บทนำ
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ! อากาศร้อน ๆ แบบบ้านเรานี่ ถ้าได้เครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบชื่นใจสักแก้วคงจะดีไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ แล้วหัวใจสำคัญของเครื่องดื่มเย็น ๆ ก็หนีไม่พ้น “น้ำแข็ง” นี่แหละครับ หลายคนอาจจะยังใช้พิมพ์น้ำแข็งในช่องฟรีซของตู้เย็น 2 ประตูกันอยู่ ซึ่งก็ใช้ได้แหละครับ แต่บางทีมันไม่ทันใจเอาซะเลย ยิ่งเวลาจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่บ้านหรืออยากได้น้ำแข็งมาใส่เครื่องดื่มตอนดูหนังฟังเพลง น้ำแข็งหมดกลางคันนี่เซ็งสุด ๆ เลยครับ วันนี้ผมเลยจะมาชวนคุยกันในหัวข้อที่หลายคนกำลังหาข้อมูลกันอยู่ว่า เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาเป็นฮีโร่ประจำบ้านเราในปี 2025 นี้ครับ
การมีเครื่องทำน้ำแข็งดี ๆ สักเครื่องติดบ้านไว้นี่มันสะดวกสบายกว่าที่คิดเยอะเลยนะครับ แค่เติมน้ำ กดปุ่ม รอไม่กี่นาที ก็ได้น้ำแข็งก้อนสวย ๆ มาใช้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาแกะออกจากพิมพ์ ไม่ต้องทุบให้เมื่อยมือ และที่สำคัญคือสะอาดปลอดภัยกว่าการซื้อน้ำแข็งถุงแน่นอนครับ ในบทความนี้ ผมเลยตั้งใจคัดเอาเครื่องทำน้ำแข็งตัวเด็ด ๆ ที่กำลังมาแรงมารีวิวให้เพื่อน ๆ ดูกันแบบจัดเต็มถึง 10 รุ่น ไล่ไปตั้งแต่รุ่นเล็กสเปกคุ้มค่า ไปจนถึงรุ่นใหญ่ที่ผลิตน้ำแข็งได้รัว ๆ สำหรับสายปาร์ตี้โดยเฉพาะ บอกเลยว่าแต่ละตัวมีทีเด็ดไม่แพ้กันเลยครับ
สำหรับใครที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเลือก เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี บทความนี้มีคำตอบให้แน่นอนครับ ผมจะพาไปเจาะลึกทุกรายละเอียด ตั้งแต่ความเร็วในการผลิต, รูปทรงของน้ำแข็ง, ฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ไปจนถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละรุ่น พร้อมมีตารางเปรียบเทียบสเปกให้เห็นภาพรวมกันแบบชัด ๆ ก่อนตัดสินใจ รับรองว่าอ่านจบแล้ว เพื่อน ๆ จะต้องเจอเครื่องทำน้ำแข็งที่ใช่! และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้อย่างแน่นอนครับ ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ไปดูตารางสรุปกันก่อนเลยดีกว่าครับ!
จัดอันดับ 10 เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2025
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังสงสัยว่า เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะเหมาะกับบ้านของเราที่สุด ลองมาดูภาพรวมจากตารางเปรียบเทียบฉบับย่อที่ผมสรุปมาให้ดูกันก่อนได้เลยครับ ตารางนี้จะช่วยให้เห็นจุดเด่นและสเปกหลัก ๆ ของแต่ละรุ่นได้ง่ายขึ้น จากนั้นค่อยเลื่อนลงไปอ่านรีวิวฉบับเจาะลึกของแต่ละอันดับกันต่อได้เลยครับ
1. SmartTek Ice Maker ★★★★★
“ตัวจบเรื่องน้ำแข็ง! เร็ว แรง ครบเครื่องด้วยระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ ตอบโจทย์ทุกบ้าน สายปาร์ตี้ต้องมี”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้าจะให้ตอบคำถามว่า เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่เป็นเหมือน ‘ออลราวน์เดอร์’ ยืนหนึ่งในใจผมปีนี้ ต้องยกให้ SmartTek Ice Maker เลยครับเพื่อน ๆ รุ่นนี้มันตอบโจทย์ครบจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่ชอบดื่มน้ำเย็น ๆ, สายปาร์ตี้ที่น้ำแข็งต้องพร้อมเสมอ หรือแม้แต่ร้านกาแฟเล็ก ๆ ก็ยังเอาอยู่ครับ จุดเด่นที่สุดของเขาเลยคือความเร็วในการผลิตน้ำแข็งที่ทำได้ในเวลาแค่ 6-9 นาทีต่อรอบ (9 ก้อน) แถมยังผลิตต่อเนื่องได้ถึง 15 กิโลกรัมภายใน 24 ชั่วโมง บอกเลยว่าเหลือเฟือสุด ๆ ที่สำคัญคือมีระบบ Self-Cleaning หรือทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติมาให้ด้วย แค่กดปุ่มเดียวเครื่องก็จะล้างภายในให้สะอาดหมดจด ลดภาระการดูแลรักษาไปได้เยอะเลยครับ
สเปกเด่น
- กำลังการผลิต: 15 กิโลกรัม / 24 ชั่วโมง
- ความเร็วในการผลิต: 6-9 นาที / รอบ (9 ก้อน)
- ความจุถังน้ำ: 1.8 ลิตร
- รูปทรงน้ำแข็ง: ทรงหัวกระสุน (Bullet Shape)
- ฟังก์ชันพิเศษ: ระบบทำความสะอาดตัวเอง (Self-Cleaning), เซนเซอร์ตรวจจับน้ำแข็งเต็มและน้ำหมด
- สารทำความเย็น: R600a (เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม)
รีวิวแบบเจาะลึก
มาเจาะลึกกันต่อเลยครับว่าทำไม SmartTek รุ่นนี้ถึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคำถามที่ว่า เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี เริ่มจากเรื่องประสิทธิภาพกันก่อนเลยครับ หัวใจหลักของเครื่องนี้คือคอมเพรสเซอร์คุณภาพสูงที่ใช้สารทำความเย็น R600a ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำความเย็นได้เร็ว แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย การทำงานของมันคือจะปั๊มน้ำขึ้นไปหล่อเลี้ยงแกนทำความเย็น 9 แท่ง พอน้ำเริ่มจับตัวเป็นน้ำแข็งตามขนาดที่พอเหมาะ (ซึ่งเราเลือกได้ 2 ขนาด เล็ก/ใหญ่) เครื่องก็จะปล่อยความร้อนออกมาเล็กน้อยเพื่อให้น้ำแข็งหลุดออกจากแกน แล้วก็ตกลงไปในตะกร้าเก็บน้ำแข็งครับ กระบวนการทั้งหมดนี้ใช้เวลาแค่ 6-9 นาทีเท่านั้นเอง ซึ่งถือว่าเร็วมาก ๆ ครับ สำหรับการใช้งานจริง ผมลองจับเวลาดู แค่ครึ่งชั่วโมงก็ได้น้ำแข็งมาเกือบเต็มตะกร้าแล้ว สบาย ๆ สำหรับการชงกาแฟเย็นหรือเติมเครื่องดื่มให้คนในบ้าน 4-5 คนเลยครับ พอได้น้ำแข็งมาแล้วก็เอาไปใส่ แก้วเก็บความเย็น คู่ใจ รับรองว่าเย็นชื่นใจไปได้ทั้งวันแน่นอนครับ
