่งขี่ลืมกันไปเลยครับ นอกจากความประหยัดแล้ว เครื่องยนต์บล็อกนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องความทนทานขั้นสุด สามารถใช้งานหนักได้โดยไม่จุกจิก ค่าบำรุงรักษาก็ต่ำมาก ๆ อะไหล่หาง่ายมีทุกร้าน ทำให้ Wave110i เป็นรถที่เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันอย่างแท้จริง ในด้านการใช้งานก็มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ด้วยพื้นที่เก็บของใต้เบาะ U-Box ที่ขยายใหญ่ขึ้นเป็น 10 ลิตร สามารถเก็บของใช้ส่วนตัวได้มากขึ้น และถังน้ำมันที่ใหญ่ขึ้นเป็น 5 ลิตร ทำให้ระยะทางในการขับขี่ต่อการเติมหนึ่งครั้งไกลขึ้นกว่าเดิม นี่คือการปรับปรุงที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงของผู้คนส่วนใหญ่ในประเทศได้อย่างตรงจุด
ถึงแม้ Wave110i จะไม่ได้มีฟีเจอร์หวือหวาเหมือนรถสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ไม่มี Smart Key ไม่มีช่องชาร์จ USB หรือหน้าจอดิจิทัลเต็มรูปแบบ แต่มันกลับมอบสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป นั่นคือ “ความสบายใจ” คุณไม่ต้องกังวลว่ารถจะเสียกลางทาง ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าซ่อมที่แพง และไม่ต้องกลัวว่าจะหาอะไหล่ไม่ได้ มันคือความเรียบง่ายที่สมบูรณ์แบบในตัวเอง หน้าปัดเรือนไมล์ดีไซน์ใหม่ก็ดูสวยงามและอ่านข้อมูลง่ายขึ้น ไฟหน้า LED ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ตอนกลางคืนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ว่าทำไม Honda Wave ถึงยังคงเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มียอดขายอันดับหนึ่งมาโดยตลอด และเป็นคำตอบแรก ๆ เสมอเมื่อมีคนถามถึง มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่เน้นความคุ้มค่าและทนทานเป็นหลักครับ
คะแนนที่ได้
9.0/10
รีวิวสั้น ๆ
“ใช้มาหลายปีไม่เคยงอแงเลยครับ ทนมากจริง ๆ ประหยัดน้ำมันสุด ๆ เติมทีขี่ได้ทั้งอาทิตย์เลย” – ลุงชัย, อายุ 55
“เป็นรถคันแรกของบ้านเลยค่ะ ขี่ง่าย ไม่จุกจิก ใช้ส่งของทุกวัน คุ้มค่ามาก ๆ ค่ะ” – ป้าพร, อายุ 48
7. Yamaha Grand Filano Hybrid รุ่น STD 2024 ★★★★☆
“สกู๊ตเตอร์ไฮบริดดีไซน์หรู เติมน้ำมันไม่ต้องลงจากรถ ประหยัด คล่องตัว ฟีเจอร์ครบ”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
หาก Giorno+ คือตัวแทนของความโมเดิร์นคลาสสิก Yamaha Grand Filano Hybrid ก็คือที่สุดของความโมเดิร์นพรีเมียมในคลาส 125cc ครับ คันนี้มาพร้อมกับสโลแกน “Live High in Style” ที่สะท้อนผ่านดีไซน์ที่หรูหรา สง่างาม และเต็มไปด้วยรายละเอียดที่เหนือระดับ ตั้งแต่ชุดไฟ Full LED รอบคัน ไปจนถึงหน้าปัดเรือนไมล์ดิจิทัลจอสี TFT ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Y-Connect ได้ ทำให้มันดูทันสมัยและล้ำหน้ากว่าใครในคลาสเดียวกัน แต่จุดขายที่ทำให้ Grand Filano แตกต่างและเป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน คือ “ความสะดวกสบายในการใช้งาน” ที่คิดมาอย่างดี โดยเฉพาะตำแหน่งฝาถังน้ำมันที่อยู่ด้านหน้า ทำให้เราสามารถเติมน้ำมันได้เลยโดยไม่ต้องลงจากรถหรือเปิดเบาะให้วุ่นวาย เป็นฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองสุด ๆ ครับ
คุณสมบัติเด่น
- เครื่องยนต์: Blue Core Hybrid 125 ซีซี 4 จังหวะ สูบเดี่ยว SOHC 2 วาล์ว
- ระบบจ่ายน้ำมัน: แบบหัวฉีด
- ระบบเกียร์: ออโตเมติก
- หน้าจอแสดงผล: Digital Meter LCD & TFT (เฉพาะรุ่น ABS)
- ระบบเชื่อมต่อ: Y-Connect (เฉพาะรุ่น ABS)
