ถ้าให้พูดถึงสุดยอดคอนโซลเกมในยุคนี้ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงตระกูล PlayStation ซึ่งเป็นที่นิยมของเกมเมอร์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกที่สวยงาม ฟีเจอร์ออนไลน์ที่ล้ำสมัย รวมไปถึงคลังเกมเอ็กซ์คลูซีฟมากมาย สำหรับใครที่กำลังอยากก้าวเข้าสู่โลก Next-Gen Gaming บน PlayStation ในปี 2025 แล้วล่ะก็ เชื่อว่าคำถาม “PS5 รุ่นไหนดี” น่าจะโผล่มาเป็นอันดับแรก ๆ ในใจของหลาย ๆ คนอย่างแน่นอนครับ
เพราะในตอนนี้มีรุ่นย่อยออกมาหลายรุ่น ทั้งรุ่น Pro, รุ่น Digital, รุ่น Slim หรือแม้กระทั่งรุ่นลิมิเต็ดต่าง ๆ ทำให้หลายคนอาจลังเลว่าควรเลือกซื้อ PS5 รุ่นไหนดี หรือจะขยับไปดู “PlayStation 5 รุ่นไหนดี” ที่เปิดตัวใหม่ ๆ ก็ไม่แน่ใจว่าจะต่างจากเดิมมากไหม วันนี้เราจึงขออาสารวบรวมข้อมูล 6 อันดับ PS5 รุ่นเด็ดของปี 2025 มารีวิวและจัดอันดับแบบเน้น ๆ ให้ทุกท่านได้อ่านกัน ถ้าอยากได้เครื่องเกมที่ตอบโจทย์ทั้งด้านกราฟิก ฟีเจอร์สุดล้ำ หรือความคุ้มค่าในระยะยาว ก็ต้องไม่พลาดบทความนี้เลยครับ!
เราจะพาไปดูจุดเด่น ฟีเจอร์พิเศษ สเปกทางเทคนิค ตลอดจนประสบการณ์การใช้งานจากมุมมองเกมเมอร์จริง ๆ เพื่อให้คุณได้คำตอบชัด ๆ ว่า PS5 รุ่นไหนดีสำหรับคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเกมแนวแอ็กชัน สายอินดี้ สายแคชชวล หรือต้องการคอนโซลเป็นความบันเทิงในบ้านแบบครบวงจร อ่านแล้วจะช่วยให้การตัดสินใจซื้อเป็นเรื่องง่ายขึ้นทันทีครับ
นอกจากนี้ เรายังแอบใส่เคล็ดลับเกี่ยวกับการเลือกซื้อเสริมให้อีกด้วย รวมถึงมีบทสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญมาเสริมความมั่นใจ และตอบคำถามที่หลายคนสงสัยกันบ่อย ๆ บอกเลยว่าจัดเต็มแน่นอน!
เอาล่ะ! ได้เวลาออกเดินทางสู่โลก PlayStation Next-Gen ของปี 2025 กันแล้วครับ มาดูกันเลยว่า “PS5 รุ่นไหนดี” หรือ “PlayStation 5 รุ่นไหนดี” ที่เหมาะกับคุณที่สุดในตอนนี้!
