10 ตัวท็อป หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ปี 2025 อัปเดตล่าสุด! รีวิวเจาะลึก ANC เสียงดี แบตอึด!

"รูปหน้าปกบทความ หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย 2025 แนะนำหูฟังบลูทูธคุณภาพดี ราคาประหยัด อัปเดตล่าสุด"

บทนำ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ! ยุคนี้ใครไม่มีหูฟังไร้สายติดตัวนี่ถือว่าเอาท์สุด ๆ เลยเนอะ ไม่ว่าจะตอนเดินทางไปทำงาน ตอนนั่งชิลล์ ๆ ในร้านกาแฟ หรือตอนออกกำลังกายในฟิตเนส เจ้าหูฟังคู่ใจก็กลายเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว แต่พอจะหาซื้อทีไรก็ต้องปวดหัวทุกที เพราะในตลาดมีให้เลือกเยอะมากกก ตั้งแต่หลักหมื่นยันหลักร้อย แล้วไอ้ที่ราคาดี ๆ เนี่ย มันจะดีจริงรึเปล่า? นี่แหละครับคือคำถามโลกแตกที่หลายคนสงสัยว่า หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่เสียงดี ฟีเจอร์ครบ แบตอึด ไม่ใช่ซื้อมาแล้วใช้สองทีพัง แบบนั้นก็ไม่ไหวนะครับ!

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยเจอปัญหานี้มาก่อน ลองผิดลองถูกมาก็เยอะ เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงแบบเพื่อนคุยกับเพื่อน ชี้เป้าตัวเด็ด ๆ ที่คัดมาแล้วว่าคุ้มค่าเกินราคาจริง ๆ ในปี 2025 นี้ บอกเลยว่าไม่ต้องจ่ายแพงก็เทพได้! บทความนี้เราจะไม่ได้มาพูดกันลอย ๆ นะครับ แต่จะเจาะลึกกันทุกมิติ ตั้งแต่คุณภาพเสียง ดีไซน์การใส่ ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน (ANC) ที่เดี๋ยวนี้หูฟังราคาเบา ๆ ก็มีกันแล้ว ไปจนถึงแบตเตอรี่ที่ต้องอึดถึกทนพอให้เราใช้งานได้ทั้งวัน สำหรับใครที่กำลังเล็ง ๆ ว่าจะซื้อ หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย อยู่พอดี รับรองว่าอ่านจบแล้วได้คำตอบที่ถูกใจแน่นอน ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเบสหนัก ๆ ชอบฟังเพลงมันส์ ๆ หรือสายเน้นคุยโทรศัพท์เสียงเคลียร์ ๆ เราจัดมาให้ครบทุกแนว ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีรุ่นไหนบ้างที่เข้าวินมาในลิสต์ของเรา ก็ไปดูตารางเปรียบเทียบเรียกน้ำย่อยกันก่อนเลยครับ!

🦉 เลือกอ่านหัวข้อ

จัดอันดับ 10 หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย แห่งปี 2025

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อ หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่คุ้มค่าที่สุดในปีนี้ ลองดูภาพรวมจากตารางเปรียบเทียบสเปกเด่นและคะแนนจากทีมงานของเราด้านล่างนี้ก่อนได้เลยครับ แล้วถ้าถูกใจตัวไหนเป็นพิเศษ ค่อยเลื่อนลงไปอ่านรีวิวฉบับเจาะลึกกันแบบเต็ม ๆ อีกทีครับ!

ตารางเปรียบเทียบสรุป หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย

คุณสมบัติ EarFun Air Pro 4 Soundcore R50i (NC) QCY T13 ANC 2 Edifier X2S TOZO T12 JLab Go Air Pop SoundPEATS Clear Baseus Bowie WM01 Lenovo LP40 Pro OPPO Enco Buds3
อันดับที่ 🥇 🥈 🥉 4 5 6 7 8 9 10
รูปภาพสินค้า EarFun Air Pro 4 Soundcore R50i (NC) QCY T13 ANC 2 Edifier X2S TOZO T12 JLab Go Air Pop SoundPEATS Clear Baseus Bowie WM01 Lenovo LP40 Pro OPPO Enco Buds3
ชื่อสินค้า (กดเพื่อเลื่อนไปดูรายละเอียด) EarFun Air Pro 4 Soundcore R50i (NC) QCY T13 ANC 2 Edifier X2S TOZO T12 JLab Go Air Pop SoundPEATS Clear Baseus Bowie WM01 Lenovo LP40 Pro OPPO Enco Buds3
สเปกเด่น ANC 50dB, LDAC, แบต 45 ชม., กันน้ำ IPX5, ไมค์ 6 ตัว ANC, BassUp EQ, แบต 45 ชม., กันน้ำ IPX5, Bluetooth 5.3 ANC 43dB, Wind Noise Cancelling, แบต 30 ชม., ไมค์ 4 ตัว, App Control Game Mode, แบต 26 ชม., กันน้ำ IP54, AI Call Noise Cancellation กันน้ำ IPX8, จอ LED, Wireless Charging, แบต 30 ชม., เบสหนัก แบต 32+ ชม., Dual Connect, 3 EQ Modes, กันน้ำ IPX4, มีสายชาร์จในตัว ไดรเวอร์ 12mm, แบต 40 ชม., Game Mode, Dual Mic, App Control เล็กเบา, แบต 25 ชม., Rapid Charge, Bluetooth 5.3, ดีไซน์มินิมอล ไดรเวอร์ 13mm, แบต 28 ชม., กันน้ำ IPX5, Bluetooth 5.1, น้ำหนักเบา แบต 36 ชม., HiFi 5 DSP, กันน้ำ IP55, Google Fast Pair, Latency ต่ำ
คะแนน ★★★★★ (9.8/10) ★★★★★ (9.6/10) ★★★★☆ (9.4/10) ★★★★☆ (9.1/10) ★★★★☆ (8.9/10) ★★★★☆ (8.7/10) ★★★★☆ (8.5/10) ★★★☆☆ (8.3/10) ★★★☆☆ (8.1/10) ★★★☆☆ (8.0/10)
เหมาะกับใคร คนที่ต้องการ ANC เทพและเสียงดีที่สุดในงบ สายเบสหนัก ชอบฟังเพลงสนุก ๆ คนที่ต้องการความสมดุลระหว่าง ANC, เสียง และการคุยโทรศัพท์ เกมเมอร์และคนคุยโทรศัพท์บ่อย สายลุย ออกกำลังกาย ต้องการหูฟังกันน้ำจริงจัง คนขี้ลืม ชอบความสะดวกสบาย แบตอึดสุด ๆ คนที่ชอบเสียงโปร่งใส เบสพอดี ๆ และดีไซน์สวย คนที่เน้นความเล็ก กะทัดรัด พกพาง่ายที่สุด นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการของดีราคาประหยัด ผู้ใช้มือถือ OPPO ที่ต้องการความเข้ากันและฟีเจอร์ครบ
เช็กราคาล่าสุด

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

1. EarFun Air Pro 4 ★★★★★

“ตัวจบงบหลักร้อย! ANC เทพเกินราคา เสียงระดับ Hi-Res ไมค์ชัด แบตอึด ครบเครื่องที่สุด”

EarFun Air Pro 4

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้ามีคนมาถามผมว่า หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่ดีที่สุดแบบไม่ต้องคิดเยอะ ผมจะตอบว่า EarFun Air Pro 4 ทันที! เพราะมันคือตัวที่ให้ฟีเจอร์มาแบบจัดเต็มที่สุดในงบนี้แล้วครับ จุดเด่นที่สุดที่ทำให้มันกินขาดตัวอื่นคือระบบตัดเสียงรบกวน QuietSmart 2.0 Hybrid ANC ที่ลดเสียงได้ถึง 50dB ซึ่งเป็นระดับที่ปกติจะเจอในหูฟังราคาหลายพันบาท ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้เต็มที่แม้จะอยู่บนรถไฟฟ้าหรือในร้านกาแฟเสียงดัง แถมยังรองรับ LDAC Codec ที่ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Wireless อีกด้วย บอกเลยว่าสายฟังเพลงที่เน้นรายละเอียดเสียงจะต้องหลงรักแน่นอนครับ

สเปกเด่น

  • การตัดเสียงรบกวน (ANC): QuietSmart 2.0 Hybrid ANC ลดเสียงรบกวนสูงสุด 50dB
  • Codec เสียง: รองรับ LDAC, AAC, SBC (คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res)
  • ไดรเวอร์: Wool Composite Dynamic Drivers ขนาด 10mm
  • ไมโครโฟน: 6 ตัว พร้อมเทคโนโลยี cVc 8.0 เพื่อการโทรที่คมชัด
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 45 ชั่วโมง (รวมเคส)
  • การกันน้ำ: มาตรฐาน IPX5
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3, Multipoint Connection (เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน)
จุดเด่น
  • ANC ตัดเสียงรบกวนได้เงียบที่สุดในงบนี้
  • รองรับ LDAC ให้คุณภาพเสียงดีเยี่ยม
  • ไมโครโฟน 6 ตัว คุยโทรศัพท์ชัดมาก
  • เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกันได้ (Multipoint)
  • แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ยาวนาน
ข้อควรพิจารณา
  • ดีไซน์อาจจะดูเรียบง่ายไปสำหรับบางคน
  • แอปพลิเคชันยังปรับแต่ง EQ ได้ไม่ละเอียดเท่าแบรนด์ใหญ่

