10 สุดยอด กล้องถ่าย Vlog ยี่ห้อไหนดี 2025 อัปเดตล่าสุด! รีวิวจัดเต็มสำหรับ Vlogger ทุกสาย

กล้องถ่าย Vlog ยี่ห้อไหนดี สำหรับการสร้างคอนเทนต์คุณภาพในปี 2025

บทนำ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว Vlogger และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ทุกคน! ยุคนี้ใคร ๆ ก็อยากสร้างช่องของตัวเอง บอกเล่าเรื่องราวผ่านวิดีโอสนุก ๆ กันทั้งนั้นใช่ไหมครับ แต่พอจะเริ่มต้นจริงจัง คำถามแรกที่ปวดหัวที่สุดก็คือ กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาเป็นคู่หูคนใหม่ของเรา เพราะในตลาดปี 2025 นี้มีกล้องออกมาให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่กล้อง Action Cam สุดลุย กล้อง Compact พกพาง่าย ไปจนถึงกล้อง Mirrorless ที่ให้คุณภาพระดับโปร ทำให้การตัดสินใจเลือกซื้อกล้องที่ใช่และคุ้มค่าที่สุดกลายเป็นเรื่องยากสุด ๆ ไปเลยครับ

แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ! เพราะวันนี้ผมมาในฐานะเพื่อนที่รักการถ่ายวิดีโอเหมือนกัน จะมาช่วยไกด์ให้เพื่อน ๆ เองว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับสไตล์และงบประมาณของแต่ละคนมากที่สุด ผมได้รวบรวมข้อมูล จัดอันดับ 10 กล้องตัวท็อปที่กำลังมาแรงที่สุดในปีนี้มาให้แล้ว พร้อมเจาะลึกทุกรายละเอียด ตั้งแต่สเปกเด่น จุดแข็ง จุดที่ต้องพิจารณา ไปจนถึงรีวิวจากประสบการณ์ตรงและจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้เพื่อน ๆ เห็นภาพชัดเจนและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นสายท่องเที่ยว สายกิน สายไลฟ์สไตล์ หรือสายลุยแหลก บทความนี้มีคำตอบให้แน่นอนครับ ถ้าอยากได้ภาพสวย เสียงดี และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การทำ Vlog แบบเต็มขั้นแล้วล่ะก็… ไปดูกันเลยดีกว่าว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาเป็นกล้องคู่ใจตัวใหม่ของคุณ!

🦉 เลือกอ่านหัวข้อ

จัดอันดับ 10 กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2025

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ใจร้อน อยากเห็นภาพรวมก่อนว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่ติดโผเข้ามาในลิสต์ของเราบ้าง ลองดูตารางเปรียบเทียบสเปกเด่นและคะแนนที่เราสรุปมาให้แบบเน้น ๆ ด้านล่างนี้ได้เลยครับ แล้วถ้าถูกใจตัวไหนเป็นพิเศษ ค่อยเลื่อนลงไปอ่านรีวิวฉบับเจาะลึกกันต่อได้เลย!

ตารางเปรียบเทียบสรุป

คุณสมบัติ DJI Osmo Pocket 3 Insta360 Ace Pro 2 Canon PowerShot V10 GoPro HERO13 Black Nikon Z30 Sony ZV-1 Canon EOS R50 V Canon G7 X Mark III Panasonic Lumix G100 Insta360 One RS 4K
อันดับที่ 🥇 🥈 🥉 4 5 6 7 8 9 10
รูปภาพสินค้า Cameras-for-Vlogging-DJI-Osmo-Pocket-3---Action-Camera Insta360 Ace Pro 2 Canon PowerShot V10 GoPro HERO13 Black Nikon Z30 Sony ZV-1 Canon EOS R50 V Canon PowerShot G7 X Mark III Panasonic Lumix G100 Insta360 One RS 4K Edition
ชื่อสินค้า (กดเพื่อเลื่อนไปดูรายละเอียด) DJI Osmo Pocket 3 Insta360 Ace Pro 2 Canon PowerShot V10 GoPro HERO13 Black Nikon Z30 Sony ZV-1 Canon EOS R50 V Canon G7 X Mark III Panasonic Lumix G100 Insta360 One RS 4K
สเปกเด่น เซ็นเซอร์ 1 นิ้ว, 4K/120fps, กิมบอล 3 แกน, จอหมุนได้ 2 นิ้ว, ActiveTrack 6.0 เซ็นเซอร์ 1/1.3 นิ้ว, 8K/24fps, จอพับได้ 2.4 นิ้ว, AI Assistant, กันน้ำ 10 ม. เซ็นเซอร์ 1 นิ้ว, 4K/30fps, ไมค์สเตอริโอ, ขาตั้งในตัว, ดีไซน์แนวตั้ง 5.3K/60fps, HyperSmooth 7.0, Enduro Battery, จอหน้า-หลัง, กันน้ำ 10 ม. เซ็นเซอร์ APS-C, 4K/30fps, เปลี่ยนเลนส์ได้, จอพับข้าง, Eye AF เซ็นเซอร์ 1 นิ้ว, 4K/30fps, Product Showcase, Background Defocus, Fast Hybrid AF เซ็นเซอร์ APS-C, 4K/30fps, Dual Pixel CMOS AF II, จอพับข้าง, A+ Assist เซ็นเซอร์ 1 นิ้ว, 4K/30fps, ไลฟ์สตรีมได้, ND Filter ในตัว, จอพับขึ้น เซ็นเซอร์ M4/3, 4K/30fps, OZO Audio by Nokia, V-Log L, จอพับข้าง ดีไซน์โมดูลาร์, 4K/60fps, FlowState Stabilization, กันน้ำ 5 ม., Active HDR
คะแนน ★★★★★ (9.8/10) ★★★★★ (9.6/10) ★★★★☆ (9.4/10) ★★★★☆ (9.2/10) ★★★★☆ (9.0/10) ★★★★☆ (8.8/10) ★★★★☆ (8.7/10) ★★★★☆ (8.5/10) ★★★☆☆ (8.3/10) ★★★☆☆ (8.1/10)
เหมาะกับใคร Vlogger ทุกสายที่ต้องการความนิ่งและพกพาสะดวก สายลุย, สายกีฬา ที่เน้นความทนทานและฟีเจอร์ AI มือใหม่, สายไลฟ์สไตล์ ที่ต้องการความง่าย จบในตัว สาย Action, ท่องเที่ยวผจญภัย ที่เชื่อมั่นในแบรนด์ คนที่อยากจริงจังขึ้น ต้องการคุณภาพไฟล์และเปลี่ยนเลนส์ สายรีวิวสินค้า, Beauty Blogger ที่เน้นการโฟกัส มือใหม่ที่อยากได้กล้อง Mirrorless ใช้งานง่าย สายไลฟ์สตรีม, Vlogger ที่ชอบความคล่องตัว Vlogger ที่เน้นคุณภาพเสียงและไฟล์วิดีโอที่ยืดหยุ่น คนที่ชอบปรับแต่ง ชอบความยืดหยุ่นของโมดูล
เช็กราคาล่าสุด

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

 

1. DJI Osmo Pocket 3 – Action Camera ★★★★★

“ตัวจบสาย Vlog! พกง่าย ถ่ายนิ่งระดับเทพด้วยกิมบอล 3 แกน เซ็นเซอร์ 1 นิ้ว คมชัดทุกสภาพแสง”

Cameras-for-Vlogging-DJI-Osmo-Pocket-3---Action-Camera

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าจะถามว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่เป็นเหมือนไม้กายสิทธิ์ของ Vlogger ในปี 2025 นี้ ผมต้องยกให้ DJI Osmo Pocket 3 เป็นอันดับหนึ่งในใจเลยครับ มันคือการปฏิวัติวงการกล้อง Vlog อย่างแท้จริง ด้วยขนาดที่เล็กจิ๋ว พกใส่กระเป๋ากางเกงได้สบาย ๆ แต่กลับอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีระดับโปร หัวใจหลักคือเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 1 นิ้ว ที่ให้คุณภาพวิดีโอ 4K/120fps ได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้ภาพคมชัด สีสันสมจริง และจัดการกับ Noise ในที่แสงน้อยได้ดีเยี่ยม แต่ที่เด็ดที่สุดคือ “กิมบอลกันสั่น 3 แกน” ที่ติดมาในตัว ทำให้ทุกฟุตเทจที่เราถ่าย ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรือทำกิจกรรมอะไรก็ตาม จะนิ่งสมูทราวกับใช้โปรดักชันใหญ่ ๆ ถ่ายเลยครับ บอกลาปัญหาภาพสั่นไหวไปได้เลย

สเปกเด่น

  • เซ็นเซอร์: 1-inch CMOS
  • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K/120fps
  • ระบบกันสั่น: Mechanical Gimbal 3 แกน
  • หน้าจอ: 2-inch Rotatable Touchscreen
  • ระบบโฟกัส: Full-Pixel Fast Focusing
  • ระบบติดตาม: ActiveTrack 6.0
  • ระบบเสียง: ไมโครโฟน 3 ตัวในตัว (Stereo), รองรับ DJI Mic 2
จุดเด่น
  • กันสั่นกิมบอล 3 แกน นิ่งที่สุดในคลาส
  • เซ็นเซอร์ 1 นิ้ว คุณภาพไฟล์ดีเยี่ยมทั้งกลางวันและกลางคืน
  • ขนาดเล็ก พกพาสะดวก พร้อมใช้งานในไม่กี่วินาที
  • จอสัมผัสหมุนได้ ใช้งานง่ายทั้งแนวตั้งและแนวนอน
  • ActiveTrack 6.0 ติดตามวัตถุได้แม่นยำและฉลาดมาก
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่กันน้ำในตัว ต้องใส่เคสกันน้ำเพิ่ม
  • แบตเตอรี่ในตัว เปลี่ยนไม่ได้ (แต่ชาร์จเร็ว)
  • มุมมองเลนส์อาจจะแคบไปสำหรับบางคน (แต่มีเลนส์เสริม Wide-Angle ขายแยก)

