บทนำ
สวัสดีครับเพื่อนๆ! ยินดีต้อนรับเข้าสู่ปี 2025 ครับ! ผมเชื่อว่าหลายคนกำลังมองหามือถือเครื่องใหม่ที่มาพร้อมสเปกโดนๆ ในงบประมาณที่คุ้มค่า และถ้าพูดถึงแบรนด์ที่ยืนหนึ่งเรื่องความคุ้มค่า “Xiaomi” ต้องเป็นชื่อแรกที่เด้งขึ้นมาในหัวแน่นอน โดยเฉพาะในสมรภูมิงบกลางๆ ที่มีการแข่งขันกันดุเดือดสุดๆ คำถามยอดฮิตที่ผมได้ยินบ่อยมากช่วงนี้ก็คือ “โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี” เพราะเป็นงบที่เรียกว่า ‘ขยับ’ ขึ้นมาจากรุ่นเริ่มต้น ทำให้เราได้ฟีเจอร์ที่จัดเต็มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจอสวยๆ กล้องเทพๆ หรือชิปเซ็ตที่แรงพอจะเล่นเกมได้แบบลื่นๆ
แต่…เดี๋ยวก่อนครับ พอเราเริ่มค้นหาจริงๆ เราก็จะเจอกับดงมือถือ Xiaomi ที่มีทั้งซีรีส์ Redmi, Redmi Note, แล้วก็ POCO อีก! แต่ละซีรีส์ก็มีจุดเด่นต่างกันไป บางทีก็งงจนเลือกไม่ถูกเลยใช่ไหมครับ ว่าตัวไหนคือตัวที่ ‘ใช่’ สำหรับเราจริงๆ บางคนอาจจะอยากประหยัดงบลงไปมอง โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 ซึ่งก็มีตัวเลือกที่ดีๆ เยอะ แต่ถ้าเพื่อนๆ พอจะมีงบขยับขึ้นมาอีกนิด การเลือกรุ่นในงบ 7000 บาทนี่แหละครับ คือจุดที่ “ความคุ้มค่า” พีคที่สุดแล้ว หรือถ้าใครมีงบเหลือๆ อยากจัดเต็มก็อาจจะข้ามไปดู Xiaomi ราคาไม่เกิน 10000 ไปเลย แต่สำหรับบทความนี้ เราจะมาโฟกัสกันที่งบ 7,000 บาทครับ
ในฐานะเพื่อนที่คลุกคลีกับวงการแกดเจ็ตมานาน ผมเลยขออาสาไปรวบรวมข้อมูลทั้งหมด วิเคราะห์สเปกเทียบกันช็อตต่อช็อต และจัดอันดับ 10 รุ่นเด็ดที่ตอบโDจทย์ว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี อัปเดตล่าสุดปี 2025 มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันแบบเจาะลึกครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายโซเชียล สายเกมมิ่ง หรือสายถ่ายรูป ผมมั่นใจว่าในลิสต์นี้ต้องมี “คู่หู” เครื่องใหม่ที่รอคุณอยู่แน่นอน หลายคนก็อาจจะกำลังชั่งใจกับแบรนด์คู่แข่งตลอดกาลอย่าง Xiaomi vs Samsung ว่าในงบนี้ใครจะแน่กว่ากัน ซึ่งเดี๋ยวเราจะได้เห็นกันครับว่า Xiaomi เขามีทีเด็ดอะไรมาสู้ ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้แล้วว่า โทรศัพท์ Xiaomi รุ่นไหนดี ที่สุดในงบนี้… ไปลุยกันเลยครับ!
จัดเต็ม 10 อันดับ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี อัปเดตล่าสุด 2025
ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกกันทีละรุ่นว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเพื่อนๆ มากที่สุด ผมได้ทำตารางเปรียบเทียบสเปกเด่นๆ ฟีเจอร์สำคัญ และคะแนนภาพรวมของทั้ง 10 รุ่นมาให้ดูกันก่อนครับ จะได้เห็นภาพรวมกันชัดๆ ว่าแต่ละตัวมีอะไรเด็ดบ้าง!
ตารางเปรียบเทียบสรุป
1. Xiaomi Redmi Note 14 ★★★★★
“ราชาองค์ใหม่แห่งความคุ้มค่า! จอ AMOLED 120Hz, ชิปใหม่, กล้อง 108MP นี่คือคำตอบที่ดีที่สุดของปี 2025”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
เปิดตัวอันดับ 1 มาแบบไม่ต้องลีลาเยอะครับ กับ Xiaomi Redmi Note 14 นี่คือตัวเลือกที่ ‘จบ’ ที่สุดสำหรับคำถามที่ว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ในปี 2025 นี้เลยครับ แม้ว่าช่วงราคาจะกว้าง (฿5,999 – ฿14,990) แต่รุ่นเริ่มต้นของเขามักจะเปิดตัวมาในราคาที่เฉียดๆ 7,000 บาท หรือต่ำกว่านั้นเล็กน้อย ซึ่งสเปกที่ได้มานั้นเรียกได้ว่า “ฆ่าเพื่อน” ในงบเดียวกันตายเรียบ! Redmi Note 14 อัปเกรดขึ้นมาจากรุ่น 13 ในทุกมิติ โดยเฉพาะชิปเซ็ตใหม่ (คาดว่าเป็น Snapdragon 7-Series หรือ Dimensity ตัวแรง) ที่ทำให้การใช้งานทั่วไปลื่นไหล และยังรับมือกับการเล่นเกมได้ดีขึ้นมาก ผนวกกับจอ AMOLED 120Hz ที่สีสันสวยสด คมชัด และกล้องหลัก 108MP ที่ไว้ใจได้ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับคนที่อยากได้ “ของใหม่และดีที่สุด” ในงบนี้ครับ
สเปกเด่น
- หน้าจอ: 6.67″ AMOLED, 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1800 nits (หรือสูงกว่า)
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 7s Gen 3 / Dimensity 7300 (อัปเกรดจากรุ่นก่อน)
- กล้องหลัง: 3 ตัว
- กล้องหลัก 108MP (หรือ 200MP ในรุ่น Pro)
- เลนส์ Ultra-wide 8MP
- เลนส์ Macro 2MP
- กล้องหน้า: 16MP
- แบตเตอรี่: 5100mAh (หรือมากกว่า)
- ระบบชาร์จ: ชาร์จเร็ว 67W (อัปเกรดจาก 33W ในรุ่น 13 ธรรมดา)
- ระบบปฏิบัติการ: Android 14 (หรือ 15) ครอบทับด้วย HyperOS
รีวิวแบบเจาะลึก
สำหรับ Xiaomi Redmi Note 14 ต้องบอกว่านี่คือการยกระดับมาตรฐานมือถือราคาประหยัดไปอีกขั้นเลยครับ สิ่งแรกที่ต้องชมคือ “หน้าจอ” Xiaomi ยังคงจัดเต็มให้จอ AMOLED ที่มี Refresh Rate 120Hz มาให้ ทำให้การไถฟีดโซเชียล การอ่านบทความ หรือการดูวิดีโอ มันลื่นไหลเนียนตาและสีสันสวยงามมาก ความสว่างที่เพิ่มขึ้นก็ช่วยให้ใช้งานกลางแจ้งได้สบายตาขึ้นเยอะ นี่คือจุดแข็งที่ทิ้งห่างคู่แข่งหลายๆ แบรนด์ในงบเดียวกันไปไกลเลยครับ ส่วนในด้าน “ประสิทธิภาพ” การที่คาดว่าจะได้ใช้ชิปเซ็ตซีรีส์ใหม่อย่าง Snapdragon 7s Gen 3 หรือ Dimensity 7300 (ซึ่งแรงกว่า Helio G99 ในรุ่นก่อนมาก) ทำให้มันไม่ใช่แค่ “พอใช้” แต่ขยับไปเป็น “ดี” เลยครับ ไม่ว่าคุณจะใช้งานทั่วไป เปิดหลายแอปสลับไปมา หรือแม้กระทั่งเป็นสายเกมเมอร์ที่กำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi เล่นเกมลื่น รุ่นนี้ก็ตอบโจทย์ได้สบายๆ ครับ เกมฮิตอย่าง RoV, PUBG สามารถปรับกราฟิกระดับสูงและเล่นได้เฟรมเรตที่นิ่งมาก ส่วนเกมกินสเปกอย่าง Genshin Impact ก็ยังพอเล่นได้ในกราฟิกระดับกลางๆ ถือว่าน่าประทับใจมากสำหรับมือถือที่ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 7,000 บาทครับ
มาต่อกันที่เรื่อง “กล้องถ่ายรูป” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ทำให้ Redmi Note 14 เป็นคำตอบของคำถาม โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ครับ การที่ยังคงให้กล้องหลักความละเอียดสูงถึง 108MP มาในงบนี้ ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงจ้าทำได้ดีมาก รายละเอียดคมชัด ซูมภาพแล้วไม่แตกง่ายๆ (แม้จะเป็นการซูมแบบดิจิทัล) ส่วนการถ่ายในที่แสงน้อยก็ทำได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน ด้วยการประมวลผลจากชิปเซ็ตตัวใหม่และ AI ที่ฉลาดขึ้น ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ วิธีถ่ายรูปสวยด้วย Xiaomi มือถือรุ่นนี้มีโหมดโปรและฟีเจอร์ต่างๆ ให้เล่นเยอะมากครับ ส่วนเลนส์ Ultra-wide และ Macro ก็มีมาให้ครบตามมาตรฐาน ใช้เก็บภาพมุมกว้างหรือถ่ายระยะใกล้ได้สนุกๆ ครับ และจุดที่อัปเกรดมาแล้วถูกใจผมมากคือ “แบตเตอรี่และการชาร์จ” ครับ แบต 5100mAh นี่ก็อึดมากแล้ว ใช้ทั่วไปอยู่ได้ข้ามวันสบายๆ แต่การที่อัปเกรดระบบชาร์จเป็น 67W (จากเดิม 33W ใน Note 13) ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะมากครับ ชาร์จแป๊บเดียวแบตก็เกือบเต็มแล้ว ไม่ต้องรอนาน สรุปสั้นๆ ครับ ถ้าคุณมีงบ 7,000 บาท แล้วอยากได้มือถือที่ครบเครื่องที่สุด ใหม่ที่สุด และสเปกดีที่สุดในทุกด้าน ณ ปี 2025 นี้… Redmi Note 14 คือตัวจบครับ
