สวัสดีครับเพื่อนๆ! กลับมาเจอกันอีกแล้ว วันนี้ผมมีเรื่องที่ตื่นเต้นมากๆ มาเล่าให้ฟังครับ ถ้าใครติดตามวงการสมาร์ทโฟนอยู่ล่ะก็ คงไม่มีใครไม่รอคอยการมาถึงของ “ราชา” องค์ใหม่จากบ้าน Xiaomi ใช่ไหมครับ? ใช่แล้ว! ผมกำลังพูดถึง รีวิว Xiaomi 15 Ultra ที่ลือกันให้แซ่ดว่านี่คือการปฏิวัติวงการมือถือเรือธงอีกครั้ง หลังจากที่ Xiaomi 14 Ultra สร้างมาตรฐานไว้สูงลิ่ว คราวนี้ Xiaomi 15 Ultra กลับมาพร้อมกับสเปกที่เรียกว่า “จัดเต็ม” จนไม่รู้จะเต็มยังไงแล้ว!
บอกตามตรง แค่เห็นสเปกที่หลุดออกมาก็มือสั่นแล้วครับ (อยากได้!) ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุดที่แรงทะลุนรก, นวัตกรรมกล้องที่พัฒนาร่วมกับ Leica ที่ยัดเซนเซอร์ 200MP Periscope เข้ามา, หรืองานประกอบที่พรีเมียมขั้นสุด บทความนี้จะเป็นการเจาะลึก รีวิว Xiaomi 15 Ultra แบบทุกซอกทุกมุม รวบรวมข้อมูล สเปก ข่าวลือ และบทวิเคราะห์จากต่างประเทศมาให้เพื่อนๆ อ่านกันแบบจุใจ ว่าที่เรือธงลำนี้จะ “Ultra” สมชื่อแค่ไหน และมันคุ้มค่าที่จะเป็นมือถือเครื่องต่อไปของเราหรือไม่ ถ้ายังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือก โทรศัพท์ Xiaomi รุ่นไหนดี ตัวนี้อาจเป็นคำตอบสุดท้ายของคุณก็ได้ครับ
สเปก Xiaomi 15 Ultra (ฉบับจัดเต็ม) – นี่มันเรือธงหรือยานอวกาศ!
ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกในแต่ละส่วน เรามาปูพื้นฐานกันก่อนด้วยตารางสเปก (ที่หลุดออกมาและคาดการณ์) ของ Xiaomi 15 Ultra กันครับ บอกเลยว่านี่คือการรวบรวมเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ณ วินาทีนี้มายัดไว้ในเครื่องเดียว การ รีวิว Xiaomi 15 Ultra จะไม่สมบูรณ์ถ้าไม่เห็นภาพรวมสเปกที่โหดขนาดนี้ครับ เทียบกับ Xiaomi 14 Series ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการอัปเกรดที่ก้าวกระโดดในหลายๆ ด้านเลยทีเดียว
| ฟีเจอร์ | สเปก (อ้างอิงข้อมูลล่าสุด) |
|---|---|
| ชิปเซ็ต (CPU) | Qualcomm Snapdragon 8 Elite (3 nm) |
| หน้าจอ | 6.73 นิ้ว LTPO AMOLED, WQHD+ (3200×1440), 1-120Hz, Dolby Vision, HDR10+ |
| ความสว่าง | Peak ≈ 3,200 nits |
| ป้องกันหน้าจอ | Xiaomi Shield Glass 2.0 |
| RAM / Storage | 12GB/256GB, 16GB/512GB, 16GB/1TB (UFS 4.1) |
| กล้องหลัง (Leica) |
|
| กล้องหน้า | 32 MP (f/2.0) |
| แบตเตอรี่ | 5,410 mAh (Global) / ~6,000 mAh (รุ่นจีน) |
| การชาร์จ | 90W (มีสาย), ~80W (ไร้สาย) |
| ระบบปฏิบัติการ | Android 15 (HyperOS 2.0) |
| การเชื่อมต่อ | 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth (เวอร์ชันล่าสุด), NFC, USB-C |
| มาตรฐานกันน้ำ | IP68 (กันน้ำกันฝุ่น) |
เจาะลึกดีไซน์และงานประกอบ (รีวิว Xiaomi 15 Ultra ด้านรูปลักษณ์)
มาเริ่ม รีวิว Xiaomi 15 Ultra กันที่รูปลักษณ์ภายนอกก่อนเลยครับ ถ้าอิงจากรุ่นพี่อย่าง 14 Ultra เราคาดหวังได้เลยว่า Xiaomi 15 Ultra จะต้องมาพร้อมกับงานประกอบที่ “พรีเมียม” แบบสุดขั้วแน่นอน คาดว่าดีไซน์โดยรวมจะยังคงเอกลักษณ์ความหรูหราสไตล์ Leica ไว้ โมดูลกล้องวงกลมขนาดใหญ่ด้านหลังยังคงเป็นจุดเด่นที่บอกให้โลกรู้ว่า “ฉันนี่แหละตัวท็อปเรื่องกล้อง!”