รีวิวแบบเจาะลึก

สิ่งที่ทำให้ Pocket 3 โดดเด่นและเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคำถามว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี คือ “ความง่าย” ในการสร้างสรรค์งานคุณภาพสูงครับ แค่หยิบกล้องขึ้นมา เปิดเครื่องไม่ถึง 2 วินาทีก็พร้อมถ่ายทันที หน้าจอสัมผัสขนาด 2 นิ้วที่หมุนได้เป็นนวัตกรรมที่ฉลาดมาก แค่หมุนจอก็สลับการถ่ายทำระหว่างแนวนอนกับแนวตั้งได้ทันที เหมาะสุด ๆ สำหรับการทำคอนเทนต์ลงหลายแพลตฟอร์มทั้ง YouTube, TikTok, และ Instagram Reels ระบบโฟกัสแบบ Full-Pixel ก็ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำมาก ไม่ว่าเราจะเคลื่อนไหวเร็วแค่ไหน หรือยื่นของเข้ามาใกล้เลนส์ กล้องก็จับโฟกัสได้ทันที ไม่มีวืดวาดให้หงุดหงิดใจเลยครับ และที่ขาดไม่ได้คือ ActiveTrack 6.0 ที่อัปเกรดมาใหม่ มันสามารถล็อกติดตามใบหน้าหรือวัตถุที่เราเลือกได้อย่างเหนียวแน่นและเป็นธรรมชาติมาก ๆ ทำให้เราสามารถถ่ายตัวเองเดินพูดคุยได้แบบสบาย ๆ โดยไม่ต้องกังวลว่ากล้องจะหลุดโฟกัสหรือเฟรมจะเบี้ยวเลยครับ ถือเป็นผู้ช่วยกำกับส่วนตัวที่อยู่ในกระเป๋าเราดี ๆ นี่เอง ซึ่งถ้าใครอยากได้มุมมองที่กว้างขึ้นเหมือน โดรน DJI ก็สามารถซื้อเลนส์เสริมมาติดเพิ่มได้ง่าย ๆ

อีกหนึ่งเรื่องที่ Vlogger ให้ความสำคัญมากคือ “เสียง” ซึ่ง Pocket 3 ก็ทำได้ดีเกินคาด ด้วยไมโครโฟน 3 ตัวที่ติดตั้งมาในตัว ทำให้สามารถบันทึกเสียงแบบสเตอริโอได้คมชัดและลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าต้องการคุณภาพเสียงระดับโปร ก็สามารถเชื่อมต่อกับ DJI Mic 2 แบบไร้สายได้ทันทีโดยไม่ต้องต่อสายให้วุ่นวายเลยครับ แค่เปิดไมค์ก็เชื่อมต่ออัตโนมัติ สะดวกมาก ๆ ในส่วนของแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานพอสมควร ถ่าย 4K ได้ต่อเนื่องเป็นชั่วโมง และยังรองรับ Fast Charging ชาร์จแค่ 16 นาทีก็ได้แบตถึง 80% แล้วครับ ด้วยความสามารถที่รอบด้านขนาดนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็น Vlogger สายท่องเที่ยวที่ต้องการความคล่องตัว, สายรีวิวที่ต้องการความคมชัด, หรือแม้แต่คนทำคอนเทนต์ทั่วไปที่อยากยกระดับงานวิดีโอของตัวเอง Pocket 3 คือตัวเลือกที่จบ ครบ และคุ้มค่าที่สุด ทำให้ไม่ต้องลังเลอีกต่อไปว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ครับ

คะแนนที่ได้

9.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เปลี่ยนจากมือถือมาใช้ Pocket 3 คือคนละโลกเลยครับ ภาพนิ่งมากกกก ถ่ายง่ายจนไม่อยากกลับไปใช้กล้องใหญ่เลย” – นนท์, อายุ 28
“ชอบจอหมุนได้มากค่ะ ถ่าย Reels สะดวกสุด ๆ คุณภาพไฟล์ก็ดีงาม ถ่ายในคาเฟ่แสงน้อย ๆ ยังรอดสบาย” – ฝ้าย, อายุ 31


2. Insta360 Ace Pro 2 ★★★★★

“กล้อง Action Cam อัจฉริยะ! จอพับได้ใหญ่สะใจ ไฟล์ 8K สุดคมชัด พร้อม AI ช่วยยกระดับงาน Vlog”

Insta360 Ace Pro 2

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

หาก Pocket 3 คือเจ้าแห่งความนิ่งและความสะดวก Insta360 Ace Pro 2 ก็คือราชาแห่งความทนทานและนวัตกรรม AI ครับ สำหรับเพื่อน ๆ สายลุยที่กำลังมองหาว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่พร้อมจะไปกับเราได้ทุกที่ ไม่ว่าจะปีนเขา ดำน้ำ หรือเล่นสกี ตัวนี้คือคำตอบที่ใช่เลยครับ Ace Pro 2 มาพร้อมกับดีไซน์ที่แข็งแรงบึกบึน กันน้ำได้ลึกถึง 10 เมตรโดยไม่ต้องใส่เคส และที่สำคัญคือ “จอพับได้ (Flip Screen)” ขนาดใหญ่ถึง 2.4 นิ้ว ทำให้เราสามารถมองเห็นตัวเองเวลาถ่าย Vlog ได้อย่างชัดเจนเต็มตา จะจัดองค์ประกอบหรือเช็กความเรียบร้อยก็ทำได้ง่ายสุด ๆ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่กล้อง Action Cam ส่วนใหญ่ไม่มีครับ

สเปกเด่น

  • เซ็นเซอร์: 1/1.3-inch Sensor (Co-engineered with Leica)
  • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 8K/24fps, 4K/120fps
  • ระบบกันสั่น: FlowState Stabilization & Horizon Lock
  • หน้าจอ: 2.4-inch Flip Touchscreen
  • ฟีเจอร์เด่น: AI Highlights Assistant, Clarity Zoom, Pause/Resume Recording
  • การกันน้ำ: 10 เมตร (ไม่ต้องใช้เคส)
  • การควบคุม: Gesture Control, Voice Control 2.0
จุดเด่น
  • จอพับได้ขนาดใหญ่ 2.4 นิ้ว เหมาะกับ Vlogging มาก
  • คุณภาพไฟล์วิดีโอสูงถึง 8K และ 4K/120fps
  • กันน้ำได้ทันที 10 เมตร ไม่ต้องพึ่งเคส
  • ฟีเจอร์ AI ช่วยตัดต่อและเลือกช็อตเด็ดให้อัตโนมัติ
  • เลนส์พัฒนาร่วมกับ Leica ให้ภาพคมชัด สีสวย
ข้อควรพิจารณา
  • ระบบกันสั่น FlowState เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EIS) แม้จะดีมากแต่ก็ยังไม่เท่านิ่งเท่ากิมบอลแท้
  • ไฟล์ 8K มีขนาดใหญ่มาก ต้องใช้คอมสเปกสูงในการตัดต่อ
  • เมนูและฟังก์ชัน AI อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้เล็กน้อยในช่วงแรก

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดแข็งที่สุดของ Ace Pro 2 ที่ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเมื่อถามว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี คือการผสมผสานระหว่างฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังกับซอฟต์แวร์ AI ที่ชาญฉลาดครับ กล้องตัวนี้ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.3 นิ้วที่พัฒนาร่วมกับแบรนด์กล้องระดับตำนานอย่าง Leica ทำให้ได้ไฟล์วิดีโอที่มีคุณภาพสูงมาก สามารถถ่ายได้ถึงระดับ 8K ซึ่งให้ความคมชัดและรายละเอียดที่น่าทึ่ง เหมาะกับการนำไปครอปหรือซูมในภายหลังโดยไม่เสียคุณภาพ ส่วนระบบกันสั่น FlowState Stabilization ก็ทำงานได้ดีเยี่ยม ทำให้วิดีโอที่ได้มีความนิ่งและลื่นไหลแม้จะทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวหนัก ๆ ก็ตาม แต่ที่ผมชอบมากเป็นพิเศษคือฟีเจอร์ AI ครับ ตัวกล้องมี “AI Highlights Assistant” ที่สามารถวิเคราะห์ฟุตเทจทั้งหมดของเราและเลือกช็อตที่ดีที่สุดมาตัดต่อเป็นวิดีโอสั้น ๆ ให้โดยอัตโนมัติ ประหยัดเวลาไปได้เยอะมาก ๆ ครับ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Pause/Resume Recording ที่ให้เราหยุดถ่ายชั่วคราวและกลับมาถ่ายต่อในไฟล์เดิมได้ ช่วยให้การจัดการไฟล์ง่ายขึ้น ไม่ต้องมีคลิปย่อย ๆ เต็มไปหมด

ในด้านการใช้งานก็สะดวกสบายมากครับ นอกจากจอพับได้แล้วยังมีระบบควบคุมด้วยท่าทาง (Gesture Control) และคำสั่งเสียง (Voice Control) ทำให้เราสามารถเริ่มหรือหยุดถ่ายได้โดยไม่ต้องเอื้อมมือไปกดปุ่มเลย เหมาะมากเวลาที่ติดกล้องไว้บนหมวกกันน็อกหรือในตำแหน่งที่เข้าถึงยาก เรื่องเสียงก็ทำได้ดี มีโหมดลดเสียงลมและโหมดเน้นเสียงพูดให้เลือกใช้ตามสถานการณ์ และยังรองรับการเชื่อมต่อกับไมค์ภายนอกได้ด้วย ทำให้เป็น กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์สายลุยที่ต้องการคุณภาพงานระดับสูงไปพร้อม ๆ กับความสะดวกสบายจากเทคโนโลยี AI ซึ่งช่วยให้การสร้างสรรค์คอนเทนต์เป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยครับ ใครที่ชอบความทนทานและอยากได้ผู้ช่วย AI เก่ง ๆ กล้องตัวนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ แถมยังเอาไปต่อยอดกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้หลากหลาย เหมือนที่เราเลือก อุปกรณ์เสริม Nintendo Switch เพื่อเพิ่มความสนุกในการเล่นเกมเลยครับ

คะแนนที่ได้

9.6/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“จอพับได้คือ The Best! ถ่ายตัวเองง่ายขึ้นเยอะเลยครับ ไฟล์ 8K ก็คมบาดใจมาก แต่คอมต้องแรงหน่อยนะ” – เจมส์, อายุ 25
“ชอบฟีเจอร์ AI ตัดคลิปให้มากค่ะ ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย เอาไปดำน้ำมาแล้ว ภาพสวยใสกิ๊ง ไม่ต้องใส่เคสเลย” – พลอย, อายุ 29


3. Canon PowerShot V10 ★★★★☆

“กล้อง Vlog สำหรับมือใหม่โดยเฉพาะ! ดีไซน์แนวตั้งสุดเก๋ พร้อมขาตั้งและไมค์ในตัว จบ ครบ พกง่าย”