6 อันดับ PS5 รุ่นไหนดี แห่งปี 2025
ในปี 2025 นี้ ทาง Sony ได้ออกรุ่นย่อยของ PlayStation 5 เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป แต่รุ่นไหนจะตอบโจทย์สไตล์การเล่นของคุณมากที่สุด? ใครที่กำลังสับสนว่าจะซื้อ PS5 รุ่นไหนดี หรือกำลังเปรียบเทียบว่า PlayStation 5 รุ่นไหนดีระหว่าง Digital, Standard, Slim, Pro หรือลิมิเต็ดเอดิชัน ต้องลองมาดูตารางเปรียบเทียบแบบคร่าว ๆ กันก่อนครับ
| อันดับที่ | 🏅 | 🥈 | 🥉 | 4 | 5 | 6 |
|---|---|---|---|---|---|---|
| รูปภาพสินค้า |  |
 |
 |
 |
 |
 |
| ชื่อสินค้า (กดเพื่อเลื่อนไปดูรายละเอียด) | PS5 Pro – 30th Anniversary Limited Edition | PlayStation 5 Pro (Digital Edition) | PlayStation 5 Standard Slim | PlayStation 5 Digital Slim | PlayStation 5 Digital Edition | PlayStation 5 Standard Edition |
| สเปกเด่น | CPU 8-Core 4.0GHz, Ray Tracing 2.0 | CPU 8-Core 3.8GHz, Ray Tracing 2.0 | CPU 8-Core 3.6GHz, Ray Tracing 1.5 | CPU 8-Core 3.6GHz, Ray Tracing 1.5 | CPU 8-Core 3.5GHz, Ray Tracing 1.0 | CPU 8-Core 3.5GHz, Ray Tracing 1.0 |
| คะแนน | ★★★★★ | ★★★★★ | ★★★★☆ | ★★★★☆ | ★★★☆☆ | ★★★☆☆ |
| เหมาะกับใคร | แฟนตัวยง, สะสมรุ่นลิมิเต็ด | เน้นเกมใหม่ล่าสุด, ชอบดิจิทัลดาวน์โหลด | ต้องการไซส์เล็ก ประหยัดพื้นที่ | ห้องเล็ก, ชอบดีไซน์บางเบา | ชอบความสะดวก ไม่ต้องใช้แผ่น | ต้องการเครื่องพร้อมไดรฟ์อ่านแผ่น |
| พื้นที่จัดเก็บ | 2TB SSD | 1TB SSD | 825GB SSD | 825GB SSD | 825GB SSD | 825GB SSD |
| เช็กราคาล่าสุด |
1. PS5 Pro – 30th Anniversary Limited Edition ★★★★★
“รุ่นฉลอง 30 ปี ดีไซน์สวยล้ำ มาพร้อมประสิทธิภาพขั้นสุด เพื่อชาวเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์ตัวจริง”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ใครเป็นแฟน PlayStation มายาวนานต้องไม่พลาด PS5 Pro – 30th Anniversary Limited Edition เพราะนี่คือเครื่องคอนโซลที่ออกแบบมาเพื่อตอบคำถามที่ว่า “PS5 รุ่นไหนดี” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการผสมผสานดีไซน์สุดหรู แนวสี Metallic Dark Blue พร้อมโลโก้ฉลองครบรอบ 30 ปีที่ด้านข้างเครื่อง ทำให้สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของตระกูล PlayStation ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังบูสต์สเปกขึ้นจาก PS5 รุ่นปกติอีกขั้น ทั้งเรื่องความเร็ว CPU, GPU และมีระบบระบายความร้อนรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งเงียบกว่าเดิม
ด้วยสถาปัตยกรรม “Zen 4” แบบ 8-Core ความเร็วสูงถึง 4.0GHz และกราฟิก RDNA 3.5 ที่มาพร้อม Ray Tracing 2.0 สามารถให้ภาพสมจริงดั่งเล่นใน PC ระดับไฮเอนด์เลยทีเดียว ใครที่เคยเป็นสาย PC Master Race แต่ยังอยากได้ความสะดวกของคอนโซล และชื่นชอบเกม Exclusive ของ PlayStation รุ่นนี้บอกเลยว่าตอบโจทย์สุด ๆ แถมยังมี SSD ความจุ 2TB ลงเกมได้เพียบอีกด้วย!