- ฟีเจอร์เด่น: ระบบไฮบริด (Smart Motor Generator), Stop & Start System, Smart Key System, ช่องชาร์จไฟ, ที่เก็บของ Grand Box 27 ลิตร
- ความจุถังน้ำมัน: 4.4 ลิตร (ฝาถังด้านหน้า)
รีวิวแบบเจาะลึก
ไฮไลต์สำคัญของ Grand Filano คือ “ระบบไฮบริด” ครับ โดยจะมี Smart Motor Generator (SMG) ทำหน้าที่เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยส่งกำลังเสริมให้กับเครื่องยนต์ในจังหวะออกตัว ทำให้รถพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างนุ่มนวลและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะรู้สึกได้ชัดเจนเวลาออกตัวจากหยุดนิ่งหรือขี่ขึ้นทางชัน นอกจากจะช่วยเรื่องอัตราเร่งแล้ว ระบบนี้ยังทำงานร่วมกับ Stop & Start System ที่ช่วยดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถติดไฟแดง ทำให้ประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วยครับ นี่คือเทคโนโลยีที่ทำให้ Grand Filano เป็น มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่ทั้งแรงและประหยัดไปพร้อม ๆ กัน ส่วนเครื่องยนต์ Blue Core 125cc พื้นฐานก็ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและนุ่มนวลอยู่แล้ว ทำให้การขับขี่โดยรวมนั้นสบายและผ่อนคลายมาก ๆ
นอกจากเรื่องสมรรถนะแล้ว ฟังก์ชันการใช้งานก็เป็นอีกจุดที่น่าประทับใจครับ ที่เก็บของใต้เบาะ หรือ Grand Box มีขนาดใหญ่ถึง 27 ลิตร สามารถเก็บหมวกกันน็อคและสัมภาระได้จุใจ มีไฟส่องสว่างให้ด้วย เพิ่มความสะดวกในการหาของตอนกลางคืน ในรุ่นท็อปยังมีระบบ Smart Key, ช่องชาร์จไฟสำรอง, และระบบเบรก UBS (Unified Brake System) หรือ ABS ให้เลือกตามความต้องการอีกด้วย ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม ฟีเจอร์ที่ทันสมัย และความสะดวกสบายที่คิดมาเพื่อผู้ใช้งานอย่างแท้จริง ทำให้ Yamaha Grand Filano Hybrid เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนเมืองที่ต้องการ มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่จะยกระดับการใช้ชีวิตให้มีสไตล์และสะดวกสบายยิ่งขึ้นครับ
คะแนนที่ได้
8.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“ชอบที่เติมน้ำมันไม่ต้องลงจากรถมากเลยค่ะ สะดวกสุด ๆ รถก็ขี่นิ่มมาก ออกตัวดีด้วยระบบไฮบริด” – นุ่น, อายุ 31
“ดีไซน์สวยมากครับ ดูแพงเกินราคาไปเยอะเลย ที่เก็บของก็ใหญ่จริง ๆ ใส่ของได้เยอะมากครับ” – วิน, อายุ 27
8. Honda New Giorno+ รุ่น STD 2024 ★★★★☆
“รุ่นเริ่มต้นของความมีสไตล์ สวยคลาสสิก ขี่ง่าย ฟังก์ชันครบครันในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับคนที่หลงใหลในดีไซน์ของ Honda New Giorno+ แต่มีงบประมาณที่จำกัดลงมาหน่อย รุ่น Standard (STD) คือคำตอบที่ลงตัวที่สุดครับ โดยรุ่นนี้ยังคงมาพร้อมกับดีไซน์โมเดิร์นคลาสสิกที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์เหมือนกับรุ่น ABS ทุกประการ ทั้งชุดไฟ Full LED ทรงกลม, ตัวถังโค้งมน, และหน้าปัดเรือนไมล์แบบดิจิทัล เรียกได้ว่าความหล่อความสวยไม่ได้ลดลงไปเลย สิ่งที่แตกต่างหลัก ๆ จะเป็นเรื่องของระบบเบรกและระบบกุญแจ ซึ่งทำให้ราคาย่อมเยาและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงได้หัวใจสำคัญอย่างเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว และ U-Box ขนาดใหญ่ 30 ลิตรไว้เหมือนเดิม ทำให้มันยังคงเป็น มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่น่าใช้และคุ้มค่ามาก ๆ สำหรับสายแฟชั่นที่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวันครับ
