10 สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย แห่งปี 2025 อัปเดตล่าสุด! สีสวยชัด!

รูปหน้าปกบทความแนะนำ 10 อันดับ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย 2025 เน้นโทนสีสวยงามและบำรุงเส้นผมไม่ให้เสีย

บทนำ

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ สาว ๆ ทุกคน! ใครกำลังอยากเปลี่ยนลุคให้สวยจี๊ดรับปี 2025 บ้างคะ? หนึ่งในวิธีที่ง่ายและเห็นผลไวที่สุดก็คือการเปลี่ยนสีผมนี่แหละค่ะ แต่ปัญหาโลกแตกที่ตามมาก็คือความกังวลว่าผมจะเสีย แห้งกรอบ หรือพังยับเยินใช่มั้ยล่ะคะ? เข้าใจเลยค่ะ! เพราะการจะหา สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย นี่มันเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรชัด ๆ บางทีเจอสีที่ถูกใจ แต่ส่วนผสมกลับแรงเกินไป ทำเอาผมที่อุตส่าห์บำรุงมาอย่างดีกลายเป็นไม้กวาดในพริบตา แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะวันนี้เพื่อนคนนี้ได้ทำการบ้านมาอย่างหนักหน่วง คัดสรรแต่ตัวท็อป ตัวเด็ด ที่ขึ้นชื่อเรื่องสีสวยชัดและถนอมเส้นผมมาให้เพื่อน ๆ ได้เลือกกันแบบจัดเต็ม บอกเลยว่าลืมภาพจำเก่า ๆ ของการย้อมผมแล้วผมพังไปได้เลยค่ะ

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกกันว่า สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่แท้จริงมันต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ตั้งแต่ส่วนผสมที่อ่อนโยน ปราศจากแอมโมเนีย ไปจนถึงสารบำรุงที่อัดแน่นมาในกล่อง ช่วยให้ผมนุ่มสวยหลังทำสี เหมือนเพิ่งเดินออกจากซาลอนแพง ๆ เลยทีเดียวค่ะ และแน่นอนว่าเราไม่ได้มาแค่พูดลอย ๆ แต่มีรีวิวจริงจังจากประสบการณ์ตรงและรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้ทั่วฟ้าเมืองไทยมาให้ครบจบในที่เดียว พร้อมตารางเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลยว่าแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นอะไรบ้าง นอกจากเรื่องผมแล้ว ถ้าใครกำลังมองหาตัวช่วยให้หน้าใสปิ๊ง ลองดูรีวิว ครีมบํารุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี ควบคู่ไปด้วยก็ได้นะคะ จะได้สวยครบสูตรตั้งแต่หัวจรดเท้าไปเลย! เอาล่ะค่ะ ถ้าพร้อมจะเปลี่ยนสีผมให้ปังแบบไม่ต้องกลัวผมเสียแล้ว ก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่า สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย แห่งปี 2025 ที่เราคัดมาฝากจะมีแบรนด์ไหนติดโผบ้าง!

🦉 เลือกอ่านหัวข้อ

10 อันดับ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย แห่งปี 2025

ใครที่ใจร้อนอยากรู้แล้วว่า สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่น่าลงทุนที่สุดในปีนี้มีตัวไหนบ้าง ลองดูตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติเด่นและคะแนนที่เราสรุปมาให้ดูก่อนได้เลยค่ะ แล้วค่อยเลื่อนลงไปอ่านรีวิวฉบับจัดเต็มของแต่ละตัวกันต่อนะคะ

ตารางเปรียบเทียบสรุป

คุณสมบัติ L’Oréal Excellence Garnier Color Naturals REVLON Colorsilk Liese Creamy Bubble NIGAO Hair Color Naturtint NATURIGIN Bigen Men’s One Push Kota Cosmetics Sevich Blackening Shampoo
อันดับที่ 🥇 🥈 🥉 4 5 6 7 8 9 10
รูปภาพสินค้า L’Oréal Excellence Garnier Color Naturals REVLON Colorsilk Beautiful Color with Keratin Liese Creamy Bubble Color NIGAO Hair Color Fashion Naturtint 5G Light Golden Chestnut NATURIGIN Light Brown 5.0 Bigen Men's One Push Kota Cosmetics Color Cream Sepia Sevich Organic 5 in 1 Blackening Shampoo
ชื่อสินค้า (กดเพื่อเลื่อนไปดูรายละเอียด) L’Oréal Excellence Garnier Color Naturals REVLON Colorsilk Liese Creamy Bubble NIGAO Hair Color Naturtint NATURIGIN Bigen Men’s One Push Kota Cosmetics Sevich Shampoo
คุณสมบัติเด่น เทคโนโลยี Triple Care ปกป้อง 3 ชั้น, สีสวยอิ่มชัด, ปิดผมขาวสนิท สารสกัดน้ำมันธรรมชาติ, ราคาจับต้องง่าย, สีติดทนนาน ปราศจากแอมโมเนีย, 3D Color Gel Technology, มีเคราตินบำรุง เนื้อโฟมหนานุ่ม, ทำเองง่ายเหมือนสระผม, มีทรีทเมนต์บำรุง ปราศจากแอมโมเนีย, กลิ่นไม่ฉุน, เม็ดสีแน่น, มี Squalane และ Crodafos HCE ส่วนผสมจากพืช, อ่อนโยน, ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง สารสกัดออร์แกนิก 12 ชนิด, ปราศจากสารเคมีอันตราย, ได้รับการรับรอง ECOCERT ใช้งานง่าย แค่กด, ไม่ต้องผสม, เก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้, ปิดผมขาวเร็ว สารสกัดจากโสมเกาหลี, กลิ่นหอม, สีชัดตรงปก, ราคาประหยัด แชมพูเปลี่ยนสีผม, ใช้ง่ายเหมือนสระผมปกติ, ส่วนผสมออร์แกนิก
คะแนน ★★★★★ (9.8/10) ★★★★☆ (9.5/10) ★★★★☆ (9.3/10) ★★★★☆ (9.1/10) ★★★★☆ (9.0/10) ★★★★☆ (8.8/10) ★★★★☆ (8.6/10) ★★★☆☆ (8.4/10) ★★★☆☆ (8.2/10) ★★★☆☆ (8.0/10)
เหมาะกับใคร คนที่ต้องการการบำรุงแบบครบวงจรและปิดผมขาว นักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่เริ่มต้นทำสีผม คนที่แพ้ง่ายหรือกังวลเรื่องกลิ่นแอมโมเนีย มือใหม่หัดย้อมผม หรือคนที่ไม่ชอบความยุ่งยาก คนที่ต้องการสีแฟชั่นชัด ๆ แต่ยังอยากให้ผมสุขภาพดี ผู้ที่ใส่ใจส่วนผสมจากธรรมชาติและมีผิวแพ้ง่าย สายออร์แกนิกตัวจริงที่ยอมลงทุนเพื่อสุขภาพผม คุณผู้ชายหรือคนที่ต้องการความรวดเร็วในการปิดผมขาว วัยรุ่นที่ชอบทำสีผมบ่อย ๆ และมองหาของถูกและดี คนที่ต้องการปิดผมขาวแบบเร่งด่วนและง่ายที่สุด
เช็กราคาล่าสุด

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

1. L’Oréal Excellence ★★★★★

“ยืนหนึ่งเรื่องผมสวยครบสูตร! ปกป้อง บำรุง และให้สีผมเจิดจรัสในขั้นตอนเดียว”

สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย L’Oréal Excellence

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าจะให้พูดถึง สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่เป็นตำนานและครองใจสาว ๆ มายาวนาน ชื่อของ L’Oréal Excellence ต้องขึ้นมาเป็นอันดับแรก ๆ แน่นอนค่ะ เพราะไม่ใช่แค่ครีมเปลี่ยนสีผมธรรมดา แต่มาพร้อมคอนเซ็ปต์การดูแลผมแบบครบวงจร 3 ขั้นตอน (Triple Care) ทั้งเซรั่มปกป้องก่อนทำสี, ครีมย้อมที่อุดมด้วยโปร-เคราติน และมาสก์บำรุงหลังทำสี ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเส้นผมของเราจะได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ สีที่ได้ก็สวยอิ่มชัด สม่ำเสมอ แถมยังปิดผมขาวได้เนียนสนิทอีกด้วยค่ะ ใครที่อยากได้สีผมสวยเป๊ะเหมือนทำที่ร้าน แต่ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ต้องลองเลยค่ะ

คุณสมบัติเด่น

  • เทคโนโลยี Triple Care: ปกป้อง บำรุง และฟื้นฟูเส้นผมครบทั้ง 3 ขั้นตอน (ก่อน, ระหว่าง, และหลังทำสี)
  • ส่วนผสมหลัก: อุดมด้วย Ceramide, Pro-Keratin และ Collagen ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง นุ่มสลวย และดูสุขภาพดี
  • การปกปิดผมขาว: สามารถปกปิดผมขาวได้ 100% อย่างเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติ
  • ความหลากหลายของสี: มีเฉดสีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่โทนสีธรรมชาติไปจนถึงสีแฟชั่นสุดจี๊ด
  • อุปกรณ์ในกล่อง: ครบครันทั้งเซรั่ม, ครีมย้อม, ดีเวลอปเปอร์, คอนดิชันเนอร์ และถุงมือ
จุดเด่น
  • บำรุงผมครบวงจร ผมไม่แห้งเสียหลังทำ
  • ปิดผมขาวได้เนียนสนิท
  • สีผมสวยชัด ติดทนนาน
  • หาซื้อง่าย มีเฉดสีให้เลือกเยอะ
ข้อควรพิจารณา
  • อาจมีกลิ่นฉุนเล็กน้อยสำหรับบางคน
  • ราคาสูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ ในตลาดเล็กน้อย

