บทนำ
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ! วันนี้เรามาเจาะลึกกันแบบถึงพริกถึงขิงกับคำถามที่เชื่อว่าคอหนัง คอเกม หรือใครก็ตามที่กำลังจะถอยทีวีใหม่ต้องเคยถามตัวเองแน่นอน นั่นก็คือ Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นศูนย์กลางความบันเทิงของบ้านเราในปี 2025 นี้ บอกเลยว่า Samsung เขาจัดหนักจัดเต็มทุกปี ทั้งเทคโนโลยีภาพที่ล้ำไปอีกขั้น ดีไซน์ที่สวยจนเหมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอก และฟีเจอร์สมาร์ททีวีที่ฉลาดเป็นกรด การจะเลือกรุ่นที่ใช่ที่สุดเลยกลายเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักกันหน่อยใช่ไหมครับ
ไม่ต้องห่วงครับ! ในฐานะเพื่อนที่คลุกคลีกับวงการนี้ ผมเลยอาสาไปทำการบ้านมาให้เรียบร้อย คัดเอา 10 อันดับ Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่เด็ดที่สุดแห่งปีมาให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันแบบหมดเปลือก ตั้งแต่รุ่นเรือธงอย่าง OLED ที่ให้สีดำสนิท คอนทราสต์จัดจ้าน ไปจนถึง Neo QLED ที่สว่างสู้แสง และรุ่นไลฟ์สไตล์อย่าง The Frame ที่เป็นมากกว่าทีวี แต่เป็นงานศิลปะในบ้าน เราจะมาดูกันว่าแต่ละรุ่นมีดีอะไร เหมาะกับใคร และมีข้อสังเกตตรงไหนบ้าง เพื่อให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่เกิดมาเพื่อห้องนั่งเล่นของคุณจริง ๆ ถ้าอยากได้ทีวีที่ภาพสวยคมชัดเหมือนอยู่ในโรงหนัง หรือจะเอาไปต่อ PS5 เล่นเกมแบบลื่น ๆ บทความนี้มีคำตอบให้แน่นอนครับ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยว่ารุ่นไหนจะโดนใจที่สุด!
จัดอันดับ 10 Samsung Smart TV รุ่นไหนดี แห่งปี 2025
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ใจร้อน อยากเห็นภาพรวมก่อนว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่ติดโผเข้ามาในลิสต์ของเราบ้าง ลองดูตารางเปรียบเทียบข้างล่างนี้ได้เลยครับ ผมสรุปสเปกเด่น ๆ คะแนน และความเหมาะสมของแต่ละรุ่นมาให้ดูแบบง่าย ๆ แล้วค่อยเลื่อนลงไปอ่านรีวิวฉบับเต็มของแต่ละตัวกันต่อได้เลยครับ
ตารางเปรียบเทียบสรุป
1. Samsung OLED S95F ★★★★★
“ที่สุดแห่งนวัตกรรม QD-OLED ภาพสว่าง สีสดจัดจ้าน ดำสนิททะลุมิติ เสียงกระหึ่มรอบทิศทาง นี่คือราชาแห่งทีวีตัวจริง”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้ามีคนถามว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่สุดแบบไม่ต้องคิดเยอะ คำตอบแรกที่พุ่งขึ้นมาเลยก็คือ Samsung OLED S95F ครับ รุ่นนี้คือการเอาข้อดีของ OLED ที่ให้สีดำสนิท คอนทราสต์ไร้ที่ติ มาผสานกับเทคโนโลยี Quantum Dot (QD) ที่ให้ความสว่างและปริมาณสี (Color Volume) ที่สูงกว่า OLED ทั่วไป ผลลัพธ์คือภาพที่ทั้งสว่างสดใส สีสันอิ่มตัวจัดจ้านในทุกฉาก และยังคงความดำสนิทของพื้นหลังได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าคุณจะดูหนังฟอร์มยักษ์ในห้องมืดสนิท หรือดูบอลกลางวันแสก ๆ ภาพก็ยังคงสวยงามน่าทึ่ง ดีไซน์แบบ Infinity One ก็บางเฉียบจนแทบจะไร้ขอบ ทำให้ทีวีกลมกลืนไปกับผนังได้อย่างลงตัว เป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่ไม่ยอม компромиссเรื่องคุณภาพเลยครับ
สเปกเด่น
- ประเภทจอ: QD-OLED (Quantum Dot OLED)
- ชิปประมวลผล: Neural Quantum Processor 4K
- Refresh Rate: 144Hz (Motion Xcelerator Turbo Pro)
- ระบบเสียง: Dolby Atmos, Object Tracking Sound+ (OTS+) 70W
- ดีไซน์: Infinity One Design พร้อม Slim One Connect Box
- ฟีเจอร์เกมมิ่ง: FreeSync Premium Pro, Game Bar, 4 x HDMI 2.1
รีวิวแบบเจาะลึก
หัวใจสำคัญของ S95F คือชิป Neural Quantum Processor 4K ที่ใช้ AI มากถึง 20โครงข่ายในการวิเคราะห์และอัปสเกลภาพแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าคุณจะดูคอนเทนต์จากสตรีมมิ่ง, YouTube หรือไฟล์เก่า ๆ ชิปตัวนี้จะปรับปรุงทั้งความคมชัด, สีสัน, และคอนทราสต์ให้ใกล้เคียงกับ 4K มากที่สุด เทคโนโลยี Real Depth Enhancer ก็เข้ามาช่วยสร้างมิติความลึกให้กับภาพ ทำให้วัตถุหลักดูลอยเด่นออกมาจากพื้นหลังอย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับคอหนัง บอกเลยว่าการดูหนัง HDR บน S95F คือประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงครับ ด้วยความสามารถในการแสดงผลสีดำที่ดำสนิทและจุดสว่างที่สว่างจ้า ทำให้รายละเอียดในเงาและไฮไลท์ถูกขับออกมาอย่างครบถ้วน เหมือนที่ผู้กำกับตั้งใจให้เราเห็นจริง ๆ การเลือก ทีวี OLED ที่ดีที่สุดในปีนี้จึงหนีไม่พ้นรุ่นนี้เลยครับ และหากคุณกำลังมองหา Soundbar ยี่ห้อไหนดี มาเสริมทัพ S95F ก็รองรับ Q-Symphony ที่ทำงานร่วมกับซาวด์บาร์ของ Samsung ได้อย่างลงตัว ทำให้เสียงออกจากทั้งลำโพงทีวีและซาวด์บาร์พร้อมกัน สร้างเวทีเสียงที่โอบล้อมและทรงพลังยิ่งขึ้น
ในฝั่งของเกมเมอร์ S95F คือสวรรค์บนดินอย่างแท้จริงครับ ด้วย Refresh Rate สูงสุดถึง 144Hz และพอร์ต HDMI 2.1 ครบทั้ง 4 พอร์ต ทำให้คุณสามารถต่อ เครื่องเกม รุ่นใหม่ล่าสุดหรือ Gaming PC สเปกเทพ ๆ แล้วเล่นเกมที่ 4K 120Hz (หรือ 144Hz บน PC) ได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด รองรับ FreeSync Premium Pro ช่วยลดอาการภาพฉีกขาด (Screen Tearing) ได้อย่างหมดจด Game Bar ที่เรียกขึ้นมาได้ง่าย ๆ ก็ให้คุณปรับตั้งค่าเกมได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นอัตราส่วนภาพ, เช็ก Input Lag หรือเปิดโหมด Virtual Aim Point ช่วยเล็งในเกม FPS ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ Input Lag ที่ต่ำมาก ๆ ยังทำให้การตอบสนองในการเล่นเกมเฉียบคม กดปุ๊บติดปั๊บ ได้เปรียบคู่แข่งไปอีกขั้น ดังนั้นถ้าคำถามคือ Samsung Smart TV รุ่นไหนดี สำหรับการเล่นเกมแบบไม่ประนีประนอม S95F คือคำตอบสุดท้ายที่ไม่มีใครเทียบได้ครับ การจัดการสายเคเบิลก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย Slim One Connect Box ที่รวบสายทุกเส้นไว้ในกล่องเดียวแล้วต่อเข้าทีวีด้วยสายไฟเบอร์ออปติกบาง ๆ เพียงเส้นเดียว ทำให้การติดตั้งบนผนังดูสะอาดตาและสวยงามมาก ๆ ครับ
คะแนนที่ได้
9.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“ภาพสวยจนขนลุกจริง ๆ ครับ ดูหนัง 4K HDR คือเหมือนหลุดเข้าไปในเรื่องเลย สีดำคือดำจริง ๆ เล่นเกม 144Hz ก็ลื่นหัวแตก แพงแต่จบจริง ๆ ครับ” – นนท์, อายุ 34
“ตอนแรกกังวลว่าจอ OLED จะเบิร์นอินง่าย แต่รุ่นนี้สว่างมาก สีสดสู้แสงกลางวันได้สบายเลยค่ะ ดีไซน์ก็สวยมาก เข้ากับบ้านสุด ๆ” – พลอย, อายุ 29
2. Samsung OLED QN90F ★★★★★
“สมดุลที่ลงตัวระหว่างภาพ OLED คมชัด ดีไซน์บางเฉียบ และระบบเสียงที่ทรงพลังเกินตัว”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
