7 อันดับ Anycast รุ่นไหนดี แห่งปี 2025 เชื่อมต่อจอใหญ่ได้ง่าย ดูหนัง พรีเซนต์ได้สบาย

สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้ใครกำลังสนใจอุปกรณ์สตรีมมิเรอร์จอไร้สายอย่าง Anycast กันบ้าง? บอกเลยว่าช่วงปี 2025 นี้ มีรุ่นใหม่ ๆ ที่น่าสนใจออกมาหลายรุ่นทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยากเชื่อมมือถือเข้าทีวี พรีเซนต์งานจากโน้ตบุ๊ก หรือแคสหน้าจอแท็บเล็ตขึ้นจอใหญ่ ๆ สำหรับดูหนัง ดูซีรีส์ ถ้าอยากรู้ว่า “Anycast รุ่นไหนดี” ถึงจะตอบโจทย์การใช้งาน ก็ขอเชิญอ่านบทความนี้ได้เลยครับ ผมจะมาพูดถึง 7 รุ่นฮิตแห่งปี 2025 ที่หลายคนต่างบอกต่อ ทั้งเรื่องสเปก การใช้งาน จุดเด่น ข้อควรพิจารณา พร้อมรีวิวสั้น ๆ น่ารัก ๆ กันแบบจัดเต็ม หวังว่าบทความนี้จะช่วยเพื่อน ๆ ให้ตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นนะครับ

 

7 อันดับ Anycast รุ่นไหนดี แห่งปี 2025

ในช่วงนี้ หลายคนคงสงสัยว่า จะเลือก “Anycast รุ่นไหนดี” ถึงจะตอบโจทย์ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการดูวิดีโอ Netflix YouTube หรือสตรีมภาพจากมือถือขึ้นจอโปรเจ็กเตอร์ในงานสัมมนา แต่ละรุ่นต่างมีฟีเจอร์เด่นที่เหมาะกับผู้ใช้งานแตกต่างกัน มาดูการจัดอันดับ 7 รุ่นโดดเด่นที่คัดมาแล้วว่าเหมาะกับปี 2025 กันเลยครับ

 

1. Anycast M18 Plus ★★★★★

“ตัวแรงรองรับ Full HD เชื่อมต่อง่าย สายหนัง ซีรีส์ หรืองานพรีเซนต์ก็เอาอยู่”

Anycast M18 Plus

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับใครที่ลังเลอยู่ว่าจะเลือก Anycast รุ่นไหนดี แล้วต้องการภาพที่คมชัดระดับ Full HD แบบเน้น ๆ แถมเชื่อมต่อได้ทั้งระบบ iOS และ Android รวมถึง Windows, Mac OS จัดเต็ม Anycast M18 Plus นี่คือตัวเลือกที่หลายเสียงโหวตว่าคุ้มค่าสุด ๆ โดยเฉพาะเรื่องความเสถียรของสัญญาณ เมื่อเปิดดูซีรีส์ใน Netflix, YouTube, หรือแม้แต่งานพรีเซนต์ต่าง ๆ ก็ได้ภาพลื่น ๆ ไม่ค่อยมีอาการดีเลย์มากวนใจ ที่สำคัญดีไซน์ก็ยังเล็กพกสะดวก จะพกไปใช้ในออฟฟิศหรือที่บ้านก็ได้หมด

นอกจากนี้ ตัว M18 Plus ยังอัปเกรดมาให้รองรับสัญญาณได้ค่อนข้างเร็ว ตอบสนองทันใจระหว่างเครื่องส่งกับหน้าจอปลายทาง เหมาะกับคนที่อยากฉายรูปหรือเล่นเกมบนจอใหญ่ ๆ (แม้ว่าอาจมีดีเลย์เล็กน้อยสำหรับเกมที่ต้องการความแม่นยำสูง) แต่โดยรวมถือเป็นตัวที่คุ้มค่าสำหรับปี 2025 ไม่น้อยเลยครับ และถ้าเพื่อน ๆ ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจริง ๆ Anycast รุ่นไหนดี ที่เสถียรและเหมาะกับความต้องการหลากหลาย M18 Plus ก็น่าจะอยู่ในลิสต์ตัวท็อป ๆ ได้เลย

