7 สุดยอด แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ปี 2025 เย็นเร็ว! ประหยัดไฟ ฟอกอากาศได้

Daikin Air Conditioner Featured Image แอร์ Daikin รุ่นไหนดี

บทนำ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ! เข้าหน้าร้อนทีไร คำถามยอดฮิตที่วนกลับมาทุกปีก็คือจะเลือกซื้อแอร์ใหม่ยี่ห้ออะไรดี และถ้าพูดถึงแบรนด์ที่หลายคนเชื่อใจในคุณภาพและความทนทาน ก็ต้องมีชื่อ Daikin อยู่ในใจแน่นอนครับ แต่พอจะเลือกจริง ๆ ก็อาจจะงงได้ว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่จะเหมาะกับห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่โฮมออฟฟิศของเราที่สุด เพราะแต่ละซีรีส์ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ทั้งเรื่องการประหยัดไฟ เทคโนโลยีฟอกอากาศ หรือฟังก์ชันล้ำ ๆ ที่ช่วยให้ชีวิตสบายขึ้นเยอะ วันนี้ผมเลยขออาสาเป็นเพื่อนคู่คิด พาไปเจาะลึกพร้อมจัดอันดับ 7 แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่สุดแห่งปี 2025 กันครับ

ในบทความนี้ เราจะไม่ได้มาแค่บอกสเปกแห้ง ๆ นะครับ แต่จะมาเล่าแบบเพื่อนแนะนำเพื่อน จากประสบการณ์ที่ได้ลองศึกษาและรวบรวมข้อมูลมาอย่างละเอียดว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ถึงจะตอบโจทย์การใช้งานจริง ๆ ในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรา ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะกำลังมองหาแอร์สำหรับห้องขนาดเล็กที่เน้นประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด หรือต้องการแอร์สำหรับห้องใหญ่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีฟอกอากาศขั้นเทพเหมือนมี เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ติดมาด้วยในตัว เราก็คัดรุ่นเด็ด ๆ มาให้ครบจบในที่เดียว รับรองว่าอ่านจบแล้วตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแน่นอนครับ นอกจากนี้เรายังมีตารางเปรียบเทียบให้เห็นภาพรวมกันแบบชัด ๆ ก่อนจะลงลึกไปในรีวิวแต่ละรุ่น ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยครับว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นเพื่อนคู่ใจคลายร้อนให้เราในปีนี้!

🦉 เลือกอ่านหัวข้อ

จัดอันดับ 7 แอร์ Daikin รุ่นไหนดี แห่งปี 2025

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่จะคุ้มค่าและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด ลองดูตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติเด่นและคะแนนของแต่ละรุ่นที่เราคัดมาให้เป็นพิเศษด้านล่างนี้ได้เลยครับ จะได้เห็นภาพรวมก่อนไปอ่านรีวิวฉบับเจาะลึกกันต่อ

ตารางเปรียบเทียบสรุป แอร์ Daikin รุ่นไหนดี

คุณสมบัติ Daikin MAX INVERTER (SABAI SERIES) Daikin MAX INVERTER (STAR KQ SERIES) Daikin MAX INVERTER (STAR KF SERIES) Daikin MAX INVERTER (STAR KM SERIES) Daikin MAX INVERTER (STAR KZ SERIES) Daikin MAX INVERTER (STAR KC SERIES) Daikin NON-INVERTER (FTM Series)
อันดับที่ 🥇 🥈 🥉 4 5 6 7
รูปภาพสินค้า Daikin MAX INVERTER (SABAI SERIES) FTKB-Z Daikin MAX INVERTER (STAR KQ SERIES) FTKQ-Y Daikin MAX INVERTER (STAR KF SERIES) FTKF-Y Daikin MAX INVERTER (STAR KM SERIES) FTKM-Y Daikin MAX INVERTER (STAR KZ SERIES) FTKZ-Y Daikin MAX INVERTER (STAR KC SERIES) FTKC-Y Daikin NON-INVERTER (FTM Series)
ชื่อสินค้า (กดเพื่อเลื่อนไปดูรายละเอียด) Daikin SABAI SERIES FTKB-Z Daikin STAR KQ SERIES FTKQ-Y Daikin STAR KF SERIES FTKF-Y Daikin STAR KM SERIES FTKM-Y Daikin STAR KZ SERIES FTKZ-Y Daikin STAR KC SERIES FTKC-Y Daikin FTM Series
สเปกเด่น SEER 19.12, Coanda Panel, PM2.5 Filter, Super PCB Pro, Lizard Proof SEER 19.22, Coanda Panel, PM2.5 Filter, Powerful Mode, Self-Hygiene SEER 21.13, Streamer, PM2.5 Filter, Built-in Wi-Fi, Humidity Control SEER 24.70, Streamer, Coanda Panel, Built-in Wi-Fi, Intelligent Eye SEER 25.30, Streamer, Hybrid Cooling, Built-in Wi-Fi, Intelligent Eye SEER 20.20, Streamer, PM2.5 Filter, Built-in Wi-Fi, Coanda Panel ระบบ Non-Inverter, Powerful Mode, แผ่นกรอง Titanium Apatite, ทนทาน
คะแนน ★★★★★ ★★★★★ ★★★★☆ ★★★★☆ ★★★★☆ ★★★☆☆ ★★★☆☆
เหมาะกับใคร ผู้ที่ต้องการความคุ้มค่า ประหยัดไฟ ทนทาน ใช้งานพื้นฐานครบ คนที่เน้นความเย็นเร็วทันใจ และต้องการระบบทำความสะอาดตัวเอง สายสุขภาพที่ต้องการอากาศสะอาดบริสุทธิ์ และชอบควบคุมผ่านมือถือ ผู้ที่ต้องการความประหยัดไฟสูงสุด พร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะครบครัน คนที่ให้ความสำคัญกับความสบายสูงสุด ต้องการควบคุมความชื้นและประหยัดไฟที่สุด ผู้ที่ต้องการเทคโนโลยีฟอกอากาศ Streamer ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น ผู้ที่มองหาแอร์พื้นฐาน ทนทาน ไม่เน้น Inverter ใช้งานไม่หนักมาก
เช็กราคาล่าสุด

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

 

1. Daikin MAX INVERTER (SABAI SERIES) FTKB-Z 9000-24000 BTU ★★★★★

“ตัวจบสายคุ้มค่า! เย็นสบาย ประหยัดไฟ ทนทานทุกสภาวะ ครบเครื่องเรื่องพื้นฐาน”

Daikin MAX INVERTER (SABAI SERIES) FTKB-Z

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้ามีคนมาถามผมว่าอยากได้แอร์ที่คุ้มค่าที่สุด งบไม่บานปลาย แต่ได้เทคโนโลยีหลัก ๆ ครบถ้วน แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่จะตอบโจทย์นี้ได้? คำตอบแรกที่ผมจะนึกถึงเลยก็คือ Daikin MAX INVERTER (SABAI SERIES) FTKB-Z ครับ รุ่นนี้เหมือนเป็นมวยเอกของ Daikin ในรุ่นเริ่มต้นเลยก็ว่าได้ คือให้มาครบทั้งความเย็นฉ่ำจากระบบ Inverter ประสิทธิภาพสูง ค่า SEER สูงถึง 19.12 ช่วยให้ประหยัดไฟได้จริงจัง แถมยังมาพร้อมฟีเจอร์เด่นอย่าง Coanda Panel ที่ช่วยส่งลมเย็นไปตามเพดาน ไม่ให้ลมตกใส่ตัวโดยตรง นอนหลับสบาย ไม่ต้องกลัวเป็นหวัด เป็นรุ่นที่สมชื่อ “สบาย” จริง ๆ ครับ