ตัว Anniversary Limited Edition ยังมีคอนโทรลเลอร์ DualSense ลายพิเศษสีเดียวกับตัวเครื่อง ทำเอาสาวกสะสมกันแทบไม่ทัน แน่นอนว่ารองรับ DualSense Haptic Feedback และ Adaptive Trigger เต็มรูปแบบ เพิ่มระดับความสมจริงในการเล่นเกม ทั้งนี้ จุดเด่นอีกข้อคือระบบระบายความร้อนใหม่ ที่ใช้ Vapor Chamber ขนาดใหญ่ บวกกับพัดลมเงียบเป็นพิเศษ ทำให้ตอนเครื่อง Full Load ยังแทบไม่ได้ยินเสียงพัดลม นอกจากนี้ยังมีพอร์ต HDMI 2.1 เต็มรูปแบบ รองรับ 4K/120fps หรือแม้กระทั่ง 8K/60fps สำหรับบางเกมในอนาคตอีกด้วย
สเปกเด่น
- CPU: Zen 4 8-Core @4.0GHz
- GPU: RDNA 3.5 Ray Tracing 2.0
- SSD: 2TB ความเร็วสูงพิเศษ
- รองรับ: 4K/120fps และ 8K/60fps
- ฟีเจอร์พิเศษ: ดีไซน์ลิมิเต็ดฉลอง 30 ปี, Vapor Chamber Cooling
คะแนนที่ได้
9.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“เป็นแฟน PlayStation ตั้งแต่ PS1 เจอรุ่นนี้ต้องจัด ทรงพลัง เงียบ และสวยมาก” – โอม, อายุ 30
“Ray Tracing ทำงานดีเวอร์ เทียบชั้น PC ระดับท็อปได้เลย คุ้มค่าสุด” – ฟาง, อายุ 25
2. PlayStation 5 Pro (Digital Edition) ★★★★★
“ขุมพลัง Pro เน้นการดาวน์โหลดเกม ไม่ต้องใช้ไดรฟ์แผ่น ประหยัดพื้นที่ เล่นเกมได้ลื่นไหล”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
หลายคนอาจสงสัยว่าถ้าจะเล่น PS5 รุ่น Pro แต่ไม่ต้องการใช้แผ่น ต้องการเป็น Digital ล้วน ๆ แล้วรุ่นไหนจะตอบโจทย์ “PlayStation 5 รุ่นไหนดี” ได้บ้าง คำตอบก็คือ PlayStation 5 Pro (Digital Edition) นี่แหละครับ เน้นการดาวน์โหลดเกมทั้งหมดจาก PlayStation Store ไม่ต้องเปลืองเนื้อที่สำหรับช่องใส่แผ่น ประหยัดพื้นที่บริเวณตัวเครื่อง และมาพร้อมสเปกใกล้เคียงกับรุ่นลิมิเต็ดอันดับ 1 แต่เป็นดีไซน์มาตรฐานโทนสีขาวดำสุดคลาสสิก
ในแง่สเปก รุ่นนี้ใช้ CPU Zen 4 8-Core 3.8GHz กับ GPU RDNA 3.5 ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่นลิมิเต็ด ต่างกันเล็กน้อยที่ความเร็วเบสท์คล็อกต่ำกว่าเล็กน้อย รวมถึงความจุ SSD ให้มา 1TB เพียงพอสำหรับคอเกมส่วนใหญ่ (แต่หากเป็นสายเกมหนักอาจต้องซื้อ External SSD เสริม) จุดเด่นคือสามารถแสดงผลระดับ 4K/120fps และรองรับ Ray Tracing 2.0 ได้เหมือนกัน เหมาะกับคนชอบกราฟิกสวยเนียนกริบ หรือเล่นเกม eSports ที่ต้องการ FPS สูง ๆ ได้เต็มที่แบบสบาย ๆ
เรื่องระบบระบายความร้อนก็ได้รับการอัปเกรดเช่นกันแม้จะไม่อลังการเท่ารุ่น Anniversary Limited Edition แต่นับว่าเงียบกว่ารุ่นแรก ๆ อย่างเห็นได้ชัด คอนโทรลเลอร์ DualSense ยังมีระบบ Adaptive Trigger และ Haptic Feedback พร้อม ลูกเล่นฟีลปืนสั่น ดริฟต์รถสะท้านมือ ใครอยากได้ความคุ้มค่าแต่อยากสัมผัสความเป็น “Pro” ของสเปกใหม่ บอกเลยว่ารุ่นนี้ไม่ทำให้ผิดหวังครับ
สเปกเด่น
- CPU: Zen 4 8-Core @3.8GHz
- GPU: RDNA 3.5 Ray Tracing 2.0
- SSD: 1TB (Digital Only)
- รองรับ: 4K/120fps, Ray Tracing 2.0