รีวิวแบบเจาะลึก

สิ่งที่ทำให้ L’Oréal Excellence แตกต่างและเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคำถามว่า สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ก็คือความใส่ใจในทุกขั้นตอนการทำสีนี่แหละค่ะ เริ่มตั้งแต่ขวดเล็ก ๆ ที่เขียนว่า “Protective Serum” ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกที่หลายคนอาจมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากนะคะ เพราะเซรั่มตัวนี้จะช่วยเคลือบปกป้องบริเวณปลายผมที่มักจะแห้งเสียและพรุนมากที่สุด ทำให้เมื่อลงสีแล้ว สีจะติดสม่ำเสมอทั่วทั้งศีรษะ ไม่เกิดปัญหาปลายผมสีเข้มกว่าโคน พอเข้าสู่ขั้นตอนการผสมครีมย้อม เนื้อครีมของเขาก็เข้มข้น ไม่เหลวจนไหลหยดเลอะเทอะ ทำให้ควบคุมทิศทางการลงสีได้ง่ายมาก ๆ ค่ะ ตัวครีมย้อมเองก็มีส่วนผสมของ Pro-Keratin ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างเส้นผมระหว่างที่เกล็ดผมเปิดรับเม็ดสี และยังมี Ceramide ช่วยเติมเต็มเนื้อผมที่อาจเสียหายจากการทำเคมี ทำให้เส้นผมยังคงความแข็งแรงอยู่ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นการทำร้ายและบำรุงไปพร้อม ๆ กันเลย

และขั้นตอนสุดท้ายที่ฟินสุด ๆ คือการใช้ Color-Lock Conditioner ที่ให้มาในซองค่ะ เนื้อครีมนุ่มและหอมมาก ช่วยปิดเกล็ดผมที่เปิดออกจากการย้อม ทำให้เม็ดสีถูกล็อกไว้ภายในอย่างแน่นหนา ผลลัพธ์คือสีผมที่ติดทนนานขึ้น ไม่เฟดง่าย แถมยังช่วยบำรุงให้ผมนุ่มลื่น มีน้ำหนัก ทิ้งตัวสวยแบบสุด ๆ เลยค่ะ หลังสระและเป่าผมให้แห้ง จะเห็นได้ชัดเลยว่าผมไม่แห้งกระด้างเลยแม้แต่น้อย แต่กลับดูเงางามสุขภาพดีขึ้นด้วยซ้ำ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ L’Oréal Excellence จึงเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือมาก ๆ สำหรับใครก็ตามที่มองหา สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย และต้องการผลลัพธ์ที่สวยงามราวกับมืออาชีพมาทำให้เลยค่ะ แถมยังช่วยดูแลเส้นผมไปในตัวด้วยการใช้ เซรั่มบํารุงผม ที่มีคุณภาพไปพร้อมๆกัน

คะแนนที่ได้

9.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใช้ยี่ห้อนี้ตลอดเลยค่ะ ผมขาวเยอะแค่ไหนก็ปิดมิด หลังย้อมผมนุ่มมาก ไม่เคยแห้งเสียเลย” – พี่จิ๊บ, อายุ 45
“ครั้งแรกที่ย้อมผมเองแล้วสีออกมาสม่ำเสมอเท่ากันทั้งหัว ประทับใจเซรั่มก่อนย้อมมาก ๆ ค่ะ เวิร์คจริง!” – น้องมายด์, อายุ 23


2. Garnier Color Naturals ★★★★☆

“สวยประหยัด ผมไม่พัง! ด้วยพลังจากน้ำมันธรรมชาติ ให้สีผมสวยชัดในราคาสบายกระเป๋า”

สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย Garnier Color Naturals

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับเพื่อน ๆ ที่เป็นนักเรียน นักศึกษา หรือใครที่อยากเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ แต่มีงบจำกัด ต้องเลิฟ Garnier Color Naturals แน่นอนค่ะ! เพราะเป็น สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่มาในราคาที่น่ารักสุด ๆ แต่คุณภาพไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลยนะคะ จุดเด่นของเขาคือการผสานพลังบำรุงจากน้ำมันธรรมชาติ 3 ชนิด ทั้งน้ำมันมะกอก, อะโวคาโด และอัลมอนด์ ที่ช่วยบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึกระหว่างการทำสี ทำให้ผมนุ่ม ชุ่มชื้น และเงางามขึ้นถึง 2 เท่า! เนื้อครีมก็เข้มข้น เกลี่ยง่าย ไม่หยดเลอะเทอะ แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้การย้อมผมเป็นเรื่องที่ผ่อนคลายมากขึ้นด้วยค่ะ

คุณสมบัติเด่น

  • สารสกัดจากธรรมชาติ: มีส่วนผสมของน้ำมันบำรุง 3 ชนิด (Avocado, Olive, and Almond Oil) ช่วยให้ผมนุ่มสลวยเงางาม
  • เนื้อครีมเข้มข้น: ไม่หยดเลอะเทอะขณะย้อม ทำให้ใช้งานสะดวกและทั่วถึง
  • สีติดทนนาน: ล็อกสีผมให้สวยชัดยาวนานถึง 8 สัปดาห์
  • ราคาเข้าถึงง่าย: เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ เหมาะสำหรับทุกคน
  • ปิดผมขาว: สามารถปกปิดผมขาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดเด่น
  • ราคาถูกและดี หาซื้อง่ายมาก
  • มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติช่วยบำรุงผม
  • กลิ่นไม่ฉุนรุนแรงเท่าสีย้อมผมทั่วไป
  • สีสวยชัดและติดทน
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีอุปกรณ์เสริมอย่างเซรั่มหรือหวีมาให้
  • สำหรับผมเส้นใหญ่หรือสีเข้มมากอาจต้องทิ้งไว้นานขึ้น

รีวิวแบบเจาะลึก

Garnier Color Naturals ถือเป็นตัวเลือกที่ฉลาดมากสำหรับคนที่อยากได้สีผมสวยแต่ไม่อยากจ่ายแพงค่ะ แม้จะมาในรูปแบบซองที่ดูเหมือนจะน้อย แต่จริง ๆ แล้วหนึ่งซองก็เพียงพอสำหรับคนผมสั้นถึงประบ่านะคะ ถ้าผมยาวก็อาจจะต้องใช้ 2-3 ซอง แต่ด้วยราคาที่สบายกระเป๋ามาก ๆ ก็ยังถือว่าคุ้มค่าอยู่ดีค่ะ ความดีงามของเขาอยู่ที่เนื้อครีมที่ผสมเข้ากันได้ง่ายและมีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยบำรุงไปในตัว ตอนที่ชโลมครีมลงบนผมจะรู้สึกได้เลยว่ามันไม่ได้ทำให้ผมแห้งสากในทันทีเหมือนสีย้อมผมราคาถูกบางยี่ห้อ แถมกลิ่นก็ยังหอมละมุน ไม่แสบจมูกเลยค่ะ ทำให้ประสบการณ์การย้อมผมเองที่บ้านเป็นอะไรที่ง่ายและสบายขึ้นเยอะเลย นอกจากนี้การดูแลผมหลังย้อมก็เป็นสิ่งสำคัญนะคะ การเลือกใช้ ยาสระผม ที่ดีก็ช่วยถนอมสีผมได้เหมือนกันค่ะ

ผลลัพธ์หลังสระและเป่าแห้งคือเซอร์ไพรส์มากค่ะ ผมที่ได้นุ่มกว่าที่คิดไว้เยอะมาก! ความรู้สึกเหมือนตอนเราหมักผมด้วย น้ำมันใส่ผม ดี ๆ เลยค่ะ สีผมที่ออกมาก็สวยชัดสม่ำเสมอ ให้ประกายที่เงางามเล่นกับแสงไฟได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะสีโทนน้ำตาลหรือโทนแดงจะเห็นผลชัดเจนเป็นพิเศษค่ะ เรื่องการปิดผมขาวก็ทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ อาจจะไม่เนียนกริบ 100% เท่ารุ่นพรีเมียม แต่สำหรับราคาเท่านี้ถือว่าเกินคาดไปมากค่ะ สรุปแล้ว Garnier Color Naturals คือคำตอบของคำถาม สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย สำหรับสายประหยัดที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดีเกินราคาจริง ๆ ค่ะ เป็นไอเทมที่ควรมีติดบ้านไว้เลยสำหรับใครที่รักการเปลี่ยนสีผมเป็นชีวิตจิตใจ

คะแนนที่ได้

9.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เป็นสีย้อมผมถูกและดีในตำนานเลยค่ะ ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียน ย้อมแล้วผมนุ่มกว่าเดิมอีก งงมาก!” – ฝน, อายุ 25
“ชอบที่หาซื้อง่ายมากค่ะ เข้าเซเว่นก็เจอเลย สีสวยชัดดีด้วยสำหรับราคานี้ คุ้มสุด ๆ ครับ” – บอล, อายุ 28


3. REVLON Colorsilk Beautiful Color with Keratin ★★★★☆

“อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ ปราศจากแอมโมเนีย! พร้อมเทคโนโลยี 3D Color ให้สีผมมีมิติ”

สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย REVLON Colorsilk

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับสาว ๆ ที่มีหนังศีรษะบอบบาง แพ้ง่าย หรือไม่ชอบกลิ่นฉุนรุนแรงของแอมโมเนีย บอกเลยว่า REVLON Colorsilk คือเพื่อนแท้ของคุณค่ะ! นี่คือ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่โดดเด่นด้วยสูตรปราศจากแอมโมเนีย (Ammonia-Free) ทำให้มีความอ่อนโยนสูงมาก ไม่ทำให้แสบหนังศีรษะ และไม่มีกลิ่นเคมีที่น่าเวียนหัว แต่ถึงจะอ่อนโยน เรื่องประสิทธิภาพการให้สีก็ไม่เป็นรองใครนะคะ ด้วยเทคโนโลยี 3D Color Gel Technology ที่จะช่วยให้สีผมดูมีมิติ ไล่ระดับอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดูทึบหรือแบนเป็นสีเดียวกันทั้งหัว แถมยังผสมเคราตินและโปรตีนไหม ช่วยบำรุงให้เส้นผมนุ่มสลวยและแข็งแรงขึ้นอีกด้วยค่ะ