คุณสมบัติเด่น

  • ระบบ Inverter: คอมเพรสเซอร์แบบสวิง ทำงานเงียบและประหยัดไฟ
  • ค่า SEER: สูงสุด 19.12 (ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5)
  • Coanda Panel: ออกแบบหน้ากากเพื่อส่งลมเย็นเลียดไปตามเพดาน กระจายความเย็นทั่วถึง
  • Air Quality Filter (PM2.5 & Enzyme Blue): แผ่นกรองช่วยยับยั้งฝุ่น PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้
  • Super PCB Pro: แผงวงจรทนทานพิเศษ ทนไฟตกไฟกระชากได้สูงสุดถึง 440V
  • Lizard Proof Design: ป้องกันจิ้งจกและแมลงเข้าแผงวงจร ลดปัญหาสัตว์สร้างความเสียหาย
จุดเด่น
  • ประหยัดไฟมากด้วยค่า SEER ที่สูง
  • Coanda Panel ทำให้ลมไม่ปะทะตัวโดยตรง
  • แผงวงจรทนทานพิเศษ เหมาะกับสภาพไฟในไทย
  • มีแผ่นกรอง PM2.5 มาให้เป็นมาตรฐาน
  • ราคาเข้าถึงง่ายและคุ้มค่ามาก
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีเทคโนโลยีฟอกอากาศ Streamer
  • ไม่มี Wi-Fi ในตัว (ต้องซื้ออุปกรณ์เสริม)
  • ดีไซน์ค่อนข้างเรียบง่าย

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดแข็งที่สุดของ SABAI SERIES ที่ทำให้ผมยกให้เป็นอันดับหนึ่งในใจสายคุ้มค่า คือความสมดุลระหว่างราคาและเทคโนโลยีที่ได้มาครับ ในยุคที่ค่าไฟแพงขึ้นทุกวัน การเลือกแอร์ที่มีค่า SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) สูง ๆ ถือเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด ซึ่ง FTKB-Z ก็ทำได้ดีเยี่ยมด้วยค่า SEER สูงสุดถึง 19.12 ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเปิดแอร์ทั้งคืนก็ยังประหยัดกว่าแอร์ Non-Inverter รุ่นเก่า ๆ อย่างเห็นได้ชัด หัวใจสำคัญคือคอมเพรสเซอร์แบบสวิงลิขสิทธิ์เฉพาะของ Daikin ที่ลดการสั่นสะเทือนและการเสียดสี ทำให้เครื่องทำงานเงียบและประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใครที่กำลังมองหา แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่จะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าระยะยาว รุ่นนี้คือคำตอบที่ใช่เลยครับ นอกจากเรื่องประหยัดไฟแล้ว ความทนทานก็เป็นอีกเรื่องที่ Daikin ไม่เคยทำให้ผิดหวัง รุ่นนี้มาพร้อมกับ Super PCB Pro แผงวงจรที่ออกแบบมาให้ทนต่อไฟตกไฟกระชากได้ดีเยี่ยม หมดกังวลเรื่องปัญหาไฟไม่นิ่งที่อาจทำให้แอร์พังง่าย ๆ แถมยังมีดีไซน์แบบ Lizard Proof ที่ช่วยป้องกันจิ้งจกหรือแมลงเข้าไปทำความเสียหายในแผงวงจร ซึ่งเป็นปัญหาสุดคลาสสิกของบ้านในเมืองไทยเลยครับ

ในด้านความสบายในการใช้งาน Daikin ก็ใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สร้างความแตกต่างได้มากครับ ฟีเจอร์ Coanda Panel หรือหน้ากากส่งลมเย็นขึ้นเพดาน เป็นอะไรที่ผมชอบมาก เพราะมันช่วยแก้ปัญหาลมแอร์เป่าหน้าเป่าหัวโดยตรงได้ดีมาก ทำให้ความเย็นกระจายตัวทั่วห้องอย่างนุ่มนวล ไม่รู้สึกหนาวสะท้าน เหมาะมากสำหรับห้องนอนหรือห้องที่มีเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ส่วนเรื่องคุณภาพอากาศก็ไม่ถูกละเลยครับ รุ่นนี้ให้แผ่นกรอง Air Quality Filter ที่สามารถกรองได้ทั้งฝุ่น PM2.5 และมีสารเคลือบ Enzyme Blue ที่ช่วยยับยั้งเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้บางชนิดได้อีกด้วย แม้จะไม่ได้เป็นระบบฟอกอากาศเต็มรูปแบบเหมือนรุ่นท็อป ๆ แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ต้องการอากาศสะอาดขึ้นในระดับหนึ่ง สรุปง่าย ๆ เลยว่าถ้าโจทย์ของคุณคือ แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่เน้นความคุ้มค่า ประหยัด ทนทาน และให้ฟังก์ชันพื้นฐานที่จำเป็นมาครบครัน Daikin SABAI SERIES FTKB-Z คือตัวเลือกที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้ามด้วยประการทั้งปวงครับ

คะแนนที่ได้

9.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ค่าไฟลดลงจริง ๆ ครับตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้ เย็นสบายกำลังดี ลมไม่โดนตัวเลย” – คุณเอก, อายุ 42
“ชอบที่มันทนดีค่ะ บ้านไฟตกบ่อยแต่แอร์ไม่เคยมีปัญหาเลย คุ้มมากค่ะ” – คุณปลา, อายุ 35


2. Daikin MAX INVERTER (STAR KQ SERIES) FTKQ-Y 9000-24000 BTU ★★★★★

“เย็นเร็วสะใจด้วย Powerful Mode พร้อมระบบเป่าไล่ความชื้น ลดกลิ่นอับ”

Daikin MAX INVERTER (STAR KQ SERIES) FTKQ-Y

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กลับบ้านมาร้อน ๆ แล้วอยากได้แอร์ที่เย็นเร็วทันใจ ไม่อยากรอนาน ผมขอแนะนำให้รู้จักกับ Daikin MAX INVERTER (STAR KQ SERIES) FTKQ-Y เลยครับ รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เมื่อมีคนถามว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่เด่นเรื่องความเร็วในการทำความเย็น จุดขายหลักของเขาคือ Powerful Mode ที่แค่กดปุ่มเดียว คอมเพรสเซอร์จะเร่งการทำงานไปที่รอบสูงสุด ทำให้ห้องเย็นลงอย่างรวดเร็ว เหมาะกับอากาศบ้านเราสุด ๆ นอกจากความเย็นเร็วแล้ว รุ่นนี้ยังใส่ใจเรื่องความสะอาดของตัวเครื่อง ด้วยฟังก์ชัน Self-Hygiene ที่เป็นระบบเป่าลมไล่ความชื้นอัตโนมัติหลังจากปิดแอร์ ช่วยลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับได้เป็นอย่างดีครับ

คุณสมบัติเด่น

  • Powerful Mode: เร่งรอบคอมเพรสเซอร์สูงสุด ทำให้ห้องเย็นเร็วทันใจ
  • Self-Hygiene: ระบบเป่าลมไล่ความชื้นอัตโนมัติ ลดการเกิดกลิ่นอับและเชื้อรา
  • ค่า SEER: สูงสุด 19.22 (ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5)
  • Coanda Airflow: ส่งลมเย็นไปตามเพดานเพื่อการกระจายลมที่นุ่มนวล
  • Air Quality Filter: แผ่นกรองฝุ่น PM2.5 และยับยั้งสารก่อภูมิแพ้
  • Super PCB Pro: แผงวงจรทนทานพิเศษ รองรับไฟตก-ไฟกระชาก
จุดเด่น
  • เย็นเร็วมากด้วย Powerful Mode
  • มีระบบทำความสะอาดตัวเอง ลดกลิ่นอับ
  • ประหยัดไฟมาก ค่า SEER สูง
  • ฟังก์ชัน Coanda ทำให้ลมไม่ปะทะตัว
  • แผงวงจรทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มี Wi-Fi ในตัว
  • ฟังก์ชันฟอกอากาศเป็นแบบพื้นฐาน