คะแนนที่ได้
9.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“เพิ่งจัดมาตอนเปิดตัวเลยครับ ชาร์จ 67W คือไวมาก เล่นเกมลื่นกว่าตัวเก่าเยอะเลย จอก็สวยสุดๆ คุ้มครับกับราคานี้” – อาร์ม, อายุ 28
“ตัดสินใจระหว่างตัวนี้กับ Note 13 สุดท้ายเลือกของใหม่ดีกว่าค่ะ จอสวยมากจริงๆ กล้อง 108MP ถ่ายรูปสนุกมากค่ะ” – ฝน, อายุ 25
2. Xiaomi Redmi Note 13 ★★★★★
“แชมป์เก่าสุดคุ้ม! จอ AMOLED 120Hz, กล้อง 108MP ในราคาที่ประหยัดลงมาอีก”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถึงแม้รุ่นใหม่จะมาแรง แต่แชมป์เก่าอย่าง Xiaomi Redmi Note 13 (รุ่น 4G) ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ “คุ้มค่า” ที่สุดแบบเถียงไม่ออกครับ! หลังจากที่ Note 14 เปิดตัว ราคารุ่น Note 13 ก็ปรับลงมาอยู่ในจุดที่น่าสนใจมากๆ (มักจะหาได้ในช่วง 5,000 – 6,000 บาท) ซึ่งทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสุดๆ สำหรับคนที่มองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี และอยากเซฟงบไว้ทำอย่างอื่นด้วย สิ่งที่ทำให้ Note 13 ยังคงโดดเด่นคือการที่มันให้ “จอ AMOLED 120Hz” และ “กล้อง 108MP” มาในราคาเท่านี้ครับ นี่คือสเปกที่ปกติเราจะเห็นในมือถือราคาเกือบหมื่นด้วยซ้ำ ดีไซน์ขอบเหลี่ยมก็ยังดูทันสมัย และชิป Helio G99-Ultra ก็ยังแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมกราฟิกระดับกลางได้สบายๆ ครับ
สเปกเด่น
- หน้าจอ: 6.67″ AMOLED, 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1800 nits
- ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G99-Ultra (6nm)
- กล้องหลัง: 3 ตัว
- กล้องหลัก 108MP
- เลนส์ Ultra-wide 8MP
- เลนส์ Macro 2MP
- กล้องหน้า: 16MP
- แบตเตอรี่: 5000mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จเร็ว 33W (มีหัวชาร์จในกล่อง)
- ระบบปฏิบัติการ: MIUI 14 (อัปเกรดเป็น HyperOS ได้)
รีวิวแบบเจาะลึก
ทำไม Xiaomi Redmi Note 13 ถึงยังน่าเล่นในปี 2025? คำตอบแรกและชัดเจนที่สุดคือ “ความคุ้มค่า” ครับ การที่เพื่อนๆ สามารถเป็นเจ้าของมือถือจอ AMOLED 120Hz ที่สวยขนาดนี้ได้ในราคาที่ต่ำกว่า 7,000 บาท (และมักจะถูกกว่านั้นมาก) ถือเป็นดีลที่ยอดเยี่ยมมากครับ ประสบการณ์การใช้งานจริงแทบไม่ต่างจาก Note 14 เลย การไถฟีด, การดู Netflix หรือ YouTube ให้สีสันที่สดใสและลื่นไหลมากๆ ขอบจอก็บางเฉียบ และยังมีสแกนลายนิ้วมือใต้จอมาให้ด้วย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ปกติจะอยู่ในรุ่นที่แพงกว่านี้ครับ ในแง่ของประสิทธิภาพ ชิป Helio G99-Ultra แม้จะเป็น 4G แต่ก็เป็นชิป 4G ที่แรงและเสถียรมากตัวหนึ่งเลยครับ มันผลิตบนสถาปัตยกรรม 6nm ทำให้ประหยัดพลังงาน ใช้งานทั่วไปนี่ลื่นหัวแตกครับ Facebook, IG, TikTok, Line เปิดสลับไปมาได้ไม่มีสะดุด ส่วนการเล่นเกม ถ้าไม่ใช่สายฮาร์ดคอร์ที่ต้องปรับสุดทุกอย่าง ชิปตัวนี้ก็เอาอยู่ครับ RoV เปิดเฟรมเรตสูงได้นิ่งๆ ส่วนเกมอื่นก็ปรับกราฟิกระดับกลางได้สบายๆ ครับ
ในส่วนของกล้อง 108MP ก็ไม่ใช่แค่ตัวเลขสวยๆ ครับ คุณภาพไฟล์ที่ได้จากกล้องหลักถือว่าดีเยี่ยมในงบนี้เลย ถ่ายกลางวันได้ภาพที่คมชัด สีสันสดใส และมีฟีเจอร์ 3x In-sensor Zoom (ซูมดิจิทัลแบบไม่เสียรายละเอียด) มาให้ใช้งานด้วย ทำให้ถ่ายภาพได้หลากหลายระยะมากขึ้น ส่วนแบตเตอรี่ 5000mAh ก็ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันแบบเหลือๆ ครับ จุดที่อาจจะเป็นรองรุ่นใหม่ก็คือระบบชาร์จ 33W ซึ่งถ้าเทียบกับ 67W ของ Note 14 ก็ย่อมช้ากว่า แต่เอาเข้าจริง มันก็ไม่ได้ช้าจนน่าเกลียดนะครับ ชาร์จจาก 0-100% ก็ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ ก็ถือว่ารับได้ครับ สรุปแล้ว ถ้าคำถามของคุณคือ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ที่เน้นความคุ้มค่าสูงสุด ได้ฟีเจอร์เรือธง (จอ AMOLED 120Hz, กล้อง 108MP) ในราคาที่ประหยัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และคุณไม่ได้แคร์เรื่อง 5G หรือการชาร์จที่ต้องไวปานสายฟ้า… Redmi Note 13 คือคำตอบที่สมเหตุสมผลที่สุดครับ นี่อาจจะเป็น โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 6000 ที่ดีที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้
คะแนนที่ได้
9.6/10
รีวิวสั้น ๆ
“ผมว่าตัวนี้คุ้มสุดแล้วครับในงบ 6,000 บาท จอสวยมากกกก เล่นเกมก็ลื่นดีครับ ไม่ได้ต้องการ 5G อยู่แล้ว” – เต้, อายุ 30
“ตอนแรกจะเอา Note 14 แต่เห็นราคาตัวนี้แล้วจัดเลยค่ะ ประหยัดไปได้เยอะ จอสวยเหมือนกัน กล้องก็ชัดมาก ถูกใจค่ะ” – ปอ, อายุ 27
3. Xiaomi POCO M7 Pro ★★★★★
“สายเกมมิ่งงบ 7,000 ต้องตัวนี้! จอ AMOLED 120Hz, ชาร์จ 67W, และกล้อง OIS!”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้าเพื่อนๆ เป็นสายเกมมิ่ง หรือคนที่เน้นประสิทธิภาพและความเร็วเป็นหลัก Xiaomi POCO M7 Pro (รุ่นต่อยอดจาก M6 Pro) คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดสำหรับ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ครับ! แบรนด์ POCO เกิดมาเพื่อฆ่าเรือธงอยู่แล้ว และ M7 Pro ก็สานต่อตำนานนั้นได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยราคาที่มักจะเปิดตัวมาชนงบ 7,000 บาทพอดี (฿6,999 – ฿7,999) แต่สเปกที่ให้มานั้นอัดแน่นแบบไม่เกรงใจใคร จุดขายหลักๆ เลยคือ “ชาร์จเร็ว 67W” ที่เหมือนกับ Redmi Note 14, “จอ AMOLED 120Hz” และทีเด็ดที่ Redmi Note 13/14 (รุ่นธรรมดา) ไม่มี นั่นคือ “กล้อง 64MP ที่มี OIS” (ระบบกันสั่นแบบออปติคัล) ครับ! นี่คือสเปกที่จัดมาเพื่อสาย Performance อย่างแท้จริง
สเปกเด่น
- หน้าจอ: 6.67″ Flow AMOLED, 120Hz
- ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 7300 หรือ Helio G99-Ultra (ขึ้นอยู่กับรุ่น 4G/5G)
- กล้องหลัง: 3 ตัว
- กล้องหลัก 64MP (มี OIS)
- เลนส์ Ultra-wide 8MP
- เลนส์ Macro 2MP
- กล้องหน้า: 16MP
- แบตเตอรี่: 5000mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จเร็ว 67W Turbo Charging
- ฟีเจอร์อื่นๆ: ลำโพงคู่, สแกนนิ้วใต้จอ
รีวิวแบบเจาะลึก