สเปกเด่น

  • ความละเอียดสูงสุด: รองรับ Full HD 1080p
  • รองรับระบบ: iOS / Android / Windows / Mac OS
  • การเชื่อมต่อ: HDMI, Wi-Fi Dual Band (2.4G/5G)
  • ขนาด: เล็ก พกพาสะดวก
  • ใช้งาน: Mirror Screen, DLNA, Airplay, Miracast
จุดเด่น
  • รองรับ Full HD ให้ภาพคมชัด
  • ใช้งานได้หลากหลาย OS
  • เชื่อมต่อเสถียร เหมาะกับดูหนังหรือพรีเซนต์
  • ดีไซน์เล็ก พกง่าย ไม่เกะกะ
ข้อควรพิจารณา
  • อาจมีดีเลย์เล็กน้อยในเกมกราฟิกสูง
  • ต้องใช้ Wi-Fi สัญญาณดีเพื่อความลื่นไหล

คะแนนที่ได้

9.5/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เสียบทีวี ดูหนังออนไลน์ได้สบาย ภาพชัดกว่าเดิมเยอะ” – โบ้ท, อายุ 29
“ต้องใช้พรีเซนต์งานบ่อย เชื่อมต่อได้ไว ไม่งอแง” – สมิท, อายุ 34

 


2. Anycast M9 Plus ★★★★☆

“รองรับหลายแพลตฟอร์ม เชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4/5 GHz รุ่นยอดนิยมสำหรับสายสตรีม”

Anycast M9 Plus

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าถามว่า Anycast รุ่นไหนดี ที่คนเล่นกันเยอะ ราคาคุ้มค่า เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ทั้ง 2.4G และ 5G เร็วทันใจ คงจะหนีไม่พ้นเจ้า M9 Plus ตัวนี้ สำหรับการดู Netflix, YouTube หรือแชร์รูปภาพบนหน้าจอใหญ่ ๆ ก็ทำได้ดีสไตล์ Anycast จุดเด่นคือการตั้งค่าไม่ยุ่งยาก มีโหมด Miracast สำหรับ Android, Airplay สำหรับ iOS หรือจะใช้ DLNA กับสมาร์ตทีวีก็ไม่ติดขัด

นอกจากนี้ บางคนยังนิยมเอา M9 Plus ไปใช้คู่กับโปรเจ็กเตอร์ในการประชุมสัมมนา หรือเปิดภาพสไลด์แบบ Real-Time จากมือถือ เรียกว่าใช้งานได้สารพัดแบบจริง ๆ ถึงแม้ภาพอาจจะไม่ถึงขั้น 4K แต่ระดับ Full HD ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปแล้วล่ะครับ ใครที่เป็นสายสตรีมคอนเทนต์ หรืออยากแคสจอมือถือขึ้นทีวีแบบสะดวก ๆ นี่คืออีกหนึ่งรุ่นที่อยากแนะนำ

สเปกเด่น

  • ความละเอียดสูงสุด: 1080p (Full HD)
  • รองรับระบบ: iOS / Android / Windows / Mac OS
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi Dual Band, HDMI
  • การทำงานหลัก: Mirror Screen, DLNA, Airplay, Miracast
  • รูปทรง: ทรงดองเกิล (Dongle) ขนาดเล็ก
จุดเด่น
  • รองรับ Wi-Fi 5 GHz ใช้งานได้เร็วกว่า 2.4G
  • รองรับหลายอุปกรณ์พร้อมฟีเจอร์หลากหลาย
  • ตั้งค่าง่าย ไม่ซับซ้อน
  • รองรับ Full HD ดูหนังได้คมชัด
ข้อควรพิจารณา
  • ถ้าสัญญาณ Wi-Fi อ่อนอาจกระตุกได้
  • ไม่รองรับ 4K (แต่ Full HD ก็เพียงพอทั่วไป)