รีวิวแบบเจาะลึก

สิ่งที่ทำให้ STAR KQ SERIES โดดเด่นขึ้นมาจากรุ่นพื้นฐานอย่างเห็นได้ชัดคือฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นครับ Powerful Mode คือพระเอกของรุ่นนี้เลย ลองนึกภาพเรากลับมาจากข้างนอกที่แดดเปรี้ยง ๆ แค่กดปุ่มเดียวแอร์ก็จะทำงานเต็มกำลังเพื่อลดอุณหภูมิห้องให้เย็นฉ่ำในเวลาไม่กี่นาที พอห้องเย็นได้ที่แล้ว ระบบ Inverter ก็จะค่อย ๆ ลดรอบการทำงานลงเพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงที่และประหยัดพลังงานต่อไป เป็นฟังก์ชันที่ดูเหมือนจะเล็กน้อยแต่มีประโยชน์มากจริง ๆ ครับ และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ต้องชอบคือ Self-Hygiene หรือระบบไล่ความชื้น หลายคนคงเคยเจอปัญหาแอร์มีกลิ่นอับชื้นเวลาเปิดใหม่ ๆ ซึ่งสาเหตุก็มาจากการสะสมของความชื้นในคอยล์เย็นจนเกิดเป็นเชื้อรา ระบบนี้จะช่วยเป่าลมเพื่อไล่ความชื้นที่ตกค้างอยู่ออกไปหลังจากที่เราปิดแอร์ ทำให้ตัวเครื่องด้านในแห้งและสะอาดอยู่เสมอ ช่วยยืดอายุการใช้งานและลดความจำเป็นในการเรียกช่างมาล้างแอร์บ่อย ๆ ได้อีกด้วยครับ

แน่นอนว่าพื้นฐานความเป็น แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่ต้องประหยัดและทนทาน รุ่นนี้ก็จัดมาให้เต็มไม่แพ้กัน ด้วยค่า SEER ที่สูงถึง 19.22 การันตีความประหยัดด้วยฉลากเบอร์ 5 และยังคงมีเทคโนโลยี Coanda Airflow ที่ช่วยให้ลมเย็นกระจายตัวอย่างนุ่มนวล ไม่ทำร้ายสุขภาพ รวมถึงแผ่นกรอง PM2.5 และ Super PCB Pro ที่เป็นมาตรฐานความทนทานของ Daikin ดังนั้นถ้าจะสรุปง่าย ๆ สำหรับ STAR KQ SERIES ก็คือเป็นรุ่นที่อัปเกรดขึ้นมาจาก SABAI SERIES ในเรื่องของความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการทำความเย็น ใครที่ขี้ร้อน อยากได้แอร์ที่เปิดปุ๊บเย็นปั๊บ และเบื่อปัญหากลิ่นอับกวนใจ การเพิ่มงบอีกนิดหน่อยเพื่อเลือกรุ่นนี้ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นที่ใช้งานเป็นประจำเลยทีเดียว

คะแนนที่ได้

9.3/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“โหมดเย็นเร็วคือดีมากครับ กลับมาเหนื่อย ๆ เปิดแป๊บเดียวเย็นเลย ไม่ต้องทนร้อนนาน” – คุณนนท์, อายุ 31
“ตั้งแต่ใช้รุ่นนี้มา ไม่เคยได้กลิ่นอับจากแอร์อีกเลยค่ะ ชอบระบบทำความสะอาดตัวเองมาก” – คุณฝน, อายุ 38


3. Daikin MAX INVERTER (STAR KF SERIES) FTKF-Y 9000-24000 BTU ★★★★☆

“สายสุขภาพต้องมี! ฟอกอากาศด้วย Streamer พร้อมควบคุมผ่าน Wi-Fi ได้จากทุกที่”

Daikin MAX INVERTER (STAR KF SERIES) FTKF-Y

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาถึงรุ่นที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของสายสุขภาพกันบ้างครับ กับ Daikin MAX INVERTER (STAR KF SERIES) FTKF-Y ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่ให้มากกว่าแค่ความเย็น แต่ยังช่วยดูแลคุณภาพอากาศในห้องให้สะอาดบริสุทธิ์ด้วย รุ่นนี้คือคำตอบเลยครับ เพราะนี่คือซีรีส์เริ่มต้นที่ Daikin ใส่เทคโนโลยีฟอกอากาศเอกสิทธิ์เฉพาะอย่าง “Streamer” เข้ามาให้ด้วย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในเครื่องฟอกอากาศ Daikin เลยทีเดียวครับ นอกจากนี้ยังอัปเกรดความสะดวกสบายไปอีกขั้นด้วย Built-in Wi-Fi ทำให้เราสามารถควบคุมแอร์ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

คุณสมบัติเด่น

  • Streamer Technology: เทคโนโลยีฟอกอากาศขั้นสูง ปล่อยประจุพลาสมาเพื่อยับยั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้
  • Built-in Wi-Fi Adapter: ควบคุมการทำงานของแอร์ผ่านแอป Daikin Mobile Controller ได้จากทุกที่
  • ค่า SEER: สูงสุด 21.13 (ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ★)
  • Humidity Control: โหมดควบคุมความชื้น ช่วยให้รู้สึกสบายตัว ไม่อึดอัด
  • Air Quality Filter: แผ่นกรองฝุ่น PM2.5 และ Enzyme Blue
  • Self-Hygiene: ระบบเป่าลมไล่ความชื้น ลดการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับ
จุดเด่น
  • มีเทคโนโลยีฟอกอากาศ Streamer
  • ควบคุมผ่าน Wi-Fi ได้สะดวกมาก
  • ประหยัดไฟมาก ได้เบอร์ 5 หนึ่งดาว
  • มีโหมดควบคุมความชื้น เพิ่มความสบาย
  • ฟังก์ชันทำความสะอาดตัวเองครบครัน
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูงกว่ารุ่นเริ่มต้น
  • ไม่มี Coanda Panel และ Intelligent Eye

รีวิวแบบเจาะลึก

หัวใจของ STAR KF SERIES คือเทคโนโลยี Streamer ครับ มันทำงานโดยการปล่อยประจุไฟฟ้าพลาสม่าความเร็วสูงออกมาเพื่อเข้าสลายและยับยั้งสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนแผ่นกรอง ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส แบคทีเรีย สปอร์เชื้อรา หรือแม้แต่สารก่อภูมิแพ้และกลิ่นไม่พึงประสงค์ พูดง่าย ๆ ก็คือมันช่วยทำความสะอาดอากาศที่เราหายใจเข้าไปให้บริสุทธิ์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เหมาะมากสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ มีลูกเล็ก หรือเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้าน การมีฟังก์ชันนี้ในเครื่องปรับอากาศก็เหมือนได้ทั้งแอร์และเครื่องฟอกอากาศในเครื่องเดียวเลยครับ และเมื่อรวมกับแผ่นกรอง PM2.5 ที่มีมาให้อยู่แล้ว ก็ยิ่งมั่นใจในคุณภาพอากาศได้มากขึ้นไปอีก การตัดสินใจว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี สำหรับครอบครัวที่ใส่ใจสุขภาพจึงมักจะมาลงเอยที่รุ่นที่มี Streamer นี่แหละครับ อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ Humidity Control หรือโหมดควบคุมความชื้น ซึ่งช่วยลดความชื้นในอากาศโดยที่อุณหภูมิห้องไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ทำให้เรารู้สึกสบายตัวขึ้น ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับช่วงที่ฝนตกบ่อย ๆ ในบ้านเรามากครับ