รีวิวแบบเจาะลึก

สิ่งที่ทำให้ EarFun Air Pro 4 โดดเด่นกว่าใครในลิสต์ หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย คือการรวมเทคโนโลยีที่ปกติแล้วสงวนไว้สำหรับหูฟังระดับพรีเมียมเข้ามาไว้ด้วยกัน เริ่มจากระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ที่ทำได้ดีเกินคาดมาก ๆ ครับ ผมได้ลองใส่ใช้งานบนรถไฟฟ้า BTS ช่วงเวลาเร่งด่วน เสียงประกาศ เสียงคนคุยกัน หรือเสียงล้อรถไฟที่เคยดังน่ารำคาญ ลดลงไปเยอะมากจนแทบไม่ได้ยิน เหลือแค่เสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ เท่านั้น ทำให้มีสมาธิกับการทำงานหรือฟังพอดแคสต์ได้ดีขึ้นมาก ๆ ซึ่งปกติแล้วฟีเจอร์ระดับนี้มักจะพบใน หูฟังครอบหู ราคาแพงเสียมากกว่า นอกจากนี้ยังมี Transparency Mode ที่ให้เสียงภายนอกเข้ามาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้รู้สึกหลอกหรืออู้อี้เหมือนหูฟังราคาถูกทั่วไป ทำให้เราสามารถคุยกับพนักงานร้านกาแฟได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังเลยครับ

ในด้านคุณภาพเสียง การที่มันรองรับ LDAC Codec ถือเป็น Game Changer เลยครับ เมื่อจับคู่กับ โทรศัพท์ Android ที่รองรับ LDAC แล้วฟังเพลงจากบริการสตรีมมิ่งคุณภาพสูงอย่าง Tidal หรือ Apple Music บอกเลยว่ามิติเสียงดีมาก รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเครื่องดนตรี เสียงร้องที่เคยถูกบดบังในหูฟังราคาถูกตัวอื่น ๆ กลับมาชัดเจนขึ้นมาก ไดรเวอร์แบบ Wool Composite ขนาด 10mm ให้เสียงเบสที่ลงได้ลึก มีแรงปะทะที่ดี แต่ไม่บวมเบลอจนไปกลบย่านอื่น เสียงกลางมีความอิ่มและชัดเจน เสียงแหลมก็ทอดไปได้ไกลและใสสะอาด ถือเป็นหูฟังที่ให้โทนเสียงสมดุล ฟังสนุกได้หลากหลายแนวเพลง ไม่ว่าจะเป็น Pop, Rock, Jazz หรือแม้แต่เพลง Classic ก็เอาอยู่ครับ นี่คือคำตอบที่ชัดเจนสำหรับคำถามว่า หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่เสียงดีจริง ๆ ไม่ใช่แค่มีเบสตูมตามอย่างเดียว

คะแนนที่ได้

9.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ANC คือเงียบจริง! ใส่ทำงานในคาเฟ่คือสวรรค์เลยค่ะ เสียงดีเกินราคาไปมาก” – พลอย, อายุ 28
“ไมค์ชัดมากครับ เพื่อนร่วมงานชมตลอดว่าเสียงเคลียร์ขึ้นเยอะเวลาประชุมออนไลน์ เทียบกับตัวเก่าคนละเรื่องเลย” – เจมส์, อายุ 34


2. Soundcore R50i (NC) ★★★★★

“เบสหนักสะใจสไตล์ Soundcore พร้อม ANC และแอปปรับแต่งได้ดั่งใจ สายตึ๊บห้ามพลาด!”

Soundcore R50i (NC)

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าพูดถึงแบรนด์ที่ทำหูฟังและ ลําโพงบลูทูธ เสียงดีในราคาจับต้องได้ ชื่อของ Soundcore by Anker ต้องขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ แน่นอน และสำหรับรุ่น R50i (NC) ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ นี่คือตัวเลือกสำหรับคนที่ถามว่า หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่เน้นเบสเป็นพิเศษ! ด้วยไดรเวอร์ขนาด 10mm และเทคโนโลยี BassUp ที่เป็นเอกลักษณ์ของค่าย ทำให้เสียงเบสที่ได้นั้นทั้งหนักแน่นและมีพลัง ฟังเพลงแนว EDM, Hip-Hop หรือ Rock ได้มันส์สะใจสุด ๆ ที่สำคัญคือรุ่นนี้อัปเกรดขึ้นมาโดยใส่ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) มาให้ด้วย ช่วยให้คุณโยกหัวตามจังหวะเบสได้แบบไม่มีเสียงภายนอกมารบกวนเลยครับ

สเปกเด่น

  • การตัดเสียงรบกวน (ANC): Active Noise Cancelling พร้อม Transparency Mode
  • ไดรเวอร์: Dynamic Drivers ขนาด 10mm
  • เทคโนโลยีเสียง: BassUp Technology สำหรับเพิ่มพลังเสียงเบส
  • ไมโครโฟน: 2 ตัว พร้อม AI Algorithm ช่วยลดเสียงรบกวนขณะสนทนา
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 45 ชั่วโมง (รวมเคส)
  • การกันน้ำ: มาตรฐาน IPX5
  • แอปพลิเคชัน: รองรับ Soundcore App (ปรับ EQ ได้ 22 แบบ, Game Mode, Find My Earbuds)
จุดเด่น
  • เบสหนักสะใจด้วยเทคโนโลยี BassUp
  • มี ANC ให้ใช้งานในราคาที่เข้าถึงง่าย
  • ปรับแต่งเสียงผ่านแอป Soundcore ได้ละเอียด
  • แบตเตอรี่อึดมาก ใช้งานได้หลายวัน
  • มี Game Mode ช่วยลดดีเลย์เสียง
ข้อควรพิจารณา
  • เสียงแหลมอาจไม่ใสเท่า EarFun Air Pro 4
  • ANC ยังไม่เงียบเท่ารุ่นที่ราคาสูงกว่าเล็กน้อย

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดขายหลักของ Soundcore R50i (NC) คือคุณภาพเสียงที่ปรับจูนมาเพื่อเอาใจคนรักเบสโดยเฉพาะครับ เมื่อเปิดโหมด BassUp ผ่านแอป Soundcore จะรู้สึกได้ทันทีว่าเสียงย่านต่ำมีมวลที่หนาขึ้น แรงปะทะของกระเดื่องกลองหรือเสียงเบสสังเคราะห์ในเพลงอิเล็กทรอนิกส์จะหนักแน่นและลงได้ลึกกว่าหูฟังทั่วไปในราคานี้อย่างเห็นได้ชัด แต่มันไม่ใช่เบสที่บวมจนน่ารำคาญนะครับ ยังคงมีรายละเอียดและควบคุมได้ดีพอสมควร ทำให้การฟังเพลงสนุกขึ้นมาก ๆ และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือแอป Soundcore ที่ให้เราปรับ Equalizer (EQ) ได้ถึง 22 รูปแบบ หรือจะปรับเองตามใจชอบก็ได้ ทำให้ไม่ว่าคุณจะชอบฟังเพลงแนวไหน ก็สามารถจูนเสียงให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองได้ง่าย ๆ นี่คือความยืดหยุ่นที่หาได้ยากในหูฟังราคาระดับนี้ และเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคำถามที่ว่า หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่ปรับแต่งเสียงได้เยอะ

ส่วนของระบบ ANC ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับราคานี้ครับ อาจจะไม่ได้ตัดเสียงได้เงียบกริบเหมือนรุ่นพี่อย่าง EarFun แต่ก็สามารถลดเสียงรบกวนความถี่ต่ำ เช่น เสียงแอร์ เสียงพัดลม หรือเสียงเครื่องยนต์บนรถได้ดีพอสมควร ทำให้เราไม่ต้องเร่งเสียงเพลงดัง ๆ เพื่อกลบเสียงรอบข้าง ซึ่งดีต่อสุขภาพหูในระยะยาวครับ นอกจากนี้ในแอปยังมีฟีเจอร์ “Find My Earbuds” ที่จะทำให้หูฟังส่งเสียงออกมาดัง ๆ ช่วยให้เราหาเจอได้ง่ายเวลาวางลืมไว้ที่ไหนสักแห่ง และยังมี Game Mode ที่ช่วยลดความหน่วงของเสียง (Latency) ทำให้การเล่นเกมหรือดูหนังแม่นยำขึ้น เสียงพูดกับภาพตรงกันมากขึ้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง หูฟังไร้สาย ที่ให้ฟีเจอร์มาครบครันเกินราคาจริง ๆ ครับ