Canon PowerShot V10

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับเพื่อน ๆ ที่เป็นมือใหม่หัดทำ Vlog หรือสายไลฟ์สไตล์ที่อยากได้กล้องที่ใช้งานง่ายสุด ๆ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แค่หยิบขึ้นมาแล้วกดถ่ายได้เลย และยังสงสัยว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่จะตอบโจทย์นี้ได้ ผมขอแนะนำ Canon PowerShot V10 เลยครับ ตัวนี้เป็นกล้องที่ Canon ออกแบบมาเพื่อ Vlogger โดยเฉพาะอย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์แนวตั้งที่แปลกตาแต่จับถนัดมือมาก ๆ เหมือนถือสมาร์ทโฟนถ่ายเลยครับ จุดเด่นที่สุดของมันคือ “ความครบเครื่องในตัวเดียว” เพราะมันมีทั้งขาตั้งเล็ก ๆ ในตัวที่กางออกมาได้ มีจอพับขึ้นด้านบนสำหรับมองตัวเอง และที่สำคัญคือมีไมโครโฟนสเตอริโอขนาดใหญ่ถึง 2 ตัวอยู่ด้านบน ทำให้คุณภาพเสียงที่ได้นั้นดีกว่าไมค์ติดกล้องทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดครับ

สเปกเด่น

  • เซ็นเซอร์: 1-inch CMOS Sensor
  • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K/30fps, Full HD/60fps
  • ระบบเสียง: ไมโครโฟนสเตอริโอขนาดใหญ่ 2 ตัว
  • หน้าจอ: 2-inch Flip-up Touchscreen
  • ดีไซน์: แนวตั้ง พร้อมขาตั้งในตัว
  • ฟีเจอร์เด่น: Movie Digital IS, Face Tracking AF, 14 Color Filters
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, Live Streaming
จุดเด่น
  • ดีไซน์ All-in-one มีทั้งขาตั้งและไมค์ดี ๆ ในตัว
  • ใช้งานง่ายมาก เหมาะสำหรับมือใหม่สุด ๆ
  • คุณภาพเสียงดีเยี่ยมเกินตัวกล้อง
  • ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
  • สามารถไลฟ์สตรีมไปยัง YouTube/Facebook ได้โดยตรง
ข้อควรพิจารณา
  • ระบบกันสั่นเป็นแบบดิจิทัล (Digital IS) อาจไม่นิ่งเท่ากิมบอล
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ไม่นานมากนัก (ประมาณ 1 ชั่วโมง)
  • ไม่มีช่องมองภาพและไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้

รีวิวแบบเจาะลึก

Canon V10 คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยากครับ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าการเลือกซื้อกล้อง ไม้กันสั่น และไมโครโฟนแยกกันมันวุ่นวายเกินไป กล้องตัวนี้จะแก้ปัญหาให้คุณได้ทันที แค่มี V10 ตัวเดียวก็พร้อมออกไปถ่าย Vlog ได้เลย คุณภาพไฟล์วิดีโอก็ทำได้ดีมากด้วยเซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว สามารถถ่าย 4K ได้คมชัด และให้สีสันที่สวยงามตามสไตล์ Canon ที่หลายคนชื่นชอบ มีฟิลเตอร์สีให้เลือกถึง 14 แบบในตัวกล้อง ช่วยให้เราสร้างโทนสีสวย ๆ ได้โดยไม่ต้องไปแต่งเพิ่มในแอปเลยครับ ระบบออโต้โฟกัสแบบติดตามใบหน้า (Face Tracking AF) ก็ทำงานได้ดี ช่วยให้หน้าเราชัดอยู่เสมอแม้จะมีการเคลื่อนไหวบ้างก็ตาม ส่วนระบบกันสั่น Movie Digital IS ก็ช่วยลดการสั่นไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการเดินถ่ายได้ในระดับที่น่าพอใจ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากเมื่อพิจารณาว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

จุดที่ผมประทับใจมากที่สุดคือเรื่องเสียงครับ ไมโครโฟนคู่ขนาดใหญ่ที่ให้มานั้นสามารถรับเสียงพูดของเราได้อย่างชัดเจนและมีมิติ ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดี ทำให้ไม่ต้องไปหา ไมค์ลอย มาต่อเพิ่มให้วุ่นวายเลย เหมาะมากกับการถ่าย Vlog แบบนั่งคุย รีวิว หรือเดินเที่ยวในที่ที่ไม่เสียงดังจนเกินไป นอกจากนี้ Canon V10 ยังสามารถใช้เป็นเว็บแคมคุณภาพสูงสำหรับไลฟ์สดหรือประชุมออนไลน์ได้ด้วย และยังรองรับการไลฟ์สตรีมโดยตรงไปยัง YouTube หรือ Facebook ผ่านแอป Canon Camera Connect ได้อีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็น กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่ออกแบบมาเพื่อคนยุคใหม่ที่ต้องการความง่าย เร็ว และครบจบในเครื่องเดียวอย่างแท้จริง ใครที่อยากเริ่มต้นทำ Vlog แบบสบาย ๆ ไม่ต้องปวดหัวกับอุปกรณ์เยอะแยะ กล้องตัวนี้คือเพื่อนซี้คนใหม่ของคุณแน่นอนครับ

คะแนนที่ได้

9.4/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใช้ง่ายมากกกก แค่เปิดเครื่องแล้วกดอัดเลย ชอบดีไซน์แนวตั้ง จับถนัดมือดีครับ เสียงที่ได้ก็ชัดกว่าใช้มือถือเยอะ” – เต้, อายุ 22
“ตัวเดียวจบจริง ๆ ค่ะ มีขาตั้งในตัว วางบนโต๊ะถ่ายรีวิวสบายเลย สีผิวที่ได้ก็สวยมาก ไม่ต้องแต่งเพิ่มเลย” – มิ้นท์, อายุ 27


4. GoPro HERO13 Black ★★★★☆

“ราชาแห่ง Action Cam กลับมาอีกครั้ง! ทนทานกว่าเดิม กันสั่นเทพขึ้น และแบตอึดสะใจ”

GoPro HERO13 Black

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

เมื่อพูดถึงกล้องสำหรับสายลุย จะไม่พูดถึง GoPro ก็คงไม่ได้ครับ และสำหรับ GoPro HERO13 Black รุ่นล่าสุดนี้ ก็ยังคงตอกย้ำตำแหน่งเจ้าตลาด Action Cam ได้อย่างสมศักดิ์ศรี สำหรับใครที่มองหาว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่ทนทานไว้ใจได้ พร้อมลุยไปกับคุณทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก หรือลงน้ำ ตัวนี้คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดครับ HERO13 มาพร้อมกับการอัปเกรดที่สำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะระบบกันสั่น HyperSmooth 7.0 ที่ทำให้นิ่งขึ้นไปอีกระดับ และแบตเตอรี่ Enduro ที่ให้มาในกล่องเลย ทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นในทุกสภาพอากาศครับ

สเปกเด่น

  • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 5.3K/60fps, 4K/120fps
  • ระบบกันสั่น: HyperSmooth 7.0 with 360° Horizon Lock
  • หน้าจอ: จอหน้า 1.4 นิ้ว (Live Preview), จอหลัง 2.27 นิ้ว (Touchscreen)
  • แบตเตอรี่: Enduro Battery (ใช้งานได้นานขึ้น)
  • การกันน้ำ: 10 เมตร (ไม่ต้องใช้เคส)
  • ฟีเจอร์เด่น: HindSight, Scheduled Capture, 10-bit Color
  • เซ็นเซอร์: New Larger Sensor with 8:7 Aspect Ratio
จุดเด่น
  • ระบบกันสั่น HyperSmooth 7.0 ดีที่สุดในตลาด
  • ทนทานสูง กันน้ำได้ทันทีโดยไม่ต้องใส่เคส
  • คุณภาพวิดีโอ 5.3K และสีแบบ 10-bit ให้ไฟล์ที่ยืดหยุ่น
  • แบตเตอรี่ Enduro อึดทน ใช้งานได้นานขึ้น
  • มีอุปกรณ์เสริม (Mods) ให้เลือกใช้หลากหลาย
ข้อควรพิจารณา
  • จอหน้าไม่สามารถสัมผัสได้
  • คุณภาพเสียงจากไมค์ในตัวยังเป็นรองคู่แข่งบางรุ่น
  • การใช้งานในที่แสงน้อยมาก ๆ ยังมี Noise ให้เห็นบ้าง
  • ไม่มีจอพับได้แบบ Ace Pro ทำให้ถ่าย Vlog ลำบากกว่าเล็กน้อย

รีวิวแบบเจาะลึก

GoPro HERO13 Black ยังคงเป็นมาตรฐานทองคำของกล้องแอ็กชันที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกเมื่อต้องการหา กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี สำหรับกิจกรรมผจญภัยครับ หัวใจสำคัญคือเซ็นเซอร์ใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีอัตราส่วน 8:7 ซึ่งทำให้เรามีความยืดหยุ่นในการครอปภาพสูงมาก เราสามารถถ่ายวิดีโอมาคลิปเดียวแล้วนำไปทำเป็นวิดีโอแนวนอนสำหรับ YouTube และวิดีโอแนวตั้งสำหรับ TikTok ได้เลยโดยไม่เสียคุณภาพความคมชัด ระบบกันสั่น HyperSmooth 7.0 ก็ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งในเรื่องความนิ่งและเนียนตา ไม่ว่าคุณจะปั่นจักรยานเสือภูเขาลงจากทางชันแค่ไหน ภาพที่ได้ก็จะยังดูสมูทเหมือนลอยไปในอากาศเลยครับ ประกอบกับฟีเจอร์ 360° Horizon Lock ที่ไม่ว่ากล้องจะหมุนตีลังกาท่าไหน เส้นขอบฟ้าก็จะยังคงตรงเป๊ะเสมอ เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก ๆ

อีกหนึ่งจุดแข็งของ GoPro คือ Ecosystem หรือระบบนิเวศของอุปกรณ์เสริมที่มีให้เลือกเยอะที่สุดในตลาดครับ ไม่ว่าจะเป็น Media Mod ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงและช่องต่อไมค์, Light Mod สำหรับเพิ่มความสว่าง, หรือ Max Lens Mod ที่ให้มุมมองภาพที่กว้างเป็นพิเศษ ทำให้เราสามารถปรับแต่งกล้องให้เข้ากับสไตล์การถ่ายทำของเราได้อย่างอิสระ เหมือนกับการเลือกซื้อ อุปกรณ์เสริม PS5 เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมนั่นแหละครับ นอกจากนี้ GoPro ยังมีแอป Quik ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้เราตัดต่อวิดีโอและแชร์ลงโซเชียลได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าในแง่ของฟีเจอร์ AI หรือความสะดวกในการถ่าย Vlog แบบเห็นหน้าตัวเองอาจจะยังเป็นรองคู่แข่งอย่าง Insta360 Ace Pro อยู่บ้าง แต่ถ้าพูดถึงความน่าเชื่อถือ ความทนทาน และคุณภาพของระบบกันสั่นแล้ว GoPro HERO13 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งและไม่เคยทำให้ผิดหวังสำหรับสายลุยที่อยากรู้ว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ครับ