ความทันสมัยของรุ่นนี้ยังไม่หมดแค่นั้นครับ การมี Wi-Fi Adapter ติดตั้งมาให้ในตัว (Built-in) ถือเป็น Game Changer เลยทีเดียว เราสามารถใช้แอป Daikin Mobile Controller บนมือถือสั่งเปิด-ปิดแอร์ ปรับอุณหภูมิ หรือตั้งเวลาล่วงหน้าได้จากนอกบ้าน กลับมาถึงบ้านก็เจอห้องเย็น ๆ รออยู่ได้เลย หรือบางทีลืมปิดแอร์ก็สามารถกดปิดจากที่ทำงานได้ ช่วยประหยัดไฟไปในตัว เรื่องความประหยัดพลังงานก็หายห่วงครับ เพราะรุ่นนี้ได้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 พร้อมกับดาว 1 ดวง (★) ด้วยค่า SEER ที่สูงถึง 21.13 ถือว่าประหยัดไฟในระดับท็อป ๆ เลยทีเดียวครับ แม้ว่ารุ่นนี้จะไม่มี Coanda Panel เหมือนรุ่นเริ่มต้น แต่ด้วยเทคโนโลยีฟอกอากาศและความสะดวกสบายในการควบคุมผ่าน Wi-Fi ที่เพิ่มเข้ามา ทำให้ STAR KF SERIES เป็นตัวเลือกที่น่าลงทุนมาก ๆ สำหรับใครที่อยากยกระดับคุณภาพชีวิตและกำลังพิจารณาว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่จะให้ประโยชน์มากกว่าแค่ความเย็นครับ

คะแนนที่ได้

8.9/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ลูกชายเป็นภูมิแพ้ ตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้อาการดีขึ้นเยอะเลยค่ะ อากาศในห้องรู้สึกสะอาดขึ้นจริง ๆ” – คุณใหม่, อายุ 36
“ชอบที่สั่งเปิดแอร์จากนอกบ้านได้ กลับมาถึงก็เย็นเลย ไม่ต้องรอ สะดวกมากครับ” – คุณบอย, อายุ 40


4. Daikin MAX INVERTER (STAR KM SERIES) FTKM-Y 9000-24000 BTU ★★★★☆

“ที่สุดแห่งความประหยัดไฟ! SEER สูงลิ่ว พร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะและฟอกอากาศครบสูตร”

Daikin MAX INVERTER (STAR KM SERIES) FTKM-Y

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าเป้าหมายหลักของคุณคือ “ความประหยัดไฟสูงสุด” และกำลังมองหาว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่จะตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุด ผมขอยกให้ Daikin MAX INVERTER (STAR KM SERIES) FTKM-Y เป็นราชาแห่งความประหยัดเลยครับ ด้วยค่า SEER ที่สูงถึง 24.70 ทำให้ได้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 พร้อมดาวถึง 2 ดวง (★★) การันตีได้เลยว่านี่คือหนึ่งในแอร์ที่ประหยัดไฟที่สุดในตลาดตอนนี้ แต่ความเจ๋งของมันไม่ได้มีแค่นั้นครับ รุ่นนี้จัดเต็มเทคโนโลยีมาให้แบบไม่มีกั๊ก ทั้งระบบฟอกอากาศ Streamer, Coanda Panel ส่งลมไม่โดนตัว และที่พิเศษสุด ๆ คือเซ็นเซอร์ตาอัจฉริยะ (Intelligent Eye) ที่ช่วยประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นครับ

คุณสมบัติเด่น

  • ค่า SEER: สูงสุด 24.70 (ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ★★)
  • Intelligent Eye: เซ็นเซอร์อินฟราเรดตรวจจับความเคลื่อนไหว ปรับอุณหภูมิขึ้น 2°C เมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง และส่งลมไม่ให้โดนตัวคนโดยตรง
  • Streamer Technology: ระบบฟอกอากาศประสิทธิภาพสูง ยับยั้งไวรัส แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้
  • Coanda Panel: หน้ากากส่งลมเย็นเลียดไปตามเพดานเพื่อกระจายความเย็นอย่างทั่วถึง
  • Built-in Wi-Fi Adapter: รองรับการควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
  • Self-Hygiene: ระบบเป่าลมไล่ความชื้น ป้องกันกลิ่นอับ
จุดเด่น
  • ประหยัดไฟมากที่สุดในระดับเดียวกัน (เบอร์ 5 สองดาว)
  • มีเซ็นเซอร์ตาอัจฉริยะ ช่วยประหยัดพลังงานเพิ่ม
  • ฟังก์ชันครบครัน ทั้งฟอกอากาศ Streamer และ Coanda
  • ควบคุมผ่าน Wi-Fi ได้ในตัว
  • ดีไซน์สวยงาม พรีเมียม
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูงที่สุดในกลุ่มนี้
  • ฟังก์ชันอาจจะเยอะเกินความจำเป็นสำหรับบางคน

รีวิวแบบเจาะลึก

ความอัจฉริยะของ STAR KM SERIES อยู่ที่การผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อความประหยัดและความสบายอย่างลงตัวครับ ไฮไลท์สำคัญคือ Intelligent Eye หรือเซ็นเซอร์ตาอัจฉริยะ มันจะคอยตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในห้อง ถ้าไม่เจอใครนานเกิน 20 นาที แอร์จะปรับอุณหภูมิขึ้นเอง 2 องศาเซลเซียสเพื่อลดการใช้พลังงาน และเมื่อมีคนกลับเข้ามาในห้อง มันก็จะปรับอุณหภูมิกลับมาที่ค่าเดิมให้อัตโนมัติ แค่นี้ก็ช่วยประหยัดไฟไปได้อีกเยอะแล้วครับ ยังไม่หมดแค่นั้น เซ็นเซอร์ตัวนี้ยังสามารถเลือกโหมดส่งลมไม่ให้โดนตัวคนได้ด้วย ทำให้เรารู้สึกสบายตัว ไม่หนาวเกินไป เป็นฟีเจอร์ที่ฉลาดและใช้งานได้จริงมาก ๆ เมื่อรวมกับค่า SEER ที่สูงลิ่วอยู่แล้ว ทำให้การเลือก แอร์ Daikin รุ่นไหนดี สำหรับคนที่อยากจ่ายค่าไฟน้อยที่สุด ต้องมีรุ่นนี้อยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ เลยครับ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ซึ่งดีต่อโลกของเราด้วยครับ

ในด้านอื่น ๆ รุ่นนี้ก็เหมือนเอาข้อดีของรุ่นรอง ๆ มารวมกันไว้ทั้งหมดครับ มีทั้งเทคโนโลยีฟอกอากาศ Streamer ที่ช่วยให้อากาศในห้องสะอาดบริสุทธิ์, มี Coanda Panel ช่วยให้ลมเย็นกระจายตัวแบบนุ่มนวล, มีระบบ Self-Hygiene เป่าไล่ความชื้น และมี Built-in Wi-Fi ให้ควบคุมผ่านมือถือได้สะดวกสบาย เรียกว่าเป็นรุ่นที่จัดเต็มทุกฟังก์ชันเรือธงของ Daikin เลยก็ว่าได้ครับ ดีไซน์ของตัวเครื่องก็ดูพรีเมียมสมราคา เหมาะกับห้องที่ต้องการความสวยงามลงตัว ดังนั้น หากงบประมาณไม่ใช่ปัญหา และคุณกำลังมองหา แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่ให้ความประหยัดสูงสุด เทคโนโลยีล้ำที่สุด และมอบความสบายอย่างครบครันในทุกมิติ Daikin STAR KM SERIES FTKM-Y คือคำตอบสุดท้ายที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้วครับ เป็นการลงทุนเพื่อความสบายและคุ้มค่าในระยะยาวอย่างแท้จริง

