บทนำ
สวัสดีครับเพื่อนๆ! ยินดีต้อนรับเข้าสู่ปี 2025 ครับ! ผมเชื่อว่าหลายคนกำลังมองหามือถือเครื่องใหม่ที่มาพร้อมสเปกดีๆ ในงบประมาณที่คุ้มค่า และถ้าพูดถึง “ความคุ้มค่า” นาทีนี้คงไม่มีใครกล้าเถียงว่า Xiaomi คือหนึ่งในตัวตึงของวงการนี้ใช่ไหมครับ แต่พอจะซื้อจริง อื้อหือ… รุ่นเยอะมาก! ทั้ง Redmi, POCO ไหนจะซีรีส์ย่อยอีกเต็มไปหมด ทำเอาหลายคนปวดหัวและต้องมาตั้งกระทู้ถามกันรัวๆ ว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี กันแน่?
ไม่ต้องห่วงครับ วันนี้ผมอาสาทำการบ้านมาให้เพื่อนๆ แล้ว! งบ 8,000 บาทในปี 2025 นี่ถือเป็นช่วงงบประมาณที่ดุเดือดที่สุดเลยครับ เพราะเป็นจุดที่มือถือหลายรุ่นเริ่มให้สเปกที่ก้าวกระโดดขึ้นมาจากพวกรุ่นเริ่มต้นมากๆ เราจะได้เห็นทั้งจอ AMOLED 120Hz สวยๆ, กล้องความละเอียดสูง 108MP, หรือแม้แต่ชิปเซ็ตแรงๆ ที่พอจะเล่นเกมปรับกราฟิกสูงๆ ได้สบาย แถมยังได้ชาร์จไวระดับ 67W อีกต่างหาก เรียกว่าเป็นงบที่ “ครบเครื่อง” ที่สุดสำหรับการใช้งานทั่วไปจนถึงกึ่งหนักเลยล่ะครับ
ผมเข้าใจดีว่าการเลือกมือถือมันซับซ้อนครับ บางคนอาจจะอยากรู้ภาพรวมทั้งหมดว่า โทรศัพท์ Xiaomi รุ่นไหนดี ที่สุดในทุกช่วงราคา ซึ่งเราก็มีบทความหลักให้อ่านกัน แต่สำหรับวันนี้ เราจะมาโฟกัสกันที่งบ 8,000 บาทโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นงบที่สู้กันมันส์หยดมากระหว่างซีรีส์ Redmi Note ที่เน้นความพรีเมียม จอสวย กล้องเทพ กับซีรีส์ POCO ที่เน้นสเปกแรงทะลุงบ เอาใจสายเกมเมอร์ตัวจริง การตัดสินใจเลือก สมาร์ทโฟน Xiaomi ราคา 8000 จึงไม่ใช่แค่ดูว่าตัวไหนแพงสุดในงบ แต่ต้องดูว่าไลฟ์สไตล์ของเราเหมาะกับแบบไหนมากกว่ากันครับ
ในบทความนี้ ผมจะพาไปเจาะลึกทีละรุ่น ไล่ตั้งแต่อันดับ 1 ที่ผมคิดว่าครบเครื่องที่สุด ไปจนถึงตัวเลือกอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เราจะมาดูกันว่า มือถือ Xiaomi งบ 8000 แต่ละตัวมีจุดเด่น-จุดด้อยยังไง กล้องสู้กันได้ไหม แบตอึดแค่ไหน และที่สำคัญ มันคุ้มค่ากับเงินที่เราจะเสียไปหรือเปล่า แถมเดี๋ยวนี้มือถือก็ไม่ได้ใช้แค่โทรเข้าโทรออกแล้ว มันยังต้องใช้คู่กับ Smart Watch ดีๆ เพื่อวัดสุขภาพอีกด้วย การเลือกเครื่องหลักที่ตอบโจทย์เลยสำคัญมากครับ ถ้าพร้อมแล้ว… ไปดูกันเลยครับว่า 10 อันดับ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี อัปเดตล่าสุด 2025 จะมีรุ่นไหนมาเขย่าหัวใจและความคุ้มค่ากันบ้าง!
จัดอันดับ 10 โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี อัปเดตล่าสุด 2025
ก่อนที่เราจะไปดำดิ่งลงไปในรายละเอียดของแต่ละรุ่นนะครับ ผมขอสรุปภาพรวมทั้งหมดของมือถือที่เราจะรีวิวกันในวันนี้มาให้ดูในรูปแบบตารางเปรียบเทียบกันก่อนเลย เพื่อนๆ จะได้เห็นสเปกเด่นๆ, คะแนน, และราคาของแต่ละรุ่นได้ชัดเจนในทีเดียว จะได้พอเห็นภาพว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่น่าจะเข้าตาเรามากที่สุด แล้วค่อยตามไปอ่านรีวิวเจาะลึกของรุ่นนั้นๆ กันต่อได้เลยครับ!
ตารางเปรียบเทียบสรุป 10 โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี
1. Xiaomi Redmi Note 14 ★★★★★
“ตัวเต็งเบอร์หนึ่ง! ครบเครื่องเรื่องสเปก จอ AMOLED 120Hz กล้องเทพ 108MP ชาร์จไว 67W”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้าเพื่อนๆ มีงบ 8,000 บาท แล้วเดินมาถามผมว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่ซื้อแล้วจบ ครบเครื่องที่สุด ไม่ต้องคิดเยอะ ผมจะชี้ไปที่ Xiaomi Redmi Note 14 เป็นตัวแรกเลยครับ! นี่คือ ‘King of Budget’ ตัวจริงที่สานต่อตำนานความคุ้มค่าของซีรีส์ Redmi Note มาได้อย่างสมศักดิ์ศรี ในปี 2025 นี้ มันอัปเกรดมาให้แบบจัดเต็ม ทั้งดีไซน์ที่ดูพรีเมียมขึ้น ขอบจอที่บางลง และสเปกภายในที่กระโดดไปไกล โดยเฉพาะการได้จอ AMOLED 120Hz ที่สีสวยสดและลื่นไหล, กล้องหลัก 108MP ที่ไว้ใจได้, และชาร์จไว 67W ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ นี่คือมือถือที่สมดุลที่สุดในงบนี้เลยครับ
สเปกเด่น
- จอแสดงผล: 6.67″ AMOLED, 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1800 nits (peak)
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 7s Gen 3 (หรือเทียบเท่า)
- กล้องหลัง: 3 ตัว
- กล้องหลัก 108MP (f/1.8)
- กล้อง Ultrawide 8MP
- กล้อง Macro 2MP
- กล้องหน้า: 16MP
- แบตเตอรี่: 5000 mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จเร็ว 67W (แถมหัวชาร์จในกล่อง)
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS บนฐาน Android 15
- อื่น ๆ: ลำโพงคู่สเตอริโอ, สแกนนิ้วใต้จอ, กันน้ำ IP54
รีวิวแบบเจาะลึก
สิ่งที่ทำให้ Redmi Note 14 เป็นคำตอบแรกๆ ของคำถาม “โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี” ก็คือ “ความสมดุล” ของมันครับ เริ่มจากดีไซน์เลย ปีนี้ Xiaomi ทำการบ้านมาดีมาก ขอบเครื่องมีความเหลี่ยมแต่จับถือง่าย ฝาหลังมีการเคลือบผิวแบบด้านที่ทำให้ดูแพงและไม่เป็นรอยนิ้วมือง่ายๆ พลิกมาด้านหน้าคือจอ AMOLED 6.67 นิ้ว ที่ขอบบางเฉียบ โดยเฉพาะขอบล่างที่ลดขนาดลงไปอีก ทำให้ประสบการณ์การดูหนังหรือเล่นโซเชียลมันเต็มตามากๆ ครับ ความละเอียด FHD+ พร้อม Refresh Rate 120Hz นี่คือมาตรฐานของ มือถือ Xiaomi งบ 8000 ไปแล้ว แตสิ่งที่ Note 14 ทำได้ดีคือความสว่างที่สู้แดดได้สบายๆ และสีสันที่จัดจ้านแต่ไม่เพี้ยน ทำให้การเสพคอนเทนต์ต่างๆ มันฟินจริงๆ ครับ แถมยังได้ลำโพงคู่สเตอริโอที่เสียงดังและมีมิติมาให้ด้วย ถือว่าจัดเต็มเรื่องความบันเทิงมากๆ
มาต่อกันที่ประสิทธิภาพและกล้องครับ หัวใจของ Note 14 คือชิปเซ็ตระดับกลางตัวใหม่ (คาดว่าเป็น Snapdragon 7s Gen 3 หรือ Dimensity ตัวใหม่) ซึ่งแรงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปแบบลื่นไหลปรื๊ดๆ และยังสามารถเล่นเกมยอดฮิตอย่าง RoV หรือ Free Fire ได้ที่กราฟิกสูงๆ แบบสบายๆ ครับ ถึงแม้จะไม่ใช่ Xiaomi เล่นเกมลื่น แบบสุดขั้วเหมือนตระกูล POCO X แต่สำหรับคนทั่วไป ผมว่ามันเหลือเฟือแล้วครับ จุดขายหลักจริงๆ คือกล้อง 108MP ที่ถูกปรับจูนซอฟต์แวร์มาใหม่ ทำให้การประมวลผลภาพดีขึ้น โดยเฉพาะการถ่ายในที่แสงน้อย (Night Mode) ที่ทำได้สว่างและมี Noise ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ใครที่อยากรู้ วิธีถ่ายรูปสวยด้วย Xiaomi แค่ยกกล้องรุ่นนี้ขึ้นมาถ่ายแบบ Auto ก็ได้ภาพที่สวยพร้อมอวดเพื่อนแล้วครับ ส่วนแบตเตอรี่ 5000 mAh ก็ใช้งานได้ตลอดวันสบายๆ และการที่ให้ชาร์จไว 67W มาในงบนี้ (แถมหัวชาร์จมาในกล่อง!) ถือเป็นอะไรที่เปลี่ยนชีวิตมาก ชาร์จแป๊บเดียวแบตก็เต็มแล้ว สรุปง่ายๆ ถ้าคุณต้องการมือถือที่ทำได้ดีทุกอย่าง ทั้งจอ, กล้อง, แบต, และความเร็ว Note 14 คือตัวจบในงบ 8,000 ครับ
คะแนนที่ได้
9.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“เพิ่งถอยมาเลยครับ จอสวยมาก ลื่นสุดๆ ชาร์จ 67W คือไวแบบตกใจ กล้อง 108MP ถ่ายรูปสนุกมากครับ คุ้มจริง” – นนท์, อายุ 28
“ตอนแรกเทียบกับหลายรุ่น แต่มาจบที่ตัวนี้เพราะดีไซน์เลยค่ะ สีใหม่สวยมาก เครื่องไม่หนัก จอสวยดูซีรีส์ฟิน กล้องชัดด้วยค่ะ” – ฟ้า, อายุ 31
2. Xiaomi Redmi Note 13 ★★★★★