คุณสมบัติเด่น

  • สูตรปราศจากแอมโมเนีย: อ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ ลดการระคายเคืองและกลิ่นฉุน
  • เทคโนโลยี 3D Color Gel: มอบสีผมที่มีมิติ ไล่ระดับโทนสีอย่างเป็นธรรมชาติและเงางาม
  • สารบำรุงเข้มข้น: ผสานคุณค่าจาก Keratin และ Silk Amino Acid ช่วยบำรุงให้ผมนุ่มลื่นและสุขภาพดี
  • เทคโนโลยี UV Defense: ช่วยปกป้องสีผมจากแสงแดด ทำให้สีไม่ซีดจางง่าย
  • ใช้งานง่าย: เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบลิควิด-เจล ทำให้ซึมซาบเข้าสู่เส้นผมได้ดี
จุดเด่น
  • ไม่มีแอมโมเนีย กลิ่นไม่ฉุน ไม่แสบหัว
  • สีผมดูมีมิติ เป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็งทื่อ
  • มีสารบำรุงเคราติน ทำให้ผมนุ่มขึ้น
  • มี UV Defense ช่วยให้สีติดทน
ข้อควรพิจารณา
  • เนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างเหลว ต้องระวังหยดเลอะเทอะ
  • เฉดสีแฟชั่นอาจมีให้เลือกไม่มากเท่าแบรนด์อื่น

รีวิวแบบเจาะลึก

ต้องยอมรับเลยว่า REVLON Colorsilk เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับคนที่ไม่ถูกกับแอมโมเนียจริง ๆ ค่ะ ประสบการณ์ตอนย้อมคือสบายมาก แทบจะไม่ได้กลิ่นเคมีเลย มีแค่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้ไม่รู้สึกทรมานเหมือนตอนใช้สีย้อมผมแบบเก่า ๆ เนื้อผลิตภัณฑ์แม้จะค่อนข้างเหลวกว่าแบบครีม แต่ก็ทำให้มันซึมเข้าเส้นผมได้ง่ายและทั่วถึงนะคะ แค่ต้องระวังตอนลงสีนิดหน่อย อย่าบีบออกมาเยอะเกินไปในทีเดียว วิธีใช้ง่าย ๆ คือแบ่งผมเป็นช่อเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ชโลมจากโคนจรดปลายค่ะ สิ่งที่น่าทึ่งคือเทคโนโลยี 3D Color ของเขาที่ทำงานได้ดีมาก ๆ เพราะหลังย้อมเสร็จจะเห็นเลยว่าสีผมมันไม่ได้เป็นสีเดียวกันเป๊ะ ๆ แต่จะมีไฮไลท์และโลว์ไลท์จาง ๆ แทรกอยู่ ทำให้ผมดูมีวอลลุ่ม มีมิติ ไม่แบนเหมือนใส่วิกเลยค่ะ มันเป็นความสวยแบบละเอียดที่ทำให้ลุคโดยรวมดูแพงขึ้นมาก

และที่สำคัญที่สุดคือสภาพผมหลังย้อมค่ะ! ด้วยความที่ไม่มีแอมโมเนียและมีทั้งเคราตินทั้งโปรตีนไหม ผมเลยไม่แห้งกระด้างเลยแม้แต่น้อย กลับกันคือรู้สึกว่าผมนุ่มและเรียบลื่นขึ้นด้วยซ้ำ คอนดิชันเนอร์ที่ให้มาในกล่องก็คือดีมาก ๆ ช่วยเคลือบผมให้นุ่มเงาและล็อกสีไปอีกขั้น แถมยังมี UV Defense ช่วยป้องกันไม่ให้สีผมซีดจางจากแดดได้ด้วย ทำให้เราสามารถเอนจอยกับสีผมสวย ๆ ได้นานขึ้นค่ะ สำหรับใครที่ให้ความสำคัญกับความอ่อนโยนเป็นอันดับแรก และกำลังตามหา สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย REVLON Colorsilk คือคำตอบที่ลงตัวมาก ๆ ค่ะ เป็นการทำสีที่ถนอมผมอย่างแท้จริง ถ้าใช้คู่กับทรีทเม้นท์ผมดีๆ ด้วยแล้วรับรองผมสวยปังแน่นอน

คะแนนที่ได้

9.3/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“แพ้แอมโมเนียค่ะ ใช้ยี่ห้ออื่นไม่ได้เลย แต่ตัวนี้คือรอด! ไม่คัน ไม่แสบ แถมสีสวยมากด้วย” – กิ๊ฟ, อายุ 31
“ชอบที่สีมันดูมีมิติดีครับ ไม่ได้น้ำตาลทื่อๆ ไปเลย ทำให้หน้าดูสว่างขึ้นด้วย” – อาร์ม, อายุ 29


4. Liese Creamy Bubble Color ★★★★☆

“เปลี่ยนการย้อมผมให้เป็นเรื่องสนุก! แค่ชโลมโฟมเหมือนสระผมก็ได้สีสวยทั่วถึง”

สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย Liese Creamy Bubble Color

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับมือใหม่หัดย้อมผม หรือใครก็ตามที่เบื่อความยุ่งยากของการต้องมานั่งแบ่งผมทีละช่อ ขอแนะนำให้รู้จักกับ Liese Creamy Bubble Color เลยค่ะ! นี่คือสุดยอดนวัตกรรมการทำสีผมที่ง่ายที่สุดในสามโลก! แค่ผสมน้ำยาแล้วเขย่าเบา ๆ ก็จะได้โฟมหนานุ่มฟูฟ่องออกมา แค่ชโลมโฟมลงบนผมแล้วนวด ๆ ให้ทั่วเหมือนตอนสระผมปกติ เท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ โฟมที่หนานุ่มจะแทรกซึมเข้าไปเคลือบเส้นผมทุกเส้นได้อย่างทั่วถึง แม้แต่บริเวณท้ายทอยหรือหลังใบหูที่ยากจะเข้าถึง ทำให้ปัญหาสีผมด่างหรือไม่สม่ำเสมอกลายเป็นเรื่องในอดีตไปเลยค่ะ เป็น สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่เหมาะกับคนขี้เกียจ เอ๊ย! คนที่ไม่ชอบความซับซ้อนที่สุดเลยค่ะ

คุณสมบัติเด่น

  • รูปแบบโฟม: ใช้งานง่ายมาก แค่ขยำโฟมให้ทั่วศีรษะเหมือนการสระผม
  • โฟมหนานุ่ม: เนื้อโฟมเข้มข้นกว่าเดิม 4 เท่า เกาะติดเส้นผมได้ดี ทำให้สีติดสม่ำเสมอ
  • สารบำรุง: มีส่วนผสมของ Hydrolyzed Silk และ Lanolin Acid ช่วยให้ผมนุ่มชุ่มชื้นหลังทำ
  • เฉดสีสไตล์ญี่ปุ่น: มีโทนสีแฟชั่นสวย ๆ ให้เลือกเยอะมาก โดยเฉพาะโทนสีน้ำตาลหม่นและสีแอช
  • อุปกรณ์ครบครัน: มาพร้อมหัวปั๊มโฟม, ถุงมือ, และทรีทเมนต์บำรุงผม
จุดเด่น
  • ใช้ง่ายมาก ทำเองคนเดียวได้สบาย
  • สีติดสม่ำเสมอทั่วถึง แม้ในจุดที่เข้าถึงยาก
  • มีเฉดสีสวย ๆ สไตล์ญี่ปุ่นให้เลือกเยอะ
  • หลังย้อมผมนุ่ม ไม่แห้งกระด้าง
ข้อควรพิจารณา
  • อาจมีกลิ่นแอมโมเนียค่อนข้างชัด
  • สำหรับผมที่หนาและยาวมากอาจต้องใช้ 2 กล่อง

รีวิวแบบเจาะลึก

Liese Creamy Bubble Color คือปฏิวัติวงการย้อมผมเองที่บ้านอย่างแท้จริงค่ะ จากเดิมที่ต้องเตรียมอุปกรณ์วุ่นวาย ต้องมีคนช่วยทาด้านหลังให้ แต่ตัวนี้คือจบ ครบ ทำคนเดียวได้สบาย ๆ เลยค่ะ แค่เทส่วนผสมลงในขวดแล้วคว่ำขวดขึ้นลงช้า ๆ (ห้ามเขย่าแรง ๆ นะคะ) ก็จะได้โฟมฟู ๆ ออกมาจากหัวปั๊มแล้วค่ะ ความสนุกมันอยู่ตรงนี้แหละค่ะ! การเอาโฟมนุ่ม ๆ มาขยำลงบนผมมันเพลินมาก ๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะเลอะเทอะหรือทาไม่ทั่วถึงเลย เพราะเนื้อโฟมมันเกาะผมได้ดีและกระจายตัวได้ง่ายมาก แค่นวดไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่าโฟมครอบคลุมผมทั้งหัวแล้วก็ทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนดได้เลย เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกจนลืมไปเลยว่ากำลังย้อมผมอยู่ค่ะ! ใครที่ชอบฟังเพลงตอนทำสวย อาจจะอยากได้ หูฟังบลูทูธ ดีๆ สักอันไว้เปิดเพลงฟังเพลินๆ ระหว่างรอสีผมนะคะ

มาพูดถึงผลลัพธ์กันบ้าง Liese ขึ้นชื่อเรื่องเฉดสีสไตล์ญี่ปุ่นที่สวยละมุนมาก ๆ โดยเฉพาะสีโทนน้ำตาลหม่น ๆ หรือสีแอชเทาที่กำลังฮิตติดลมบน ทำออกมาได้สวยตรงปกสุด ๆ ค่ะ สีที่ได้จะมีความโปร่งแสงเล็กน้อย ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ทึบตัน และเมื่อผมโดนแสงก็จะเห็นประกายสีที่สวยมาก ๆ เลยค่ะ หลังจากล้างสีออกและใช้ทรีทเมนต์ที่เขาให้มา ผมก็นุ่มลื่น ไม่พันกันเลยค่ะ อาจจะไม่ได้รู้สึกว่าผมนุ่มขึ้นเหมือนรุ่นที่เน้นบำรุงจ๋า ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมแห้งเสียหรือกระด้างลงแน่นอนค่ะ ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมในฐานะ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่เน้นความสะดวกและสีสันที่ทันสมัยเป็นหลัก ใครที่อยากลองย้อมผมเองแต่กลัวพลาด บอกเลยว่าเริ่มจากตัวนี้ไม่มีผิดหวังค่ะ!