อีกหนึ่งความฉลาดที่ผมชอบมาก ๆ ของเจ้า SmartTek คือระบบเซนเซอร์อินฟราเรดครับ มันจะคอยตรวจจับอยู่ตลอดเวลาว่าตะกร้าเก็บน้ำแข็งเต็มหรือยัง หรือน้ำในถังหมดแล้วหรือยัง ถ้าตะกร้าเต็มเครื่องก็จะหยุดผลิตชั่วคราว พอเราตักน้ำแข็งออกไปใช้ มันก็จะเริ่มทำงานต่อเองอัตโนมัติ หรือถ้าน้ำหมด ไฟสถานะก็จะแจ้งเตือนให้เราเติมน้ำทันที เป็นฟีเจอร์เล็ก ๆ ที่ช่วยให้เราไม่ต้องมาคอยนั่งเฝ้าเลยครับ ส่วนเรื่องการดีไซน์ก็ทำออกมาได้ดี ตัวเครื่องดูโมเดิร์น มีช่องหน้าต่างใสบานใหญ่ให้เรามองดูปริมาณน้ำแข็งข้างในได้สะดวก ปุ่มควบคุมก็เข้าใจง่าย มีไฟ LED บอกสถานะชัดเจน และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือฟังก์ชัน Self-Cleaning ที่ทำให้การล้างเครื่องกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลยครับ แค่ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชูหรือน้ำยาล้างเครื่องทำน้ำแข็งเล็กน้อย กดปุ่มค้างไว้ 5 วินาที เครื่องก็จะปั๊มน้ำล้างวนภายในให้เองจนสะอาดครับ นี่แหละครับคือเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับคำถาม “เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี” ในยุคนี้ครับ
คะแนนที่ได้
9.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อมาใช้ที่ร้านกาแฟเล็กๆ ลูกค้าชอบมากครับ น้ำแข็งสะอาด ทำทันใช้ตลอดวันเลย” – เอก, อายุ 35
“ที่บ้านจัดปาร์ตี้บ่อย ตัวนี้เอาอยู่จริงๆ ค่ะ ระบบล้างตัวเองคือดีงามมาก ไม่ต้องขัดให้เหนื่อย” – พลอย, อายุ 29
2. Rabbit ICE HZB-12C ★★★★★
“กระต่ายน้อยจอมพลัง! เงียบกริบ ผลิตน้ำแข็งไว เลือกขนาดได้ ดีไซน์น่ารักลงตัว”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
มาต่อกันที่อันดับสอง กับเจ้ากระต่ายน้อย Rabbit ICE HZB-12C ที่ไม่ได้มีดีแค่ชื่อและหน้าตาที่น่ารักนะครับเพื่อน ๆ แต่ประสิทธิภาพของมันนี่ร้ายกาจไม่เบาเลยทีเดียว สำหรับใครที่กำลังมองหา เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นการทำงานที่เงียบสงบ ไม่รบกวนบรรยากาศในบ้านหรือคอนโด รุ่นนี้คือคำตอบเลยครับ ด้วยระดับเสียงตอนทำงานแค่ประมาณ 40 เดซิเบลเท่านั้นเอง แทบจะไม่ได้ยินเสียงคอมเพรสเซอร์ทำงานเลยครับ ทำให้เราสามารถวางไว้ในห้องนั่งเล่นหรือเคาน์เตอร์ครัวแบบเปิดได้โดยไม่รู้สึกรำคาญ แต่ถึงจะเงียบขนาดนี้ ความเร็วในการผลิตก็ไม่ได้ด้อยเลยนะครับ สามารถผลิตน้ำแข็งทรงหัวกระสุนสวย ๆ ได้ 9 ก้อนในเวลา 8-10 นาที และทำได้สูงสุดถึง 15 กิโลกรัมใน 24 ชั่วโมง เรียกว่าเป็นม้ามืดที่ครบเครื่องอีกตัวเลยครับ
สเปกเด่น
- กำลังการผลิต: 15 กิโลกรัม / 24 ชั่วโมง
- ระดับเสียง: ประมาณ 40 dB
- รูปทรงน้ำแข็ง: ทรงหัวกระสุน (Bullet Shape) เลือกได้ 2 ขนาด (เล็ก/ใหญ่)
- ความจุถังน้ำ: 2.2 ลิตร
- ระบบระบายความร้อน: พัดลมประสิทธิภาพสูง
- วัสดุ: ABS Food Grade ปลอดภัย
รีวิวแบบเจาะลึก
สิ่งที่ทำให้ Rabbit ICE HZB-12C แตกต่างและน่าสนใจ ก็คือความสามารถในการเลือกขนาดน้ำแข็งได้ 2 ไซส์ครับ (เล็ก/ใหญ่) ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายมาก ๆ ถ้าวันไหนอยากได้น้ำแข็งมาปั่นสมูทตี้ หรือใส่ในเครื่องปั่น ก็เลือกก้อนเล็กได้เลย มันจะช่วยให้ปั่นง่ายขึ้นและไม่ทำร้ายใบมีด แต่ถ้าอยากได้น้ำแข็งมาใส่เครื่องดื่มแก้วโปรดให้อยู่ได้นาน ๆ ก็เลือกก้อนใหญ่ครับ มันจะละลายช้ากว่า ทำให้เครื่องดื่มของเราไม่เสียรสชาติเร็วเกินไปครับ การควบคุมก็ง่ายแสนง่ายผ่านปุ่มไม่กี่ปุ่มบนตัวเครื่อง มีไฟบอกสถานะครบถ้วนเหมือนรุ่นท็อป ๆ เลยครับ ทั้งไฟ Power, ไฟเตือนน้ำแข็งเต็ม, และไฟเตือนให้เติมน้ำ ทำให้มือใหม่ก็ใช้งานได้สบาย ๆ ไม่ต้องกังวลเลยครับ
ในส่วนของโครงสร้างและการระบายความร้อน Rabbit ICE ทำได้ดีมากครับ ตัวเครื่องใช้วัสดุ ABS ที่เป็น Food Grade ทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัย และมีพัดลมระบายความร้อนขนาดใหญ่ที่ทำงานร่วมกับช่องระบายอากาศด้านข้าง ช่วยให้คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานหนักเกินไปแม้จะเปิดใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้ครับ ถังเก็บน้ำก็มีความจุถึง 2.2 ลิตร เติมครั้งเดียวก็ผลิตน้ำแข็งได้หลายรอบเลยครับ แม้ว่าจะไม่มีระบบล้างตัวเองมาให้เหมือนอันดับแรก แต่การทำความสะอาดก็ไม่ได้ยุ่งยากเลยครับ แค่ถอดตะกร้าออกมาล้าง แล้วใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดภายในก็เรียบร้อย ด้วยความเงียบ ความเร็ว และความสามารถในการปรับขนาดน้ำแข็งได้ ทำให้ Rabbit ICE เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ถามว่า เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี สำหรับการใช้งานในบ้านอย่างแท้จริงครับ
คะแนนที่ได้
9.6/10
รีวิวสั้น ๆ
“เครื่องเงียบมากค่ะ วางไว้ตรงเคาน์เตอร์ครัวไม่รู้สึกรำคาญเลย ชอบที่เลือกขนาดน้ำแข็งได้ด้วย” – ฝน, อายุ 31
“ดีไซน์น่ารัก ขนาดกำลังดีเลยครับ เหมาะกับคอนโดมาก ผลิตน้ำแข็งได้เร็วกว่าที่คิดไว้เยอะ” – ท็อป, อายุ 28
3. Alectric IC-A12 ★★★★☆
“คุ้มค่าตัวท็อป! สำหรับผู้เริ่มต้น ใช้งานง่าย ฟังก์ชันครบ น้ำแข็งพร้อมใช้ในไม่กี่นาที”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับเพื่อน ๆ ที่เป็นมือใหม่เพิ่งเข้าวงการเครื่องทำน้ำแข็ง หรือกำลังมองหา เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่ราคาเป็นมิตร แต่ฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐานครบครัน ผมขอแนะนำ Alectric IC-A12 จากแบรนด์ในเครือ Topvalue เลยครับ รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก ๆ ได้ทั้งความเร็วในการผลิตน้ำแข็งที่ไม่แพ้รุ่นใหญ่ ๆ (ประมาณ 8-10 นาทีต่อรอบ) และมีกำลังการผลิตต่อวันที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในครอบครัว (12 กิโลกรัม / 24 ชั่วโมง) การออกแบบเน้นความเรียบง่าย ใช้งานสะดวก มีแผงควบคุมที่เข้าใจง่ายและไฟแจ้งเตือนสถานะที่จำเป็นครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นไฟแสดงสถานะการทำงาน, ไฟเตือนน้ำแข็งเต็ม, หรือไฟเตือนน้ำหมด ทำให้แม้แต่คนที่ไม่เคยใช้มาก่อนก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันทีครับ
สเปกเด่น
- กำลังการผลิต: 12 กิโลกรัม / 24 ชั่วโมง
- ความเร็วในการผลิต: 8-10 นาที / รอบ (9 ก้อน)
- ความจุถังน้ำ: 1.5 ลิตร
- ความจุตะกร้าน้ำแข็ง: 0.6 กิโลกรัม
- ระบบแจ้งเตือน: เซนเซอร์ตรวจจับน้ำแข็งเต็มและน้ำหมด พร้อมไฟ LED
- ขนาดเครื่อง: 22.2 x 29.4 x 29.0 ซม.