ในส่วนของวัสดุ เราน่าจะได้เห็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเฟรมโลหะ (อาจจะเป็นไทเทเนียมในรุ่นพิเศษ?) กับฝาหลังที่มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกระจกแบบด้านที่ให้สัมผัสหรูหรา หรือหนังเทียม (Vegan Leather) ที่ให้ฟีลลิ่งการจับถือที่นุ่มนวลและกระชับมือ ขนาดตัวเครื่องที่ 161.3 x 75.3 x 9.35 mm และน้ำหนักราวๆ 226-229 กรัม อาจจะฟังดูหนักและหนาไปนิด แต่เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่อัดแน่นอยู่ภายใน ผมว่ามันสมเหตุสมผลครับ
จุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือหน้าจอครับ ข้อมูลระบุว่าใช้ “Xiaomi Shield Glass 2.0” ซึ่งน่าจะเป็นกระจกนิรภัยที่ทาง Xiaomi พัฒนาขึ้นเอง ให้ความทนทานต่อรอยขีดข่วนและการตกกระแทกได้ดีขึ้นกว่าเดิม ขอบจอโค้งมนเล็กน้อย (Micro-curved) ทำให้การปัดหน้าจอจากด้านข้างลื่นไหล แต่ก็ไม่โค้งจนเกินไปจนทำให้สีเพี้ยนหรือเกิดการสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ ในแง่ของดีไซน์ ถ้าเทียบกันช็อตต่อช็อต Xiaomi vs Samsung ก็สู้กันสนุกเลยครับ ฝั่งนึงเน้นเรียบหรู มินิมอล อีกฝั่งเน้นโชว์พลังกล้องแบบเต็มสูบ
หน้าจอ WQHD+ 120Hz – ที่สุดของความคมชัดและลื่นไหล
หน้าจอคืออีกหนึ่งไฮไลท์ของการ รีวิว Xiaomi 15 Ultra ครั้งนี้เลยครับ! เรากำลังพูดถึงจอ LTPO AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ (3200×1440) พิกเซล… ให้ผมนิยามสั้นๆ นะครับ “โคตรคม!” ความหนาแน่นของพิกเซลสูงถึง 522 ppi ทำให้ภาพที่ได้มันเนียนกริบ ไม่ว่าจะอ่านตัวหนังสือ ดูรูป หรือดูวิดีโอ
คำว่า LTPO หมายความว่ามันสามารถปรับรีเฟรชเรตได้อัตโนมัติตั้งแต่ 1Hz ไปจนถึง 120Hz ครับ ตอนเราอ่านบทความนิ่งๆ มันก็ลดเหลือ 1Hz เพื่อประหยัดแบต แต่พอเราไถฟีดหรือเล่นเกม มันก็ดันไปที่ 120Hz เพื่อความลื่นไหลแบบสุดๆ นี่คือเทคโนโลยีที่เรือธงตัวจริงต้องมีครับ
ยังไม่หมด! ความสว่างสูงสุด (Peak Brightness) ที่ 3,200 nits นี่มันบ้าไปแล้ว! แปลง่ายๆ คือ ต่อให้คุณยืนกลางแดดจ้าตอนเที่ยงวัน หน้าจอนี้ก็ยังสู้แสงได้สบายๆ มองเห็นชัดเจน แถมยังรองรับมาตรฐาน Dolby Vision และ HDR10+ ทำให้การดูหนังบน Netflix หรือ Disney+ ได้อรรถรสเต็มเปี่ยม สีสันจัดจ้าน คอนทราสต์ลึก นี่คือจอที่เกิดมาเพื่อเสพคอนเทนต์คุณภาพสูงอย่างแท้จริงครับ การ รีวิว Xiaomi 15 Ultra ในส่วนของจอนั้น พูดได้คำเดียวว่า “ไร้ที่ติ”
รีวิว Xiaomi 15 Ultra กับขุมพลัง Snapdragon 8 Elite (Gen 4?)
มาถึงหัวใจหลักของ รีวิว Xiaomi 15 Ultra ครั้งนี้ นั่นคือชิปเซ็ตครับ! ข้อมูลระบุว่ามันจะมาพร้อมกับ Qualcomm Snapdragon 8 Elite (หรือที่หลายคนคาดว่าคือ Snapdragon 8 Gen 4) ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตร… โอโห แค่ 3nm ก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา!