คะแนนที่ได้

9.2/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“บิลค่าไฟลดลงแบบตกใจเลยครับ ประหยัดกว่าตัวเก่าเยอะมาก เซ็นเซอร์ก็ฉลาดดี เดินออกจากห้องแป๊บเดียวแอร์ก็ลดการทำงานเอง” – คุณวิน, อายุ 45
“ฟังก์ชันครบจริง ๆ ค่ะ ทั้งประหยัดไฟ ฟอกอากาศได้ แถมลมก็ไม่โดนตัวลูกสาวเลย ชอบมากค่ะ” – คุณแอน, อายุ 39


5. Daikin MAX INVERTER (STAR KZ SERIES) FTKZ-Y 9000-24000 BTU ★★★★☆

“ที่สุดแห่งความสบาย! ควบคุมความชื้นอัจฉริยะ ประหยัดไฟระดับ 3 ดาว ฟอกอากาศเต็มพิกัด”

Daikin MAX INVERTER (STAR KZ SERIES) FTKZ-Y

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าคุณคิดว่า STAR KM Series คือที่สุดแล้ว ผมอยากให้ลองดู Daikin MAX INVERTER (STAR KZ SERIES) FTKZ-Y ก่อนครับ เพราะนี่คือรุ่นที่ Daikin พัฒนาไปอีกขั้นเพื่อ “ที่สุดแห่งความสบาย” อย่างแท้จริง ถ้าคำถามของคุณคือ แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่ไม่เพียงแต่ประหยัดไฟและฟอกอากาศได้ แต่ยังสามารถควบคุมบรรยากาศในห้องให้สมบูรณ์แบบที่สุด รุ่นนี้คือคำตอบครับ ด้วยการอัปเกรดค่า SEER จนสูงถึง 25.30 ทำให้ได้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 พร้อมดาวถึง 3 ดวง (★★★) ซึ่งประหยัดที่สุดในลิสต์นี้ และมาพร้อมกับเทคโนโลยี Hybrid Cooling ที่ช่วยควบคุมความชื้นได้อย่างแม่นยำ ทำให้คุณรู้สึกสบายตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศแบบไหนก็ตาม

คุณสมบัติเด่น

  • ค่า SEER: สูงสุด 25.30 (ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ★★★)
  • Hybrid Cooling Technology: ควบคุมความเย็นและความชื้นไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความสบายสูงสุด
  • Intelligent Eye: เซ็นเซอร์ตาอัจฉริยะ ตรวจจับความเคลื่อนไหวเพื่อประหยัดพลังงาน
  • Streamer Technology: ระบบฟอกอากาศขั้นสูง ยับยั้งสิ่งสกปรกในอากาศ
  • Built-in Wi-Fi Adapter: ควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้สะดวก
  • Premium Design: ดีไซน์หรูหรา พร้อมรีโมทคอนโทรลแบบพรีเมียม
จุดเด่น
  • ประหยัดไฟสูงสุดในตลาด (เบอร์ 5 สามดาว)
  • ควบคุมความชื้นได้ดีเยี่ยมด้วย Hybrid Cooling
  • ฟังก์ชันอัจฉริยะครบครันที่สุด
  • ระบบฟอกอากาศ Streamer ประสิทธิภาพสูง
  • ดีไซน์สวยงามและวัสดุพรีเมียม
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูงที่สุดในบรรดาแอร์บ้าน
  • อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้ฟังก์ชันทั้งหมด

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดเด่นที่ทำให้ STAR KZ SERIES แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ อย่างชัดเจนคือเทคโนโลยี Hybrid Cooling ครับ โดยปกติแล้วแอร์ทั่วไปจะเน้นทำความเย็นเป็นหลัก แต่ในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงอย่างบ้านเรา บางครั้งห้องเย็นแล้วแต่ยังรู้สึกเหนียวตัว ไม่สบายตัว เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาแก้ปัญหาตรงจุด โดยมันจะรักษาระดับความชื้นในห้องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม (ประมาณ 50-60% RH) ควบคู่ไปกับการทำความเย็น ทำให้ได้บรรยากาศที่เย็นสบายและสดชื่นอย่างแท้จริง ไม่ใชแค่เย็นแต่แห้งหรือเย็นแต่ชื้น เป็นความสบายในระดับที่เหนือกว่าแอร์ทั่วไปอย่างรู้สึกได้ครับ ใครที่เคยเจอปัญหาห้องอับชื้น หรือรู้สึกไม่สบายตัวแม้จะเปิดแอร์แล้วก็ตาม การเลือกรุ่นนี้จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอนครับ และเมื่อรวมกับค่า SEER ระดับ 3 ดาวที่ประหยัดไฟสุด ๆ ทำให้การเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืนไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลอีกต่อไป

แน่นอนว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เป็นจุดเด่นของ Daikin ก็ถูกนำมารวมไว้ในรุ่นนี้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Intelligent Eye ที่ช่วยประหยัดพลังงาน, Streamer ที่ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์, หรือ Built-in Wi-Fi ที่ให้คุณควบคุมทุกอย่างได้ปลายนิ้วผ่านสมาร์ทโฟน เรียกได้ว่านี่คือรุ่นที่รวมสุดยอดนวัตกรรมของ Daikin มาไว้ในเครื่องเดียวครับ นอกจากฟังก์ชันแล้ว Daikin ยังใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบ ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่ดูหรูหรา พรีเมียมกว่ารุ่นอื่น ๆ รวมถึงรีโมทคอนโทรลที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและดูดีมีระดับ ดังนั้น ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ยอมประนีประนอมในเรื่องคุณภาพและความสบาย และกำลังมองหาว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ Daikin STAR KZ SERIES FTKZ-Y คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบที่สุดครับ เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพและความสุขของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง

คะแนนที่ได้

9.1/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“รู้สึกได้เลยว่าอากาศในห้องมันสบายกว่าแอร์ตัวเก่าจริง ๆ ครับ ไม่เหนียวตัวเลยแม้แต่วันที่ฝนตกหนัก ๆ” – คุณตั้ม, อายุ 50
“ประหยัดไฟมากค่ะ ได้บิลมาแล้วตกใจเลยว่าทำไมถูกลงเยอะขนาดนี้ คุ้มค่ากับการลงทุนมากค่ะ” – คุณกิ๊ฟ, อายุ 43


6. Daikin MAX INVERTER (STAR KC SERIES) FTKC-Y 9000-24000 BTU ★★★☆☆

“สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ด้วย Streamer ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น เย็นสบายพร้อมประหยัดไฟ”

Daikin MAX INVERTER (STAR KC SERIES) FTKC-Y

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับใครที่อยากได้เทคโนโลยีฟอกอากาศ Streamer แต่มีงบประมาณจำกัด และกำลังคิดว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี? ผมขอแนะนำ Daikin MAX INVERTER (STAR KC SERIES) FTKC-Y ครับ รุ่นนี้เปรียบเสมือนเป็นรุ่นน้องของ STAR KF ที่ตัดทอนฟังก์ชันบางอย่างออกไป แต่ยังคงหัวใจหลักอย่างเทคโนโลยี Streamer เอาไว้ ทำให้เราได้สัมผัสอากาศที่สะอาดและปลอดภัยในราคาที่ย่อมเยาลงมาอีกระดับ ยังคงความสามารถในการยับยั้งเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี พร้อมกับความประหยัดไฟด้วยค่า SEER สูงสุดถึง 20.20 และมีฟังก์ชันพื้นฐานที่จำเป็นครบครันอย่าง Coanda Panel และ Built-in Wi-Fi ครับ