- ฟีเจอร์พิเศษ: ระบบระบายความร้อนใหม่, ประหยัดพื้นที่เพราะไม่มีช่องแผ่น
คะแนนที่ได้
9.0/10
รีวิวสั้น ๆ
“ชอบโหลดเกม ไม่เคยใช้แผ่นอยู่แล้ว จัดรุ่นนี้เลย ประหยัดตังค์ได้หน่อยนึง” – น้ำ, อายุ 27
“ภาพสวยมาก เล่นเกม AAA โหด ๆ ได้ลื่นหัวแตก” – อาร์ต, อายุ 29
3. PlayStation 5 Standard Slim ★★★★☆
“ไซส์เล็กลง พกพาง่าย ประสิทธิภาพมาตรฐาน แต่ยังได้ Ray Tracing และไดรฟ์อ่านแผ่นครบ”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
เมื่อเอ่ยถึง PS5 รุ่นไหนดีที่มีขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการวางในห้องคอนโดหรือห้องนอนที่พื้นที่จำกัด “PlayStation 5 Standard Slim” คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ด้วยการปรับโฉมดีไซน์ใหม่ ให้ตัวเครื่องบางเบากว่า PS5 รุ่นแรก ๆ แต่ยังคงมีไดรฟ์สำหรับอ่านแผ่นเกมและแผ่นหนัง Blu-ray เหมือนเดิม ตอบโจทย์คนที่สะสมแผ่นแท้หรืออยากเล่นแผ่นมือสองจากตลาดได้เช่นกัน
สเปกภายในยังใช้ CPU Zen 4 (8-Core) ความเร็วราว 3.6GHz พร้อม GPU RDNA 2.x ที่รองรับ Ray Tracing 1.5 (เทียบเท่ารุ่น Standard รุ่นก่อนที่อัปเกรดได้นิดหน่อย) ความละเอียดสูงสุด 4K/60fps หรือ 2K/120fps ในบางเกม ทำให้ยังได้ภาพสวยเนียนตา แม้จะไม่โหดเท่า PS5 Pro ก็ตามครับ ส่วน SSD ภายในให้มา 825GB ตามมาตรฐาน PS5 รุ่นดั้งเดิม มีระบบระบายความร้อนที่ปรับดีไซน์ให้ระบายอากาศได้ดีขึ้น
ข้อดีคือหน้าตาตัวเครื่อง Slim ดีไซน์โค้งมนน้อยลงกว่าเดิม น้ำหนักเบาลง ติดตั้งได้ง่าย ไม่เกะกะ นอกจากนี้ยังใช้ DualSense เหมือนกัน มี Adaptive Trigger และ Haptic Feedback สร้างประสบการณ์ที่สมจริงขณะเล่นเกม ใครที่มองหาการจับต้อง PS5 ในแบบพกพาง่าย เคลื่อนย้ายสะดวกขึ้น แต่ยังต้องการเล่นแผ่นจ้า รุ่น Standard Slim ตอบโจทย์เลยครับ
สเปกเด่น
- CPU: Zen 4 8-Core @3.6GHz
- GPU: RDNA 2.x Ray Tracing 1.5
- SSD: 825GB
- รองรับ: 4K/60fps, 2K/120fps
- ฟีเจอร์พิเศษ: ดีไซน์บางเบา, มีไดรฟ์อ่านแผ่น
คะแนนที่ได้
8.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“ห้องเล็กแต่ชอบเก็บแผ่นเกม สะดวกดีครับ เครื่องเบาด้วย” – เก่ง, อายุ 26
“ภาพสวยเล่นได้ลื่น เพียงพอแล้วสำหรับคนไม่เน้นสุดโหด” – เอื้อย, อายุ 28
4. PlayStation 5 Digital Slim ★★★★☆
“เวอร์ชันบางเบาสุด เน้นดาวน์โหลดล้วน ๆ เหมาะกับสายเกมสตรีม ไม่ต้องพกแผ่น”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบแผ่นเกมเลย อยู่ในยุคดิจิทัลเต็มตัว แล้วต้องการ PS5 รุ่นไหนดีที่ขนาดกะทัดรัดที่สุด “PlayStation 5 Digital Slim” คือคำตอบครับ เพราะตัวนี้คือรุ่นปรับปรุงจาก Digital Edition เดิมโดยย่อส่วนให้บางและเบากว่าเดิมถึง 20% เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อาศัยในพื้นที่เล็ก หรือแม้แต่ใครชอบพกคอนโซลไปเล่นบ้านเพื่อนก็ถือว่าสะดวกพอตัวเลย