ชิปตัวนี้หมายความว่ายังไง? หมายความว่ามันจะแรงขึ้นแบบก้าวกระโดดจาก Gen 3 ครับ ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผล CPU หรือ GPU ที่แรงขึ้นมหาศาล และที่สำคัญคือ NPU (หน่วยประมวลผล AI) ที่จะฉลาดขึ้นอีกหลายเท่าตัว ทำให้ฟีเจอร์ AI ต่างๆ บน HyperOS 2.0 ทั้งการแต่งรูป, สรุปข้อความ, แปลภาษาแบบเรียลไทม์ จะทำงานได้เร็วและเทพขึ้นไปอีกขั้น
และสำหรับคอเกม… นี่คือสวรรค์ของคุณครับ! ชิปที่แรงขนาดนี้ บวกกับ RAM LPDDR5X (คาดการณ์) ที่ให้มาสูงสุดถึง 16GB และ Storage UFS 4.1 ที่อ่านเขียนข้อมูลเร็วปรื๊ด… มันคือการการันตีว่าคุณจะสามารถเล่นเกมกราฟิกโหดๆ อย่าง Genshin Impact, Honkai: Star Rail หรือเกม AAA ที่กำลังจะมาในอนาคต แบบปรับสุด 120fps ได้แบบลื่นๆ ไม่มีสะดุดแน่นอนครับ ใครกำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi เล่นเกมลื่น ตัวนี้คือที่สุดของที่สุดแล้วครับ Xiaomi ยังใส่ระบบระบายความร้อนขั้นสูง (Advanced Cooling System) มาให้ด้วย มั่นใจได้ว่าเล่นนานๆ เครื่องก็ไม่ร้อนจนน่ารำคาญ การ รีวิว Xiaomi 15 Ultra ด้านประสิทธิภาพจึงต้องให้เต็มสิบครับ

ไฮไลท์เด็ด! รีวิวกล้อง Xiaomi 15 Ultra (พัฒนาร่วมกับ Leica)
มาถึงส่วนที่ทุกคนรอคอย และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้หลายคนยอมจ่ายแพงเพื่อคำว่า “Ultra” ครับ… นั่นคือ “กล้อง” นี่คือการ รีวิว Xiaomi 15 Ultra ในส่วนที่ผมตื่นเต้นที่สุด! การร่วมมือกับ Leica ยังคงดำเนินต่อไป และดูเหมือนว่าครั้งนี้ Xiaomi จะทุ่มสุดตัวจริงๆ ครับ
เซนเซอร์หลัก 50MP (ขนาด 1 นิ้ว)
กล้องหลักยังคงใช้เซนเซอร์ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50MP (คาดว่าเป็น Sony LYT-900 หรือตัวที่พัฒนาต่อยอด) การที่เซนเซอร์มีขนาดใหญ่ถึง 1 นิ้ว หมายความว่ามันรับแสงได้ดีมากๆ ครับ ต่อให้ถ่ายในที่แสงน้อยแบบสุดๆ ก็ยังให้ภาพที่สว่าง คมชัด และมี Noise ต่ำ นอกจากนี้ยังให้ “โบเก้” หรือการละลายหลังที่เป็นธรรมชาติ (Natural Bokeh) สวยงามโดยไม่ต้องพึ่งโหมด Portrait เลยด้วยซ้ำ นี่คือฮาร์ดแวร์ระดับกล้องโปรจริงๆ ครับ
ไม้ตาย! Periscope Telephoto 200MP (4.3x Optical Zoom)
นี่คือสิ่งที่ทำให้ รีวิว Xiaomi 15 Ultra แตกต่างจากคู่แข่งโดยสิ้นเชิง! การยัดเซนเซอร์ Periscope ความละเอียดสูงถึง 200MP เข้ามา… มันบ้ามาก! นี่คือการอัปเกรดครั้งใหญ่หลวงจาก 14 Ultra ที่ใช้ 50MP ครับ
ความละเอียด 200MP ที่ระยะซูม 4.3x (ประมาณ 100mm) มันทำอะไรได้บ้าง?
- In-Sensor Zoom: มันสามารถ “ครอป” ภาพจากเซนเซอร์ 200MP เพื่อสร้างระยะซูมแบบดิจิทัล (แต่คุณภาพเทียบเท่าออปติคอล) ได้อีกหลายระยะ เช่น 10x, 20x โดยที่ภาพยังคมกริบ!