คะแนนที่ได้

9/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ดู Netflix ลื่นดี ไม่มีดีเลย์ให้กวนใจ” – เป้, อายุ 27
“ใช้ต่อโปรเจ็กเตอร์ในออฟฟิศ บอกเลยเพิ่มความสะดวกขึ้นเยอะ” – แนน, อายุ 31

 


3. Anycast M12 Plus ★★★★★

“รุ่นอัปเกรดฟังก์ชันจัดเต็ม มีเสาอากาศขยายสัญญาณ เหมาะกับบ้านที่เน็ตไม่แรงมาก”

Anycast M12 Plus

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับท่านใดที่เคยประสบปัญหาภาพกระตุกหรือติดขัดเวลาแคสหน้าจอ ด้วยเหตุผลว่าไวไฟที่บ้านไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ “Anycast รุ่นไหนดี” ที่มีการปรับเพิ่มเสาอากาศเพื่อขยายความเสถียรของสัญญาณ ก็ต้องชี้เป้าไปที่ Anycast M12 Plus เลยครับ จุดเด่นคือมีเสาอากาศภายนอก ช่วยรับสัญญาณได้ดีขึ้น ลดโอกาสกระตุกเมื่อเทียบกับรุ่นที่ไม่มีเสา

นอกจากนั้น M12 Plus ยังรองรับการสตรีมแบบ Full HD เช่นเดิม ใช้งานกับสมาร์ตโฟนได้หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเป็นสาย iOS หรือ Android แถมยังรองรับ Airplay, Miracast, DLNA มาให้ครบเครื่อง จะใช้เปิดรูปสไลด์ให้นักเรียนในห้องเรียน หรือดูคอนเทนต์ผ่านทีวีจอใหญ่ในบ้าน ก็จัดได้ตามชอบครับ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่ต้องการความเสถียรขึ้นมาอีกระดับ

สเปกเด่น

  • ความละเอียดสูงสุด: 1080p
  • การเชื่อมต่อ: HDMI, Wi-Fi Dual Band, เสาอากาศขยายสัญญาณ
  • โหมดแคส: Airplay/Miracast/DLNA
  • จุดเด่น: มีเสาอากาศช่วยให้สัญญาณเสถียรขึ้น
  • ออกแบบ: ทรงดองเกิล + เสาอากาศ (ถอดได้)
จุดเด่น
  • เสาอากาศขยายสัญญาณได้ดี ลดการกระตุก
  • รองรับหลากหลายโหมดแคส
  • Full HD คมชัด
  • ตั้งค่าไม่ยาก เมื่อเข้าเมนูครั้งแรก
ข้อควรพิจารณา
  • ใหญ่กว่ารุ่นไม่มีเสาเล็กน้อย
  • ยังไม่รองรับ 4K

คะแนนที่ได้

9.5/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“บ้านเน็ตไม่ค่อยแรง พอมีเสาอากาศช่วยแล้วภาพไม่ค่อยกระตุกเลย” – ป้อม, อายุ 40
“ดู YouTube กับ Netflix ในห้องนอน ฟินมาก” – เดือน, อายุ 26

 


4. Anycast M100 ★★★★☆

“ดีไซน์เก๋ รองรับหลากหลายโหมด ใช้งานง่าย ใครก็เซตอัปเองได้”

Anycast M100

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

หลายคนที่กำลังหาข้อมูลว่าควรจะเลือก Anycast รุ่นไหนดี แล้วไปสะดุดตากับดีไซน์เรียบง่าย แต่ดูเก๋ไก๋ ลองมอง M100 เอาไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกได้เลยครับ เพราะเจ้านี้เด่นที่ความง่ายในการตั้งค่า แม้ผู้ใช้มือใหม่ที่ไม่คุ้นชินการแคสจอมาก่อน ก็สามารถเสียบและเข้าเมนูเพื่อเซตอัปตามคู่มือได้ในไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง

โดย M100 ยังมาพร้อมโหมด Airplay, Miracast, DLNA ครบถ้วน รองรับระบบ iOS, Android, Windows, Mac OS เหมือนรุ่นอื่น ๆ ของแบรนด์ Anycast จะใช้ดูหนัง ฟังเพลง หรือเปิดภาพสไลด์ งานอีเวนต์เล็ก ๆ ก็สะดวกสบาย โดยไม่ต้องวุ่นวายกับสายเคเบิลให้เกะกะ แถมราคายังอยู่ในระดับที่จับต้องได้ ใครที่อยากได้ดองเกิลพกง่าย ๆ ไว้ใช้งาน ก็ลองเก็บไว้พิจารณาได้เลย

สเปกเด่น

  • ความละเอียดสูงสุด: Full HD 1080p
  • การเชื่อมต่อ: HDMI, Wi-Fi 2.4G/5G
  • โหมดหลัก: Airplay, Miracast, DLNA
  • จุดเด่น: ดีไซน์เรียบง่าย ใช้งานง่าย
  • รองรับระบบ: iOS / Android / Windows / Mac OS
จุดเด่น
  • ตั้งค่าง่าย แม้เป็นมือใหม่
  • รองรับระบบได้หลากหลาย
  • ภาพคมชัดระดับ Full HD
  • ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีเสาอากาศเพิ่มเหมือนบางรุ่น
  • ต้องปรับตั้งค่าให้ถูกโหมดก่อนใช้งาน

คะแนนที่ได้

8.8/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“มือใหม่อย่างผมติดตั้งเองได้ชิล ๆ เลย ไม่ซับซ้อน” – ต่อ, อายุ 24
“เลือกเพราะดีไซน์สวย เซตเสร็จต่อจอทีวีในบ้าน ดูหนังก็โอเค” – เฟิร์น, อายุ 28

 


5. Anycast M2 Plus ★★★★☆

“รุ่นคลาสสิก ตอบโจทย์พื้นฐาน แคสจอมือถือได้ง่าย ๆ ไม่ต้องใช้สาย”

Anycast M2 Plus

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ชื่อรุ่น M2 Plus อาจจะไม่ใช่ตัวใหม่ล่าสุด แต่พูดถึง Anycast รุ่นไหนดี ในตำนานที่หลายคนซื้อใช้ยาวนาน บอกเลยว่ารุ่นนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่เรื่อย ๆ ด้วยราคาเบา ๆ จับต้องง่าย ฟีเจอร์ Miracast, Airplay ก็มีมาให้ใช้งานครบ และเพียงพอสำหรับคนที่ไม่ต้องการสตรีมภาพความละเอียดสูงระดับ 4K

แม้จะไม่มี Wi-Fi Dual Band ในบางเวอร์ชัน (บางล็อตอาจมีอัปเกรด) แต่ M2 Plus ก็ยังถือว่าเหมาะกับคนที่ต้องการเสียบทีวีกับมือถือแบบง่าย ๆ ไว้ดู YouTube หรือวิดีโอทั่วไปบนจอใหญ่ ไม่ต้องนั่งมองจอเล็ก ๆ จนปวดตา ด้วยงบประมาณไม่เกินหลักร้อยปลาย ๆ ถึงพันต้น ๆ (ขึ้นกับร้านและโปรโมชัน) นี่ก็เป็นอีกตัวที่น่าสนใจทีเดียวครับ

สเปกเด่น

  • รองรับความละเอียด: 720p ~1080p (ขึ้นกับรุ่นย่อย)
  • โหมด: Miracast, Airplay, DLNA
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 2.4G (รุ่นอาจมีต่างกันบ้าง)
  • จุดเด่น: ราคาประหยัด ใช้งานง่าย
  • ขนาด: เล็ก พกพาสะดวก
จุดเด่น
  • ราคาย่อมเยา
  • เชื่อมต่อพื้นฐานได้ครบ
  • เหมาะกับดูหนัง YouTube บนจอใหญ่
  • ติดตั้งง่าย ไม่ต้องมีความรู้มาก
ข้อควรพิจารณา
  • อาจไม่รองรับ 5G Wi-Fi ในบางเวอร์ชัน
  • บางครั้งความคมชัดอาจไม่ถึง Full HD แท้