หาก Samsung OLED S95F คือที่สุดของที่สุด Samsung OLED QN90F ก็เปรียบเสมือนอัศวินมือขวาที่เก่งกาจไม่แพ้กันครับ รุ่นนี้ยังคงใช้เทคโนโลยีจอภาพ QD-OLED และชิปประมวลผล Neural Quantum Processor 4K ตัวเดียวกัน ทำให้คุณภาพของภาพ ทั้งความสว่าง, สีสัน, และคอนทราสต์ยังคงอยู่ในระดับเรือธง แต่มาในแพ็กเกจที่เข้าถึงง่ายขึ้นเล็กน้อย สิ่งที่แตกต่างหลัก ๆ คือดีไซน์ที่แม้จะบางเฉียบแต่ไม่ได้ใช้ One Connect Box และระบบเสียงที่เป็น Object Tracking Sound+ (OTS+) ซึ่งยังคงให้เสียงที่ติดตามวัตถุบนจอได้อย่างน่าทึ่ง แต่มีกำลังขับน้อยกว่ารุ่นพี่เล็กน้อย สำหรับใครที่กำลังมองหาว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่ให้คุณภาพภาพระดับท็อปใกล้เคียงกับ S95F แต่มีงบประมาณที่จำกัดลงมาหน่อย QN90F คือตัวเลือกที่สมเหตุสมผลและคุ้มค่ามาก ๆ ครับ
สเปกเด่น
- ประเภทจอ: QD-OLED
- ชิปประมวลผล: Neural Quantum Processor 4K
- Refresh Rate: 120Hz (Motion Xcelerator Turbo+)
- ระบบเสียง: Dolby Atmos, Object Tracking Sound+ (OTS+)
- ดีไซน์: Slim Design
- ฟีเจอร์เกมมิ่ง: FreeSync Premium, Game Bar, 4 x HDMI 2.1
รีวิวแบบเจาะลึก
แม้จะเป็นรุ่นรอง แต่ QN90F ก็ไม่ได้ลดทอนคุณภาพของภาพลงไปมากนักครับ ยังคงได้ความมหัศจรรย์ของจอ QD-OLED ที่ให้สีดำสนิทและสีสันที่สดอิ่มเต็มตา ชิป Neural Quantum Processor 4K ยังคงทำหน้าที่อัปสเกลและปรับปรุงคุณภาพของภาพได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ไม่ว่าคุณจะดูคอนเทนต์อะไร ภาพก็จะออกมาสวยงามคมชัดเสมอ การดูหนัง HDR ก็ยังคงเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม รายละเอียดในที่มืดและสว่างยังคงชัดเจน ทำให้คุณไม่พลาดทุกรายละเอียดสำคัญในฉาก สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจเลือก ทีวี 65 นิ้ว หรือ ทีวีซัมซุง 55 นิ้ว QN90F ถือเป็นตัวเลือกที่ให้ความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพได้อย่างลงตัวที่สุดตัวหนึ่งในตลาดเลยครับ ระบบเสียง Object Tracking Sound+ (OTS+) ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ ถึงแม้กำลังขับจะน้อยกว่า S95F แต่ก็ยังสามารถสร้างมิติเสียงที่เคลื่อนที่ตามวัตถุบนหน้าจอได้อย่างแม่นยำ เช่น เสียงรถวิ่งจากซ้ายไปขวา หรือเสียงเฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนือหัว ทำให้การดูหนังหรือเล่นเกมได้อรรถรสมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง ลำโพงต่อทีวี เพิ่มเติมในทันที
สำหรับเกมเมอร์ QN90F ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ ด้วย Refresh Rate 120Hz และพอร์ต HDMI 2.1 ทั้ง 4 พอร์ต ทำให้รองรับการเล่นเกมที่ 4K 120Hz จากเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ฟีเจอร์อย่าง FreeSync Premium และ Game Bar ก็มีมาให้ครบถ้วน ช่วยให้การเล่นเกมของคุณลื่นไหลและปรับแต่งได้ดั่งใจ Input Lag ก็ยังคงต่ำมากเช่นเคย ทำให้การตอบสนองรวดเร็วทันใจ เหมาะกับเกมที่ต้องการความแม่นยำสูง ดังนั้นหากคำถามของคุณคือ Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่ให้ประสบการณ์การเล่นเกมระดับพรีเมียม แต่มาในราคาที่สบายกระเป๋ากว่ารุ่นท็อปสุด QN90F คือคำตอบที่ใช่เลยครับ ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Slim Design ก็ยังคงความสวยงามและบางเฉียบ แม้จะไม่มี One Connect Box แต่การจัดวางพอร์ตด้านหลังก็ทำมาได้ดี ทำให้การเชื่อมต่อสายต่าง ๆ ไม่ยุ่งยากจนเกินไป เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่พิสูจน์ว่าคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงที่สุดเพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมครับ
คะแนนที่ได้
9.6/10
รีวิวสั้น ๆ
“ภาพสวยมากครับ แทบไม่ต่างจากรุ่นท็อปเลย เล่นเกม PS5 ที่ 120Hz ฟินสุด ๆ เสียงก็ดีเกินคาดครับ คุ้มค่ามาก ๆ” – อาร์ม, อายุ 28
“ชอบดีไซน์ที่บางเฉียบค่ะ วางในห้องนั่งเล่นแล้วสวยมาก ภาพคมชัด ดูซีรีส์แล้วอินมากค่ะ สีดำสนิททำให้ภาพมีมิติจริง ๆ” – นุ่น, อายุ 31
3. Samsung OLED S90F ★★★★☆
“ประตูสู่โลก QD-OLED ที่คุ้มค่าที่สุด ภาพสวยเกินราคา ดีไซน์บางเฉียบสไตล์ LaserSlim”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
มาถึงรุ่นน้องเล็กสุดในตระกูล QD-OLED แต่ความสามารถไม่เล็กตามตัวเลยครับกับ Samsung OLED S90F รุ่นนี้คือคำตอบสำหรับคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์ภาพระดับพรีเมียมของ QD-OLED แต่มีงบประมาณจำกัดอย่างแท้จริง ถ้าถามว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดในกลุ่มจอภาพระดับไฮเอนด์ S90F มักจะเป็นชื่อแรก ๆ ที่ถูกพูดถึงเสมอครับ แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นของซีรีส์ แต่ก็ยังคงใช้ชิป Neural Quantum Processor 4K และให้คุณภาพของภาพที่น่าประทับใจ ทั้งสีดำที่ดำสนิทและสีสันที่สดใสจัดจ้าน ดีไซน์แบบ LaserSlim ก็ทำให้ตัวเครื่องบางเฉียบและดูทันสมัย เหมาะกับการตกแต่งบ้านทุกสไตล์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับใครก็ตามที่อยากจะอัปเกรดทีวีเครื่องเก่ามาเป็น OLED ครับ
สเปกเด่น
- ประเภทจอ: QD-OLED
- ชิปประมวลผล: Neural Quantum Processor 4K
- Refresh Rate: 120Hz (Motion Xcelerator Turbo+)
- ระบบเสียง: Dolby Atmos, Object Tracking Sound Lite (OTS Lite)
- ดีไซน์: LaserSlim Design
- ฟีเจอร์เกมมิ่ง: FreeSync Premium, Game Bar, 4 x HDMI 2.1
รีวิวแบบเจาะลึก
S90F อาจจะมีการปรับลดสเปกบางอย่างลงจากรุ่นพี่เพื่อทำราคาให้เข้าถึงง่ายขึ้น เช่น ความสว่างสูงสุดของจอที่อาจจะไม่สู้แสงเท่า S95F หรือ QN90F และระบบเสียงที่เป็น Object Tracking Sound Lite (OTS Lite) ซึ่งเป็นการจำลองเสียงรอบทิศทางด้วยซอฟต์แวร์แทนที่จะมีลำโพงแยกเฉพาะ แต่เชื่อเถอะครับว่าสำหรับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ คุณภาพของภาพที่ได้จากจอยังคงน่าทึ่งและดีกว่า ทีวี 4K ทั่วไปหลายขุม การดูหนังบน S90F ยังคงให้ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ สีดำที่สมบูรณ์แบบช่วยขับให้สีสันอื่น ๆ ดูโดดเด่นและมีชีวิตชีวา ชิป Neural Quantum Processor 4K ก็ยังทำหน้าที่ของมันได้อย่างยอดเยี่ยมในการอัปสเกลคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้คมชัดและสวยงามอยู่เสมอ ทำให้ S90F เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่อยากได้ทีวีภาพสวย ๆ สำหรับดูหนัง ดูซีรีส์ เป็นหลัก และยังเป็นหนึ่งใน ทีวี 55 นิ้ว ที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดอีกด้วย