ในส่วนประสิทธิภาพ จะใกล้เคียงกับ Standard Slim คือใช้ CPU Zen 4 8-Core 3.6GHz, GPU RDNA 2.x Ray Tracing 1.5 และ SSD 825GB จุดต่างคือตัดไดรฟ์อ่านแผ่นออก และดีไซน์บางเบากว่าเล็กน้อย เหมาะกับสาย Digital ที่ชอบซื้อเกมผ่าน PlayStation Store หรือ PS Plus เป็นประจำ ไม่ต้องกังวลว่าจะหาแผ่นไม่ได้ แถมยังเลิกเกะกะกับการวางแผ่นเกมด้วยอีกต่างหาก
เรื่องการเล่นเกมก็รองรับ 4K/60fps และ 2K/120fps ในบางเกมเหมือนกัน มีระบบระบายความร้อนที่ปรับปรุงแล้วเช่นเดียวกัน คอนโทรลเลอร์ DualSense มีฟีเจอร์ Haptic Feedback และ Adaptive Trigger ครบชุด เรียกว่าประสิทธิภาพกับความฟินในการเล่นไม่ต่างจากรุ่น Standard Slim เลย เพียงแต่ตัดไดรฟ์แผ่นออกไปเพื่อความบางและน้ำหนักที่ลดลงอีกขั้นนั่นเองครับ
สเปกเด่น
- CPU: Zen 4 8-Core @3.6GHz
- GPU: RDNA 2.x Ray Tracing 1.5
- SSD: 825GB (Digital Only)
- รองรับ: 4K/60fps, 2K/120fps
- ฟีเจอร์พิเศษ: ดีไซน์บางเบาที่สุด, ไม่มีไดรฟ์แผ่น
คะแนนที่ได้
8.3/10
รีวิวสั้น ๆ
“พกสะดวกมาก ผมยกไปเล่นบ้านเพื่อนได้บ่อยเลย นน. เบากว่า PS5 รุ่นแรกเยอะ” – เต้, อายุ 24
“ซื้อดิจิทัลตลอด ไม่เคยยุ่งกับแผ่น เกมอินดี้ก็ดาวน์โหลดง่าย สบายเลย” – แพรว, อายุ 25
5. PlayStation 5 Digital Edition ★★★☆☆
“ต้นตระกูล Digital ของ PS5 สำหรับคนชอบโหลดเกม ราคาย่อมเยา เป็นตัวเลือกคุ้มค่าในยุคนี้”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
แม้จะออกมาตั้งแต่ช่วงต้นของ PS5 แต่ “PlayStation 5 Digital Edition” ก็ยังเป็นตัวเลือกที่หลายคนตั้งคำถามว่า “PS5 รุ่นไหนดี” เมื่อหันมาเน้นซื้อเกมผ่าน Store และไม่ต้องการช่องแผ่น เพราะราคาของเครื่อง Digital Edition มักจะถูกกว่า Standard Edition อยู่เล็กน้อย เหมาะสำหรับคนที่อยากได้เครื่องคอนโซล Next-Gen ในงบที่เบา ๆ (แต่ในตลาดมือสองอาจยิ่งถูกลงอีกหากหาได้สภาพดี)
จุดเด่นคือประสิทธิภาพไม่ต่างจาก Standard Edition รุ่นแรก ใช้ CPU Zen 2 8-Core @3.5GHz (บางกระแสอัปเฟิร์มแวร์ใหม่อาจเร่งได้อีกนิด) พร้อม GPU RDNA 2 Ray Tracing 1.0 หรือ 1.2 ประมาณนั้น พูดง่าย ๆ คือยังเล่นเกม PS5 Exclusive ต่าง ๆ ได้ไม่มีปัญหา รองรับ 4K/60fps อาจไม่แรงเทียบเท่า Pro แต่ก็เพียงพอสำหรับตลาดเกมในปัจจุบัน และเชื่อว่ารันเกมเรตกราฟิกสูง ๆ ได้อีกหลายปี
SSD ก็มีมาให้ 825GB ตามมาตรฐาน แต่ต้องวางแผนการติดตั้งเกมสักนิด เพราะเกมใหญ่ ๆ อย่าง Call of Duty หรือ Final Fantasy อาจกินพื้นที่เยอะ ถ้าเน้นโหลดเกมหลายเกมในเวลาเดียวกัน อาจต้องลงทุนซื้อ SSD เสริม หรือผลัดเปลี่ยนลบเกมที่ไม่ได้เล่นเพื่อเคลียร์พื้นที่บ้าง นอกจากนี้ DualSense ยังได้ฟีเจอร์ Adaptive Trigger, Haptic Feedback ครบ ใครอยากลอง Next-Gen ในราคาเริ่มต้น PlayStation 5 Digital Edition ยังตอบโจทย์ครับ
สเปกเด่น
- CPU: Zen 2 8-Core @3.5GHz
- GPU: RDNA 2 Ray Tracing 1.0-1.2
- SSD: 825GB (Digital Only)
- รองรับ: 4K/60fps (บางเกม 120fps ได้ใน 2K/1080p)
