8 อันดับ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2025 ประสิทธิภาพสูง ฟีเจอร์ครบ ราคาคุ้ม

Air Purifiers Featured Image

ในยุคที่มลพิษ PM2.5 กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นทุกวัน การมีเครื่องฟอกอากาศดี ๆ ติดบ้านถือเป็นไอเทมจำเป็นที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ ยิ่งในปี 2025 นี้ เทคโนโลยีการกรองอากาศพัฒนาแบบก้าวกระโดด ทั้งการกรองไวรัส แบคทีเรีย ฝุ่นละออง PM2.5 สารก่อภูมิแพ้ ไปจนถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ หากคุณกำลังถามตัวเองว่า “เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี” ที่ทั้งฟอกอากาศได้สะอาด ประหยัดพลังงาน ใช้งานง่าย และดีไซน์สวยเข้ากับบ้าน บทความนี้รวบรวมมาให้คุณครบ

เราคัดมาแล้วแบบเน้น ๆ กับ “8 อันดับ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2025” ที่คุ้มค่าและน่าใช้ที่สุด ทั้งจากแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Xiaomi, Philips, Dyson และอีกหลายรุ่นที่ได้รับความนิยมในปีนี้ พร้อมรีวิวแบบเจาะลึก จุดเด่น-ข้อพิจารณา และแนบลิงก์ให้คุณไปช้อปได้เลย

และถ้าคุณเป็นสายสุขภาพหรือมีคนในบ้านที่เป็นภูมิแพ้ เครื่องฟอกอากาศที่ดีสามารถเปลี่ยนคุณภาพชีวิตในบ้านได้แบบทันตาเห็น มาเริ่มกันเลยครับ!

8 อันดับ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2025

ปีนี้เครื่องฟอกอากาศหลากหลายรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ทั้งการกรองหลายชั้น HEPA H13/H14, Carbon Filter, ระบบ UV, App ควบคุมผ่านมือถือ ไปจนถึงระบบ AI ที่ปรับการฟอกตามสภาพอากาศอัตโนมัติ มาดูกันครับว่ามีรุ่นไหนที่เหมาะกับคุณบ้าง

อันดับที่ 🥇 🥈 🥉 4 5 6 7 8
รูปภาพสินค้า
ชื่อสินค้า (กดเพื่อเลื่อนไปดูรายละเอียด) Xiaomi Smart Air Purifier 4 Lite Philips Air Purifier AC1215 Smart Air – The Sqair Tefal Pure Air Essential PT2530 Worldtech Air Purifier WT-P40 Dyson Purifier Cool™ TP07 Sharp FP-J30TA Levoit Core 600S
สเปกเด่น HEPA H13, คุมผ่านแอป VitaShield IPS, Auto Mode CADR สูง, ใช้งานง่าย HEPA H13, ราคาเบา HEPA + Carbon, ฟอกไว กรอง + พัดลม 2in1 Plasmacluster Ion HEPA H13, Smart Sensor
คะแนน ★★★★★
9.5/10
★★★★☆
9.2/10
★★★★☆
9.0/10
★★★★☆
8.8/10
★★★★☆
8.7/10
★★★★☆
8.6/10
★★★★☆
8.5/10
★★★★☆
8.4/10
เหมาะกับใคร คนอยู่คอนโด/ห้องนอน บ้านมีเด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ ผู้แพ้ง่าย งบจำกัด ห้องขนาดเล็ก งบน้อย อยากได้เครื่องแรงในงบประหยัด คนไม่ชอบเครื่องแอร์ แต่อยากเย็น ผู้แพ้ฝุ่น PM2.5 หนัก บ้านใหญ่ ต้องการคุมผ่านแอป
เช็กราคาล่าสุด

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

1. Xiaomi Smart Air Purifier 4 Lite ★★★★★

“เครื่องฟอกอากาศฟีเจอร์ครบ ใช้งานง่าย เชื่อมต่อแอปได้ ในราคาสบายกระเป๋า”

Xiaomi Smart Air Purifier 4 Lite

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าจะให้เลือก เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ที่ครบทั้งเรื่องประสิทธิภาพ ความสะดวกสบาย และราคาสุดคุ้ม Xiaomi Smart Air Purifier 4 Lite คือตัวเต็งที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยดีไซน์มินิมอล น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก และรองรับการเชื่อมต่อผ่านแอป Mi Home ทำให้ควบคุมการทำงานจากมือถือได้เลยแม้ไม่อยู่บ้าน