คะแนนที่ได้

8.5/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เอาไว้ดูคลิปในหอพัก เชื่อมจอทีวีได้โอเคเลย” – ไอซ์, อายุ 22
“ราคาไม่แพง แคสวิดีโอพื้นฐานได้ดี” – ฟรอยด์, อายุ 30

 


6. Anycast M4 Plus ★★★★☆

“รุ่นเล็กฟังก์ชันครบครัน พกง่าย ไปงานไหนก็ต่อได้ทันที”

Anycast M4 Plus

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับสายขาลุยที่ต้องพกดองเกิลแคสจอออกไปใช้งานนอกสถานที่บ่อย ๆ เช่น งานอีเวนต์ โชว์รูม หรือตามบ้านเพื่อน แล้วกำลังมองหาว่า Anycast รุ่นไหนดี ที่คล่องตัวสุด ๆ M4 Plus เป็นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจครับ โดยดีไซน์ตัวเครื่องบางเบา เสียบเข้าทีวีหรือโปรเจ็กเตอร์ปุ๊บ ก็พร้อมเชื่อมต่อกับมือถือ/แล็ปท็อปของเราได้ทันที แถมราคาไม่แรงด้วย

ในแง่ฟังก์ชัน M4 Plus ก็ยังรองรับการใช้งานหลักเหมือนรุ่นอื่น ๆ ในซีรีส์ ได้แก่ Miracast, DLNA, Airplay ซึ่งครอบคลุมแพลตฟอร์มทั่วไป ส่วนความละเอียดก็ถือว่าดูหนังได้แบบสบาย ๆ บนจอใหญ่ ใครที่อยากใช้งานแบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน แถมยังพกติดกระเป๋าไปไหนต่อไหนได้สบาย ๆ ตัว M4 Plus ถือว่าตอบโจทย์เลยล่ะครับ

สเปกเด่น

  • ความละเอียดสูงสุด: 1080p
  • การเชื่อมต่อ: HDMI, Wi-Fi 2.4G
  • โหมดแคส: Miracast, Airplay, DLNA
  • ขนาด: กะทัดรัด เบาพกง่าย
  • ใช้งาน: ดูหนัง, พรีเซนต์, แชร์ภาพ/คลิป
จุดเด่น
  • เล็กเบา พกสะดวก
  • ฟังก์ชันพื้นฐานครบ
  • ต่อทีวีและโปรเจ็กเตอร์ได้ง่าย
  • ราคาสบายกระเป๋า
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่รองรับ Wi-Fi 5G
  • สัญญาณอาจมีดีเลย์บ้างในบางสถานการณ์

คะแนนที่ได้

8.7/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ต้องไปเปิดวิดีโอในงานออกบูธบ่อย พก M4 Plus ติดตัวตลอด สะดวกมาก” – เต๋อ, อายุ 35
“ใช้กับทีวีบ้านแฟนบ่อย เปลี่ยนที่ก็ไม่ยุ่งยาก” – อาย, อายุ 25

 


7. Anycast M9 ★★★★☆

“อีกหนึ่งรุ่นยอดฮิต งบไม่มาก ดูซีรีส์ แชร์หน้าจอ ทำได้ครบในตัวเดียว”

Anycast M9

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ปิดท้ายกันที่ Anycast M9 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่หลายคนจับตามอง เวลาถามหาว่า Anycast รุ่นไหนดี ที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไปโดยไม่ต้องลงทุนสูงมาก M9 ก็เข้าข่ายนั้นเลยครับ ไม่ว่าจะใช้ Miracast สำหรับอุปกรณ์ Android หรือ Airplay สำหรับ iOS ก็ทำได้แบบครบ ๆ ตัวนี้นิยมมากในหมู่นักเรียน นักศึกษา หรือคนที่อยากต่อมือถือกับทีวีในบ้านเพื่อดูวิดีโอกับครอบครัว