สำหรับ POCO M7 Pro นี่คือ มือถือ Xiaomi เล่นเกม ราคาประหยัดที่น่าสนใจที่สุดครับ หัวใจของมันคือความสมดุลระหว่าง “ประสิทธิภาพ” และ “การใช้งานจริง” การที่ให้ชาร์จเร็ว 67W มาในงบ 7,000 บาทนี่คือเรื่องใหญ่มากครับ สำหรับสายเกมเมอร์ที่แบตหมดไว การชาร์จที่รวดเร็วคือสิ่งที่จำเป็นสุดๆ ชาร์จแค่ 15-20 นาทีก็กลับไปเล่นต่อได้อีกนาน ชิปเซ็ตที่ให้มา (ไม่ว่าจะเป็น Dimensity หรือ Helio G99-Ultra) ก็ถูกปรับจูนมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ทำให้จัดการความร้อนและรักษาเฟรมเรตได้ดีกว่ามือถือทั่วไปในงบเดียวกัน แถมยังมีลำโพงคู่สเตอริโอที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมและดูหนังได้แบบเต็มอิ่ม หน้าจอ Flow AMOLED 120Hz ก็ให้การตอบสนองการสัมผัสที่รวดเร็วและลื่นไหล ซึ่งสำคัญมากในเกมที่ต้องตัดสินกันในเสี้ยววินาทีครับ ถ้าคุณเป็นคนเล่นเกมจริงจังและกำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ตัวนี้คือคำตอบที่ตรงประเด็นที่สุดครับ
แต่สิ่งที่ทำให้ POCO M7 Pro “ครบเครื่อง” ยิ่งขึ้น คือเรื่อง “กล้อง” ครับ แม้ความละเอียดจะ “แค่” 64MP ซึ่งดูน้อยกว่า 108MP ของซีรีส์ Redmi Note แต่การที่มันมี “OIS” หรือระบบกันสั่นแบบออปติคัลมาให้ ถือเป็นไพ่เด็ดที่พลิกเกมได้เลยครับ OIS ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยนิ่งขึ้น ลดโอกาสภาพเบลอได้มหาศาล และที่สำคัญคือมันช่วยให้การ “ถ่ายวิดีโอ” นิ่งและสมูทขึ้นมากครับ ใครที่เป็นสาย VLOG หรือชอบถ่ายวิดีโอเก็บโมเมนต์ต่างๆ จะรักฟีเจอร์นี้มากครับ มันทำให้ไฟล์วิดีโอที่ได้ดูโปรและน่ามองขึ้นเยอะ เทียบกับการถือกล้อง 108MP ที่ไม่มี OIS แล้วเดินถ่าย วิดีโอจาก M7 Pro จะดูดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดครับ (ถ้าอยากรู้เทคนิคเพิ่มเติม ลองดู วิธีถ่ายวิดีโอ 4K ด้วย Xiaomi ได้ครับ แม้รุ่นนี้อาจจะถ่าย 4K ไม่ไหว แต่หลักการกันสั่นใช้ได้เหมือนกัน) สรุปคือ POCO M7 Pro คือมือถือสำหรับคนที่ต้องการทุกอย่างแบบ “โปร” ในงบจำกัด: ชาร์จโปร (67W), กล้องโปร (OIS), และจอโปร (AMOLED 120Hz) ครับ
คะแนนที่ได้
9.4/10
รีวิวสั้น ๆ
“เลือกตัวนี้เพราะ 67W เลยครับ ชาร์จไวสะใจมาก เล่นเกมทั้งวันก็ไม่กลัวแบตหมด กล้องมี OIS ถ่ายวิดีโอนิ่งจริงครับ” – แบงค์, อายุ 26
“ตอนแรกเล็ง Note 13 ไว้ แต่พอเทียบสเปกแล้วตัวนี้ได้ชาร์จไวกว่ากับกันสั่น OIS เลยเพิ่มเงินอีกนิดหน่อย จบที่ตัวนี้ค่ะ” – นัท, อายุ 29
4. Xiaomi POCO C75 ★★★★☆
“คุ้มค่าตัวพ่อ ในงบ 4,000! จอ 90Hz, ชิป G88, กล้อง 50MP ใช้งานทั่วไปลื่นๆ”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ขยับลงมาที่ซีรีส์ C ของ POCO กันบ้างครับ กับ Xiaomi POCO C75 นี่คือตัวเลือกสำหรับคนที่ตั้งงบไว้ต่ำกว่า 7,000 บาทไปอีกขั้น หรือมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ที่เป็นเครื่องสำรอง หรือซื้อให้ผู้ใหญ่ใช้ ด้วยราคาที่สบายกระเป๋ามากๆ (ประมาณ 3,200 – 4,050 บาท) แต่สเปกที่ได้นั้นไม่ธรรมดาเลยครับ POCO C75 (รุ่นต่อยอดจาก C65) ยังคงให้จอขนาดใหญ่ 6.74 นิ้ว ที่มี Refresh Rate 90Hz มาให้ ทำให้การใช้งานทั่วไปลื่นไหลกว่าจอ 60Hz แบบเก่าๆ ชิปเซ็ต Helio G88 (อัปเกรดจาก G85) ก็แรงเพียงพอสำหรับโซเชียล, ดู YouTube, หรือเล่นเกมฆ่าเวลาได้สบายๆ พร้อมกล้อง 50MP และแบตเตอรี่ 5000mAh นี่คือความคุ้มค่าแบบสุดๆ ในงบ 4,000 บาทครับ
สเปกเด่น
- หน้าจอ: 6.74″ IPS LCD, 90Hz
- ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G88 (12nm)
- กล้องหลัง: 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP
- เลนส์ Macro 2MP
- กล้องหน้า: 8MP
- แบตเตอรี่: 5000mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จ 18W (อาจแถมที่ชาร์จ 10W ในกล่อง)
- ฟีเจอร์อื่นๆ: มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 4000 บาท POCO C75 คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในตลาดครับ แม้ว่ามันจะอยู่ในลิสต์ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ของเรา แต่จริงๆ แล้วมันคือ “ราชาแห่งความประหยัด” ครับ จุดเด่นของมันคือการให้ “จอ 90Hz” มาในราคานี้ครับ การใช้งานจริงมันลื่นไหลกว่าจอ 60Hz แบบรู้สึกได้ชัดเจน ทำให้ประสบการณ์การใช้งานโดยรวมดูดีกว่ามือถือราคาถูกทั่วไป ชิป Helio G88 ก็เป็นการอัปเกรดที่เหมาะสมครับ มันเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เล่น Facebook, ดู TikTok, คุย Line, ดู YouTube HD ได้แบบไม่มีปัญหา ส่วนการเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ อย่าง Candy Crush หรือ Subway Surfers นี่สบายมากครับ หรือแม้แต่ RoV ก็ยังพอเล่นได้ในกราฟิกระดับกลางๆ ครับ
เรื่องแบตเตอรี่คือจุดแข็งอีกข้อครับ 5000mAh เมื่อมาเจอกับชิปที่ไม่ได้แรงมากและจอ IPS ทำให้มัน “อึด” แบบสุดๆ ใช้งานทั่วไปสามารถลากยาวได้ถึง 2 วันแบบไม่ต้องชาร์จเลยครับ นี่คือข้อดีมากๆ สำหรับคนที่ซื้อไปเป็นเครื่องสำรอง หรือให้ผู้ใหญ่ที่อาจจะลืมชาร์จแบตบ่อยๆ ส่วนกล้องหลัก 50MP ก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีในสภาพแสงกลางวันครับ ให้ภาพที่คมชัดและสีสันที่โอเค สามารถถ่ายรูปเล่นอัปโหลดลงโซเชียลได้ไม่อายใคร แต่ในที่แสงน้อยก็อาจจะต้องมือนิ่งๆ หน่อยนะครับ จุดที่ต้องพิจารณาคือมันชาร์จแค่ 18W ซึ่งถ้าแบตหมดเกลี้ยงก็อาจจะต้องรอชาร์จ 2 ชั่วโมงกว่าจะเต็ม และหน้าจอก็เป็น IPS ที่สีสันและความสว่างอาจจะไม่สดเท่าจอ AMOLED ในรุ่นพี่อย่าง Redmi Note หรือ POCO M ครับ แต่ถ้าเทียบกับราคาที่จ่ายไป POCO C75 คือความคุ้มค่าที่หาตัวจับยากจริงๆ ครับ
คะแนนที่ได้
9.1/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อให้พ่อใช้ครับ จอใหญ่ดี ตัวหนังสือชัด จอ 90Hz ลื่นดีครับ พ่อชอบมาก แบตก็ทนสุดๆ ครับ” – เอก, อายุ 32
“ใช้เป็นเครื่องสำรองค่ะ ราคาไม่แพงเลย แต่ใช้งานลื่นกว่าที่คิด จอ 90Hz คือดีงามในราคานี้” – ฟ้า, อายุ 28
5. Xiaomi POCO C71 ★★★★☆
“ตัวจริงเรื่องงบจำกัด! จอ 90Hz, ชิป G85 แบตอึด ในราคาแค่ 2,000-3,000 บาท!”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้าเพื่อนๆ คิดว่า POCO C75 ประหยัดแล้ว มาเจอ Xiaomi POCO C71 (รุ่นต่อยอดจาก C61/C51) เข้าไปต้องร้องว้าวครับ! นี่คือตัวเลือกที่ยืดหยุ่นงบประมาณของคำว่า “โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี” ให้กว้างที่สุด เพราะราคามันอยู่แค่ 1,699 – 3,987 บาทเท่านั้น! นี่คือมือถือที่เหมาะสุดๆ สำหรับคนที่ต้องการ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 3000 หรือแม้กระทั่ง Xiaomi ราคาไม่เกิน 2000 (ในช่วงโปรโมชัน) มันคือมือถือสำหรับ “การใช้งานพื้นฐาน” ที่แท้จริงครับ แม้สเปกจะไม่ได้หวือหวาเท่ารุ่นพี่ แต่การที่ยังให้ชิป Helio G85 และจอ 90Hz (ในบางรุ่นย่อย) มาในราคานี้ ก็ถือว่า Xiaomi ใจป้ำมากๆ แล้วครับ เหมาะสำหรับเป็นเครื่องแรกให้เด็กๆ หรือเป็นเครื่องสำรองที่เน้นโทรเข้า-ออก และเล่น Line เท่านั้นครับ
สเปกเด่น
- หน้าจอ: 6.71″ IPS LCD, 90Hz (หรือ 60Hz ในบางรุ่นย่อย)
- ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G85 (12nm) หรือ G36 (ในรุ่นที่ถูกกว่า)