คะแนนที่ได้

9.6/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เบสตึ๊บมากค่ะ! ฟังเพลงแล้วมันส์สุด ๆ แอปก็ใช้ง่าย ปรับเสียงได้เยอะดี ชอบมาก” – ฝน, อายุ 24
“ใส่สบายดีครับ แบตอึดจริง ชาร์จทีเดียวใช้ลืมเลย ANC ก็ช่วยได้เยอะตอนนั่งทำงาน” – นนท์, อายุ 31


3. QCY T13 ANC 2 ★★★★☆

“สมดุลทุกย่านเสียง ANC เยี่ยม คุยโทรศัพท์ชัดแจ๋วด้วยไมค์ 4 ตัวและระบบตัดเสียงลม”

QCY T13 ANC 2

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

QCY เป็นอีกแบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงมาจากการทำหูฟังคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่าย และ T13 ANC 2 ก็เป็นรุ่นที่ตอกย้ำความสำเร็จนั้นได้เป็นอย่างดีครับ ถ้าคุณกำลังมองหา หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่มีความสมดุลในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะฟังเพลง คุยโทรศัพท์ หรือดูหนัง ตัวนี้คือคำตอบที่ลงตัวมาก ๆ จุดเด่นที่ต้องพูดถึงเลยคือคุณภาพการโทรที่ยอดเยี่ยม ด้วยไมโครโฟนถึง 4 ตัว (ข้างละ 2) พร้อมอัลกอริทึม ENC (Environmental Noise Cancellation) และที่พิเศษคือมีระบบตัดเสียงลม (Wind Noise Cancelling) ที่ความเร็วลมสูงถึง 25 กม./ชม. ทำให้การคุยโทรศัพท์กลางแจ้งหรือตอนเดินริมถนนชัดเจนกว่าใครในระดับเดียวกันเลยครับ

สเปกเด่น

  • การตัดเสียงรบกวน (ANC): Hybrid ANC ลดเสียงรบกวนสูงสุด 43dB
  • ไดรเวอร์: Dynamic Drivers ขนาด 10mm
  • ไมโครโฟน: 4 ตัว พร้อม ENC และ Wind Noise Cancelling
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 30 ชั่วโมง (รวมเคส)
  • การกันน้ำ: มาตรฐาน IPX5
  • แอปพลิเคชัน: รองรับ QCY App (ปรับ EQ, ตั้งค่าการควบคุม, Sleep Mode)
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3
จุดเด่น
  • คุยโทรศัพท์ชัดมาก มีระบบตัดเสียงลมโดยเฉพาะ
  • ANC ทำได้ดีเกินคาดในราคานี้
  • โทนเสียงสมดุล ฟังง่ายได้ทุกแนว
  • แอป QCY มีฟังก์ชันให้ปรับแต่งเยอะ
  • ดีไซน์สวยงาม ใส่กระชับหู
ข้อควรพิจารณา
  • แบตเตอรี่รวมเคสยังไม่เยอะเท่าสองอันดับแรก
  • ไม่มี Multipoint Connection

รีวิวแบบเจาะลึก

สำหรับ QCY T13 ANC 2 ผมประทับใจคุณภาพการสนทนาของมันมากที่สุดครับ จากการทดลองใช้งานจริง ปลายสายบอกว่าได้ยินเสียงผมชัดเจนมาก แม้จะยืนคุยอยู่ริมถนนที่มีเสียงรถวิ่งผ่านไปมาก็ตาม ระบบตัดเสียงลมทำงานได้จริง ช่วยลดเสียงลมที่พัดมาปะทะไมโครโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ต้องคุยโทรศัพท์บ่อย ๆ หรือใช้ประชุมงานนอกสถานที่ นี่คือจุดที่ทำให้มันแตกต่างและเป็นคำตอบของคำถาม หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย สำหรับสาย Call โดยเฉพาะ ส่วนระบบ ANC ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน สามารถลดเสียงรบกวนในย่านความถี่ต่ำได้ดี สร้างโลกส่วนตัวให้เราได้สบาย ๆ เลยครับ

ในส่วนของเสียงเพลง QCY T13 ANC 2 ให้โทนเสียงที่ค่อนข้างสมดุล ไม่ได้เน้นเบสหนักจนเกินไปเหมือน Soundcore แต่ก็มีมวลเบสที่เพียงพอให้ฟังสนุก เสียงกลางมีความชัดเจน เสียงร้องไม่ถอยหลัง เสียงแหลมก็มีความใสและทอดตัวไปได้ดี ทำให้เป็นหูฟังที่ฟังง่าย เหมาะกับเพลงหลากหลายแนวทาง ตั้งแต่ Pop ใส ๆ ไปจนถึง Rock ที่มีรายละเอียดเยอะ ๆ นอกจากนี้ แอป QCY ยังมีฟังก์ชันที่น่าสนใจอย่าง Sleep Mode ที่จะปิดการทำงานของระบบสัมผัส ป้องกันการแตะโดนโดยไม่ตั้งใจตอนนอนฟังเพลง และยังสามารถปรับ EQ ได้ตามใจชอบอีกด้วยครับ แม้แบตเตอรี่อาจจะไม่ใช่จุดที่โดดเด่นที่สุด แต่การใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 30 ชั่วโมง (รวมเคส) ก็ถือว่าเพียงพอสบาย ๆ สำหรับการใช้งานทั่วไป 2-3 วันครับ

คะแนนที่ได้

9.4/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“แฟนชมว่าเสียงตอนโทรคุยกันชัดขึ้นมากเลยค่ะ ตัดเสียงลมได้ดีจริง ๆ” – นุ่น, อายุ 30
“เสียงดีครับ ฟังเพลงเพราะมาก ไม่ต้องเบสหนักก็สนุกได้ แอปก็ดี ปรับได้เยอะ” – อาร์ม, อายุ 25


4. Edifier X2S ★★★★☆

“ตัวเล็กสเปกเทพ! Game Mode ลื่นไหล คุยชัดด้วย AI ตัดเสียงรบกวน เหมาะกับเกมเมอร์และสายคุย”

Edifier X2S

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

Edifier คือแบรนด์เครื่องเสียงที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในกลุ่ม ลําโพงคอมพิวเตอร์ และสำหรับหูฟัง TWS รุ่น X2S ก็ยังคงรักษามาตรฐานของแบรนด์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยมครับ นี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่กำลังมองหา หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่เน้นการใช้งานเฉพาะทางอย่างการเล่นเกมและการคุยโทรศัพท์ ด้วย Game Mode ที่มีความหน่วงต่ำเพียง 60ms ทำให้เสียงในเกมตรงกับภาพ ไม่ว่าจะเป็นเสียงฝีเท้าหรือเสียงปืน ก็ได้ยินแบบเรียลไทม์ ไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญแน่นอน นอกจากนี้ยังมีระบบ AI Call Noise Cancellation ที่ช่วยให้การสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมหรือการคุยโทรศัพท์ทั่วไปคมชัดมาก ๆ ครับ

สเปกเด่น

  • โหมดเกม (Game Mode): Latency ต่ำเพียง 60ms
  • ไมโครโฟน: AI Call Noise Cancellation ตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา
  • ไดรเวอร์: Dynamic Drivers ขนาด 13mm
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 26 ชั่วโมง (รวมเคส)
  • การกันน้ำและฝุ่น: มาตรฐาน IP54
  • การควบคุม: ระบบสัมผัส (Touch Control)
  • น้ำหนัก: เบาเพียง 3.6 กรัมต่อข้าง
จุดเด่น
  • Game Mode ดีเลย์ต่ำมาก เล่นเกมได้เปรียบ
  • ไมค์คุยโทรศัพท์ชัดเจนด้วย AI
  • น้ำหนักเบา ใส่สบาย ไม่เจ็บหู
  • ดีไซน์สวยงาม ขนาดเล็ก พกพาง่าย
  • กันฝุ่นและละอองน้ำได้ดี
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มี ANC (Active Noise Cancelling)
  • แบตเตอรี่ไม่เยอะเท่าคู่แข่งตัวอื่น
  • ไม่มีแอปพลิเคชันสำหรับปรับแต่งเสียง

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดที่ทำให้ Edifier X2S แตกต่างจากตัวเลือกอื่นในลิสต์ หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย คือการโฟกัสไปที่ประสบการณ์การเล่นเกมครับ Game Mode ของมันทำงานได้น่าประทับใจมาก ผมลองใช้เล่นเกมแนว FPS อย่าง PUBG Mobile และ Call of Duty Mobile พบว่าสามารถแยกทิศทางเสียงฝีเท้าของศัตรูได้ค่อนข้างแม่นยำ เสียงปืนและเสียงระเบิดมีความสมจริง ไม่ดีเลย์จนทำให้เสียจังหวะเหมือนหูฟังที่ไม่มีโหมดนี้โดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับเกมเมอร์สายจริงจัง นอกจากนี้ การที่มันเป็นหูฟังแบบ Earbuds ทำให้ใส่ได้สบายเป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกอึดอัดหรือร้อนหู เหมาะกับการเล่นเกมต่อเนื่องหลายชั่วโมง หรือจะใส่เป็น หูฟังเกมมิ่ง สำรองก็ยังได้