รีวิวแบบเจาะลึก
จุดที่ทำให้ Alectric IC-A12 โดดเด่นในกลุ่มราคาประหยัดคือความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพครับ แม้ว่ากำลังการผลิตต่อวันจะอยู่ที่ 12 กิโลกรัม ซึ่งอาจจะน้อยกว่าสองอันดับแรกอยู่บ้าง แต่สำหรับการใช้งานในบ้านทั่วไป เช่น ทำเครื่องดื่มเย็น ๆ ดื่มกันในครอบครัว 3-4 คน หรือมีเพื่อนมาเยี่ยมบ้านเป็นครั้งคราว ปริมาณนี้ถือว่าเหลือเฟือเลยครับ ถังน้ำขนาด 1.5 ลิตรก็พอเหมาะกับการผลิตน้ำแข็งได้หลายรอบโดยไม่ต้องเติมน้ำบ่อย ๆ ตัวเครื่องมีขนาดที่กะทัดรัดมาก ๆ ทำให้หาที่วางได้ง่าย ไม่ว่าจะบนเคาน์เตอร์ครัวหรือโต๊ะข้างโซฟา ก็ไม่เกะกะสายตาเลยครับ และด้วยดีไซน์สีขาวสะอาดตาก็ทำให้เข้ากับการแต่งบ้านได้หลากหลายสไตล์ด้วยครับ
การทำงานของ Alectric IC-A12 ก็ตรงไปตรงมาครับ ใช้แกนทำความเย็น 9 แท่งในการผลิตน้ำแข็งทรงหัวกระสุนเช่นกัน ซึ่งเป็นรูปทรงมาตรฐานที่ใช้ได้กับเครื่องดื่มแทบทุกประเภท มีฝาปิดด้านบนเป็นพลาสติกใส ทำให้เราสามารถมองเห็นกระบวนการผลิตและปริมาณน้ำแข็งในตะกร้าได้ตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความสนุกในการใช้งานไปอีกแบบครับ ถึงแม้จะปรับขนาดก้อนน้ำแข็งไม่ได้ และไม่มีระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายขนาดนี้ การทำความสะอาดด้วยตัวเองเป็นครั้งคราวก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยครับ โดยรวมแล้ว ถ้าเพื่อน ๆ มีงบจำกัดและกำลังถามตัวเองว่า เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาเป็นเครื่องแรกในชีวิต Alectric IC-A12 คือคำตอบที่ใช่และคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอนครับ
คะแนนที่ได้
9.4/10
รีวิวสั้น ๆ
“เป็นเครื่องทำน้ำแข็งเครื่องแรกเลยครับ ใช้งานง่ายมาก ราคาไม่แรงด้วย ถูกใจเลย” – นนท์, อายุ 25
“ขนาดกำลังดีเลยค่ะ วางในครัวแล้วไม่เกะกะเลย ทำน้ำแข็งได้เร็วกว่าที่คิดไว้ค่ะ” – จ๋า, อายุ 33
4. Singer SGICE125 ★★★★☆
“แบรนด์คุณภาพที่คุ้นเคย! ใช้งานทนทาน มองเห็นทุกขั้นตอนผ่านฝาใสบานใหญ่”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
พูดถึงชื่อ Singer เพื่อน ๆ หลายคนคงจะนึกถึงจักรเย็บผ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความทนทานใช่ไหมครับ และสำหรับตลาดเครื่องทำน้ำแข็ง Singer ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเช่นกันครับกับรุ่น Singer SGICE125 ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหา เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นความน่าเชื่อถือของแบรนด์และคุณภาพที่ไว้ใจได้ รุ่นนี้มาพร้อมกับสเปกมาตรฐานที่ตอบโจทย์การใช้งานในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี สามารถผลิตน้ำแข็งได้ 9 ก้อนต่อรอบในเวลาประมาณ 8-12 นาที และทำได้สูงสุด 12 กิโลกรัมใน 24 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับครอบครัวขนาดเล็กถึงขนาดกลางครับ จุดเด่นที่เห็นได้ชัดของรุ่นนี้คือฝาปิดด้านบนที่มีขนาดใหญ่และโปร่งใสมาก ทำให้เรามองเห็นการทำงานภายในและปริมาณน้ำแข็งได้อย่างชัดเจนเต็มตาเลยครับ
สเปกเด่น
- กำลังการผลิต: 12 กิโลกรัม / 24 ชั่วโมง
- ความจุถังน้ำ: 1.7 ลิตร
- ความจุตะกร้าน้ำแข็ง: 0.7 กิโลกรัม
- ระบบควบคุม: ปุ่มกดแบบ Soft Touch พร้อมไฟแสดงสถานะ LED
- คุณสมบัติพิเศษ: ฝาบนโปร่งใสมองเห็นได้ง่าย, มีที่ตักน้ำแข็งและตะกร้าให้ในชุด
รีวิวแบบเจาะลึก
สำหรับใครที่ให้ความสำคัญกับความทนทานและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Singer SGICE125 ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ ตัวเครื่องถูกประกอบมาอย่างแน่นหนา ใช้วัสดุที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของ Singer ทำให้มั่นใจได้ว่าจะใช้งานไปได้ยาว ๆ การทำงานก็ไม่ซับซ้อนครับ แผงควบคุมเป็นแบบปุ่มกด Soft Touch ที่กดง่ายและทนทาน มีไฟ LED บอกสถานะการทำงาน, สถานะน้ำแข็งเต็ม และสถานะน้ำหมดอย่างชัดเจน ทำให้ไม่ต้องคอยเดาว่าเครื่องกำลังทำงานอยู่ในขั้นตอนไหน ถังน้ำขนาด 1.7 ลิตรก็ถือว่าให้มาอย่างเหมาะสมกับกำลังการผลิต ทำให้ไม่ต้องลุกไปเติมน้ำบ่อย ๆ ครับ
อีกจุดหนึ่งที่ผมคิดว่าเป็นข้อดีของความเรียบง่ายก็คือการดูแลรักษาครับ เพราะไม่มีฟังก์ชันที่ซับซ้อน การทำความสะอาดจึงทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง แค่เช็ดล้างตามรอบการใช้งานปกติก็เพียงพอแล้วครับ ในชุดขายยังมีที่ตักน้ำแข็งและตะกร้าเก็บน้ำแข็งแถมมาให้พร้อมใช้งานได้ทันที ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มครับ โดยรวมแล้ว Singer SGICE125 อาจจะไม่ได้มีฟีเจอร์หวือหวาเหมือนเครื่องทำน้ำแข็งบางยี่ห้อ แต่มันก็เป็นตัวเลือกที่ “ปลอดภัย” และ “ไว้ใจได้” สำหรับคนที่อยากได้เครื่องทำน้ำแข็งคุณภาพดี ๆ จากแบรนด์ที่คุ้นเคยมาใช้งานในบ้านครับ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ดีสำหรับคำถามที่ว่า เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นความทนทานเป็นหลักครับ
คะแนนที่ได้
9.1/10
รีวิวสั้น ๆ
“เลือกยี่ห้อนี้เพราะเชื่อใจในคุณภาพครับ ไม่ผิดหวังเลย เครื่องทนดี ทำน้ำแข็งได้เรื่อยๆ ครับ” – ลุงชัย, อายุ 55
“ชอบที่ฝามันใสมากค่ะ มองเห็นน้ำแข็งข้างในเพลินดี ใช้งานก็ง่ายมากค่ะ” – อ้อม, อายุ 38
5. Simplus ZBJH001 ★★★★☆
“มินิมอลโดนใจ! เล็ก กะทัดรัด เร็วทันใจ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมือง”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