คะแนนที่ได้

9.2/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“กันสั่นคือที่สุดจริง ๆ ครับ เอาไปติดแฮนด์มอเตอร์ไซค์วิ่งทางลูกรังภาพยังนิ่งกริ๊บ แบต Enduro ก็อึดขึ้นเยอะ” – อาร์ม, อายุ 33
“ใช้ง่าย ทนไม้ทนมือดีค่ะ ทำตกหลายรอบแล้วยังไม่พังเลย (ฮ่าๆ) แอป Quik ก็ตัดต่อง่ายดี เหมาะกับคนขี้เกียจอย่างเรา” – จูน, อายุ 26


5. Nikon Z30 ★★★★☆

“ก้าวแรกสู่การเป็น Vlogger มือโปร! กล้อง Mirrorless เซ็นเซอร์ใหญ่ ไฟล์สวย เปลี่ยนเลนส์ได้ดั่งใจ”

Nikon Z30

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ถ่าย Vlog มาสักพักแล้วรู้สึกว่าอยากจะยกระดับคุณภาพงานให้ดูโปรขึ้นไปอีกขั้น หรือมือใหม่ที่ตั้งใจจะจริงจังกับเส้นทางนี้ตั้งแต่แรก และกำลังมองหาว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่ให้ความยืดหยุ่นสูง ผมขอแนะนำ Nikon Z30 เลยครับ นี่คือกล้อง Mirrorless ที่ Nikon ออกแบบมาเพื่อ Vlogger และ Content Creator โดยเฉพาะ จุดเด่นที่สุดของมันคือ “เซ็นเซอร์ขนาด APS-C” ซึ่งใหญ่กว่าเซ็นเซอร์ในกล้องคอมแพคหรือกล้องแอ็กชันทั่วไปมาก ทำให้ได้ไฟล์วิดีโอที่มีคุณภาพสูง ละลายหลังได้สวยงามเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญคือถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีเยี่ยมครับ

สเปกเด่น

  • เซ็นเซอร์: 20.9MP APS-C CMOS Sensor
  • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K/30fps (Uncropped)
  • หน้าจอ: 3-inch Vari-Angle Touchscreen (จอพับข้าง)
  • ระบบโฟกัส: Hybrid AF with Eye-Detection AF
  • ระบบเสียง: ไมโครโฟนสเตอริโอในตัว, ช่องเสียบไมค์ 3.5mm
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, Live Streaming via USB-C
  • เมาท์เลนส์: Nikon Z Mount
จุดเด่น
  • เซ็นเซอร์ APS-C ให้คุณภาพไฟล์วิดีโอและภาพนิ่งที่ยอดเยี่ยม
  • สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ให้ความยืดหยุ่นในการสร้างสรรค์งาน
  • จอพับข้าง (Vari-Angle) สะดวกต่อการถ่ายทุกมุมมอง
  • มีช่องเสียบไมโครโฟนภายนอกเพื่อคุณภาพเสียงระดับโปร
  • Eye-Detection AF ทำงานได้ดีทั้งกับคนและสัตว์
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF)
  • ไม่มีระบบกันสั่นในตัวกล้อง (ต้องใช้กันสั่นที่เลนส์)
  • เมนูอาจจะซับซ้อนเล็กน้อยสำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยใช้กล้องใหญ่
  • ขนาดใหญ่และหนักกว่ากล้องคอมแพคทั่วไป

รีวิวแบบเจาะลึก

Nikon Z30 คือคำตอบของคำถามที่ว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี สำหรับคนที่ต้องการ “การควบคุมและความคิดสร้างสรรค์” อย่างเต็มรูปแบบครับ การที่มันสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้คือข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุด เราสามารถเลือกใช้เลนส์คิท 16-50mm ที่มาด้วยกันสำหรับงาน Vlog ทั่วไป หรือจะเปลี่ยนไปใช้เลนส์ไพรม์รูรับแสงกว้าง ๆ เพื่อถ่ายภาพบุคคลสวย ๆ ละลายหลังโบเก้งาม ๆ หรือจะใช้เลนส์ซูมเพื่อถ่ายกิจกรรมกีฬา ก็ทำได้หมดเลยครับ นี่คือความยืดหยุ่นที่กล้องตัวเล็ก ๆ ให้ไม่ได้ จอภาพแบบพับข้าง (Vari-Angle) ก็เป็นสิ่งที่ Vlogger ทุกคนต้องการ เพราะมันทำให้เราถ่ายได้ทุกมุม ไม่ว่าจะมุมสูง มุมต่ำ หรือถ่ายตัวเอง ก็สามารถมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน ระบบออโต้โฟกัสแบบ Hybrid AF ที่มี Eye-Detection ก็ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำ ช่วยให้ดวงตาของเราคมชัดอยู่เสมอ ซึ่งสำคัญมากสำหรับการทำ Vlog ครับ

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ Z30 เป็นกล้องสำหรับ Vlogger ตัวจริงคือเรื่องเสียงครับ ตัวกล้องมีไมโครโฟนสเตอริโอในตัวที่คุณภาพดีใช้ได้ และมี Wind Muff (ขนแมวกันลม) แถมมาให้ในชุด Creator’s Kit ด้วย แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือมันมีช่องเสียบไมโครโฟนขนาด 3.5mm มาให้ ทำให้เราสามารถต่อ Microphone USB หรือไมค์ Shotgun คุณภาพสูงเพื่อยกระดับเสียงในวิดีโอของเราให้เป็นระดับโปรได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถไลฟ์สตรีมด้วยคุณภาพ Full HD ผ่านสาย USB-C เพียงเส้นเดียวได้อีกด้วย ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการทำงานที่ต้องการคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นการทำวิดีโอลง YouTube, การไลฟ์ขายของ หรือแม้แต่การประชุมออนไลน์ ซึ่งไฟล์วิดีโอคุณภาพสูงเหล่านี้ก็ต้องการ Laptop ที่มีสเปกดี ๆ ในการตัดต่อด้วยเช่นกันครับ แม้ว่า Z30 จะไม่มีกันสั่นในบอดี้และต้องพึ่งกันสั่นที่เลนส์ (VR) แต่ด้วยคุณภาพไฟล์ที่ได้มา ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าสำหรับคนที่อยากจะจริงจังกับงานวิดีโอครับ

คะแนนที่ได้

9.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ไฟล์สวยมากครับ ละลายหลังได้สะใจ ถ่ายกลางคืนก็ยังไหว เป็นกล้องที่ทำให้ผมอยากออกไปถ่ายวิดีโอทุกวันเลย” – ท็อป, อายุ 30
“ชอบที่เปลี่ยนเลนส์ได้ค่ะ ทำให้ถ่ายได้หลากหลายขึ้นเยอะเลย จอพับข้างก็สะดวกมาก ถ่ายมุมไหนก็ง่ายไปหมด” – แอน, อายุ 28


6. Sony ZV-1 ★★★★☆

“กล้องคอมแพคตัวพ่อเพื่อ Vlogger! โฟกัสฉับไว ละลายหลังเนียนกริบด้วยปุ่มเดียว”

Sony ZV-1

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าพูดถึงกล้องที่เกิดมาเพื่อเป็น Vlogger อย่างแท้จริง ชื่อของ Sony ZV-1 จะต้องขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ เสมอครับ ถึงแม้จะเปิดตัวมาสักพักแล้ว แต่ความเก๋าและความเข้าใจในความต้องการของคนทำ Vlog ทำให้มันยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ในปี 2025 สำหรับใครที่ถามว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นฟีเจอร์เฉพาะทางสำหรับ Vlogger โดยเฉพาะ ตัวนี้คือคำตอบที่ตรงจุดที่สุดครับ ZV-1 มีฟีเจอร์เด็ดอย่าง “Product Showcase Setting” ที่ทำให้กล้องสลับโฟกัสระหว่างใบหน้าของเรากับสินค้าที่ยื่นเข้ามาหน้ากล้องได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เหมาะสุด ๆ สำหรับสายรีวิวสินค้า และยังมีปุ่ม “Background Defocus” ที่กดเพียงครั้งเดียวก็สามารถเบลอฉากหลังให้สวยงามได้ทันทีครับ

สเปกเด่น

  • เซ็นเซอร์: 1.0-type stacked Exmor RS CMOS sensor
  • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K/30fps
  • ระบบโฟกัส: Fast Hybrid AF (Eye AF, Product Showcase)
  • หน้าจอ: 3-inch Vari-Angle Touchscreen (จอพับข้าง)
  • ระบบเสียง: ไมโครโฟน 3-capsule พร้อม Wind Screen
  • ฟีเจอร์เด่น: Background Defocus, Soft Skin Effect, Super Slow Motion
  • เลนส์: ZEISS Vario-Sonnar T* 24-70mm F1.8-2.8
จุดเด่น
  • ฟีเจอร์ Product Showcase และ Background Defocus ตอบโจทย์ Vlogger มาก
  • ระบบออโต้โฟกัสรวดเร็วและแม่นยำที่สุดในคลาส
  • คุณภาพเสียงจากไมค์ในตัวดีเยี่ยม พร้อม Wind Screen ลดเสียงลม
  • จอพับข้างสะดวกต่อการถ่ายตัวเอง
  • เลนส์ F1.8-2.8 ถ่ายในที่แสงน้อยและละลายหลังได้ดี
ข้อควรพิจารณา
  • ระบบกันสั่น Active SteadyShot ยังไม่นิ่งเท่ากิมบอล
  • มุมเลนส์ที่ 24mm อาจจะแคบไปนิดหน่อยสำหรับการถือถ่ายตัวเอง
  • เมนูของ Sony อาจจะซับซ้อนสำหรับมือใหม่
  • ใช้พอร์ต Micro-USB ที่ค่อนข้างเก่าแล้ว

รีวิวแบบเจาะลึก

Sony ZV-1 คือกล้องที่คิดมาแล้วเพื่อ Vlogger จริง ๆ ครับ ทุกฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาล้วนแก้ปัญหาที่คนทำ Vlog ต้องเจอเป็นประจำ เริ่มจากระบบออโต้โฟกัส Fast Hybrid AF ที่ขึ้นชื่อของ Sony มันทำงานได้เร็วและเกาะติดดวงตา (Eye AF) ได้อย่างน่าทึ่ง แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือโหมด Product Showcase ที่เมื่อเปิดใช้งาน กล้องจะให้ความสำคัญกับวัตถุที่อยู่ใกล้เลนส์ที่สุดทันที พอเราเอาของออกไป โฟกัสก็จะสลับกลับมาที่ใบหน้าเราอย่างนุ่มนวล ไม่ต้องเอามือมาบังหน้าเหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป ทำให้การรีวิวสินค้าดูเป็นมืออาชีพและลื่นไหลมาก ๆ ครับ ส่วนปุ่ม C1 ที่ตั้งค่าเป็น Background Defocus มาให้ ก็ช่วยให้มือใหม่สามารถสร้างสรรค์วิดีโอที่มีมิติหน้าชัดหลังเบลอสวย ๆ ได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วกด ไม่ต้องไปวุ่นวายกับการตั้งค่ารูรับแสงเลย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ZV-1 ถึงยังเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคำถาม กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี อยู่เสมอ