แม้ว่าจะไม่มีระบบ ANC แต่การออกแบบที่ใส่ได้พอดีกับช่องหูก็ช่วยลดเสียงรบกวนภายนอกได้ในระดับหนึ่งครับ และถึงแม้จะไม่มีแอปให้ปรับ EQ แต่โทนเสียงเดิม ๆ ที่ Edifier ปรับจูนมาก็ถือว่าทำได้ดีมาก ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 13mm ให้เสียงที่โปร่งและกว้าง เบสมีปริมาณที่พอดี ไม่ได้หนักหน่วง แต่มีรายละเอียดที่ดี เสียงกลางและเสียงร้องมีความชัดเจนและเป็นธรรมชาติ เสียงแหลมก็สดใส ไม่บาดหู ทำให้เป็นหูฟังที่ฟังเพลงได้เพลิน ๆ เช่นกัน ส่วนเรื่องการคุยโทรศัพท์ก็หายห่วงด้วยระบบ AI ที่ช่วยกรองเสียงรอบข้างออกไป ทำให้เสียงพูดของเรายังคงชัดเจนแม้จะอยู่ในที่ที่มีเสียงจอแจ ถือเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องสำหรับคนที่เน้นเล่นเกมและคุยงานเป็นหลักครับ

คะแนนที่ได้

9.1/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เล่นเกมเสียงตรงเป๊ะเลยค่ะ ไม่ดีเลย์เลย ชอบมาก ๆ” – มิ้นท์, อายุ 22
“ใส่สบายมาก เบาจนลืมไปเลยว่าใส่อยู่ คุยโทรศัพท์ก็ชัดดีครับ” – ท็อป, อายุ 29


5. TOZO T12 ★★★★☆

“กันน้ำโหดระดับ IPX8! จอ LED สุดเท่ พร้อม Wireless Charging สายสปอร์ตและสายแกดเจ็ตต้องมี”

TOZO T12

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาถึงคิวของสายลุยและสายเทคโนโลยีกันบ้างครับ! ถ้าคุณกำลังหา หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่ทนทานต่อเหงื่อและน้ำแบบสุด ๆ TOZO T12 คือคำตอบที่คุณต้องพิจารณาเลยครับ ด้วยมาตรฐานการกันน้ำระดับ IPX8 ซึ่งหมายความว่ามันสามารถจมน้ำลึก 1 เมตรได้นานถึง 30 นาที! ทำให้คุณสามารถใส่วิ่งกลางสายฝน หรือแม้แต่ใส่ล้างหน้าได้แบบไม่ต้องกังวลเลยว่าจะพัง นี่คือระดับการป้องกันที่หาไม่ได้ง่าย ๆ ในหูฟังราคานี้ นอกจากความทนทานแล้ว มันยังมาพร้อมกับฟีเจอร์สุดล้ำอย่างเคสชาร์จที่มีหน้าจอ LED บอกเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และยังรองรับการชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) อีกด้วยครับ

สเปกเด่น

  • การกันน้ำ: มาตรฐาน IPX8 (ทนทานสูงสุด)
  • เคสชาร์จ: หน้าจอ LED แสดงผลแบตเตอรี่, รองรับ Wireless Charging
  • ไดรเวอร์: Dynamic Drivers ขนาด 10mm
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 30 ชั่วโมง (รวมเคส)
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3
  • การควบคุม: ระบบสัมผัสอัจฉริยะ (Smart Touch Control)
  • การสวมใส่: ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ พร้อมจุกหูฟังหลายขนาด
จุดเด่น
  • กันน้ำระดับ IPX8 ทนทานที่สุดในลิสต์
  • เคสมีจอ LED และรองรับชาร์จไร้สาย
  • เสียงเบสหนักแน่น ฟังสนุก
  • ใส่กระชับ ไม่หลุดง่าย เหมาะกับการออกกำลังกาย
  • เชื่อมต่อรวดเร็วและเสถียร
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มี ANC และ Transparency Mode
  • ไม่มีแอปพลิเคชันสำหรับปรับแต่งเสียง
  • ดีไซน์เคสอาจจะใหญ่ไปนิดสำหรับบางคน

รีวิวแบบเจาะลึก

ความสามารถในการกันน้ำระดับ IPX8 ของ TOZO T12 คือจุดแข็งที่โดดเด่นที่สุดครับ มันทำให้หูฟังรุ่นนี้เป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนรักการออกกำลังกาย ไม่ว่าคุณจะวิ่งจนเหงื่อท่วมตัว หรือเจอฝนตกหนักระหว่างทาง ก็ไม่ต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย การออกแบบตัวหูฟังที่โค้งรับกับสรีระของใบหู พร้อมจุกซิลิโคนหลายขนาดที่ให้มาในกล่อง ช่วยให้มันเกาะติดกับหูได้เป็นอย่างดี ไม่หลุดร่วงง่าย ๆ แม้จะเคลื่อนไหวร่างกายอย่างหนักหน่วงก็ตาม นี่จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มองหา หูฟังกันน้ำ โดยเฉพาะเลยครับ

นอกเหนือจากความทนทานแล้ว ฟีเจอร์ของเคสชาร์จก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมากครับ การมีหน้าจอ LED บอกสถานะแบตเตอรี่เป็นตัวเลขเปอร์เซ็นต์ ทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าเหลือพลังงานอีกเท่าไหร่ ไม่ต้องคอยเดาจากไฟจุด ๆ เหมือนรุ่นอื่น และการที่มันรองรับการชาร์จไร้สายก็เพิ่มความสะดวกสบายไปอีกขั้น แค่วางเคสลงบนแท่นชาร์จไร้สายก็เรียบร้อย ไม่ต้องวุ่นวายกับสายเคเบิลอีกต่อไป ในด้านคุณภาพเสียง TOZO T12 ให้คาแรกเตอร์เสียงที่เน้นเบสเป็นหลัก คล้ายกับ Soundcore แต่จะมีความนุ่มลึกกว่าเล็กน้อย เหมาะกับการฟังเพลงที่ต้องการจังหวะสนุก ๆ เพื่อกระตุ้นพลังในการออกกำลังกาย แม้จะไม่มี ANC หรือแอปให้ปรับแต่ง แต่ด้วยฟีเจอร์ที่ให้มาก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่น่าสนใจสำหรับคำถาม หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่เน้นความทนทานและฟีเจอร์ล้ำ ๆ ครับ

คะแนนที่ได้

8.9/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใส่วิ่งแล้วไม่หลุดเลยค่ะ เหงื่อออกเยอะแค่ไหนก็ไม่กลัวพัง กันน้ำดีจริง ๆ” – แก้ว, อายุ 27
“ชอบเคสมากครับ มีจอตัวเลขบอกแบตชัดเจนดี แล้วก็ชาร์จไร้สายได้สะดวกสุด ๆ” – วิน, อายุ 35


6. JLab Go Air Pop ★★★★☆

“เล็กพริกขี้หนู! แบตอึดเว่อร์ มีสายชาร์จในตัวไม่ต้องกลัวลืม ตัวเลือกสุดสะดวกสำหรับคนเดินทาง”

JLab Go Air Pop

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับใครที่เป็นคนขี้ลืม หรือไม่ชอบพกสายชาร์จให้วุ่นวาย JLab Go Air Pop คือคำตอบที่ใช่ที่สุดสำหรับคำถาม หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ครับ! ความเจ๋งของมันอยู่ที่เคสชาร์จครับ ที่มีสายชาร์จ USB-A ติดมาให้ในตัวเลย! หมดปัญหาเรื่องลืมสาย หรือต้องไปยืมสายคนอื่น แค่หาพอร์ต USB ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นบน Laptop, Power Bank หรือหัวชาร์จมือถือ ก็เสียบชาร์จได้ทันที สะดวกสุด ๆ ไปเลยครับ นอกจากความสะดวกแล้ว แบตเตอรี่ของมันยังอึดมาก ๆ ตัวหูฟังใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และชาร์จจากเคสได้อีกรวมเป็น 32+ ชั่วโมง เรียกว่าชาร์จเต็มครั้งเดียว ใช้งานได้เกือบทั้งสัปดาห์เลยทีเดียว

สเปกเด่น

  • แบตเตอรี่: 8+ ชั่วโมงในหูฟัง, รวม 32+ ชั่วโมงกับเคสชาร์จ
  • การชาร์จ: มีสายชาร์จ USB-A ในตัวเคส
  • โหมดเสียง (EQ): 3 รูปแบบ (JLab Signature, Balanced, Bass Boost) ปรับได้ที่ตัวหูฟัง
  • การเชื่อมต่อ: Dual Connect (ใช้งานหูฟังแยกข้างได้อิสระ)
  • การกันน้ำ: มาตรฐาน IPX4 (กันเหงื่อและละอองน้ำ)
  • ไมโครโฟน: มีไมค์ MEMS ในตัวสำหรับสนทนา
จุดเด่น
  • มีสายชาร์จในตัวเคส สะดวกมาก ไม่ต้องพกสาย
  • แบตเตอรี่อึดถึกทน ใช้งานได้ยาวนาน
  • ขนาดเล็กและเบามาก พกพาง่ายสุดๆ
  • ปรับ EQ ได้ 3 แบบโดยไม่ต้องใช้แอป
  • ใช้งานแยกข้างได้อย่างอิสระ
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มี ANC หรือ Transparency Mode
  • คุณภาพเสียงและไมค์อยู่ในระดับมาตรฐาน ไม่ได้โดดเด่น
  • วัสดุเป็นพลาสติก อาจจะดูไม่พรีเมียมเท่าไหร่