เดินทางมาถึงกลางลิสต์กันแล้วนะครับกับ Simplus ZBJH001 เครื่องทำน้ำแข็งที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจสายมินิมอลและคนที่มีพื้นที่จำกัดโดยเฉพาะเลยครับ ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ดูดีมาก ๆ บวกกับขนาดที่เล็กกะทัดรัด ทำให้มันเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในคอนโด, หอพัก หรือบ้านที่มีพื้นที่ครัวไม่มากนักครับ ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหา เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่สวยเหมือนของแต่งบ้านชิ้นหนึ่ง แต่ก็ยังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ รุ่นนี้ตอบโจทย์สุด ๆ ครับ แม้ตัวจะเล็ก แต่ก็สามารถผลิตน้ำแข็งได้เร็วใน 6-10 นาที และทำได้สูงสุดถึง 10-12 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานส่วนตัวหรือสำหรับ 2-3 คนสบาย ๆ เลยครับ
สเปกเด่น
- กำลังการผลิต: 10-12 กิโลกรัม / 24 ชั่วโมง
- ความเร็วในการผลิต: 6-10 นาที / รอบ
- รูปทรงน้ำแข็ง: ทรงหัวกระสุน (Bullet Shape)
- ดีไซน์: สไตล์มินิมอล, ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่
- ระบบระบายความร้อน: ช่องระบายอากาศรอบทิศทาง
รีวิวแบบเจาะลึก
เสน่ห์ของ Simplus ZBJH001 อยู่ที่ความเรียบง่ายในทุกมิติครับ ตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมโค้งมนดูสบายตา ไปจนถึงการควบคุมที่ใช้ปุ่มเดียวในการเปิด-ปิดเครื่อง ส่วนที่เหลือเครื่องจะจัดการให้เองโดยอัตโนมัติทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการปั๊มน้ำ, การทำน้ำแข็ง, หรือการหยุดทำงานเมื่อน้ำแข็งเต็มหรือน้ำหมด ทำให้มันเป็นมิตรกับผู้ใช้งานทุกคนจริง ๆ ครับ ช่องระบายความร้อนก็ถูกออกแบบมาอย่างดีให้อยู่รอบตัวเครื่อง ช่วยให้ระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะวางในพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัดก็ตาม
แน่นอนว่าด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด ความจุของถังน้ำและตะกร้าเก็บน้ำแข็งก็จะเล็กลงตามไปด้วยครับ ซึ่งอาจจะต้องเติมน้ำหรือตักน้ำแข็งออกบ่อยหน่อยถ้าใช้งานต่อเนื่อง แต่ถ้ามองในมุมของการใช้งานสำหรับคนเดียวหรือคู่รักที่อยากมีน้ำแข็งสะอาด ๆ ไว้ดื่มกาแฟตอนเช้า หรือผสมเครื่องดื่มตอนเย็น รุ่นนี้ถือว่าลงตัวมาก ๆ ครับ มันให้ความรู้สึกเหมือนมีคาเฟ่ส่วนตัวเล็ก ๆ อยู่ในห้องเลยทีเดียวครับ ดังนั้น ถ้าโจทย์ของเพื่อน ๆ คือ เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นเรื่องดีไซน์ที่สวยงาม ขนาดที่เล็ก ไม่เกะกะ และผลิตน้ำแข็งได้เร็วทันใจสำหรับการใช้งานส่วนตัว Simplus ZBJH001 คือตัวเลือกที่น่ารักและน่าใช้มาก ๆ ครับ
คะแนนที่ได้
8.9/10
รีวิวสั้น ๆ
“วางในห้องแล้วสวยเลยค่ะ เหมือนของแต่งห้องชิ้นนึงเลย เล็กๆน่ารัก ทำน้ำแข็งเร็วดีด้วย” – มายด์, อายุ 26
“เหมาะกับคอนโดมากครับ ไม่กินที่เลย ใช้งานก็ง่ายมากแค่กดปุ่มเดียว” – เจมส์, อายุ 30
6. Esun EIM-17 ★★★★☆
“น้ำแข็งคริสตัลใสปิ๊ง! สำหรับคนรักความสวยงาม ควบคุมง่ายด้วยระบบสัมผัส”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้าเพื่อน ๆ เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าน้ำแข็งทรงหัวกระสุนมันธรรมดาไป และกำลังมองหา เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถผลิตน้ำแข็งทรงสี่เหลี่ยมใส ๆ เหมือนคริสตัลได้ ผมขอแนะนำ Esun EIM-17 เลยครับ รุ่นนี้โดดเด่นมาก ๆ ในเรื่องรูปทรงของน้ำแข็งที่ได้ครับ มันจะเป็นน้ำแข็งก้อนสี่เหลี่ยมที่ค่อนข้างใสและละลายช้ากว่าทรงหัวกระสุน เหมาะสำหรับใส่ในแก้ววิสกี้, ค็อกเทล หรือเครื่องดื่มที่อยากโชว์ความสวยงามของน้ำแข็งเป็นพิเศษครับ นอกจากความสวยงามแล้ว กำลังการผลิตของเขาก็ไม่ธรรมดานะครับ สามารถผลิตได้สูงสุดถึง 15-18 กิโลกรัมต่อวันเลยทีเดียว ถือว่าสูงมาก ๆ ในกลุ่มเครื่องใช้ในบ้านครับ
สเปกเด่น
- กำลังการผลิต: 15-18 กิโลกรัม / 24 ชั่วโมง
- รูปทรงน้ำแข็ง: ทรงสี่เหลี่ยมคริสตัล (Crystal Clear Square)
- ความจุถังน้ำ: 2.2 ลิตร
- ระบบควบคุม: หน้าจอสัมผัส LED (LED Touch Panel)
- ความเร็วในการผลิต: ประมาณ 12-15 นาที / รอบ
รีวิวแบบเจาะลึก
ความลับของน้ำแข็งใสใน Esun EIM-17 มาจากกระบวนการผลิตที่แตกต่างจากเครื่องที่ทำน้ำแข็งทรงหัวกระสุนครับ แทนที่จะใช้แกนจุ่มลงไปในน้ำ เครื่องรุ่นนี้จะใช้วิธีปล่อยน้ำให้ไหลผ่านถาดทำความเย็นอย่างช้า ๆ ทำให้น้ำบริสุทธิ์ค่อย ๆ แข็งตัวเป็นชั้น ๆ ในขณะที่ฟองอากาศและสิ่งสกปรกจะถูกชะล้างออกไป ผลลัพธ์ที่ได้คือน้ำแข็งก้อนสี่เหลี่ยมที่ใสและแน่นกว่า ซึ่งจะละลายช้ากว่ามาก ๆ ครับ แม้ว่ากระบวนการนี้จะใช้เวลาต่อรอบนานขึ้นเล็กน้อย (ประมาณ 12-15 นาที) แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอนครับ โดยเฉพาะสำหรับคอเครื่องดื่มที่ซีเรียสเรื่องรสชาติ การใช้น้ำแข็งที่ละลายช้าจะช่วยคงความเข้มข้นของเครื่องดื่มไว้ได้นานขึ้นครับ
อีกหนึ่งไฮไลท์คือแผงควบคุมแบบสัมผัสที่ดูหรูหราและทันสมัยมาก ๆ ครับ มันทำให้การตั้งค่าต่าง ๆ ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส และยังทำความสะอาดได้ง่ายกว่าปุ่มกดแบบเดิม ๆ ด้วยครับ ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่ดูแข็งแรงทนทาน เหมาะกับการใช้งานที่ค่อนข้างหนักหน่วงครับ ดังนั้นหากคำถามของคุณคือ เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะยกระดับบาร์เครื่องดื่มที่บ้านให้ดูโปรขึ้น หรือสำหรับร้านอาหารเล็ก ๆ ที่อยากเสิร์ฟน้ำแข็งสวย ๆ ให้ลูกค้าประทับใจ Esun EIM-17 คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ มันอาจจะเป็นการลงทุนที่สูงขึ้นนิดหน่อย แต่ความสวยงามและคุณภาพของน้ำแข็งที่ได้นั้นคุ้มค่าแน่นอนครับ