จุดเด่นของ M9 คือราคาที่ไม่โหด เป็นรุ่นประหยัดที่ยังคงมีฟีเจอร์หลัก ๆ เหมือนพี่ ๆ ในตระกูล Anycast ต่างกันที่บางฟีเจอร์เสริมอาจไม่เทียบเท่ารุ่น Plus เช่นอาจไม่รองรับเสาอากาศเสริม หรือ Wi-Fi 5 GHz แต่ถ้าใช้งานทั่วไปกับ Wi-Fi 2.4 GHz ที่สัญญาณค่อนข้างดี ก็ถือว่าโอเคมากสำหรับการแคสจอมือถือแท็บเล็ตขึ้นทีวี

สเปกเด่น

  • ความละเอียดสูงสุด: 1080p (แล้วแต่ไฟล์ต้นฉบับ)
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 2.4 GHz, HDMI
  • โหมด: Airplay, Miracast, DLNA
  • จุดเด่น: ราคาย่อมเยา ฟีเจอร์พื้นฐานครบ
  • กลุ่มผู้ใช้: นักเรียน นักศึกษา คนใช้งานทั่วไป
จุดเด่น
  • ราคาจับต้องได้
  • ฟีเจอร์หลักครบ ดูหนัง พรีเซนต์ สบาย
  • ใช้งานได้กับ iOS / Android
  • ติดตั้งง่าย ขนาดเล็ก
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีเสาอากาศเสริม
  • ไม่รองรับ 5G Wi-Fi

คะแนนที่ได้

8.2/10

>>> อ่านต่อ + (สเปกเด่น) <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ดูหนังผ่านมือถือแล้วแชร์ขึ้นทีวีได้สบาย ง่ายมาก” – จูน, อายุ 21
“คุ้มราคาดี ไม่ต้องใช้สายให้รก” – ทอย, อายุ 33

 


ตารางเปรียบเทียบสรุป 7 อันดับ Anycast รุ่นไหนดี แห่งปี 2025

อันดับ รูปสินค้า ชื่อสินค้า สเปกเด่น คะแนนที่ได้ ราคา (โดยประมาณ) ลิงก์สั่งซื้อ
1 M18 Plus Anycast M18 Plus รองรับ Full HD, Wi-Fi Dual Band 9.5/10 ประมาณ 600-900 บาท Lazada Shopee
2 M9 Plus Anycast M9 Plus Full HD, Dual Band, Miracast/Airplay 9/10 ประมาณ 500-800 บาท Lazada Shopee
3 M12 Plus Anycast M12 Plus Full HD, เสาอากาศเสริม, Airplay/Miracast 9.5/10 ประมาณ 700-1,000 บาท Lazada Shopee
4 M100 Anycast M100 Full HD, ดีไซน์เรียบ, ตั้งค่าง่าย 8.8/10 ประมาณ 600-900 บาท Lazada Shopee
5 M2 Plus Anycast M2 Plus รองรับ 720-1080p, ราคาประหยัด 8.5/10 ประมาณ 400-700 บาท Lazada Shopee
6 M4 Plus Anycast M4 Plus พกง่าย, Full HD, Wi-Fi 2.4G 8.7/10 ประมาณ 400-600 บาท Lazada Shopee
7 M9 Anycast M9 ประหยัด, Wi-Fi 2.4G, Airplay/Miracast 8.2/10 ประมาณ 300-600 บาท Lazada Shopee

 

เคล็ดลับการเลือกซื้อ Anycast ให้เหมาะกับการใช้งาน

เมื่อต้องเลือก “Anycast รุ่นไหนดี” หลายคนอาจสงสัยว่าจะเลือกจากจุดไหนเป็นสำคัญ มาดูเคล็ดลับง่าย ๆ กันครับ