รีวิวแบบเจาะลึก

JLab Go Air Pop ถูกออกแบบมาโดยเน้นที่ความสะดวกสบายในการพกพาและการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นหลักครับ ตัวเคสมีขนาดเล็กกว่าบัตรเครดิตและเบามาก สามารถใส่ในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าใบเล็ก ๆ ได้แบบไม่รู้สึกเกะกะเลย การที่มีสายชาร์จในตัวเป็นฟีเจอร์ที่ผมชอบมากเป็นการส่วนตัว เพราะมันแก้ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่ารำคาญในชีวิตประจำวันได้จริง ๆ ไม่ต้องคอยหาว่าสายชาร์จอยู่ไหน หรือต้องพกสายหลายเส้นให้พันกันอีกต่อไป ซึ่งนี่เป็นจุดที่ทำให้มันเป็น หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ๆ หรือคนที่ต้องการความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนครับ

อีกหนึ่งความน่าสนใจคือความสามารถในการปรับ EQ ได้โดยตรงจากตัวหูฟัง โดยไม่ต้องผ่านแอปพลิเคชันใด ๆ ครับ เพียงแค่แตะที่หูฟัง 3 ครั้ง ก็สามารถสลับระหว่างโหมดเสียง 3 แบบได้แก่ JLab Signature (เน้นเสียงร้องและเบส), Balanced (สมดุลทุกย่านเสียง), และ Bass Boost (สำหรับสายเบสโดยเฉพาะ) ซึ่งให้ความยืดหยุ่นในการฟังเพลงได้ดีพอสมควร แม้คุณภาพเสียงโดยรวมอาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่ากับรุ่นที่อยู่อันดับสูงกว่า แต่ก็ให้เสียงที่ชัดเจนและฟังสนุกในระดับราคานี้ครับ ฟีเจอร์ Dual Connect ก็มีประโยชน์มาก ทำให้เราสามารถใช้หูฟังข้างเดียวได้ ไม่ว่าจะเป็นข้างซ้ายหรือขวา เพื่อสนทนาโทรศัพท์หรือฟังพอดแคสต์ ในขณะที่ยังได้ยินเสียงรอบข้างจากหูอีกข้างหนึ่ง ถือเป็นหูฟังที่เน้นการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้อย่างยอดเยี่ยมครับ

คะแนนที่ได้

8.7/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ชอบตรงมีสายชาร์จในตัวนี่แหละค่ะ ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย แบตก็อึดมาก” – แอน, อายุ 32
“ตัวเล็กดี พกง่ายมากครับ เสียงก็โอเคเลยสำหรับราคานี้ คุ้มครับ” – บอย, อายุ 26


7. SoundPEATS Clear ★★★★☆

“ดีไซน์โปร่งใสสุดเก๋ เสียงเคลียร์สมชื่อด้วยไดรเวอร์ 12mm แบตอึดสะใจ 40 ชั่วโมง!”

SoundPEATS Clear

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาต่อกันที่หูฟังสำหรับสายแฟชั่นกันบ้างครับ! ถ้าคุณกำลังมองหา หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่ไม่ได้มีดีแค่เสียง แต่ยังมีดีไซน์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร SoundPEATS Clear คือตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ด้วยดีไซน์เคสและตัวหูฟังแบบโปร่งใส (Transparent) ที่โชว์ให้เห็นแผงวงจรและชิ้นส่วนภายใน ดูเท่และมีสไตล์สุด ๆ ครับ แต่ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว คุณภาพเสียงก็ “เคลียร์” สมชื่อ ด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่ถึง 12mm ทำให้ได้เวทีเสียงที่กว้างและโปร่งฟังสบาย เสียงร้องมีความชัดเจนและโดดเด่นออกมาข้างหน้า เหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงแนว Pop, Acoustic หรือ Vocal เป็นอย่างยิ่งครับ

สเปกเด่น

  • ไดรเวอร์: Bio-Coated Dynamic Drivers ขนาด 12mm
  • แบตเตอรี่: 7 ชั่วโมงในหูฟัง, รวม 40 ชั่วโมงกับเคสชาร์จ
  • ไมโครโฟน: Dual-Mic AI Noise Cancellation สำหรับการสนทนา
  • โหมดเกม (Game Mode): Latency ต่ำ 90ms
  • แอปพลิเคชัน: รองรับ SoundPEATS App (ปรับ EQ, ตั้งค่าการควบคุม)
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3
จุดเด่น
  • ดีไซน์โปร่งใส สวยงามและมีเอกลักษณ์
  • เสียงโปร่ง กว้าง และเคลียร์สมชื่อ
  • แบตเตอรี่อึดมาก ใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมง
  • มี Game Mode ให้ใช้งาน
  • ปรับแต่งเสียงผ่านแอปได้
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มี ANC และ Transparency Mode
  • การกันน้ำอยู่ในระดับพื้นฐาน (IPX4)
  • เบสอาจจะไม่หนักสะใจสำหรับบางคน

รีวิวแบบเจาะลึก

SoundPEATS Clear เป็นหูฟังที่สร้างความประทับใจแรกเห็นได้ทันทีด้วยดีไซน์ครับ การออกแบบที่โปร่งใสทำให้มันดูเหมือนแกดเจ็ตจากโลกอนาคต แตกต่างจากหูฟังสีทึบทั่วไปในตลาดอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้หลายคนตัดสินใจเลือกซื้อได้ไม่ยากเลยครับ แต่เมื่อได้ลองฟังเสียงแล้ว ก็จะพบว่ามันไม่ได้มีดีแค่หน้าตา ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 12mm ให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งในเรื่องของความโปร่งและความกว้างของเสียง ทำให้รู้สึกเหมือนนักร้องมายืนร้องอยู่ตรงหน้า และสามารถแยกแยะเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นได้ง่ายขึ้น เสียงเบสมีปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ได้เยอะจนเกินไป แต่ยังคงมีแรงปะทะให้รู้สึกได้ถึงจังหวะของเพลง ทำให้เป็นหูฟังที่ให้โทนเสียงที่เป็นธรรมชาติและฟังสบายได้นานโดยไม่ล้าหูครับ

แบตเตอรี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของรุ่นนี้ครับ การใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมงเมื่อรวมกับเคสชาร์จ ถือว่าอยู่ในระดับท็อปของกลุ่ม หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย เลยทีเดียว ทำให้เราสามารถพกพาไปเที่ยวหรือเดินทางไกล ๆ ได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จเลยครับ นอกจากนี้ยังมี Game Mode ที่ช่วยลดดีเลย์ของเสียง และระบบไมโครโฟนคู่พร้อม AI ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างขณะสนทนาได้ดีในระดับหนึ่ง ถึงแม้จะไม่มี ANC แต่ด้วยการออกแบบที่ใส่ได้กระชับพอดี ก็ช่วยลดเสียงภายนอกได้บ้างครับ โดยรวมแล้ว SoundPEATS Clear เป็นหูฟังที่เหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่สวยงามและคุณภาพเสียงที่โปร่งใสฟังสบายครับ

คะแนนที่ได้

8.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ดีไซน์สวยมากค่ะ โปร่งใสเห็นข้างในเก๋สุด ๆ เสียงก็ใสฟังสบายมาก” – ฟ้า, อายุ 25
“แบตอึดจริงครับ ชาร์จครั้งนึงใช้ไปเลยยาว ๆ เสียงดีเลยครับสำหรับฟังเพลงร้อง” – เอก, อายุ 33


8. Baseus Bowie WM01 ★★★☆☆

“จิ๋วแต่แจ๋ว! ดีไซน์มินิมอลสุดน่ารัก พกพาง่ายในราคาเบา ๆ”

Baseus Bowie WM01

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าคุณเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับขนาดและความสะดวกในการพกพาเป็นอันดับหนึ่ง Baseus Bowie WM01 คือคำตอบของคำถาม หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่คุณจะต้องชอบแน่นอนครับ ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัดและน้ำหนักที่เบามาก ๆ ทั้งตัวเคสและหูฟัง ทำให้มันเป็นหูฟังที่เหมาะกับการพกติดตัวไปทุกที่อย่างแท้จริง สามารถใส่ในกระเป๋าเสื้อหรือแม้แต่กระเป๋าใส่เหรียญได้สบาย ๆ ดีไซน์แบบมินิมอลทรงแคปซูลพร้อมสีสันพาสเทลน่ารัก ๆ ก็ทำให้มันดูเหมือนเป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งเลยทีเดียวครับ