คะแนนที่ได้
8.7/10
รีวิวสั้น ๆ
“น้ำแข็งสวยมากครับ ใสเหมือนที่บาร์เลย ถูกใจคอวิสกี้อย่างผมมาก” – คุณกิจ, อายุ 45
“เครื่องดูแข็งแรงดีค่ะ แผงสัมผัสใช้ง่าย ผลิตน้ำแข็งได้เยอะดีค่ะ เวลาเพื่อนมาบ้านเยอะๆ ก็เอาอยู่” – นุ่น, อายุ 34
7. Baliza BZV-Q1 ★★★☆☆
“เล็กพริกขี้หนู! เร็วทันใจใน 8 นาที ดีไซน์กะทัดรัดเหมาะกับทุกพื้นที่”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
มาถึงอันดับที่ 7 กับ Baliza BZV-Q1 เครื่องทำน้ำแข็งไซส์มินิที่มาพร้อมกับความเร็วที่ไม่ธรรมดาครับ สำหรับใครที่ให้ความสำคัญกับ “ความเร็ว” เป็นอันดับแรก และกำลังหาว่า เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่ผลิตน้ำแข็งได้แบบทันใจที่สุด รุ่นนี้น่าจะถูกใจครับ เพราะเขาสามารถผลิตน้ำแข็งรอบแรกได้ในเวลาเพียง 8 นาทีเท่านั้นเอง! ด้วยความที่เป็นเครื่องขนาดเล็ก ทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่ต้องทำงานหนักมากในการทำความเย็น ส่งผลให้ได้น้ำแข็งมาใช้งานอย่างรวดเร็ว เหมาะมาก ๆ สำหรับช่วงเวลาเร่งด่วน หรือเวลาที่อยากได้เครื่องดื่มเย็น ๆ แบบไม่ต้องรอนานครับ
สเปกเด่น
- กำลังการผลิต: 15 กิโลกรัม / 24 ชั่วโมง
- ความเร็วในการผลิต: ประมาณ 8 นาที / รอบ
- ความจุตะกร้าน้ำแข็ง: 0.8 กิโลกรัม
- สารทำความเย็น: R600a
- คุณสมบัติพิเศษ: ขนาดกะทัดรัด, ทำงานเร็ว
รีวิวแบบเจาะลึก
Baliza BZV-Q1 ถูกออกแบบมาโดยเน้นที่ความกะทัดรัดและประสิทธิภาพในพื้นที่จำกัดเป็นหลักครับ ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่เรียบง่าย ไม่ได้มีฟีเจอร์หวือหวาอะไรมากนัก แต่ไปเน้นที่แก่นของการทำงานคือการผลิตน้ำแข็งให้ได้เร็วที่สุดแทน แม้ว่ากำลังการผลิตต่อวันจะสูงถึง 15 กิโลกรัม แต่ด้วยขนาดตะกร้าเก็บน้ำแข็งที่จุได้ 0.8 กิโลกรัม และถังน้ำที่ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ทำให้เราอาจจะต้องคอยดูแลเติมน้ำและตักน้ำแข็งออกบ่อยหน่อยถ้าต้องการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ ครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในมุมของการใช้งานในบ้านทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการน้ำแข็งปริมาณมหาศาลในคราวเดียว แต่ต้องการความสะดวกสบายที่สามารถกดปุ่มแล้วได้น้ำแข็งมาใช้ในเวลาไม่ถึง 10 นาที รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีมาก ๆ ครับ มันเหมาะจะเป็นเครื่องทำน้ำแข็งเสริมคู่กับตู้เย็นหลักในบ้าน หรือเป็นเครื่องประจำตัวสำหรับคนที่อยู่คนเดียวในคอนโด ที่อยากมีน้ำแข็งสะอาด ๆ ไว้ใช้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อครับ ดังนั้น ถ้าโจทย์ของคุณคือ เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นความเร็วและกะทัดรัดเป็นหลัก Baliza BZV-Q1 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในราคาที่จับต้องได้ครับ
คะแนนที่ได้
8.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“เร็วสมคำโฆษณาจริงๆ ครับ กดปุ่มแป๊บเดียวได้น้ำแข็งเลย เหมาะกับคนใจร้อนอย่างผมมาก” – บอย, อายุ 32
“เครื่องเล็กดีค่ะ ไม่เกะกะครัวเลย เอาไว้ทำน้ำแข็งชงกาแฟตอนเช้า สะดวกดีค่ะ” – แอน, อายุ 29
8. Worldtech WT-IM600A ★★★☆☆
“มาตรฐานคุ้มราคา! น้ำแข็งสี่เหลี่ยมแน่นๆ สำหรับโฮมออฟฟิศและร้านค้า”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาเครื่องทำน้ำแข็งที่ให้ความรู้สึกกึ่ง ๆ ระหว่างการใช้งานในบ้านกับการใช้งานเชิงพาณิชย์เล็ก ๆ และสงสัยว่า เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะตอบโจทย์นี้ได้ ผมขอเสนอ Worldtech WT-IM600A ครับ รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สามารถผลิตน้ำแข็งทรงสี่เหลี่ยมได้ แต่จะเน้นไปที่ความทนทานและประสิทธิภาพที่รองรับการใช้งานที่ค่อนข้างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับโฮมออฟฟิศที่มีพนักงานหลายคน, ร้านค้า, หรือบ้านที่มักจะมีแขกมาเยี่ยมเยียนบ่อย ๆ ครับ ด้วยถังน้ำขนาด 2 ลิตร และกำลังการผลิต 15 กิโลกรัมต่อวัน ทำให้มันสามารถรองรับความต้องการน้ำแข็งในปริมาณที่มากกว่าการใช้งานปกติได้ครับ
สเปกเด่น
- กำลังการผลิต: 15 กิโลกรัม / 24 ชั่วโมง
- รูปทรงน้ำแข็ง: ทรงสี่เหลี่ยม (Square Shape)
- ความจุถังน้ำ: 2 ลิตร
- สารทำความเย็น: R600a
- วัสดุ: ตัวเครื่องสแตนเลส แข็งแรงทนทาน
รีวิวแบบเจาะลึก
จุดเด่นของ Worldtech WT-IM600A คือความแข็งแรงทนทานของตัวเครื่องที่ใช้วัสดุสแตนเลสเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้มันดูแข็งแรงและทำความสะอาดง่าย เหมาะกับการวางในพื้นที่ที่อาจจะมีการใช้งานค่อนข้างสมบุกสมบันหน่อย เช่น ในห้องครัวของร้านอาหารหรือห้องพักพนักงานครับ การผลิตน้ำแข็งทรงสี่เหลี่ยมก็เป็นอีกจุดขายสำคัญที่ทำให้มันแตกต่างจากเครื่องทำน้ำแข็งทั่วไป ซึ่งน้ำแข็งทรงนี้จะช่วยให้เครื่องดื่มเย็นนานขึ้นโดยไม่ทำให้รสชาติจางลงเร็วเกินไปครับ
แม้ว่าดีไซน์อาจจะไม่ได้ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยเท่ากับยี่ห้ออื่น ๆ ในลิสต์นี้ แต่ถ้ามองในแง่ของฟังก์ชันการใช้งานและความคุ้มค่า รุ่นนี้ถือว่าทำได้ดีมากครับ มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็น “ม้างาน” ที่พร้อมจะผลิตน้ำแข็งให้เราได้ตลอดทั้งวันโดยไม่งอแง ระบบการทำงานก็ตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน มีไฟแจ้งเตือนที่จำเป็นครบถ้วน ดังนั้น ถ้าคุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่สวยงามมากนัก แต่กำลังมองหา เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่ทนทาน ผลิตน้ำแข็งคุณภาพดีได้ในปริมาณที่เยอะ และมีราคาที่สมเหตุสมผล Worldtech WT-IM600A ก็เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณามาก ๆ ครับ