  1. ตรวจสอบระบบ Wi-Fi ของบ้านหรือที่ทำงาน
    หากบ้านหรือออฟฟิศมีสัญญาณ Wi-Fi 2.4G เท่านั้น ก็เลือก Anycast รุ่นธรรมดาได้ แต่ถ้ามี Dual Band (5G) และต้องการสัญญาณเร็ว ๆ ก็เลือกที่รองรับ 5G เพื่อประสิทธิภาพสูงขึ้น
  2. เช็กว่าต้องการความละเอียดระดับไหน
    ถ้าอยากดูหนัง Full HD 1080p ควรเลือกรุ่นที่รองรับ 1080p แท้ ๆ เพื่อภาพคมชัด ไม่มีเบลอ แต่ถ้าแค่ดูคลิปสั้น ๆ สตรีม YouTube ทั่วไป รุ่น 720p หรือ 1080p กึ่งจำลอง (Up-scale) ก็อาจเพียงพอ
  3. ดูฟีเจอร์เสริมอย่างเสาอากาศ
    บางรุ่นเช่น M12 Plus มีเสาอากาศช่วยขยายสัญญาณ หากเน็ตที่บ้านไม่แรง อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพื่อลดการกระตุก
  4. พิจารณาว่าจะใช้กับระบบใดเป็นหลัก
    บางคนใช้ iPhone ก็ต้องชัวร์ว่ารุ่นนั้นรองรับ Airplay เวอร์ชันล่าสุด ส่วนสาย Android ควรเช็ก Miracast มีหรือไม่ เพื่อความลื่นไหล
  5. ความง่ายในการเซตอัป
    หากเป็นมือใหม่ ควรมองหารุ่นที่เมนูชัดเจน มีโหมดสลับ Airplay/Miracast/DLNA ชัด ๆ จะลดปัญหาการปรับผิดพลาด
  6. งบประมาณที่ต้องการ
    Anycast รุ่นไหนดี ก็ต้องขึ้นอยู่กับงบด้วย ราคามีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ตัดสินใจตามการใช้งานและความจำเป็น

ลองนำแนวทางเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อน ๆ อาจจะเจอรุ่นที่ตรงกับการใช้งานได้ง่ายขึ้นครับ

 

ประโยชน์ของ Anycast ในชีวิตประจำวัน

หลายคนอาจสงสัยว่า นอกจากดูหนังและพรีเซนต์งานแล้ว Anycast ยังทำอะไรได้อีกบ้าง? คำตอบก็คือมีประโยชน์หลายด้านมากครับ เช่น

  • การเรียนการสอน: อาจารย์สามารถนำภาพหรือคลิปจากมือถือฉายขึ้นโปรเจ็กเตอร์ในห้องเรียนได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียบสาย
  • งานอีเวนต์: ใช้สตรีมภาพและคลิปโปรโมชันหรือสไลด์ขึ้นจอใหญ่ดึงดูดผู้เข้าร่วม
  • งานประชุมองค์กร: แสดงข้อมูล, กราฟ, หรือเอกสารจากแท็บเล็ตขึ้นหน้าจอสรุปได้สะดวก ไม่ต้องเดินวุ่นเสียบสาย
  • ความบันเทิง: ดูหนัง ดูซีรีส์ เล่นเกมมือถือจอใหญ่ในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง
  • รีวิวสินค้า-ไลฟ์สด: บางคนใช้ Anycast ต่อจอใหญ่เพื่อเช็กภาพในขณะไลฟ์สด ช่วยให้เห็นรายละเอียดชัดเจนขึ้น

จะเห็นว่าการมีดองเกิลแคสจอเล็ก ๆ สักตัว ตอบโจทย์ได้หลายอย่าง ทั้งในแง่ความสะดวกและความประทับใจของผู้ชมเลยล่ะครับ

 

ข้อควรระวังเมื่อนำ Anycast ไปใช้นอกสถานที่

สำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ และเลือก “Anycast รุ่นไหนดี” ที่จะพกไปใช้งานนอกสถานที่ อย่าลืมเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ครับ