อีกเรื่องที่ ZV-1 ทำได้โดดเด่นคือคุณภาพเสียงครับ ไมโครโฟนแบบ 3-capsule ที่อยู่ด้านบนของกล้องถูกออกแบบมาให้รับเสียงจากด้านหน้าได้ดีเป็นพิเศษ ทำให้เสียงพูดของเราดังและชัดเจน และในกล่องยังแถม Wind Screen (ขนแมว) มาให้ด้วย ช่วยลดเสียงลมเวลาออกไปถ่ายนอกสถานที่ได้เยอะมาก ๆ ครับ จอพับข้างก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับ Vlogger ซึ่ง ZV-1 ก็จัดมาให้เรียบร้อย พร้อมเลนส์ซูมคุณภาพสูงจาก ZEISS ที่มีช่วง 24-70mm และรูรับแสงกว้างถึง F1.8-2.8 ทำให้มันเป็นกล้องที่ยืดหยุ่นมาก ถ่ายได้ทั้งมุมกว้างและซูมเข้าใกล้ แถมยังถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีและให้โบเก้ที่สวยงามอีกด้วย แม้ว่าระบบกันสั่นอาจจะยังไม่นิ่งเท่ากล้องที่มีกิมบอล และมุม 24mm อาจจะยังรู้สึกอึดอัดไปบ้างเวลาถือถ่ายตัวเอง แต่ด้วยฟีเจอร์เฉพาะทางที่อัดแน่นมาให้ขนาดนี้ Sony ZV-1 ก็ยังคงเป็น กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่สายรีวิว สายบิวตี้ หรือใครก็ตามที่ต้องการความง่ายและผลลัพธ์ที่ดูโปรต้องมีไว้ในครอบครองครับ

คะแนนที่ได้

8.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“โหมดรีวิวสินค้าคือดีงามมากครับ สลับโฟกัสเร็วทันใจสุด ๆ ทำให้งานผมง่ายขึ้นเยอะเลย” – บอส, อายุ 29
“ชอบปุ่มละลายหลังมากค่ะ กดปุ๊บสวยปั๊บเลย สีผิวก็สวยเป็นธรรมชาติสไตล์ Sony ไม่ต้องแต่งเยอะ” – แพรว, อายุ 25


7. Canon EOS R50 V ★★★★☆

“Mirrorless ตัวเล็ก สเปกเกินตัว! โฟกัสอัจฉริยะ ใช้งานง่ายเหมือนสมาร์ทโฟน”

Canon EOS R50 V

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับใครที่อยากได้คุณภาพไฟล์ระดับกล้องใหญ่ แต่ยังคงต้องการความง่ายในการใช้งานเหมือน สมาร์ทโฟนราคาถูกและดี และยังถามตัวเองว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาตอบโจทย์นี้ได้ Canon EOS R50 คือตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ R50 เป็นกล้อง Mirrorless ที่ Canon ตั้งใจออกแบบมาสำหรับ Content Creator รุ่นใหม่โดยเฉพาะ มันย่อเอาเทคโนโลยีจากกล้องรุ่นพี่มาใส่ไว้ในบอดี้ที่เล็ก เบา และใช้งานง่ายสุด ๆ จุดเด่นคือระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF II ที่ยกมาจากกล้องระดับโปร ทำให้สามารถตรวจจับและติดตามได้ทั้งดวงตา ใบหน้า ศีรษะของคน รวมถึงสัตว์และยานพาหนะได้อย่างแม่นยำและชาญฉลาดครับ

สเปกเด่น

  • เซ็นเซอร์: 24.2MP APS-C CMOS Sensor
  • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K/30fps (Uncropped, Oversampled from 6K)
  • ระบบโฟกัส: Dual Pixel CMOS AF II with Subject Detection
  • หน้าจอ: 3-inch Vari-Angle Touchscreen
  • ฟีเจอร์เด่น: A+ Assist (Auto Creative), Vertical Video Mode, Movie for close-up demos mode
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, UVC/UAC for Streaming
  • น้ำหนัก: ประมาณ 375 กรัม (รวมแบตเตอรี่และการ์ด)
จุดเด่น
  • ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel AF II ฉลาดและแม่นยำมาก
  • คุณภาพวิดีโอ 4K/30p แบบไม่ครอป คมชัดสุด ๆ
  • โหมดอัตโนมัติ (A+) ใช้งานง่าย เหมาะกับมือใหม่
  • น้ำหนักเบาและขนาดเล็ก พกพาสะดวก
  • รองรับการไลฟ์สตรีมคุณภาพสูงผ่าน USB
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีกันสั่นในบอดี้ (IBIS)
  • ปุ่มควบคุมและวงแหวนอาจจะน้อยไปสำหรับมือโปร
  • แบตเตอรี่อาจจะหมดเร็วเมื่อถ่าย 4K ต่อเนื่อง
  • ตัวเลือกเลนส์ RF-S ที่เป็นเลนส์เฉพาะยังมีไม่มากนัก

รีวิวแบบเจาะลึก

Canon EOS R50 คือคำตอบที่ใช่สำหรับคนที่อยากได้กล้องที่ “ฉลาด” และช่วยให้เราสร้างสรรค์งานได้ง่ายขึ้นครับ ถ้าคุณยังไม่มั่นใจในการตั้งค่ากล้องเอง โหมด A+ (Advanced Auto) ของ R50 จะช่วยคุณได้เยอะมาก มันสามารถวิเคราะห์ฉากตรงหน้าและปรับการตั้งค่าที่เหมาะสมให้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพย้อนแสง, การถ่ายภาพระยะใกล้ หรือแม้แต่การถ่ายภาพกลางคืน นอกจากนี้ยังมีโหมด “Movie for close-up demos” ที่ทำงานคล้ายกับ Product Showcase ของ Sony ทำให้มันเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับสายรีวิวเช่นกัน และที่สำคัญคือคุณภาพไฟล์วิดีโอ 4K/30p ของ R50 นั้นมาจากการ Oversample จากข้อมูล 6K ทำให้ได้วิดีโอที่มีความคมชัดและรายละเอียดสูงมาก ๆ ครับ นี่คือจุดที่ทำให้มันเป็น กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่ให้คุณภาพไฟล์เกินราคาไปมาก

ในด้านการใช้งาน R50 ถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับคนทำคอนเทนต์ยุคใหม่ มีโหมดถ่ายวิดีโอแนวตั้งในตัว และข้อมูลวิดีโอจะถูกบันทึกเป็นแนวตั้งเลย ทำให้เราสามารถนำไฟล์ไปลง TikTok หรือ Reels ได้ทันทีโดยไม่ต้องไปหมุนในโปรแกรมตัดต่อให้เสียเวลา หน้าจอสัมผัสแบบพับข้างก็ใช้งานง่าย สามารถแตะเพื่อโฟกัสหรือเปลี่ยนการตั้งค่าต่าง ๆ ได้เหมือนใช้สมาร์ทโฟนเลยครับ ตัวกล้องยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ UVC/UAC ทำให้สามารถใช้เป็นเว็บแคมคุณภาพสูงสำหรับไลฟ์สตรีมหรือประชุมออนไลน์ได้ง่าย ๆ แค่ต่อสาย USB เส้นเดียว ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง Capture Card ให้ยุ่งยากเลยครับ ด้วยความฉลาด ใช้งานง่าย และคุณภาพไฟล์ที่ดีเยี่ยม Canon EOS R50 จึงเป็น กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นกับกล้อง Mirrorless ดี ๆ สักตัว ที่พร้อมจะเติบโตไปกับเราได้ในระยะยาวครับ

คะแนนที่ได้

8.7/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“โฟกัสฉลาดมากครับ ถ่ายลูกชายวิ่งเล่นคือเข้าเป้าตลอด ไฟล์ 4K ก็คมกริ๊บเลย ชอบมาก” – เอก, อายุ 35
“ใช้ง่ายเหมือนกล้องมือถือเลยค่ะ แต่คุณภาพดีกว่าเยอะมาก โหมดออโต้คือดีงาม ถ่ายยังไงก็สวย” – ใบเตย, อายุ 24


8. Canon PowerShot G7 X Mark III ★★★★☆

“กล้องคอมแพคในตำนานของ Vlogger ไลฟ์สตรีมได้ทันที ไฟล์สวยจบหลังกล้อง”

Canon PowerShot G7 X Mark III

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

หากพูดถึงกล้องคอมแพคที่ Vlogger ทั่วโลกให้การยอมรับ ชื่อของซีรีส์ G7 X จาก Canon จะต้องติดอยู่ในอันดับต้น ๆ เสมอ และสำหรับ Canon PowerShot G7 X Mark III ก็ยังคงเป็นกล้องที่ตอบโจทย์คนทำคอนเทนต์ได้อย่างยอดเยี่ยมครับ สำหรับใครที่กำลังมองหาว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่ให้ไฟล์สวยสไตล์ Canon พกพาง่าย และมีความสามารถในการไลฟ์สดในตัว กล้องตัวนี้คือคำตอบที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ จุดเด่นที่สุดของมันคือความสามารถในการไลฟ์สตรีมโดยตรงไปยัง YouTube ได้เลยโดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์ แค่เชื่อมต่อ Wi-Fi ก็พร้อมไลฟ์ได้ทันทีครับ