“รุ่นพี่ยังเก๋า! สเปกเทพ จอ AMOLED 120Hz กล้อง 108MP ในราคาที่ประหยัดลง”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
แม้ว่า Note 14 จะเปิดตัวมาแรงแซงทางโค้ง แต่ Xiaomi Redmi Note 13 รุ่นพี่ยอดฮิตก็ยังไม่ตายครับ! แถมยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่มองหา Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 ที่เน้นความคุ้มค่าสูงสุด เพราะพอรุ่นใหม่มา รุ่นเก่าก็มักจะลดราคาลงมา ทำให้เราได้สเปกที่เคยเป็นของแพงในราคาที่ถูกลงไปอีก! Note 13 ยังคงมีทุกอย่างที่เราต้องการ ทั้งจอ AMOLED 120Hz, กล้อง 108MP, และดีไซน์ที่ยังคงสวยงามทันสมัย ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสว่าต้องได้ของใหม่ล่าสุด การประหยัดเงินหลักพันเพื่อมาเอารุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ฉลาดมากครับ
สเปกเด่น
- จอแสดงผล: 6.67″ AMOLED, 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1800 nits (peak)
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 685
- กล้องหลัง: 3 ตัว
- กล้องหลัก 108MP (f/1.8)
- กล้อง Ultrawide 8MP
- กล้อง Macro 2MP
- กล้องหน้า: 16MP
- แบตเตอรี่: 5000 mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จเร็ว 33W (แถมหัวชาร์จในกล่อง)
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS (อัปเดตได้) บนฐาน Android 14
- อื่น ๆ: ลำโพงคู่สเตอริโอ, สแกนนิ้วใต้จอ, กันน้ำ IP54
รีวิวแบบเจาะลึก
เหตุผลที่ Redmi Note 13 ยังคงยืนหนึ่งในลิสต์ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ของเรา ก็เพราะ “ความคุ้มค่า” ที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลาครับ ในวันที่มันเปิดตัว ราคามันก็ว่าคุ้มแล้ว พอมาปี 2025 ราคามันลงมาอยู่ในจุดที่น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะเมื่อคุณอาจจะเจอโปรโมชั่นที่ทำให้มันไปชนกับพวกรุ่น Xiaomi ราคาไม่เกิน 6000 เลยด้วยซ้ำ! แต่สิ่งที่คุณได้คือสเปกระดับที่เคยเป็น “รุ่นท็อปของงบ” ครับ จอ AMOLED 120Hz ของ Note 13 ยังคงเป็นหนึ่งในจอที่สวยที่สุดในกลุ่มนี้ สีสัน, ความสว่าง, ความลื่นไหล แทบไม่ต่างจาก Note 14 เลย ดีไซน์ขอบเหลี่ยมก็ยังดูทันสมัยมากๆ การมีสแกนนิ้วใต้จอและลำโพงคู่สเตอริโอก็เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้การใช้งานโดยรวมรู้สึกพรีเมียมอยู่ครับ
จุดที่แตกต่างจากรุ่นใหม่จริงๆ จะมีอยู่ 2-3 อย่างครับ อย่างแรกคือชิป Snapdragon 685 ซึ่งเป็นชิป 4G ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมได้บ้าง แต่ถ้าเทียบกับชิปใหม่ๆ ใน Note 14 หรือ POCO X7 มันก็ต้องยอมรับว่าช้ากว่าครับ อย่างที่สองคือระบบชาร์จ 33W ซึ่งถ้าเทียบกับ 67W ก็ต้องรอนานกว่าเกือบเท่าตัว แต่ถ้าคุณเป็นคนชาร์จมือถือข้ามคืนอยู่แล้ว นี่ก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลยครับ เพราะแบต 5000 mAh ของมันก็อึดพอที่จะอยู่ได้ทั้งวันสบายๆ กล้อง 108MP ก็ยังคงเป็นกล้องตัวเดียวกับที่หลายๆ รุ่นยังใช้อยู่ คุณภาพไฟล์ยังดีเยี่ยม สรุปคือ ถ้าคุณมีงบจำกัด หรือรู้สึกว่าไม่อยากจ่ายแพงเพื่อ “ของใหม่ล่าสุด” และกำลังมองหา มือถือ Xiaomi งบ 8000 ที่ให้สเปกดีที่สุดต่อบาทที่จ่ายไป Redmi Note 13 คือตัวเลือกที่ชาญฉลาดและปลอดภัยที่สุดตัวหนึ่งในตลาดตอนนี้เลยครับ
คะแนนที่ได้
9.7/10
รีวิวสั้น ๆ
“ผมว่ายังคุ้มมากครับ ซื้อตอนลดราคาได้มา 6 พันนิดๆ ได้จอ AMOLED 120Hz กล้อง 108MP คือจบเลย ไม่รู้จะเอาอะไรอีก” – บาส, อายุ 34
“ตอนแรกจะเอา Note 14 แต่พอลองเทียบกันแล้ว เอาส่วนต่างไปซื้อหูฟังดีๆ ดีกว่าค่ะ Note 13 ยังลื่นและสวยมากอยู่เลย” – มิ้น, อายุ 27
3. Xiaomi Poco X7 ★★★★★
“ขุมพลังสายเกม! ชิปแรงทะลุงบ จอ 120Hz แบตอึด 5500mAh ลุยได้ทั้งวัน”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
เอาใจสายใช้งานทั่วไปกับ Redmi Note ไป 2 อันดับแล้ว คราวนี้มาถึงคิวของ “สายเกมเมอร์” บ้างครับ! ถ้าคำถามของคุณคือ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่เน้น “ความแรง” ของชิปเซ็ตเป็นหลัก เอาไว้เล่นเกมปรับกราฟิกสูงๆ แบบไม่กระตุก Xiaomi Poco X7 คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดครับ! ซีรีส์ POCO X เกิดมาเพื่อฆ่าเรือธงในด้านประสิทธิภาพ และ X7 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการยัดชิประดับ Snapdragon 7+ Gen 2 (หรือเทียบเท่า) ที่แรงจนน่าตกใจมาให้ในงบนี้ พร้อมแบตเตอรี่ที่อัดมาให้เยอะถึง 5500 mAh และชาร์จไว 67W นี่คือ Xiaomi เล่นเกมลื่น ตัวจริงที่เกมเมอร์งบน้อยต้องเหลียวมองครับ
สเปกเด่น
- จอแสดงผล: 6.67″ AMOLED, 120Hz, HDR10+
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 7+ Gen 2 (หรือ Dimensity 8200)
- กล้องหลัง: 3 ตัว
- กล้องหลัก 64MP (f/1.8) พร้อม OIS
- กล้อง Ultrawide 8MP
- กล้อง Macro 2MP
- กล้องหน้า: 16MP
- แบตเตอรี่: 5500 mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จเร็ว 67W (แถมหัวชาร์จในกล่อง)
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS (สำหรับ POCO) บนฐาน Android 15
- อื่น ๆ: ลำโพงคู่สเตอริโอ, มีช่องหูฟัง 3.5 มม., ระบบระบายความร้อน LiquidCool 2.0
รีวิวแบบเจาะลึก
POCO X7 คือการตอกย้ำปรัชญา “Everything you need, nothing you don’t” ของแบรนด์อย่างแท้จริงครับ หัวใจของมันคือ “ประสิทธิภาพ” ล้วนๆ ชิปเซ็ตที่ให้มา (ไม่ว่าจะเป็น Snap 7+ Gen 2 หรือ Dimensity 8200) มีความแรงระดับที่ปกติเราต้องจ่ายเงินทะลุหมื่นถึงจะได้มา การที่มีชิปนี้ใน มือถือ Xiaomi งบ 8000 ทำให้มันสามารถรันเกมอย่าง Genshin Impact หรือ PUBG/COD Mobile ที่กราฟิกสูงๆ ได้อย่างลื่นไหล บวกกับระบบระบายความร้อน LiquidCool 2.0 ที่อัปเกรดมาใหม่ ช่วยให้เครื่องไม่ร้อนจนเกินไปเวลาเล่นนานๆ นี่คือจุดขายหลักที่ทำให้เกมเมอร์ต้องยอมจ่ายเลยครับ และเพื่อรองรับการเล่นเกมที่ยาวนาน POCO ยังอัดแบตเตอรี่มาให้ถึง 5500 mAh ซึ่งมากกว่า Redmi Note อยู่ 500 mAh ทำให้มันเป็นหนึ่งในมือถือที่แบตอึดที่สุดในลิสต์นี้ เล่นได้ทั้งวันแบบไม่ต้องกลัวแบตหมดครับ
แล้ว POCO X7 ต้องแลกอะไรไปบ้าง? สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือดีไซน์ครับ มันจะมีความ “เกมมิ่ง” มากกว่า โมดูลกล้องที่ใหญ่และโลโก้ POCO ที่ตะโกนออกมา อาจจะไม่ใช่สไตล์ที่ทุกคนชอบเท่าดีไซน์เรียบหรูของ Redmi Note ครับ เรื่องกล้องก็เช่นกัน แม้ว่ากล้องหลัก 64MP จะมีกันสั่น OIS มาให้ (ซึ่งดีมากสำหรับการถ่ายวิดีโอ) แต่ถ้าเทียบเม็ดสีและซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพนิ่งกับกล้อง 108MP ของ Redmi Note ตัว Note ก็มักจะให้ภาพที่สวยกว่าเล็กน้อยครับ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น! เพราะคนที่เลือก POCO X7 เขารู้ตัวอยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไร ถ้าคุณเป็นคนเล่นเกมเป็นหลัก ใช้มือถือหนักๆ ตลอดทั้งวัน และกำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่แรง คุ้ม จบในเครื่องเดียว Poco X7 คือม้าตีนปลายที่แซงทุกโค้งในด้านประสิทธิภาพครับ แถมการที่ยังเก็บช่องหูฟัง 3.5 มม. ไว้ให้ ก็คือการเอาใจเกมเมอร์ที่ไม่ต้องการดีเลย์จากหูฟังบลูทูธอย่างแท้จริง