แถมยังมีฟิลเตอร์แบบ HEPA H13 ที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM2.5 ได้ถึง 99.97% เหมาะสำหรับห้องนอน ห้องทำงาน หรือคอนโดขนาดเล็กถึงกลาง นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าอากาศในบ้านบริสุทธิ์ทุกนาที

สเปกเด่น

  • ขนาดห้องที่รองรับ: สูงสุด 43 ตร.ม.
  • ฟิลเตอร์: HEPA H13 + Activated Carbon
  • ควบคุมผ่านแอป: Mi Home / Google Assistant / Alexa
  • เสียงขณะทำงาน: ต่ำสุด 33.4 เดซิเบล
  • ค่า CADR: 360 ลบ.ม./ชม.
จุดเด่น
  • ฟอกอากาศได้รวดเร็ว ครอบคลุมพื้นที่กว้าง
  • ดีไซน์เรียบหรู เคลื่อนย้ายสะดวก
  • เชื่อมต่อแอปได้ ควบคุมผ่านมือถือสะดวก
  • เสียงเบาเหมาะกับใช้ในห้องนอน
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีหน้าจอแสดงคุณภาพอากาศแบบดิจิทัล
  • ต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์ทุก 6-12 เดือน

คะแนนที่ได้

9.5/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ผมใช้รุ่นนี้ในห้องนอน ดีเลยครับ นอนสบายขึ้น ไม่แพ้ฝุ่นแล้ว” – โอ๊ต, อายุ 35

“เลี้ยงแมวอยู่ ฟอกกลิ่นได้ดีมาก เสียงเบาด้วย” – แป้ง, อายุ 29


2. Philips Air Purifier AC1215 ★★★★☆

“เครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ฟอกอากาศอัตโนมัติ ครอบคลุมถึง 63 ตร.ม.”

Philips Air Purifier AC1215

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

Philips AC1215 เป็นเครื่องฟอกอากาศรุ่นยอดนิยมที่ครองใจคนทั่วโลกมายาวนาน ด้วยเทคโนโลยี VitaShield IPS ที่ช่วยกรองอนุภาคเล็กถึง 0.02 ไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังมีโหมดอัตโนมัติ (Auto Mode) ที่ปรับระดับการฟอกอากาศตามความสกปรกของอากาศภายในห้องให้ทันทีแบบไม่ต้องตั้งค่าเอง

หน้าจอแสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และไฟ LED แสดงสถานะเป็นสีต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้มองเห็นสภาพอากาศในห้องได้อย่างชัดเจน เหมาะมากสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุที่ไวต่อฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้ และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใส่ใจสุขภาพเหมือนกับคนที่กำลังตามหา หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี เพื่อหลีกเลี่ยงไขมันส่วนเกิน การมีเครื่องฟอกอากาศดี ๆ แบบนี้ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้เช่นกัน

สเปกเด่น

  • ขนาดห้องที่รองรับ: สูงสุด 63 ตร.ม.
  • ฟิลเตอร์: HEPA + Carbon + Pre-filter
  • เทคโนโลยี: VitaShield IPS, Auto Mode
  • เสียงขณะทำงาน: ต่ำสุด 33 เดซิเบล
  • โหมด: Auto / Night / Turbo / Allergen
จุดเด่น
  • ฟอกอากาศได้อัตโนมัติ ปรับระดับเอง
  • เหมาะกับห้องขนาดกลางถึงใหญ่
  • หน้าจอแสดงคุณภาพอากาศชัดเจน
  • โหมดใช้งานหลากหลาย รวมถึงโหมดภูมิแพ้
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่สามารถเชื่อมต่อแอปได้
  • ดีไซน์อาจไม่ทันสมัยเท่ารุ่นใหม่ ๆ

คะแนนที่ได้

9.2/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใช้มาเกือบ 2 ปีแล้ว ประทับใจการทำงานอัตโนมัติมากครับ สะดวกจริง” – พีท, อายุ 38

“มีเด็กเล็กที่บ้าน เครื่องนี้ช่วยเรื่องฝุ่นละอองได้ดีจริง ๆ ค่ะ” – แอม, อายุ 32


3. Smart Air – The Sqair ★★★★☆

“เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เครื่องฟอกอากาศที่ออกแบบโดยนักวิทยาศาสตร์อากาศจอมประหยัด”