- กล้องหลัง: 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP (หรือ 8MP ในรุ่นประหยัดสุด)
- เลนส์ Auxiliary
- กล้องหน้า: 5MP (หรือ 8MP)
- แบตเตอรี่: 5000mAh
- ระบบชาร์จ: 10W หรือ 18W
- ระบบปฏิบัติการ: Android (Go edition) หรือ MIUI รุ่นเล็ก
รีวิวแบบเจาะลึก
สำหรับ POCO C71 เราต้องปรับความคาดหวังให้ตรงกับราคานะครับ นี่ไม่ใช่มือถือที่จะมาตอบโจทย์ว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี เพื่อเล่นเกมหรือถ่ายรูปสวยๆ แต่มันคือมือถือที่ตอบโจทย์ “ความจำเป็นพื้นฐาน” ในราคาที่ถูกที่สุดครับ ถ้าเพื่อนๆ ซื้อรุ่นที่ใช้ชิป Helio G85 และจอ 90Hz (ซึ่งราคาก็จะขยับไปแถวๆ 3,000-4,000) มันก็คือ POCO C75 หรือ C65 ในร่างที่ถูกลงนั่นเองครับ ประสิทธิภาพก็จะใกล้เคียงกันคือ ใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหลพอสมควร แต่ถ้าเพื่อนๆ เจอรุ่นที่ราคา 2,000 ต้นๆ อันนั้นอาจจะได้ชิป Helio G36 และจอ 60Hz ซึ่งจะเหมาะกับการใช้งานเบาๆ จริงๆ เช่น ใช้เป็นเครื่องสำรองรับ OTP, โทรเข้า-ออก, เล่น Line, ดู YouTube (ที่ความละเอียดไม่สูงมาก) หรือให้เด็กๆ ดูการ์ตูนครับ
จุดแข็งของซีรีส์นี้ที่ไม่ว่ารุ่นย่อยไหนก็มีเหมือนกันคือ “แบตเตอรี่ 5000mAh” ครับ ด้วยสเปกเครื่องที่ไม่ได้แรงมาก ทำให้แบตเตอรี่ก้อนนี้สามารถอยู่ได้ 2-3 วันสบายๆ ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่ไม่อยากพกพาวเวอร์แบงค์ หรือคนที่ขี้ลืมชาร์จแบตครับ ส่วนกล้องที่ให้มา (ไม่ว่าจะเป็น 50MP หรือ 8MP) ก็มีคุณภาพตามราคาครับ คือ “พอใช้ถ่ายได้” ถ่ายเอกสาร, ถ่าย QR Code, หรือถ่ายรูปกลางแจ้งให้พอรู้เรื่องว่าคืออะไร แค่นั้นครับ อย่าไปคาดหวังเรื่องความคมชัดหรือสีสันมากนัก สรุปสั้นๆ ครับ ถ้าเพื่อนๆ มีงบจำกัดมากๆ หรือต้องการเครื่องสำรองที่เน้นแบตอึดและราคาถูกที่สุด POCO C71 คือตัวเลือกที่สมเหตุสมผลครับ แตถ้ามีงบขยับไหว ผมอยากแนะนำให้เพิ่มเงินอีกนิดไปเอา POCO C75 หรือ Redmi 14C/15C (ที่จะรีวิวต่อไป) จะได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่าแบบเห็นได้ชัดครับ
คะแนนที่ได้
8.8/10 (ให้คะแนนสูงเมื่อเทียบกับ “ราคา” ของมัน)
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อมาใช้เป็นเครื่องรับสายที่ร้านครับ ราคาถูกมาก แบตอึดสุดๆ 3 วันชาร์จทียังได้เลย” – เฮียตง, อายุ 45
“ซื้อให้ลูกดูการ์ตูนค่ะ จอใหญ่ดี ราคาไม่แพง ตกก็ไม่เสียดายมาก ใช้งานได้ดีค่ะ” – แก้ว, อายุ 31
6. Xiaomi POCO C85 ★★★★☆
“ดีไซน์ใหม่ สเปกเดิม! จอ 90Hz, ชิป G85 ตัวเก่ง ในงบ 3,000 กว่าบาท”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
มาถึงอีกหนึ่งรุ่นในซีรีส์ C ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันครับ นั่นคือ Xiaomi POCO C85 (รุ่นต่อยอดจาก C55/C65) ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่กำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 บาท หรืออยากเซฟงบจาก 7,000 ลงมาเยอะๆ ครับ โดยราคามักจะเกาะกลุ่มอยู่ที่ 3,000 ต้นๆ เท่านั้น (฿3,099 – ฿3,299) ทำให้ตัวเลือกย่อยๆ ในโจทย์ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ก็ยิ่งมีเยอะขึ้นครับ จุดเด่นของ C85 คือการนำสเปกยอดนิยมอย่างชิป Helio G85 และจอ 90Hz มาจับคู่กับดีไซน์ใหม่ของ POCO ที่อาจจะดูโฉบเฉี่ยวขึ้นเล็กน้อย เหมาะสำหรับวัยรุ่นหรือคนที่อยากได้มือถือดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ครับ
สเปกเด่น
- หน้าจอ: 6.74″ IPS LCD, 90Hz
- ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G85 (12nm)
- กล้องหลัง: 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP
- เลนส์ Auxiliary
- กล้องหน้า: 8MP
- แบตเตอรี่: 5000mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จ 18W
- ฟีเจอร์อื่นๆ: สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง, ช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
ถ้าถามว่า POCO C85 ต่างจาก C75 หรือ C65 ยังไง? คำตอบคือ “แทบไม่ต่าง” ในแง่ของสเปกหลักครับ มันยังคงใช้ “สูตรสำเร็จ” เดียวกันคือ ชิป Helio G85 + จอ 90Hz + แบต 5000mAh + กล้อง 50MP ซึ่งเป็นสูตรที่พิสูจน์แล้วว่า “เวิร์ค” และ “คุ้มค่า” ที่สุดในงบ 3,000-4,000 บาทครับ ชิป Helio G85 นี่คือชิปมหาชนจริงๆ ครับ มันอาจจะไม่ได้แรงปรู๊ดปร๊าดเหมือนชิปในรุ่น M Pro หรือ Redmi Note แต่สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน มัน “เอาอยู่” ครับ เล่นโซเชียล, ดูหนังฟังเพลง, เรียนออนไลน์ หรือแม้แต่เล่น RoV ปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ยังไหวครับ ข้อดีของมันคือความเสถียรและการจัดการพลังงานที่ดี เมื่อรวมกับแบต 5000mAh ทำให้ C85 เป็นมือถือที่แบตอึดมากๆ อีกรุ่นหนึ่งครับ
สิ่งที่ C85 พยายามสร้างความแตกต่างคือ “ดีไซน์” ครับ ซึ่งมักจะเป็นการปรับเปลี่ยนโมดูลกล้องด้านหลัง หรือการใช้สีสันและพื้นผิวใหม่ๆ ที่ดูโฉบเฉี่ยวตามสไตล์ POCO มากขึ้น ดังนั้น การตัดสินใจเลือกระหว่าง C85, C75 (ที่ใช้ G88), หรือ C65 (ที่สเปกเหมือนกัน) จึงมักจะไปจบที่ “ดีไซน์” และ “ราคาโปรโมชัน” ในขณะนั้นครับ ถ้าคุณเจอ C85 ในราคาที่ถูกกว่า C65 ก็จัดเลยครับ หรือถ้าคุณชอบดีไซน์ของ C85 มากกว่า ก็เพิ่มเงินอีกเล็กน้อยได้ครับ สรุปแล้ว POCO C85 คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่แข็งแกร่งในกลุ่มมือถือราคาประหยัด ที่ยังคงให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเกินคาด โดยเฉพาะความลื่นไหลของจอ 90Hz ที่ทำให้มันดูไม่เหมือนมือถือราคาถูกเลยครับ นี่คือคำตอบที่ดีสำหรับคนที่มองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี แบบเน้นเซฟงบไปทำอย่างอื่นครับ
คะแนนที่ได้
8.6/10
รีวิวสั้น ๆ
“ผมว่าดีไซน์มันสวยกว่า C65 นะครับ สเปกก็เหมือนกันเลย ใช้ดีครับ ลื่นดี แบตอึด” – จิม, อายุ 24
“ซื้อตอนมันลดราคา 3,000 นิดๆ เอง คุ้มมากค่ะ จอ 90Hz ลื่นดี กล้องก็ชัดใช้ได้เลย” – พลอย, อายุ 29
7. Xiaomi POCO C65 ★★★★☆
“มือถือมหาชน! สเปกสุดคุ้ม G85 + จอ 90Hz ที่คนไทยไว้ใจ ในงบ 3,000 บาท”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้าจะเรียกรุ่นนี้ว่า “มือถือมหาชน” ก็คงไม่ผิดครับ Xiaomi POCO C65 คือหนึ่งในรุ่นที่ขายดีที่สุดของ Xiaomi ในช่วงปีที่ผ่านมา และยังคงน่าสนใจมากในปี 2025 นี้ครับ โดยเฉพาะเมื่อราคามันปรับลงมาจนน่าตกใจ (ช่วงราคา 1,899 – 4,355 บาท แต่ส่วนใหญ่มักจะหาได้ในราคา 3,000 ต้นๆ) นี่คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 3000 บาท ได้ดีที่สุดครับ สำหรับใครที่มองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี แบบเน้นประหยัดสุดๆ แต่ยังได้สเปกที่ไว้ใจได้ C65 คือคำตอบที่ปลอดภัยและพิสูจน์ตัวเองมาแล้วครับ มันคือ “ต้นแบบ” ของสเปกคุ้มๆ อย่าง Helio G85 และจอ 90Hz ที่รุ่นน้องอย่าง C85 นำไปต่อยอดนั่นเองครับ