คะแนนที่ได้
9.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“แรงจริงครับ! ผมเล่น Genshin ปรับกลางๆ ลื่นมาก แบต 5500 คืออึดสุดๆ เล่นทั้งวันยังเหลือ ชอบมากครับ” – เอก, อายุ 22
“ตอนแรกเล็ง Redmi Note 14 แต่พอเห็นสเปกชิปตัวนี้ เปลี่ยนใจเลยค่ะ เราว่ากล้องมันก็สวยนะ มี OIS ด้วย ถ่ายวิดีโอนิ่งดีค่ะ” – ทราย, อายุ 29
4. Xiaomi POCO M7 Pro ★★★★☆
“ตัวคุ้มสายสมดุล! ได้จอ AMOLED 120Hz ชาร์จไว 67W กล้อง 64MP OIS ในราคาสบายกระเป๋า”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้า POCO X7 มันแรงเกนงบไปหน่อย และ Redmi Note 14 ก็ดูจะแพงไปนิด Xiaomi POCO M7 Pro คือจุดกึ่งกลางที่สมบูรณ์แบบครับ! นี่คือมือถือที่ POCO สร้างมาเพื่อชิงพื้นที่ “ความคุ้มค่า” คืนมาจาก Redmi โดยการเอาฟีเจอร์เด็ดๆ ที่คนต้องการมากที่สุดมายัดรวมกัน ทั้งจอ AMOLED 120Hz, ชาร์จเร็ว 67W, และกล้อง 64MP ที่มีกันสั่น OIS! ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่มองหา Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 ที่ “สมดุล” ระหว่างประสิทธิภาพ, จอสวย, และกล้องที่ดี โดยที่ราคาอาจจะขยับลงมาอยู่ในโซน Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 ด้วยซ้ำไปครับ
สเปกเด่น
- จอแสดงผล: 6.67″ AMOLED, 120Hz
- ชิปเซ็ต: Helio G99-Ultra
- กล้องหลัง: 3 ตัว
- กล้องหลัก 64MP (f/1.8) พร้อม OIS
- กล้อง Ultrawide 8MP
- กล้อง Macro 2MP
- กล้องหน้า: 16MP
- แบตเตอรี่: 5000 mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จเร็ว 67W (แถมหัวชาร์จในกล่อง)
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS (สำหรับ POCO) บนฐาน Android 14/15
- อื่น ๆ: ลำโพงคู่สเตอริโอ, สแกนนิ้วใต้จอ, มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
POCO M7 Pro คือ “นักฆ่าเรือธง… ในคราบนักฆ่ารุ่นกลาง” อีกทีครับ! (ฮ่าๆ) คือมันเป็นมือถือที่ตัดทอนบางอย่างออกไป (เช่น ชิปที่แรงที่สุด หรือวัสดุพรีเมียม) แต่ไปเน้นใส่ฟีเจอร์ที่คน “รู้สึก” ได้จริงในชีวิตประจำวันเข้ามาแทน นี่คือ มือถือ Xiaomi งบ 8000 ที่ทำให้เราต้องทึ่งว่า “เฮ้ย ให้มาขนาดนี้เลยเหรอ?” สิ่งแรกที่ต้องชมคือการให้จอ AMOLED 120Hz พร้อมสแกนนิ้วใต้จอมาในราคานี้ ซึ่งปกติเราจะเจอในรุ่นที่แพงกว่านี้ครับ และการที่ให้ชาร์จไว 67W มาด้วยก็คือการฆ่าคู่แข่งในงบเดียวกันชัดๆ เพราะมันทำให้แบต 5000 mAh เต็มได้ในเวลาประมาณ 40-45 นาทีเท่านั้นเอง
ไฮไลท์เด็ดอีกอย่างที่ทำให้ M7 Pro โดดเด่นกว่าใครในลิสต์นี้ (นอกจาก X7) คือ “กล้อง 64MP OIS” ครับ การมีกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization) ในมือถือราคานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก มันช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยดีขึ้น เพราะกล้องสามารถเปิดหน้าชัตเตอร์ได้นานขึ้นโดยที่ภาพไม่เบลอ และที่สำคัญคือมันช่วยให้การถ่ายวิดีโอนิ่งขึ้นมากๆ ครับ ใครที่ชอบถ่ายสตอรี่ IG หรือ TikTok จะรักฟีเจอร์นี้เลย การที่มันยังสามารถถ่าย วิดีโอ 4K ด้วย Xiaomi ได้แบบนิ่งๆ (แม้จะเป็น 4K/30fps) ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วครับ แน่นอนว่าชิป Helio G99-Ultra อาจจะไม่ใช่ชิปที่แรงที่สุดสำหรับเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์ แต่มันก็แรงพอสำหรับใช้งานทั่วไปและเล่นเกมกราฟิกกลางๆ ได้ทุกเกม สรุปคือ ถ้าคุณกำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่ให้ฟีเจอร์ “ว้าว” เยอะที่สุดในราคาที่คุ้มที่สุด M7 Pro คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ
คะแนนที่ได้
9.3/10
รีวิวสั้น ๆ
“ตอนแรกนึกว่าจะช้า แต่ชิป G99-Ultra เอาเรื่องอยู่นะครับ ลื่นดี ที่ชอบสุดคือชาร์จ 67W กับกล้องมี OIS นี่แหละ คุ้มมาก” – เต้, อายุ 30
“ซื้อมาถ่ายคลิปลง TikTok ค่ะ กันสั่น OIS ช่วยได้เยอะมาก จอสวยด้วย ชอบที่ยังมีรูหูฟังให้เสียบไมค์ได้” – ใบตอง, อายุ 24
5. Xiaomi POCO C75 ★★★★☆
“รุ่นเริ่มต้นสุดประหยัด! ใช้งานทั่วไป จอใหญ่ 90Hz แบตอึด 5000mAh”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
มาถึงอันดับที่ 5 กันแล้วครับ คราวนี้เราขยับลงมาที่ซีรีส์ที่เน้นความประหยัดแบบสุดๆ กันบ้างกับ Xiaomi POCO C75 ครับ รุ่นนี้ติดเข้ามาในลิสต์ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ไม่ใช่เพราะสเปกมันแรงทะลุ 8,000 บาท แต่เพราะราคามัน “ต่ำกว่า 8,000” ไปมาก! (ส่วนใหญ่จะอยู่ในโซน Xiaomi ราคาไม่เกิน 4000) ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ตั้งงบไว้ 8,000 แต่ไม่อยากจ่ายเต็ม หรือคนที่มองหาเครื่องสำรอง/มือถือให้ผู้ใหญ่ใช้ ที่เน้นจอใหญ่, แบตอึด, และใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหลครับ
สเปกเด่น
- จอแสดงผล: 6.74″ IPS LCD, 90Hz
- ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G85
- กล้องหลัง: 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP (f/1.8)
- กล้อง Macro 2MP (หรือเลนส์ Depth)
- กล้องหน้า: 8MP
- แบตเตอรี่: 5000 mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จ 18W (อาจแถม 10W ในกล่อง)
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS (Go Edition หรือ MIUI) บนฐาน Android 14
- อื่น ๆ: สแกนนิ้วด้านข้าง, มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
POCO C-Series มีเป้าหมายที่ชัดเจนมากครับ คือการเป็น มือถือ Xiaomi งบ 8000 ที่ทำให้คุณจ่ายน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ยังได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีอยู่ POCO C75 ทำตรงนี้ได้ดีมากครับ สิ่งที่มันให้มาในราคาแค่ 3-4 พันบาท คือจอขนาดใหญ่ถึง 6.74 นิ้ว ที่เหมาะมากสำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการตัวอักษรใหญ่ๆ หรือคนที่ชอบดู YouTube แบบเต็มตา แถมยังให้ Refresh Rate 90Hz มาด้วย ทำให้การไถฟีดโซเชียลต่างๆ มันลื่นไหลกว่าจอ 60Hz แบบเดิมๆ ชัดเจนครับ ชิป Helio G85 แม้จะเก่าไปหน่อย แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปอย่าง LINE, Facebook, TikTok, ดูหนัง หรือเล่นเกมฆ่าเวลาอย่าง Candy Crush มันยังคงรับไหวสบายๆ ครับ
แน่นอนว่าด้วยราคานี้ มันต้องมีสิ่งที่ถูกตัดทอนไปครับ จอเป็น LCD ที่สีสันและความสว่างสู้ AMOLED ในรุ่นพี่ๆ ไม่ได้, กล้องรองที่มีมาให้ก็เหมือนมีไว้ให้ครบๆ มากกว่าใช้งานจริง (แต่กล้องหลัก 50MP ก็ยังถ่ายสวยในที่แสงดีนะครับ), และการชาร์จไฟที่ 18W ก็ต้องใช้เวลารอประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าแบต 5000 mAh จะเต็ม แต่… นั่นไม่ใช่ประเด็นเลยครับ เพราะคนที่มองหารุ่นนี้ คือคนที่ต้องการ “มือถือที่ใช้งานได้ดีและทนทาน” ในราคาที่ประหยัดที่สุด ถ้าโจทย์ของคุณคือการหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ให้คุณพ่อคุณแม่ใช้ หรือเป็นเครื่องสำรองที่แบตอึดๆ จอใหญ่ๆ POCO C75 คือคำตอบที่คุ้มค่าทุกสตางค์ และยังเหลือเงินทอนจากงบ 8,000 ไปซื้อของอย่างอื่นได้อีกบานเลยครับ!