คุณสมบัติเด่น
- เครื่องยนต์: eSP+ 125 ซีซี 4 จังหวะ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- ระบบจ่ายน้ำมัน: แบบหัวฉีด PGM-FI
- ระบบเกียร์: ออโตเมติก
- หน้าจอแสดงผล: Full Digital Meter
- ระบบเบรก: ดิสก์เบรกหน้า – ดรัมเบรกหลัง (ระบบ Combi Brake)
- ฟีเจอร์เด่น: กุญแจแบบปกติ, ช่องชาร์จ USB-A, ที่เก็บของใต้เบาะ U-Box ขนาดใหญ่ 30 ลิตร
- ช่วงล่าง: โช้คหน้าเทเลสโกปิก, โช้คหลังยูนิตสวิง
- ความจุถังน้ำมัน: 5.4 ลิตร
รีวิวแบบเจาะลึก
ในรุ่น STD นี้ ระบบเบรกจะเป็นแบบดิสก์เบรกที่ล้อหน้าและดรัมเบรกที่ล้อหลัง พร้อมกับระบบ Combi Brake ที่เมื่อเรากำเบรกหลัง ระบบจะช่วยกระจายแรงเบรกไปที่ล้อหน้าด้วย ทำให้การหยุดรถมีความสมดุลและปลอดภัยมากขึ้น แม้จะไม่มี ABS แต่สำหรับความเร็วในการใช้งานในเมืองทั่วไป ระบบ Combi Brake ก็ถือว่าเพียงพอและไว้ใจได้ครับ ส่วนระบบกุญแจจะเป็นแบบปกติที่ต้องเสียบเพื่อสตาร์ท ซึ่งอาจจะไม่สะดวกเท่า Smart Key แต่ก็เป็นระบบที่ทุกคนคุ้นเคยและใช้งานง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน นอกเหนือจาก 2 จุดนี้แล้ว ฟีเจอร์เด็ด ๆ อย่างอื่นยังอยู่ครบ ทั้งเครื่องยนต์ eSP+ 125cc 4 วาล์วที่ให้อัตราเร่งทันใจ, ช่องชาร์จไฟ USB, และ U-Box ขนาดมหึมา 30 ลิตรที่ยังคงเป็นจุดขายสำคัญของรุ่นนี้
การเลือก Giorno+ รุ่น STD จึงเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานหลัก ๆ เป็นอันดับแรก แต่ไม่ได้ต้องการออปชันเสริมอย่าง ABS หรือ Smart Key มากนัก ซึ่งช่วยให้ประหยัดงบประมาณไปได้พอสมควร แต่ยังคงได้รถที่มีหน้าตาสวยงามโดดเด่น, เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ, และพื้นที่เก็บของที่ใช้งานได้จริงอย่างเต็มที่ มันคือการหาจุดที่ลงตัวระหว่างสไตล์, สมรรถนะ, และราคา ทำให้ Giorno+ รุ่น STD เป็นอีกหนึ่งคำตอบที่น่าสนใจสำหรับคำถามที่ว่า มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากเริ่มต้นกับรถมีสไตล์ในราคาที่จับต้องได้ครับ
คะแนนที่ได้
8.7/10
รีวิวสั้น ๆ
“สวยเหมือนรุ่นแพงเลยครับ ชอบมาก ประหยัดเงินไปได้เยอะเลย ขี่ในเมืองสบาย ๆ ครับ” – ตูน, อายุ 22
“ถึงไม่มี ABS แต่ระบบ Combi Brake ก็เบรกดีนะคะ รู้สึกมั่นใจดีค่ะ ที่เก็บของใหญ่ถูกใจมาก” – แอน, อายุ 29
9. Yamaha Fazzio Hybrid รุ่น STD 2023 ★★★★☆
“แฟชั่นสกู๊ตเตอร์ดีไซน์สุดจี๊ด สีสันโดนใจวัยรุ่น ฟังก์ชันครบครัน ขี่สนุก คล่องตัว”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้า Grand Filano คือสายหรู Giorno+ คือสายคลาสสิก Yamaha Fazzio Hybrid ก็คือตัวแทนของสายแฟชั่นสุดจี๊ดที่ไม่ตามใครครับ! นี่คือรถที่ออกแบบมาเพื่อวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ ด้วยดีไซน์ที่ดูสนุกสนาน มีความเหลี่ยมและความโค้งมนผสมกันอย่างลงตัว ไฟหน้าทรงแคปซูลแนวตั้ง และการใช้สีสันแบบทูโทนที่โดดเด่นสะดุดตา ทำให้ Fazzio มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนและแตกต่างจากรถสกู๊ตเตอร์รุ่นอื่น ๆ ในตลาดอย่างสิ้นเชิง นอกจากดีไซน์ที่โดนใจแล้ว Fazzio ยังมาพร้อมกับคอนเซปต์ที่น่าสนใจคือ “Fazzio’s Accessory Port” ที่มีจุดสำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมแต่งต่าง ๆ ได้ง่าย ทำให้ผู้ขับขี่สามารถคัสตอมรถให้เป็นสไตล์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ นี่คือ มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี สำหรับคนที่เบื่อความจำเจและอยากได้รถที่บ่งบอกความเป็นตัวเองได้มากที่สุดครับ