  1. เช็กจอปลายทาง: ไม่ว่าทีวีหรือโปรเจ็กเตอร์ต้องมีพอร์ต HDMI พร้อมรองรับความละเอียด
  2. พาวเวอร์ซัพพลาย: บางที่อาจไม่มีช่อง USB ให้เสียบไฟเลี้ยง ต้องมีอะแดปเตอร์หรือพาวเวอร์แบงก์เตรียมไว้
  3. สัญญาณ Wi-Fi: ถ้าเป็นสถานที่ที่เน็ตไม่ดี อาจเชื่อมผ่านฮอตสปอตจากมือถือ ซึ่งต้องระวังปริมาณอินเทอร์เน็ตด้วย
  4. การเข้ารหัส Wi-Fi: บางองค์กรตั้งระบบรักษาความปลอดภัยสูง อาจเชื่อมต่อยาก ต้องขอ IT หรือเตรียมโหมด hotspot ส่วนตัว

 

ดูแล Anycast อย่างไรให้ใช้งานได้ยาว

แม้ว่า Anycast ส่วนใหญ่จะดูแลไม่ยาก แต่ถ้าอยากให้มีอายุการใช้งานยาวขึ้น นี่คือเคล็ดลับบางอย่างครับ

  • เสียบถอดอย่างระมัดระวัง: อย่ากระชากตัวดองเกิลหรือสาย USB แรง ๆ
  • หลีกเลี่ยงความร้อนสูง: ไม่ควรใช้ Anycast ในพื้นที่อุณหภูมิสูงจัด เพราะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะเสื่อมเร็วกว่าปกติ
  • อัปเดตเฟิร์มแวร์: บางรุ่นสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ได้ เพื่อปรับปรุงความเสถียร
  • จัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ: หลังใช้งาน ถอดเก็บใส่กล่องหรือกระเป๋าเพื่อป้องกันการกระแทก

เพียงดูแลใส่ใจเล็กน้อย Anycast ก็จะพร้อมใช้ไปได้อีกนานเลยล่ะครับ

 

บทสรุปส่งท้าย

และทั้งหมดนี้ก็คือ 7 รุ่นเด็ดประจำปี 2025 สำหรับเพื่อน ๆ ที่อาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่า Anycast รุ่นไหนดี ถึงจะเหมาะกับความต้องการของเรา หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะช่วยให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Anycast M18 Plus ตัวแรงเน้น Full HD ลื่น ๆ, M9 Plus ที่รองรับ Dual Band, M12 Plus พร้อมเสาอากาศเสริม หรือรุ่นพื้นฐานอย่าง M2 Plus, M4 Plus, M9 ที่ราคาสบายกระเป๋า ทุกตัวต่างมีจุดเด่นในตัวเองครับ

ก่อนซื้อ อย่าลืมเช็คราคาตามร้านค้าหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ เพราะบางช่วงอาจมีโปรโมชันดี ๆ ทำให้ได้ราคาถูกลง หรือมีของแถม เช่น สาย USB หรือปลั๊กอะแดปเตอร์เพิ่มเติม และใครอยากอ่านบทความเกี่ยวกับแกดเจ็ตเจ๋ง ๆ อื่น ๆ เช่น Smart TV Box รุ่นต่าง ๆ ก็สามารถดูรีวิวเพิ่มได้ที่ TOPLISTPLUS นะครับ

ขอให้สนุกกับการใช้งาน Anycast เชื่อมต่อหน้าจอให้ใหญ่สะใจ จะได้เห็นรายละเอียดเต็มอารมณ์ บอกเลยว่าลืมไปเลยกับการจ้องจอเล็ก ๆ ให้ปวดตา!

————————————————————–
หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • รายละเอียดเรื่องระบบปฏิบัติการ, เฟิร์มแวร์, หรือการรับประกัน ควรตรวจสอบเพิ่มเติมจาก Anycast หรือเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแต่ละร้านด้วย
  • คะแนน (เช่น 9.5/10 หรือ 8.7/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS อ้างอิงจากสเปก, ฟีเจอร์, ราคา, รีวิวผู้ใช้จริง และการใช้งานของผู้เขียน
  • รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน เช่น “ตั้ม อายุ 29” หรือ “แหม่ม อายุ 34” เป็นตัวอย่างสมมุติ เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพเท่านั้น
  • บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลจากสเปกและข่าวสารช่วงต้นปี 2025 คุณสมบัติหรือราคาอาจเปลี่ยนได้ในอนาคต