คะแนนที่ได้

9.1/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ง่ายแบบตะโกน! แค่ขยำ ๆ เหมือนสระผมเลย ไม่ต้องง้อใครทำให้ สีออกมาเท่ากันเป๊ะ ชอบมากค่ะ” – พลอย, อายุ 26
“ผมทำสีครั้งแรก ลองใช้ตัวนี้แล้วติดใจเลยครับ ทำง่ายมาก ๆ สีน้ำตาลหม่นที่ได้ก็สวยถูกใจสุด ๆ” – เจมส์, อายุ 22


5. NIGAO Hair Color Fashion ★★★★☆

“สีแฟชั่นสุดปัง เม็ดสีแน่นสะใจ แต่ยังอ่อนโยนต่อเส้นผมด้วยนวัตกรรมใหม่”

สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย NIGAO Hair Color Fashion

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สายแฟชั่นที่รักการทำสีผมโทนสว่างหรือสีจี๊ด ๆ ต้องรู้จักแบรนด์ NIGAO (นิกาโอะ) อย่างแน่นอนค่ะ เพราะเป็นแบรนด์ที่ช่างทำผมมืออาชีพหลายคนเลือกใช้ และตอนนี้เราก็สามารถหาซื้อมาทำเองที่บ้านได้ง่าย ๆ แล้ว! จุดเด่นที่ทำให้ NIGAO เป็น สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย สำหรับสายแฟชั่นก็คือเม็ดสีที่นำเข้าจากต่างประเทศ มีความคมชัดและแน่นมาก ๆ ทำให้สีที่ได้สดและตรงตามชาร์ตสุด ๆ ที่สำคัญคือปราศจากแอมโมเนีย 100% ทำให้กลิ่นไม่ฉุนเลยแม้แต่น้อย และยังใช้เทคโนโลยี Crodafos HCE ที่ช่วยเพิ่มความเงางามและทำให้สีติดทนนานยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

คุณสมบัติเด่น

  • ปราศจากแอมโมเนีย: ไม่มีกลิ่นฉุน และลดการระคายเคืองหนังศีรษะ
  • เม็ดสีคุณภาพสูง: ให้สีที่สด คมชัด และตรงตามชาร์ตสี แม้จะเป็นสีแฟชั่นโทนสว่าง
  • เทคโนโลยี Crodafos HCE: ช่วยให้เม็ดสีแทรกซึมเข้าสู่เส้นผมได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มความเด่นชัดและเงางาม
  • สารสกัด Squalane: ช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้เส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมนุ่ม ไม่แห้งเสีย
  • Made in Japan: การันตีคุณภาพและมาตรฐานการผลิตที่น่าเชื่อถือ
จุดเด่น
  • สีแฟชั่นสวยมาก เม็ดสีแน่นและชัด
  • ไม่มีแอมโมเนีย กลิ่นหอม ไม่แสบหัว
  • หลังย้อมผมยังคงความนุ่มและเงางาม
  • ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพ
ข้อควรพิจารณา
  • ต้องซื้อดีเวลอปเปอร์ (ไฮโดรเจน) แยกต่างหาก
  • สำหรับสีสว่างมาก ๆ จำเป็นต้องฟอกสีผมก่อน

รีวิวแบบเจาะลึก

NIGAO คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์มาก ๆ สำหรับคนที่อยากได้สีผมแฟชั่นจ๋า ๆ แต่ก็ยังรักสุขภาพผมอยู่ค่ะ เพราะปกติแล้วการจะทำสีโทนสว่างอย่างสีเทา สีชมพู หรือสีพาสเทล มักจะต้องแลกมากับผมที่แห้งเสียอย่างหนัก แต่ NIGAO ได้ทำลายกำแพงนั้นลงไปแล้วค่ะ ด้วยสูตรที่ไม่มีแอมโมเนียและมี Squalane ซึ่งเป็นสารให้ความชุ่มชื้นชั้นดี ทำให้ระหว่างที่ย้อมผม เราจะไม่รู้สึกว่าผมถูกทำร้ายเลยค่ะ เนื้อครีมผสมกับดีเวลอปเปอร์ได้ง่ายและมีความข้นกำลังดี ทำให้ป้ายลงบนผมได้สะดวก ไม่ไหลเยิ้ม สำหรับคนที่อยากได้สีที่ตรงปก 100% โดยเฉพาะสีอ่อน ๆ แนะนำว่าควรจะฟอกสีผมให้ได้ระดับความสว่างที่เหมาะสมก่อนนะคะ ซึ่งจะทำให้เม็ดสีของ NIGAO แสดงประสิทธิภาพออกมาได้เต็มที่ที่สุด

ผลลัพธ์ที่ได้คือต้องร้องว้าวเลยค่ะ! สีสวยมากจริง ๆ ค่ะทุกคน! ความแน่นของเม็ดสีคือที่สุด ให้สีที่สดและอิ่มตัวมาก ๆ ไม่มีความเพี้ยนเลยแม้แต่น้อย และที่สำคัญคือผมที่ได้มีความเงางามเล่นแสงสวยมาก ๆ ด้วยเทคโนโลยี Crodafos HCE ของเขา สภาพผมหลังย้อมก็คือดีงาม ไม่แห้ง ไม่สากเลยค่ะ ยังคงความนุ่มและมีน้ำหนักอยู่ ซึ่งเป็นอะไรที่หาได้ยากมากจากการย้อมสีโทนสว่างด้วยตัวเอง ด้วยเหตุผลนี้ NIGAO จึงเป็นคำตอบที่ชัดเจนมากสำหรับคำถามที่ว่า สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย โดยเฉพาะสำหรับคนที่รักในสีสันและความแตกต่างค่ะ เป็นแบรนด์ที่ทำให้เราสนุกกับการเปลี่ยนสีผมได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผมพังอีกต่อไป และแน่นอนว่าการมี ไดร์เป่าผม คุณภาพดีก็จะช่วยให้เซ็ตผมหลังทำสีได้สวยเป๊ะยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ

คะแนนที่ได้

9.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ทำสีเทาครั้งแรก ใช้ของนิกาโอะคือประทับใจมาก สีสวยตรงชาร์ตเป๊ะ ไม่ติดเหลืองเลย ผมก็ไม่เสียด้วยค่ะ” – ใบเตย, อายุ 24
“กลิ่นหอมมากครับ ไม่เหมือนสีย้อมผมเลย เนื้อครีมก็ดี ทาง่าย สีติดชัดเจนดีมากครับ” – นนท์, อายุ 27


6. Naturtint 5G Light Golden Chestnut ★★★★☆

“พลังจากพืชพรรณธรรมชาติ! อ่อนโยนขั้นสุดเพื่อสีผมสวยสุขภาพดีอย่างยั่งยืน”

สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย Naturtint 5G Light Golden Chestnut

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับสายกรีนที่รักสุขภาพและใส่ใจในส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นพิเศษ Naturtint คือคำตอบที่ใช่ที่สุดค่ะ! นี่คือ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่ยืนหนึ่งเรื่องความอ่อนโยนขั้นสุด เพราะเขาเน้นใช้ส่วนผสมที่มาจากพืชเป็นหลัก ปราศจากสารเคมีรุนแรงที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ไม่ว่าจะเป็นแอมโมเนีย, เรซอร์ซินอล, พาราเบน หรือโลหะหนัก ทำให้มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยต่อเส้นผมและหนังศีรษะ ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังมาแล้วด้วยนะคะ ใครที่เคยมีประสบการณ์ย้อมผมแล้วแพ้หรือคันศีรษะ ลองเปิดใจให้แบรนด์นี้ดู รับรองว่าจะติดใจในความอ่อนโยนของเขาแน่นอนค่ะ

คุณสมบัติเด่น

  • ส่วนผสมจากพืช: อุดมด้วยสารสกัดจากพืชธรรมชาติ เช่น Oleic Acid จากมะกอก และ Meadowfoam Seed Oil
  • สูตรอ่อนโยนพิเศษ: ปราศจากแอมโมเนีย, พาราเบน, เรซอร์ซินอล และสารเคมีรุนแรงอื่น ๆ
  • ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง: เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังศีรษะบอบบางและแพ้ง่าย
  • Multi-Care Mask: มาสก์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของ Quinoa, Shea Butter และ Baobab Proteins ช่วยบำรุงล้ำลึก
  • วีแกนและไม่ทดลองกับสัตว์: เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สายรักสัตว์และสิ่งแวดล้อม
จุดเด่น
  • อ่อนโยนมาก ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  • ส่วนผสมหลักมาจากธรรมชาติและเป็นวีแกน
  • สีสวยเป็นธรรมชาติและปิดผมขาวได้ดี
  • มาสก์บำรุงที่ให้มาคือดีมาก ผมนุ่มสุดๆ
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูงกว่าสีย้อมผมทั่วไปในท้องตลาด
  • สีแฟชั่นจี๊ดจ๊าดอาจมีให้เลือกไม่มากนัก