คะแนนที่ได้
8.3/10
รีวิวสั้น ๆ
“เอามาไว้ที่ออฟฟิศ พนักงานชอบกันใหญ่เลยครับ เครื่องดูทนดี ทำน้ำแข็งได้เยอะพอสำหรับสิบกว่าคน” – พี่กร, อายุ 42
“น้ำแข็งก้อนเหลี่ยมสวยดีค่ะ ละลายช้ากว่าแบบกลมๆ จริงๆ ด้วย ชอบมากค่ะ” – แก้ว, อายุ 36
9. TIL-ICM240 ★★★☆☆
“จอมพลังตัวจริง! ผลิตเยอะ จุใจ สำหรับร้านค้าและออฟฟิศขนาดกลาง”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับใครที่มองข้ามการใช้งานในบ้านไปแล้ว และกำลังมองหา เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถรองรับการใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นร้านเครื่องดื่ม, ร้านอาหาร, หรือออฟฟิศขนาดกลางที่มีพนักงานจำนวนมาก ผมขอแนะนำให้รู้จักกับ TIL-ICM240 จอมพลังตัวจริงเรื่องการผลิตน้ำแข็งเลยครับ รุ่นนี้มีกำลังการผลิตที่สูงโดดเด่นออกมาจากรุ่นอื่น ๆ ในลิสต์นี้อย่างชัดเจน โดยสามารถผลิตน้ำแข็งได้สูงสุดถึง 20-25 กิโลกรัมต่อวัน และในหนึ่งรอบ (ประมาณ 15-18 นาที) สามารถผลิตน้ำแข็งได้มากถึง 24 ก้อนเลยทีเดียวครับ
สเปกเด่น
- กำลังการผลิต: 20-25 กิโลกรัม / 24 ชั่วโมง
- ปริมาณการผลิตต่อรอบ: 24 ก้อน / 15-18 นาที
- ความจุถังน้ำ: 3.2 ลิตร
- รูปทรงน้ำแข็ง: ทรงสี่เหลี่ยม
- คุณสมบัติพิเศษ: กำลังการผลิตสูง, ถังน้ำขนาดใหญ่มาก
รีวิวแบบเจาะลึก
หัวใจสำคัญของ TIL-ICM240 คือ “สเกล” ของการทำงานครับ ทุกอย่างถูกออกแบบมาให้ใหญ่และรองรับงานหนักได้จริง ๆ ตั้งแต่ถังน้ำที่ใหญ่ถึง 3.2 ลิตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาเครื่องทำน้ำแข็งที่เรานำมารีวิวในวันนี้ ทำให้สามารถเดินเครื่องผลิตน้ำแข็งต่อเนื่องได้เป็นเวลานานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเติมน้ำเลยครับ ถาดทำความเย็นก็มีขนาดใหญ่ที่รองรับการทำน้ำแข็งได้พร้อมกันถึง 24 ก้อนต่อรอบ ทำให้แม้จะใช้เวลาต่อรอบนานหน่อย แต่ปริมาณที่ได้ในแต่ละครั้งก็ชดเชยกันไปได้ครับ
แน่นอนว่าด้วยขนาดและกำลังการผลิตที่สูงขนาดนี้ มันจึงไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับบ้านทั่วไปครับ แต่มันคือคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ประกอบการที่กำลังถามว่า เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับร้านของตัวเองได้ การลงทุนกับเครื่องทำน้ำแข็งกำลังผลิตสูงแบบนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการสั่งน้ำแข็งถุงอีกต่อไป ทั้งยังควบคุมความสะอาดและคุณภาพของน้ำแข็งได้เอง 100% ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มครับ ดังนั้น ถ้าคุณคือเจ้าของร้านหรือผู้จัดการออฟฟิศที่กำลังมองหาโซลูชันเรื่องน้ำแข็งอยู่ล่ะก็ TIL-ICM240 คือผู้ช่วยคนสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้ามครับ
คะแนนที่ได้
8.1/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อมาใช้ที่ร้านชานมไข่มุก คือดีมากครับ ผลิตทันใช้สบายๆ ประหยัดค่าซื้อน้ำแข็งไปได้เยอะเลย” – เฮียเส็ง, อายุ 50
“เครื่องใหญ่และหนักจริง แต่ก็ผลิตน้ำแข็งได้เยอะสมตัวจริงๆ ค่ะ เหมาะกับออฟฟิศคนเยอะๆ มาก” – พี่ติ๊ก, อายุ 48 (ฝ่ายบุคคล)
10. Hicon HZB-16M ★★★☆☆
“มาตรฐานสำหรับครอบครัว! เงียบ ใช้งานง่าย เลือกขนาดน้ำแข็งได้ตามใจชอบ”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ปิดท้ายลิสต์ของเรากันที่ Hicon HZB-16M อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวครับ รุ่นนี้เป็นเหมือนการนำข้อดีของหลาย ๆ รุ่นมารวมกันไว้ในเครื่องเดียว ทั้งการทำงานที่ค่อนข้างเงียบ, การใช้งานที่ง่ายไม่ซับซ้อน, และความสามารถในการเลือกขนาดน้ำแข็งได้ 2 ขนาด (เล็ก/ใหญ่) ทำให้มันเป็นเครื่องทำน้ำแข็งที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์กิจกรรมที่หลากหลายของคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดีครับ ไม่ว่าจะเป็นการทำเครื่องดื่มสำหรับผู้ใหญ่ หรือทำน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ ให้เด็ก ๆ ได้ทาน ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการครับ
สเปกเด่น
- กำลังการผลิต: 15 กิโลกรัม / 24 ชั่วโมง
- ความจุถังน้ำ: 2.2 ลิตร
- รูปทรงน้ำแข็ง: ทรงหัวกระสุน (เลือกขนาด เล็ก/ใหญ่ ได้)
- ระดับเสียง: ทำงานเงียบ
- คุณสมบัติพิเศษ: ฝาบนโปร่งใส, ระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ
รีวิวแบบเจาะลึก
Hicon HZB-16M เป็นเครื่องทำน้ำแข็งที่เน้นความสมดุลและความครบเครื่องสำหรับการใช้งานในบ้านครับ ด้วยกำลังการผลิต 15 กิโลกรัมต่อวันและถังน้ำขนาด 2.2 ลิตร ทำให้มันรองรับการใช้งานของทั้งครอบครัวได้อย่างสบาย ๆ จุดเด่นที่ทำให้มันน่าใช้คือความสามารถในการเลือกขนาดน้ำแข็ง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มาก ๆ ครับ น้ำแข็งก้อนเล็กเหมาะกับการใส่ในกระบอกน้ำหรือทำเครื่องดื่มปั่น ในขณะที่น้ำแข็งก้อนใหญ่ก็เหมาะกับการใส่ในกระติกเก็บความเย็นเวลาไปปิกนิก หรือใส่ในเหยือกเครื่องดื่มสำหรับต้อนรับแขกครับ
การทำงานของเครื่องก็ถูกออกแบบมาให้เงียบ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กหรือคนที่ไวต่อเสียงครับ แผงควบคุมก็เรียบง่าย มีปุ่มให้เลือกขนาดน้ำแข็งและปุ่มเปิด-ปิด พร้อมไฟแสดงสถานะที่ชัดเจน ทำให้ทุกคนในบ้านสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องสอนกันให้วุ่นวายครับ โดยรวมแล้ว Hicon HZB-16M อาจจะไม่ได้มีจุดเด่นที่หวือหวาที่สุดในด้านใดด้านหนึ่ง แต่มันเป็นเครื่องทำน้ำแข็งที่มีความ “ครบ” และ “สมดุล” ในทุก ๆ ด้าน เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและใช้งานได้ดีสำหรับครอบครัวครับ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี สำหรับบ้านที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งานครับ