สเปกเด่น

  • เซ็นเซอร์: 1.0-inch Stacked CMOS Sensor
  • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K/30fps (Uncropped)
  • เลนส์: 24-100mm f/1.8-2.8 Lens
  • หน้าจอ: 3-inch Tilting Touchscreen (พับขึ้น 180°)
  • ฟีเจอร์เด่น: Live Streaming to YouTube, Vertical Video Support, Built-in ND Filter
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, 3.5mm Microphone Input
  • การถ่ายภาพต่อเนื่อง: 20 fps (สูงสุด 30 fps ในโหมด RAW burst)
จุดเด่น
  • สามารถไลฟ์สตรีมไปยัง YouTube ได้โดยตรง
  • มีช่องเสียบไมโครโฟนภายนอก
  • เลนส์ f/1.8-2.8 สว่าง ถ่ายที่แสงน้อยได้ดี
  • คุณภาพไฟล์วิดีโอ 4K ดีเยี่ยม และสีสวยตามสไตล์ Canon
  • มี ND Filter ในตัว ช่วยให้ถ่ายกลางแจ้งได้สะดวก
ข้อควรพิจารณา
  • ระบบออโต้โฟกัสยังเป็นแบบ Contrast-detect ซึ่งอาจไม่เร็วเท่า Dual Pixel
  • หน้าจอเป็นแบบพับขึ้น ไม่ใช่พับข้าง (อาจติดอุปกรณ์เสริมบน Hotshoe)
  • ไม่มีช่องมองภาพ (Viewfinder)
  • แบตเตอรี่ค่อนข้างหมดเร็ว

รีวิวแบบเจาะลึก

G7 X Mark III คือกล้องที่เข้าใจ Vlogger ที่ต้องการความคล่องตัวและผลลัพธ์ที่รวดเร็วครับ การที่มันสามารถไลฟ์สดได้ในตัวถือเป็น Game Changer สำหรับหลาย ๆ คน ทำให้เราสามารถสื่อสารกับผู้ชมได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ที่ซับซ้อน นอกจากนี้ การที่มีช่องเสียบไมโครโฟน 3.5mm มาให้ ก็เป็นการอัปเกรดที่สำคัญมาก ทำให้เราสามารถต่อไมค์ดี ๆ เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงระดับโปรได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่กล้องคอมแพคส่วนใหญ่ไม่มีครับ คุณภาพไฟล์วิดีโอก็หายห่วง ด้วยเซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้วและชิปประมวลผล DIGIC 8 ทำให้ได้วิดีโอ 4K ที่คมชัดและสีสันสวยงามเป็นธรรมชาติ จบหลังกล้องได้สบาย ๆ ไม่ต้องเสียเวลาเกรดสีเยอะเลยครับ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีเมื่อคิดว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี

เลนส์ที่ติดมากับ G7 X Mark III ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งครับ ด้วยช่วงซูม 24-100mm ทำให้มันเป็นกล้องที่ยืดหยุ่นมาก ถ่ายได้ทั้งภาพมุมกว้างเวลาเที่ยว หรือจะซูมเข้าไปเพื่อถ่ายรายละเอียดอาหารหรือสินค้าก็ได้ แถมยังมีรูรับแสงที่สว่างถึง f/1.8-2.8 ทำให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีและทำหน้าชัดหลังเบลอได้สวยงามอีกด้วย ที่พิเศษไปกว่านั้นคือมันมี ND Filter ในตัวมาให้ด้วย ซึ่งมีประโยชน์มาก ๆ เวลาถ่ายวิดีโอกลางแดดจ้า ๆ ช่วยให้เราสามารถใช้รูรับแสงกว้าง ๆ เพื่อละลายหลังได้โดยที่ภาพไม่สว่างโอเวอร์เกินไปครับ ถึงแม้ว่าระบบออโต้โฟกัสอาจจะไม่ใช่จุดที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และหน้าจอที่เป็นแบบพับขึ้นอาจจะขัดใจคนที่ชอบต่อไมค์บนหัวกล้องไปบ้าง แต่ด้วยความสามารถรอบด้าน โดยเฉพาะฟีเจอร์ไลฟ์สตรีมมิ่ง G7 X Mark III ก็ยังคงเป็น กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่สายโซเชียลและคนที่ต้องการความครบเครื่องในขนาดพกพาไม่ควรมองข้ามครับ

คะแนนที่ได้

8.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เอาไปไลฟ์ขายของคือสะดวกมากครับ ภาพชัด เสียงดี ไม่ต้องต่อคอมให้วุ่นวายเลย” – วิน, อายุ 32
“เป็นกล้องเที่ยวตัวโปรดเลยค่ะ ตัวเล็กแต่ซูมได้เยอะดี ถ่ายคนก็สวย ถ่ายวิวก็ได้” – เมย์, อายุ 27


9. Panasonic Lumix G100 ★★★☆☆

“Vlog Camera ที่เน้นคุณภาพเสียงเป็นพิเศษ! ด้วยระบบ OZO Audio จาก Nokia”

Panasonic Lumix G100

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับ Vlogger ที่ให้ความสำคัญกับ “คุณภาพเสียง” มากเป็นพิเศษ และกำลังมองหาว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาตอบโจทย์ด้านเสียงได้ดีที่สุดโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริม Panasonic Lumix G100 คือคำตอบที่น่าสนใจมากครับ กล้อง Mirrorless ตัวนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีจุดขายหลักคือระบบเสียง OZO Audio by Nokia ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ไมโครโฟนถึง 3 ตัวในกล้องเพื่อจับทิศทางของเสียงได้อย่างชาญฉลาด มันสามารถปรับรูปแบบการรับเสียงได้หลายโหมด เช่น โหมดติดตาม (Tracking) ที่จะโฟกัสการรับเสียงไปที่บุคคลที่กล้องกำลังติดตามอยู่ หรือโหมดรอบทิศทาง (Surround) ทำให้เสียงที่ได้มีคุณภาพและมิติที่ดีเยี่ยมครับ

สเปกเด่น

  • เซ็นเซอร์: 20.3MP Micro Four Thirds Sensor
  • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K/30fps
  • ระบบเสียง: OZO Audio by Nokia (3 internal microphones)
  • หน้าจอ: 3-inch Vari-Angle Touchscreen
  • ช่องมองภาพ: 3.68m-dot Electronic Viewfinder
  • ฟีเจอร์เด่น: V-Log L pre-installed, Video Selfie Mode, 5-Axis Hybrid I.S.
  • เมาท์เลนส์: Micro Four Thirds (MFT)
จุดเด่น
  • ระบบเสียง OZO Audio by Nokia คุณภาพเยี่ยมและชาญฉลาด
  • มี V-Log L มาให้ในตัว ทำให้เกรดสีได้ยืดหยุ่น
  • ขนาดเล็กและเบาสำหรับกล้อง Mirrorless
  • มีช่องมองภาพ (EVF) ความละเอียดสูง
  • ระบบเลนส์ Micro Four Thirds มีขนาดเล็กและราคาไม่แพง
ข้อควรพิจารณา
  • การถ่าย 4K จะมีครอปค่อนข้างเยอะ
  • ระบบออโต้โฟกัสเป็นแบบ DFD (Contrast-based) ซึ่งอาจไม่เร็วเท่า Phase-detect
  • ไม่มีช่องเสียบหูฟังเพื่อมอนิเตอร์เสียง
  • กันสั่น 5 แกนทำงานเฉพาะในโหมดวิดีโอและเป็นแบบไฮบริด

รีวิวแบบเจาะลึก

Panasonic G100 ไม่ได้มีดีแค่เรื่องเสียงครับ ในด้านภาพมันก็ทำได้ดีเช่นกัน ด้วยเซ็นเซอร์ Micro Four Thirds ขนาด 20.3MP ทำให้ได้ไฟล์ที่มีคุณภาพดี และที่สำคัญคือมันมี V-Log L ติดตั้งมาให้จากโรงงานเลย ซึ่งเป็นโปรไฟล์สีแบบ Flat ที่ช่วยให้เราสามารถนำไฟล์วิดีโอไปเกรดสีได้อย่างยืดหยุ่นและดึง Dynamic Range ออกมาได้สูงสุด เป็นฟีเจอร์ที่ปกติแล้วจะต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่มในกล้องรุ่นอื่น ๆ ครับ นี่คือจุดที่ทำให้ G100 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากจะจริงจังกับการคุมโทนสีในวิดีโอของตัวเอง และเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคำถาม กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี สำหรับสายโปรดักชันครับ นอกจากนี้ยังมี Video Selfie Mode ที่จะปรับการตั้งค่าต่าง ๆ ให้เหมาะกับการถ่ายตัวเองโดยอัตโนมัติ เช่น เปิดรูรับแสงให้กว้างสุดเพื่อละลายหลัง และเปิด Face Detection AF ครับ

ในด้านการใช้งาน G100 เป็นกล้องที่เล็กและเบามากสำหรับกล้อง Mirrorless ที่มีช่องมองภาพในตัว ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ที่ให้มาก็มีความละเอียดสูงถึง 3.68 ล้านจุด ช่วยให้จัดองค์ประกอบภาพได้ง่ายแม้อยู่กลางแดดจ้า ๆ ครับ จอพับข้างก็เป็นแบบมาตรฐานที่ Vlogger ชื่นชอบ และตัวกล้องยังใช้เมาท์เลนส์แบบ Micro Four Thirds ซึ่งมีข้อดีคือระบบเลนส์มีขนาดเล็กและมีให้เลือกหลากหลายในราคาที่ไม่แพง ทำให้การสร้างชุดอุปกรณ์สำหรับทำ Vlog ไม่ใช้งบประมาณที่บานปลายเกินไปนัก ถึงแม้ว่าการถ่าย 4K จะมีการครอปภาพที่ค่อนข้างเยอะ (ซึ่งอาจต้องใช้เลนส์ที่กว้างขึ้นเพื่อชดเชย) และระบบออโต้โฟกัสอาจจะไม่ใช่จุดที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงและต้องการไฟล์วิดีโอที่ยืดหยุ่นสำหรับการเกรดสี G100 ก็ยังคงเป็น กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่มีเอกลักษณ์และน่าใช้งานมาก ๆ ตัวหนึ่งในตลาดครับ

คะแนนที่ได้

8.3/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เสียงดีมากครับ ไม่ต้องต่อไมค์เพิ่มเลย โหมดติดตามเสียงคือฉลาดสุด ๆ” – ก้อง, อายุ 31
“ชอบที่ให้ V-Log มาเลยค่ะ เอาไฟล์มาทำสีสนุกมาก ตัวกล้องก็เล็กดี พกพาง่าย” – นุ่น, อายุ 26


10. Insta360 One RS 4K Edition ★★★☆☆

“กล้อง Action Cam สุดยืดหยุ่น! ดีไซน์โมดูลาร์ อัปเกรดได้ในอนาคต”

Insta360 One RS 4K Edition

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ปิดท้ายลิสต์ กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี กันด้วยกล้องที่มีคอนเซ็ปต์น่าสนใจและยืดหยุ่นที่สุดตัวหนึ่งในตลาด นั่นก็คือ Insta360 One RS ครับ ความเจ๋งของกล้องตัวนี้อยู่ที่ “ดีไซน์แบบโมดูลาร์” ที่ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือ ส่วนแบตเตอรี่, ส่วนแกนประมวลผล (Core), และส่วนเลนส์ ซึ่งเราสามารถถอดสลับและอัปเกรดได้ครับ สำหรับชุด 4K Edition ที่เรานำมาแนะนำนี้ จะมาพร้อมกับเลนส์ 4K Boost Lens ซึ่งให้คุณภาพวิดีโอ 4K/60fps ที่คมชัดและสีสันสดใส เหมาะสำหรับงาน Vlog และงานแอ็กชันทั่วไปครับ