สเปกเด่น

  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3
  • แบตเตอรี่: 5 ชั่วโมงในหูฟัง, รวม 25 ชั่วโมงกับเคสชาร์จ
  • การชาร์จ: Rapid Charge (ชาร์จ 10 นาที ฟังได้ 2 ชั่วโมง)
  • การควบคุม: ระบบสัมผัส (Touch Control)
  • น้ำหนัก: เบาเพียง 4 กรัมต่อข้าง
  • ดีไซน์: ขนาดเล็กพิเศษ (Ultra-Compact)
จุดเด่น
  • ขนาดเล็กและเบามาก พกพาสะดวกที่สุด
  • ดีไซน์มินิมอล มีสีให้เลือกเยอะ
  • มีระบบชาร์จเร็ว
  • เชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 เสถียรและประหยัดพลังงาน
  • ราคาเข้าถึงง่ายมาก
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีฟีเจอร์พิเศษอย่าง ANC หรือ Game Mode
  • คุณภาพเสียงและไมค์อยู่ในระดับพื้นฐาน
  • แบตเตอรี่ไม่เยอะเท่ารุ่นอื่น ๆ

รีวิวแบบเจาะลึก

Baseus Bowie WM01 เป็นหูฟังที่เน้นความเรียบง่ายและใช้งานสะดวกเป็นหลักครับ มันไม่มีฟีเจอร์หวือหวาอย่าง ANC หรือแอปพลิเคชันปรับแต่งเสียง แต่สิ่งที่มันมอบให้คือประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและไม่ซับซ้อน การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.3 ทำได้รวดเร็วและเสถียรมาก แค่เปิดฝาเคสก็พร้อมเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ทันที การควบคุมเพลงหรือรับสายก็ทำได้ง่าย ๆ ผ่านระบบสัมผัสที่ตัวหูฟัง ด้วยขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่เบา ทำให้การสวมใส่สบายมาก ๆ แทบไม่รู้สึกเลยว่ามีอะไรอยู่ในหู เหมาะกับการใส่ฟังเพลงหรือพอดแคสต์เพลิน ๆ ระหว่างวันครับ

ในด้านคุณภาพเสียง WM01 ให้เสียงที่เน้นย่านกลางและแหลมเป็นหลัก ทำให้เสียงร้องและเสียงพูดมีความชัดเจน แต่เสียงเบสอาจจะไม่ได้หนักแน่นมากนัก เหมาะกับเพลงแนว Pop, Acoustic หรือการฟังคอนเทนต์ที่เน้นการสนทนามากกว่าเพลงที่ต้องการเบสหนัก ๆ ครับ ส่วนแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้รวม 25 ชั่วโมงก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป และยังมีระบบชาร์จเร็วที่ชาร์จเพียง 10 นาทีก็สามารถฟังเพลงต่อได้ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งมีประโยชน์มากในเวลาเร่งรีบ โดยรวมแล้ว Baseus Bowie WM01 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มองหา หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่เน้นความเล็ก เบา พกพาง่าย และมีดีไซน์ที่น่ารัก ในราคาที่สบายกระเป๋าที่สุดครับ

คะแนนที่ได้

8.3/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เล็กมากกกก น่ารักสุด ๆ เลยค่ะ พกง่ายมาก ไม่เกะกะเลย” – มายด์, อายุ 23
“เหมาะกับฟังพอดแคสต์มากครับ เสียงพูดชัดดี ราคาก็ถูกมาก คุ้มครับ” – นน, อายุ 28


9. Lenovo LP40 Pro ★★★☆☆

“ของดีราคาประหยัด! เสียงดังฟังชัดด้วยไดรเวอร์ 13mm ใส่สบายสไตล์ Earbuds”

Lenovo LP40 Pro

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาถึงอีกหนึ่งตัวเลือกสุดคุ้มค่าสำหรับนักเรียนนักศึกษาหรืองบประมาณจำกัด ที่กำลังมองหา หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่คุณภาพไว้ใจได้ Lenovo LP40 Pro จากแบรนด์คอมพิวเตอร์ชื่อดังอย่าง Lenovo คือคำตอบครับ ด้วยดีไซน์แบบ Earbuds (ทรงคล้าย Airpods) ทำให้สวมใส่สบาย ไม่ต้องยัดเข้าไปในรูหูจนอึดอัด เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหูฟังแบบ In-ear ครับ แม้ราคาจะย่อมเยามาก แต่ก็ให้ไดรเวอร์มาใหญ่ถึง 13mm ทำให้ได้เสียงที่ดังและเต็มอิ่มเกินตัวเลยทีเดียวครับ

สเปกเด่น

  • ไดรเวอร์: Dynamic Drivers ขนาด 13mm
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.1
  • แบตเตอรี่: 5 ชั่วโมงในหูฟัง, รวม 28 ชั่วโมงกับเคสชาร์จ
  • การกันน้ำ: มาตรฐาน IPX5
  • การชาร์จ: พอร์ต USB Type-C
  • ดีไซน์: Semi-in-ear (Earbuds) สวมใส่สบาย
จุดเด่น
  • ราคาถูกและคุ้มค่ามาก
  • ใส่สบาย ไม่เจ็บหู เหมาะกับการใช้งานนาน ๆ
  • เสียงดังและชัดเจนด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
  • กันน้ำระดับ IPX5 ใช้งานออกกำลังกายเบา ๆ ได้
ข้อควรพิจารณา
  • เสียงเบสไม่หนักแน่นเท่าแบบ In-ear
  • ไม่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน (ANC)
  • การตัดเสียงรบกวนจากภายนอกทำได้ไม่ดีนัก (Passive Noise Isolation ต่ำ)

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดเด่นที่สุดของ Lenovo LP40 Pro คือความสบายในการสวมใส่ครับ สำหรับคนที่ไม่ชอบความรู้สึกอึดอัดของหูฟังแบบ In-ear ที่ต้องสอดเข้าไปในรูหู ดีไซน์แบบ Earbuds ของรุ่นนี้จะตอบโจทย์ได้ดีมาก มันแค่แปะอยู่ในช่องหู ทำให้ยังคงได้ยินเสียงรอบข้างอยู่บ้าง ซึ่งบางคนอาจจะชอบเพราะรู้สึกปลอดภัยกว่าเวลาเดินตามท้องถนน และยังสามารถใส่ใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงโดยไม่รู้สึกเจ็บหรือล้าหูเลยครับ นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้มันเป็น หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่เหมาะกับการใช้เรียนออนไลน์หรือนั่งทำงานนาน ๆ ครับ

ถึงแม้จะเป็นหูฟังทรง Earbuds ที่ปกติแล้วเสียงเบสจะไม่หนักแน่น แต่ด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่ถึง 13mm ก็ทำให้ LP40 Pro สามารถให้เสียงย่านต่ำได้ดีกว่าที่คาดไว้ครับ มันอาจจะไม่ใช่เบสที่ลงลึกหรือกระแทกกระทั้น แต่ก็มีปริมาณที่เพียงพอให้ฟังเพลงได้สนุก ส่วนเสียงกลางและเสียงแหลมมีความชัดเจนและโปร่งฟังสบาย ทำให้เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว รวมถึงการดูหนังหรือฟังพอดแคสต์ด้วยครับ แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้รวมถึง 28 ชั่วโมงก็ถือว่าเหลือเฟือสำหรับการใช้งานในแต่ละวัน และการที่มันกันน้ำได้ถึงระดับ IPX5 ก็ทำให้สามารถใส่ออกกำลังกายเบา ๆ ที่มีเหงื่อออกได้โดยไม่ต้องกังวลครับ

คะแนนที่ได้

8.1/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใส่สบายมากค่ะ ไม่เจ็บหูเลย ใช้เรียนออนไลน์ทั้งวันได้สบาย ๆ” – แพรว, อายุ 20
“เสียงดังดีครับ เกินคาดสำหรับราคานี้เลย คุ้มมาก ๆ” – อาร์ต, อายุ 24


10. OPPO Enco Buds3 ★★★☆☆

“คู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับมือถือ OPPO เชื่อมต่อง่าย เสียงดี ฟีเจอร์ครบครัน”

OPPO Enco Buds3

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ปิดท้ายลิสต์ หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ของเราด้วย OPPO Enco Buds3 ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน มือถือ OPPO ครับ ด้วยการออกแบบที่ทำงานร่วมกับระบบ ColorOS ได้อย่างลงตัว ทำให้มีฟีเจอร์พิเศษอย่าง Google Fast Pair ที่แค่เปิดฝาเคสใกล้ ๆ มือถือ ก็จะมี Pop-up เด้งขึ้นมาให้กดเชื่อมต่อได้ทันที ไม่ต้องเข้าไปตั้งค่า Bluetooth ให้ยุ่งยากเลยครับ นอกจากนี้ยังให้คุณภาพเสียงที่ดีด้วย HiFi 5 DSP (Digital Signal Processor) ที่ช่วยประมวลผลเสียงให้มีความคมชัดและสมจริงยิ่งขึ้นครับ