คะแนนที่ได้
8.0/10
รีวิวสั้น ๆ
“ชอบที่เลือกไซส์น้ำแข็งได้ค่ะ ลูกชายชอบก้อนเล็กๆ เอาไว้กินกับน้ำหวาน ส่วนพ่อบ้านชอบก้อนใหญ่ใส่กาแฟ” – คุณแม่น้องปัน, อายุ 37
“เครื่องเงียบดีครับ วางไว้ในครัวก็ไม่เสียงดังรบกวนเลย ใช้งานก็ง่ายดีครับ” – ก้อง, อายุ 40
มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน
จากการพูดคุยกับทีมช่างเทคนิคและผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายท่าน รวมถึงการอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์รีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำอย่าง Good Housekeeping และ Consumer Reports พบว่าเทรนด์ของเครื่องทำน้ำแข็งในปี 2025 มีทิศทางที่น่าสนใจหลายอย่างครับ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า
“ผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่เครื่องที่ผลิตน้ำแข็งได้ แต่ยังมองหา ‘ประสบการณ์’ และ ‘ความสะดวกสบาย’ ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ผู้ผลิตจึงต้องแข่งขันกันในด้านฟีเจอร์อัจฉริยะ ความเร็ว และประสิทธิภาพในการใช้พลังงานมากขึ้น”
ดังนั้น การจะตอบคำถามว่า เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ให้ครอบคลุมที่สุด เราต้องมองลึกลงไปในรายละเอียดมากกว่าแค่กำลังการผลิตครับ
- ความเร็วคือราชา (Speed is King): ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการความรวดเร็ว เครื่องที่สามารถผลิตน้ำแข็งรอบแรกได้ในเวลาไม่ถึง 10 นาที (เช่น SmartTek หรือ Baliza) มักจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เพราะมันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบได้เป็นอย่างดี
- ฟังก์ชันอัจฉริยะคือจุดขายใหม่: ระบบทำความสะอาดตัวเอง (Self-Cleaning) กำลังจะกลายเป็นฟังก์ชันมาตรฐานในรุ่นกลางถึงสูง เพราะช่วยลดภาระการดูแลรักษาของผู้ใช้ได้อย่างมหาศาล รวมถึงเซนเซอร์ที่แม่นยำและการแจ้งเตือนที่ชัดเจนก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
- ประสิทธิภาพพลังงานและเสียงรบกวน: เครื่องที่ใช้คอมเพรสเซอร์ประสิทธิภาพสูงอย่าง R600a และมีการออกแบบระบบระบายความร้อนที่ดี จะช่วยประหยัดไฟและมีเสียงรบกวนที่ต่ำลง (เช่น Rabbit ICE) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนที่ใช้งานเครื่องตลอดทั้งวันหรืออาศัยในคอนโด
- ความหลากหลายของรูปทรงน้ำแข็ง: ตลาดไม่ได้จำกัดอยู่แค่น้ำแข็งทรงหัวกระสุนอีกต่อไป การมีตัวเลือกน้ำแข็งทรงสี่เหลี่ยมใส (เช่น Esun) หรือน้ำแข็งเกล็ด (Nugget Ice) เริ่มเป็นที่ต้องการมากขึ้นสำหรับกลุ่มผู้ใช้เฉพาะทาง
บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS
“การเลือก เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ในปี 2025 คือการหาสมดุลที่ลงตัวระหว่าง ‘ประสิทธิภาพพื้นฐาน’ ที่ต้องดี (เร็ว, เย็นจัด) และ ‘ฟีเจอร์เสริม’ ที่เข้ามาช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น (ล้างตัวเอง, เงียบ, เลือกขนาดได้) เครื่องที่สามารถให้ทั้งสองอย่างนี้ได้ในราคาที่สมเหตุสมผล จะกลายเป็นผู้ชนะในตลาดได้อย่างไม่ยากเย็น เราเชื่อว่าผู้บริโภคยอมจ่ายเพิ่มอีกนิดหน่อยเพื่อความสะดวกสบายและความทนทานในระยะยาวครับ”
เคล็ดลับการเลือกซื้อ เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ให้โดนใจ
หลังจากดูรีวิวทั้ง 10 รุ่นไปแล้ว บางคนอาจจะยังมีตัวเลือกในใจหลายตัวใช่ไหมครับ ไม่เป็นไรครับ ลองมาดูเช็กลิสต์ง่าย ๆ ที่ผมสรุปมาให้ จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเลือก เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ครับ
- ประเมินปริมาณการใช้งาน: ถามตัวเองก่อนว่าเราใช้น้ำแข็งเยอะแค่ไหน? ถ้าอยู่คนเดียวหรือสองคนในคอนโด รุ่นที่ผลิตได้ 10-12 กก./วัน (เช่น Simplus) ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยู่เป็นครอบครัวใหญ่หรือชอบจัดปาร์ตี้ ควรเลือกรุ่นที่ผลิตได้ 15 กก./วันขึ้นไป (เช่น SmartTek, Rabbit ICE)
- พื้นที่ในการจัดวาง: วัดขนาดพื้นที่ที่เราจะวางเครื่องก่อนตัดสินใจซื้อครับ เครื่องทำน้ำแข็งต้องการพื้นที่ระบายอากาศรอบ ๆ ตัวเครื่องประมาณ 10-15 ซม. เพื่อให้คอมเพรสเซอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ถ้ารุ่นใหญ่ไปอาจจะวางไม่พอดีและทำให้เครื่องร้อนเกินไปได้
- รูปทรงน้ำแข็งที่ชอบ: นี่คือเรื่องของความชอบส่วนตัวเลยครับ น้ำแข็งทรงหัวกระสุน (Bullet) เป็นทรงมาตรฐานที่ทำได้เร็วและใช้ได้กับทุกอย่าง แต่น้ำแข็งทรงสี่เหลี่ยม (Square) จะละลายช้ากว่าและดูสวยงามกว่า เหมาะกับเครื่องดื่มที่ต้องการความพรีเมียม
- ฟังก์ชันเสริมที่จำเป็น: คุณเป็นคนที่ไม่ชอบล้างเครื่องบ่อย ๆ หรือเปล่า? ถ้าใช่ การลงทุนเพิ่มเพื่อเลือกรุ่นที่มี Self-Cleaning ถือว่าคุ้มค่ามาก หรือถ้าคุณรำคาญเสียงดัง การเลือกรุ่นที่เน้นความเงียบก็จะช่วยให้มีความสุขกับการใช้งานมากขึ้นครับ
- งบประมาณในใจ: ตั้งงบประมาณที่เราพอใจไว้ก่อนครับ เครื่องทำน้ำแข็งมีราคาตั้งแต่สองพันกว่าบาทไปจนถึงเกือบหมื่น การมีงบในใจจะช่วยให้เราจำกัดตัวเลือกและเปรียบเทียบความคุ้มค่าในกลุ่มราคาเดียวกันได้ง่ายขึ้นครับ
การดูแลรักษาเครื่องทำน้ำแข็งให้ใช้งานได้ยาวนาน
ซื้อเครื่องทำน้ำแข็งดี ๆ มาแล้ว ก็ต้องดูแลรักษากันหน่อยนะครับเพื่อให้เขาอยู่กับเราไปนาน ๆ ซึ่งวิธีดูแลก็ไม่ยากเลยครับ