- ฟีเจอร์พิเศษ: ฟีเจอร์ Next-Gen ครบ, ราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับ Pro
คะแนนที่ได้
7.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“จับได้ตอนลดราคา ดีงามมาก เล่นเกม Exclusive ของ Sony ได้ครบ” – บิ๊ก, อายุ 29
“ไม่ต้องใช้แผ่นสะดวกดีครับ ซื้อเกมผ่าน PS Store ตลอดอยู่แล้ว” – อิ้ง, อายุ 23
6. PlayStation 5 Standard Edition ★★★☆☆
“เครื่อง PS5 รุ่นแรกสุด ที่ครบครันด้วยไดรฟ์อ่านแผ่น เหมาะสำหรับคนรักการสะสมเกมแบบ Physical”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ตัวสุดท้ายในลิสต์ของเรา “PlayStation 5 Standard Edition” หรือ PS5 รุ่นเปิดตัวแรกที่หลายคนอาจเจอคำถามว่าควรซื้อ “PS5 รุ่นไหนดี” ระหว่างรุ่น Standard หรือ Digital บอกเลยว่ามันมีความได้เปรียบตรงที่มีไดรฟ์ Ultra HD Blu-ray สำหรับคนที่สะสมแผ่นแท้ หรือมีคอลเลกชัน PS4, PS5 บางส่วนก็สามารถใช้เล่นต่อเนื่องได้สะดวกครับ
สเปกภายในใช้ CPU Zen 2 8-Core 3.5GHz, GPU RDNA 2 Ray Tracing 1.0 และ SSD 825GB เช่นเดียวกับ Digital Edition รุ่นแรก จุดเด่นคือช่องแผ่น ทำให้สามารถดูแผ่นหนัง Blu-ray 4K หรือแผ่นเกม PS4 รุ่นเก่า ๆ ที่รองรับการเล่นผ่าน Backward Compatibility ได้ ใครที่มีคอลเลกชันแผ่นเยอะ การได้เล่นบน PS5 Standard Edition จะประหยัดงบไปได้ไม่น้อย
อย่างไรก็ดี รุ่นนี้เริ่มวางขายตั้งแต่ปี 2020–2021 ทำให้บางเครื่องอาจเป็นล็อตเก่า หรือในตลาดปัจจุบันอาจมีรุ่น Slim/Pro มาแทนแล้ว แต่ถ้าคุณเจอราคาดี หรืออยากได้มือสองสภาพนางฟ้าราคาถูก ก็นับว่ายังคุ้มค่ามาก เพราะเล่นเกม Next-Gen ได้เหมือนกัน แถมมีไดรฟ์อ่านแผ่นให้ใช้งานแบบคลาสสิกด้วยครับ
สเปกเด่น
- CPU: Zen 2 8-Core @3.5GHz
- GPU: RDNA 2 Ray Tracing 1.0
- SSD: 825GB
- รองรับ: 4K/60fps
- ฟีเจอร์พิเศษ: มีไดรฟ์ Ultra HD Blu-ray, Backward Compatibility กับ PS4
คะแนนที่ได้
7.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“ผมมีแผ่น PS4 เยอะ เล่นบน PS5 Standard ได้เลย ไม่ต้องซื้อใหม่ คุ้มมาก” – เอ็ม, อายุ 31
“ชอบสะสมแผ่นแท้ ยังชอบกลิ่นฟีลเปิดกล่อง” – แพท, อายุ 24
บทสัมภาษณ์ / ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
คุณต้น (Game Developer และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีคอนโซล) ได้ให้ความเห็นว่าในปี 2025 นี้ PlayStation 5 เริ่มแตกไลน์รุ่นเยอะขึ้น ทั้งรุ่น Pro, รุ่น Slim, รวมไปถึงรุ่นลิมิเต็ดมากมาย ซึ่งเกิดจากความต้องการที่หลากหลายของเกมเมอร์ เช่น บางคนเน้นพลังกราฟิกสูงสุดในการเล่นเกม AAA หรือเกม VR บางคนต้องการประหยัดเนื้อที่ จึงหันไปใช้รุ่น Slim ขนาดเล็ก หรือบางคนชอบซื้อเกมผ่าน Store ทั้งหมด ก็เลือก Digital Edition คุ้มค่าที่สุด
“แนะนำให้สำรวจลักษณะการเล่นเกมของตัวเองก่อน เช่น ชอบสะสมแผ่น, ชอบพกเครื่องไปเล่นหลาย ๆ ที่, หรือสนใจเฉพาะเกมกราฟิกโหด ๆ เท่านั้น แล้วค่อยตัดสินใจว่า PS5 รุ่นไหนดี ที่จะเหมาะกับเราจริง ๆ”
เคล็ดลับการเลือกซื้อ PS5 ให้คุ้มค่า