คะแนนที่ได้
9.1/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อให้แม่ใช้ครับ ท่านชอบมาก จอใหญ่ดี ตัวหนังสือชัด แบตอึดมาก 2-3 วันชาร์จทีนึงเลย” – กอล์ฟ, อายุ 35
“ใช้เป็นเครื่องสำรองครับ ราคาไม่แพงเลย แต่ได้จอ 90Hz ลื่นดีนะ กล้องก็พอใช้ได้ ถือว่าคุ้มครับ” – แอน, อายุ 26
6. Xiaomi POCO C85 ★★★★☆
“รุ่นอัปเกรดสายประหยัด! ชิป G88 จอ 90Hz แบตอึด ดีไซน์ใหม่ สดใสกว่าเดิม”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ต่อกันที่รุ่นที่ 6 ครับ Xiaomi POCO C85 ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี (ที่ราคาจริงถูกกว่านั้นมาก) โดยรุ่นนี้เป็นการขยับอัปเกรดขึ้นมาจากซีรีส์ C7x เล็กน้อยครับ จุดที่ C85 ทำได้ดีขึ้นคือการเลือกใช้ชิป MediaTek Helio G88 ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่า G85 นิดหน่อย ทำให้การใช้งานทั่วไปลื่นไหลขึ้นอีกเล็กน้อย และมาพร้อมดีไซน์ฝาหลังแบบใหม่ที่ดูทันสมัยขึ้นครับ ถ้าคุณกำลังมองหา Xiaomi ราคาไม่เกิน 4000 ที่สดใหม่กว่า C75 รุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
สเปกเด่น
- จอแสดงผล: 6.74″ IPS LCD, 90Hz
- ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G88
- กล้องหลัง: 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP (f/1.8)
- กล้อง Macro 2MP
- กล้องหน้า: 8MP
- แบตเตอรี่: 5000 mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จ 18W
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS (Go Edition หรือ MIUI) บนฐาน Android 14
- อื่น ๆ: สแกนนิ้วด้านข้าง, มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
POCO C85 คือการปรับโฉมเล็กน้อย (Minor Change) ของ C75 ครับ โดยหัวใจหลักคือการอัปเกรดชิปจาก Helio G85 ไปเป็น Helio G88 ซึ่งในแง่การใช้งานจริง อาจจะไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างแบบก้าวกระโดด แต่ G88 ก็มีการจัดการพลังงานและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อย ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ “ดีกว่า” ในราคาที่แทบไม่ต่างกันครับ สิ่งที่ C85 ยังคงทำได้ดีเยี่ยมคือการเป็น มือถือ Xiaomi งบ 8000 (ที่ถูกกว่างบครึ่งนึง) ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานพื้นฐานที่ครบถ้วน จอใหญ่ 6.74 นิ้ว 90Hz ยังคงเป็นจุดขายหลักที่ทำให้การไถฟีดหรือดูวิดีโอทำได้ดี แบตเตอรี่ 5000 mAh ก็คือมาตรฐานของความอึดที่วางใจได้ ใช้งานทั่วไป 1-2 วันได้สบายๆ ครับ
กล้องหลัก 50MP ก็เป็นเซ็นเซอร์ที่ไว้ใจได้สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงจ้า ให้รายละเอียดที่คมชัดและสีสันที่ค่อนข้างตรง แต่ในที่แสงน้อยก็ต้องทำใจนิดนึงตามราคานะครับ รุ่นนี้จึงเหมาะมากสำหรับคนที่มองหามือถือเครื่องที่สอง, เครื่องให้ผู้ใหญ่ใช้ หรือนักเรียนนักศึกษาที่งบจำกัดมากๆ แต่ต้องการเครื่องที่หน้าตาดูใหม่ ดูทันสมัย และได้ประสิทธิภาพที่ไว้ใจได้ การที่มันยังคงมีช่องหูฟัง 3.5 มม. และสแกนนิ้วด้านข้างก็ถือเป็นความสะดวกที่หลายคนยังต้องการอยู่ สรุปคือ ถ้าคุณกำลังเทียบ C75 กับ C85 แล้วราคา C85 ไม่ได้แพงกว่ากันมาก การเลือก C85 ก็จะได้ของที่สดใหม่กว่าเล็กน้อยครับ
คะแนนที่ได้
9.0/10
รีวิวสั้น ๆ
“ผมใช้ขับแกร็บครับ แบตอึดดี จอใหญ่ดูแมพชัดเจน จอ 90Hz ลื่นดีครับ เทียบกับราคาคือคุ้มมาก” – พี่วิน, อายุ 41
“ซื้อมาใช้เป็นเครื่องสำรองค่ะ ดีไซน์สวยดี สีฟ้าสวยมาก ใช้งานทั่วไปลื่นดีค่ะ ไม่ได้เล่นเกมอะไรอยู่แล้ว” – นัท, อายุ 29
7. Xiaomi Redmi 14C ★★★★☆
“สาย Redmi งบประหยัด! ได้ชิป Snapdragon จอ 90Hz แบตอึดไว้ใจได้”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับแบรนด์ Redmi แต่มีงบประมาณจำกัดมากๆ ซีรีส์ C ของ Redmi ก็มีมาให้เลือกเหมือนกันครับ Xiaomi Redmi 14C คือคำตอบนั้น นี่คือมือถือที่เน้นฟังก์ชันพื้นฐานที่มั่นคง โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างจาก POCO C-series คือการเลือกใช้ชิปเซ็ตจากค่าย Snapdragon (ในรุ่นนี้คาดว่าเป็น Snapdragon 4 Gen 2) ซึ่งหลายคนให้ความไว้วางใจในเรื่องความเสถียรและการจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยมครับ ทำให้มันเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม สมาร์ทโฟน Xiaomi ราคา 8000 ที่เน้นความประหยัดครับ
สเปกเด่น
- จอแสดงผล: 6.71″ IPS LCD, 90Hz
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 4 Gen 2
- กล้องหลัง: 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP (f/1.8)
- เลนส์ Auxiliary (Depth)
- กล้องหน้า: 8MP
- แบตเตอรี่: 5000 mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จ 18W
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS (Go Edition หรือ MIUI) บนฐาน Android 14
- อื่น ๆ: สแกนนิ้วด้านข้าง, มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
Redmi 14C คือตัวเลือกสำหรับคนที่เชื่อมั่นใน “Snapdragon” ครับ ชิป Snapdragon 4 Gen 2 แม้จะเป็นซีรีส์ 4 แต่ด้วยความที่เป็น “Gen 2” มันจึงเป็นชิปที่ค่อนข้างใหม่ สร้างบนสถาปัตยกรรม 4nm ซึ่งหมายความว่ามัน “ประหยัดพลังงาน” มากๆ เมื่อจับคู่กับแบตเตอรี่ 5000 mAh ผลลัพธ์คือมือถือที่แบตอึดแบบสุดๆ ใช้งานทั่วไปลากยาว 2 วันได้แบบไม่ต้องกังวล นี่คือจุดแข็งที่ทำให้ 14C แตกต่างจาก POCO C-series ที่ใช้ Helio G8x ซึ่งเป็นชิปที่เก่ากว่าและกินไฟมากกว่าเล็กน้อยครับ
ในแง่การใช้งานอื่นๆ มันก็ทำได้ตามมาตรฐานครับ จอ 90Hz ทำให้การใช้งานลื่นไหล กล้อง 50MP ก็ถ่ายรูปได้สวยงามในสภาพแสงปกติ ดีไซน์ของ Redmi จะมีความเรียบง่ายและดูเป็นผู้ใหญ่กว่า POCO ที่เน้นสีสันฉูดฉาด ดังนั้น ถ้าคุณกำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่เน้นความ “อึด ถึก ทน” และความเสถียรของซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมชิป Snapdragon รุ่น Redmi 14C นี้ถือเป็นม้าใช้ที่ไว้ใจได้ และมักจะมีราคาที่น่าคบหามากๆ ในโซน 3,000 – 4,000 บาทครับ
คะแนนที่ได้
8.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“ผมชอบมือถือชิป Snap มากกว่า มันรู้สึกเสถียรดีครับ รุ่นนี้แบตอึดมาก ถูกใจเลย” – ชัย, อายุ 45
“ดีไซน์สวยเรียบๆ ดีค่ะ ไม่ใหญ่เกินไป ใช้งานลื่นดีค่ะ จอ 90Hz เห็นผลชัดเจน” – ปลา, อายุ 30
8. Xiaomi Redmi 15C ★★★★☆
“งบประหยัดที่รองรับ 5G! ชิป Dimensity 6100+ ดีไซน์ใหม่ อนาคตไกล”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของซีรีส์ C ครับ! Xiaomi Redmi 15C คือรุ่นที่ Xiaomi ตั้งใจส่งมา “ฆ่า” ตลาดล่างด้วยการใส่เทคโนโลยี 5G เข้ามา! ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งใน โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่ “Future-Proof” ที่สุดในกลุ่มงบประหยัด ด้วยการใช้ชิป Dimensity 6100+ ที่รองรับ 5G ทำให้มันไม่ใช่แค่ มือถือ Xiaomi งบ 8000 ธรรมดาๆ อีกต่อไป แต่เป็นมือถือ 5G ราคาประหยัดที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2025 นี้เลยครับ ราคามันอาจจะขยับขึ้นไปชนโซน โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 6000 แต่สิ่งที่ได้มาก็คือคุ้มค่ามากครับ
สเปกเด่น
- จอแสดงผล: 6.75″ IPS LCD, 90Hz
- ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 6100+ (รองรับ 5G)
- กล้องหลัง: 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP (f/1.8)