- ใช้น้ำสะอาดเสมอ: แนะนำให้ใช้น้ำดื่มหรือน้ำกรองในการทำน้ำแข็งครับ เพราะจะช่วยลดการเกิดตะกรันในระบบท่อและแกนทำความเย็น ทำให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและน้ำแข็งที่ได้ก็สะอาดบริสุทธิ์ครับ
- ทำความสะอาดเป็นประจำ: แม้บางรุ่นจะมีระบบล้างตัวเอง แต่เราก็ควรทำความสะอาดใหญ่สัปดาห์ละครั้งหรือสองสัปดาห์ครั้ง โดยการถอดตะกร้าออกมาล้าง และใช้ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อยเช็ดภายในให้ทั่ว เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและกำจัดคราบต่าง ๆ
- ล้างตะกรัน (Descaling): ทุก ๆ 1-3 เดือน (ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งานและคุณภาพน้ำ) ควรทำการล้างตะกรันโดยใช้น้ำยาสำหรับล้างเครื่องทำน้ำแข็งโดยเฉพาะ หรือใช้น้ำส้มสายชู/กรดซิตริกผสมน้ำ แล้วเปิดเครื่องรัน 1-2 รอบ จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2-3 รอบเพื่อกำจัดกลิ่นครับ
- เก็บในที่แห้งเมื่อไม่ใช้งาน: หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ควรถ่ายน้ำออกจากเครื่องให้หมด เช็ดภายในให้แห้งสนิท และเก็บไว้ในที่ที่ไม่มีความชื้นเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราครับ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- ถาม: เครื่องทำน้ำแข็งกินไฟไหม?
ตอบ: กินไฟครับ แต่ไม่มากอย่างที่คิด โดยทั่วไปจะใช้กำลังไฟประมาณ 90-150 วัตต์ ซึ่งใกล้เคียงกับการเปิดทีวี 55 นิ้วหนึ่งเครื่องครับ ถ้าเทียบกับความสะดวกสบายที่ได้ถือว่าคุ้มค่าครับ - ถาม: น้ำแข็งที่ทำเสร็จแล้วเก็บในเครื่องได้นานแค่ไหน?
ตอบ: ตะกร้าเก็บน้ำแข็งในเครื่องส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นช่องแช่แข็งครับ มันเป็นแค่พื้นที่เก็บที่หุ้มฉนวนไว้เท่านั้น น้ำแข็งจะค่อย ๆ ละลายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป (น้ำที่ละลายจะไหลกลับไปที่ถังเพื่อทำน้ำแข็งใหม่) แนะนำว่าเมื่อน้ำแข็งเต็มแล้วควรตักไปเก็บในช่องฟรีซของตู้เย็นจะดีที่สุดครับ - ถาม: จำเป็นต้องใช้น้ำกรองเท่านั้นเหรอ ใช้น้ำประปาได้ไหม?
ตอบ: ใช้น้ำประปาได้ครับ แต่ไม่แนะนำในระยะยาว เพราะในน้ำประปามีแร่ธาตุและคลอรีนสูง ซึ่งจะทำให้เกิดคราบตะกรันอุดตันในเครื่องได้เร็วขึ้น และอาจจะทำให้น้ำแข็งมีกลิ่นได้ การใช้น้ำดื่มหรือน้ำกรองจะดีต่อทั้งตัวเครื่องและรสชาติของน้ำแข็งครับ - ถาม: เครื่องทำน้ำแข็งเสียงดังมากไหม?
ตอบ: ระดับเสียงจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นครับ แต่โดยทั่วไปจะมีเสียงการทำงานของคอมเพรสเซอร์และพัดลมคล้าย ๆ กับตู้เย็นขนาดเล็ก และจะมีเสียงน้ำแข็งตกลงตะกร้าเป็นครั้งคราว ถ้ารำคาญเสียงดัง ควรเลือกรุ่นที่ระบุว่าทำงานเงียบ (Low Noise) เช่น Rabbit ICE HZB-12C ครับ
บทสรุปส่งท้าย: เลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่ใช่สำหรับคุณ
และแล้วก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายกันแล้วนะครับเพื่อน ๆ ผมหวังว่ารีวิวและข้อมูลทั้งหมดนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะเลยนะครับว่าจะเลือก เครื่องทําน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี ให้มาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านของเราในปี 2025 นี้
ถ้าให้ผมสรุปแบบรวบตึงเลยก็คือ หากคุณต้องการเครื่องที่ครบเครื่องที่สุด ทั้งเร็ว แรง ฟังก์ชันจัดเต็ม และดูแลรักษาง่าย SmartTek Ice Maker คือคำตอบที่ใช่และเป็นแชมป์ของเราในวันนี้ครับ แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญกับความเงียบสงบและดีไซน์ที่น่ารัก Rabbit ICE HZB-12C ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ส่วนใครที่มีงบจำกัดและต้องการความคุ้มค่าสูงสุดสำหรับผู้เริ่มต้น Alectric IC-A12 ก็พร้อมตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดีครับ
สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกเครื่องที่เข้ากับไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์ความต้องการของเราได้จริง ๆ ครับ ลองพิจารณาจากลิสต์และเคล็ดลับที่ผมให้ไป รับรองว่าเพื่อน ๆ จะได้เครื่องทำน้ำแข็งที่ถูกใจ ทำให้ทุก ๆ วันที่อากาศร้อนกลายเป็นวันที่สดชื่นขึ้นมาทันทีแน่นอนครับ ขอให้มีความสุขกับการทำเครื่องดื่มเย็น ๆ นะครับ!
หมายเหตุจากผู้เขียน:
- รายละเอียดเกี่ยวกับกำลังการผลิต, ความเร็ว, หรือคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ เป็นข้อมูลที่รวบรวมมาจากผู้ผลิตและเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่าย ณ ช่วงต้นปี 2025 ราคาและโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากหน้าร้านค้าอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ
- คะแนน (เช่น 9.8/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งสเปก, ฟีเจอร์, ความเร็ว, ดีไซน์, ราคา, และรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้ข้อมูลเปรียบเทียบที่ครอบคลุมที่สุด
- รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “เอก, อายุ 35” หรือ “พลอย, อายุ 29”) เป็นตัวอย่างสมมติที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานในชีวิตประจำวันที่หลากหลายและชัดเจนยิ่งขึ้นครับ
- เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยและยาวนาน ควรอ่านคู่มือการใช้งานและการดูแลรักษาจากแบรนด์ผู้ผลิตโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น SmartTek, Alectric, Singer, Worldtech หรือแบรนด์อื่น ๆ ที่คุณเลือกซื้อครับ