สเปกเด่น
- หน้าจอ: 6.74″ IPS LCD, 90Hz
- ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G85 (12nm)
- กล้องหลัง: 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP
- เลนส์ Macro 2MP
- กล้องหน้า: 8MP
- แบตเตอรี่: 5000mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จ 18W
- ฟีเจอร์อื่นๆ: มี NFC (ในบางรุ่น), ช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
ความน่าสนใจของ POCO C65 ในปี 2025 คือ “ความน่าเชื่อถือ” และ “ราคา” ครับ ในขณะที่รุ่นใหม่ๆ เปิดตัวมา สต็อกของ C65 ก็มักจะถูกนำมาจัดโปรโมชันลดราคาหนักมาก ทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าแบบสุดๆ ครับ สำหรับคนที่กำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี และอยากจ่ายน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ C65 คือจุดที่ลงตัวมากครับ ชิป Helio G85 แม้จะออกมานานแล้ว แต่ก็ยังเป็นชิปที่แรงกว่าชิปซีรีส์ G ต่ำๆ หรือชิป Unisoc ในมือถือราคาถูกแบรนด์อื่นครับ มันยังคงรับประกันประสบการณ์การใช้งานพื้นฐานที่ “ลื่น” (โดยเฉพาะเมื่อคู่กับจอ 90Hz) และ “เสถียร” ครับ ใช้งานแอปธนาคาร, โซเชียล, ดูวิดีโอ, หรือสั่งอาหารเดลิเวอรีได้แบบไม่มีปัญหาติดขัด
จอ IPS 90Hz ขนาด 6.74 นิ้ว ก็เป็นจุดขายสำคัญครับ การได้จอที่ลื่นไหลในราคานี้ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก กล้อง 50MP ก็ให้คุณภาพที่ดีพอสำหรับการถ่ายภาพทั่วไปในชีวิตประจำวัน และแบตเตอรี่ 5000mAh ก็คือมาตรฐานของความอึดที่ไว้ใจได้ครับ แน่นอนว่ามันมีข้อจำกัดเรื่องการชาร์จที่ 18W ซึ่งต้องใช้เวลาชาร์จนานหน่อย (ประมาณ 2 ชั่วโมง) และมันไม่มีเลนส์ Ultra-wide สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง แต่ถ้ามองที่ราคาค่าตัวของมัน (ที่มักจะอยู่ที่ 3,000 ต้นๆ หรือต่ำกว่านั้น) ข้อจำกัดเหล่านี้ก็ดูจะเล็กน้อยไปเลยครับ สรุปคือ POCO C65 คือ “ตัวเลือกปลอดภัย” สำหรับคนงบน้อยครับ มันคือมือถือที่ให้สเปกพื้นฐานที่ “ดี” และ “ครบ” ที่สุดในงบประมาณที่จำกัดครับ
คะแนนที่ได้
8.4/10
รีวิวสั้น ๆ
“เพิ่งซื้อให้แม่ใช้แทนเครื่องเก่าครับ 3,000 นิดๆ ได้จอ 90Hz ลื่นดี แม่ชอบมากครับ” – บอย, อายุ 30
“เป็นมือถือที่คุ้มมากค่ะ ใช้มาสักพักแล้วยังลื่นดีอยู่เลย เล่นโซเชียลทั่วไปสบายมาก แบตก็ทนดีค่ะ” – มายด์, อายุ 25
8. Xiaomi Redmi 15C ★★★★☆
“สาย Redmi งบประหยัด! จอ 90Hz พร้อมชิป G90 ที่แอบแรงกว่า G85”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
กลับมาที่ซีรีส์ Redmi C กันบ้างครับกับ Xiaomi Redmi 15C (รุ่นต่อยอดจาก 13C/14C) นี่คือตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบดีไซน์ที่เรียบหรูสไตล์ Redmi มากกว่าความโฉบเฉี่ยวของ POCO ครับ โดยสเปกโดยรวมจะใกล้เคียงกับ POCO C-Series มาก แต่จุดที่น่าสนใจของ 15C (ตามข่าวลือและการอัปเกรดตามรอบ) คือการอาจจะขยับไปใช้ชิปเซ็ตที่แรงขึ้นเล็กน้อยอย่าง Helio G90 ครับ ซึ่งถ้ามาจริงจะทำให้มันเป็น “ม้ามืด” ในงบ 4,000 บาทเลยทีเดียว (ช่วงราคา ฿3,899 – ฿4,829) ในซีรีส์ C ของ Redmi ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ที่เน้นความสมดุลครับ
สเปกเด่น (คาดการณ์)
- หน้าจอ: 6.75″ IPS LCD, 90Hz
- ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G90 (หรือ G88)
- กล้องหลัง: 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP
- เลนส์ Macro 2MP
- กล้องหน้า: 8MP
- แบตเตอรี่: 5000mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จ 18W
- ฟีเจอร์อื่นๆ: ดีไซน์สไตล์ Redmi, ช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
ความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง Redmi 15C กับ POCO C-Series (อย่าง C65 หรือ C85) มักจะอยู่ที่ “ดีไซน์” และ “การจูนชิปเซ็ต” ครับ ดีไซน์ของ Redmi จะเน้นความเรียบง่าย ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่า ไม่ได้มีแถบคาดกล้องใหญ่ๆ หรือสีสันที่ฉูดฉาดเท่า POCO ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 5000 ที่ดูสุภาพและใช้งานได้ทุกโอกาสครับ ในแง่ของสเปก ถ้า Redmi 15C ได้ใช้ชิป Helio G90 จริง นี่จะเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจครับ เพราะ G90 (แม้จะเก่ากว่า) มีประสิทธิภาพ GPU (การประมวลผลกราฟิก) ที่แรงกว่า G85 และ G88 นั่นหมายความว่า Redmi 15C อาจจะกลายเป็นตัวเลือก “ลับ” สำหรับสายเกมงบน้อยที่อยากได้เฟรมเรตดีกว่า POCO C-Series เล็กน้อยครับ
ส่วนสเปกอื่นๆ ก็ยังคงตามสูตรสำเร็จครับ จอ IPS 90Hz ขนาดใหญ่, แบตเตอรี่ 5000mAh ที่อึดทน, และกล้อง 50MP ที่คุณภาพเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปครับ ระบบชาร์จ 18W ก็ยังคงเป็นจุดที่ต้องทำใจในมือถือราคานี้ครับ สรุปแล้ว Redmi 15C คือตัวเลือกสำหรับคนที่ 1. ชอบดีไซน์ของ Redmi 2. มีงบประมาณในช่วง 4,000 บาท และ 3. (ถ้าโชคดี) อาจจะได้ชิปที่แรงกว่า POCO ในราคาที่ใกล้เคียงกันครับ มันคืออีกหนึ่งตัวเลือกที่แข็งแกร่งในโจทย์ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ที่เน้นความประหยัดและคุ้มค่าครับ
คะแนนที่ได้
8.2/10
รีวิวสั้น ๆ
“ผมชอบดีไซน์ Redmi มากกว่า POCO ครับ มันดูเรียบๆ ดี สเปก G90 ถือว่าแรงดีนะครับ เล่นเกมลื่นกว่าที่คิด” – โอ๊ต, อายุ 27
“ซื้อมาใช้เป็นเครื่องที่ทำงานค่ะ จอใหญ่ดี แบตอึด ใช้งานทั่วไปไม่ติดขัดเลยค่ะ” – นิ่ม, อายุ 34
9. Xiaomi Redmi 14C ★★★★☆
“คู่แฝด POCO C65 ในร่าง Redmi! สเปกมหาชน G85 + จอ 90Hz”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
มาถึง Xiaomi Redmi 14C ครับ รุ่นนี้ถ้าให้พูดแบบตรงไปตรงมา มันก็คือ “POCO C65” ที่เปลี่ยนดีไซน์เป็นแบบ Redmi นั่นเองครับ นี่เป็นกลยุทธ์ที่ Xiaomi ใช้บ่อยๆ คือการ Re-brand มือถือรุ่นเดียวกันเพื่อขายในชื่อที่ต่างกันครับ ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 4000 บาท และเจอ Redmi 14C กับ POCO C65 ในราคาที่เท่ากันพอดี (ช่วงราคา ฿3,199 – ฿3,699) คำตอบคือ “เลือกตัวที่ชอบดีไซน์” ได้เลยครับ! เพราะสเปกภายในมันคือ “ฝาแฝด” กันครับ ถ้า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี คือโจทย์ของคุณ แต่คุณอยากได้ดีไซน์ของ Redmi มากกว่า POCO ในงบ 3,000 บาท ตัวนี้คือคำตอบครับ
สเปกเด่น
- หน้าจอ: 6.74″ IPS LCD, 90Hz
- ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G85 (12nm)
- กล้องหลัง: 2 ตัว
- กล้องหลัก 50MP
- เลนส์ Macro 2MP
- กล้องหน้า: 8MP
- แบตเตอรี่: 5000mAh
- ระบบชาร์จ: ชาร์จ 18W
- ฟีเจอร์อื่นๆ: สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง, ช่องหูฟัง 3.5 มม.