ในด้านการเล่นเกม S90F ก็ยังคงเป็นทีวีที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ใครครับ เพราะ Samsung ยังคงให้สเปกที่จำเป็นสำหรับเกมเมอร์มาอย่างครบถ้วน ทั้ง Refresh Rate 120Hz และพอร์ต HDMI 2.1 จำนวน 4 พอร์ต ทำให้คุณสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลที่ความละเอียด 4K 120Hz ฟีเจอร์อย่าง FreeSync Premium และ Game Bar ก็มีมาให้เหมือนรุ่นพี่ ช่วยลดอาการภาพฉีกและให้คุณปรับแต่งค่าต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ดังนั้นหากคุณเป็นเกมเมอร์ที่กำลังมองหาว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่จะมาอัปเกรดประสบการณ์การเล่นเกมของคุณโดยไม่ทำลายงบประมาณ S90F คือคำตอบที่น่าพิจารณาเป็นอย่างยิ่งครับ ด้วยราคาที่ย่อมเยาลง แต่ยังคงได้หัวใจหลักของเทคโนโลยี QD-OLED และฟีเจอร์สำหรับเล่นเกมที่ครบครัน ทำให้ S90F กลายเป็นรุ่นที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับทีวีระดับกลางถึงบน และเป็นข้อพิสูจน์ว่าทีวีคุณภาพเยี่ยมไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป
คะแนนที่ได้
9.4/10
รีวิวสั้น ๆ
“ไม่คิดว่าทีวีราคานี้จะได้ภาพสวยขนาดนี้ครับ สีดำคือดำจริง ๆ ดูหนังสนุกขึ้นเยอะเลย คุ้มมากครับ” – เอก, อายุ 35
“ซื้อมาต่อกับ Xbox Series X คือดีงามมากครับ ภาพลื่นสุด ๆ ดีไซน์ก็บางสวย เข้ากับห้องนอนพอดีเลยค่ะ” – ฟ้า, อายุ 25
4. Samsung OLED S95D ★★★★☆
“ปฏิวัติการรับชมด้วยจอ Glare Free ตัดแสงสะท้อนขั้นเทพ ภาพสวยคมชัดทุกสภาพแสง”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
หากปัญหาแสงสะท้อนจากหลอดไฟหรือหน้าต่างเป็นเรื่องกวนใจคุณมาตลอด Samsung OLED S95D คือคำตอบที่รอคอยครับ นี่คือการยกระดับทีวี OLED ไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีจอภาพ Glare Free ที่ออกแบบมาเพื่อลดแสงสะท้อนบนหน้าจอโดยเฉพาะ ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับคอนเทนต์โปรดได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าห้องของคุณจะสว่างแค่ไหนก็ตาม เมื่อรวมกับคุณภาพของภาพจากจอ QD-OLED ที่ให้สีดำสนิทและสีสันที่สดใสเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว S95D จึงกลายเป็นทีวีที่มอบประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยมได้ในทุกสถานการณ์ สำหรับใครที่กำลังลังเลว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี สำหรับห้องนั่งเล่นที่สว่าง หรือมีหน้าต่างบานใหญ่ รุ่นนี้คือตัวเลือกที่แก้ปัญหาได้ตรงจุดที่สุดครับ
สเปกเด่น
- ประเภทจอ: QD-OLED พร้อมเทคโนโลยี Glare Free
- ชิปประมวลผล: NQ4 AI Gen2 Processor
- Refresh Rate: 144Hz (Motion Xcelerator 144Hz)
- ระบบเสียง: Dolby Atmos, Object Tracking Sound+ (OTS+)
- ฟีเจอร์ภาพ: Real Depth Enhancer, Pantone Validated Color
- ดีไซน์: Infinity One Design, Slim One Connect
รีวิวแบบเจาะลึก
จุดขายหลักของ S95D คือเทคโนโลยี Glare Free ที่ทำงานได้อย่างน่าประทับใจมากครับ จากการทดสอบในห้องที่มีแสงไฟส่องตรงหรือมีแสงแดดส่องเข้ามา จะเห็นได้ว่าแสงสะท้อนบนหน้าจอลดลงไปอย่างมากเมื่อเทียบกับทีวีทั่วไป ทำให้เรายังคงมองเห็นรายละเอียดในฉากมืด ๆ ได้อย่างชัดเจนโดยไม่มีเงาของตัวเองหรือสภาพแวดล้อมในห้องมาบดบัง ซึ่งนี่คือการแก้ปัญหาที่สำคัญสำหรับจอภาพแบบมันวาวอย่าง OLED ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง NQ4 AI Gen2 Processor ก็เข้ามาเพิ่มความสามารถในการอัปสเกลภาพให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการจัดการกับคอนเทนต์ที่มีความละเอียดต่ำ ชิปตัวนี้สามารถเติมเต็มรายละเอียดและลดน้อยส์ได้อย่างชาญฉลาด ทำให้ภาพที่ออกมาดูสะอาดตาและคมชัดมากขึ้น การที่จอได้รับการรับรองสีจาก Pantone ก็เป็นเครื่องการันตีว่าสีสันที่คุณเห็นบนจอจะมีความแม่นยำและเที่ยงตรงสูง เหมาะสำหรับคนที่ทำงานด้านกราฟิกหรือช่างภาพที่ต้องการความถูกต้องของสีเป็นพิเศษ
ในด้านความบันเทิงอื่น ๆ S95D ก็ยังคงจัดเต็มไม่แพ้ใคร ระบบเสียง OTS+ และ Dolby Atmos ยังคงมอบประสบการณ์เสียงที่โอบล้อมและสมจริง สำหรับเกมเมอร์ Refresh Rate 144Hz และฟีเจอร์เกมมิ่งที่ครบครันก็ยังคงเป็นจุดแข็งที่สำคัญ ทำให้ S95D เป็น ทีวีเล่นเกม ที่ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งรุ่น ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่สามารถมอบประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดได้โดยไม่เกี่ยงสภาพแสงในห้อง และยังคงเป็นทีวีระดับเรือธงที่ครบเครื่องทั้งภาพ เสียง และฟีเจอร์การเล่นเกม S95D คือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ของคุณได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ การลงทุนกับเทคโนโลยี Glare Free ในรุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับใครก็ตามที่เบื่อกับปัญหาแสงสะท้อนที่คอยกวนใจมาตลอด
คะแนนที่ได้
9.2/10
รีวิวสั้น ๆ
“จอ Glare Free คือเปลี่ยนโลกเลยครับ ห้องนั่งเล่นผมแดดส่องตลอด ตอนนี้ดูทีวีกลางวันได้สบายมาก ไม่มีเงาสะท้อนเลย สุดยอดจริง ๆ” – ตั้ม, อายุ 40
“สีสวยมากค่ะ สมกับที่ได้การรับรองจาก Pantone เอามาพรีวิวงานออกแบบคือสีตรงเป๊ะเลย ชอบมากค่ะ” – จิ๊บ, อายุ 27
5. Samsung OLED S90D ★★★★☆
“OLED รุ่นใหม่ที่ครบเครื่อง สีสันแม่นยำระดับ Pantone ขับเคลื่อนด้วยพลัง AI Gen2 ในราคาที่จับต้องได้”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
Samsung OLED S90D คือการอัปเกรดที่น่าสนใจจากรุ่น S90F โดยนำเอาเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ๆ จากปี 2025 มาใส่ไว้ในรุ่นเริ่มต้นของซีรีส์ OLED ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่อยากได้ทีวีที่สดใหม่และมีประสิทธิภาพสูงในราคาที่สมเหตุสมผล หากคุณกำลังมองหาว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด แต่ไม่ถึงกับต้องเป็นตัวท็อปสุด S90D คือจุดที่ลงตัวมากครับ ด้วยการอัปเกรดชิปประมวลผลเป็น NQ4 AI Gen2 และการได้รับการรับรองสีจาก Pantone ทำให้มั่นใจได้เลยว่าคุณภาพของภาพและสีสันจะมีความแม่นยำและสวยงามยิ่งขึ้น เป็นการยกระดับประสบการณ์การรับชมในรุ่นเริ่มต้นให้ใกล้เคียงกับรุ่นพี่มากขึ้นไปอีก
สเปกเด่น
- ประเภทจอ: QD-OLED
- ชิปประมวลผล: NQ4 AI Gen2 Processor
- Refresh Rate: 120Hz (Motion Xcelerator 120Hz)
- ระบบเสียง: Dolby Atmos, Object Tracking Sound Lite (OTS Lite)
- ฟีเจอร์ภาพ: Real Depth Enhancer, Pantone Validated Color