Smart Air – The Sqair

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าคุณกำลังมองหา เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ที่ไม่เล่นลูกเล่นเยอะ แต่เน้นฟอกอากาศจริงจัง Smart Air – The Sqair คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ด้วยดีไซน์เรียบ มินิมอล พร้อม CADR สูงถึง 315 ลบ.ม./ชม. ในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นเครื่องฟอกอากาศสายเท่ ประสิทธิภาพแน่น

ออกแบบโดยนักวิจัยด้านอากาศจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เจ้า The Sqair นี้ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยและห้องทดลองจริง ไม่ได้เน้น gimmick แต่เน้นประสิทธิภาพจริงล้วน ๆ ฟอก PM2.5 ได้ภายในไม่กี่นาที เหมาะกับคนที่อาศัยอยู่ในเมือง หรือใครที่มีภูมิแพ้จากฝุ่นละอองบ่อย ๆ

สำหรับใครที่รักความมินิมอล ลุคเรียบง่ายแบบเดียวกับการเลือก ลำโพงบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นคุณภาพเสียงไม่ฉูดฉาดมาก เจ้านี่ก็เป็นแนวเดียวกันเลยครับ!

สเปกเด่น

  • CADR: 315 ลบ.ม./ชม.
  • เหมาะกับห้อง: สูงสุด 40 ตร.ม.
  • ฟิลเตอร์: HEPA + Carbon Filter
  • การควบคุม: ปุ่มหมุน (Manual) 3 ระดับ
  • น้ำหนัก: 3.7 กก.
จุดเด่น
  • CADR สูง ฟอกอากาศได้เร็วในห้องขนาดกลาง
  • ดีไซน์เรียบ ใช้งานง่าย ไม่มีระบบซับซ้อน
  • เสียงเงียบในโหมดต่ำ เหมาะกับห้องนอน
  • ราคาสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีโหมดอัตโนมัติหรือเชื่อมต่อแอป
  • ไม่มีจอแสดงผลหรือเซ็นเซอร์ฝุ่นในตัว

คะแนนที่ได้

9.0/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ห้องเราฝุ่นเยอะมาก ลองเปิดแค่ 10 นาที ตัววัดฝุ่นลดฮวบเลย” – เบลล์, อายุ 27

“เรียบง่าย สไตล์ญี่ปุ่น ใช้ไม่ซับซ้อน เหมาะกับบ้านที่ไม่อยากยุ่งกับเทคโนโลยีมาก” – เอก, อายุ 40


4. Tefal Pure Air Essential PT2530 ★★★★☆

“ครบจบในเครื่องเดียว ฟอกฝุ่น กลิ่น ควันบุหรี่ และเชื้อโรค ในงบไม่ถึงสามพัน”

Tefal Pure Air Essential PT2530

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ใครที่กำลังมองหา เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ที่ฟังก์ชันครบ ในงบประหยัดสุด ๆ Tefal Pure Air Essential PT2530 คือคำตอบที่คุ้มมากในปี 2025 นี้เลยครับ! รุ่นนี้มาพร้อมระบบกรองอากาศ 3 ชั้น ทั้ง Pre-Filter, Active Carbon และ HEPA H13 ซึ่งสามารถกรองได้ทั้งฝุ่น PM2.5, ควันบุหรี่, กลิ่นอาหาร ไปจนถึงเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้

เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กถึงกลาง เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน หรือหอพัก และด้วยชื่อแบรนด์ Tefal ที่มีมาตรฐานการผลิตจากฝรั่งเศส ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพทั้งเรื่องวัสดุ ความทนทาน และดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย ใช้งานง่ายมากแม้เป็นมือใหม่

ใครที่ชอบไลฟ์สไตล์เรียบง่ายและใช้อุปกรณ์ที่ดูฟังก์ชันล้วน ๆ เหมือนคนที่เลือกใช้ นาฬิกา Garmin ยี่ห้อไหนดี เพราะเน้นการใช้งานจริง ไม่เน้นแฟนซีเกินจำเป็น Tefal รุ่นนี้จะตอบโจทย์มากครับ