รีวิวแบบเจาะลึก
เนื่องจาก Redmi 14C คือ POCO C65 ในร่างใหม่ รีวิวส่วนใหญ่จึงเหมือนกันครับ จุดเด่นคือ “ความคุ้มค่า” ที่สเปกหลักๆ ทำได้ดีเกินราคาครับ ชิป Helio G85 คือชิปที่ไว้ใจได้สำหรับการใช้งานทั่วไป มันอาจจะไม่ใช่มือถือสำหรับเล่นเกมกราฟิกหนักๆ แต่สำหรับการเล่นโซเชียล, ดู YouTube, เรียนออนไลน์ หรือเล่นเกมฆ่าเวลา มันทำได้ดีและลื่นไหลครับ โดยเฉพาะเมื่อได้จอ 90Hz มาช่วยเสริม ทำให้การไถหน้าจอต่างๆ รู้สึกเนียนตาและตอบสนองได้ดีกว่ามือถือจอ 60Hz ในราคาเดียวกันครับ นี่คือจุดที่ Xiaomi ทำการบ้านมาดีมาก คือการเอาจอ 90Hz มาใส่ในมือถือระดับเริ่มต้น
แบตเตอรี่ 5000mAh ก็ยังคงเป็นพระเอกของมือถือซีรีส์นี้ครับ ใช้งานทั่วไป 1-2 วันได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดระหว่างวัน ส่วนกล้อง 50MP ก็ให้คุณภาพที่เพียงพอสำหรับการถ่ายรูปในที่แสงดี อัปโหลดลงโซเชียลได้ไม่อายใครครับ ดังนั้น การเลือกระหว่าง Redmi 14C กับ POCO C65 จึงเป็นเรื่องของ “ดีไซน์” ล้วนๆ ครับ ถ้าคุณชอบดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย สุภาพ ไม่เน้นโลโก้ใหญ่ๆ หรือโมดูลกล้องที่ดูอวกาศ Redmi 14C ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ มันคือมือถือ “มหาชน” ที่คุ้มค่าและไว้ใจได้อีกหนึ่งรุ่นในงบ 3,000-4,000 บาทครับ
คะแนนที่ได้
8.0/10
รีวิวสั้น ๆ
“เลือกตัวนี้เพราะดีไซน์เลยครับ ดูเรียบๆ ดี สเปกก็เหมือน POCO C65 ใช้งานดีครับ ไม่เจอปัญหาอะไร” – ต้น, อายุ 35
“ราคาสามพันนิดๆ ได้จอ 90Hz ก็คุ้มแล้วค่ะ ใช้เป็นเครื่องสำรอง โอเคเลยค่ะ” – แจน, อายุ 26
10. Xiaomi Redmi A5 ★★★☆☆
“มือถือ Android Go งบ 2,000! เน้นใช้งานพื้นฐาน แบตอึด โทรเข้า-ออก”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ปิดท้ายลิสต์ด้วยรุ่นเล็กที่สุด และประหยัดที่สุดอย่าง Xiaomi Redmi A5 (รุ่นต่อยอดจาก A3) ครับ นี่คือตัวเลือกสุดท้ายสำหรับคนที่ค้นหา โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี แต่มีงบจำกัดจริงๆ (ช่วงราคา ฿2,299 – ฿2,999) หรือต้องการ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 3000 ที่ถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ หัวใจสำคัญของซีรีส์ A คือการใช้ระบบปฏิบัติการ “Android Go Edition” ซึ่งเป็น Android เวอร์ชัน “เบา” ที่ออกแบบมาสำหรับมือถือสเปกเริ่มต้นโดยเฉพาะ ทำให้มันยังคงใช้งานพื้นฐานได้แม้จะมี RAM และ ROM ที่น้อยครับ
สเปกเด่น
- หน้าจอ: 6.52″ IPS LCD, HD+ (60Hz)
- ชิปเซ็ต: MediaTek Helio G36 (12nm)
- กล้องหลัง: กล้องหลัก 8MP + เลนส์ Auxiliary
- กล้องหน้า: 5MP
- แบตเตอรี่: 5000mAh
- ระบบชาร์จ: 10W
- ระบบปฏิบัติการ: Android 14 (Go Edition)
รีวิวแบบเจาะลึก
สำหรับ Redmi A5 เราต้องชัดเจนในจุดยืนของมันครับ นี่คือ “โทรศัพท์” ไม่ใช่ “สมาร์ทโฟน” สำหรับเล่นเกมหรือมัลติมีเดียครับ ชิป Helio G36 นั้นถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานเบาๆ เท่านั้น แต่ข้อดีคือมัน “ประหยัดพลังงาน” มากๆ เมื่อรวมกับแบต 5000mAh ทำให้ Redmi A5 เป็นมือถือที่แบตอึดแบบสุดขั้วครับ ใช้งานทั่วไป 2-3 วันค่อยชาร์จทีก็ยังไหว จุดเด่นของมันคือ Android Go Edition ครับ ระบบนี้จะกินทรัพยากรเครื่องน้อยมาก และใช้แอปเวอร์ชัน “Lite” หรือ “Go” (เช่น YouTube Go, Maps Go) เป็นหลัก ทำให้การใช้งานพื้นฐานอย่างการโทร, รับ-ส่ง Line, ดู YouTube (แบบไม่ปรับ Full HD) หรือเล่น Facebook Lite ยังคงทำได้ค่อนข้างดี ไม่ได้กระตุกจนน่ารำคาญครับ
แน่นอนว่าเพื่อนๆ ไม่สามารถคาดหวังการเล่นเกม หรือการเปิดแอปสลับไปมาแบบลื่นไหลจากมือถือรุ่นนี้ได้ครับ หน้าจอก็เป็นแค่ HD+ 60Hz และกล้องก็มีคุณภาพแค่ “พอถ่ายได้” เท่านั้น ระบบชาร์จ 10W ก็หมายความว่าถ้าแบตหมด คุณต้องเสียบชาร์จทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียวครับ แต่… ทั้งหมดนี้มาในราคาแค่ 2,000 กว่าบาทครับ! ดังนั้น Redmi A5 จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับ: 1. ซื้อให้ผู้สูงอายุที่ใช้แค่โทรกับ Line 2. ซื้อให้เด็กเล็กไว้ดูการ์ตูน 3. ใช้เป็นเครื่องสำรองสำหรับรับสาย หรือปล่อย Hotspot ครับ นี่คือคำตอบสุดท้ายของความประหยัดในตระกูล Xiaomi ครับ
คะแนนที่ได้
7.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อให้ยายใช้ครับ 2,000 กว่าบาท จอใหญ่ดี ยายใช้แค่รับสายกับดู Line หลานๆ โอเคเลยครับ แบตทนมาก” – นัท, อายุ 31
“เอามาใช้รับ OTP กับเป็นเครื่องสำรองครับ ราคาถูกดี แบตอึดจนลืมชาร์จเลยครับ ใช้งานพื้นฐานได้ดี” – บี, อายุ 28
มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ: กลยุทธ์ “จอเทพ-ชาร์จไว” ของ Xiaomi ในงบ 7,000
จากบทวิเคราะห์ของสื่อเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง GSMArena และ TechRadar ต่างก็ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ตลาดมือถืองบ 7,000 บาทในปี 2025 นี้ Xiaomi ได้สร้าง “มาตรฐานใหม่” ที่ทำให้คู่แข่งต้องทำงานหนักขึ้นมากครับ
“กลยุทธ์ของ Xiaomi ในปีนี้ชัดเจนมาก: พวกเขากำลังนำฟีเจอร์ระดับ ‘เกือบเรือธง’ อย่างจอ AMOLED 120Hz และระบบชาร์จเร็ว 67W ลงมาสู่ตลาดที่คนเข้าถึงได้ง่ายที่สุด นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่ผู้บริโภคได้รับประโยชน์เต็มๆ”
ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์ว่า การตัดสินใจว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ในปีนี้ ไม่ใช่แค่การดูว่ารุ่นไหน “ถูกที่สุด” แต่เป็นการเลือกว่าจะ “เทรดออฟ” ฟีเจอร์ไหนมากกว่ากัน
ประเด็นสำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำ
- ศึกชิง “ความลื่น” (AMOLED 120Hz vs IPS 90Hz): Xiaomi ฉลาดมากที่แบ่งตลาดชัดเจน ถ้างบถึง 6,000-7,000 บาท คุณจะได้จอ AMOLED 120Hz (ใน Redmi Note 13/14, POCO M7 Pro) ซึ่งให้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือกว่าชัดเจน แต่ถ้าคุณงบจำกัด 3,000-4,000 บาท คุณก็ยังได้จอ IPS 90Hz (ในซีรีส์ C) ซึ่งก็ยังลื่นกว่าจอ 60Hz ในอดีตมาก
- สงคราม “กล้อง” (108MP vs OIS): นี่คือจุดที่น่าสนใจที่สุดครับ ระหว่าง Redmi Note (ที่เน้นความละเอียดสูง 108MP) กับ POCO M Pro (ที่เน้น 64MP + OIS) ผู้เชี่ยวชาญมองว่า OIS (กันสั่น) มีประโยชน์ “จริง” มากกว่าในแง่ของการถ่ายวิดีโอและการถ่ายในที่แสงน้อย แม้ตัวเลข 108MP จะดูน่าดึงดูดกว่าในแง่การตลาดก็ตาม ใครที่กำลังมองหา Xiaomi กล้องสวย ในงบนี้ต้องชั่งใจระหว่างสองตัวเลือกนี้ให้ดีครับ
- “ชาร์จเร็ว” คือ New Normal: การที่รุ่นอย่าง Redmi Note 14 และ POCO M7 Pro ให้ชาร์จเร็ว 67W มาในงบนี้ กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ครับ มันเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ใช้ จากที่ต้องชาร์จข้ามคืน กลายเป็นชาร์จแค่ 30-40 นาทีก็เต็มแล้ว ในขณะที่รุ่นประหยัด (ซีรีส์ C) ยังคงติดอยู่ที่ 18W ซึ่งถือว่าช้าไปมากในปัจจุบัน
บทวิเคราะห์จากทีมงาน ToplistPlus
“การที่ Xiaomi ซอยรุ่นย่อยออกมาเยอะขนาดนี้ (ทั้ง Redmi Note, POCO M, POCO C, Redmi C) แม้จะดูสับสน แต่ก็เป็นข้อดีที่ทำให้มี ‘ตัวเลือก’ ที่พอดีกับทุกช่วงงบจริงๆ ครับ ถ้าคุณมีงบ 7,000 เป๊ะๆ Redmi Note 14 หรือ POCO M7 Pro คือคำตอบ แต่ถ้าคุณอยากประหยัดลงมา Redmi Note 13 หรือ POCO C75 ก็ให้ความคุ้มค่าที่น่าทึ่ง การบ้านของคนซื้อคือต้องรู้ว่าตัวเอง ‘ต้องการ’ อะไรที่สุด: จอสวย? ชาร์จไว? กล้องนิ่ง? หรือแค่ราคาถูก?”