- ดีไซน์: LaserSlim Design
รีวิวแบบเจาะลึก
การมาของชิป NQ4 AI Gen2 Processor ใน S90D ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญครับ เพราะมันหมายความว่าทีวีรุ่นเริ่มต้นของซีรีส์ก็สามารถประมวลผลและอัปสเกลภาพได้อย่างชาญฉลาดไม่แพ้รุ่นใหญ่ ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัดและเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อดูคอนเทนต์ที่ไม่ใช่ 4K นอกจากนี้ การที่จอภาพได้รับการรับรองสีจาก Pantone ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้ S90D โดดเด่นกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน มันหมายความว่าคุณจะได้เห็นสีสันที่สมจริงและเที่ยงตรง ไม่ว่าจะเป็นสีผิวของนักแสดงในหนัง หรือสีของโลโก้แบรนด์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับความถูกต้องของสี การดูหนังบน S90D จึงเป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจมาก ๆ ครับ คุณยังคงได้ความดำสนิทและคอนทราสต์ที่ยอดเยี่ยมของจอ OLED แต่เพิ่มเติมด้วยความแม่นยำของสีที่มากขึ้น ถือเป็นหนึ่งใน ทีวี ยี่ห้อไหนดี ที่ให้ความคุ้มค่าสูงมากในปีนี้
แม้ว่า S90D จะไม่ได้มีฟีเจอร์จอ Glare Free เหมือน S95D หรือระบบเสียงที่ทรงพลังเท่ารุ่นพี่ แต่สำหรับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ที่รับชมในห้องที่มีการควบคุมแสงได้ดีอยู่แล้ว นี่อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลยครับ ในทางกลับกัน สิ่งที่คุณได้มาคือทีวี OLED ที่มีเทคโนโลยีสดใหม่และประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นมาก สำหรับเกมเมอร์ S90D ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งด้วย Refresh Rate 120Hz และฟีเจอร์เกมมิ่งที่ครบครัน ทำให้การเล่นเกมยังคงลื่นไหลและสนุกสนานเหมือนเดิม ดังนั้นถ้าคำถามของคุณคือ Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่เป็นการเริ่มต้นกับเทคโนโลยีล่าสุดของปี 2025 โดยไม่ต้องจ่ายแพง S90D คือคำตอบที่น่าสนใจและสมดุลที่สุดครับ มันคือการนำเสนอเทคโนโลยีระดับสูงลงมาสู่ผู้ใช้งานในวงกว้างได้อย่างยอดเยี่ยม
คะแนนที่ได้
9.0/10
รีวิวสั้น ๆ
“เป็น OLED รุ่นใหม่ที่ราคาดีมากครับ ชิป AI ตัวใหม่ทำงานได้ดีจริง ๆ ภาพคมชัดขึ้นเยอะเลย เล่นเกมก็ลื่นเหมือนเดิม คุ้มครับ” – วิน, อายุ 30
“สีสวยตรงจริง ๆ ค่ะ เอามาดูพวกสารคดีธรรมชาติคือฟินมาก ดีไซน์ก็บางสวย ชอบค่ะ” – แอน, อายุ 28
6. Samsung Neo QLED QN90D ★★★★☆
“ขุมพลัง Neo QLED สว่างสู้แสง ภาพคมชัดทุกมิติด้วย AI Upscaling ขั้นเทพ ตัวจบสำหรับห้องสว่าง”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
เมื่อเราขยับมาที่ฝั่งของเทคโนโลยีจอภาพอีกขั้วหนึ่งของ Samsung นั่นคือ Neo QLED และ Samsung Neo QLED QN90D ก็คือราชาแห่งทีวีสำหรับห้องสว่างอย่างแท้จริงครับ ถ้าคำถามของคุณคือ Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่จะเอาไปวางในห้องนั่งเล่นที่แดดส่องถึง หรือเปิดไฟสว่างโร่ตลอดเวลา รุ่นนี้คือคำตอบที่ใช่เลยครับ ด้วยเทคโนโลยี Quantum Matrix ที่ควบคุมหลอดไฟ Mini LED ขนาดจิ๋วได้อย่างแม่นยำ ทำให้ QN90D สามารถทำความสว่างได้สูงมาก ๆ ในขณะที่ยังควบคุมแสงรั่วได้ดีเยี่ยม ทำให้ภาพที่ได้ยังคงมีคอนทราสต์ที่ดี สีดำที่ดูดำลึกแม้จะไม่สนิทเท่า OLED ก็ตาม แต่ความสว่างที่ได้มานั้นสามารถสู้กับแสงรบกวนภายนอกได้อย่างสบาย ๆ ทำให้ภาพไม่ซีดจางและยังคงรายละเอียดไว้ได้อย่างครบถ้วนครับ
สเปกเด่น
- ประเภทจอ: Neo QLED (Mini LED)
- ชิปประมวลผล: NQ4 AI Gen2 Processor
- เทคโนโลยีภาพ: Quantum Matrix Technology, Real Depth Enhancer Pro, 4K AI Upscaling
- ระบบเสียง: Dolby Atmos, Object Tracking Sound+ (OTS+)
- Refresh Rate: 120Hz (Motion Xcelerator Turbo+)
- ดีไซน์: NeoSlim Design
รีวิวแบบเจาะลึก
หัวใจของ QN90D คือการทำงานร่วมกันระหว่าง Quantum Matrix Technology และชิป NQ4 AI Gen2 Processor ครับ เทคโนโลยี Mini LED ทำให้ Samsung สามารถใส่หลอดไฟเข้าไปในจอได้มากกว่าทีวี LED ทั่วไปหลายพันเท่า และควบคุมการเปิด-ปิดไฟในแต่ละโซนได้อย่างละเอียด ผลลัพธ์คือความสว่างที่พุ่งสูงในฉากที่ต้องการแสง และความมืดที่ควบคุมได้ดีในฉากกลางคืน ลดอาการแสงฟุ้งรอบวัตถุสว่าง (Blooming) ได้อย่างน่าประทับใจ เมื่อรวมกับชิป AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อมฟีเจอร์ 4K AI Upscaling และ Real Depth Enhancer Pro ทำให้ภาพที่ได้มีทั้งความคมชัดและมิติความลึกที่น่าทึ่ง ไม่ว่าคุณจะดูคอนเทนต์จากแหล่งไหน ภาพก็จะถูกปรับปรุงให้ดูดีที่สุดบนจอ Neo QLED นี้เสมอ การเลือก ทีวี 75 นิ้ว ที่เป็น Neo QLED อย่างรุ่นนี้มาไว้ในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ จะมอบประสบการณ์ที่เหมือนมีโรงภาพยนตร์ส่วนตัวเลยทีเดียวครับ และด้วยความที่เป็นจอ QLED จึงหมดกังวลเรื่องจอเบิร์นอินไปได้เลย สามารถเปิดทิ้งไว้ดูข่าวหรือรายการทีวีนาน ๆ ได้อย่างสบายใจ
สำหรับคอหนังและซีรีส์ QN90D รองรับ Neo Quantum HDR+ ที่ช่วยขับรายละเอียดในคอนเทนต์ HDR ออกมาได้อย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนมืดและส่วนสว่าง ทำให้คุณเห็นทุกอย่างที่ผู้สร้างต้องการนำเสนอ ระบบเสียง OTS+ ก็ยังคงทำหน้าที่สร้างมิติเสียงที่เคลื่อนที่ตามภาพได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เสียงพูด เสียงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ มีทิศทางที่ชัดเจนและสมจริง ในฝั่งของเกมเมอร์ QN90D ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วย Refresh Rate 120Hz และฟีเจอร์ Motion Xcelerator Turbo+ ทำให้ภาพเคลื่อนไหวในเกมลื่นไหลไม่มีเบลอ รองรับ FreeSync Premium Pro และมี Game Bar ให้ปรับแต่งค่าได้สะดวกเหมือนรุ่นพี่ ๆ ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มองหาว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่เป็น All-rounder ตัวจริง ทำได้ดีเยี่ยมในทุก ๆ ด้าน ทั้งดูหนัง เล่นเกม และใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสว่างมาก QN90D คือตัวเลือกที่แข็งแกร่งและน่าลงทุนที่สุดรุ่นหนึ่งในปีนี้ครับ
คะแนนที่ได้
8.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“สว่างสะใจมากครับ ห้องผมนั่งเล่นติดหน้าต่าง ตอนนี้ดูทีวีกลางวันภาพยังคมชัดเป๊ะอยู่เลย ชอบมากครับ” – บอย, อายุ 38
“ภาพสวย คอนทราสต์ดีเกินคาดสำหรับทีวีที่ไม่ใช่ OLED เล่นเกมก็ลื่นดีค่ะ ฟีเจอร์ AI อัปสเกลก็ทำงานได้เนียนตามากค่ะ” – มาย, อายุ 32
7. Samsung Neo QLED QN85D ★★★★☆