คุณสมบัติเด่น
- เครื่องยนต์: Blue Core Hybrid 125 ซีซี 4 จังหวะ สูบเดี่ยว SOHC 2 วาล์ว
- ระบบจ่ายน้ำมัน: แบบหัวฉีด
- ระบบเกียร์: ออโตเมติก
- หน้าจอแสดงผล: Full Digital LCD
- ระบบเชื่อมต่อ: Y-Connect (เฉพาะรุ่น Smart Key)
- ฟีเจอร์เด่น: ระบบไฮบริด, Stop & Start System, Smart Key System (เฉพาะรุ่น Smart Key), ช่องชาร์จไฟ, F-Box 17.8 ลิตร
- ความจุถังน้ำมัน: 5.1 ลิตร
รีวิวแบบเจาะลึก
Fazzio ใช้เครื่องยนต์ Blue Core Hybrid 125cc บล็อกเดียวกับ Grand Filano เลยครับ นั่นหมายความว่ามันได้ทั้งความประหยัดและอัตราเร่งที่ดีจากการทำงานของระบบไฮบริดและ Stop & Start System มาเต็ม ๆ แต่ด้วยตัวรถที่มีน้ำหนักเบากว่า (เพียง 95 กก.) และขนาดที่กะทัดรัดกว่า ทำให้ฟีลลิ่งในการขับขี่ของ Fazzio นั้นมีความกระฉับกระเฉงและคล่องตัวสูงมาก ๆ การซอกแซกไปตามการจราจรที่หนาแน่นในเมืองทำได้อย่างง่ายดายและสนุกสนาน เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองอย่างแท้จริง ในรุ่นท็อปก็มีทั้ง Smart Key และระบบ Y-Connect มาให้ใช้งานเหมือนกับรุ่นพี่ด้วย ทำให้ Fazzio เป็นรถเล็กที่ออปชันไม่เล็กตามตัวเลยครับ
ในด้านการใช้งาน Fazzio ก็มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่างครับ เช่น ช่องเก็บของใต้เบาะ F-Box ขนาด 17.8 ลิตร ที่แม้จะไม่ใหญ่เท่าคู่แข่ง แต่ก็มีรูปทรงที่ใส่ของได้หลากหลาย, มีช่องชาร์จไฟสำรองสำหรับสมาร์ทโฟน, และมีตะขอแขวนของแบบ Double Hook 2 จุด ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้อีก หน้าปัดเรือนไมล์ก็เป็นแบบ Full Digital ทรงแคปซูลที่ออกแบบมาได้เข้ากับตัวรถและแสดงข้อมูลได้ชัดเจน ด้วยคาแรคเตอร์ที่สนุกสนาน, ความคล่องตัวสูง, และความสามารถในการปรับแต่งได้หลากหลาย ทำให้ Yamaha Fazzio เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับวัยรุ่นหรือใครก็ตามที่กำลังมองหาว่า มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นเพื่อนคู่ใจคันแรกที่ทั้งเท่และใช้งานได้ดีครับ
คะแนนที่ได้
8.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“สีสวยมากเลยค่ะ ดีไซน์ก็ไม่เหมือนใครดี ชอบที่รถเบาแล้วก็ขี่ง่ายมาก ๆ ค่ะ” – มายด์, อายุ 21
“ขี่สนุกดีครับ คล่องตัวมากในเมือง แต่งรถก็สนุกดีครับ มีของแต่งให้เลือกเยอะเลย” – นนท์, อายุ 23
10. GPX New Tuscany 150 SmartKey 2023 ★★★☆☆
“สกู๊ตเตอร์สไตล์อิตาลีในราคาที่จับต้องได้ ดีไซน์สวยคลาสสิก ออปชันครบเกินราคา”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ปิดท้ายลิสต์ มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ของเราด้วยตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดจากแบรนด์ไทยอย่าง GPX New Tuscany 150 ครับ นี่คือรถสกู๊ตเตอร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากดีไซน์คลาสสิกของสกู๊ตเตอร์อิตาลีอย่างชัดเจน ด้วยเส้นสายที่โค้งมนสวยงาม, ไฟหน้าทรงหกเหลี่ยม, และการออกแบบที่เน้นความสง่างาม ทำให้ Tuscany 150 มีหน้าตาที่ดูพรีเมียมเกินราคาไปมาก ๆ ครับ เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ชื่นชอบดีไซน์สไตล์นี้ แต่มีงบประมาณจำกัด และที่สำคัญคือ GPX จัดออปชันมาให้แบบเต็ม ๆ ชนิดที่ว่าแบรนด์ญี่ปุ่นบางรุ่นยังต้องอายเลยทีเดียว ทั้งระบบ Smart Key, ไฟส่องสว่าง Full LED รอบคัน, และหน้าจอ Full Digital LCD ทำให้มันเป็นรถที่คุ้มค่าคุ้มราคาสุด ๆ