สเปกเด่น

  • CADR: 230 ลบ.ม./ชม.
  • รองรับพื้นที่: 30-35 ตร.ม.
  • ระดับการกรอง: 3 ชั้น (Pre + Carbon + HEPA H13)
  • ฟังก์ชัน: ตั้งเวลาปิด / ปรับระดับลม 3 ระดับ
  • เสียง: ต่ำสุด 35 เดซิเบล
จุดเด่น
  • ราคาถูกมาก แต่ได้ HEPA H13 แท้
  • กรองกลิ่น-ควันบุหรี่ได้ดี
  • เสียงเงียบ เหมาะกับวางในห้องนอน
  • ตั้งเวลาปิดอัตโนมัติได้
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศ
  • ไม่มีการเชื่อมต่อผ่านแอปหรือรีโมต

คะแนนที่ได้

8.8/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ซื้อให้พ่อแม่ใช้ที่ต่างจังหวัด เงียบดี กลิ่นหายหมด” – อาร์ต, อายุ 31

“หอพักเล็ก ๆ ก็ใช้ได้สบาย ราคาน่ารักมากค่ะ” – ตาล, อายุ 23


5. Worldtech Air Purifier WT-P40 ★★★★☆

“ฟอกอากาศไว ครอบคลุมทั่วห้อง ราคาประหยัด พร้อมแผ่นกรองคาร์บอนลดกลิ่น”

Worldtech Air Purifier WT-P40

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

Worldtech WT-P40 คือเครื่องฟอกอากาศที่โดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพการฟอกเร็วด้วย CADR สูง และครอบคลุมพื้นที่กว้างในราคาที่ใครก็เอื้อมถึง รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง หรืออยู่ในเขตเมือง เพราะสามารถจัดการได้ทั้งฝุ่น PM2.5, กลิ่นไม่พึงประสงค์ และควันจากการทำอาหารได้ในเครื่องเดียว

แม้จะไม่มีระบบอัตโนมัติหรือเชื่อมต่อแอป แต่ด้วยความสามารถที่ใช้งานง่าย แถมยังมีฟังก์ชันตั้งเวลาปิดและหน้าจอ LED บอกคุณภาพอากาศ ทำให้มันเป็นเครื่องฟอกอากาศคุ้มค่าสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายแพงมากแต่ได้ประสิทธิภาพจัดเต็ม เหมาะกับคนที่ชอบแนวทางเลือกอุปกรณ์คุ้มราคาแบบเดียวกับที่กำลังมองหา คีย์บอร์ดเกมมิ่งราคาประหยัด ครับ

สเปกเด่น

  • CADR: 280 ลบ.ม./ชม.
  • ครอบคลุมพื้นที่: สูงสุด 35 ตร.ม.
  • แผ่นกรอง: HEPA + Activated Carbon
  • หน้าจอแสดงผล: LED แสดงค่า PM2.5
  • ฟังก์ชันพิเศษ: ตั้งเวลาปิดได้ / ปรับระดับแรงลมได้
จุดเด่น
  • CADR สูง ฟอกอากาศได้เร็วมาก
  • มีจอแสดงผลฝุ่น PM2.5 แบบเรียลไทม์
  • ราคาประหยัดเมื่อเทียบกับสเปก
  • แผ่นกรองคาร์บอนลดกลิ่นได้ดี
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีระบบ Auto หรือ Smart Sensor
  • ไม่สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันได้

คะแนนที่ได้

8.7/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“อยู่ใกล้ตลาด ใช้รุ่นนี้แล้วกลิ่นอาหารลดไปเยอะเลย” – เจน, อายุ 28

“เปิดแล้วไม่ถึง 10 นาที ค่า PM2.5 ลดลงเห็นชัดบนจอเลยครับ” – บอล, อายุ 36


6. Dyson Purifier Cool™ TP07 ★★★★☆

“ฟอกอากาศและพัดลมเย็นในเครื่องเดียว ดีไซน์ล้ำ พลังแรง ฟีเจอร์จัดเต็ม”

Dyson Purifier Cool™ TP07

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

Dyson Purifier Cool™ TP07 เป็นมากกว่าเครื่องฟอกอากาศ เพราะรวมฟังก์ชัน “พัดลมเย็นไร้ใบพัด” และ “ฟอกอากาศระดับ HEPA H13” เอาไว้ในเครื่องเดียว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเย็นและอากาศสะอาดในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบแอร์หรืออยู่ในห้องที่อับชื้น รุ่นนี้สามารถหมุนได้รอบ 350° กระจายอากาศสะอาดได้ทั่วถึงแบบไม่มีจุดอับ