“ประตูสู่โลก Neo QLED ที่คุ้มค่า ภาพสว่างคมชัด เสียง Dolby Atmos กระหึ่ม ตอบโจทย์ความบันเทิงในครอบครัว”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
หากคุณชื่นชอบในความสว่างและความสดใสของเทคโนโลยี Neo QLED แต่มีงบประมาณที่จำกัดลงมาอีกนิด Samsung Neo QLED QN85D คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ รุ่นนี้เปรียบเสมือนเป็นรุ่นน้องของ QN90D ที่ยังคงรักษาหัวใจหลักของเทคโนโลยี Mini LED และชิปประมวลผล AI อัจฉริยะไว้ได้อย่างครบถ้วน ทำให้เป็นคำตอบที่ดีสำหรับคำถามที่ว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี สำหรับครอบครัวที่ต้องการทีวีจอใหญ่ที่ให้ภาพสวยงามคมชัดและฟีเจอร์ที่ครบครันสำหรับทุกคนในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง, ดูการ์ตูน, หรือดูกีฬา QN85D ก็สามารถมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมได้ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้นครับ
สเปกเด่น
- ประเภทจอ: Neo QLED (Mini LED)
- ชิปประมวลผล: NQ4 AI Gen2 Processor
- เทคโนโลยีภาพ: Quantum Matrix Technology, Neo Quantum HDR
- ระบบเสียง: Dolby Atmos, Object Tracking Sound (OTS)
- Refresh Rate: 120Hz
- ดีไซน์: NeoSlim Design
รีวิวแบบเจาะลึก
QN85D อาจมีการปรับลดสเปกบางส่วนลงจาก QN90D เช่น การใช้เทคโนโลยี Neo Quantum HDR แทนที่จะเป็น HDR+ และระบบเสียงที่เป็น Object Tracking Sound (OTS) ธรรมดา แต่สำหรับสายตาคนทั่วไปแล้ว คุณภาพของภาพที่ได้ยังคงน่าประทับใจมากครับ เทคโนโลยี Quantum Matrix ยังคงทำหน้าที่ควบคุมหลอด Mini LED ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ภาพมีความสว่างและคอนทราสต์ที่ดีเยี่ยม เหมาะกับการรับชมในห้องที่มีแสงสว่าง ชิป NQ4 AI Gen2 Processor ก็ยังคงเป็นพระเอกที่ช่วยอัปสเกลทุกคอนเทนต์ให้มีความคมชัดและสวยงาม ทำให้ไม่ว่าคุณจะเปิดช่องทีวีดิจิทัลธรรมดา หรือดูหนังจากแอปสตรีมมิ่ง ภาพก็จะดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเลือก TV Samsung 65 นิ้ว รุ่นนี้มาไว้ในห้องนั่งเล่น จะทำให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขกับความบันเทิงได้อย่างเต็มที่แน่นอน การมี Google TV หรือ Android TV Box มาต่อเพิ่มก็เป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มแอปพลิเคชันที่หลากหลาย
อีกหนึ่งจุดเด่นของ QN85D คือการรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ซึ่งเป็นมาตรฐานเสียงรอบทิศทางที่ใช้กันในโรงภาพยนตร์ เมื่อทำงานร่วมกับระบบเสียง OTS ของทีวี จะช่วยสร้างบรรยากาศเสียงที่โอบล้อมและสมจริง ทำให้การดูหนังแอ็กชันหรือฟังคอนเสิร์ตได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น แม้จะไม่ได้มีลำโพงรอบทิศทางเท่า OTS+ แต่ก็ถือว่าดีเยี่ยมสำหรับทีวีในระดับราคานี้ครับ ในด้านการเล่นเกม QN85D ก็ยังคงรองรับ Refresh Rate 120Hz ทำให้การเล่นเกมยังคงลื่นไหล ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่ให้เทคโนโลยีภาพระดับสูงอย่าง Neo QLED มีฟีเจอร์ที่ทันสมัยครบครัน และมาในราคาที่สมเหตุสมผลสำหรับทุกคนในครอบครัว QN85D คือตัวเลือกที่สมดุลและน่าพิจารณาเป็นอย่างยิ่งครับ
คะแนนที่ได้
8.6/10
รีวิวสั้น ๆ
“เป็น Neo QLED ที่ราคาดีมากครับ ภาพสวยสว่างถูกใจทุกคนในบ้านเลย ดูบอลตอนกลางวันก็ชัดแจ๋ว” – เก่ง, อายุ 42
“เสียง Dolby Atmos ดีกว่าที่คิดค่ะ ดูหนังแล้วเสียงวิ่งไปมาเหมือนอยู่ในโรงหนังเลย ลูก ๆ ก็ชอบมากค่ะ” – แอน, อายุ 36
8. Samsung Q70D QLED 4K ★★★★☆
“ตัวเลือกสุดคุ้มสำหรับเกมเมอร์ ภาพ QLED สีสดใส พร้อมความลื่นไหลระดับ 120Hz และ FreeSync Premium Pro”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับเพื่อน ๆ ที่เป็นเกมเมอร์โดยเฉพาะ และกำลังมองหาว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่จะมาตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องจ่ายแพงเท่ารุ่นเรือธง Samsung Q70D QLED 4K คือคำตอบที่น่าสนใจมากครับ รุ่นนี้อาจจะไม่ได้ใช้เทคโนโลยี Mini LED เหมือนซีรีส์ Neo QLED แต่ยังคงเป็นจอ QLED ที่ให้สีสันสดใสและแม่นยำด้วยเทคโนโลยี Quantum Dot และที่สำคัญคือมันมาพร้อมกับฟีเจอร์สำหรับเล่นเกมที่จัดเต็มมาก ๆ ทั้ง Motion Xcelerator Turbo+ ที่ให้ Refresh Rate สูงถึง 120Hz และการรองรับ FreeSync Premium Pro ทำให้ Q70D เป็นทีวีระดับกลางที่โดดเด่นในเรื่องความคุ้มค่าสำหรับคอเกมอย่างแท้จริงครับ
สเปกเด่น
- ประเภทจอ: QLED
- ชิปประมวลผล: Quantum Processor 4K
- Refresh Rate: 120Hz (Motion Xcelerator Turbo+)
- ฟีเจอร์เกมมิ่ง: FreeSync Premium Pro, Game Bar, Super UltraWide GameView
- เทคโนโลยีภาพ: Quantum HDR, Dual LED
- ดีไซน์: AirSlim Design
รีวิวแบบเจาะลึก
จุดแข็งที่สุดของ Q70D คือการเป็น Smart TV ที่ให้สเปกการเล่นเกมระดับสูงในราคาที่เข้าถึงง่ายครับ การมี Motion Xcelerator Turbo+ ทำให้ทีวีสามารถแสดงผลภาพเคลื่อนไหวที่ 120Hz ได้อย่างลื่นไหล ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเกมยุคใหม่ที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว เมื่อรวมกับการรองรับ FreeSync Premium Pro ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Variable Refresh Rate (VRR) ขั้นสูง จะช่วยลดอาการภาพฉีกขาดและกระตุกได้อย่างหมดจด ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมของคุณราบรื่นและต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Super UltraWide GameView ที่ให้คุณปรับอัตราส่วนภาพเป็น 21:9 หรือ 32:9 ได้เมื่อต่อกับ PC ทำให้มองเห็นมุมมองในเกมได้กว้างขึ้น ได้เปรียบคู่แข่งไปอีกขั้น ชิปประมวลผล Quantum Processor 4K ก็ยังคงทำหน้าที่อัปสเกลภาพและปรับปรุงคอนทราสต์ได้เป็นอย่างดี ทำให้ภาพในเกมดูสวยงามและคมชัด
แม้ว่า Q70D จะใช้เทคโนโลยีแบ็คไลท์แบบ Dual LED ซึ่งให้คอนทราสต์ที่ดีกว่าทีวี LED ทั่วไป แต่ก็ยังไม่สามารถสู้กับความดำลึกและการควบคุมแสงของ Neo QLED ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานทั่วไปและการเล่นเกมในห้องที่มีแสงสว่างปกติ ภาพที่ได้จากจอ QLED ก็ยังคงสวยงามและสีสันสดใสมาก ๆ ครับ เทคโนโลยี Quantum HDR ช่วยขับรายละเอียดในฉากมืดและสว่างของเกมและหนังออกมาได้ดี ทำให้คุณไม่พลาดรายละเอียดสำคัญ ๆ ดีไซน์แบบ AirSlim ก็ทำให้ตัวเครื่องบางและดูทันสมัย เข้ากับการตกแต่งห้องได้ง่าย ดังนั้นถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ที่กำลังมองหาว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่เน้นประสิทธิภาพการเล่นเกมเป็นหลัก ให้ความลื่นไหลระดับ 120Hz และมีฟีเจอร์เสริมครบครัน ในงบประมาณที่ไม่สูงจนเกินไป Q70D คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดครับ
คะแนนที่ได้
8.4/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อมาเล่นเกมโดยเฉพาะเลยครับ 120Hz ลื่นมาก ภาพสวย สีสด ถูกใจสุด ๆ ครับ คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว” – พงศ์, อายุ 26
“เป็นทีวีที่สเปกดีเกินราคาค่ะ ภาพสวย ดูหนังก็ดี เล่นเกมก็เยี่ยม ดีไซน์ก็บางเฉียบ ชอบค่ะ” – นัท, อายุ 30
9. Samsung The Frame ★★★★☆
“เมื่อทีวีเป็นมากกว่าทีวี นี่คืองานศิลปะบนผนังบ้านคุณ ที่พร้อมมอบความบันเทิงได้ทุกเมื่อ”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
มาถึงทีวีที่มีคอนเซ็ปต์แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิงกับ Samsung The Frame ครับ รุ่นนี้ถูกออกแบบมาสำหรับคนรักศิลปะและดีไซน์โดยเฉพาะ สำหรับใครที่รู้สึกว่าทีวีจอสีดำสี่เหลี่ยมมันดูขัดกับการตกแต่งบ้าน และกำลังมองหาว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่จะสามารถกลมกลืนไปกับอินทีเรียได้อย่างลงตัว The Frame คือคำตอบเดียวที่ไม่มีใครเทียบได้ครับ จุดเด่นที่สุดของมันคือ Art Mode ที่จะเปลี่ยนทีวีของคุณให้กลายเป็นกรอบรูปดิจิทัล แสดงผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดังทั่วโลกหรือรูปถ่ายส่วนตัวของคุณเองเมื่อคุณไม่ได้ใช้งานทีวี และด้วยจอภาพแบบ Matte Display ที่ลดแสงสะท้อนได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ภาพงานศิลปะที่แสดงขึ้นมาดูสมจริงเหมือนภาพพิมพ์บนแคนวาสจริง ๆ
สเปกเด่น
- ประเภทจอ: QLED พร้อม Matte Display
- ฟีเจอร์หลัก: Art Mode, Customizable Frame
- การติดตั้ง: Slim Fit Wall Mount (ติดตั้งชิดผนัง)
- การจัดการสาย: One Connect Box
- เทคโนโลยีภาพ: Quantum Processor 4K, 100% Color Volume
- Refresh Rate: 120Hz
รีวิวแบบเจาะลึก
หัวใจของ The Frame คือการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและศิลปะครับ จอภาพแบบ Matte Display คือตัวเปลี่ยนเกมที่สำคัญ มันช่วยลดแสงสะท้อนและทำให้พื้นผิวของภาพดูด้าน ไม่มันวาวเหมือนทีวีทั่วไป เมื่อเข้าสู่ Art Mode ภาพวาดหรือภาพถ่ายที่แสดงบนจอจึงดูมีมิติและสมจริงมาก ๆ เหมือนกับคุณมีกรอบรูปจริง ๆ แขวนอยู่บนผนัง คุณสามารถเลือกซื้อผลงานศิลปะจาก Art Store ของ Samsung ที่มีให้เลือกนับพันชิ้น หรือจะอัปโหลดรูปครอบครัว รูปจากทริปท่องเที่ยว มาแสดงเป็นสไลด์โชว์ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ Customizable Frame หรือกรอบทีวียังสามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย ๆ ด้วยแม่เหล็ก ทำให้คุณเลือกสีและสไตล์ของกรอบให้เข้ากับการตกแต่งห้องของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นสีไม้โอ๊ค สีขาว หรือสีอื่น ๆ ก็มีให้เลือกสรร การติดตั้งแบบ Slim Fit Wall Mount ก็ช่วยให้ทีวีแนบชิดไปกับผนังเหมือนกรอบรูปจริง ๆ และการจัดการสายด้วย One Connect Box ก็ทำให้ทุกอย่างดูสะอาดตาและเรียบร้อย
ในแง่ของการเป็นทีวี The Frame ก็ยังทำหน้าที่ของมันได้ดีครับ มันใช้จอภาพแบบ QLED ที่ให้สีสันสดใสด้วยระดับสี 100% (100% Color Volume) และขับเคลื่อนด้วย Quantum Processor 4K ทำให้การดูหนังหรือซีรีส์ยังคงให้ภาพที่สวยงามและคมชัด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Refresh Rate 120Hz ทำให้การแสดงผลภาพเคลื่อนไหวลื่นไหล เหมาะกับการดูกีฬาหรือเล่นเกมได้เช่นกัน แม้ว่าคุณภาพของภาพโดยรวมอาจจะไม่ถึงระดับเดียวกับซีรีส์เรือธงอย่าง Neo QLED หรือ OLED แต่สิ่งที่ The Frame มอบให้คือคุณค่าทางด้านสุนทรียศาสตร์ที่ทีวีรุ่นอื่นให้ไม่ได้ ดังนั้นถ้าคำถามของคุณคือ Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่จะมาเติมเต็มความสวยงามให้กับบ้านของคุณ และเป็นศูนย์กลางความบันเทิงได้ในเวลาเดียวกัน The Frame คือตัวเลือกที่มีเอกลักษณ์และน่าหลงใหลที่สุดครับ
คะแนนที่ได้
8.2/10
รีวิวสั้น ๆ
“เปลี่ยนบ้านให้เป็นแกลเลอรีเลยครับ ชอบ Art Mode มาก ๆ แขกมาบ้านทีไรก็ทักทุกคนว่านี่ทีวีเหรอ สวยเนียนไปกับผนังเลยครับ” – ท็อป, อายุ 39
“ตอนแรกแค่อยากได้ทีวีที่ไม่ดูเป็นทีวี แต่พอได้ใช้จริง ๆ ภาพก็สวยกว่าที่คิดค่ะ ดูหนังก็ดี เปลี่ยนรูปใน Art Mode ก็สนุก ชอบมากค่ะ” – ปริม, อายุ 33
10. Samsung TU7000 Crystal UHD 4K Smart TV ★★★☆☆
“จุดเริ่มต้นของความคมชัดระดับ 4K ที่คุ้มค่าที่สุด ฟีเจอร์สมาร์ททีวีครบครันในราคาสบายกระเป๋า”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ปิดท้ายกันด้วยรุ่นที่คุ้มค่าและเป็นมิตรกับงบประมาณมากที่สุดกับ Samsung TU7000 Crystal UHD 4K Smart TV ครับ สำหรับใครที่อยากจะอัปเกรดจากทีวี Full HD เครื่องเก่ามาสัมผัสความคมชัดระดับ 4K เป็นครั้งแรก หรือกำลังมองหาว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี สำหรับเป็นทีวีเครื่องที่สองในห้องนอนหรือห้องทำงาน TU7000 คือคำตอบที่ลงตัวมากครับ แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ก็มาพร้อมกับชิป Crystal Processor 4K ที่ช่วยอัปสเกลภาพให้มีความคมชัดและสีสันที่สวยงามด้วยเทคโนโลยี PurColor นอกจากนี้ยังเป็นสมาร์ททีวีเต็มรูปแบบที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen ทำให้คุณสามารถเข้าถึงแอปสตรีมมิ่งยอดนิยมอย่าง Netflix, YouTube, Disney+ Hotstar ได้อย่างง่ายดาย
สเปกเด่น
- ประเภทจอ: Crystal UHD (LED)
- ชิปประมวลผล: Crystal Processor 4K
- เทคโนโลยีภาพ: PurColor, HDR, Motion Xcelerator
- ระบบปฏิบัติการ: Tizen OS
- ดีไซน์: 3-Side Bezel-less Design
- ฟีเจอร์เสริม: Game Mode, Tap View
รีวิวแบบเจาะลึก
TU7000 อาจจะไม่ได้มีเทคโนโลยีภาพที่หวือหวาเหมือนรุ่นพี่ ๆ แต่สิ่งที่มันมอบให้คือคุณภาพของภาพ 4K ที่ดีเกินราคาครับ ชิป Crystal Processor 4K ทำหน้าที่ของมันได้ดีในการประมวลผลและอัปสเกลภาพ ในขณะที่เทคโนโลยี PurColor ก็ช่วยปรับแต่งสีสันให้ดูเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวามากขึ้น การรองรับ HDR ก็ช่วยให้การดูหนังและซีรีส์มีมิติความสว่างและความมืดที่ดีขึ้นกว่าทีวีที่ไม่มี HDR แม้ว่า Refresh Rate ของจอจะอยู่ที่ 60Hz ซึ่งอาจจะไม่ลื่นไหลเท่าจอ 120Hz แต่สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่เน้นการดูคอนเทนต์ทั่วไปเป็นหลัก ก็ถือว่าเพียงพอและให้ภาพเคลื่อนไหวที่ดูดีด้วยเทคโนโลยี Motion Xcelerator ครับ การมี ทีวี 32 นิ้ว หรือ ทีวี 40 นิ้ว รุ่นนี้ไว้ในห้องนอนก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ
ในฐานะที่เป็นสมาร์ททีวี TU7000 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Tizen ที่ใช้งานง่ายและตอบสนองได้รวดเร็ว คุณสามารถเข้าถึงแอปโปรดของคุณได้อย่างง่ายดายผ่านรีโมทคอนโทรล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Tap View ที่ให้คุณนำสมาร์ทโฟน Samsung มาแตะที่ขอบทีวีเพื่อสะท้อนหน้าจอขึ้นไปบนจอใหญ่ได้ทันที สะดวกมาก ๆ สำหรับการเปิดดูรูปหรือวิดีโอร่วมกับคนในครอบครัว สำหรับเกมเมอร์ แม้จอจะเป็น 60Hz แต่ก็ยังมี Game Mode ที่ช่วยลด Input Lag ให้อัตโนมัติเมื่อตรวจพบสัญญาณจากเครื่องเกม ทำให้การเล่นเกมยังคงตอบสนองได้ดีและไม่รู้สึกหน่วง ดังนั้นหากคุณมีงบประมาณจำกัดและกำลังมองหาว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด เป็นประตูบานแรกสู่โลกแห่ง 4K และยังคงได้ฟีเจอร์สมาร์ททีวีที่ครบครัน TU7000 คือตัวเลือกที่น่าสนใจและจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอนครับ
คะแนนที่ได้
7.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“คุ้มมากครับกับราคานี้ ภาพ 4K ชัดดีเลย สีก็สวยใช้ได้เลยครับ เอาไว้ในห้องนอนดู Netflix คือจบเลย” – บอล, อายุ 29
“เป็นสมาร์ททีวีที่ใช้ง่ายดีค่ะ รีโมทก็กดง่าย เข้ายูทูปเร็วดีค่ะ ดีไซน์ขอบบางก็สวยดีค่ะ” – ฝน, อายุ 35
มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านภาพและเสียง
เมื่อพูดถึงการเลือก Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ในปี 2025 ผู้เชี่ยวชาญจากเว็บไซต์รีวิวชื่อดังอย่าง Rtings.com และ TechRadar ต่างเห็นตรงกันว่า Samsung ได้สร้างความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างเทคโนโลยีจอภาพสองขั้วหลักของตนเอง นั่นคือ QD-OLED และ Neo QLED (Mini LED)
“การแข่งขันไม่ได้อยู่ที่ว่าเทคโนโลยีไหน ‘ดีกว่า’ อย่างสมบูรณ์แบบอีกต่อไป แต่อยู่ที่ว่าเทคโนโลยีไหน ‘เหมาะสม’ กับสภาพแวดล้อมและไลฟ์สไตล์การรับชมของผู้ใช้มากกว่ากัน QD-OLED มอบคอนทราสต์ที่ไร้ที่ติและสีดำที่สมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับคอหนังที่ต้องการคุณภาพสูงสุดในห้องที่ควบคุมแสงได้ ในขณะที่ Neo QLED มอบความสว่างที่เหนือกว่าและไม่มีความเสี่ยงเรื่องจอเบิร์นอิน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับห้องนั่งเล่นที่สว่างและใช้งานหลากหลายตลอดทั้งวัน”
AI คือหัวใจสำคัญของการแข่งขัน
อีกหนึ่งประเด็นที่ผู้เชี่ยวชาญให้ความสำคัญคือบทบาทของชิปประมวลผล AI เช่น NQ4 AI Gen2 Processor ที่กลายเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับคุณภาพของภาพ
“ในยุคที่คอนเทนต์มีความหลากหลายทั้งความละเอียดและคุณภาพการบีบอัด ความสามารถในการอัปสเกล (Upscaling) และการประมวลผลภาพแบบเรียลไทม์ของชิป AI คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง ทีวีที่ฉลาดจะสามารถทำให้คอนเทนต์ 1080p ดูใกล้เคียงกับ 4K ได้อย่างน่าทึ่ง และนี่คือสนามรบที่แท้จริงของผู้ผลิตทีวีในปีนี้”
ดังนั้น การพิจารณาว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี จึงต้องมองลึกลงไปถึงประสิทธิภาพของชิปประมวลผลด้วย ไม่ใช่แค่ดูประเภทของจอภาพเพียงอย่างเดียว
บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS
“จากการวิเคราะห์ของเรา เรามองว่า Samsung กำลังเดินเกมได้อย่างชาญฉลาดในการนำเสนอตัวเลือกที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค การมีทั้งซีรีส์ OLED และ Neo QLED ในระดับราคาต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับงบประมาณและสภาพแวดล้อมการรับชมของตนเองได้โดยไม่ต้อง компромиссกับคุณภาพมากเกินไป คำถามว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี จึงมีคำตอบที่หลากหลายและเป็นส่วนตัวมากขึ้น เราแนะนำให้ผู้ซื้อพิจารณาจาก ‘ห้อง’ ที่จะนำทีวีไปติดตั้งเป็นอันดับแรก หากเป็นห้องมืดสำหรับดูหนังโดยเฉพาะ OLED คือคำตอบ แต่หากเป็นห้องนั่งเล่นของครอบครัวที่ใช้งานหลากหลาย Neo QLED อาจเป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นและสบายใจกว่าในระยะยาว”
เคล็ดลับการเลือกซื้อ Samsung Smart TV ให้โดนใจที่สุด
การจะตัดสินใจว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี อาจจะดูซับซ้อน แต่ถ้าเรามีเช็กลิสต์ในใจก็จะง่ายขึ้นเยอะเลยครับ ลองใช้เคล็ดลับเหล่านี้ดูนะครับ
- เลือกเทคโนโลยีจอให้เหมาะกับห้อง: นี่คือข้อที่สำคัญที่สุดครับ
- ห้องมืด / คอหนังตัวจริง: เลือก OLED (S95/S90 Series) ไปเลยครับ คุณจะได้คอนทราสต์ที่ไร้เทียมทาน สีดำที่ดำสนิท ทำให้การดูหนังได้อรรถรสสูงสุด
- ห้องสว่าง / ใช้งานหลากหลาย: เลือก Neo QLED (QN90/QN85 Series) จะดีกว่าครับ ด้วยความสว่างที่สูงกว่า ทำให้สู้แสงรบกวนภายนอกได้ดี ภาพไม่ดรอป และไม่ต้องกังวลเรื่องจอเบิร์นอินเมื่อเปิดนาน ๆ
- ขนาดจอสัมพันธ์กับระยะนั่งดู: อย่าคิดว่าจอใหญ่คือดีเสมอไปครับ ควรเลือกขนาดให้เหมาะสมกับระยะห่างจากโซฟาถึงทีวี เพื่อให้ได้ภาพที่เต็มตาและสบายตาที่สุด
- ระยะ 1.5 – 2.5 เมตร: เหมาะกับ ทีวี 50 นิ้ว ถึง 55 นิ้ว
- ระยะ 2 – 3 เมตร: เหมาะกับทีวี 65 นิ้ว
- ระยะ 2.5 เมตรขึ้นไป: มองหา ทีวี 70 นิ้ว หรือใหญ่กว่านั้นได้เลยครับ
- เกมเมอร์ต้องดูที่ Refresh Rate และ HDMI 2.1: ถ้าคุณเป็นสายเกมมิ่ง สองสิ่งนี้คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ มองหารุ่นที่มี Refresh Rate 120Hz หรือ 144Hz และมีพอร์ต HDMI 2.1 อย่างน้อย 1 พอร์ต (แต่ถ้ามี 4 พอร์ตแบบรุ่นท็อปจะดีมาก) เพื่อให้รองรับการเล่นเกมที่ 4K 120Hz จากเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่ได้อย่างเต็มที่
- อย่ามองข้ามระบบเสียง: ทีวี Samsung รุ่นสูง ๆ จะมาพร้อมระบบเสียง Object Tracking Sound (OTS) ที่ให้เสียงเคลื่อนที่ตามวัตถุบนจอ ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสได้อย่างมาก ถ้าเป็นไปได้ เลือกรุ่นที่เป็น OTS+ หรืออย่างน้อยก็ OTS Lite จะดีกว่าลำโพงทีวีธรรมดาเยอะครับ
- Smart Feature และ Tizen OS: ข้อดีของ Samsung คือระบบปฏิบัติการ Tizen ที่เร็วและใช้งานง่าย แต่ก็ลองเช็กดูว่ารีโมทที่ให้มาเป็นแบบไหน เป็น SolarCell Remote ที่ชาร์จด้วยแสงได้หรือไม่ และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง Tap View หรือ Multi View ที่คุณอาจจะได้ใช้ประโยชน์หรือไม่
- ดีไซน์และการจัดการสาย: ถ้าคุณวางแผนจะแขวนทีวีบนผนัง การเลือกรุ่นที่มีดีไซน์บางเฉียบอย่าง Infinity One หรือ AirSlim และมี One Connect Box จะช่วยให้การติดตั้งดูสวยงามและสะอาดตามาก ๆ เพราะมีสายต่อเข้าทีวีแค่เส้นเดียว