รีวิวแบบเจาะลึก

Naturtint ได้ยกระดับการทำสีผมเองที่บ้านไปอีกขั้นเลยค่ะ จากเดิมที่แค่เน้นว่าผมไม่เสีย แต่แบรนด์นี้ไปไกลกว่านั้นคือเน้นเรื่องสุขภาพของหนังศีรษะและความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ แต่หลายคนมักมองข้ามไป ส่วนผสมเด่น ๆ ของเขาคือ Oleic Acid ที่สกัดจากมะกอก ซึ่งจะช่วยให้ความชุ่มชื้นและปกป้องเส้นผมได้อย่างดีเยี่ยม และยังมี Meadowfoam Seed Oil ที่ช่วยฟื้นฟูผมเสียและทำให้สีติดทนนานขึ้นด้วยค่ะ ตอนที่ใช้จะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างเลยคือแทบไม่มีกลิ่นเคมีเลย มีแค่กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากพืชพรรณ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก ๆ เนื้อผลิตภัณฑ์ก็ผสมง่าย ใช้งานสะดวก ไม่ยุ่งยาก และที่ประทับใจสุด ๆ คือมาสก์บำรุงที่ให้มาในกล่องค่ะ คือมันดีมาก! เนื้อเข้มข้น อัดแน่นไปด้วยสารบำรุงจากควินัว เชียบัตเตอร์ และโปรตีนเบาบับ หลังหมักทิ้งไว้แค่ไม่กี่นาที ผมที่เคยรู้สึกว่าจะกระด้างนิด ๆ จากการย้อมก็กลับมานุ่มสลวย มีน้ำหนัก และเงางามยิ่งกว่าเดิมอีกค่ะ นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ Naturtint เป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบของ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย สำหรับคนรักสุขภาพตัวจริง

ในแง่ของผลลัพธ์สี แม้ว่า Naturtint จะเน้นโทนสีธรรมชาติเป็นหลัก แต่ก็ทำออกมาได้สวยงามและมีระดับมากค่ะ สีที่ได้จะดูไม่โดดจนเกินไป แต่มีความลึกและความเงางามที่ทำให้เส้นผมดูสุขภาพดีจากภายใน การปกปิดผมขาวก็ทำได้ดีเยี่ยม สามารถปิดได้อย่างเรียบเนียนและให้สีที่สม่ำเสมอทั่วทั้งศีรษะ เหมาะมากสำหรับคนที่เริ่มมีผมขาวแต่ยังไม่อยากใช้สารเคมีที่รุนแรงกับเส้นผมค่ะ แม้ว่าราคาอาจจะสูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ ในลิสต์นี้ไปบ้าง แต่ถ้ามองว่าเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะในระยะยาว บอกเลยว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ค่ะ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อร่างกายก็เหมือนการเลือกทาน ข้าวโอ๊ต เพื่อสุขภาพนั่นแหละค่ะ มันคือการดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอก ดังนั้น ใครที่กำลังมองหา สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่เป็นมากกว่าแค่สีสัน แต่ยังเป็นการบำรุงและดูแลอย่างแท้จริง ต้องลอง Naturtint เลยค่ะ

คะแนนที่ได้

8.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“หนังศีรษะแพ้ง่ายมากค่ะ แต่ใช้ตัวนี้แล้วไม่คันเลย อ่อนโยนจริง ๆ สีก็สวยเป็นธรรมชาติมากค่ะ” – พี่อร, อายุ 38
“ยอมจ่ายแพงขึ้นอีกนิดเพื่อความปลอดภัยค่ะ ใช้แล้วสบายใจมาก ผมไม่เสียเลย แถมยังนุ่มขึ้นด้วย ชอบมาสก์ที่ให้มามาก ๆ” – เกด, อายุ 30


7. NATURIGIN Light Brown 5.0 ★★★★☆

“ที่สุดแห่งสายออร์แกนิก! ด้วยสารสกัด 12 ชนิดจากธรรมชาติ ผ่านการรับรองระดับสากล”

สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย NATURIGIN Light Brown 5.0

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้า Naturtint คือสายธรรมชาติแล้ว NATURIGIN ก็คือขั้นกว่าสำหรับสายออร์แกนิกตัวแม่เลยค่ะ! แบรนด์นี้มาจากเดนมาร์กและโด่งดังมากในยุโรป ด้วยจุดยืนที่ชัดเจนในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด นี่คือ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่อัดแน่นไปด้วยสารสกัดออร์แกนิกที่ผ่านการรับรองจาก ECOCERT ถึง 12 ชนิด! ไม่ว่าจะเป็นเชียบัตเตอร์, น้ำมันโจโจบา, ว่านหางจระเข้ และอีกมากมาย ที่จะช่วยบำรุงและปกป้องเส้นผมของคุณอย่างเต็มพิกัด ปราศจากสารเคมีอันตรายอย่างแอมโมเนียและพาราเบนแน่นอนค่ะ ใครที่ซีเรียสเรื่องส่วนผสมและมองหาผลิตภัณฑ์ที่โปร่งใสและน่าเชื่อถือที่สุด ต้องแบรนด์นี้เลยค่ะ

คุณสมบัติเด่น

  • สารสกัดออร์แกนิก 12 ชนิด: มีส่วนผสมของ Jojoba, Shea Butter, Aloe Vera, Apricot และอื่น ๆ ที่ช่วยบำรุงอย่างล้ำลึก
  • ได้รับการรับรองจาก ECOCERT: การันตีมาตรฐานของส่วนผสมออร์แกนิกที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
  • สูตรสะอาด: ปราศจาก PTD, SLS, แอมโมเนีย, เรซอร์ซินอล และพาราเบน
  • สีผมดูเป็นธรรมชาติ: ให้ผลลัพธ์สีที่สวยงาม ดูสุขภาพดี ไม่แข็งทื่อ
  • ผลิตในเดนมาร์ก: มั่นใจได้ในคุณภาพและมาตรฐานการผลิตตามแบบฉบับสแกนดิเนเวีย
จุดเด่น
  • ส่วนผสมออร์แกนิกจัดเต็มและได้รับการรับรอง
  • อ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผมมาก
  • ให้สีที่เป็นธรรมชาติและผมดูสุขภาพดี
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ทดลองกับสัตว์
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูงที่สุดในบรรดาลิสต์ทั้งหมด
  • หาซื้อได้ยากกว่าแบรนด์อื่น อาจต้องสั่งออนไลน์เท่านั้น

รีวิวแบบเจาะลึก

การเลือกใช้ NATURIGIN เหมือนกับการทำสปาผมออร์แกนิกที่บ้านเลยค่ะ เพราะทุกส่วนผสมที่เขาคัดสรรมานั้นเน้นการบำรุงและฟื้นฟูเป็นหลัก ตอนใช้จะไม่มีกลิ่นฉุนเลยแม้แต่น้อย มีเพียงกลิ่นหอมอ่อนๆ จากธรรมชาติที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เนื้อครีมมีความนุ่มละมุนมาก เกลี่ยลงบนเส้นผมได้ง่ายและไม่ทำให้ผมพันกันค่ะ สิ่งที่ทำให้แบรนด์นี้เป็น สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย อย่างแท้จริงคือความรู้สึกหลังล้างออกค่ะ ผมจะไม่ได้แค่ไม่เสีย แต่มันรู้สึกแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ ความนุ่มลื่นและความเงางามที่ได้นั้นมาจากพลังของสารสกัดออร์แกนิกล้วนๆ ไม่ใช่ซิลิโคนหนักๆ ที่มาเคลือบไว้ชั่วคราว ทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองและดีต่อโลกไปพร้อมๆ กัน เหมือนกับเวลาที่เราเลือกใช้ แชมพูออร์แกนิก นั่นแหละค่ะ มันคือการดูแลแบบองค์รวม

สำหรับผลลัพธ์ของสี อาจจะไม่ได้หวือหวาเท่าแบรนด์สายแฟชั่น แต่ให้สีที่สวยคลาสสิก ดูแพง และเป็นธรรมชาติมากค่ะ การปิดผมขาวก็ทำได้ดี สามารถกลมกลืนไปกับสีผมเดิมได้อย่างแนบเนียน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสีผมที่ดูสุภาพ สุขภาพดี และสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจในคุณภาพอย่างแท้จริงค่ะ แม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูงและอาจจะหาซื้อยากสักหน่อย แต่สำหรับคนที่ยอมลงทุนเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเส้นผมและสุขภาพของตัวเองแล้ว NATURIGIN ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากค่ะ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถมีสีผมที่สวยงามได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสารเคมีที่รุนแรงเลยแม้แต่น้อย นี่แหละคือคำตอบสุดท้ายของคำถาม สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย สำหรับสายออร์แกนิกที่แท้ทรู

คะแนนที่ได้

8.6/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ยอมจ่ายค่ะ เพื่อผมและหนังศีรษะของเราเอง ใช้แล้วรู้สึกดีมาก ผมนุ่มสวย สีก็ดูผู้ดีมากค่ะ” – คุณแอน, อายุ 42
“ส่วนผสมคือดีที่สุดเท่าที่เคยเจอมาแล้วค่ะ ออร์แกนิกล้วนๆ สบายใจตอนใช้มาก ไม่ต้องกลัวแพ้เลย” – มิ้นท์, อายุ 33


8. Bigen Men’s One Push ★★★☆☆

“ง่าย เร็ว ไม่ต้องผสม! แค่กดแล้วหวี ตอบโจทย์คุณผู้ชายที่ต้องการความสะดวก”

สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย Bigen Men's One Push

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

คุณผู้ชายหรือสาว ๆ ที่ต้องการแค่ปิดผมขาวแบบเร่งด่วน ไม่ชอบความยุ่งยากซับซ้อน ต้องลอง Bigen Men’s One Push เลยค่ะ! ถึงแม้ชื่อจะบอกว่าเป็นของผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็ใช้ได้นะคะ จุดเด่นที่ทำให้ตัวนี้เป็น สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย สำหรับสายรีบคือความง่ายในการใช้งานค่ะ แค่กดเพียงครั้งเดียว ครีม 2 ชนิดก็จะออกมาพร้อมกันบนหวีแปรงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ไม่ต้องมานั่งผสมเองให้วุ่นวาย จากนั้นก็แค่หวีลงบนเส้นผมบริเวณที่ต้องการ ทิ้งไว้แค่ 5-10 นาทีแล้วล้างออก เท่านี้ก็เรียบร้อย! แถมส่วนที่เหลือยังเก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้อีกด้วย ประหยัดและสะดวกสุด ๆ ไปเลยค่ะ