แผ่นกรองของ Dyson ได้มาตรฐาน HEPA H13 ทั้งตัวกรองและตัวเครื่องปิดผนึกแน่น ไม่มีฝุ่นเล็ดลอด และยังเชื่อมต่อแอป Dyson Link ได้อีกด้วย ใช้ควบคุมและตรวจสอบคุณภาพอากาศจากมือถือได้ตลอดเวลา ใครที่ชอบเทคโนโลยีล้ำ ๆ แบบเดียวกับการเลือก Smart TV ยี่ห้อไหนดี ก็จะต้องชอบเจ้านี่แน่นอนครับ

สเปกเด่น

  • CADR: ประสิทธิภาพครอบคลุมถึง 81 ตร.ม.
  • แผ่นกรอง: HEPA H13 + Activated Carbon
  • การควบคุม: รีโมต / แอป Dyson Link / สั่งงานด้วยเสียง
  • ฟังก์ชัน: หมุนได้ 350°, ปรับลมได้ 10 ระดับ
  • พิเศษ: ฟอกอากาศ + พัดลมเย็นในตัว
จุดเด่น
  • ดีไซน์ล้ำสมัย ไม่ใช้ใบพัด ปลอดภัยกับเด็ก
  • ควบคุมผ่านแอป และเชื่อมต่อ Smart Home
  • ฟอกอากาศได้ละเอียด HEPA H13
  • กระจายลมกว้าง หมุนได้ 350 องศา
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไป
  • ไม่มีระบบให้ความร้อน (เฉพาะรุ่น Hot+Cool เท่านั้น)

คะแนนที่ได้

8.6/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ฟังก์ชันเยอะมาก คุ้มค่าแม้ราคาสูง ใช้แทนแอร์ในหน้าร้อนได้ดี” – เฟิร์น, อายุ 33

“ผมเลี้ยงลูกเล็กอยู่ ใช้แล้วรู้สึกปลอดภัยเพราะไม่มีใบพัดเลย” – นัท, อายุ 37


7. Sharp FP-J30TA ★★★★☆

“ปล่อย Ion ฆ่าเชื้อในอากาศ ฟอกสะอาด พร้อมประสิทธิภาพเฉพาะจาก Plasmacluster”

Sharp FP-J30TA

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

Sharp FP-J30TA เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ครองใจใครหลายคนมาหลายปี ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะอย่าง Plasmacluster Ion ที่ปล่อยประจุไฟฟ้าบวก-ลบช่วยฆ่าเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัสในอากาศได้จริง และยังช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่อยู่คอนโดหรือห้องนอนขนาดเล็กถึงกลาง

ใช้งานง่าย มีโหมดตั้งเวลาปิดอัตโนมัติ ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ และมีฟิลเตอร์ฝุ่น HEPA คุณภาพสูง มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย มีให้เลือกหลายสี วางตรงไหนก็ไม่ขัดตาเลยครับ เหมาะกับคนที่ใส่ใจสุขภาพแต่ไม่อยากวุ่นวายกับระบบ IoT หรือแอปมากนัก เหมือนเวลาเลือกซื้อ เมาส์ไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ก็ขอแค่คลิกแม่น ใช้ง่าย ก็จบ!

สเปกเด่น

  • เทคโนโลยี: Plasmacluster Ion
  • แผ่นกรอง: HEPA + Pre-filter
  • พื้นที่รองรับ: สูงสุด 23 ตร.ม.
  • ฟังก์ชัน: ตั้งเวลาปิด / ปรับระดับลม / โหมดนอน
  • เสียงรบกวนต่ำสุด: 23 เดซิเบล
จุดเด่น
  • Plasmacluster Ion ช่วยฆ่าเชื้อโรคในอากาศ
  • ฟิลเตอร์ HEPA ประสิทธิภาพดี ราคาประหยัด
  • เสียงเงียบ เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอน
  • ดีไซน์กะทัดรัด สีสวยหลายแบบให้เลือก
ข้อควรพิจารณา
  • ครอบคลุมพื้นที่ได้น้อยกว่ารุ่นใหญ่
  • ไม่มีจอแสดงคุณภาพอากาศหรือระบบ Auto

คะแนนที่ได้

8.5/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ห้องนอนเล็ก ๆ ใช้รุ่นนี้รู้สึกอากาศสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” – ดาว, อายุ 26