สเปกเด่น

  • การประมวลผลเสียง: HiFi 5 DSP
  • แบตเตอรี่: 7 ชั่วโมงในหูฟัง, รวม 36 ชั่วโมงกับเคสชาร์จ
  • การกันน้ำและฝุ่น: มาตรฐาน IP55
  • การเชื่อมต่อ: Google Fast Pair (สำหรับมือถือที่รองรับ)
  • ความหน่วง (Latency): ต่ำเพียง 47ms ใน Game Mode
  • การควบคุม: ควบคุมระดับเสียงได้ที่ตัวหูฟัง
จุดเด่น
  • ทำงานร่วมกับมือถือ OPPO ได้ดีเยี่ยม
  • Game Mode มี Latency ต่ำมาก
  • แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้นาน
  • กันฝุ่นและน้ำได้ดีในระดับ IP55
  • สามารถเพิ่ม-ลดเสียงได้ที่ตัวหูฟัง
ข้อควรพิจารณา
  • ฟีเจอร์ที่ดีที่สุดจะใช้ได้กับมือถือ OPPO เป็นหลัก
  • ไม่มี ANC
  • ดีไซน์แบบ Earbuds อาจไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบ

รีวิวแบบเจาะลึก

OPPO Enco Buds3 ถูกสร้างมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ใน Ecosystem ของ OPPO ครับ การเชื่อมต่อที่ง่ายดายแบบ Google Fast Pair ทำให้การใช้งานครั้งแรกสะดวกสบายมาก ๆ และเมื่อเชื่อมต่อแล้ว เรายังสามารถตั้งค่าต่าง ๆ ผ่านเมนู Bluetooth ของมือถือ OPPO ได้โดยตรง ไม่ต้องลงแอปเพิ่มเติมเลยครับ Game Mode ของรุ่นนี้ก็ทำได้น่าประทับใจมาก ด้วย Latency ที่ต่ำเพียง 47ms ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในลิสต์นี้ ทำให้มันเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกมเมอร์ นอกจากนี้ การที่สามารถควบคุมระดับเสียงได้โดยการสไลด์ที่ก้านหูฟังก็เป็นฟีเจอร์เล็ก ๆ ที่มีประโยชน์และเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้มากครับ

ในด้านคุณภาพเสียง แม้จะเป็นหูฟังทรง Earbuds แต่ด้วยชิปประมวลผล HiFi 5 DSP ก็ช่วยให้เสียงที่ได้มีคุณภาพดีกว่าที่คาดครับ เสียงมีความสมดุล เบสไม่เยอะแต่กระชับ เสียงร้องชัดเจน และเสียงแหลมมีความสดใส ทำให้ฟังเพลงได้หลากหลายแนว แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 36 ชั่วโมงก็ถือว่าเหลือเฟือ และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP55 ก็ทำให้มันทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดีครับ สรุปแล้ว ถ้าคุณใช้มือถือ OPPO และกำลังมองหา หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ OPPO Enco Buds3 คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้ามครับ

คะแนนที่ได้

8.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใช้กับมือถือ OPPO คือดีมากค่ะ เปิดฝาปุ๊บเจอปั๊บเลย สะดวกสุด ๆ” – กิ๊ฟ, อายุ 29
“ชอบที่ลดเสียงที่หูฟังได้เลยครับ ไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาบ่อย ๆ เสียงก็ดีใช้ได้เลย” – นนท์, อายุ 31


มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ: เทรนด์หูฟังราคาประหยัดในปี 2025

ตลาดหูฟังไร้สายในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มราคาที่เข้าถึงง่าย ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ครับ จากการวิเคราะห์ของสื่อเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง TechRadar และ Rtings.com ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่น่าสนใจหลายอย่างสำหรับตลาด หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ในปี 2025 นี้ครับ

“ฟีเจอร์ที่เคยเป็นของพรีเมียมอย่าง Active Noise Cancellation (ANC) และการรองรับ Codec เสียงคุณภาพสูงอย่าง LDAC หรือ aptX กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในหูฟังระดับเริ่มต้น ผู้ผลิตจากจีนกำลังผลักดันเทคโนโลยีเหล่านี้ลงมาในตลาดล่างด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง ทำให้ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเพื่อเข้าถึงประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุดอีกต่อไป”

เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนในลิสต์ของเราครับ โดยเฉพาะอันดับหนึ่งอย่าง EarFun Air Pro 4 ที่ให้ทั้ง ANC ระดับท็อปและ LDAC มาในราคาที่เหลือเชื่อ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังมองว่า:

  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่จะยาวนานขึ้น: ด้วยการพัฒนาชิปเซ็ต Bluetooth ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น ทำให้เราคาดหวังได้ว่าหูฟังราคาประหยัดรุ่นใหม่ ๆ จะมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้เกิน 30-40 ชั่วโมง (รวมเคส) เป็นเรื่องปกติ
  • แอปพลิเคชันจะมีความสำคัญมากขึ้น: การปรับแต่ง EQ, การตั้งค่าการควบคุม, และการอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่านแอปพลิเคชันจะกลายเป็นจุดขายสำคัญที่สร้างความแตกต่างระหว่างแบรนด์ เพราะมันช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหูฟังให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองได้มากขึ้น
  • คุณภาพไมโครโฟนจะถูกยกระดับ: ในยุคที่การทำงานแบบไฮบริดและการประชุมออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ คุณภาพของไมโครโฟนในการสนทนาจึงมีความสำคัญไม่แพ้คุณภาพเสียงในการฟังเพลง เราจึงได้เห็นการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยตัดเสียงรบกวนขณะสนทนาในหูฟังราคาประหยัดมากขึ้น เช่นในรุ่น Edifier X2S หรือ QCY T13 ANC 2

บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS

“การเลือก หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ในปี 2025 ไม่ใช่แค่การมองหาตัวที่เสียงดังและราคาถูกที่สุดอีกต่อไปแล้วครับ แต่มันคือการมองหา ‘ความคุ้มค่า’ ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ANC สำหรับคนที่ต้องการสมาธิ, Game Mode สำหรับคอเกม, หรือการกันน้ำสำหรับสายสปอร์ต การที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกลงมาให้เข้าถึงง่ายขึ้น ทำให้เรามีตัวเลือกที่ดีและหลากหลายกว่าที่เคยเป็นมาครับ”


เคล็ดลับการเลือกซื้อ หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ให้โดนใจ

หลังจากดูรีวิวทั้ง 10 อันดับไปแล้ว บางคนอาจจะยังมีตัวเลือกในใจหลายตัวใช่ไหมครับ ไม่ต้องกังวลครับ! ผมมีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือก หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่เหมาะกับคุณที่สุดมาฝากกันครับ

ภาพประกอบเคล็ดลับการเลือกซื้อหูฟังบลูทูธ

  1. ถามตัวเองว่า “ใช้งานอะไรเป็นหลัก?”: นี่คือคำถามที่สำคัญที่สุดครับ
    • สายฟังเพลงจริงจัง: มองหาตัวที่รองรับ Codec ดี ๆ อย่าง LDAC (EarFun Air Pro 4) หรือมีไดรเวอร์ขนาดใหญ่และปรับ EQ ได้ (Soundcore R50i, SoundPEATS Clear)
    • สายประชุม/คุยโทรศัพท์: เลือกตัวที่มีไมโครโฟนหลายตัวและมีระบบตัดเสียงรบกวนตอนคุย (QCY T13 ANC 2, EarFun Air Pro 4)
    • สายเกมเมอร์: มองหาตัวที่มี Game Mode ค่า Latency ต่ำ ๆ (Edifier X2S, OPPO Enco Buds3)
    • สายออกกำลังกาย: ต้องเน้นเรื่องการกันน้ำระดับ IPX5 ขึ้นไป และการสวมใส่ที่กระชับไม่หลุดง่าย (TOZO T12, Lenovo LP40 Pro)
  2. In-ear หรือ Earbuds? เลือกทรงที่ใช่: ความสบายในการสวมใส่เป็นเรื่องสำคัญมากครับ
    • In-ear (แบบมีจุกซิลิโคน): ข้อดีคือใส่กระชับ, กันเสียงภายนอกได้ดี (Passive Noise Isolation), และให้เสียงเบสที่หนักแน่นกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการดื่มด่ำกับเสียงเพลงเต็มที่
    • Earbuds (แบบแปะหู): ข้อดีคือใส่สบายกว่าสำหรับบางคน, ไม่รู้สึกอึดอัด, และยังได้ยินเสียงรอบข้างอยู่บ้าง ทำให้ปลอดภัยกว่าเวลาใช้งานนอกบ้าน เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความรู้สึกแน่นในหู
  3. เช็กเรื่องแบตเตอรี่: ลองดูพฤติกรรมการใช้งานของคุณครับ ถ้าคุณเป็นคนที่ใช้งานหูฟังตลอดทั้งวันและไม่ค่อยมีเวลาชาร์จบ่อย ๆ ควรเลือกรุ่นที่แบตเตอรี่รวมเคสสูง ๆ (30 ชั่วโมงขึ้นไป) อย่าง JLab Go Air Pop หรือ SoundPEATS Clear ครับ
  4. ANC จำเป็นสำหรับคุณไหม?: ถ้าคุณต้องเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะบ่อย ๆ หรือทำงานในที่ที่มีเสียงดัง การลงทุนเพิ่มอีกนิดเพื่อเอารุ่นที่มี ANC ดี ๆ อย่าง EarFun Air Pro 4 หรือ Soundcore R50i (NC) จะช่วยเปลี่ยนประสบการณ์การฟังของคุณไปเลยครับ แต่ถ้าคุณใช้งานส่วนใหญ่ในที่เงียบ ๆ อยู่แล้ว ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องมีฟีเจอร์นี้ก็ได้ครับ
  5. อ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง: นอกจากบทความของเราแล้ว การเข้าไปอ่านรีวิวสั้น ๆ ในหน้าสินค้าของ Shopee หรือ Lazada ก็เป็นอีกวิธีที่ดีในการดูฟีดแบ็กจากคนที่ซื้อไปใช้จริง ๆ ครับ อาจจะเจอปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือข้อดีบางอย่างที่เราอาจไม่เจอในการทดสอบก็ได้ครับ