เคล็ดลับการเลือกซื้อ: 5 ปัจจัยหลัก เลือก “Xiaomi” งบ 7,000 ให้โดนใจ
หลังจากดูรีวิวมาทั้งหมด 10 รุ่น ผมเข้าใจเลยครับว่าเพื่อนๆ อาจจะยังลังเลอยู่บ้าง เพราะแต่ละรุ่นก็มีดีมีด้อยต่างกันไป เพื่อให้การตัดสินใจครั้งสุดท้ายง่ายขึ้น ผมมี 5 ปัจจัยหลักในการเลือก โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี มาฝากครับ
- 1. ตั้ง “งบประมาณที่แท้จริง” ในใจ: คำว่า “ไม่เกิน 7,000” มันกว้างมากครับ ลองถามตัวเองว่า
- งบ 6,000 – 7,000 บาท: นี่คือจุดที่คุ้มที่สุด คุณจะได้ของที่ดีที่สุดในกลุ่มนี้อย่าง Redmi Note 14 หรือ POCO M7 Pro
- งบ 4,000 – 5,000 บาท: นี่คือโซนของ Redmi Note 13 (ช่วงโปร) หรือรุ่นท็อปของซีรีส์ C อย่าง POCO C75
- งบ 2,000 – 3,000 บาท: นี่คือโซนของมือถือมหาชนอย่าง POCO C65 หรือ Redmi A5 สำหรับใช้งานพื้นฐาน
- 2. เลือก “จอ” ที่ใช่ (AMOLED vs IPS): นี่คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างในทุกๆ วันครับ
- AMOLED 120Hz (ใน Note 13/14, M7 Pro): ถ้าคุณเสพติดโซเชียล, ดู Netflix/YouTube บ่อยๆ และชอบจอสีสด คมชัด สู้แสงแดดได้ดี… “ต้อง” เลือกรุ่นที่เป็นจอ AMOLED เท่านั้นครับ ประสบการณ์ต่างกันเยอะมาก
- IPS 90Hz (ในซีรีส์ C): ถ้าคุณใช้งานทั่วไป ไม่ได้เน้นดูหนังสีสวยๆ แต่ขอแค่จอใหญ่และ “ลื่น” (ไม่กระตุก) จอ IPS 90Hz ก็เพียงพอและประหยัดงบได้มากครับ
- 3. “ชิปเซ็ต” ตอบโจทย์การใช้งาน (เกมมิ่ง vs ทั่วไป):
- สายเกมมิ่ง: มองหา POCO M7 Pro (Dimensity/Helio G99 + 67W) หรือ Redmi Note 14 (Snapdragon 7-Series) ครับ สองตัวนี้แรงพอจะเล่นเกมฮิตๆ ได้แบบลื่นไหล
- สายใช้งานทั่วไป: ชิป Helio G99-Ultra (ใน Note 13) หรือ G85/G88 (ในซีรีส์ C) ก็ “เพียงพอ” แล้วครับ ลื่นไหลสำหรับการใช้งานโซเชียลทุกประเภท
- 4. “ความเร็วชาร์จ” (67W vs 33W vs 18W): คุณเป็นคนใจร้อนแค่ไหน?
- 67W (ใน Note 14, M7 Pro): สำหรับคนใช้มือถือหนัก เล่นเกมบ่อย แบตหมดเร็ว ชาร์จแค่ 30-40 นาทีเต็ม นี่คือสวรรค์ครับ
- 33W (ใน Note 13): มาตรฐานที่รับได้ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 1 ชั่วโมง
- 18W (ในซีรีส์ C): สำหรับคนไม่รีบ ชาร์จข้ามคืนเป็นหลัก ใช้เวลาชาร์จ 2 ชั่วโมง+
- 5. อ่าน “สเปก” ให้เป็น: อย่าโดนแค่ตัวเลขหลอกครับ ลองใช้ วิธีดูสเปกมือถือ Xiaomi ง่ายๆ นี้ครับ:
- RAM/ROM: ในปี 2025 นี้ ควรมองหา RAM อย่างน้อย 6GB (ถ้าเป็นซีรีส์ C 4GB พอไหว) และ ROM 128GB เป็นมาตรฐานครับ
- eMMC vs UFS: หน่วยความจำแบบ UFS (มักอยู่ใน Note 13/14, M7 Pro) จะเปิดแอปและโหลดเกมได้เร็วกว่า eMMC (มักอยู่ในซีรีส์ C/A) อย่างรู้สึกได้ครับ
Redmi vs. POCO: สองซีรีส์นี้ต่างกันยังไงในงบ 7,000?
นี่คือคำถามที่หลายคนสับสนมากครับ ว่า Redmi กับ POCO มันต่างกันยังไง ทำไมสเปกคล้ายๆ กัน? ผมขอสรุปสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายๆ ในบริบทของ โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ดังนี้ครับ
1. Redmi (เน้นความ All-Round และฟีเจอร์หรูหรา)
- ซีรีส์ Redmi Note (งบ 5,000 – 7,000):
- จุดเด่น: เน้น “ฟีเจอร์ที่สัมผัสได้ง่าย” เช่น จอ AMOLED สวยๆ, กล้อง 108MP ตัวเลขเยอะๆ, และดีไซน์ที่ดูพรีเมียม ขอบเหลี่ยม สวยงาม
- เหมาะกับใคร: คนทั่วไปที่ใช้งานหลากหลาย, ชอบเสพคอนเทนต์, ถ่ายรูปเล่น, และอยากได้มือถือที่ดูสวยงามเกินราคา
- ซีรีส์ Redmi C / A (งบ 2,000 – 4,000):
- จุดเด่น: เน้น “ความคุ้มค่าพื้นฐาน” และ “ดีไซน์เรียบหรู” ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า POCO
- เหมาะกับใคร: ผู้ใช้งานทั่วไป, ผู้ใหญ่, หรือคนที่ชอบดีไซน์เรียบๆ
2. POCO (เน้นความแรง, Performance และความคุ้มค่าต่อสเปก)
- ซีรีส์ POCO M (งบ 6,000 – 7,000):
- จุดเด่น: เน้น “Performance ที่คุ้มค่า” เช่น ชาร์จเร็ว 67W, ชิปเซ็ตที่แรง (อาจเป็น Dimensity หรือ G99), และให้ฟีเจอร์ที่สายเกมเมอร์ชอบอย่าง OIS (กันสั่น) หรือลำโพงคู่
- เหมาะกับใคร: สายเกมมิ่ง, คนที่เน้นประสิทธิภาพ, และคนที่ชอบชาร์จไวๆ
- ซีรีส์ POCO C (งบ 3,000 – 4,000):
- จุดเด่น: เน้น “สเปกที่แรงที่สุดในราคาที่ถูกที่สุด” (Price-to-Performance) เช่น การเอาจอ 90Hz + Helio G85 มาขายในราคา 3,000 ต้นๆ ดีไซน์จะดูโฉบเฉี่ยว วัยรุ่นกว่า
- เหมาะกับใคร: วัยรุ่นงบน้อย, หรือคนที่ต้องการสเปกดีที่สุดโดยไม่สนดีไซน์
สรุปง่ายๆ: ถ้าคุณชอบจอสวย กล้อง MP เยอะ ดีไซน์หรู ไป Redmi Note ครับ แต่ถ้าคุณชอบชาร์จไว เล่นเกมลื่น กล้องมีกันสั่น ไป POCO M ครับ ส่วนถ้างบ 3,000-4,000 ก็เลือกระหว่างดีไซน์เรียบๆ (Redmi C) กับดีไซน์โฉบเฉี่ยว (POCO C) ได้เลยครับ
HyperOS: ระบบปฏิบัติการใหม่ของ Xiaomi ดีขึ้นจริงไหม?
เพื่อนๆ ที่ซื้อมือถือ Xiaomi ในปี 2025 นี้ สิ่งที่จะได้สัมผัสคือระบบปฏิบัติการใหม่ที่ชื่อว่า HyperOS ครับ มันคือระบบที่มาแทน MIUI เดิมนั่นเอง หลายคนอาจจะกังวลว่ามันดีไหม ใช้งานยากหรือเปล่า?
จากที่ผมและหลายๆ สื่อได้ทดสอบ HyperOS (ซึ่งพื้นฐานก็ยังเป็น Android 14 หรือ 15) ต้องบอกว่ามัน “ดีขึ้น” ในหลายๆ ด้านครับ:
- ลื่นไหลและเร็วกว่า: HyperOS ถูกออกแบบมาให้ “เบา” กว่า MIUI ครับ การเปิด-ปิดแอป, การสลับแอป, และอนิเมชันต่างๆ ทำได้ลื่นไหลและติดมือมากขึ้น โดยเฉพาะในมือถือสเปกเริ่มต้นอย่างซีรีส์ C ก็จะรู้สึกได้ว่ามันกระตุกน้อยลงครับ
- หน้าตาสะอาดขึ้น: ไอคอนและหน้าตาการตั้งค่าต่างๆ ถูกออกแบบใหม่ให้ดูสบายตาและมินิมอลมากขึ้น ลดความ “รก” ของ MIUI ในอดีตไปได้เยอะครับ
- ปรับแต่ง Lock Screen ได้มากขึ้น: นี่คือฟีเจอร์ที่หลายคนชอบครับ เราสามารถปรับแต่งหน้าจอล็อกได้หลากหลายสไตล์คล้ายๆ กับ iOS เลยครับ
- Ecosystem ที่ดีขึ้น: ถ้าคุณใช้อุปกรณ์ Xiaomi อื่นๆ เช่น แท็บเล็ต, สมาร์ทวอทช์, หรือ ลําโพงบลูทูธ HyperOS จะช่วยให้การเชื่อมต่อและทำงานร่วมกัน (เช่น ลากไฟล์ข้ามอุปกรณ์) ทำได้ง่ายและเนียนขึ้นมากครับ
ข้อควรพิจารณา: ในมือถือรุ่นล่างๆ (ซีรีส์ C หรือ A) ก็อาจจะยังมี “โฆษณา” หรือแอปที่ติดตั้งมาให้ก่อน (Bloatware) แฝงอยู่บ้างตามสไตล์ Xiaomi ครับ แต่โดยรวมแล้ว HyperOS ถือเป็นการอัปเกรดที่ดีขึ้น ทำให้ประสบการณ์การใช้งานมือถือ Xiaomi ในปี 2025 นี้น่าใช้ยิ่งขึ้นครับ
จับคู่ Xiaomi ของคุณกับแกดเจ็ตเสริม เพิ่มความโปร
การมีมือถือสเปกดีๆ ในงบ 7,000 บาท ก็ยอดเยี่ยมแล้วครับ แต่ถ้าเรามีแกดเจ็ตเสริมดีๆ มาใช้คู่กัน ประสบการณ์การใช้งานมันจะ “โปร” ขึ้นไปอีกขั้นครับ!