- วิเคราะห์ลักษณะการเล่นของตนเอง: ถ้าคุณมีคอลเลกชันแผ่นเกม หรืออยากดูแผ่นหนัง Blu-ray ก็ต้องรุ่น Standard ถ้าไม่เลยก็ Digital ช่วยประหยัดได้
- เช็กงบประมาณ: รุ่น Pro จะราคาสูงกว่า Slim/Standard หากคุณเน้นกราฟิกมากและมีทีวี 4K/120Hz อาจคุ้มในการลงทุน แต่ถ้าเล่นชิล ๆ รุ่นธรรมดาก็พอ
- พื้นที่จัดวาง: ถ้าบ้านหรือห้องแคบ เลือก Slim หรือ Digital Slim ดีกว่า แต่ถ้าพื้นที่เยอะ ชอบดีไซน์ใหญ่ก็บันเทิงเลย
- ความจุ SSD: บางรุ่นมี 2TB (Pro ลิมิเต็ด) สบายกว่า แต่ถ้ารุ่น 825GB อาจต้องโหลด-ลบเกมบ่อย หรือซื้อ SSD เสริม
- การรับประกันและศูนย์บริการ: ซื้อจากตัวแทนที่น่าเชื่อถือ มีประกันศูนย์เผื่อเครื่องมีปัญหา จะอุ่นใจกว่า
หัวข้ออื่น ๆ ที่น่าสนใจ
นอกจากการเลือก PS5 รุ่นไหนดี หรือ “PlayStation 5 รุ่นไหนดี” ให้เหมาะสมแล้ว เราสามารถต่อยอดประสบการณ์การเล่นเกมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เช่น การเลือกซื้อทีวีหรือจอภาพ 4K/120Hz หรือ 8K ทีวีระดับพรีเมียม เพื่อใช้กับ PS5 Pro ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หรือการเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมอย่างหูฟัง Gaming Headset ที่รองรับ Tempest 3D AudioTech เพื่อรับฟังเสียงรอบทิศทางเต็มอารมณ์ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อย่าง PlayStation VR2 ที่พาเราดำดิ่งสู่โลกเสมือนจริงได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
และหากคุณเป็นสายสะสม หรืออยากหาของแต่งเพิ่มสีสัน ก็อาจหาซื้อ Cover เครื่อง PS5 ลายพิเศษ หรือตัว Joy DualSense ลายลิมิเต็ดต่าง ๆ มาจับคู่กันได้อีกด้วย เพื่อให้การเล่นเกมของคุณสนุกและมีสไตล์ในแบบฉบับของตัวเอง
ใครอยากอ่านบทความอัปเดตเรื่องเทคโนโลยีเกมหรือลิสต์รีวิวเกมเจ๋ง ๆ เพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ TOPLISTPLUS.COM (ลิงก์ภายในเว็บเราเอง) ที่เรามีรีวิวและบทความเจาะลึกเกี่ยวกับวงการเกมและแกดเจ็ตครบถ้วนครับ
ส่วนถ้าสนใจรายละเอียดเชิงเทคนิคของ PlayStation สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ PlayStation Official Site เพื่อชมประกาศล่าสุด เกี่ยวกับอัปเดตเฟิร์มแวร์หรือเกมใหม่ ๆ ก็ได้เช่นกันครับ
คำถามที่พบบ่อย
- ถาม: ถ้ามีแผ่นเกม PS4 อยู่แล้ว ควรเลือกซื้อรุ่นไหน?
- ตอบ: ควรเลือก PS5 Standard Edition หรือ Standard Slim (ที่มีไดรฟ์อ่านแผ่น) จะได้เล่นแผ่น PS4 ที่มีอยู่แล้วได้สะดวก
- ถาม: PlayStation 5 รุ่นไหนดีสำหรับคนไม่อยากเก็บแผ่นเกม?
- ตอบ: เลือก Digital Edition หรือ Digital Slim เพราะไม่มีช่องแผ่น ประหยัดพื้นที่ และราคาเครื่องมักถูกกว่าด้วย
- ถาม: PS5 Pro คุ้มค่ากับการลงทุนไหม?
- ตอบ: ถ้าคุณมีทีวี 4K/120Hz หรือต้องการภาพระดับ 8K (รองรับบางเกม) รวมถึงต้องการกราฟิกสุดแรง Ray Tracing 2.0 PS5 Pro ถือว่าคุ้มเพราะได้เฟรมเรตสูง ภาพสวยสมจริง
- ถาม: SSD 825GB จะพอไหม?