- เลนส์ Auxiliary (Depth)
- กล้องหน้า: 8MP
- แบตเตอรี่: 5000 mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จ 18W
- ระบบปฏิบัติการ: HyperOS บนฐาน Android 15
- อื่น ๆ: รองรับ 5G, สแกนนิ้วด้านข้าง, มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
Redmi 15C คือ “Game Changer” ของตลาดล่างครับ การที่ Xiaomi กล้าเอาจอ 90Hz, แบต 5000mAh, กล้อง 50MP มารวมกับชิป 5G อย่าง Dimensity 6100+ แล้วขายในราคาที่คาดว่าจะอยู่แถวๆ 5-6 พันบาท ถือว่าน่าทึ่งมาก ชิป Dimensity 6100+ ไม่ได้มีดีแค่ 5G นะครับ แต่มันยังมีความแรงที่มากกว่า Helio G8x หรือ Snap 4 Gen 2 อยู่พอสมควร ทำให้การใช้งานทั่วไปลื่นไหลขึ้น และยังพอที่จะเล่นเกมได้ดีขึ้นอีกระดับด้วยครับ นี่คือมือถือที่ออกแบบมาสำหรับคนที่อยากใช้ 5G แต่มีงบจำกัดจริงๆ ครับ
แน่นอนว่ามันต้องมี “จุดแลกเปลี่ยน” ครับ เพื่อที่จะคุมราคาให้เอา 5G มาใส่ได้ Redmi 15C จึงยังคงใช้จอ LCD (ไม่ใช่ AMOLED) และยังคงให้ระบบชาร์จมาแค่ 18W ซึ่งเมื่อเทียบกับแบต 5000 mAh ก็ต้องบอกว่าชาร์จช้าครับ (ประมาณ 2 ชั่วโมง) แต่นี่คือการตัดสินใจที่สมเหตุสมผลครับ Xiaomi เดิมพันว่าคนในตลาดนี้ยอมรอชาร์จนานขึ้น เพื่อแลกกับการได้ “5G” และ “ความแรงที่เพิ่มขึ้น” ครับ ถ้าคุณกำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่รองรับ 5G และมีงบจำกัดจริงๆ Redmi 15C คือตัวเลือกที่มาแรงและน่าสนใจที่สุดในปีนี้เลยครับ
คะแนนที่ได้
8.7/10
รีวิวสั้น ๆ
“รอรุ่นนี้เลยครับ อยากได้มือถือ 5G ราคาถูกๆ ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์สุดแล้ว” – ต้น, อายุ 25
“ดีไซน์ฝาหลังสวยมากครับ ดูแพงเลย ได้ 5G ด้วย ราคานี้ผมว่าคุ้มนะ ถึงจะชาร์จช้าไปหน่อยก็เถอะ” – อาร์ม, อายุ 32
9. Xiaomi POCO C71 ★★★★☆
“คุ้มค่า ฉบับรัดเข็มขัด! จอ 90Hz, แบต 5000mAh, ชิป G85 ในราคาที่ถูกที่สุด”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
กลับมาที่สายประหยัดสุดๆ กันอีกครั้งครับ Xiaomi POCO C71 คือหนึ่งในตัวเลือกที่มักจะถูกจัดโปรโมชั่นลดราคาแรงๆ จนไปอยู่ในโซน โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 3000 เลยทีเดียว! นี่คือมือถือที่ตัดทอนทุกอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป และเหลือไว้เพียง “แก่น” ของสมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้จริงครับ มันคือคำตอบสำหรับคำถาม โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่เน้น “ราคา” เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ แต่ก็ยังอยากได้สเปกที่ไว้ใจได้อย่างชิป Helio G85, จอ 90Hz และแบตอึด 5000mAh ครับ
สเปกเด่น
- จอแสดงผล: 6.71″ IPS LCD, 90Hz
- ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G85
- กล้องหลัง: 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP (f/1.8)
- เลนส์ Auxiliary (Depth)
- กล้องหน้า: 8MP
- แบตเตอรี่: 5000 mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จ 18W
- ระบบปฏิบัติการ: MIUI (Go Edition) บนฐาน Android 13/14
- อื่น ๆ: สแกนนิ้วด้านข้าง, มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
POCO C71 คือมือถือสำหรับคน “รัดเข็มขัด” ตัวจริงครับ จุดยืนของมันคือการเป็นตัวเลือกที่ถูกที่สุด แต่ยังให้สเปกหลักๆ ที่จำเป็นมาครบถ้วน ชิป Helio G85 คือชิปในตำนานที่พิสูจน์ตัวเองมาหลายปีแล้วว่า “เอาอยู่” สำหรับการใช้งานพื้นฐานทั้งหมด ทั้งเล่นโซเชียล, ดู YouTube, หรือแม้แต่เล่น RoV ก็ยังพอไหวครับ การที่มันยังให้จอ 90Hz มาด้วยในราคานี้ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เพราะมันทำให้ประสบการณ์การใช้งานดีกว่าจอ 60Hz แบบเก่าๆ มาก
สิ่งที่ต้องรู้คือ C71 (หรือ C-series ราคาถูกมากๆ) มักจะมาพร้อมกับ Android (Go Edition) หรือ MIUI ที่ถูกปรับแต่งมาให้ “เบา” ที่สุด ซึ่งหมายความว่าแอนิเมชั่นบางอย่างอาจจะถูกตัดออกไป และอาจจะไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์หนักๆ บางอย่างได้ แต่นั่นก็แลกมากับความลื่นไหลในฮาร์ดแวร์ที่จำกัดครับ ถ้าคุณมีงบประมาณที่จำกัดจริงๆ และกำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี (ที่ราคาจริงแค่ 2,000 ปลายๆ) เพื่อใช้เป็นเครื่องสำรอง, ให้ลูกหลานใช้เรียนออนไลน์ หรือให้ผู้ใหญ่ที่เน้นโทรเข้า-รับสายและเล่น LINE, POCO C71 คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์และประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากที่สุดครับ
คะแนนที่ได้
8.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อมาตอน 11.11 ได้มา 2,500 บาท คุ้มยิ่งกว่าคุ้มครับ ใช้เป็นเครื่องสำรอง ลื่นดี แบตอึดมาก” – โจ, อายุ 36
“ซื้อให้ลูกชายใช้ค่ะ ราคาไม่แพง พังมาไม่เสียดายมาก (ฮ่าๆ) แต่เค้าก็ใช้เรียนได้ เล่นเกมได้นะคะ” – แม่น้องเก้า, อายุ 40
10. Xiaomi POCO C65 ★★★★☆
“รุ่นเก๋าสุดคุ้ม! เจ้าพ่อตลาดล่าง ราคาลงหนัก สเปกยังไหว (Helio G85 + 50MP)”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ปิดท้ายลิสต์ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ของเราด้วย “รุ่นเก๋า” ที่ยังคงเป็นขวัญใจมหาชนสายประหยัดครับ Xiaomi POCO C65 คือรุ่นที่สร้างปรากฏการณ์ “สเปกคุ้มค่า” ในตลาดล่างเมื่อปีที่แล้ว และในปี 2025 นี้ มันยังคงเป็นตัวเลือกที่ “คุ้ม” มากๆ เพราะราคาที่ลดลงมาจนน่าใจหายครับ! มันคือมือถือที่ใช้ชิป Helio G85, กล้อง 50MP, และแบต 5000mAh เหมือนกับรุ่นใหม่ๆ อย่าง C71 หรือ C75 แต่มาในราคาที่อาจจะถูกกว่าด้วยซ้ำไปครับ
สเปกเด่น
- จอแสดงผล: 6.74″ IPS LCD, 90Hz
- ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G85
- กล้องหลัง: 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP (f/1.8)
- กล้อง Macro 2MP
- กล้องหน้า: 8MP
- แบตเตอรี่: 5000 mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จ 18W
- ระบบปฏิบัติการ: MIUI 14 (อัปเดตเป็น HyperOS ได้) บนฐาน Android 13/14
- อื่น ๆ: สแกนนิ้วด้านข้าง, มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
POCO C65 คือ “ตัวเลือกที่ปลอดภัย” ที่สุดสำหรับคนงบน้อยครับ เหตุผลที่มันยังติดโผ มือถือ Xiaomi งบ 8000 (ที่ราคาจริงไม่ถึง 3,000) ก็เพราะสเปกหลักๆ ของมัน แทบไม่ต่างจากรุ่นใหม่อย่าง C71, C75, หรือ C85 เลยครับ! มันยังคงใช้ชิป Helio G85, จอ 6.74 นิ้ว 90Hz, กล้อง 50MP, และแบต 5000mAh เหมือนกันเป๊ะๆ สิ่งที่ต่างกันคือ “ดีไซน์” และ “ปีที่ออก” ครับ
การเลือก C65 ในปี 2025 ถือเป็น “Smart Choice” สำหรับคนที่ไม่แคร์ว่าต้องได้ของใหม่ล่าสุด แต่แคร์ว่า “จ่ายน้อยที่สุด” แล้วได้ “ของที่คุ้มที่สุด” ครับ ด้วยความที่เป็นรุ่นยอดนิยม ทำให้มีรีวิวให้อ่านเยอะมาก มีเคสและฟิล์มให้เลือกเพียบ และที่สำคัญคือราคามัน “นิ่ง” และมักจะถูกถล่มด้วยโปรโมชั่นบ่อยๆ ครับ ถ้าคุณเจอ C65 ในราคาที่ถูกกว่า C71 หรือ C75 เป็นหลักหลายร้อย โดยที่สเปกหลักเหมือนกัน… ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เลือก C65 เลยใช่ไหมครับ? นี่คือตัวจบสายประหยัดที่แท้จริงครับ
คะแนนที่ได้
8.4/10
รีวิวสั้น ๆ
“ยังใช้อยู่เลยครับ C65 ทนมาก แบตยังอึด จอยังลื่น คุ้มสุดๆ แล้วครับรุ่นนี้” – ลุงชัย, อายุ 50
“เพิ่งซื้อให้ยายใช้ค่ะ ราคาถูกดี จอใหญ่ชัดแจ๋ว ท่านชอบมาก” – มุก, อายุ 23
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ: ทำไม Xiaomi ถึงครองตลาดงบ 8,000?