คุณสมบัติเด่น
- เครื่องยนต์: 149.6 ซีซี 4 จังหวะ SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ
- ระบบจ่ายน้ำมัน: แบบหัวฉีด GPX-Fi
- ระบบเกียร์: ออโตเมติก
- หน้าจอแสดงผล: Full Digital LCD Meter
- ระบบความปลอดภัย: Smart Key System, ดิสก์เบรกหน้า – ดรัมเบรกหลัง (ระบบ CBS)
- ฟีเจอร์เด่น: ไฟส่องสว่าง Full LED, ช่องชาร์จ USB Type-A, ที่เก็บของใต้เบาะ 27 ลิตร
- ช่วงล่าง: โช้คหน้าเทเลสโกปิก, โช้คหลังทวินโช้ค
- ความจุถังน้ำมัน: 5.7 ลิตร
รีวิวแบบเจาะลึก
GPX Tuscany 150 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 149.6 ซีซี แบบหัวฉีด ที่ให้พละกำลังเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมืองได้อย่างสบาย ๆ อัตราเร่งอาจจะไม่จัดจ้านเท่าคู่แข่งที่เป็นเครื่อง 4 วาล์วระบายความร้อนด้วยน้ำ แต่ก็ให้ความนุ่มนวลและขี่ง่าย เหมาะกับมือใหม่หรือคนที่ไม่ได้เน้นความเร็วสูงมากนัก จุดเด่นที่น่าชื่นชมคือการให้โช้คอัพหลังมาเป็นแบบคู่ (Twin Shock Absorber) ซึ่งช่วยให้การซับแรงกระแทกทำได้ดีและมีความเสถียรมากกว่าโช้คเดี่ยว โดยเฉพาะเวลาที่มีคนซ้อนหรือบรรทุกของหนัก ทำให้การขับขี่นุ่มนวลและมั่นคงขึ้นครับ ระบบเบรกก็ให้มาเป็นดิสก์เบรกหน้าและดรัมเบรกหลังพร้อมระบบ CBS (Combi Brake System) ช่วยกระจายแรงเบรกให้มีความสมดุล
ในด้านฟังก์ชันการใช้งาน Tuscany 150 ก็ทำได้น่าประทับใจมากครับ ที่เก็บของใต้เบาะมีความจุถึง 27 ลิตร ซึ่งถือว่าใหญ่มากในคลาสนี้ สามารถเก็บหมวกกันน็อคและของใช้อื่น ๆ ได้สบาย ๆ มีช่องชาร์จไฟ USB Type-A มาให้ที่ช่องเก็บของด้านหน้า และที่สำคัญคือมีระบบ Smart Key มาให้ด้วย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มักจะอยู่ในรถที่ราคาสูงกว่านี้ครับ ด้วยดีไซน์ที่สวยงามและออปชันที่ให้มาแบบไม่กั๊กในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ ทำให้ GPX Tuscany 150 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่กำลังมองหา มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่คุ้มค่าที่สุด และอยากลองสัมผัสเสน่ห์ของสกู๊ตเตอร์สไตล์คลาสสิกโดยไม่ต้องจ่ายแพงครับ
คะแนนที่ได้
8.3/10
รีวิวสั้น ๆ
“รถสวยมากครับ ดูแพงกว่าราคาจริงไปเยอะเลย ออปชันที่ให้มาก็คุ้มมากครับ ชอบ Smart Key ที่สุด” – ท็อป, อายุ 29
“ขี่นิ่มดีค่ะ โช้คหลังเป็นแบบคู่รู้สึกได้เลยว่านุ่มกว่าคันเก่า ที่เก็บของก็ใหญ่ดีค่ะ” – จิ๊บ, อายุ 34
มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญในวงการสองล้อ
จากการพูดคุยกับสื่อสายมอเตอร์ไซค์และผู้คร่ำหวอดในวงการหลายท่าน ต่างให้ความเห็นตรงกันว่า ตลาดมอเตอร์ไซค์ในปี 2025 มีการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในกลุ่มรถสกู๊ตเตอร์พรีเมียมและรถแฟชั่นออโตเมติก ซึ่งผู้ผลิตแต่ละค่ายต่างพยายามนำเสนอเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า
“เทรนด์ที่ชัดเจนที่สุดคือการนำเทคโนโลยีจากรถบิ๊กไบค์มาย่อส่วนใส่ในรถคลาสเล็กลงมา ไม่ว่าจะเป็นระบบ Traction Control, หน้าจอสี TFT, หรือการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่ออปชันเสริมอีกต่อไป แต่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่ผู้บริโภคคาดหวัง” – นักวิเคราะห์จากนิตยสารมอเตอร์ไซค์ชั้นนำ
ปัจจัยนี้ทำให้การตัดสินใจเลือก มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี มีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้ซื้อไม่ได้มองแค่เรื่องของ CC หรือความเร็วอีกต่อไป แต่มองถึงประสบการณ์การขับขี่โดยรวม (Overall Riding Experience) และความคุ้มค่าของฟีเจอร์ที่ได้รับเทียบกับราคา