“เราซื้อให้ลูกเพราะเสียงเงียบมาก ใช้ตอนนอนได้แบบไม่รบกวน” – น้องไทม์, อายุ 35


8. Levoit Core 600S ★★★★☆

“เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะสำหรับบ้านหลังใหญ่ พร้อม Smart Sensor และควบคุมผ่านแอป”

Levoit Core 600S

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

Levoit Core 600S คือคำตอบที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศตัวจริงเสียงจริง ใช้งานในบ้านหลังใหญ่หรือพื้นที่กว้าง ด้วยค่า CADR สูงถึง 697 ลบ.ม./ชม. พร้อมเทคโนโลยี AirSight Plus ที่เป็น Smart Sensor ตรวจวัดคุณภาพอากาศอย่างแม่นยำ และสามารถปรับระดับแรงลมอัตโนมัติตามค่าฝุ่นที่ตรวจเจอได้แบบเรียลไทม์

รุ่นนี้สามารถควบคุมผ่านแอป VeSync บนมือถือ พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Alexa หรือ Google Assistant ได้อีกด้วย ถือว่าเป็นเครื่องฟอกอากาศสายเทคฯ ที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่มาก โดยเฉพาะคนที่ต้องการอัปเกรดบ้านให้เป็นสมาร์ทโฮมแบบเต็มระบบ เหมือนกับไอเท็มอัจฉริยะอื่น ๆ อย่าง Digital Door Lock ยี่ห้อไหนดี ก็เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นครับ

สเปกเด่น

  • CADR: 697 ลบ.ม./ชม.
  • พื้นที่รองรับ: สูงสุด 147 ตร.ม.
  • ฟิลเตอร์: HEPA H13 + Pre-filter + Carbon Filter
  • การควบคุม: แอป VeSync / Alexa / Google Assistant
  • เซ็นเซอร์: AirSight Plus ตรวจจับฝุ่นแบบ Real-time
จุดเด่น
  • CADR สูง ฟอกอากาศได้รวดเร็วในพื้นที่กว้าง
  • มี Smart Sensor ตรวจจับฝุ่นแม่นยำ
  • รองรับสั่งงานผ่านแอปและผู้ช่วยเสียง
  • เหมาะสำหรับบ้านขนาดใหญ่หรือสำนักงาน
ข้อควรพิจารณา
  • ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นทั่วไป
  • ราคาสูงกว่ารุ่นบ้านเล็กทั่วไปเล็กน้อย

คะแนนที่ได้

8.4/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ติดตั้งในบ้านเดี่ยวสองชั้น ใช้แค่เครื่องเดียวทั่วถึงสุด ๆ” – พลอย, อายุ 41

“ฟีเจอร์เยอะจริง ใช้ผ่านมือถือได้สบายมาก ชอบระบบ Auto ที่ฉลาดสุด ๆ” – นนท์, อายุ 33


บทสัมภาษณ์ / ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ

เราได้พูดคุยกับ ดร.นภัสกร วิทยาการณ์ นักวิจัยอิสระด้านอากาศภายในอาคาร และผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 และเทคโนโลยีฟอกอากาศ ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า “ในปี 2025 เทรนด์ของเครื่องฟอกอากาศจะเน้น 3 สิ่งหลัก ได้แก่ ประสิทธิภาพการกรองที่แม่นยำ การควบคุมแบบอัจฉริยะ และความเงียบในการทำงาน”

“เครื่องฟอกอากาศไม่ใช่แค่ลดฝุ่น แต่ควรสามารถจัดการกลิ่น, เชื้อโรค และควรมีเซ็นเซอร์ที่ช่วยให้ทำงานตามสภาพอากาศได้แบบเรียลไทม์ ยิ่งบ้านที่มีเด็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยง ควรเลือกที่มี HEPA H13/H14 เป็นอย่างน้อย และควบคุมง่ายผ่านมือถือยิ่งดี” – ดร.นภัสกร

สำหรับใครที่สนใจจะลงทุนกับอุปกรณ์ดูแลสุขภาพในบ้าน เครื่องฟอกอากาศถือเป็นไอเทมหลักที่ควรมีควบคู่กับไอเทมสุขภาพอื่น ๆ อย่าง เซรั่มบำรุงผม หรือ คอลลาเจน ยี่ห้อไหนดี เพื่อดูแลตัวเองจากภายนอกและภายในไปพร้อมกันครับ