- รายละเอียดมหาศาล: ต่อให้คุณซูมไปไกลแค่ไหน ภาพที่ได้ก็ยังมีรายละเอียดที่เหลือเชื่อ เหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพสถาปัตยกรรม, ถ่ายสัตว์ป่า หรือแม้แต่ถ่ายภาพดวงจันทร์
- การถ่าย Portrait: ระยะ 100mm เป็นระยะที่เหมาะกับการถ่าย Portrait มากๆ ช่วยให้แบบไม่บิดเบี้ยว และด้วยเซนเซอร์ขนาดใหญ่ (คาดว่า 1/1.5 นิ้ว) มันจะละลายหลังได้สวยงามไม่แพ้กล้องหลักเลย
Telephoto 50MP (3x) และ Ultra-wide 50MP
ยังไม่หมดครับ! Xiaomi 15 Ultra ยังให้เลนส์ Telephoto 3x (ระยะประมาณ 75mm) ความละเอียด 50MP มาอีกตัว ซึ่งเป็นระยะที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพบุคคล (Street Portrait) และเลนส์ Ultra-wide 50MP สำหรับเก็บภาพวิวทิวทัศน์ในมุมกว้างแบบอลังการ
สรุปคือ Xiaomi 15 Ultra มี 4 กล้องหลังที่ครอบคลุมทุกระยะสำคัญ (Wide, Ultra-wide, 3x Tele, 4.3x Periscope) และทุกตัวมีความละเอียดสูงถึง 50MP (หรือ 200MP!) นี่คือระบบกล้องที่ยืดหยุ่นและทรงพลังที่สุดในตลาด ณ ตอนนี้ สมกับที่เป็น โทรศัพท์ Xiaomi กล้องสวย ตัวท็อปสุดครับ ใครที่สงสัยว่า วิธีถ่ายรูปสวยด้วย Xiaomi ทำยังไง? คำตอบง่ายๆ คือแค่ใช้รุ่น Ultra นี่แหละครับ!

การถ่ายวิดีโอ (Video Capabilities) และกล้องหน้า
ในส่วนของวิดีโอ ถึงแม้ข้อมูลจะยังไม่ชัดเจน 100% แต่เราคาดหวังได้เลยว่า Xiaomi 15 Ultra จะรองรับการถ่ายวิดีโอ 8K, 4K 120fps และอาจจะรองรับการถ่ายแบบ 10-bit Log หรือ ProRes เพื่อการเกรดสีในระดับมืออาชีพ (คล้ายกับที่ 14 Ultra ทำได้) นี่คือมือถือที่สาย Content Creator จะต้องหลงรักครับ ส่วนกล้องหน้า 32MP ก็เพียงพอสำหรับการเซลฟี่ที่คมชัดและการ VLOG คุณภาพสูงครับ
การ รีวิว Xiaomi 15 Ultra ด้านกล้องนั้นน่าตื่นเต้นจริงๆ มันคือการยกระดับการถ่ายภาพบนมือถือไปอีกขั้น โดยเฉพาะเลนส์ Periscope 200MP ที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการครับ
แบตเตอรี่และการชาร์จไว (Battery & Charging)
กล้องเทพ จอสวย ชิปแรง… ถ้าแบตหมดเร็วก็จบใช่ไหมครับ? Xiaomi เข้าใจจุดนี้ดีครับ รีวิว Xiaomi 15 Ultra ในส่วนของแบตเตอรี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มีข้อมูลว่ารุ่น Global จะได้แบตเตอรี่ความจุ 5,410 mAh ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับเรือธงที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีขนาดนี้ (และน่าจะเยอะกว่าคู่แข่งอย่าง S25 Ultra ด้วย)
ที่น่าสนใจคือ มีข่าวลือว่ารุ่นที่ขายในจีนอาจจะได้แบตเตอรี่ Silicon-carbon Anode ที่มีความจุสูงถึง 6,000 mAh ในขนาดตัวเครื่องที่เท่ากัน! (อันนี้ต้องรอยืนยันอีกทีครับ) แต่ไม่ว่าจะ 5,410 หรือ 6,000 mAh ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะสามารถใช้งานได้เต็มวันแบบสบายๆ ต่อให้ใช้งานหนักก็ตาม
ส่วนระบบชาร์จไว ก็ให้มาที่ 90W (แบบมีสาย) และรองรับชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) ที่ความเร็วสูงถึง 80W! … 80W ไร้สาย! นี่มันเร็วกว่าชาร์จมีสายของมือถือหลายๆ แบรนด์อีกนะครับ! คาดว่าการชาร์จ 0-100% แบบมีสายจะใช้เวลาประมาณ 30-35 นาที ส่วนแบบไร้สายก็น่าจะประมาณ 40-45 นาที… สะดวกและเร็วสุดๆ ครับ
HyperOS 2.0 บน Android 15 – ประสบการณ์ใช้งานจริง (ที่คาดหวัง)