ปัจจัยใหม่ในการตัดสินใจ
- ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity): การที่รถสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้กลายเป็นจุดขายสำคัญ แอปพลิเคชันอย่าง Y-Connect ของ Yamaha หรือ HSVCs ของ Honda ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ได้อย่างมาก
- ระบบความปลอดภัยขั้นสูง (Advanced Safety): นอกเหนือจาก ABS แล้ว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) ก็เริ่มถูกนำมาใช้ในรถคลาส 155cc แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าผู้ผลิตให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่มากขึ้น
- ดีไซน์และการบ่งบอกตัวตน (Design & Personalization): ผู้บริโภคยุคใหม่มองหารถที่สามารถสะท้อนสไตล์ของตัวเองได้ ทำให้รถที่มีดีไซน์โดดเด่นและสามารถปรับแต่งได้หลากหลายอย่าง Yamaha Fazzio หรือ Honda Giorno+ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS
ทีมงานของเรามองว่า การเลือก มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ในปี 2025 คือการหาความสมดุลที่ลงตัวระหว่าง “ความต้องการ (Needs)” และ “ความต้องการทางอารมณ์ (Wants)”
“ผู้ซื้อควรเริ่มต้นจากการถามตัวเองก่อนว่าวัตถุประสงค์หลักในการใช้งานคืออะไร? ถ้าเน้นเดินทางไกล ความสบายและฟีเจอร์ทัวริ่งของ Forza 350 อาจจะตอบโจทย์ที่สุด แต่ถ้าเน้นความคล่องตัวและเทคโนโลยีในเมือง NMAX หรือ XMAX ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ในขณะที่ถ้ามองหาความคุ้มค่าและความทนทานสูงสุด ก็ไม่มีใครล้มแชมป์อย่าง Wave110i ได้ การเข้าใจความต้องการของตัวเองอย่างแท้จริง จะช่วยให้เราสามารถเลือกรถที่ ‘ใช่’ ที่สุดสำหรับเราได้ โดยไม่หลงไปกับกระแสหรือฟีเจอร์ที่เราอาจจะไม่ได้ใช้งานจริง”
เคล็ดลับการเลือกซื้อ มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ให้เหมาะกับคุณ
- กำหนดงบประมาณที่ชัดเจน: ตั้งงบประมาณสำหรับตัวรถและเผื่อค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ด้วย เช่น ค่าจดทะเบียน, พ.ร.บ., ประกัน, และค่าอุปกรณ์เสริมอย่างหมวกกันน็อคและเสื้อการ์ด
- วิเคราะห์ไลฟ์สไตล์การใช้งาน: คุณใช้รถในเมืองเป็นหลัก หรือชอบออกทริปทางไกล? ขี่คนเดียวหรือมีคนซ้อนบ่อย? คำตอบเหล่านี้จะช่วยจำกัดตัวเลือกให้แคบลงได้มาก
- พิจารณาเรื่องสมรรถนะและ CC: หากขี่ในเมืองเป็นหลัก รถในคลาส 110-155cc ก็เพียงพอและคล่องตัว แต่ถ้าต้องเดินทางข้ามจังหวัดบ่อย ๆ การเลือกรถในคลาส 300cc ขึ้นไปจะให้ความมั่นใจและสบายกว่า
- อย่ามองข้ามเรื่องความปลอดภัย: ระบบเบรก ABS และ Traction Control เป็นฟีเจอร์ที่สำคัญมากและช่วยลดอุบัติเหตุได้จริง ๆ หากงบประมาณถึง ควรเลือกรุ่นที่มีระบบเหล่านี้ไว้ก่อนครับ
- ลองไปคร่อมหรือทดลองขี่จริง (Test Ride): ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้สัมผัสรถคันจริง ลองคร่อมดูว่าความสูงของเบาะพอดีกับเราไหม ท่าทางการวางแขนและเทเป็นอย่างไร ถ้าเป็นไปได้ควรขอทดลองขี่เพื่อดูฟีลลิ่งของเครื่องยนต์และการควบคุมครับ
- เช็กเรื่องศูนย์บริการและอะไหล่: เลือกรถจากแบรนด์ที่มีศูนย์บริการครอบคลุมและหาอะไหล่ง่าย จะช่วยให้การบำรุงรักษาในระยะยาวสะดวกและไม่ปวดหัวครับ
การบำรุงรักษามอเตอร์ไซค์เบื้องต้นที่เจ้าของทุกคนควรรู้