สเปกเด่น

  • ดีไซน์: Modular Design (Core, Battery, Lens)
  • เลนส์ (ในชุดนี้): 4K Boost Lens
  • ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K/60fps, 6K Widescreen Mode
  • ระบบกันสั่น: FlowState Stabilization (in-camera or post)
  • หน้าจอ: Reversible Touchscreen
  • ฟีเจอร์เด่น: Active HDR, Instant Zoom, Quick Menu
  • การกันน้ำ: 5 เมตร (เมื่อประกอบสมบูรณ์)
จุดเด่น
  • ดีไซน์โมดูลาร์ ยืดหยุ่นและอัปเกรดได้ในอนาคต
  • สามารถเปลี่ยนไปใช้เลนส์ 360 หรือเลนส์ 1-inch ได้
  • กันสั่น FlowState ทำงานได้ดีและนิ่งนวล
  • มีโหมด 6K Widescreen ให้มุมมองแบบภาพยนตร์
  • แอป Insta360 มีฟีเจอร์ตัดต่อ AI ที่หลากหลายและใช้งานสนุก
ข้อควรพิจารณา
  • หน้าจอมีขนาดค่อนข้างเล็ก
  • การถอดประกอบโมดูลอาจจะไม่สะดวกเท่ากล้องแบบชิ้นเดียว
  • คุณภาพเสียงจากไมค์ในตัวยังไม่โดดเด่น
  • ต้องซื้อโมดูลเลนส์อื่น ๆ เพิ่มหากต้องการใช้งานความสามารถอื่น

รีวิวแบบเจาะลึก

หัวใจของ Insta360 One RS คือ “ความสามารถในการปรับเปลี่ยน” ครับ วันนี้เราอาจจะเริ่มต้นด้วย 4K Boost Lens สำหรับถ่าย Vlog ทั่วไป แต่ในอนาคตถ้าเราอยากจะลองถ่ายวิดีโอ 360 องศา เราก็แค่ซื้อโมดูล 360 Lens มาสลับเปลี่ยน หรือถ้าอยากได้คุณภาพไฟล์ระดับสูงสุด ก็สามารถอัปเกรดไปใช้ 1-Inch Wide Angle Lens ที่พัฒนาร่วมกับ Leica ได้เช่นกัน โดยที่เรายังคงใช้ Core และ Battery เดิมได้ นี่คือความยืดหยุ่นที่ไม่มีกล้องตัวไหนให้ได้ และเป็นคำตอบที่น่าสนใจสำหรับคำถาม กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี สำหรับคนที่ไม่ต้องการซื้อกล้องใหม่บ่อย ๆ ครับ ในส่วนของ 4K Boost Lens เองก็มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง Active HDR ที่ช่วยเก็บรายละเอียดทั้งในส่วนมืดและส่วนสว่างของภาพได้ดีขึ้น และยังมีโหมด 6K Widescreen ที่ให้ภาพอัตราส่วน 2.35:1 เหมือนในโรงภาพยนตร์ เหมาะกับการสร้างสรรค์วิดีโอที่ต้องการอารมณ์แบบ Cinematic ครับ

ในด้านการใช้งาน ตัว Core หรือแกนประมวลผลจะมีหน้าจอสัมผัสที่เราสามารถกลับด้านได้ ทำให้เรามองเห็นตัวเองเวลาถ่าย Vlog ได้สะดวก ระบบกันสั่น FlowState ก็ทำงานได้ดีเยี่ยม ทำให้วิดีโอที่ได้นิ่งและลื่นไหล และเมื่อประกอบร่างกันสมบูรณ์แล้ว ตัวกล้องจะสามารถกันน้ำได้ลึก 5 เมตรโดยไม่ต้องใส่เคสครับ แต่จุดที่ทำให้ Insta360 โดดเด่นเสมอมาคือซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันครับ แอป Insta360 มีเครื่องมือตัดต่อที่ขับเคลื่อนด้วย AI มากมาย เช่น Shot Lab ที่มีเทมเพลตเอฟเฟกต์เจ๋ง ๆ ให้เลือกใช้เยอะมาก หรือ FlashCut ที่ช่วยตัดต่อวิดีโอให้เราโดยอัตโนมัติ ทำให้การสร้างสรรค์วิดีโอสนุก ๆ เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วครับ ถึงแม้ว่าหน้าจอจะเล็กไปหน่อยและการใช้งานอาจจะหลายขั้นตอนกว่ากล้องทั่วไป แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบลองอะไรใหม่ ๆ ชอบความยืดหยุ่น และอยากได้กล้องที่สามารถเติบโตไปพร้อมกับสกิลของคุณได้ Insta360 One RS ก็คือ กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่จะเปิดโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ให้กับคุณได้อย่างแน่นอนครับ

คะแนนที่ได้

8.1/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ชอบที่มันเปลี่ยนเลนส์ได้ครับ เหมือนมีกล้องหลายตัวในตัวเดียว ตอนนี้ใช้ 4K อยู่ แต่อนาคตว่าจะจัดเลนส์ 360 มาลองเล่นดู” – พีท, อายุ 28
“แอปตัดต่อสนุกมากค่ะ มีเอฟเฟกต์ให้เล่นเยอะดี ทำให้คลิปเราดูไม่น่าเบื่อ” – ฟ้า, อายุ 23


มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านกล้องและวิดีโอ

จากการวิเคราะห์ตลาดกล้องในปี 2025 โดยเว็บไซต์รีวิวชั้นนำอย่าง DPReview และ TechRadar ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ตลาดกล้องสำหรับ Vlogger กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้ผลิตไม่ได้แข่งกันที่คุณภาพของภาพเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่กำลังมุ่งเน้นไปที่ “ประสบการณ์การใช้งาน (User Experience)” และ “ฟีเจอร์อัจฉริยะ (Smart Features)” ที่ช่วยลดความซับซ้อนในการสร้างสรรค์ผลงาน

“ผู้สร้างคอนเทนต์ยุคใหม่ต้องการเครื่องมือที่ทรงพลังแต่ใช้งานง่าย พวกเขาไม่ต้องการเสียเวลาไปกับการตั้งค่าที่ซับซ้อน แต่อยากจะโฟกัสไปที่การเล่าเรื่องของตัวเองมากกว่า กล้องที่สามารถคิดแทนผู้ใช้ได้ในระดับหนึ่ง เช่น การโฟกัสอัตโนมัติที่ชาญฉลาด การกันสั่นที่ไว้ใจได้ หรือแม้แต่การช่วยตัดต่อด้วย AI จะเป็นผู้ชนะในตลาดนี้”

บทวิเคราะห์จากทีมงาน TechRadar ยังชี้ให้เห็นถึงเทรนด์สำคัญ 3 ประการที่กำหนดทิศทางของคำถามว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ในปัจจุบัน

เทรนด์สำคัญในตลาดกล้อง Vlog ปี 2025

  • Hybrid is the New Norm: กล้องที่ดีสำหรับ Vlogger ต้องทำได้ดีทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง รวมถึงสามารถสลับการถ่ายทำระหว่างแนวนอนและแนวตั้งได้อย่างราบรื่น เพื่อรองรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่หลากหลาย
  • The Rise of Computational Video: การใช้พลังการประมวลผลและ AI เพื่อปรับปรุงคุณภาพวิดีโอแบบเรียลไทม์กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Active HDR, การลด Noise อัจฉริยะ หรือการสร้างเอฟเฟกต์โบเก้จำลองที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • Audio is King: ผู้ผลิตกล้องหันมาให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงจากไมโครโฟนในตัวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีการนำเทคโนโลยีอย่าง Beamforming หรือการใช้ AI เพื่อแยกเสียงพูดออกจากเสียงรบกวนมาใช้ ซึ่งช่วยให้ Vlogger ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริมเสมอไป

บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS

“การเลือก กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ในปี 2025 ไม่ใช่แค่การเปรียบเทียบสเปกบนกระดาษอีกต่อไป แต่เป็นการเลือก ‘คู่หู’ ที่เข้าใจสไตล์การทำงานของเรามากที่สุด สำหรับมือใหม่ ความง่ายและครบเครื่องในตัวเดียวอย่าง DJI Pocket 3 หรือ Canon V10 อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุด แต่สำหรับคนที่ต้องการเติบโตและควบคุมทุกอย่างได้ดั่งใจ กล้อง Mirrorless อย่าง Nikon Z30 หรือ Canon R50 ก็จะเปิดประตูสู่ความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด สิ่งสำคัญคือต้องถามตัวเองว่า ‘สไตล์ของเราเป็นแบบไหน’ และ ‘อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเล่าเรื่องของเรา’ แล้วคำตอบก็จะชัดเจนขึ้นมาเองครับ”


เคล็ดลับการเลือกซื้อ กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ให้โดนใจ

กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี พร้อมอุปกรณ์เสริมจัดวางบนโต๊ะ
การจะตัดสินใจว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี อาจจะดูน่าปวดหัว แต่ถ้าเรามีเช็กลิสต์ในใจ มันจะง่ายขึ้นเยอะเลยครับ ลองใช้เคล็ดลับเหล่านี้ดูนะครับ