เจาะลึก Tizen OS: ทำไมถึงเป็นหัวใจของ Samsung Smart TV
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเวลาพูดถึง Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ถึงต้องพูดถึงระบบปฏิบัติการ Tizen OS ด้วย นั่นก็เพราะว่ามันคือสมองและหัวใจที่ทำให้ทีวีของ Samsung เป็นมากกว่าแค่จอภาพครับ Tizen OS คือระบบปฏิบัติการที่ Samsung พัฒนาขึ้นมาเอง มีจุดเด่นที่ความเร็ว, ความเสถียร, และหน้าตาที่ใช้งานง่าย (User Interface) ทำให้การเข้าถึงแอปพลิเคชันต่าง ๆ หรือการตั้งค่าทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่หน่วงเหมือนสมาร์ททีวีบางยี่ห้อ
หน้า Home Screen ของ Tizen จะแสดงแอปและคอนเทนต์ที่แนะนำเรียงกันเป็นแถบด้านล่าง ทำให้คุณสามารถเลือกดู Netflix, YouTube, Prime Video หรือแอปอื่น ๆ ได้ทันทีโดยไม่บดบังเนื้อหาที่กำลังรับชมอยู่ นอกจากนี้ยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Bixby, Alexa, หรือ Google Assistant (ขึ้นอยู่กับรุ่นและภูมิภาค) ทำให้การค้นหาหนังหรือซีรีส์ทำได้ง่ายขึ้นไปอีก และอีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ดคือ Samsung TV Plus ที่ให้บริการช่องทีวีสตรีมมิ่งฟรีกว่าร้อยช่อง ทำให้คุณมีคอนเทนต์ให้ดูมากมายโดยไม่ต้องสมัครบริการเพิ่มเติมเลยครับ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมประสบการณ์การใช้งาน Tizen OS ถึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือก Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ครับ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- ถาม: ระหว่าง OLED กับ Neo QLED ของ Samsung Smart TV รุ่นไหนดีกว่ากัน?
ตอบ: ไม่มีรุ่นไหนดีกว่าอย่างสมบูรณ์แบบครับ ขึ้นอยู่กับห้องและลักษณะการใช้งาน ถ้าคุณเป็นคอหนังและดูในห้องมืดเป็นหลัก OLED จะให้ภาพที่ดีที่สุดด้วยสีดำสนิทและคอนทราสต์ที่ไร้ที่ติ แต่ถ้าคุณดูทีวีในห้องนั่งเล่นที่สว่าง มีแสงแดดส่องถึง หรือเปิดทีวีทิ้งไว้นาน ๆ Neo QLED จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเพราะมีความสว่างสูงกว่าและไม่มีความเสี่ยงเรื่องจอเบิร์นอินครับ - ถาม: จำเป็นต้องซื้อ Samsung Smart TV ที่มี Refresh Rate 120Hz หรือไม่?
ตอบ: ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ที่เล่นเกมบนเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่ (PS5, Xbox Series X) หรือ PC สเปกสูง การเลือกรุ่นที่มี 120Hz เป็นเรื่องที่คุ้มค่ามาก เพราะจะทำให้ภาพในเกมลื่นไหลกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้าคุณเน้นดูหนัง ดูซีรีส์ หรือรายการทีวีทั่วไปเป็นหลัก จอ 60Hz ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ - ถาม: One Connect Box คืออะไร และจำเป็นไหม?
ตอบ: One Connect Box คือกล่องที่รวบรวมพอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมด (HDMI, USB, ฯลฯ) ไว้ที่เดียว แล้วต่อเข้ากับทีวีด้วยสายไฟเบอร์ออปติกบาง ๆ เพียงเส้นเดียว ข้อดีคือทำให้การจัดการสายดูสะอาดและเรียบร้อยมาก โดยเฉพาะเมื่อแขวนทีวีบนผนัง จำเป็นไหมขึ้นอยู่กับความต้องการด้านความสวยงามของคุณครับ ถ้าคุณซีเรียสเรื่องการจัดสายให้สวยงาม มันก็คุ้มค่ามาก แต่ถ้าไม่ รุ่นที่ไม่มี One Connect Box ก็ใช้งานได้ดีเหมือนกันครับ - ถาม: Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่เหมาะกับการดู Netflix และแอปสตรีมมิ่งที่สุด?
ตอบ: ทีวี Samsung ทุกรุ่นที่เราแนะนำมาสามารถดูแอปสตรีมมิ่งได้ดีทั้งหมดครับ แต่ถ้าต้องการประสบการณ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกรุ่นที่รองรับ Dolby Atmos (เช่น S95F, QN90D) และมีคุณภาพของภาพสูงอย่างซีรีส์ OLED หรือ Neo QLED เพื่อให้ได้ทั้งภาพและเสียงที่เต็มอรรถรสตามที่ผู้สร้างต้องการนำเสนอครับ
บทสรุป: เฟ้นหารุ่นที่ใช่ ตอบโจทย์ Samsung Smart TV รุ่นไหนดี สำหรับคุณ
มาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ น่าจะได้คำตอบในใจกันบ้างแล้วนะครับว่า Samsung Smart TV รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านของคุณในปี 2025 นี้ จะเห็นได้ว่า Samsung มีตัวเลือกที่หลากหลายและครอบคลุมทุกความต้องการจริง ๆ ตั้งแต่ราชาแห่งภาพและเสียงอย่าง Samsung OLED S95F ที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ยอม компромиссเรื่องคุณภาพ, ขุนพลสายสว่างอย่าง Samsung Neo QLED QN90D ที่พร้อมสู้ทุกสภาพแสง, ตัวคุ้มค่าสำหรับเกมเมอร์อย่าง Samsung Q70D, ไปจนถึงทีวีที่เป็นงานศิลปะอย่าง The Frame และรุ่นเริ่มต้นที่คุ้มค่าอย่าง TU7000
หัวใจสำคัญที่สุดคือการถามตัวเองว่า “เราจะใช้ทีวีทำอะไรเป็นหลัก” และ “เราจะวางมันไว้ที่ไหน” ถ้าได้คำตอบสองข้อนี้ การเลือกรุ่นที่ใช่ก็จะง่ายขึ้นมากครับ อย่าลืมพิจารณาเรื่องขนาดจอ, ระบบเสียง, และฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ ประกอบกันไปด้วยนะครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นเหมือนเพื่อนที่ช่วยแนะนำและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ในการตัดสินใจเลือกซื้อ Samsung Smart TV รุ่นไหนดี นะครับ ขอให้มีความสุขกับทีวีเครื่องใหม่และประสบการณ์ความบันเทิงที่ยอดเยี่ยมครับ!
หมายเหตุจากผู้เขียน: Samsung Smart TV รุ่นไหนดี
- รายละเอียดคุณสมบัติ, ราคา, และโปรโมชั่นของทีวีแต่ละรุ่นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจาก เว็บไซต์ทางการของ Samsung ประเทศไทย หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ
- คะแนน Samsung Smart TV รุ่นไหนดี (เช่น 9.8/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากข้อมูลทางเทคนิค, ฟีเจอร์, การออกแบบ, ราคา, และรีวิวจากผู้ใช้งานจริงทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้ได้มุมมองที่ครอบคลุมที่สุด
- รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “นนท์, อายุ 34”) เป็นความคิดเห็นสมมุติที่รวบรวมมาจากแนวโน้มของรีวิวโดยรวม เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานจริงได้ง่ายขึ้น
- บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูล ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 สำหรับไลน์อัปทีวีปี 2025 คุณสมบัติบางอย่างอาจมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ในอนาคต
- การเลือก Smart Watch Samsung หรือ มือถือ Samsung มาใช้งานร่วมกับทีวี จะช่วยให้ระบบนิเวศ (Ecosystem) ของ Samsung ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น เช่น การใช้ฟีเจอร์ Tap View หรือ SmartThings ครับ