การเป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์ไม่ได้จบแค่การซื้อ แต่ยังรวมถึงการดูแลรักษาเพื่อให้รถคู่ใจของเรามีสภาพดีและพร้อมใช้งานเสมอครับ การบำรุงรักษาเบื้องต้นนั้นไม่ยากเลย ใคร ๆ ก็ทำได้ เริ่มจากการเช็กลมยางเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพราะลมยางที่เหมาะสมจะช่วยให้รถเกาะถนนได้ดีและประหยัดน้ำมันด้วยครับ ต่อมาคือการเช็กระดับน้ำมันเครื่อง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเครื่องยนต์ ควรเช็กให้อยู่ในระดับที่กำหนดเสมอ และเปลี่ยนถ่ายตามระยะที่คู่มือกำหนด การเลือกใช้ น้ำมันเครื่อง มอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อไหนดี ก็มีผลต่อสมรรถนะและความทนทานของเครื่องยนต์เช่นกันครับ นอกจากนี้ อย่าลืมดูแลเรื่องโซ่ (สำหรับรถมีเกียร์) ควรหล่อลื่นและตั้งความตึงให้พอดี และสุดท้ายคือการตรวจสอบระบบเบรกและระบบไฟส่องสว่างให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ การดูแลรักษาง่าย ๆ เหล่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถและเพิ่มความปลอดภัยให้ตัวเราได้มากเลยครับ
เทรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า: อนาคตของสองล้อในไทย
อีกหนึ่งกระแสที่มาแรงและไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ครับ ในปี 2025 นี้เราจะเห็นผู้ผลิตทั้งรายใหญ่และรายใหม่กระโดดเข้ามาในตลาดนี้มากขึ้น ด้วยจุดเด่นเรื่องการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ถูกกว่าน้ำมันมาก, และค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าเพราะไม่มีเครื่องยนต์ที่ซับซ้อน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหาว่า มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี โดยเฉพาะคนที่ใช้งานในเมืองเป็นหลัก ด้วยอัตราเร่งจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ตอบสนองได้ทันใจและเสียงที่เงียบ ทำให้การขับขี่ในเมืองมีความสะดวกสบายและผ่อนคลายยิ่งขึ้น แม้ว่าปัจจุบันสถานีชาร์จอาจจะยังไม่ครอบคลุมเท่าปั๊มน้ำมัน และระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งยังเป็นข้อจำกัด แต่ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะเป็นทางเลือกหลักของใครหลาย ๆ คนอย่างแน่นอนครับ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- ถาม: มือใหม่หัดขี่ ควรเริ่มจาก มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี
ตอบ: สำหรับมือใหม่ แนะนำให้เริ่มจากรถที่มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป ควบคุมง่าย และกำลังเครื่องยนต์ไม่สูงมากนัก เช่น Honda Wave110i, Yamaha Fazzio, หรือ Honda PCX160 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ เพราะเป็นรถที่ขี่ง่าย คล่องตัว และมีระบบต่าง ๆ ที่ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยครับ - ถาม: ระหว่าง ABS กับ Traction Control อะไรสำคัญกว่ากัน?
ตอบ: ทั้งสองระบบมีความสำคัญในสถานการณ์ที่แตกต่างกันครับ ABS (Anti-lock Braking System) จะช่วยป้องกันล้อล็อกตายเวลาเบรกกะทันหัน ทำให้เรายังสามารถควบคุมทิศทางของรถได้ ส่วน TCS (Traction Control System) จะช่วยป้องกันล้อหลังหมุนฟรีเวลาเปิดคันเร่งแรง ๆ บนพื้นลื่น ถ้าให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ABS อาจจะมีความจำเป็นในชีวิตประจำวันมากกว่า แต่ถ้าเป็นไปได้ การมีทั้งสองระบบจะให้ความปลอดภัยที่ครอบคลุมที่สุดครับ - ถาม: รถสกู๊ตเตอร์สามารถขี่ออกทริปทางไกลได้ไหม?