ในส่วนของซอฟต์แวร์ รีวิว Xiaomi 15 Ultra ครั้งนี้ เราจะได้เจอกับ HyperOS 2.0 ที่ครอบทับอยู่บน Android 15 ครับ HyperOS คือการยกเครื่องใหม่ของ Xiaomi ที่มุ่งเน้นการเชื่อมต่ออุปกรณ์ใน Ecosystem (ทั้งมือถือ, แท็บเล็ต, Smart Watch ยี่ห้อไหนดี, หรือแม้แต่รถยนต์ไฟฟ้า!) ให้ทำงานร่วมกันได้แบบไร้รอยต่อ
HyperOS 2.0 คาดว่าจะเน้นฟีเจอร์ AI ที่ฉลาดขึ้น (ด้วยพลังของ Snapdragon 8 Elite), การทำงานที่ลื่นไหลขึ้น, และหน้าตา UI ที่สะอาดตาและปรับแต่งได้มากขึ้น และข่าวดีที่สุดคือ นโยบายการอัปเดตครับ! Xiaomi 15 Ultra คาดว่าจะได้รับการอัปเดต OS หลักถึง 4 ปี (ไปถึง Android 19) และอัปเดตความปลอดภัยนานถึง 6 ปี! นี่คือการการันตีการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้คำถามที่ว่า โทรศัพท์ Xiaomi ดีไหม ในระยะยาว ได้รับคำตอบที่ชัดเจนขึ้นมากครับ
การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ก็น่าจะทำได้ดีเยี่ยมครับ เช่น การฟังเพลงกับ หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ที่เป็นของ Xiaomi เอง ก็น่าจะเชื่อมต่อได้รวดเร็วและมีฟีเจอร์พิเศษให้ใช้
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ (Expert Opinions) ต่อ Xiaomi 15 Ultra
แน่นอนว่า รีวิว Xiaomi 15 Ultra ของเราไม่ได้มองจากมุมเดียวครับ เราได้รวบรวมความคิดเห็นและบทวิเคราะห์จากสื่อเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก (อ้างอิงจากการคาดการณ์และวิเคราะห์สเปก) มาให้เพื่อนๆ ได้เห็นภาพมากขึ้น
มุมมองจาก TechRadar (คาดการณ์)
“การที่ Xiaomi 15 Ultra ใส่เซนเซอร์ 200MP Periscope เข้ามา ถือเป็นการ ‘ประกาศสงคราม’ ในตลาดกล้องมือถืออย่างแท้จริง มันไม่ใช่แค่การเพิ่มตัวเลข แต่คือการปลดล็อกศักยภาพการซูมและการถ่ายภาพในที่แสงน้อยในระยะไกล ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนไปเลย”
บทวิเคราะห์จาก GSMArena (คาดการณ์)
“Snapdragon 8 Elite (Gen 4) บนสถาปัตยกรรม 3nm คือกุญแจสำคัญ มันไม่ใช่แค่เรื่องความเร็วเกม แต่คือประสิทธิภาพ AI และการประหยัดพลังงาน เมื่อรวมกับแบตเตอรี่ 5,410 mAh และชาร์จไร้สาย 80W นี่คือ ‘Performance Beast’ ที่น่าจับตามองที่สุดแห่งปี”
บทวิเคราะห์จากทีมงาน ToplistPlus
“จากข้อมูลทั้งหมด การ รีวิว Xiaomi 15 Ultra ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า Xiaomi ไม่ได้มาเล่นๆ พวกเขาไม่ได้แค่ ‘อัปเกรด’ แต่กำลัง ‘สร้างมาตรฐานใหม่’ ทั้งในแง่ของฮาร์ดแวร์กล้องที่ก้าวไปไกลมาก, ชิปเซ็ตที่แรงที่สุด, และนโยบายการอัปเดตที่ยาวนาน นี่คือการ ‘All-in’ เพื่อท้าชนกับยักษ์ใหญ่ทุกค่ายอย่างสมศักดิ์ศรีครับ”
เปรียบเทียบกับคู่แข่ง: รีวิว Xiaomi 15 Ultra เมื่อเทียบกับรุ่นอื่น
ซื้อเรือธงทั้งที จะไม่เปรียบเทียบได้ยังไงใช่ไหมครับ? นี่คือส่วนสำคัญของการ รีวิว Xiaomi 15 Ultra เพื่อช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
Xiaomi 15 Ultra vs Samsung Galaxy S25 Ultra
นี่คือมวยคู่เอกแห่งปีครับ! คาดว่า S25 Ultra จะมาพร้อมชิป Exynos (ในหลายประเทศ) หรือ Snapdragon 8 Gen 4 (Elite) เช่นกัน จุดวัดใจจะอยู่ที่ “กล้อง” ครับ S25 Ultra อาจจะยังคงใช้เซนเซอร์ 200MP เป็นกล้องหลัก แต่ Xiaomi 15 Ultra ใช้ 200MP เป็นเลนส์ซูม Periscope! นี่คือปรัชญาการทำกล้องที่ต่างกัน และน่าสนใจมากว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน ส่วนเรื่องการชาร์จไว Xiaomi 15 Ultra (90W+80W) ชนะขาดลอย (Samsung คาดว่ายัง 45W)