- ตอบ: ถ้าเล่นไม่กี่เกมอาจพอ แต่เกมยุคใหม่กินพื้นที่เยอะ อาจต้องคอยลบเกมที่ไม่เล่น หรือใช้ SSD เสริม M.2 NVMe เพิ่มภายหลังได้
- ถาม: มีปัญหาความร้อนหรือเสียงเครื่องดังไหม?
- ตอบ: รุ่นใหม่ ๆ (Pro, Slim, Digital Slim) มักแก้ปัญหาเรื่องระบายความร้อนและเสียงพัดลมได้ดีขึ้นมากแล้ว ถ้าอยู่ในอุณหภูมิห้องปกติก็ไม่น่ากังวลครับ
บทสรุปส่งท้าย
ทั้งหมดนี้ก็คือ 6 อันดับ “PS5 รุ่นไหนดี” แห่งปี 2025 ที่เรารวบรวมมาให้ ไม่ว่าจะเป็นสายแรงขั้นสุดอย่าง PS5 Pro – 30th Anniversary Limited Edition ที่เอาใจแฟนคลับรุ่นเดนตาย ชอบดีไซน์อลังการพร้อมสเปกสุดโหด หรือรุ่น Pro (Digital Edition) ที่เอาใจสายโหลดล้วน ประหยัดพื้นที่ตัวเครื่อง ไปจนถึง PlayStation 5 Standard Slim และ Digital Slim สำหรับคนที่อยู่คอนโดหรือห้องเล็ก ๆ และอยากได้เครื่องเล็กเบาสะดวก หรือจะเป็น PS5 รุ่นมาตรฐานตัวแรกและ Digital Edition ต้นตำรับที่ปัจจุบันก็ยังคงหาซื้อได้ในราคาย่อมเยาลงมาก
ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ประเมินไลฟ์สไตล์การเล่นเกม งบประมาณ พื้นที่วางเครื่อง และนิสัยการซื้อเกม (ชอบแผ่นหรือชอบดิจิทัล) ถ้าคุณต้องการสเปกแรงและภาพสวยที่สุด ก็ไป Pro ถ้าต้องการบางเบา ก็ไป Slim ถ้าชอบความคลาสสิก อ่านแผ่นได้ ก็ไป Standard หรือถ้าคิดว่าตัวเองจะดาวน์โหลดเกมอยู่แล้ว ก็จบที่ Digital Edition ได้เลยครับ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ครบทุกแบบจริง ๆ ในปีนี้
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ทุกคนได้คำตอบของคำถาม “PS5 รุ่นไหนดี” และ “PlayStation 5 รุ่นไหนดี” ในที่สุด เตรียมตัวสนุกกับโลกเกม Next-Gen อย่างเต็มที่ แล้วอย่าลืมตรวจสอบโปรโมชั่นหรืองานเซลต่าง ๆ ด้วยนะครับ เพราะบางช่วงอาจได้ราคาคุ้มเวอร์ หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้เจอเครื่องคู่ใจที่เหมาะกับตัวเองที่สุด และได้สนุกกับเกมโปรดได้อย่างเต็มอรรถรสไปเลย!
หมายเหตุจากผู้เขียน:
– รายละเอียดเรื่องสเปก, ฟีเจอร์, หรือการรับประกัน ควรตรวจสอบเพิ่มเติมจาก PlayStation หรือเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแต่ละแบรนด์ด้วย
– คะแนน (เช่น 8.3/10 หรือ 9.5/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS อ้างอิงจากสเปก, ฟีเจอร์, ราคา, รีวิวผู้ใช้จริง และการใช้งานของผู้เขียน
– รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “โอม อายุ 30” หรือ “ฟาง อายุ 25”) เป็นตัวอย่างสมมุติ เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพเท่านั้น
– บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลจากสเปกและข่าวสารช่วงต้นปี 2025 คุณสมบัติหรือราคาอาจเปลี่ยนได้ในอนาคต
– เนื้อหาและการเชื่อมโยงลิงก์ต่าง ๆ ถูกปรับปรุงให้เหมาะสมกับบทความนี้
– หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ TOPLISTPLUS เรามีอัปเดตข่าวสารใหม่ ๆ ในวงการเกมและแกดเจ็ตเสมอ
– ขอให้สนุกกับการเลือกซื้อเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเพื่อน ๆ มากที่สุดครับ!