คุณสมบัติเด่น

  • ใช้งานง่าย ไม่ต้องผสม: แค่กดปุ่มเดียว ครีมย้อมและดีเวลอปเปอร์จะออกมาพร้อมกัน
  • หวีแปรงพิเศษ: ออกแบบมาให้เกลี่ยครีมลงบนเส้นผมได้ง่ายและทั่วถึง
  • รวดเร็ว: ใช้เวลาในการย้อมเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น
  • เก็บไว้ใช้ต่อได้: ครีมที่เหลือในขวดสามารถเก็บไว้ใช้เติมโคนผมในครั้งถัดไปได้
  • สารบำรุง 3 ชนิด: มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้ชุ่มชื้น
จุดเด่น
  • สะดวกและรวดเร็วมากที่สุด
  • ไม่ต้องผสมเอง ลดความยุ่งยาก
  • เก็บส่วนที่เหลือไว้ใช้ครั้งหน้าได้ คุ้มค่า
  • ปิดผมขาวได้ค่อนข้างดีและรวดเร็ว
ข้อควรพิจารณา
  • มีเฉดสีให้เลือกน้อย ส่วนใหญ่เป็นสีเข้ม
  • อาจมีกลิ่นฉุนเล็กน้อย
  • ไม่เหมาะกับการย้อมสีแฟชั่นทั้งศีรษะ

รีวิวแบบเจาะลึก

Bigen Men’s One Push คือนวัตกรรมที่มาเพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากของการย้อมผมปิดผมขาวโดยเฉพาะเลยค่ะ ลืมภาพการเตรียมถ้วยผสม การบีบหลอดครีม 2 หลอดในอัตราส่วนที่เท่ากันไปได้เลย ตัวนี้แค่กดปุ่มเดียว ทุกอย่างก็พร้อมใช้งานทันทีบนหวีที่เขาออกแบบมาอย่างดี มีร่องตรงกลางสำหรับให้ครีมไหลออกมา ทำให้เราสามารถควบคุมปริมาณและทิศทางได้อย่างแม่นยำ เหมาะมาก ๆ สำหรับการเติมโคนผมที่ขึ้นมาใหม่ หรือย้อมเฉพาะจุด เช่น จอน鬓角 หรือท้ายทอย ความรวดเร็วก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็ง แค่ทิ้งไว้ไม่นานก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจแล้วค่ะ ทำให้การปิดผมขาวกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ไม่ต้องเสียเวลาไปร้านทำผมเลยค่ะ

ถึงแม้จะเน้นความเร็วและความสะดวก แต่ Bigen ก็ยังใส่สารบำรุงมาให้ถึง 3 ชนิด เพื่อช่วยดูแลเส้นผมไม่ให้แห้งกระด้างหลังทำสีด้วยนะคะ ทำให้เป็น สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่สมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความอ่อนโยนได้ดีทีเดียวค่ะ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อการปิดผมขาวเป็นหลัก ดังนั้นเฉดสีที่มีให้เลือกจึงมีจำกัดและเน้นไปที่โทนสีเข้มธรรมชาติอย่างสีดำหรือน้ำตาลเข้ม ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการทำสีผมแฟชั่นทั้งศีรษะนะคะ แต่ถ้าเป้าหมายของคุณคือการจัดการผมขาวที่น่ารำคาญใจให้หายไปอย่างรวดเร็วและง่ายดายที่สุด Bigen Men’s One Push คือผู้ช่วยมือหนึ่งที่ตอบโจทย์ได้อย่างไม่มีที่ติเลยค่ะ การดูแลตัวเองให้ดูดีก็เหมือนการใช้ Smart Watch ที่ช่วยให้เราแอคทีฟอยู่เสมอค่ะ

คะแนนที่ได้

8.4/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใช้ง่ายมากครับ กดแล้วหวีเลย ไม่เลอะเทอะดี ผมขาวตรงจอนหายเกลี้ยงเลยครับ” – คุณสมชาย, อายุ 52
“ซื้อให้คุณพ่อใช้ค่ะ ท่านชอบมาก บอกว่าสะดวกดี ไม่ต้องให้ใครช่วยทำให้เลย” – น้ำ, อายุ 35


9. Kota Cosmetics Color Cream Sepia ★★★☆☆

“สีย้อมผมออร์แกนิกสัญชาติเกาหลี! กลิ่นหอมโสม สีสวยชัดในราคานักศึกษา”

สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย Kota Cosmetics Color Cream Sepia

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

เอาใจวัยรุ่นและสายเกาหลีกันบ้างกับ Kota Cosmetics! สีย้อมผมที่กำลังมาแรงในโซเชียล ด้วยแพ็คเกจจิ้งที่น่ารักสดใสและราคาที่จับต้องได้ง่ายมาก ๆ แต่เห็นราคาเบา ๆ แบบนี้ คุณภาพไม่เบาเลยนะคะ เพราะเป็นสูตรออร์แกนิกที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากโสมเกาหลี ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะไปในตัว จุดเด่นที่หลายคนพูดถึงคือกลิ่นที่หอมมาก! หอมกลิ่นโสมอ่อน ๆ ไม่มีความฉุนของเคมีเลย ทำให้การย้อมผมเป็นเรื่องที่แฮปปี้สุด ๆ ค่ะ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่เหมาะกับคนที่ชอบลองสีใหม่ ๆ บ่อย ๆ โดยไม่ทำร้ายผมและไม่ทำร้ายกระเป๋าตังค์ค่ะ

คุณสมบัติเด่น

  • สูตรออร์แกนิก: มีส่วนผสมของสารสกัดจากโสมเกาหลี
  • กลิ่นหอม: ไม่มี่กลิ่นฉุนของแอมโมเนีย แต่เป็นกลิ่นหอมของโสม
  • สีสวยชัด: ให้เม็ดสีที่แน่นและตรงปก โดยเฉพาะโทนสีน้ำตาลและสีแฟชั่น
  • ราคาประหยัด: เข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษา
  • ผมเงางาม: หลังย้อมผมจะดูเงางามและมีน้ำหนัก
จุดเด่น
  • ราคาถูกมากและคุณภาพดี
  • กลิ่นหอมโสม ไม่ฉุนเลย
  • สีสวยชัดสไตล์เกาหลี
  • หลังย้อมผมไม่แห้งเสีย
ข้อควรพิจารณา
  • ต้องซื้อดีเวลอปเปอร์แยก
  • ความติดทนของสีอาจไม่เท่าแบรนด์ราคาสูง

รีวิวแบบเจาะลึก

Kota Cosmetics เป็นแบรนด์ที่เข้าใจวัยรุ่นจริง ๆ ค่ะ ทั้งเรื่องราคาและโทนสีที่มีให้เลือก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสีที่กำลังอินเทรนด์ในเกาหลี อย่างสีน้ำตาลหม่นเทา สีชมพู หรือสีน้ำเงินหม่น ๆ ที่สวยมาก ๆ ค่ะ ความประทับใจแรกเลยคือกลิ่นค่ะ มันหอมจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือสีย้อมผม! ทำให้ตอนที่ทำรู้สึกเพลินมาก ๆ เนื้อครีมก็ผสมง่าย มีความเข้มข้นกำลังดี ป้ายลงบนผมแล้วไม่ไหลเยิ้มค่ะ แม้ว่าในกล่องจะไม่ได้มีอุปกรณ์มาให้ครบครันเหมือนแบรนด์ใหญ่ ๆ (ต้องซื้อไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แยกเอง) แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไปค่ะ

ผลลัพธ์หลังทำคือเกินคาดมากค่ะ สีที่ได้มีความชัดเจนและตรงตามข้างกล่องเลย (สำหรับคนที่พื้นผมสว่างอยู่แล้ว) ผมดูเงางามขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจจะเพราะสารสกัดจากโสมที่ช่วยบำรุง สภาพผมโดยรวมคือไม่แห้งเสียเลยค่ะ ยังคงความนุ่มไว้อยู่ แต่ในเรื่องของความติดทน อาจจะอยู่ได้ไม่นานเท่าแบรนด์ที่ราคาสูงกว่า สีอาจจะเริ่มเฟดหลังจากผ่านไปประมาณ 3-4 สัปดาห์ แต่สำหรับคนที่ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ อยู่แล้ว ข้อนี้อาจจะไม่ใช่ข้อเสียซะทีเดียวค่ะ สรุปแล้ว Kota คือ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่คุ้มค่าเกินราคา เหมาะสำหรับคนที่อยากสนุกกับการทำสีผมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณและความเสียหายของเส้นผมค่ะ แถมยังเปลี่ยนลุคให้ดูเหมือนไอดอลเกาหลีได้ง่ายๆ เหมือนเปลี่ยนเคส สมาร์ทโฟนราคาถูกและดี เลยค่ะ!