เมื่อพูดถึงตลาด โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี นักวิเคราะห์จากสื่อเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง GSMArena และ XDA-Developers มักจะมีความเห็นที่ตรงกันครับว่า Xiaomi ได้สร้าง “สูตรสำเร็จ” ที่ยากต่อการล้มล้างในตลาดนี้
“Xiaomi ไม่ได้แข่งขันด้วยราคาเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขากำลังแข่งขันด้วย ‘ฟีเจอร์’ พวกเขากล้าที่จะนำเทคโนโลยีที่เคยอยู่ในมือถือเรือธง เช่น จอ AMOLED 120Hz, กล้อง 108MP, หรือชาร์จไว 67W มาใส่ในมือถือที่ราคาไม่ถึงหมื่น นี่คือสิ่งที่แบรนด์อื่นทำตามได้ยาก”
ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์ถึงกลยุทธ์หลักที่ทำให้ มือถือ Xiaomi งบ 8000 ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ครับ:
1. กลยุทธ์ ‘สเปกชนเรือธง’ ในราคามิตรภาพ
นี่คือกลยุทธ์คลาสสิกของ Xiaomi โดยเฉพาะกับแบรนด์ลูกอย่าง POCO ครับ พวกเขาเข้าใจว่ามีผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่ “รู้สเปก” และต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในงบที่จำกัด การเปิดตัว POCO X7 ที่ใช้ชิป Snapdragon 7+ Gen 2 (ซึ่งแรงระดับเรือธงรุ่นก่อน) ในราคาไม่ถึง 8,000 บาท คือการ “ตัดราคา” คู่แข่งทุกรายในแง่ของความแรง นี่คือหนึ่งใน 5 เหตุผลหลักที่คนเลือก Xiaomi มากกว่าแบรนด์อื่นครับ
2. การแบ่งตลาดที่ชัดเจน (Redmi vs POCO)
Xiaomi ฉลาดมากในการใช้แบรนด์ย่อยเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน
- Redmi (โดยเฉพาะ Redmi Note): ถูกวางตำแหน่งให้เป็น “All-Rounder” หรือมือถือที่ครบเครื่อง เน้นดีไซน์ที่พรีเมียม, จอ AMOLED ที่สวยงาม, และกล้องความละเอียดสูง (เช่น 108MP) นี่คือตัวเลือก “ปลอดภัย” สำหรับคนทั่วไปที่อยากได้มือถือดีๆ สักเครื่อง
- POCO (X และ M series): ถูกวางตำแหน่งให้เป็น “Performance Phone” หรือมือถือสายแรง เน้นชิปเซ็ตที่แรงที่สุด, แบตที่อึดที่สุด, และฟีเจอร์ที่เอาใจเกมเมอร์ (เช่น POCO X7) โดยอาจจะลดต้นทุนด้านวัสดุหรือดีไซน์ลงเล็กน้อย
การแบ่งแบบนี้ทำให้ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้สายไหน Xiaomi ก็มีคำตอบให้คุณเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่แบรนด์คู่แข่งอย่าง Xiaomi vs Samsung ต้องพยายามต่อสู้ในตลาดระดับกลางนี้อย่างหนักครับ
3. HyperOS: อาวุธลับที่เชื่อมโยงทุกอย่าง
การเปลี่ยนจาก MIUI มาเป็น HyperOS คือการเดิมพันครั้งใหญ่ที่เริ่มเห็นผลครับ HyperOS ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับมือถือเท่านั้น แต่สำหรับ “ทุกอย่าง” ใน Ecosystem ของ Xiaomi ตั้งแต่สมาร์ทวอทช์, แท็บเล็ต, ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน การที่ สมาร์ทโฟน Xiaomi ราคา 8000 ของคุณสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้อย่างไร้รอยต่อ คือมูลค่าเพิ่มที่แบรนด์อื่นให้ไม่ได้ และมันช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ได้อย่างมหาศาล ซึ่งทั้งหมดนี้เริ่มต้นมาจาก ประวัติและวิสัยทัศน์ของ Xiaomi ที่ต้องการสร้าง “Internet of Things” ครับ
บทวิเคราะห์จากทีมงาน ToplistPlus
“สำหรับทีมงานเรา การเลือก โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ในปี 2025 คือการต่อสู้ที่สนุกที่สุดครับ มันคือการชั่งน้ำหนักระหว่าง ‘ความครบเครื่อง’ ของ Redmi Note 14 กับ ‘ความแรงทะลุมิติ’ ของ POCO X7 ในขณะที่รุ่นประหยัดอย่าง Redmi 15C ก็ชิงพื้นที่ด้วยการนำ ‘5G’ มาให้ในราคาที่ถูกเหลือเชื่อ นี่แสดงให้เห็นว่า Xiaomi ไม่เคยหยุดนิ่ง และยังคงเป็น ‘เจ้าตลาด’ ที่เข้าใจผู้บริโภคในงบนี้ได้ดีที่สุดครับ”
คู่มือฉบับจับมือซื้อ: เลือก โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ให้โดนใจ
หลังจากดูรีวิวไปครบทั้ง 10 รุ่นแล้ว หลายคนอาจจะเริ่มมีรุ่นในใจ แต่บางคนก็อาจจะยังลังเลว่า “แล้วสรุปตัวไหนเหมาะกับฉันที่สุด?” ไม่ต้องกังวลครับ ผมมี คู่มือเลือกซื้อมือถือ Xiaomi ฉบับย่อมาให้ ลองมาเช็กลิสต์กันทีละข้อครับว่าคุณให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด แล้วคุณจะเจอคำตอบว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่เกิดมาเพื่อคุณครับ!