คุณสมบัติเด่น

  • Streamer Technology: เทคโนโลยีฟอกอากาศประสิทธิภาพสูง ยับยั้งไวรัส แบคทีเรีย และกลิ่นไม่พึงประสงค์
  • Built-in Wi-Fi Adapter: ควบคุมแอร์ผ่านสมาร์ทโฟนได้จากทุกที่
  • ค่า SEER: สูงสุด 20.20 (ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ★)
  • Coanda Panel: ส่งลมเย็นเลียดเพดาน กระจายความเย็นอย่างนุ่มนวล
  • Air Quality Filter: แผ่นกรองฝุ่น PM2.5 และ Enzyme Blue
  • Super PCB Pro: แผงวงจรทนทานพิเศษ
จุดเด่น
  • ได้เทคโนโลยี Streamer ในราคาที่คุ้มค่า
  • ควบคุมผ่าน Wi-Fi ได้ในตัว
  • ประหยัดไฟ ได้เบอร์ 5 หนึ่งดาว
  • มี Coanda Panel ช่วยให้ลมไม่ปะทะตัว
  • ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีโหมดควบคุมความชื้น (Humidity Control)
  • ไม่มีเซ็นเซอร์ตาอัจฉริยะ (Intelligent Eye)

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดประสงค์หลักของ STAR KC SERIES คือการทำให้เทคโนโลยีฟอกอากาศระดับเรือธงของ Daikin เข้าถึงคนได้ง่ายขึ้นครับ แม้จะถูกวางตำแหน่งไว้ต่ำกว่ารุ่น KF หรือ KM แต่การที่ยังคงมี Streamer Technology อยู่ก็ถือเป็นจุดแข็งที่น่าสนใจมาก เพราะนั่นหมายความว่าคุณยังคงได้รับประโยชน์จากอากาศที่สะอาดขึ้น ลดความเสี่ยงจากภูมิแพ้และเชื้อโรคต่าง ๆ ได้เหมือนเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่แอร์ในระดับราคาเดียวกันหลาย ๆ รุ่นไม่มีให้ ดังนั้น หากโจทย์ของคุณคือการหา แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่เน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลัก แต่ต้องการคุมงบไม่ให้สูงจนเกินไป รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ลงตัวมากครับ นอกจากนี้ การที่มี Built-in Wi-Fi มาให้เลยก็เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานไปอีกขั้น สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิด หรือปรับอุณหภูมิล่วงหน้าผ่านแอปได้ง่าย ๆ ไม่ต่างจากรุ่นพี่เลยครับ

ในส่วนของประสิทธิภาพการทำความเย็นและความประหยัดพลังงาน รุ่นนี้ก็ทำได้ดีตามมาตรฐาน Daikin ครับ ด้วยค่า SEER 20.20 ที่ได้รับฉลากเบอร์ 5 หนึ่งดาว ก็มั่นใจได้ในเรื่องการประหยัดไฟ และยังมี Coanda Panel ช่วยให้การกระจายลมเป็นไปอย่างนุ่มนวล ไม่รบกวนการพักผ่อน สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นที่สูงกว่าคือการตัดฟังก์ชันอย่าง Humidity Control และ Intelligent Eye ออกไป ซึ่งหากคุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการควบคุมความชื้นที่แม่นยำเป็นพิเศษ หรือไม่ได้ต้องการเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวเพื่อประหยัดพลังงานเพิ่ม การเลือกรุ่น STAR KC ก็ถือว่าเพียงพอและคุ้มค่ามากแล้วครับ เป็นการเลือกจ่ายในสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ ทำให้เป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ดีสำหรับคำถามที่ว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่ให้ความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีสุขภาพและความคุ้มค่าครับ

คะแนนที่ได้

8.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“อยากได้แอร์ฟอกอากาศแต่สู้ราคารุ่นท็อปไม่ไหว มาเจอรุ่นนี้คือใช่เลยครับ ได้ Streamer เหมือนกัน อากาศในห้องดีขึ้นจริง” – คุณโอ๊ต, อายุ 33
“ควบคุมผ่านมือถือได้สะดวกดีค่ะ ราคาไม่แรงมากแต่ได้ฟังก์ชันสำคัญครบ ชอบค่ะ” – คุณนัท, อายุ 29


7. Daikin NON-INVERTER (FTM Series) 9000-18000 BTU ★★★☆☆

“ตัวเลือกสายอึด ทนทาน เย็นเร็วแบบดั้งเดิม เหมาะกับการใช้งานไม่หนักมาก”

Daikin NON-INVERTER (FTM Series)

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

แม้ว่ายุคนี้จะเป็นยุคของแอร์ Inverter แต่ก็ยังมีบางคนที่อาจจะสงสัยว่าถ้าใช้งานไม่บ่อย หรือติดในห้องที่ไม่ค่อยได้เปิด จะเลือก แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่เน้นความทนทานและราคาเริ่มต้นถูกที่สุด? คำตอบก็คือแอร์ระบบ Non-Inverter หรือที่เรียกว่าระบบ Fixed Speed อย่าง Daikin FTM Series ครับ รุ่นนี้อาจจะไม่ได้ประหยัดไฟเท่าระบบ Inverter แต่ก็ได้เปรียบในเรื่องของความทนทานของคอมเพรสเซอร์ที่โครงสร้างไม่ซับซ้อน และราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่ายมาก ๆ เหมาะสำหรับห้องที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน เช่น ห้องรับแขก ห้องทำงานสำรอง หรือร้านค้าที่เปิด-ปิดเป็นเวลาครับ

คุณสมบัติเด่น

  • ระบบ Non-Inverter (Fixed Speed): คอมเพรสเซอร์ทำงานแบบตัด-ต่อ ให้ความเย็นเร็วในช่วงแรก
  • Powerful Mode: โหมดเร่งความเย็น ทำให้ห้องเย็นลงอย่างรวดเร็ว
  • Titanium Apatite Deodorizing Filter: แผ่นกรองช่วยดักจับฝุ่นและยับยั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์
  • ความทนทาน: คอยล์ร้อนทนทานต่อการกัดกร่อนเป็นพิเศษ
  • ราคาเริ่มต้น: เข้าถึงง่ายที่สุดในบรรดาแอร์ Daikin
จุดเด่น
  • ราคาเครื่องถูกมาก
  • โครงสร้างคอมเพรสเซอร์ไม่ซับซ้อน ทนทาน
  • เย็นเร็วในช่วงแรกที่เปิดเครื่อง
  • บำรุงรักษาง่าย
ข้อควรพิจารณา
  • กินไฟมากกว่าระบบ Inverter อย่างเห็นได้ชัด
  • อุณหภูมิไม่คงที่ มีอาการร้อน ๆ หนาว ๆ
  • เสียงคอมเพรสเซอร์ดังกว่าเวลาทำงาน