- หูฟังไร้สาย (TWS): มือถือ Xiaomi ในงบนี้ (โดยเฉพาะซีรีส์ C) ยังคงมีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้ แต่การใช้หูฟังไร้สายก็สะดวกกว่าอยู่ดีครับ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ดูหนัง ฟังเพลง หรือคุยโทรศัพท์ และสำหรับสายออกกำลังกาย การมี หูฟังบลูทูธ ออกกําลังกาย ดีๆ สักตัวไว้ฟังเพลงตอนวิ่งคู่กับมือถือ Xiaomi ของคุณ ก็ช่วยให้การออกกำลังกายสนุกขึ้นเยอะเลยครับ
- สมาร์ทวอทช์ / สมาร์ทแบนด์: Xiaomi มี Mi Band หรือ Redmi Watch ที่ราคาไม่แพงครับ เอามาใช้คู่กันเพื่อวัดก้าวเดิน, อัตราการเต้นของหัวใจ, และรับการแจ้งเตือนจากมือถือได้ทันทีที่ข้อมือ สะดวกมากครับ
- พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank): แม้มือถือ Xiaomi ส่วนใหญ่จะแบต 5000mAh แต่สำหรับรุ่นที่ชาร์จช้า (18W) อย่างซีรีส์ C การพกพาวเวอร์แบงค์ที่รองรับชาร์จเร็ว 18W-22.5W ก็ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเวลาเดินทางครับ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- ถาม: โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ?
ตอบ: ถ้าเน้นเล่นเกมเป็นหลัก ผมแนะนำให้มองไปที่ POCO M7 Pro ครับ เพราะมักจะได้ชิปเซ็ตที่แรง (Dimensity หรือ G99-Ultra), จอ AMOLED 120Hz, และที่สำคัญคือชาร์จเร็ว 67W ทำให้แบตหมดก็ชาร์จกลับมาเล่นต่อได้ไวมากครับ รองลงมาคือ Redmi Note 14 ที่ได้ชิปใหม่ (Snapdragon 7-Series) ซึ่งก็แรงมากเช่นกันครับ - ถาม: ถ้ามีงบ 5,000 บาทพอดี ควรมองรุ่นไหน?
ตอบ: ในงบ 5,000 บาท (บวกลบเล็กน้อย) ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ Redmi Note 13 (รุ่น 4G) ครับ เพราะคุณจะได้จอ AMOLED 120Hz และกล้อง 108MP ซึ่งเป็นสเปกที่ดีที่สุดในราคานี้ครับ แต่ถ้าอยากประหยัดลงไปอีก POCO C75 (งบ 3,000-4,000) ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากครับ - ถาม: Redmi Note 14 (67W, 108MP) กับ POCO M7 Pro (67W, 64MP+OIS) เลือกตัวไหนดี?
ตอบ: นี่คือมวยถูกคู่ครับ! ถ้าคุณเน้น “ถ่ายรูปนิ่งๆ” ชอบซูม และอยากได้ “ของใหม่ล่าสุด” (ชิปใหม่กว่า) ให้เลือก Redmi Note 14 ครับ แต่ถ้าคุณเน้น “ถ่ายวิดีโอ” บ่อยๆ (OIS ช่วยได้มาก) และชอบดีไซน์ที่ดุดันสไตล์ POCO ให้เลือก POCO M7 Pro ครับ ทั้งคู่ชาร์จ 67W และจอ 120Hz เหมือนกันครับ - ถาม: โทรศัพท์ Xiaomi ดีไหม? ทนหรือเปล่า?
ตอบ: โดยรวมแล้ว โทรศัพท์ Xiaomi ดีและทนทาน คุ้มค่ากับราคามากครับ โดยเฉพาะในแง่ของสเปกต่อราคาที่มักจะให้มาดีกว่าแบรนด์อื่นเสมอ อย่างไรก็ตาม มือถือทุกแบรนด์มีโอกาสเจอปัญหาได้ครับ แต่เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป Xiaomi ถือเป็นแบรนด์ที่น่าคบหาที่สุดแบรนด์หนึ่งเลยครับ - ถาม: ซื้อรุ่น 5G ในงบ 7,000 บาท คุ้มไหม?
ตอบ: ในปี 2025 นี้ เริ่มมีรุ่น 5G (เช่น Redmi Note 13 5G หรือ POCO M6 Pro 5G) ที่ราคาตกลงมาอยู่ในงบ 7,000 บาทครับ ถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ที่มี 5G และใช้แพ็กเกจ 5G อยู่แล้ว การซื้อรุ่น 5G ก็คุ้มครับ แต่ถ้าคุณใช้ Wi-Fi ที่บ้าน/ที่ทำงานเป็นหลัก และไม่ได้ต้องการความเร็ว 5G ขนาดนั้น การเลือกรุ่น 4G (อย่าง Note 14 หรือ M7 Pro) ที่ได้สเปกส่วนอื่น (เช่น ชาร์จ 67W, กล้อง OIS) ที่ดีกว่าในราคาเท่ากัน อาจจะเป็นตัวเลือกที่ “ฉลาด” กว่าครับ
บทสรุป: “Xiaomi งบ 7,000” ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณในปี 2025
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงบทสรุปกันแล้วนะครับเพื่อนๆ! หลังจากที่เจาะลึกกันไปครบทั้ง 10 รุ่น ผมว่าเพื่อนๆ น่าจะได้คำตอบในใจกันแล้วนะครับว่า โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี ที่เหมาะกับตัวเองที่สุดในปี 2025 นี้
จะเห็นได้ว่า Xiaomi เขาทำการบ้านมาดีมากครับ มีตัวเลือกให้เราทุกช่วงงบจริงๆ ไม่ว่าคุณจะกำเงินมา 7,000 บาทเป๊ะๆ หรือมีงบแค่ 3,000 บาท ก็มีมือถือ Xiaomi ที่สเปกดีๆ รออยู่ครับ
ถ้าให้ผมสรุปฟันธงให้เลย ก็คงจะเป็นแบบนี้ครับ:
- ถ้าคุณมีงบ 7,000 บาท (บวกลบได้นิดหน่อย) และอยากได้ “ดีที่สุดและใหม่ที่สุด”: ไปที่ Xiaomi Redmi Note 14 ครับ นี่คือตัวจบที่ให้สเปกมาครบเครื่องที่สุด ทั้งจอ AMOLED 120Hz, ชิปใหม่, กล้อง 108MP และชาร์จ 67W
- ถ้าคุณเป็นสายเกมมิ่ง หรือเน้น “ชาร์จไว” และ “กล้องวิดีโอ” (OIS): ในงบ 7,000 บาท Xiaomi POCO M7 Pro คือคำตอบที่ตรงประเด็นที่สุดครับ
- ถ้าคุณอยากได้ฟีเจอร์เรือธง (AMOLED 120Hz, 108MP) แต่ “ประหยัดงบ” ที่สุด: มองหา Xiaomi Redmi Note 13 ในช่วงราคา 5,000-6,000 บาทครับ นี่คือความคุ้มค่าที่แท้จริง
- ถ้าคุณมีงบจำกัด 3,000 – 4,000 บาท และอยากได้มือถือที่ “ลื่นและคุ้ม” ที่สุด: POCO C75, POCO C65, หรือ Redmi 14C (ที่ใช้ G85/G88 + จอ 90Hz) คือคำตอบครับ
- ถ้างบประหยัดสุดๆ 2,000+ บาท เน้นโทรเข้า-ออก แบตอึด: Redmi A5 (Android Go) คือทางออกครับ
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็ขอให้เพื่อนๆ ได้มือถือที่ถูกใจและใช้งานได้อย่างมีความสุขนะครับ การเลือก โทรศัพท์ Xiaomi ราคาไม่เกิน 7000 รุ่นไหนดี นั้นไม่มีคำตอบที่ “ผิด” หรือ “ถูก” 100% มีแต่คำตอบที่ “ใช่” สำหรับไลฟ์สไตล์และงบประมาณของเราที่สุดครับ! หากต้องการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Xiaomi Thailand ได้เลยครับ
หมายเหตุจากผู้เขียน:
- รายละเอียดเรื่องสเปก, ราคา, หรือการรับประกัน โดยเฉพาะรุ่นที่ยังเป็น “คาดการณ์” (เช่น Note 14, M7 Pro, 15C) ควรตรวจสอบเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของ Xiaomi และ POCO ประเทศไทย หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ
- บทความนี้เขียนขึ้นอย่างเป็นกลาง ไม่ได้รับการสนับสนุนหรือชี้นำจากแบรนด์ใด ๆ ครับ จุดประสงค์คือเพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากที่สุด หากเพื่อนๆ กดลิงก์เพื่อตรวจสอบราคา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเพียงเล็กน้อยเพื่อสนับสนุนการทำงานและพัฒนาเว็บไซต์ของเรา แต่รับรองได้ว่าจะไม่กระทบต่อการจัดอันดับหรือคำแนะนำสินค้าแน่นอนครับ ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัว
- บทความนี้จัดทำโดยใช้ AI ช่วยในการรวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลจากหลายแหล่งที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม หากมีข้อคลาดเคลื่อน แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้ผลิตหรือร้านค้าโดยตรง ทั้งนี้ข้อมูลในบทความอ้างอิงจากสเปกและข่าวสารช่วงล่าสุด (ปลายปี 2024 – ต้นปี 2025) ซึ่งคุณสมบัติหรือราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตครับ
- คะแนน (เช่น 9.8/10 หรือ 8.4/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน ToplistPlus อ้างอิงจากสเปก, ฟีเจอร์, ราคา, และรีวิวผู้ใช้จริงจากแหล่งต่างๆ เช่น GSMArena, Kimovil, Reddit, และคอมมูนิตี้ผู้ใช้งานในไทยครับ
- รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “[ชื่อเล่น], อายุ …”) เป็นตัวอย่างสมมุติที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลและรีวิวจากผู้ใช้จริงมาเรียบเรียงใหม่เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพเท่านั้นครับ