1. คุณคือใคร? (Redmi Note vs POCO X vs POCO C)
นี่คือคำถามแรกและสำคัญที่สุดครับ
- คุณเป็นสาย All-Rounder (ใช้งานทั่วไป, เล่นโซเชียล, ถ่ายรูปสวย, ดูซีรีส์): ให้มุ่งไปที่ Redmi Note 14 หรือ Redmi Note 13 ครับ คุณจะได้จอ AMOLED ที่สวยที่สุด, กล้อง 108MP ที่ดีที่สุด, และดีไซน์ที่พรีเมียมที่สุดในงบนี้
- คุณเป็นสาย Gamer (เล่นเกมหนัก, ต้องการความลื่นไหล, ไม่แคร์กล้องมาก): ไม่ต้องคิดเยอะครับ POCO X7 คือคำตอบเดียวของคุณ ด้วยชิปที่แรงที่สุดในลิสต์นี้ มันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ครับ
- คุณเป็นสายสมดุล (อยากได้จอสวย, ชาร์จไว, กล้องมี OIS, เล่นเกมบ้าง): POCO M7 Pro คือจุดกึ่งกลางที่น่าสนใจมาก ให้ฟีเจอร์มาเยอะในราคาที่คุ้มค่า
- คุณเป็นสายประหยัด (งบจำกัด, ซื้อให้ผู้ใหญ่, เครื่องสำรอง, เน้นแบตอึด): มองไปที่ตระกูล C เลยครับ เช่น POCO C85, Redmi 14C หรือถ้าอยากได้ 5G ด้วย ก็ขยับไป Redmi 15C ครับ
2. ‘จอ’ สำคัญแค่ไหน? (AMOLED 120Hz vs LCD 90Hz)
ในงบ 8,000 นี้ เรามี 2 ตัวเลือกหลักครับ
- AMOLED 120Hz (ในรุ่น Note 14/13, Poco X7/M7): ถ้าคุณเสพติดการดู Netflix, YouTube, หรือชอบจอที่สีสันสดจัดจ้าน ดำสนิท และลื่นไหลสุดๆ การลงทุนกับจอ AMOLED คือคำตอบครับ ประสบการณ์ต่างกันชัดเจน
- IPS LCD 90Hz (ในรุ่น C-Series): ถ้าคุณใช้งานทั่วไป, เล่น LINE, Facebook, และไม่ได้ซีเรียสว่าสีต้องสดขั้นสุด จอ LCD 90Hz ก็ถือว่า “ดีเพียงพอ” แล้วครับ มันยังคงลื่นไหลกว่าจอ 60Hz ในมือถือราคาถูกรุ่นเก่าๆ มาก
3. ‘กล้อง’ 108MP, 64MP OIS, หรือ 50MP?
อย่าโดนตัวเลขหลอกครับ! มือถือ Xiaomi กล้องสวย ไม่ได้ดูกันที่เมกะพิกเซลอย่างเดียว
- 108MP (ใน Redmi Note 14/13): เหมาะกับ “สายถ่ายภาพนิ่ง” ครับ คุณจะได้ไฟล์ภาพที่มีรายละเอียดสูงมาก ซูมดูแล้วยังคมชัด เหมาะกับการถ่ายวิวหรือครอปภาพมาใช้งานต่อ
- 64MP + OIS (ใน POCO X7/M7 Pro): เหมาะกับ “สายถ่ายวิดีโอ” และ “สายถ่ายกลางคืน” ครับ การมีกันสั่น OIS ช่วยให้วิดีโอนิ่งขึ้นมาก และช่วยให้ถ่ายภาพกลางคืนได้ง่ายขึ้น (ภาพไม่สั่นเบลอ)
- 50MP (ใน C-Series): นี่คือ “มาตรฐาน” ที่ดีครับ มันให้ภาพที่สวยและคมชัดเพียงพอสำหรับการใช้งานโซเชียลทั่วไปในชีวิตประจำวันครับ
4. หัวใจหลัก ‘ชิปเซ็ต’: (Snapdragon vs MediaTek)
ยุคนี้ “MediaTek ไม่ได้แย่” แล้วนะครับ! เลิกอคติเก่าๆ ได้เลย สิ่งที่ควรถามคือ “รุ่นไหนแรงกว่า” มากกว่าครับ
- แรงที่สุด (เกมเมอร์): POCO X7 (Snap 7+ Gen 2) นำโด่งมาเลยครับ
- แรงรองลงมา (ใช้งานลื่น + 5G): Redmi 15C (Dimensity 6100+) หรือ Redmi Note 14 (Snap 7s Gen 3)
- แรงมาตรฐาน (ใช้งานทั่วไป/เกม 4G): POCO M7 Pro (Helio G99-Ultra) หรือ Redmi Note 13 (Snap 685)
- แรงระดับพื้นฐาน (ใช้งานทั่วไป): ตระกูล C-Series (Helio G85/G88, Snap 4 Gen 2)
ถ้าอยากชัวร์, วิธีดูสเปกมือถือ Xiaomi ก่อนซื้อ ที่ดีที่สุดคือการดู “คะแนน AnTuTu” ของชิปนั้นๆ ประกอบการตัดสินใจครับ
5. ‘การชาร์จ’ 67W vs 33W vs 18W
นี่คือฟีเจอร์ที่เปลี่ยนชีวิตครับ
- 67W (ใน Note 14, Poco X7/M7): “เร็วฟ้าผ่า” ใช้เวลาชาร์จ 0-100% ประมาณ 40-45 นาที เหมาะกับคนที่ไม่ชอบรอนาน หรือชอบชาร์จตอนเช้าก่อนไปทำงาน
- 33W (ใน Note 13): “เร็วมาตรฐาน” ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10-15 นาที ก็ยังถือว่าเร็วครับ
- 18W (ใน C-Series): “ช้าแต่ชัวร์” ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เหมาะกับคนที่ชาร์จข้ามคืนเป็นปกติอยู่แล้วครับ
HyperOS คืออะไร? สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ มือถือ Xiaomi งบ 8000
ถ้าคุณติดตามข่าวสารวงการมือถือมาบ้าง จะเห็นว่า Xiaomi ได้เปลี่ยนจากระบบ MIUI ที่เราคุ้นเคย มาเป็น HyperOS เรียบร้อยแล้ว และมือถือใหม่ๆ ในปี 2025 ที่เราลิสต์มาทั้งหมดนี้ ก็จะมาพร้อมกับ HyperOS (หรืออัปเดตได้) ตั้งแต่แกะกล่องครับ
แล้วมันคืออะไร? HyperOS คือระบบปฏิบัติการใหม่ของ Xiaomi ที่ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อมือถืออย่างเดียวครับ แต่มันคือ “ศูนย์กลาง” ที่จะเชื่อมโยงอุปกรณ์ Xiaomi ทุกอย่างเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, สมาร์ทวอทช์, หูฟัง, หรือแม้แต่รถยนต์ไฟฟ้า! นี่คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่คนเลือก Xiaomi ในยุคนี้เลยครับ
ในฐานะผู้ใช้งาน สมาร์ทโฟน Xiaomi ราคา 8000 สิ่งที่คุณจะ “รู้สึก” ได้จาก HyperOS คือ:
- ความลื่นไหลที่มากขึ้น: HyperOS ถูกออกแบบมาให้ “เบา” กว่า MIUI ตัวเก่าครับ แอนิเมชั่นการเปิด-ปิดแอป, การไถฟีด, และการสลับแอป จะรู้สึกติดนิ้วและตอบสนองได้เร็วยิ่งขึ้น
- หน้าตาที่สวยงามขึ้น: มีการปรับดีไซน์เล็กๆ น้อยๆ ให้ดูสะอาดตามากขึ้น, Control Center (ที่ลากลงมาจากข้างบน) ใช้งานง่ายขึ้น, และมีฟีเจอร์ปรับแต่ง Lockscreen ได้หลากหลายมากขึ้นครับ
- การทำงานร่วมกัน: ถ้าคุณมีแท็บเล็ต Xiaomi คุณสามารถลากรูปจากมือถือไปวางบนแท็บเล็ตได้เลย หรือถ้าคุณใช้ Smart Watch การเชื่อมต่อและการแจ้งเตือนก็จะเสถียรและรวดเร็วยิ่งขึ้นครับ
ไม่ต้องกังวลนะครับ มันยังคงเป็น “Android” ที่คุ้นเคย คุณยังคงโหลดแอปจาก Google Play Store ได้เหมือนเดิมทุกอย่าง แค่มันถูกครอบทับด้วย “บ้าน” หลังใหม่ที่สวยกว่าและทำงานได้เร็วกว่าเดิมครับ
เรื่อง(ไม่)ลับของ ‘ชาร์จไว’: 67W, 33W และ สายชาร์จ Type C ที่คุณต้องมี
หนึ่งในฟีเจอร์ชูโรงของ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี คือ “ระบบชาร์จเร็ว” ครับ ไม่ว่าจะเป็น 67W, 33W, หรือ 18W ก็ตาม แต่มีข้อควรระวังที่หลายคนอาจไม่รู้ครับ
เทคโนโลยีชาร์จเร็วของ Xiaomi (เช่น Mi Turbo Charge) เป็นเทคโนโลยี “เฉพาะ” ของแบรนด์ครับ นั่นหมายความว่า…
- ต้องใช้ “หัวชาร์จ” และ “สายชาร์จ” ของแท้ที่แถมมาเท่านั้น!
- ถ้าคุณใช้หัวชาร์จ 67W ของ Xiaomi แต่ไปใช้ สายชาร์จ Type C ทั่วไปที่ซื้อตามตลาดนัด ความเร็วที่ได้อาจจะลดลงเหลือแค่ 18W หรือ 27W เท่านั้นครับ!