คะแนนที่ได้

8.2/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ราคาดีมาก ย้อมบ่อยแค่ไหนก็ไม่จนค่ะ 555 กลิ่นหอมมากจริง ๆ คอนเฟิร์ม!” – แพรว, อายุ 19
“สีสวยตรงปกดีครับ ย้อมแล้วผมไม่แข็งเลย ยังนุ่มเหมือนเดิม ชอบมากครับ” – มาร์ค, อายุ 21


10. Sevich Organic 5 in 1 Blackening Shampoo ★★★☆☆

“แค่สระก็ได้ผมดำสนิท! นวัตกรรมแชมพูปิดผมขาว ออร์แกนิก ใช้ง่ายใน 5 นาที”

สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย Sevich Organic 5 in 1 Blackening Shampoo

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ปิดท้ายกันด้วยไอเทมสุดล้ำสำหรับคนที่ต้องการความง่ายและเร็วที่สุดในการจัดการผมขาวค่ะ! Sevich Organic 5 in 1 Blackening Shampoo คือแชมพูเปลี่ยนสีผมที่มาในรูปแบบซอง ใช้ง่ายเหมือนสระผมปกติเลยค่ะ แค่ฉีกซอง บีบแชมพูออกมาผสมกันบนฝ่ามือ (ต้องใส่ถุงมือนะคะ) แล้วชโลมขยี้บนผมที่แห้งหรือหมาดให้เกิดฟอง ทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วล้างออก แค่นี้ผมขาวก็จะกลายเป็นสีดำธรรมชาติทันที! เป็น สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบค่ะ

คุณสมบัติเด่น

  • รูปแบบแชมพู: ใช้ง่ายมาก แค่สระทิ้งไว้ 5-10 นาที ไม่ต้องผสมในถ้วย
  • ส่วนผสมออร์แกนิก: มีสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น โสม, เห็ดหลินจือ, และขิง ที่ช่วยบำรุงรากผม
  • 5 in 1: เป็นทั้งแชมพูปิดผมขาว, บำรุง, ให้ความชุ่มชื้น, ซ่อมแซม และเสริมความแข็งแรงในหนึ่งเดียว
  • รวดเร็ว: เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังสระเสร็จ
  • อ่อนโยน: ไม่มีสารเคมีรุนแรงที่ทำร้ายเส้นผมและหนังศีรษะ
จุดเด่น
  • ง่ายและเร็วที่สุด แค่สระผม
  • ส่วนผสมออร์แกนิก อ่อนโยน
  • บำรุงผมไปในตัว
  • ราคาไม่แพง มาในรูปแบบซองพกพาง่าย
ข้อควรพิจารณา
  • มีให้เลือกแค่สีดำและน้ำตาลเข้ม
  • สีอาจติดไม่ทนเท่าครีมย้อมผมแบบถาวร
  • อาจจะต้องใช้สม่ำเสมอเพื่อคงผลลัพธ์

รีวิวแบบเจาะลึก

Sevich Blackening Shampoo ถือเป็นทางลัดสู่ผมดำสวยสุขภาพดีเลยค่ะ เหมาะมากสำหรับคนที่มีผมขาวขึ้นประปรายและอยากจัดการแบบเร่งด่วน หรือคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่อยากยุ่งยากกับการย้อมผมแบบเดิมๆ ความดีงามของมันคือการรวมทุกขั้นตอนไว้ในสเต็ปเดียวคือ “การสระ” เนื้อแชมพูมี 2 ส่วนในซองเดียวกัน เวลาบีบออกมาต้องขยี้บนฝ่ามือให้เข้ากันก่อน แล้วค่อยชโลมลงบนผมค่ะ ฟองที่ได้อาจจะไม่เยอะเท่าแชมพูทั่วไป แต่ก็สามารถกระจายตัวได้ดีทั่วศีรษะ กลิ่นหอมสมุนไพรอ่อนๆ ทำให้ไม่รู้สึกว่ากำลังทำเคมีกับผมอยู่เลยค่ะ ด้วยส่วนผสมจากโสมและเห็ดหลินจือ มันยังช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วงได้อีกด้วย

ผลลัพธ์ที่ได้หลังสระและเป่าแห้งคือ ผมขาวหายไปจริง ๆ ค่ะ! ถูกแทนที่ด้วยสีดำธรรมชาติที่ดูไม่หลอกตา เส้นผมมีความเงางามและดูมีน้ำหนักขึ้นด้วยค่ะ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นแชมพูเปลี่ยนสีผม ความติดทนของสีอาจจะสู้ครีมย้อมแบบถาวรไม่ได้นะคะ สีอาจจะค่อยๆ จางลงหลังสระไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ ดังนั้นอาจจะต้องใช้ซ้ำเป็นประจำเพื่อรักษาสีผมให้ดำสวยอยู่เสมอค่ะ แต่ด้วยความง่ายและราคาที่ย่อมเยา การใช้เป็นประจำก็ไม่ใช่เรื่องลำบากเลยค่ะ สรุปได้ว่า Sevich คือคำตอบของ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย สำหรับคนที่มองหาความสะดวกสบายและผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจที่สุดในการปิดผมขาวค่ะ

คะแนนที่ได้

8.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ง่ายเหมือนสระผมเลยค่ะ ปกติขี้เกียจย้อมผมมาก แต่เจอตัวนี้คือชีวิตดีขึ้นเยอะ” – นก, อายุ 48
“ใช้สระให้คุณแม่ค่ะ ท่านบอกว่าใช้ง่ายดี ไม่เหม็น ผมขาวหายหมดเลยครับ” – ตั้ม, อายุ 30


มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะ

เทรนด์การดูแลสุขภาพที่มาแรงในปี 2025 ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องอาหารการกินหรือการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองด้วยค่ะ ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและช่างทำผมมืออาชีพต่างเห็นตรงกันว่า ผู้บริโภคในปัจจุบันฉลาดเลือกมากขึ้นและให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่อ่อนโยนเป็นอันดับแรก ๆ

“ผู้คนเริ่มตระหนักแล้วว่า การมีสีผมที่สวยงามไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยสุขภาพผมที่ย่ำแย่ เทรนด์ของ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย จึงมุ่งไปที่ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากแอมโมเนีย, PPD, และสารเคมีรุนแรงอื่นๆ แต่หันมาใช้สารสกัดจากธรรมชาติหรือออร์แกนิกทดแทน ซึ่งไม่เพียงแต่จะลดการระคายเคือง แต่ยังช่วยบำรุงเส้นผมในระยะยาวอีกด้วย”

จากมุมมองของแพทย์ผิวหนัง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหนังศีรษะอักเสบ, อาการคัน, หรือแม้กระทั่งผมร่วงที่เกิดจากการแพ้สารเคมีรุนแรง การทำ Patch Test หรือการทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือหลังใบหูก่อนการใช้งานจริง 48 ชั่วโมง จึงเป็นขั้นตอนที่ผู้เชี่ยวชาญทุกคนแนะนำและเน้นย้ำอยู่เสมอ ไม่ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะเคลมว่าอ่อนโยนแค่ไหนก็ตาม

นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ที่น่าจับตา

  • เทคโนโลยีการนำส่งเม็ดสี: มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้โมเลกุลน้ำมัน (Oil-Delivery System) เพื่อช่วยนำพาเม็ดสีเข้าสู่แกนผมแทนการใช้แอมโมเนีย ซึ่งจะช่วยลดการทำลายเกล็ดผมและรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้ดีกว่า
  • สารบำรุงเชิงซ่อมแซม: มีการนำส่วนผสมอย่าง เคราติน, เพล็กซ์ (Plex), หรือกรดไฮยาลูรอนิค มาใส่ในผลิตภัณฑ์ย้อมผมมากขึ้น เพื่อทำหน้าที่ซ่อมแซมพันธะแกนผม (Hair Bonds) ที่อาจถูกทำลายระหว่างการทำสี
  • ความยั่งยืน (Sustainability): แบรนด์ต่าง ๆ เริ่มให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้, การไม่ทดลองกับสัตว์ (Cruelty-Free), และการใช้ส่วนผสมที่เป็นวีแกน (Vegan) มากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS

“การจะตัดสินว่า สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่สีที่สวยสดใสเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่คือภาพรวมทั้งหมด ตั้งแต่ความปลอดภัยของส่วนผสม, นวัตกรรมการบำรุง, ไปจนถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทีมงานของเราเชื่อว่าแบรนด์ที่สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างสมดุล คือแบรนด์ที่จะสามารถครองใจผู้บริโภคในระยะยาวได้ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและมีสารบำรุง ก็เหมือนกับการเลือกเกราะป้องกันดีๆ ให้กับเส้นผมของเรานั่นเองค่ะ”


เคล็ดลับการเลือกซื้อสีย้อมผมให้ปัง ไม่พัง!

ผู้หญิงกำลังเลือกผลิตภัณฑ์สีย้อมผมในชั้นวางสินค้า แสดงบรรยากาศการเลือกซื้อสำหรับบทความ SEO สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย

การจะเลือก สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ให้ถูกใจและเหมาะกับเราที่สุดนั้น มีปัจจัยที่ต้องพิจารณามากกว่าแค่การเลือกสีที่ชอบนะคะ ลองมาดูเช็กลิสต์ง่าย ๆ ที่จะช่วยให้การตัดสินใจของเพื่อน ๆ ง่ายขึ้นกันดีกว่าค่ะ

  1. รู้จักสภาพเส้นผมของตัวเอง: ผมของคุณเป็นแบบไหน? ผมเส้นเล็ก, เส้นใหญ่, แห้งเสียจากการทำเคมีมาก่อน หรือเป็นผมสุขภาพดี? หากผมแห้งเสียมาก ควรเลือกสูตรที่เน้นการบำรุงเป็นพิเศษและปราศจากแอมโมเนียอย่าง REVLON หรือ Naturtint ค่ะ
  2. กำหนดเป้าหมายของสีที่ต้องการ: คุณต้องการแค่ปิดผมขาว, ทำสีโทนธรรมชาติ, หรืออยากได้สีแฟชั่นจี๊ดจ๊าด? ถ้าต้องการสีแฟชั่นที่ชัดเจน อาจจะต้องมองหาแบรนด์อย่าง NIGAO และยอมรับว่าอาจจะต้องมีการฟอกสีผมก่อน ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงที่ผมจะเสียได้ค่ะ
  3. อ่านฉลากและส่วนผสม: มองหาส่วนผสมที่ช่วยบำรุง เช่น เคราติน, คอลลาเจน, น้ำมันธรรมชาติ (Argan, Jojoba, Olive) และพยายามหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอมโมเนีย, PPD (para-phenylenediamine), หรือ Resorcinol โดยเฉพาะถ้าคุณมีประวัติการแพ้ค่ะ
  4. เลือกรูปแบบที่ใช่สำหรับคุณ: ถ้าเป็นมือใหม่หรือไม่ชอบความยุ่งยาก การเลือกใช้แบบโฟมอย่าง Liese หรือแบบแชมพูอย่าง Sevich จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก แต่ถ้าคุณต้องการความแม่นยำในการลงสีเฉพาะจุด แบบครีมอาจจะควบคุมได้ดีกว่าค่ะ
  5. เตรียมงบประมาณ: ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติหรือออร์แกนิกมักจะมีราคาสูงกว่า แต่ก็เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพผมที่ดีในระยะยาว หากมีงบจำกัด แบรนด์อย่าง Garnier หรือ Kota ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและให้ผลลัพธ์ที่ดีเกินราคาค่ะ
  6. อย่าลืมทดสอบการแพ้ (Patch Test): ข้อนี้สำคัญที่สุด! ไม่ว่าจะเลือกยี่ห้อไหนมาก็ตาม ควรนำผลิตภัณฑ์เล็กน้อยมาทาที่บริเวณหลังใบหูหรือข้อพับแขน ทิ้งไว้ 48 ชั่วโมงเพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือไม่ ก่อนที่จะลงมือย้อมทั้งศีรษะนะคะ