รีวิวแบบเจาะลึก

เสน่ห์ของแอร์ระบบ Non-Inverter อย่าง FTM Series คือความเรียบง่ายและทนทานครับ การทำงานของคอมเพรสเซอร์จะเป็นแบบ “เปิดสุด” หรือ “ปิด” ไปเลย ทำให้ในช่วงแรกที่เปิดเครื่องจะให้ความรู้สึกเย็นเร็วทันใจ เพราะเครื่องทำงานเต็มกำลังเพื่อลดอุณหภูมิให้ถึงจุดที่ตั้งไว้ จากนั้นคอมเพรสเซอร์ก็จะตัดการทำงาน และจะกลับมาทำงานอีกครั้งเมื่ออุณหภูมิห้องสูงขึ้น ซึ่งการทำงานแบบนี้อาจทำให้อุณหภูมิไม่คงที่เท่าระบบ Inverter แต่ก็แลกมาด้วยโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อนและค่าบำรุงรักษาที่อาจจะต่ำกว่าในระยะยาวครับ Daikin ยังคงใส่ใจเรื่องความทนทาน โดยออกแบบให้คอยล์ร้อนของรุ่นนี้ทนทานต่อการกัดกร่อนจากสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี ทำให้ใช้งานได้ยาวนานหายห่วงครับ

ในด้านฟังก์ชันเสริม รุ่นนี้ก็มี Powerful Mode มาให้เพื่อเร่งความเย็นในช่วงเวลาที่ต้องการ และมีแผ่นกรอง Titanium Apatite ที่ช่วยดักจับฝุ่นละอองและยับยั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ได้มีเทคโนโลยีฟอกอากาศขั้นสูงหรือฟังก์ชันอัจฉริยะเหมือนรุ่นใหม่ ๆ แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานพื้นฐานครับ ดังนั้น หากคุณกำลังมองหา แอร์ Daikin รุ่นไหนดี สำหรับห้องที่เปิดใช้งานไม่นาน หรือมีงบประมาณจำกัดมาก ๆ และให้ความสำคัญกับความทนทานเป็นอันดับแรก Daikin FTM Series ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณาอยู่เสมอครับ เป็นการเลือกความคลาสสิกที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานในบางสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี

คะแนนที่ได้

7.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ติดไว้ที่ร้านครับ เปิดแค่ช่วงกลางวัน เย็นเร็วดี ทนมาก ไม่เคยงอแงเลย” – เฮียชัย, อายุ 55
“ราคาถูกดีค่ะ ติดในห้องรับแขกที่ไม่ค่อยได้ใช้ ถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ” – คุณจิ๊บ, อายุ 41


มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและคุณภาพอากาศ

เมื่อเราพิจารณาว่าจะเลือก แอร์ Daikin รุ่นไหนดี การมองภาพรวมของเทคโนโลยีในปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญมากครับ ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานด้านพลังงานอย่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพอากาศ ได้ให้ทรรศนะที่น่าสนใจไว้ตรงกันว่า:

“เทรนด์ของเครื่องปรับอากาศในปี 2025 และอนาคต ไม่ได้มุ่งเน้นแค่ความเย็นอีกต่อไป แต่ให้ความสำคัญกับ ‘ประสิทธิภาพพลังงาน (Energy Efficiency)’ และ ‘คุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality – IAQ)’ เป็นหัวใจหลัก ผู้บริโภคยุคใหม่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและส่งเสริมสุขภาพที่ดีไปพร้อมกัน”

แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นในผลิตภัณฑ์ของ Daikin อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยี Inverter ที่ให้ค่า SEER สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 พร้อมดาวเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงความสามารถในการประหยัดพลังงานที่เหนือกว่ามาตรฐานทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ

ความสำคัญของเทคโนโลยีฟอกอากาศในเครื่องปรับอากาศ

ผู้เชี่ยวชาญยังเน้นย้ำว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้เครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชันฟอกอากาศในตัวไม่ใช่แค่ “ของฟุ่มเฟือย” แต่กำลังจะกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” สำหรับที่อยู่อาศัย

  • เทคโนโลยี Streamer ของ Daikin: ได้รับการยอมรับในวงกว้างถึงประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และสปอร์เชื้อรา ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเชิงรุก (Active Technology) ที่สามารถเข้าจัดการกับมลพิษได้ถึงบนแผ่นกรอง ต่างจากแผ่นกรองทั่วไปที่เป็นเพียงการดักจับ (Passive Technology)
  • การควบคุมความชื้น (Humidity Control): เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อความสบายและสุขภาพ การควบคุมความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม (40-60% RH) สามารถช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อราและไรฝุ่นได้

บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS

“การตัดสินใจเลือก แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ในวันนี้ คือการเลือกลงทุนเพื่ออนาคตครับ ทีมงานของเรามองว่า การยอมจ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อให้ได้รุ่นที่มีค่า SEER สูงขึ้น หรือมีเทคโนโลยีฟอกอากาศอย่าง Streamer ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากในระยะยาว เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดค่าไฟที่นับวันจะยิ่งแพงขึ้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราและคนในครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้เลยครับ”


เคล็ดลับการเลือกซื้อ แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ให้เหมาะกับห้องของคุณ

ชายหนุ่มกำลังพิจารณาแอร์ Daikin บนผนังในห้องนั่งเล่น เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ แอร์ Daikin รุ่นไหนดี

  1. คำนวณ BTU ให้พอดีกับขนาดห้อง: นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดครับ ห้องเล็กแต่ใช้แอร์ BTU สูงไปก็จะเปลืองไฟโดยใช่เหตุ ส่วนห้องใหญ่แต่แอร์ BTU ต่ำไปก็จะทำงานหนักและไม่เย็น สูตรคำนวณง่าย ๆ คือ พื้นที่ห้อง (ตารางเมตร) x 700-800 = ค่า BTU ที่เหมาะสม (สำหรับห้องที่โดนแดดน้อย) หรือ x 900-1,000 (สำหรับห้องที่โดนแดดมาก)
  2. ดูที่ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และค่า SEER: อย่าดูแค่ว่ามีเบอร์ 5 แต่ให้ดู “ดาว” และ “ค่า SEER” ประกอบด้วย ยิ่งดาวเยอะ ยิ่งค่า SEER สูง ก็ยิ่งประหยัดไฟมากครับ การลงทุนกับรุ่นที่ค่า SEER สูง ๆ อาจจะแพงกว่าในตอนแรก แต่คุ้มค่าในระยะยาวแน่นอน
  3. ฟังก์ชันฟอกอากาศจำเป็นแค่ไหน?: ถ้าบ้านคุณมีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่เป็นภูมิแพ้ การเลือกรุ่นที่มีเทคโนโลยี Streamer ถือว่าจำเป็นและคุ้มค่ามากครับ แต่ถ้าคุณไม่ได้กังวลเรื่องนี้มากนัก รุ่นที่มีแค่แผ่นกรอง PM2.5 ก็อาจจะเพียงพอแล้ว
  4. พิจารณาความสะดวกสบายในการใช้งาน: ฟีเจอร์อย่าง Coanda Panel, Intelligent Eye, หรือ Built-in Wi-Fi ล้วนเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและลดการใช้พลังงาน ลองถามตัวเองว่าฟังก์ชันเหล่านี้จำเป็นกับไลฟ์สไตล์ของคุณหรือไม่
  5. ตั้งงบประมาณและเปรียบเทียบความคุ้มค่า: สุดท้ายแล้วให้ตั้งงบประมาณในใจ แล้วนำรุ่นที่อยู่ในงบมาเปรียบเทียบกันว่า ในราคาที่ใกล้เคียงกัน รุ่นไหนให้ฟังก์ชันและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์เราได้มากที่สุด การเลือก แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ก็จะง่ายขึ้นมากครับ

Daikin Inverter vs Non-Inverter เลือกอะไรดีในปี 2025?