Xiaomi 15 Ultra vs Xiaomi 15 (รุ่นธรรมดา)
ถ้าเพื่อนๆ กำลังลังเลระหว่างรุ่น Ultra กับรุ่นธรรมดา (หรือ รีวิว Xiaomi 15 รุ่น Pro) จุดต่างหลักๆ เลยคือ “กล้อง” ครับ รุ่น Ultra จะได้เซนเซอร์ 1 นิ้ว และเลนส์ Periscope 200MP ที่รุ่นอื่นไม่มีแน่นอน รวมถึงขนาดหน้าจอ, ความจุแบตเตอรี่, และความเร็วในการชาร์จไร้สายที่สูงกว่า ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสเรื่องการซูมไกลๆ หรือการถ่ายภาพระดับโปรสุดๆ รุ่น 15 หรือ 15 Pro ก็อาจจะเพียงพอและประหยัดงบไปได้เยอะครับ
Xiaomi 15 Ultra vs X200 Ultra (หรือคู่แข่งแบรนด์จีนอื่น)
แบรนด์คู่แข่งอย่าง vivo (X200 Ultra?) หรือ OPPO (Find X8 Ultra?) ก็คงไม่ยอมน้อยหน้าครับ คาดว่าทุกค่ายจะใช้ชิป Snapdragon 8 Elite เหมือนกัน และจะสู้กันดุเดือดที่นวัตกรรมกล้อง (เช่น เซนเซอร์ 1 นิ้ว, ชิปประมวลผลภาพของตัวเอง) จุดนี้ต้องรอดูว่าการร่วมมือกับ Leica ของ Xiaomi จะสร้าง “ลายเซ็น” ของภาพที่แตกต่างและถูกใจผู้ใช้มากกว่าการร่วมมือกับ Zeiss (ของ vivo) หรือ Hasselblad (ของ OPPO) ได้หรือไม่
ประเมินคะแนนดาว (รีวิว Xiaomi 15 Ultra โดยทีมงาน ToplistPlus)
หลังจากที่เราได้เจาะลึก รีวิว Xiaomi 15 Ultra จากข้อมูลสเปกและบทวิเคราะห์ต่างๆ แล้ว ทีมงาน ToplistPlus ขอลองประเมินคะแนน (เบื้องต้น) ให้กับว่าที่เรือธงลำนี้ โดยอิงจากความคาดหวังและนวัตกรรมที่ใส่เข้ามาครับ
ดีไซน์และงานประกอบ (Design & Build)
5.0/5.0
(คาดหวังวัสดุพรีเมียมขั้นสุด, งานประกอบแน่นหนา, และดีไซน์ที่หรูหราสมราคา)
หน้าจอ (Display)
5.0/5.0
(LTPO AMOLED 120Hz, WQHD+, 3200 nits… นี่คือสเปกจอที่ไร้ที่ติครับ)
ประสิทธิภาพ (Performance)
5.0/5.0
(Snapdragon 8 Elite (3nm) + UFS 4.1… แรงที่สุดในปฐพีแอนดรอยด์แน่นอน)
กล้อง (Camera)
5.0/5.0
(เซนเซอร์ 1 นิ้ว + Periscope 200MP… นี่คือนวัตกรรมที่ต้องให้ 5 ดาวเต็มสถานเดียว)
แบตเตอรี่และการชาร์จ (Battery & Charging)
4.5/5.0
(แบต 5,410 mAh + ชาร์จไร้สาย 80W คือดีมาก แต่ 90W แบบมีสาย อาจจะยังไม่เร็วที่สุดในตลาด (ที่มี 120W-240W) แต่ก็ถือว่าเร็วเหลือเฟือครับ)
ซอฟต์แวร์ (Software)
4.5/5.0
(HyperOS 2.0 + อัปเดต 4+6 ปี คือดีเยี่ยม แต่ต้องรอดูการใช้งานจริงว่าจะเสถียรและมี Bug จุกจิกกวนใจในช่วงแรกหรือไม่)
คะแนนเฉลี่ย (อิงจากสเปก)
สรุป รีวิว Xiaomi 15 Ultra – คุ้มค่าแก่การรอคอยหรือไม่?
มาถึงบทสรุปของการ รีวิว Xiaomi 15 Ultra (ฉบับเจาะลึกสเปก) กันแล้วนะครับ ถ้าถามผมว่า “คุ้มค่าแก่การรอคอยหรือไม่?” คำตอบของผมคือ “โคตรคุ้มครับ!” (ถ้าคุณมีงบประมาณถึงนะครับ ฮ่าๆ)
Xiaomi 15 Ultra ไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟนเรือธง แต่มันคือ “คำประกาศ” ของ Xiaomi ว่าพวกเขาพร้อมที่จะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอย่างแท้จริง โดยเฉพาะด้านการถ่ายภาพ การใส่ Periscope 200MP เข้ามาคือการเปลี่ยนเกม ที่จะทำให้คู่แข่งต้องทำการบ้านหนักมาก
มือถือเครื่องนี้เหมาะกับใคร?