  1. รู้จักสไตล์ของตัวเองก่อน: คุณเป็นสายไหน? สายลุย (Action Cam), สายเที่ยวคาเฟ่ (Compact), หรือสายจริงจังอยากได้ไฟล์สวย (Mirrorless)? การรู้สไตล์ของตัวเองจะช่วยจำกัดตัวเลือกให้แคบลงได้มากครับ
  2. ระบบกันสั่นคือหัวใจ: สำหรับงาน Vlog ภาพที่นิ่งและสมูทสำคัญมาก ๆ ถ้าคุณเดินถ่ายบ่อย ๆ กล้องที่มีกิมบอลในตัวอย่าง DJI Pocket 3 จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่ถ้าเน้นกิจกรรมหนัก ๆ กันสั่นแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EIS) ใน Action Cam อย่าง GoPro หรือ Insta360 ก็ทำได้ดีเยี่ยมครับ
  3. อย่ามองข้ามเรื่องเสียง: คนดูอาจจะทนดูภาพไม่สวยได้ แต่ทนฟังเสียงแย่ ๆ ไม่ได้นานครับ ลองพิจารณากล้องที่มีไมค์ในตัวคุณภาพดี หรือมีช่องต่อไมค์ภายนอก (3.5mm Jack) เพื่อการอัปเกรดในอนาคต
  4. จอต้องพับได้: การมีจอที่พับมาด้านหน้าได้ (ไม่ว่าจะพับข้างหรือพับขึ้น) เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ Vlogger เพราะมันทำให้เราจัดองค์ประกอบและเห็นหน้าตาตัวเองตอนพูดได้สะดวกมาก ๆ
  5. ขนาดและน้ำหนัก: คุณจะพกมันไปกับคุณทุกวันหรือเปล่า? ถ้าใช่ กล้องที่เล็กและเบาจะทำให้คุณอยากหยิบมันขึ้นมาถ่ายบ่อยกว่ากล้องที่ใหญ่และหนักครับ
  6. ระบบออโต้โฟกัส: เลือกกล้องที่มีระบบ AF ที่รวดเร็วและมีระบบตรวจจับใบหน้าหรือดวงตา (Face/Eye Detection) ที่ไว้ใจได้ จะช่วยลดปัญหาโฟกัสหลุดไปได้เยอะมาก
  7. ดู Ecosystem และอุปกรณ์เสริม: กล้องบางตัวมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกเล่นเยอะมาก ซึ่งสามารถช่วยยกระดับงานของเราได้ในอนาคต ลองดูว่าแบรนด์ที่คุณสนใจมีเลนส์หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์สไตล์ของคุณหรือไม่

กันสั่นแบบไหนที่ใช่สำหรับ Vlogger? Gimbal vs EIS

หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือก กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี คือระบบกันสั่น ซึ่งหลัก ๆ แล้วมีอยู่ 2 ประเภทคือ

  • Gimbal (Mechanical Stabilization): เป็นการใช้มอเตอร์ 3 แกนในการขยับตัวกล้องเพื่อหักล้างการสั่นไหวโดยตรง ให้ผลลัพธ์ที่นิ่งและเป็นธรรมชาติที่สุด เหมือนภาพยนตร์เลยครับ เหมาะมากกับการเดินถ่าย พูดคุย หรือการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ DJI Osmo Pocket 3
  • EIS (Electronic Image Stabilization): เป็นการใช้ซอฟต์แวร์ครอปภาพจากเซ็นเซอร์เล็กน้อยแล้วเลื่อนภาพไปมาเพื่อชดเชยการสั่นไหว ซึ่งพัฒนามาไกลมากจนนิ่งเนียนสุด ๆ ในกล้องรุ่นใหม่ ๆ ข้อดีคือทนทานกว่าเพราะไม่มีชิ้นส่วนที่ขยับได้ เหมาะกับกิจกรรมหนัก ๆ หรือกีฬาเอ็กซ์ตรีม พบได้ในกล้อง Action Cam เช่น GoPro HERO13 และ Insta360 Ace Pro 2

สรุปง่าย ๆ: ถ้าคุณเน้นถ่าย Vlog ในชีวิตประจำวัน เดินเที่ยว พูดคุย กิมบอลจะให้ภาพที่ดูโปรและสบายตากว่า แต่ถ้าคุณเป็นสายลุย ชอบกิจกรรมผจญภัย EIS คือเพื่อนแท้ที่ไว้ใจได้ครับ


ความสำคัญของเสียงในงาน Vlog: ไมค์ในตัว vs ไมค์นอก

เสียงคือครึ่งหนึ่งของชีวิตวิดีโอที่ดีครับ! การเลือก กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี จึงต้องพิจารณาเรื่องเสียงอย่างจริงจัง

  • ไมโครโฟนในตัว (Built-in Mic): ในปัจจุบัน ไมค์ติดกล้องพัฒนาไปมาก โดยเฉพาะในกล้องที่ออกแบบมาเพื่อ Vlog อย่าง Sony ZV-1 หรือ Panasonic G100 ที่มีไมค์หลายตัวและใช้เทคโนโลยีช่วยจับทิศทางเสียง ซึ่งเพียงพอสำหรับ Vlog ทั่วไปในสภาพแวดล้อมที่ไม่เสียงดังเกินไป
  • ไมโครโฟนภายนอก (External Mic): เพื่อคุณภาพเสียงระดับโปร การใช้ไมค์นอกเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ กล้องที่มีช่องเสียบไมค์ 3.5mm เช่น Nikon Z30 หรือ Canon G7 X Mark III จะให้ความยืดหยุ่นสูงสุด เราสามารถต่อไมค์ Shotgun เพื่อรับเสียงพูดให้คมชัด หรือใช้ ไมค์ลอยไร้สาย เพื่อความคล่องตัวเวลาอยู่ห่างจากกล้องได้

คำแนะนำ: เริ่มต้นจากไมค์ในตัวของกล้องก่อน แล้วเมื่อคุณเริ่มจริงจังและอยากยกระดับคุณภาพ การลงทุนกับไมโครโฟนดี ๆ สักตัวจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดครับ


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

กล้องถ่าย Vlog ยี่ห้อไหนดี ตั้งอยู่ด้านหน้าฉากพื้นหลังสีน้ำเงิน พร้อมหน้าจอพับและไมโครโฟน

  • ถาม: สำหรับมือใหม่ที่งบไม่เกิน 20,000 บาท ควรเลือกกล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี?
    ตอบ: ในงบนี้ Canon PowerShot V10 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ เพราะครบเครื่องในตัวเดียวทั้งขาตั้งและไมค์คุณภาพดี หรืออาจจะมองหากล้อง Action Cam รุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย ซึ่งยังคงให้คุณภาพที่ดีในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้นครับ
  • ถาม: ถ่ายวิดีโอ 4K จำเป็นสำหรับ Vlog ไหม?
    ตอบ: ในปี 2025 นี้ 4K ถือเป็นมาตรฐานใหม่แล้วครับ การถ่ายด้วย 4K ทำให้วิดีโอของเราดูคมชัดและทันสมัย และยังให้ความยืดหยุ่นในการครอปหรือซูมเข้าไปในวิดีโอโดยไม่เสียคุณภาพมากนัก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ควรเลือกกล้องที่ถ่าย 4K ได้ครับ
  • ถาม: ระหว่างกล้องคอมแพคกับกล้อง Mirrorless เลือกอะไรดี?
    ตอบ: ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณครับ ถ้าต้องการความง่าย พกพาสะดวก และจบในตัว กล้องคอมแพคอย่าง Sony ZV-1 คือคำตอบ แต่ถ้าคุณต้องการคุณภาพไฟล์ที่ดีที่สุด ต้องการละลายหลังสวย ๆ และอยากจะเรียนรู้การถ่ายภาพ/วิดีโออย่างจริงจัง การลงทุนกับกล้อง Mirrorless ที่เปลี่ยนเลนส์ได้อย่าง Nikon Z30 จะเป็นการเปิดโลกที่กว้างกว่าในระยะยาวครับ
  • ถาม: ต้องใช้อุปกรณ์อะไรอีกบ้างนอกเหนือจากกล้อง?
    ตอบ: อุปกรณ์พื้นฐานที่ควรมีคือ เมมโมรี่การ์ดความเร็วสูง (V30 ขึ้นไปสำหรับ 4K), แบตเตอรี่สำรอง, และขาตั้งกล้อง (Tripod) ขนาดเล็กครับ ส่วนไมโครโฟนภายนอกและไฟพกพาเป็นสิ่งที่สามารถลงทุนเพิ่มได้ในอนาคตเพื่อยกระดับคุณภาพงานครับ

บทสรุปส่งท้าย: เลือกกล้องที่ใช่ แล้วออกไปเล่าเรื่องของคุณ!

มาถึงตรงนี้ ผมหวังว่าเพื่อน ๆ น่าจะได้คำตอบในใจกันบ้างแล้วนะครับว่า กล้องถ่าย vlog ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาเป็นคู่หูคนใหม่ของคุณในปี 2025 นี้ จะเห็นได้ว่าตลาดกล้องในปัจจุบันมีความหลากหลายและน่าตื่นเต้นมาก ๆ มีตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกงบประมาณอย่างแท้จริง

ถ้าคุณคือ Vlogger ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบในขนาดพกพา ต้องการภาพที่นิ่งราวกับมืออาชีพโดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้วุ่นวาย DJI Osmo Pocket 3 คือผู้ชนะที่ชัดเจนที่สุด แต่ถ้าคุณเป็นสายลุยที่ต้องการความทนทานและฟีเจอร์ AI สุดล้ำ Insta360 Ace Pro 2 ก็พร้อมจะไปกับคุณทุกที่ สำหรับมือใหม่ที่อยากได้ความง่ายแบบ “ตัวเดียวจบ” Canon PowerShot V10 ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม และสำหรับคนที่พร้อมจะก้าวไปอีกขั้นสู่โลกของกล้อง Mirrorless เพื่อคุณภาพไฟล์และความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด Nikon Z30 และ Sony ZV-1 ก็รอให้คุณไปปลดปล่อยศักยภาพอยู่ครับ

สุดท้ายนี้ ไม่มีกล้องตัวไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่จะมีกล้องที่ “ใช่ที่สุด” สำหรับเราเสมอครับ สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่การมีกล้องที่แพงที่สุด แต่คือการมีกล้องที่ทำให้เราอยากจะหยิบมันออกไปใช้งานบ่อยที่สุด ขอให้เพื่อน ๆ สนุกกับการเลือกกล้องคู่ใจ และมีความสุขกับการสร้างสรรค์ผลงาน บอกเล่าเรื่องราวในสไตล์ของตัวเองนะครับ!

กล้องถ่าย Vlog ยี่ห้อไหนดี ที่มาพร้อมหน้าจอพับได้และไมโครโฟนภายนอก


หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • รายละเอียดสเปก, ฟีเจอร์, และราคาของกล้องแต่ละรุ่น อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของแบรนด์ เช่น DJI, Insta360, Canon, GoPro, Nikon, Sony, และ Panasonic หรือตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้อีกครั้ง
  • คะแนน (เช่น 9.8/10 หรือ 8.8/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากสเปก, ฟีเจอร์ที่เหมาะกับงาน Vlog, นวัตกรรม, ราคา, และรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม
  • รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “นนท์, อายุ 28” หรือ “ฝ้าย, อายุ 31”) เป็นตัวอย่างที่เรียบเรียงขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานในมุมมองที่หลากหลายเท่านั้น
  • บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูล ณ ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 เพื่อคาดการณ์สำหรับปี 2025 คุณสมบัติบางอย่างอาจมีการอัปเดตผ่านเฟิร์มแวร์ในอนาคต

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ขอบพระคุณครับ