- ในทางกลับกัน ถ้าคุณใช้สาย 67W ของ Xiaomi แต่ไปเสียบกับหัวชาร์จ 20W ของแบรนด์อื่น ไฟก็จะเข้าแค่ 20W ครับ
ดังนั้น กฎเหล็กคือ “ใช้ชุดชาร์จที่แถมมาในกล่องกับเครื่องนั้นๆ เสมอ” เพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุดครับ (ซึ่งโชคดีที่ Xiaomi ยังแถมมาให้ในกล่องทุกรุ่น!) ส่วนถ้าสายหรือหัวชาร์จพัง และคุณจำเป็นต้องซื้อใหม่ แนะนำให้ซื้อของแท้จากศูนย์ Xiaomi หรือเลือกซื้อ สายชาร์จ Type C ยี่ห้อดีๆ ที่ระบุชัดเจนว่า “รองรับ Mi Turbo Charge 67W” ครับ อย่าเสียดายเงินกับสายชาร์จราคาถูก เพราะมันอาจทำให้คุณชาร์จช้าลงหรือเป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่ได้ครับ
มองไกลอีกนิด? เทียบงบ 8,000 กับ Xiaomi ราคาไม่เกิน 10000
ผมเข้าใจครับว่าตอนตั้งงบ 8,000 บาท มันมักจะมีคำถามในใจว่า “ถ้าเพิ่มอีกนิดล่ะ? จะได้อะไร”
การขยับงบจาก 8,000 บาท ไปเป็น 10,000 บาท (หรือเพิ่มเงินอีกประมาณ 2,000 บาท) สิ่งที่คุณมักจะได้เพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดคือ:
- ชิปเซ็ตที่แรงขึ้นไปอีกขั้น: คุณจะเริ่มเข้าสู่ “POCO F-Series” หรือ “Redmi Note Pro+” ซึ่งมักจะใช้ชิปซีรีส์ Dimensity 8xxx หรือ Snapdragon 7+ Gen 3/Gen 4 ที่แรงขึ้นไปอีกระดับ เหมาะสำหรับเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์ตัวจริง
- ระบบชาร์จที่ไวกว่า: คุณจะได้เห็น “120W HyperCharge” ซึ่งชาร์จ 0-100% ได้ในเวลาไม่ถึง 20-25 นาที!
- วัสดุและงานประกอบ: อาจจะได้กรอบเครื่องที่เป็นโลหะ หรือฝาหลังที่เป็นกระจก Gorilla Glass ที่หรูหราและทนทานกว่า
- กล้องรองที่ดีขึ้น: กล้อง Ultrawide อาจจะมีความละเอียดสูงขึ้น หรือมีกันสั่น OIS มาให้ในกล้องหลักเป็นมาตรฐาน
ดังนั้น คำถามคือ “คุ้มไหม?”
- ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์: การเพิ่มเงินไปเอา POCO F-Series ในงบ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 10000 อาจจะ “คุ้ม” มาก
- ถ้าคุณใช้งานทั่วไป: ผมคิดว่า มือถือ Xiaomi งบ 8000 อย่าง Redmi Note 14 หรือ POCO X7 มัน “เหลือเฟือ” และ “คุ้มค่า” ที่สุดแล้วครับ ฟีเจอร์ที่คุณได้ในงบ 8,000 บาท มันเพียงพอต่อการใช้งานไปอีก 2-3 ปีสบายๆ ครับ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000
- ถาม: โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่เล่นเกมลื่นที่สุด?
ตอบ: POCO X7 ครับ ด้วยชิปเซ็ตที่แรงที่สุดในลิสต์ (Snapdragon 7+ Gen 2 หรือเทียบเท่า), จอ 120Hz, และแบต 5500mAh นี่คือตัวเลือกอันดับ 1 สำหรับสายเกมเมอร์ในงบนี้ครับ - ถาม: โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่กล้องสวยที่สุด?
ตอบ: Redmi Note 14 ครับ ด้วยกล้องหลัก 108MP ที่ให้รายละเอียดภาพนิ่งได้ดีที่สุด และซอฟต์แวร์ AI ที่ปรับจูนมาใหม่ ทำให้ถ่ายภาพได้สวยและง่ายครับ แต่ถ้าคุณเน้น “ถ่ายวิดีโอ” POCO M7 Pro หรือ POCO X7 ที่มีกันสั่น OIS ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ - ถาม: ระหว่าง Redmi กับ POCO อันไหนดีกว่ากัน?
ตอบ: ไม่มีใครดีกว่าใครครับ มัน “ดีคนละแบบ” Redmi Note จะเน้นความพรีเมียม, จอสวย, กล้องเทพ, เหมาะกับการใช้งานทั่วไป (All-Rounder) ส่วน POCO จะเน้นความแรง, ชิปเซ็ต, แบตอึด, เหมาะกับสายเกมเมอร์และคนที่เน้นประสิทธิภาพครับ - ถาม: ซื้อ มือถือ Xiaomi งบ 8000 ตอนนี้ จะใช้ได้กี่ปี?
ตอบ: โดยทั่วไป มือถือในระดับนี้ (เช่น Redmi Note 14 หรือ POCO X7) สามารถใช้งานได้สบายๆ 2-4 ปี ครับ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ โดย Xiaomi มักจะการันตีอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android ให้อย่างน้อย 2-3 ปี และอัปเดตความปลอดภัย 3-4 ปีครับ - ถาม: Xiaomi ยังมีปัญหากับ Google Mobile Services (GMS) ไหม?
ตอบ: ไม่มีแล้วครับ มือถือ Xiaomi ทุกรุ่นที่ขายในประเทศไทย (Global Version) มาพร้อมกับ Google Mobile Services (GMS) ครบถ้วน สามารถใช้งาน Google Play Store, Gmail, YouTube, Google Maps ได้ตามปกติ 100% ครับ หายห่วงได้เลย - ถาม: โทรศัพท์ Xiaomi ดีไหม? ยังน่าใช้อยู่หรือเปล่า?
ตอบ: น่าใช้มากครับ โดยเฉพาะในตลาดงบไม่เกิน 8,000 บาท Xiaomi ยังคงเป็น “ราชาแห่งความคุ้มค่า” ที่ให้สเปกฮาร์ดแวร์มาดีที่สุดเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไปครับ
บทสรุป: โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี ที่ใช่สำหรับคุณ
เดินทางกันมาถึงบทสรุปแล้วนะครับ กับการจัดอันดับ 10 โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000 รุ่นไหนดี อัปเดตล่าสุด 2025 ผมหวังว่ารีวิวและการวิเคราะห์ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ จะเห็นได้ว่างบ 8,000 บาทในปีนี้ (หรืออาจจะต่ำกว่านั้นมาก) Xiaomi จัดเต็มให้เราแบบไม่มีกั๊กเลยจริงๆ
ถ้าให้ผมสรุปแบบฟันธง 3 ตัวเลือกสุดท้ายที่โดดเด่นที่สุด ก็คงจะเป็น:
- Redmi Note 14: “ราชาผู้ครบเครื่อง” เหมาะสำหรับคนทั่วไปที่อยากได้มือถือที่ทำได้ดีทุกอย่าง ทั้งจอ AMOLED 120Hz สวยๆ, กล้อง 108MP เทพๆ, และชาร์จไว 67W
- POCO X7: “อสูรแห่งความแรง” เหมาะสำหรับสายเกมเมอร์ตัวจริง ที่ต้องการชิปที่แรงที่สุดในงบนี้ และแบตเตอรี่ที่อึดมหาศาล
- Redmi 15C / POCO C-Series: “แชมป์เปี้ยนแห่งความคุ้มค่า” เหมาะสำหรับคนงบประหยัด (3,000 – 6,000 บาท) ที่ต้องการมือถือใช้งานทั่วไปที่ไว้ใจได้ หรืออยากได้มือถือ 5G ในราคาที่ถูกที่สุด
สุดท้ายนี้ ไม่มี มือถือ Xiaomi งบ 8000 รุ่นไหนที่ “ดีที่สุด” สำหรับทุกคนครับ มีแต่รุ่นที่ “ใช่ที่สุด” สำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณ ลองถามตัวเองดูว่าคุณเป็นคนแบบไหน แล้วเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์นั้นที่สุดครับ ไม่ว่าคุณจะเลือกตัวไหน ผมรับรองว่าคุณจะได้รับ “ความคุ้มค่า” ที่แบรนด์อื่นให้ได้ยากอย่างแน่นอนครับ! ขอให้มีความสุขกับมือถือเครื่องใหม่นะครับ!
หมายเหตุจากผู้เขียน:
- รายละเอียดเรื่องสเปก, ราคา, ROM/RAM, หรือการรับประกัน ควรตรวจสอบเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของ Xiaomi, POCO หรือเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแต่ละแบรนด์อีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ
- บทความนี้เขียนขึ้นอย่างเป็นกลาง ไม่ได้รับการสนับสนุนหรือชี้นำจากแบรนด์ใด ๆ ครับ จุดประสงค์คือเพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากที่สุด หากเพื่อนๆ กดลิงก์เพื่อตรวจสอบราคา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเพียงเล็กน้อยเพื่อสนับสนุนการทำงานและพัฒนาเว็บไซต์ของเรา แต่รับรองได้ว่าจะไม่กระทบต่อการจัดอันดับหรือคำแนะนำสินค้าแน่นอนครับ ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัว
- บทความนี้จัดทำโดยใช้ AI ช่วยในการรวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลจากหลายแหล่งที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม หากมีข้อคลาดเคลื่อน แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้ผลิตหรือร้านค้าโดยตรง ทั้งนี้ข้อมูลในบทความอ้างอิงจากสเปกและข่าวสารช่วงล่าสุด ซึ่งคุณสมบัติหรือราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตครับ
- คะแนน (เช่น 9.8/10 หรือ 9.5/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน ToplistPlus อ้างอิงจากสเปก, ฟีเจอร์, ราคา, และรีวิวผู้ใช้จริงจากแหล่งต่างๆ เช่น Reddit, GSMArena, และคอมมูนิตี้ผู้ใช้งานครับ
- รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “[ชื่อเล่น], อายุ …”) เป็นตัวอย่างสมมุติที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลและรีวิวจากผู้ใช้จริงมาเรียบเรียงใหม่เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพเท่านั้นครับ