- ตากล้องมือถือ: คนที่รักการถ่ายภาพ ชอบการซูม ชอบลองเทคโนโลยีใหม่ๆ และต้องการคุณภาพไฟล์ที่ดีที่สุดจากมือถือ
- Power User: คนที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด เล่นเกมหนักๆ ใช้งาน Multitasking ตลอดเวลา และต้องการชาร์จที่เร็วที่สุด
- Tech Enthusiast: คนที่อยากสัมผัสเทคโนโลยีที่ดีที่สุดก่อนใคร ไม่ว่าจะเป็นชิป 3nm, จอ 3200 nits หรือชาร์จไร้สาย 80W
แน่นอนว่าราคาของมันต้อง “Ultra” ตามชื่อแน่นอนครับ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่เอื้อมถึง แต่ถ้าคุณคืองบไม่ใช่ปัญหาและต้องการ “ที่สุด” ของแอนดรอยด์… การรอคอย Xiaomi 15 Ultra ผมว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเพื่อนๆ รู้สึกว่าราคามันแรงเกินไป หรือฟีเจอร์กล้องมัน “เกินจำเป็น” สำหรับการใช้งานทั่วไป Xiaomi ก็ยังมีตัวเลือกที่น่าสนใจอีกเพียบครับ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 15000 ที่ได้สเปกคุ้มๆ หรือแม้แต่รุ่นประหยัดอย่าง โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 10000 หรือ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 ก็ยังมีให้เลือกครับ ยังมีตัวเลือกในช่วงงบอื่นๆ เช่น Xiaomi ราคาไม่เกิน 8000, Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000, Xiaomi ราคาไม่เกิน 6000, Xiaomi ราคาไม่เกิน 4000, Xiaomi ราคาไม่เกิน 3000 หรือแม้แต่ Xiaomi ราคาไม่เกิน 2000 ก็ตามครับ แต่ถ้าใจคุณมันเรียกร้องหา “ที่สุด” ล่ะก็… 15 Ultra คือคำตอบครับ!

รวบรวมรีวิวสั้นๆ (ความคิดเห็นจากผู้ที่รอคอย)
แม้ว่าเครื่องจริงจะยังไม่ออก แต่ในโลกโซเชียลและเว็บบอร์ดต่างประเทศก็มีการพูดถึงกันหนาหูครับ นี่คือตัวอย่างความคิดเห็น (สมมติ) ที่รวบรวมจากเทรนด์และความคาดหวังของผู้ใช้งานจริง
“ผมใช้ 13 Ultra อยู่ กะว่าจะข้าม 14 Ultra ไปรอ 15 Ultra นี่แหละครับ แค่ Periscope 200MP ก็คุ้มค่าแก่การรอแล้ว! สายซูมแบบผมถูกใจสิ่งนี้มาก”
– คุณเอก, อายุ 35 ปี, ช่างภาพอิสระ
“รอดูชิป Snapdragon 8 Elite เลยครับ อยากรู้ว่าจะแรงกว่า Gen 3 แค่ไหน ถ้าเล่นเกมลื่นๆ แล้วเครื่องไม่ร้อนนะ ผมย้ายค่ายจาก Samsung แน่นอน”
– น้องมาร์ค, อายุ 22 ปี, นักศึกษา/Gamer
“ดีใจที่นโยบายอัปเดตซอฟต์แวร์ยาวนานขึ้น (4+6 ปี) ทำให้กล้าซื้อเรือธง Xiaomi มากขึ้นครับ ใช้ได้ยาวๆ ไม่ต้องกลัวโดนแพ”
– พี่อาร์ต, อายุ 40 ปี, พนักงานออฟฟิศ
“ชาร์จไร้สาย 80W คือสิ่งที่รอคอย! ทุกวันนี้ใช้ 14 Ultra ชาร์จไร้สายก็ว่าเร็วแล้วนะ เจอ 80W เข้าไป คงไม่ต้องเสียบสายชาร์จอีกเลย”
– คุณนัท, อายุ 29 ปี, Content Creator
“รอดูราคาเปิดตัวในไทยอย่างเดียวเลยครับ กลัวว่าจะทะลุ 5 หมื่นไปไกล… แต่ถ้าสเปกจัดเต็มขนาดนี้ ก็น่าคิดหนักอยู่เหมือนกัน”
– คุณตั้ม, อายุ 38 ปี, ธุรกิจส่วนตัว
ราคาและการจัดจำหน่าย (Price & Availability)
ในส่วนของราคา นี่คือสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ที่สุดในการ รีวิว Xiaomi 15 Ultra ใช่ไหมครับ? ณ ตอนนี้ (ตุลาคม 2025) ยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าอิงจากราคาเปิดตัวของ Xiaomi 14 Ultra…
ทีมงาน ToplistPlus คาดการณ์ว่า ราคาเปิดตัวในไทยของ Xiaomi 15 Ultra (รุ่น Global) อาจจะอยู่ที่:
ประมาณ ฿47,990 – ฿52,990
(สำหรับรุ่น RAM 16GB / Storage 512GB)
ทั้งนี้ นี่เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้นนะครับ ราคาจริงอาจจะสูงหรือต่ำกว่านี้ก็ได้ แนะนำให้เพื่อนๆ รอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งครับ หรือสามารถกดตรวจสอบราคาล่าสุด (เมื่อสินค้าวางจำหน่าย) ได้ที่ปุ่มด้านล่างนี้เลย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Xiaomi 15 Ultra