วิธีดูแลรักษาหูฟังบลูทูธราคาหลักร้อย ให้ใช้ได้นานเกินคุ้ม

ได้หูฟังคู่ใจมาแล้ว ก็ต้องดูแลรักษากันหน่อยนะครับ ถึงแม้จะเป็น หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย แต่ถ้าเราดูแลดี ๆ ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายปีเลยครับ นี่คือเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ผมใช้เป็นประจำครับ

  • ทำความสะอาดเป็นประจำ: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาด ๆ หรือแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดตัวหูฟังและเคสชาร์จสัปดาห์ละครั้ง เพื่อขจัดคราบเหงื่อและสิ่งสกปรก ส่วนจุกหูฟังซิลิโคนสามารถถอดออกมาล้างด้วยสบู่อ่อน ๆ แล้วเช็ดให้แห้งสนิทก่อนใส่กลับเข้าไปครับ
  • ระวังเรื่องความชื้น: ถึงแม้หูฟังหลายรุ่นจะกันน้ำได้ แต่ก็ไม่ควรนำไปแช่น้ำหรือใช้งานในที่ที่มีความชื้นสูงเป็นเวลานาน และหลังจากใช้งานจนเปียกเหงื่อหรือโดนฝน ควรเช็ดให้แห้งก่อนเก็บลงเคสชาร์จเสมอ เพื่อป้องกันการกัดกร่อนของขั้วชาร์จครับ
  • อย่าปล่อยให้แบตหมดเกลี้ยง: พยายามอย่าใช้งานจนแบตเตอรี่หมดเหลือ 0% บ่อย ๆ ครับ ควรชาร์จเมื่อแบตเตอรี่เหลือประมาณ 20% และไม่จำเป็นต้องชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นได้ การดูแลแบตเตอรี่ให้ดีก็เหมือนกับการดูแล Power Bank ของเรานั่นเองครับ
  • เก็บในที่ที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการเก็บหูฟังไว้ในที่ที่โดนแดดโดยตรงหรือมีอุณหภูมิสูงจัด เช่น ในรถที่จอดตากแดด เพราะความร้อนอาจทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเสียหายได้ครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหูฟังบลูทูธ

  • ถาม: หูฟังบลูทูธ ราคาหลักร้อย เสียงจะดีเลย์ตอนดูหนังหรือเล่นเกมไหม?
    ตอบ: รุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่จะมี Game Mode ที่ช่วยลดค่าความหน่วง (Latency) ลงได้มากครับ เช่น Edifier X2S หรือ OPPO Enco Buds3 ทำให้การดูหนังและเล่นเกมแทบไม่รู้สึกดีเลย์เลย แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ไม่มีโหมดนี้ อาจจะรู้สึกได้บ้างเล็กน้อยครับ
  • ถาม: จำเป็นต้องซื้อจากแบรนด์ดัง ๆ ไหม?
    ตอบ: ไม่จำเป็นเสมอไปครับ ปัจจุบันแบรนด์ทางเลือกอย่าง EarFun, Soundcore, QCY, หรือ SoundPEATS ทำหูฟังออกมาได้มีคุณภาพสูงและให้ฟีเจอร์ที่คุ้มค่ากว่าแบรนด์ดังในระดับราคาเดียวกันเสียอีกครับ การเลือกซื้อ หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย จึงควรดูที่ฟีเจอร์และรีวิวเป็นหลักมากกว่าชื่อแบรนด์ครับ
  • ถาม: ถ้าหูฟังหายไปข้างหนึ่ง สามารถซื้อแค่ข้างเดียวได้ไหม?
    ตอบ: ส่วนใหญ่แล้วจะไม่สามารถซื้อแยกข้างได้ครับ แต่หูฟังหลายรุ่นมีฟีเจอร์ Find My Earbuds ในแอปพลิเคชัน ที่จะช่วยให้เราหาหูฟังเจอได้ง่ายขึ้นก่อนที่มันจะหายไปครับ
  • ถาม: การเชื่อมต่อแบบ Multipoint Connection คืออะไรและจำเป็นไหม?
    ตอบ: คือความสามารถในการเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ 2 อย่างได้พร้อมกัน เช่น เชื่อมต่อกับโน้ตบุ๊กและมือถือ เมื่อเราดูหนังในโน้ตบุ๊กอยู่แล้วมีสายเข้าที่มือถือ หูฟังจะสลับไปรับสายให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งสะดวกมากสำหรับคนทำงานครับ รุ่นในลิสต์นี้ที่มีคือ EarFun Air Pro 4 ครับ

บทสรุป: เลือก หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่ใช่สำหรับคุณ

และแล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายของการเดินทางตามหา หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ที่ดีที่สุดในปี 2025 กันแล้วนะครับ ผมหวังว่าข้อมูลและรีวิวทั้งหมดที่ผมรวบรวมมาแบบจัดเต็ม จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ จะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน เราไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินหลายพันบาทเพื่อที่จะได้หูฟังที่มีฟีเจอร์ครบครันและคุณภาพเสียงที่ดีอีกต่อไปแล้วครับ

ถ้าให้ผมสรุปแบบฟันธงเลยก็คือ หากคุณต้องการตัวที่ “ดีที่สุด” ในทุก ๆ ด้านแบบไม่ต้องคิดเยอะ EarFun Air Pro 4 คือผู้ชนะที่ชัดเจนด้วย ANC ที่เงียบที่สุดและคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res แต่ถ้าคุณเป็นสายเบสตัวยงที่ชอบความตึ๊บและแอปปรับแต่งได้เยอะ Soundcore R50i (NC) ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ส่วนใครที่เน้นคุยโทรศัพท์ชัด ๆ QCY T13 ANC 2 ก็พร้อมตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบครับ

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือก หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย ก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกหูฟังที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และลักษณะการใช้งานของคุณได้ดีที่สุดครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการฟังเพลงและสนุกไปกับหูฟังคู่ใหม่นะครับ!

หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ราคาหลักร้อย วางบนโต๊ะไม้พร้อมกล่องชาร์จสีขาว


หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • รายละเอียดเกี่ยวกับสเปก, ฟีเจอร์, หรือการรับประกันสินค้า ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของผู้ผลิตแต่ละแบรนด์อีกครั้ง เช่น EarFun, Soundcore, QCY, Edifier, และแบรนด์อื่น ๆ ที่กล่าวถึงในบทความครับ
  • บทความนี้เขียนขึ้นอย่างเป็นกลางจากการรวบรวมข้อมูลและประสบการณ์ส่วนตัว ไม่ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ใด ๆ หากคุณกดลิงก์เพื่อตรวจสอบราคาหรือสั่งซื้อสินค้า เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อยเพื่อนำมาพัฒนาเว็บไซต์ต่อไป โดยไม่มีผลต่อราคาที่คุณจ่ายหรือการจัดอันดับของเราครับ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา
  • บทความนี้มีการใช้ AI ช่วยในกระบวนการค้นคว้าและเรียบเรียงข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหลายแห่ง อย่างไรก็ตาม หากพบข้อผิดพลาดใด ๆ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลจากผู้ผลิตโดยตรงอีกครั้งครับ
  • คะแนน (เช่น 9.8/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งสเปก, ฟีเจอร์, ราคา ณ วันที่รีวิว, และความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงจากหลายแพลตฟอร์ม
  • รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “พลอย, อายุ 28”) เป็นการสรุปและเรียบเรียงความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงหลาย ๆ ท่านเพื่อให้เห็นภาพรวมและเข้าใจง่ายขึ้น ไม่ใช่คำพูดจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยตรงครับ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ หากท่านใช้งานต่อ ระบบจะถือว่าท่านยินยอมตามนโยบายคุกกี้ของเรา ขอขอบพระคุณครับ