ตอบ: ได้สบายมากครับ โดยเฉพาะรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ในคลาส 300cc ขึ้นไปอย่าง Yamaha XMAX หรือ Honda Forza ถูกออกแบบมาเพื่อการเดินทางไกลอยู่แล้ว ด้วยท่านั่งที่สบาย, มีชิลด์หน้ากันลม, และที่เก็บของขนาดใหญ่ แต่แม้แต่รถคลาส 150cc อย่าง NMAX หรือ PCX ก็สามารถขี่ออกทริปได้เช่นกัน แต่อาจจะต้องหยุดพักบ่อยกว่าหน่อยครับ - ถาม: การดูแลรักษารถไฮบริดยุ่งยากกว่ารถปกติไหม?
ตอบ: ไม่ยุ่งยากกว่าเลยครับ ระบบไฮบริดในมอเตอร์ไซค์อย่างของ Yamaha เป็นระบบที่ไม่ซับซ้อนและแทบจะไม่ต้องการการบำรุงรักษาเพิ่มเติมเลย (Maintenance-free) การดูแลรักษารถโดยรวมยังคงเหมือนกับรถสกู๊ตเตอร์ทั่วไป คือการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและน้ำมันเฟืองท้ายตามระยะปกติครับ
บทสรุป: เลือก มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี ที่ “ใช่” ที่สุดสำหรับคุณ
และแล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายของการจัดอันดับ มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี แห่งปี 2025 นะครับ ผมหวังว่าข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมาให้ ทั้งรีวิวแบบเจาะลึก, ตารางเปรียบเทียบ, และเคล็ดลับต่าง ๆ จะเป็นประโยชน์และช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ จะเห็นได้ว่ามอเตอร์ไซค์แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นและคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันไป ไม่มีรุ่นไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่จะมีรุ่นที่ “ใช่ที่สุด” สำหรับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละคนครับ
หากคุณเป็นสายสปอร์ตที่รักเทคโนโลยีและความเร็ว Yamaha XMAX 300 และ NMAX Connected คือคำตอบที่น่าจะถูกใจที่สุด แต่ถ้าคุณเป็นสายทัวริ่งที่เน้นความสบายในการเดินทางไกล Honda Forza 350 ก็พร้อมจะพาคุณไปทุกที่อย่างมีความสุข สำหรับการใช้งานในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว, ความหรูหรา, และฟังก์ชันที่ครบครัน Honda PCX160 และ Yamaha Grand Filano Hybrid ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเสมอ หรือถ้าคุณเป็นสายแฟชั่นที่อยากได้รถสวย ๆ มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร Honda Giorno+ และ Yamaha Fazzio ก็พร้อมจะมาเติมสีสันให้ชีวิต และสุดท้าย สำหรับคนที่มองหาความคุ้มค่า, ทนทาน, และไว้ใจได้สูงสุด ก็ไม่มีใครจะมาแทนที่ราชาแห่งรถครอบครัวอย่าง Honda Wave110i ได้ครับ
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะย้ำอีกครั้งว่าการได้ไปลองสัมผัสและทดลองขี่รถคันจริงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเลือกมอเตอร์ไซค์คู่ใจคันใหม่ และขับขี่กันอย่างปลอดภัยนะครับ!
หมายเหตุจากผู้เขียน: มอเตอร์ไซค์ รุ่นไหนดี
- รายละเอียดสเปก, สีสัน, และราคาของรถมอเตอร์ไซค์แต่ละรุ่น อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของ Yamaha, Honda, และ GPX หรือผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกครั้งครับ
- คะแนน (เช่น 9.8/10 หรือ 9.0/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากข้อมูลสเปก, ฟีเจอร์, ราคา, ความนิยมในตลาด, รีวิวจากผู้ใช้งานจริง, และประสบการณ์การทดลองขี่ของผู้เขียน
- รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “เอก, อายุ 35” หรือ “พลอย, อายุ 29”) เป็นตัวอย่างสมมติที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานในมุมมองที่หลากหลายเท่านั้น
- บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูล ณ ช่วงเวลาที่เผยแพร่ คุณสมบัติบางอย่างอาจมีการอัปเดตหรือเปลี่ยนแปลงโดยผู้ผลิตในภายหลัง