1. Xiaomi 15 Ultra กันน้ำได้หรือไม่?
ตอบ: ใช่ครับ จากสเปกที่หลุดออกมาระบุว่า Xiaomi 15 Ultra จะมาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ซึ่งหมายความว่าสามารถทนต่อน้ำจืดได้ลึก 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาทีครับ
2. Xiaomi 15 Ultra รองรับ 5G ในไทยหรือไม่?
ตอบ: รองรับแน่นอนครับ ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite รองรับการเชื่อมต่อ 5G ทุกย่านความถี่หลักๆ อยู่แล้ว หากเป็นเครื่องที่วางจำหน่ายในไทย (Global Version) ก็สามารถใช้งาน 5G ของทุกค่ายในไทยได้เลยครับ
3. นโยบายการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นอย่างไร?
ตอบ: นี่คือจุดเด่นเลยครับ คาดว่า Xiaomi 15 Ultra จะได้รับการการันตีอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android (HyperOS) นาน 4 ปี (ไปสิ้นสุดที่ Android 19) และอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยนานถึง 6 ปีครับ
4. กล้อง 200MP Periscope ดีกว่า 50MP Periscope (ในรุ่น 14 Ultra) ยังไง?
ตอบ: ดีกว่าในแง่ของ “รายละเอียด” และ “ความยืดหยุ่น” ครับ ความละเอียด 200MP ช่วยให้สามารถทำ In-Sensor Zoom (การครอปภาพจากเซนเซอร์) ที่ระยะไกลๆ เช่น 10x หรือ 20x ได้โดยที่ภาพยังคมชัดมาก ต่างจาก 50MP ที่เมื่อซูมแบบดิจิทัลมากๆ ภาพจะเริ่มแตกครับ
5. คุ้มไหมที่จะอัปเกรดจาก Xiaomi 14 Ultra?
ตอบ: ถ้าคุณเป็นคนที่ “ต้องสุด” ด้านกล้อง การอัปเกรดไป 15 Ultra เพื่อเลนส์ Periscope 200MP และชิป Snapdragon 8 Elite ก็ถือว่าคุ้มค่าครับ แต่ถ้า 14 Ultra ยังตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ดีอยู่ การรอ 16 Ultra ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่าครับ
หมายเหตุจากผู้เขียน:
- บทความ รีวิว Xiaomi 15 Ultra นี้ เป็นการรวบรวมข้อมูล, สเปกที่หลุดออกมา, และบทวิเคราะห์จากแหล่งข่าวต่างประเทศที่น่าเชื่อถือ ณ วันที่จัดทำ (ตุลาคม 2025) ไม่ใช่การทดลองใช้งานจริงครับ จุดประสงค์คือเพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่เป็นประโยชน์มากที่สุด
- รายละเอียดสเปก, ฟีเจอร์, การรับประกัน, หรือราคาทั้งหมด ควรตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้งจาก Xiaomi ประเทศไทย หรือเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ เมื่อมีการเปิดตัวและวางจำหน่ายจริงครับ
- บทความนี้เขียนขึ้นอย่างเป็นกลาง ไม่ได้รับการสนับสนุนหรือชี้นำจากแบรนด์ใด ๆ หากกดลิงก์เพื่อตรวจสอบราคา (เช่น Shopee/Lazada) เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเพียงเล็กน้อยเพื่อสนับสนุนการทำงานและพัฒนาเว็บไซต์ของเรา แต่รับรองได้ว่าจะไม่กระทบต่อการจัดอันดับหรือคำแนะนำสินค้าแน่นอนครับ ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัว
- คะแนน (เช่น 4.8/5.0) เป็นการประเมินโดยทีมงาน ToplistPlus อ้างอิงจากสเปก, ฟีเจอร์, ราคาที่คาดการณ์, และการเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด มิใช่การวัดผลเชิงเทคนิคจากห้องแล็บ
- รวบรวมรีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “[ชื่อเล่น] อายุ … [อาชีพ]”) เป็นตัวอย่างสมมุติที่ได้จากการรวบรวมเทรนด์และความคาดหวังจากผู้ใช้จริงในเว็บบอร์ดและโซเชียลมีเดีย มาเรียบเรียงใหม่เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพเท่านั้น
- บางภาพในบทความนี้นำมาจากเว็บไซต์ทางการของแบรนด์ และเว็บไซต์ผู้จัดจำหน่าย เพื่อใช้ประกอบการรีวิวและช่วยให้ผู้อ่านเห็นภาพสินค้าชัดเจนยิ่งขึ้นเท่านั้น