นี่เป็นคำถามคลาสสิกที่หลายคนยังสงสัยครับ ในปี 2025 นี้ ผมกล้าพูดได้เลยว่าสำหรับผู้ใช้งานตามบ้านทั่วไป แอร์ระบบ Inverter คือคำตอบที่ดีกว่าในทุกมิติ ทั้งในเรื่องการประหยัดพลังงานที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน, การทำงานที่เงียบกว่า, และการรักษาอุณหภูมิห้องให้คงที่ ทำให้รู้สึกสบายตัวมากกว่า แม้ราคาเริ่มต้นของแอร์ Inverter จะสูงกว่า แต่ค่าไฟที่ประหยัดได้ในแต่ละเดือนจะทำให้คุณคุ้มทุนได้ในเวลาไม่นานครับ ส่วนแอร์ Non-Inverter อาจจะเหมาะกับพื้นที่ที่ใช้งานน้อยมาก ๆ และมีงบจำกัดจริง ๆ เท่านั้นครับ


เปรียบเทียบ แอร์ Daikin กับ แอร์มิตซูบิชิ แบรนด์ไหนเหมาะกับคุณ?

เป็นอีกหนึ่งคู่แข่งตลอดกาลในตลาดแอร์ครับ ทั้งสองแบรนด์มีชื่อเสียงด้านคุณภาพและความทนทาน แต่ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันเล็กน้อยครับ

  • Daikin: จะโดดเด่นในเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่หลากหลาย โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพอากาศ (Streamer) และฟังก์ชันที่เน้นความสบายของผู้ใช้งาน (Coanda, Hybrid Cooling) ทำให้มีซีรีส์ย่อย ๆ ให้เลือกเยอะมาก ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการและทุกงบประมาณ
  • Mitsubishi Electric: มักจะถูกพูดถึงในเรื่องของ “ความทนทานขั้นสุด” และความเงียบในการทำงาน เป็นแบรนด์ที่เน้นความเสถียรและประสิทธิภาพของระบบกลไกเป็นหลัก ทำให้หลายคนเชื่อมั่นในอายุการใช้งานที่ยาวนาน หากคุณสนใจแบรนด์นี้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ 6 อันดับ แอร์มิตซูบิชิ รุ่นไหนดี ของเราได้ครับ

สรุปคือ ถ้าคุณให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีฟอกอากาศ ฟังก์ชันล้ำ ๆ และมีตัวเลือกหลากหลาย Daikin อาจจะตอบโจทย์คุณได้ดีกว่า แต่ถ้าคุณมองหาความทนทานแบบสุดขั้วและเชื่อมั่นในชื่อเสียงที่ยาวนาน Mitsubishi Electric ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันครับ


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

  • ถาม: แอร์ Daikin รับประกันกี่ปี?
    ตอบ: โดยทั่วไป Daikin จะรับประกันคอมเพรสเซอร์ 5-10 ปี (ขึ้นอยู่กับรุ่น) และรับประกันแผงคอยล์เย็น 3 ปี รวมถึงแผงวงจร PCB 3 ปีครับ อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายอีกครั้ง
  • ถาม: เทคโนโลยี Streamer ต้องมีการบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนอะไหล่ไหม?
    ตอบ: ชุดปล่อยประจุ Streamer ถูกออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานยาวนานและไม่ต้องเปลี่ยนครับ การบำรุงรักษาหลัก ๆ จะอยู่ที่การล้างทำความสะอาดแผ่นกรองและคอยล์เย็นตามปกติ ซึ่งช่างจะทำความสะอาดชุด Streamer ให้ในระหว่างการล้างแอร์อยู่แล้วครับ
  • ถาม: ถ้าอยากควบคุมแอร์ Daikin ผ่าน Wi-Fi แต่รุ่นที่ซื้อไม่มีมาให้ ทำอย่างไร?
    ตอบ: สำหรับรุ่นที่ไม่มี Built-in Wi-Fi (เช่น SABAI SERIES หรือ STAR KQ) เราสามารถซื้อ Daikin Wi-Fi Adapter (BRP072C42) มาติดตั้งเพิ่มเติมได้ครับ ทำให้สามารถใช้งานผ่านแอป Daikin Mobile Controller ได้เหมือนรุ่นที่มี Wi-Fi ในตัว
  • ถาม: การล้างแอร์ Daikin ควรทำบ่อยแค่ไหน?
    ตอบ: ความถี่ในการล้างแอร์ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการใช้งานครับ โดยทั่วไปแนะนำให้ล้างใหญ่ทุก ๆ 6 เดือน แต่ถ้าบ้านอยู่ติดถนนหรือมีฝุ่นเยอะ อาจจะต้องล้างทุก 3-4 เดือนครับ ส่วนแผ่นกรองอากาศด้านหน้า เราสามารถถอดมาล้างทำความสะอาดเองได้ทุก 1-2 สัปดาห์เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีครับ

บทสรุป: เลือก แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่ใช่สำหรับคุณที่สุด

มาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ น่าจะได้คำตอบในใจกันบ้างแล้วนะครับว่า แอร์ Daikin รุ่นไหนดี ที่จะเหมาะกับบ้านและไลฟ์สไตล์ของเราที่สุดในปี 2025 นี้ การเลือกแอร์ที่ดีไม่ใช่แค่การเลือกความเย็น แต่เป็นการลงทุนเพื่อความสบายและสุขภาพที่ดีในระยะยาว ซึ่ง Daikin ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วนจริง ๆ

ถ้าจะให้สรุปแบบฟันธงกันไปเลย:

  • สายคุ้มค่า เน้นประหยัด ทนทาน: ไปที่ Daikin SABAI SERIES (FTKB-Z) ได้เลยครับ ครบเครื่องเรื่องพื้นฐานในราคาที่จับต้องได้
  • สายสุขภาพ อากาศสะอาดคือที่หนึ่ง: มองไปที่รุ่นที่มี Streamer อย่าง Daikin STAR KF SERIES (FTKF-Y) เป็นตัวเริ่มต้นที่ดี หรือถ้าอยากได้ฟังก์ชันครบครันก็ขยับไปที่ Daikin STAR KM SERIES (FTKM-Y)
  • สายประหยัดไฟตัวจริง อยากจ่ายค่าไฟน้อยที่สุด: ต้องยกให้ Daikin STAR KZ SERIES (FTKZ-Y) ที่มาพร้อมฉลากเบอร์ 5 สามดาว และเทคโนโลยี Hybrid Cooling เพื่อความสบายสูงสุด

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเลือก แอร์ Daikin รุ่นไหนดี สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกให้เหมาะสมกับขนาดห้องและการใช้งานของเราครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นเหมือนเพื่อนที่ช่วยให้ข้อมูลและทำให้การตัดสินใจของเพื่อน ๆ ง่ายขึ้นนะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับแอร์ใหม่ที่เย็นฉ่ำและอากาศที่สดชื่นตลอดทั้งปีครับ!

 


หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • รายละเอียดคุณสมบัติ, ค่า SEER, และราคา อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจาก เว็บไซต์ทางการของ Daikin ประเทศไทย หรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ
  • คะแนน (เช่น 9.5/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากข้อมูลทางเทคนิค, ฟังก์ชันการใช้งาน, ความคุ้มค่าด้านราคา, และความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจ
  • รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “คุณเอก, อายุ 42”) เป็นตัวอย่างสมมติที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานในชีวิตประจำวันที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูล ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 เพื่อเป็นแนวทางสำหรับปี 2025 คุณสมบัติบางอย่างอาจมีการอัปเดตในอนาคต

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ หากท่านใช้งานต่อ ระบบจะถือว่าท่านยินยอมตามนโยบายคุกกี้ของเรา ขอขอบพระคุณครับ