วิธีเตรียมตัวก่อนย้อมผมให้สีติดทนและผมเสียน้อยที่สุด

อยากได้ผลลัพธ์ปังๆ เหมือนมืออาชีพทำให้ใช่ไหมคะ? เคล็ดลับไม่ได้อยู่ที่ตอนย้อมอย่างเดียวนะคะ แต่การเตรียมตัวก่อนย้อมก็สำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ

  • ไม่ต้องสระผมก่อนย้อม: ควรเว้นการสระผมอย่างน้อย 1-2 วันก่อนย้อมค่ะ เพื่อให้น้ำมันตามธรรมชาติบนหนังศีรษะได้ออกมาเคลือบปกป้องหนังศีรษะและเส้นผมจากสารเคมี ช่วยลดอาการแสบหรือระคายเคืองได้ค่ะ
  • บำรุงผมล่วงหน้า: ก่อนวันย้อมผมสัก 1 สัปดาห์ ลองหมักผมด้วยทรีทเมนต์เข้มข้นหรือน้ำมันมะพร้าว เพื่อเตรียมสภาพเส้นผมให้แข็งแรงและชุ่มชื้น พร้อมรับมือกับการทำสีค่ะ
  • สางผมให้เรียบร้อย: ก่อนลงมือย้อม ควรหวีหรือสางผมที่พันกันออกให้หมด เพื่อให้สามารถลงครีมย้อมได้อย่างสม่ำเสมอและทั่วถึงทุกเส้นค่ะ
  • ทาวาสลีนป้องกันผิว: นำวาสลีนหรือเบบี้ออยล์มาทาบาง ๆ บริเวณกรอบหน้า, ไรผม, หลังใบหู และท้ายทอย จะช่วยป้องกันไม่ให้สีติดผิวหนังและล้างออกได้ง่ายขึ้นค่ะ

เคล็ดลับดูแลเส้นผมหลังทำสี ให้อยู่สวยนาน ไม่เฟดไว

อุตส่าห์ได้สีผมสวย ๆ มาแล้ว ก็ต้องดูแลกันหน่อยใช่ไหมคะ เพื่อให้สีสวยสดใสอยู่กับเราไปนาน ๆ และผมก็ยังสุขภาพดีเหมือนเดิม ลองทำตามนี้ดูนะคะ

  • เว้นการสระผม 48-72 ชั่วโมง: หลังจากย้อมผมเสร็จใหม่ ๆ ควรเว้นการสระผมไปก่อนอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อให้เม็ดสีได้เซตตัวและยึดเกาะกับเส้นผมได้อย่างเต็มที่ค่ะ
  • ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ: ควรเปลี่ยนมาใช้แชมพู, ครีมนวด, และทรีทเมนต์ที่มีสูตรสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีความอ่อนโยนและมีสารช่วยปกป้องสีผมไม่ให้ซีดจางเร็วค่ะ
  • สระผมด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ: การสระผมด้วยน้ำร้อนจะทำให้เกล็ดผมเปิดและสีหลุดออกไปได้ง่ายขึ้น ควรใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องในการสระผมจะดีที่สุดค่ะ
  • หลีกเลี่ยงความร้อน: พยายามลดการใช้ความร้อนกับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผม, เครื่องหนีบผม, หรือเครื่องม้วนผม หากจำเป็นต้องใช้ ควรใช้สเปรย์กันความร้อนทุกครั้งค่ะ
  • ปกป้องผมจากแสงแดดและคลอรีน: แสงแดดและคลอรีนในสระว่ายน้ำคือตัวการทำร้ายสีผมชั้นดี! ควรใส่หมวกหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารป้องกันรังสียูวีสำหรับเส้นผมเมื่อต้องออกแดดจัด ๆ และควรชโลมผมด้วยครีมนวดก่อนลงสระว่ายน้ำค่ะ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ผู้หญิงเอเชียผมยาวสีน้ำตาลเข้มพร้อมกล่องผลิตภัณฑ์สีย้อมผมและอุปกรณ์ทำสีผม วางบนโต๊ะ บรรยากาศสะอาดเรียบหรู ใช้ประกอบบทความ SEO คำถามที่พบบ่อย สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย

  • ถาม: เราควรย้อมผมบ่อยแค่ไหนถึงจะไม่ทำร้ายผมมากเกินไป?
    ตอบ: โดยทั่วไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เว้นระยะห่างระหว่างการย้อมผมแบบถาวรอย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ค่ะ เพื่อให้เส้นผมและหนังศีรษะได้มีเวลาพักฟื้นและฟื้นฟูตัวเองค่ะ
  • ถาม: สีย้อมผมที่ไม่มีแอมโมเนียจะติดทนเท่าแบบมีแอมโมเนียไหมคะ?
    ตอบ: ในอดีตอาจจะติดทนน้อยกว่า แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน สีย้อมผมแบบไม่มีแอมโมเนียหลายยี่ห้อ เช่น REVLON หรือ NIGAO ได้พัฒนาสูตรให้สามารถติดทนได้ยาวนานใกล้เคียงกับสูตรดั้งเดิมแล้วค่ะ แถมยังอ่อนโยนกว่ามากด้วย
  • ถาม: ถ้าอยากได้สีตามหน้ากล่องเป๊ะ ๆ ต้องทำอย่างไร?
    ตอบ: ผลลัพธ์ของสีผมขึ้นอยู่กับพื้นสีผมเดิมของเราเป็นสำคัญค่ะ ถ้าพื้นผมเดิมเป็นสีเข้ม การย้อมสีสว่างอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามหน้ากล่อง 100% หากต้องการสีที่ชัดเจน โดยเฉพาะสีแฟชั่น อาจจำเป็นต้องทำการฟอกสีผมก่อนค่ะ
  • ถาม: กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร สามารถย้อมผมได้ไหม?
    ตอบ: แม้ว่ายังไม่มีการวิจัยที่ชี้ชัดถึงอันตราย แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้หลีกเลี่ยงการทำเคมีกับเส้นผมในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ หรือทางที่ดีที่สุดคือปรึกษาแพทย์ประจำตัวของคุณก่อนตัดสินใจย้อมผมค่ะ

บทสรุป: เลือกสีย้อมผมที่ใช่ ให้ผมสวยปังแบบไม่กลัวเสีย

มาถึงตรงนี้แล้ว เพื่อน ๆ คงจะได้คำตอบกันแล้วใช่ไหมคะว่า สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และสภาพเส้นผมของตัวเองที่สุด การเปลี่ยนสีผมในปี 2025 ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป เพราะมีผลิตภัณฑ์ดี ๆ มากมายที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งเรื่องสีสันที่สวยงามและการบำรุงที่ล้ำลึก ไม่ว่าคุณจะเป็นสายบำรุงจัดเต็มที่เทใจให้ L’Oréal Excellence, สายประหยัดที่รัก Garnier, สายอ่อนโยนที่เลือก REVLON หรือสายสะดวกที่เลิฟ Liese ทุกตัวเลือกก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไปค่ะ

หัวใจสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจเส้นผมของตัวเอง, เลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่, และไม่ลืมที่จะบำรุงดูแลอย่างสม่ำเสมอหลังการทำสีนะคะ เพียงเท่านี้ ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะอยากเปลี่ยนลุคให้สวยแซ่บแค่ไหน ก็สามารถทำได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกังวลว่าผมจะพังอีกต่อไป ขอให้ทุกคนสนุกกับการเปลี่ยนสีผมและมีความสุขกับลุคใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมนะคะ!

ภาพผู้หญิงผมยาวสุขภาพดี เงางาม ใช้ประกอบบทความ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ผมไม่เสีย


หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • รายละเอียดเกี่ยวกับส่วนผสม, เฉดสีที่มีจำหน่าย, หรือโปรโมชั่น ควรตรวจสอบเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของแต่ละแบรนด์ เช่น L’Oréal, Garnier, REVLON, Liese, และแบรนด์อื่น ๆ เพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุดค่ะ
  • บทความนี้เขียนขึ้นอย่างเป็นกลาง ไม่ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ใด ๆ จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน หากมีการคลิกผ่านลิงก์ Affiliate เพื่อตรวจสอบราคาหรือสั่งซื้อสินค้า ทางเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อยเพื่อนำมาสนับสนุนการดำเนินงานของเว็บไซต์ โดยไม่มีผลต่อราคาสินค้าหรือการจัดอันดับแต่อย่างใดค่ะ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • บทความนี้จัดทำโดยใช้ AI ช่วยในการรวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลจากหลายแหล่งที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม หากมีข้อผิดพลาดประการใด แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลจากผู้ผลิตโดยตรงอีกครั้งค่ะ
  • คะแนน (เช่น 9.8/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากข้อมูลผลิตภัณฑ์, ส่วนผสม, ราคา, และรีวิวจากผู้ใช้งานจริงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ต่าง ๆ ค่ะ
  • รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “พี่จิ๊บ, อายุ 45” หรือ “น้องมายด์, อายุ 23”) เป็นความคิดเห็นสมมุติที่เรียบเรียงขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลรีวิวของผู้ใช้จริงจำนวนมาก เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานที่หลากหลายและชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ หากท่านใช้งานต่อ ระบบจะถือว่าท่านยินยอมตามนโยบายคุกกี้ของเรา ขอขอบพระคุณครับ