5 เคล็ดลับเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศให้คุ้มที่สุด

  1. ดูค่า CADR (Clean Air Delivery Rate): ยิ่งสูงยิ่งฟอกได้เร็ว โดยทั่วไป 200–400 ลบ.ม./ชม. เพียงพอสำหรับห้องทั่วไป
  2. เลือกฟิลเตอร์ HEPA แท้ (H13/H14): เพื่อมั่นใจว่ากรองฝุ่น PM2.5 และเชื้อโรคได้จริง
  3. ตรวจสอบพื้นที่ใช้งาน: เลือกรุ่นที่เหมาะกับขนาดห้อง เช่น ห้องนอนเล็กใช้รุ่นประมาณ 20–30 ตร.ม.
  4. ควบคุมง่าย ฟีเจอร์ครบ: หากชอบเทคโนโลยี ให้เลือกรุ่นที่มีแอปรองรับ / ตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติ
  5. เสียงรบกวนต่ำ: ถ้าจะใช้ในห้องนอนหรือออฟฟิศ ควรเลือกที่เสียงต่ำกว่า 35 เดซิเบล

Air Purifiers Buying Guide


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศ

  • Q: เครื่องฟอกอากาศช่วยเรื่องภูมิแพ้จริงไหม?
    A: ช่วยได้แน่นอน โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้ HEPA H13/H14 เพราะกรองไรฝุ่น ละอองเกสร เชื้อรา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Q: จำเป็นต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์บ่อยแค่ไหน?
    A: โดยเฉลี่ยทุก 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานและคุณภาพอากาศ
  • Q: ใช้ในห้องแอร์ได้ไหม?
    A: ได้ครับ และถือว่าดีมาก เพราะช่วยหมุนเวียนและฟอกอากาศในระบบปิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Q: จำเป็นต้องซื้อรุ่นที่เชื่อมต่อแอปไหม?
    A: ไม่จำเป็น แต่ถ้าอยากควบคุมระยะไกล / ดูคุณภาพอากาศผ่านมือถือ แอปจะช่วยให้ใช้งานสะดวกขึ้นเยอะ

สรุป: เลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะกับคุณที่สุด

ในปี 2025 นี้ มีเครื่องฟอกอากาศหลากหลายรุ่นให้เลือกมากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเริ่มต้นราคาหลักพัน ไปจนถึงรุ่นพรีเมียมที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฮมได้เต็มรูปแบบ การเลือก เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี จึงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก ๆ อย่าง ขนาดห้อง, งบประมาณ, และฟีเจอร์ที่ต้องการ

หากอยู่คอนโดหรือห้องนอนเล็ก แนะนำรุ่นอย่าง Sharp FP-J30TA หรือ Xiaomi 4 Lite ที่ใช้งานง่าย ในขณะที่บ้านหลังใหญ่ควรพิจารณา Levoit Core 600S หรือ Dyson TP07 ที่รองรับพื้นที่กว้าง พร้อมความสามารถในการฟอกและหมุนเวียนอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายนี้ ถ้าคุณกำลังมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่ช่วยยกระดับชีวิตให้ดีขึ้น ลองอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี และ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี ได้ที่ TOPLISTPLUS เลยครับ

Air Purifiers Conclusion


หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • บทความนี้จัดทำโดยทีมงาน TOPLISTPLUS จากการรวบรวมข้อมูลในช่วงต้นปี 2025 และอ้างอิงจากฟีเจอร์สินค้า, รีวิวจากผู้ใช้จริง, และผลการทดสอบภาคสนามบางส่วน
  • คะแนนที่ปรากฏ เช่น 9.5/10 หรือ 8.4/10 เป็นการประเมินเบื้องต้นที่รวมทั้งฟังก์ชัน, ราคา และรีวิวจากผู้ใช้หลายกลุ่ม
  • รีวิวจากผู้ใช้งาน เช่น “โอ๊ต อายุ 35” หรือ “แป้ง อายุ 29” เป็นตัวอย่างสมมุติเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานในบริบทต่าง ๆ
  • รายละเอียดเรื่องการรับประกัน, อะไหล่ หรือบริการหลังการขาย แนะนำให้ตรวจสอบเพิ่มเติมจากเว็บไซต์แบรนด์อย่างเป็นทางการ เช่น Xiaomi, Dyson, Philips เป็นต้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *