บทนำ
สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้เรามาคุยกันในหัวข้อที่หลายคนสงสัยว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เหมาะกับทั้งการใช้งานที่บ้าน ออฟฟิศเล็ก ๆ หรือโฮมออฟฟิศในปี 2025 เพราะยุคนี้หมึกแบบแท้งค์ใหญ่และการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Wi-Fi ช่วยให้การพิมพ์สบายขึ้นเยอะ ไม่ต้องวุ่นวายกับสาย และไม่ต้องเสียเวลาเสียเงินเปลี่ยนตลับหมึกบ่อย ๆ ถ้าถามว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่ทั้งคุ้มค่าและตอบโจทย์ล้ำ ๆ เราจึงคัดมาให้ถึง 10 รุ่นที่มาแรงที่สุดในปีนี้ พร้อมจุดเด่น สเปกหลัก และรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อช่วยให้เพื่อนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
บทความนี้จะเล่าจากประสบการณ์ตรง เสาะหารุ่นยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี สำหรับคนเน้นคุณภาพงานพิมพ์สูง หรืองบจำกัดก็ยังมีรุ่นดี ๆ ให้เลือก อีกทั้งเรายังมีตารางเปรียบเทียบสเปกเด่นและเรตติ้งดาวให้เห็นภาพรวมอย่างชัดเจน และถ้าใครอยากดูรีวิวรุ่นอื่น ๆ เช่น เครื่องปริ้น Canon รุ่นไหนดี ก็เลือกดูได้เลยครับ การมีเครื่องปริ้นดีๆ ก็เหมือนกับการมี Laptop คู่ใจ ที่ช่วยให้งานเสร็จไวขึ้นเยอะเลยครับ
เตรียมตัวให้พร้อมเพราะเราจะพาไปสำรวจ เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี แห่งปี 2025 ทั้ง Epson, Brother, Canon, HP ไล่ตั้งแต่รุ่นท็อปถังหมึกแท้งค์ใหญ่จนถึงรุ่นเลเซอร์ไวไฟแรงจัด ที่ทุกตัวมีข้อดีเป็นของตัวเอง และส่วนที่ต้องพิจารณา เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เลือกเครื่องปริ้นที่ถูกใจที่สุด ว่าแล้วไปดูตารางสรุปกันก่อนเลยครับ!
จัดอันดับ 10 เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่สุดแห่งปี 2025
ใครที่กำลังปวดหัวว่าจะเลือก เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ให้เหมาะกับการใช้งานที่สุด ลองดูภาพรวมจากตารางเปรียบเทียบสเปกและคะแนนที่เราสรุปมาให้เห็นภาพชัด ๆ กันก่อนเลยครับ แล้วค่อยเลื่อนลงไปอ่านรีวิวเจาะลึกแต่ละรุ่นแบบจัดเต็มกันต่อได้เลย
1. Epson EcoTank L3250 ★★★★★
“ตัวจบเรื่องความคุ้ม! พิมพ์เยอะแค่ไหนก็ไม่หวั่น ด้วยแท็งค์หมึกยักษ์และ Wi-Fi สุดเสถียร”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้ามีคนมาถามผมว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เป็นเหมือนม้างานตัวจริงสำหรับบ้านหรือโฮมออฟฟิศ ผมยกให้ Epson EcoTank L3250 เป็นอันดับหนึ่งในใจเลยครับ รุ่นนี้คือคำตอบของความคุ้มค่าอย่างแท้จริง ด้วยระบบแท็งค์หมึกในตัวที่ออกแบบมาให้เติมง่ายสุดๆ แค่เปิดฝา เสียบขวดหมึกเข้าไปก็เติมได้เลย ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะ แถมหมึกขวดหนึ่งพิมพ์ได้เป็นพันๆ แผ่น ลืมเรื่องการเปลี่ยนตลับหมึกบ่อยๆ ไปได้เลยครับ เหมาะมากสำหรับน้องๆ นักศึกษาที่ต้องพิมพ์ชีทเรียนเยอะๆ หรือบ้านที่ต้องพิมพ์งานเอกสารเป็นประจำ
สเปกเด่น
- ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
- เทคโนโลยีการพิมพ์: Heat-Free Technology ไม่ใช้ความร้อน
- ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 5760 x 1440 dpi
- ความเร็วในการพิมพ์: 10.0 ipm (ขาวดำ) / 5.0 ipm (สี)
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB 2.0
- รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows, Mac OS X
- ปริมาณการพิมพ์: 4,500 แผ่น (ขาวดำ), 7,500 แผ่น (สี)
รีวิวแบบเจาะลึก
สิ่งที่ทำให้ L3250 โดดเด่นและเป็นคำตอบแรกๆ สำหรับคำถามที่ว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ก็คือความง่ายในการใช้งานแบบไร้สายครับ การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ทำให้เราสามารถสั่งพิมพ์งานจากทุกที่ในบ้านได้เลย ไม่ว่าจะนั่งทำงานบนโซฟา หรือกำลังเตรียมเอกสารในครัว ขอแค่มีสัญญาณ Wi-Fi ไปถึงก็พอ นอกจากนี้ยังมี Wi-Fi Direct ที่เป็นเหมือนฮีโร่เลยครับ เพราะมันทำให้เราเชื่อมต่อมือถือเข้ากับเครื่องปริ้นได้โดยตรง ไม่ต้องผ่าน เราเตอร์ เลย เหมาะมากเวลาเพื่อนมาบ้านแล้วอยากจะพิมพ์รูป หรือเราต้องการพิมพ์ไฟล์ด่วนจากแท็บเล็ต การตั้งค่าก็ไม่ยุ่งยากเลยครับ ผ่านแอป Epson Smart Panel บนมือถือ สามารถทำทุกอย่างได้ตั้งแต่ตั้งค่าเครื่องครั้งแรก, สั่งพิมพ์, สแกน, เช็คระดับหมึก ไปจนถึงการแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง มันทำให้การจัดการเครื่องปริ้นกลายเป็นเรื่องง่ายเหมือนเล่นแอปบนมือถือเลยครับ
ในด้านคุณภาพงานพิมพ์ ต้องบอกว่า Epson ไม่เคยทำให้ผิดหวังครับ ด้วยความละเอียดสูงถึง 5760 x 1440 dpi ทำให้ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์เอกสารตัวหนังสือเล็กๆ ก็ยังคมกริบ อ่านง่ายสบายตา หรือจะพิมพ์รูปภาพสีสันก็สดใสสมจริง เก็บรายละเอียดได้ดีเยี่ยม เทคโนโลยี Heat-Free ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Epson ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจ เพราะมันช่วยให้เครื่องพิมพ์ทำงานได้เร็วขึ้นตั้งแต่เปิดเครื่อง และที่สำคัญคือประหยัดพลังงานกว่าเครื่องพิมพ์ที่ใช้ความร้อนทั่วไปครับ ฟังก์ชันการสแกนและถ่ายเอกสารก็ทำได้ดีตามมาตรฐาน สามารถสแกนเอกสารสำคัญเก็บเป็นไฟล์ดิจิทัล หรือถ่ายสำเนาบัตรประชาชนได้อย่างคมชัด สรุปง่ายๆ เลยว่าถ้าคุณกำลังมองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เป็น All-in-One ครบเครื่อง ใช้งานง่าย ประหยัดทั้งหมึกและไฟ Epson L3250 คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบและจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ
คะแนนที่ได้
9.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อมาให้ลูกใช้เรียนออนไลน์ พิมพ์ชีททั้งวันหมึกยังไม่หมดเลยค่ะ เชื่อมกับมือถือง่ายมาก ชอบตรงนี้” – คุณแม่หน่อย, อายุ 42
“ผมใช้ทำโฮมออฟฟิศ พิมพ์บิล สแกนเอกสาร ครบจบในเครื่องเดียว ต้นทุนถูกมากครับ เทียบกับเครื่องเก่าคนละเรื่องเลย” – พี่เอก, อายุ 35
2. Brother DCP-T520W ★★★★★
“เร็ว แรง ทะลุพิกัด! เพื่อนซี้ออฟฟิศเล็ก พิมพ์ไวเว่อร์ หมึกเติมง่าย ดีไซน์ฉลาด”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้าความเร็วคือสิ่งที่คุณมองหา และกำลังคิดว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะมาตอบโจทย์งานด่วนในออฟฟิศขนาดเล็กหรือโฮมออฟฟิศที่วุ่นวาย ต้องยกให้ Brother DCP-T520W เลยครับ จุดเด่นที่เตะตาที่สุดคือความเร็วในการพิมพ์ที่จัดว่าเร็วมากในกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์ด้วยกัน โดยพิมพ์ขาวดำได้สูงถึง 17 ipm และสี 9.5 ipm ทำให้การพิมพ์เอกสารเยอะๆ เช่น รายงานการประชุม หรือใบเสนอราคาหลายสิบหน้าเสร็จได้ในพริบตา นอกจากนี้ดีไซน์การเติมหมึกก็ฉลาดมากครับ ตัวแท็งค์หมึกจะอยู่ด้านหน้าและมีฝาปิดใส ทำให้มองเห็นระดับหมึกได้ง่าย และขวดหมึกก็ออกแบบมาให้เติมได้สะดวก แค่เปิดฝาแล้วเสียบเข้าไปได้เลย ไม่ต้องบีบ
สเปกเด่น
- ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
- ความเร็วในการพิมพ์ (Fast Mode): สูงสุด 30 ppm (ขาวดำ) / 12 ppm (สี)
- ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 17 ipm (ขาวดำ) / 9.5 ipm (สี)
- ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 1200 x 6000 dpi
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB 2.0
- ถาดกระดาษ: 150 แผ่น
- ปริมาณการพิมพ์: 7,500 แผ่น (ขาวดำ), 5,000 แผ่น (สี)
รีวิวแบบเจาะลึก
สำหรับคนที่ทำงานกับเอกสารเยอะๆ จะรู้ดีว่าเวลาทุกนาทีมีค่าแค่ไหน การที่ต้องมายืนรอเครื่องปริ้นทำงานช้าๆ อาจทำให้หงุดหงิดได้ แต่ปัญหานี้จะหมดไปกับ DCP-T520W ครับ ด้วยความเร็วที่โดดเด่นทำให้มันเป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ต้องการความรวดเร็วเป็นพิเศษ ถาดกระดาษที่จุได้ถึง 150 แผ่นก็เป็นอีกข้อดีที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันช่วยลดความถี่ในการเติมกระดาษลงไปได้เยอะ ทำให้เราทำงานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด การเชื่อมต่อไร้สายก็ทำได้ดีเยี่ยมครับ รองรับทั้ง Wi-Fi และ Wi-Fi Direct ทำให้ทีมงานในออฟฟิศสามารถสั่งพิมพ์งานจากอุปกรณ์ของตัวเองได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น โน้ตบุ๊ก หรือสมาร์ทโฟน ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากความเร็วแล้ว คุณภาพงานพิมพ์ของ Brother DCP-T520W ก็ไม่ธรรมดาครับ ด้วยความละเอียดสูงถึง 1200 x 6000 dpi ทำให้งานพิมพ์ออกมาสวยงามคมชัด ทั้งตัวอักษรและรูปภาพกราฟิกต่างๆ เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารที่ต้องการความเป็นมืออาชีพ การควบคุมเครื่องก็ทำได้ง่ายผ่านจอ LCD และปุ่มกดที่หน้าเครื่อง หรือจะจัดการผ่านแอป Brother iPrint&Scan ก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน แอปนี้ทำให้เราสามารถสแกนเอกสารแล้วส่งตรงไปยังอีเมลหรือ Cloud Storage ได้ทันที ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากในยุคดิจิทัลแบบนี้ โดยรวมแล้ว หากคุณให้ความสำคัญกับความเร็ว ประสิทธิภาพ และความสะดวกในการใช้งานร่วมกันในออฟฟิศขนาดเล็ก และกำลังถามตัวเองว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของคุณ Brother DCP-T520W คือคำตอบที่ใช่เลยครับ
คะแนนที่ได้
9.3/10
รีวิวสั้น ๆ
“ที่ร้านใช้รุ่นนี้อยู่ครับ พิมพ์บิลให้ลูกค้าเร็วมาก ไม่ต้องรอนานเลย ลูกค้าแฮปปี้ครับ” – คุณอาร์ม, อายุ 38
“ใช้ในออฟฟิศเล็กๆ เวิร์คมากค่ะ ทุกคนเชื่อมต่อจากมือถือได้เลย ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องสาย” – คุณจิ๊บ, อายุ 29
3. Canon PIXMA G3010 ★★★★☆
“งานภาพต้องยอม! พิมพ์รูปไร้ขอบสวยกริ๊บ สีสดใสเหมือนอัดจากร้าน ในราคาที่จับต้องได้”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับสายคอนเทนต์ สายอาร์ต หรือใครก็ตามที่รักการพิมพ์รูปภาพและกำลังมองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะเนรมิตงานพิมพ์สีสวยๆ ได้ดั่งใจ Canon PIXMA G3010 คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ จุดขายหลักของรุ่นนี้คือคุณภาพงานพิมพ์สีที่โดดเด่น และความสามารถในการพิมพ์ภาพถ่ายแบบไร้ขอบ (Borderless Photo Printing) ได้ถึงขนาด A4 ทำให้เราสามารถพิมพ์โปสเตอร์, ปกรายงาน, หรืองานอาร์ตเวิร์คออกมาได้อย่างสวยงามเต็มแผ่น ไม่ต้องมานั่งตัดขอบให้เสียเวลา ระบบแท็งค์หมึกของ Canon ก็ออกแบบมาดีครับ แท็งค์หมึกถูกรวมเข้าไปในตัวเครื่องทำให้ดูเรียบร้อยไม่เกะกะ และขวดหมึกก็มีดีไซน์ปลายขวดที่ช่วยป้องกันการเติมสีผิดช่องได้เป็นอย่างดี
สเปกเด่น
- ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
- ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 4800 x 1200 dpi
- ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 8.8 ipm (ขาวดำ) / 5.0 ipm (สี)
- การพิมพ์ภาพไร้ขอบ: รองรับขนาด A4 / Letter / 4×6″ / 5×7″ / 8×10″
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, Access Point Mode, USB 2.0
- หน้าจอ: LCD 1.2 นิ้ว
- ปริมาณการพิมพ์: 6,000 แผ่น (ขาวดำ), 7,000 แผ่น (สี)
รีวิวแบบเจาะลึก
หัวใจสำคัญที่ทำให้ Canon PIXMA G3010 เป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี สำหรับคนรักงานภาพ คือระบบหมึกไฮบริดที่ใช้หมึกดำแบบ Pigment ทำให้ตัวอักษรคมชัด กันน้ำได้ในระดับหนึ่ง และใช้หมึกสีแบบ Dye-based ที่ให้สีสันสดใส ไล่โทนสีได้อย่างนุ่มนวล เหมาะกับการพิมพ์รูปภาพมากๆ ครับ เมื่อรวมกับความสามารถในการพิมพ์แบบไร้ขอบแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพถ่ายที่สวยงามเหมือนไปอัดมาจากร้านเลยทีเดียว การเชื่อมต่อไร้สายก็ทำได้หลากหลายครับ นอกจาก Wi-Fi และ Wi-Fi Direct แล้วยังมี Access Point Mode ที่ทำให้เครื่องปริ้นสามารถทำหน้าที่เป็นเหมือน เราเตอร์ ปล่อยสัญญาณให้มือถือเข้ามาเชื่อมต่อได้โดยตรง ซึ่งสะดวกมากๆ ในสถานการณ์ที่ไม่มีเครือข่าย Wi-Fi หลักให้ใช้งาน
การใช้งานผ่านแอป Canon PRINT Inkjet/SELPHY ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีครับ เราสามารถสั่งพิมพ์รูปภาพจากโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือ Instagram ได้โดยตรง หรือจะใช้ฟีเจอร์ Creative Park เพื่อดาวน์โหลดเทมเพลตสวยๆ มาสร้างสรรค์การ์ดหรือของตกแต่งต่างๆ ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน PosterArtist Lite ที่ช่วยให้ออกแบบโปสเตอร์หรือใบปลิวได้อย่างง่ายดาย แม้จะไม่มีพื้นฐานด้านกราฟิกดีไซน์มาก่อนก็ตาม แม้ว่าความเร็วในการพิมพ์อาจจะไม่ใช่จุดที่เร็วที่สุด แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลงานที่ได้ โดยเฉพาะงานพิมพ์สีและภาพถ่าย และกำลังมองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ผลงานชิ้นโปรดของคุณ Canon PIXMA G3010 คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและราคาได้อย่างลงตัวครับ
คะแนนที่ได้
8.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“พิมพ์สติกเกอร์ขายอยู่ค่ะ รุ่นนี้พิมพ์สีสวยมาก ไร้ขอบด้วย งานออกมาเนี๊ยบเลย” – น้องฝ้าย, อายุ 24
“ผมชอบเอามาพิมพ์รูปถ่ายจากทริปต่างๆ สีสดดีครับ ไม่ต้องไปร้านเลย ประหยัดไปเยอะ” – คุณนนท์, อายุ 33
4. Epson EcoTank L5290 ★★★★☆
“ครบเครื่องเรื่องงานออฟฟิศ! มีทั้ง ADF, แฟกซ์, Wi-Fi และพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
เมื่อการใช้งานในออฟฟิศหรือธุรกิจที่บ้านต้องการฟังก์ชันที่มากกว่าแค่การพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสาร คำถามที่ว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี จะต้องมองหาตัวเลือกที่มีความสามารถรอบด้านมากขึ้น และ Epson EcoTank L5290 ก็คือคำตอบนั้นครับ รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นศูนย์กลางงานเอกสารอย่างแท้จริง ด้วยการเพิ่มฟังก์ชันที่สำคัญสำหรับงานออฟฟิศเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ (ADF) ที่รองรับได้ถึง 30 แผ่น ทำให้การสแกนหรือถ่ายเอกสารจำนวนมากเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว และยังมีฟังก์ชันแฟกซ์ในตัวอีกด้วย ซึ่งยังคงมีความจำเป็นสำหรับธุรกิจบางประเภท
สเปกเด่น
- ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy, Fax with ADF
- ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 5760 x 1440 dpi
- ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 10.0 ipm (ขาวดำ) / 5.0 ipm (สี)
- ถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ (ADF): 30 แผ่น
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, Ethernet, USB 2.0
- หน้าจอ: LCD สี ขนาด 1.44 นิ้ว
- ปริมาณการพิมพ์: 4,500 แผ่น (ขาวดำ), 7,500 แผ่น (สี)
รีวิวแบบเจาะลึก
การมี ADF (Automatic Document Feeder) เปลี่ยนเกมการทำงานกับเอกสารไปอย่างสิ้นเชิงครับ จากที่ต้องคอยเปิดฝาสแกนเนอร์แล้ววางเอกสารทีละแผ่น เราสามารถวางเอกสารทั้งปึก (สูงสุด 30 แผ่น) ลงบนถาด ADF แล้วปล่อยให้เครื่องจัดการสแกนหรือถ่ายสำเนาให้เองโดยอัตโนมัติ มันช่วยประหยัดเวลาและทำให้เราสามารถไปทำงานอย่างอื่นต่อได้เลย นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ L5290 เป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี สำหรับสภาพแวดล้อมที่ต้องจัดการกับเอกสารกระดาษเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ การที่มันรองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต Ethernet (LAN) ยังเป็นข้อดีอย่างมากสำหรับออฟฟิศ เพราะให้ความเสถียรในการเชื่อมต่อที่สูงกว่า Wi-Fi เหมาะกับการใช้งานร่วมกันของพนักงานหลายๆ คน การมี คอมพิวเตอร์สเปกแรง ก็จะช่วยให้การประมวลผลไฟล์สแกนขนาดใหญ่รวดเร็วยิ่งขึ้นครับ
ในส่วนของการควบคุมและใช้งาน หน้าจอ LCD สีขนาด 1.44 นิ้ว ทำให้การตั้งค่าต่างๆ เช่น การส่งแฟกซ์, การเลือกโหมดถ่ายเอกสาร หรือการเชื่อมต่อเครือข่าย ทำได้ง่ายและเห็นภาพชัดเจนกว่าหน้าจอแบบขาวดำ แน่นอนว่ามันยังคงมาพร้อมกับระบบแท็งค์หมึก EcoTank ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และเทคโนโลยี Heat-Free ที่ช่วยประหยัดพลังงานเช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์เดียวกัน ถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะไม่มีฟังก์ชันพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ ซึ่งอาจจะเป็นข้อสังเกตเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับฟังก์ชันอื่นๆ ที่ให้มาอย่างครบครัน โดยเฉพาะ ADF และแฟกซ์ ก็ถือว่าเป็นเครื่องพิมพ์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจขนาดเล็กและโฮมออฟฟิศได้อย่างตรงจุดที่สุด หากคุณกำลังมองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เป็นมากกว่าเครื่องพิมพ์ แต่เป็นผู้ช่วยจัดการเอกสารรอบด้าน Epson L5290 คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้ามครับ
คะแนนที่ได้
8.7/10
รีวิวสั้น ๆ
“ที่ออฟฟิศใช้รุ่นนี้อยู่ค่ะ สแกนเอกสารบัญชีทีละปึกสบายมาก ไม่ต้องยืนเฝ้าเลย” – พี่ปุ้ย, อายุ 45 (ฝ่ายบัญชี)
“ฟังก์ชันแฟกซ์ยังจำเป็นสำหรับงานผมอยู่เลยครับ รุ่นนี้มีครบจบในเครื่องเดียว สะดวกดี” – คุณชาติ, อายุ 52 (ทนายความ)
5. Epson EcoTank L4260 ★★★★☆
“รักษ์โลก รักกระเป๋า! พิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ ดีไซน์สวยหรู ประหยัดทั้งหมึกทั้งกระดาษ”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและต้องการลดการใช้กระดาษ หรือใครที่ต้องพิมพ์เอกสารสองหน้าบ่อยๆ และกำลังตั้งคำถามว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะมาช่วยแก้ปัญหานี้ Epson EcoTank L4260 คือฮีโร่ตัวจริงครับ จุดเด่นที่สุดของรุ่นนี้คือฟังก์ชันการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Auto Duplex Printing) ซึ่งช่วยให้เราประหยัดกระดาษได้ถึง 50% และยังช่วยให้เอกสารของเราดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นด้วย นอกจากฟังก์ชันเด็ดนี้แล้ว L4260 ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูพรีเมียมและทันสมัย ตัวเครื่องสีดำสนิทดูเรียบหรู เหมาะกับการวางในออฟฟิศหรือมุมทำงานที่ต้องการความสวยงามเป็นพิเศษ
สเปกเด่น
- ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
- การพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Auto Duplex): รองรับ
- ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 5760 x 1440 dpi
- ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 10.5 ipm (ขาวดำ) / 5.0 ipm (สี)
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB 2.0
- หน้าจอ: LCD สี ขนาด 1.44 นิ้ว
- ปริมาณการพิมพ์: 7,500 แผ่น (ขาวดำ), 6,000 แผ่น (สี)
รีวิวแบบเจาะลึก
ฟังก์ชัน Auto Duplex เป็นฟีเจอร์ที่เมื่อได้ลองใช้แล้วจะไม่อยากกลับไปใช้เครื่องที่ไม่มีอีกเลยครับ มันสะดวกสบายมากๆ สำหรับการพิมพ์รายงาน, E-book, หรือเอกสารสัญญาต่างๆ ที่มีหลายหน้า จากที่ต้องคอยหยิบกระดาษมาพลิกเองทีละแผ่น ซึ่งเสี่ยงต่อการใส่ผิดด้านและทำให้เสียกระดาษไปฟรีๆ L4260 จะจัดการให้เราทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ทำให้เราประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากร นี่คือเหตุผลที่ทำให้มันเป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี สำหรับคนที่ต้องการประสิทธิภาพและความประหยัดไปพร้อมๆ กัน การควบคุมเครื่องก็ทำได้ง่ายผ่านหน้าจอ LCD สีขนาด 1.44 นิ้ว ที่แสดงสถานะต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ทำให้การเลือกโหมดพิมพ์สองหน้า หรือการตั้งค่า Wi-Fi เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนเลยครับ
ในแง่ของการเชื่อมต่อ L4260 ก็จัดเต็มไม่แพ้ใครครับ รองรับทั้ง Wi-Fi และ Wi-Fi Direct ทำให้การสั่งพิมพ์จาก แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนเป็นไปอย่างราบรื่นผ่านแอป Epson Smart Panel ที่มีฟีเจอร์ให้ใช้งานอย่างครบครัน คุณภาพงานพิมพ์ก็ยังคงยอดเยี่ยมตามมาตรฐานของ Epson ด้วยความละเอียดสูงและเทคโนโลยี Heat-Free ที่ช่วยให้ได้งานพิมพ์ที่คมชัดและสีสันสดใส พร้อมทั้งประหยัดพลังงานไปในตัว แม้ว่ามันจะไม่มี ADF เหมือนรุ่น L5290 แต่สำหรับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ต้องการสแกนเอกสารจำนวนมากพร้อมๆ กัน แต่ให้ความสำคัญกับการประหยัดกระดาษและต้องการเครื่องพิมพ์ที่มีดีไซน์สวยงามทันสมัย L4260 ถือเป็นตัวเลือกที่ลงตัวและคุ้มค่ามากครับ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะช่วยให้คุณทำงานอย่างชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รุ่นนี้คือคำตอบครับ
คะแนนที่ได้
8.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“ชอบมากค่ะที่พิมพ์สองหน้าเองได้ ประหยัดกระดาษไปเยอะเลย เวลาพิมพ์ชีทเรียนให้ลูก” – คุณแอน, อายุ 39
“ดีไซน์สวยดีครับ วางบนโต๊ะทำงานแล้วดูดีเลย พิมพ์งานก็เร็วใช้ได้เลยครับ” – คุณบอย, อายุ 31
6. HP DeskJet Ink Advantage 277 ★★★☆☆
“เริ่มต้นง่ายๆ ในราคาสบายกระเป๋า! เพื่อนคู่ใจสำหรับงานพิมพ์พื้นฐานในบ้าน”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่วงการทำงานที่บ้าน หรือมองหาเครื่องพิมพ์สำรองสำหรับงานพิมพ์เล็กๆ น้อยๆ และมีคำถามในใจว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่ราคาเป็นมิตรที่สุด HP DeskJet Ink Advantage 277 คือคำตอบที่น่าสนใจครับ รุ่นนี้มาในดีไซน์ที่เรียบง่าย กะทัดรัด สีขาวสะอาดตา วางตรงไหนของบ้านก็ดูดี ไม่กินพื้นที่ จุดเด่นคือการใช้งานที่ง่ายแสนง่ายผ่านแอปพลิเคชัน HP Smart ที่ทำให้เราสามารถสั่งพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสารได้โดยตรงจากสมาร์ทโฟน เป็นเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือครอบครัวที่ไม่ได้พิมพ์งานบ่อย แต่ต้องการเครื่องที่พร้อมใช้งานเสมอเมื่อต้องการ
สเปกเด่น
- ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
- ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 4800 x 1200 dpi (สี) / 1200 x 1200 dpi (ขาวดำ)
- ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 7.5 ipm (ขาวดำ) / 5.5 ipm (สี)
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB 2.0
- ตลับหมึก: HP 682 (ขาวดำ/สี)
- รองรับ: HP Smart App, Apple AirPrint, Mopria
รีวิวแบบเจาะลึก
แม้ว่า HP DeskJet Ink Advantage 277 จะเป็นเครื่องพิมพ์ระดับเริ่มต้น แต่เรื่องการเชื่อมต่อไร้สายนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นใหญ่ๆ เลยครับ การรองรับทั้ง Wi-Fi และ Wi-Fi Direct ทำให้มันเป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่ให้ความยืดหยุ่นสูงในราคาที่ใครๆ ก็เอื้อมถึง เราสามารถสั่งพิมพ์การบ้านของลูก, ตั๋วเครื่องบิน, หรือสูตรอาหารจากที่ไหนในบ้านก็ได้ผ่านแอป HP Smart ซึ่งเป็นแอปที่ใช้งานง่ายมากครับ หน้าตาแอปดูทันสมัย สามารถสแกนเอกสารโดยใช้กล้องมือถือแล้วสั่งพิมพ์ได้ทันที หรือจะตรวจสอบสถานะตลับหมึกก็ทำได้สะดวก แต่จุดที่ต้องพิจารณาคือรุ่นนี้ใช้ระบบตลับหมึก ไม่ใช่แบบแท็งค์ ซึ่งหมายความว่าเมื่อหมึกหมด เราต้องซื้อตลับใหม่มาเปลี่ยน ต้นทุนต่อแผ่นจึงสูงกว่าเครื่องพิมพ์ระบบแท็งค์อย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นมันจึงเหมาะกับคนที่พิมพ์ไม่บ่อย หรือพิมพ์ครั้งละไม่กี่แผ่นมากกว่าครับ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา สมาร์ทวอทช์ เพื่อสุขภาพ การมีเครื่องปริ้นไว้พิมพ์ตารางออกกำลังกายก็เป็นไอเดียที่ดีนะครับ
ในด้านคุณภาพงานพิมพ์ ถือว่าทำได้ดีสำหรับงานเอกสารทั่วไป ตัวหนังสือมีความคมชัด อ่านง่าย ส่วนงานพิมพ์สีก็ให้สีสันที่สดใสในระดับที่น่าพอใจสำหรับการใช้งานในบ้าน เช่น ทำรายงาน หรือพิมพ์กราฟิกง่ายๆ แต่คงไม่เหมาะกับงานพิมพ์ภาพถ่ายที่ต้องการความละเอียดสูงระดับมืออาชีพ ความเร็วในการพิมพ์อาจจะไม่ทันใจสำหรับคนที่ต้องการงานด่วน แต่ถ้าคุณไม่ได้รีบร้อนอะไร ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ครับ โดยสรุปแล้ว HP DeskJet Ink Advantage 277 เป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการพิมพ์ไร้สายในงบประมาณที่จำกัดที่สุด เหมาะเป็นเครื่องพิมพ์เครื่องแรกของบ้าน หรือสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการฟังก์ชันซับซ้อน ขอแค่พิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสารได้ในบางครั้งคราว รุ่นนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ
คะแนนที่ได้
7.9/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อมาติดบ้านไว้เผื่อพิมพ์งานด่วนค่ะ ตั้งค่าง่ายมาก ทำตามในแอปแป๊บเดียวก็เสร็จ” – คุณนุ่น, อายุ 28
“ราคาถูกดีครับ เหมาะกับคนพิมพ์น้อยๆ อย่างผม แค่ไว้สแกนเอกสารกับถ่ายสำเนาบัตรก็คุ้มแล้ว” – น้องเต้, อายุ 21
7. Canon PIXMA E4570 ★★★☆☆
“All-in-One สุดคุ้ม! มีแฟกซ์และ ADF ในตัว ตอบโจทย์โฮมออฟฟิศในงบประหยัด”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
หากโฮมออฟฟิศของคุณยังมีความจำเป็นต้องใช้แฟกซ์ และต้องจัดการกับเอกสารหลายหน้าอยู่บ่อยๆ แต่มีงบประมาณจำกัด คำถามที่ว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี อาจจะดูเหมือนหาคำตอบยาก แต่ Canon PIXMA E4570 ถูกสร้างมาเพื่อสถานการณ์แบบนี้เลยครับ รุ่นนี้เป็นเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันแบบ 4-in-1 ที่มาพร้อมฟังก์ชัน พิมพ์, สแกน, ถ่ายเอกสาร และแฟกซ์ ครบจบในเครื่องเดียว แถมยังมีถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ (ADF) ที่รองรับได้ 20 แผ่น ช่วยให้การสแกนหรือส่งแฟกซ์เอกสารหลายๆ หน้าทำได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลามายืนป้อนทีละแผ่น ถือเป็นฟีเจอร์ที่หาได้ยากในเครื่องพิมพ์ราคาระดับนี้
สเปกเด่น
- ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy, Fax
- ถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ (ADF): 20 แผ่น
- การพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Auto Duplex): รองรับ
- ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 8.8 ipm (ขาวดำ) / 4.4 ipm (สี)
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB 2.0
- ตลับหมึก: PG-47 (ดำ), CL-57 (สี)
- ฟีเจอร์พิเศษ: ID Card Copy, Auto Power ON/OFF
รีวิวแบบเจาะลึก
Canon PIXMA E4570 เป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เน้นความคุ้มค่าของฟังก์ชันการใช้งานอย่างแท้จริง การที่มีทั้ง ADF และ Auto Duplex ในเครื่องเดียวทำให้มันโดดเด่นกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันมากครับ ฟังก์ชันพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติช่วยประหยัดกระดาษได้มาก ส่วน ADF ก็ช่วยทุ่นแรงในการจัดการเอกสารได้อย่างมหาศาล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ ที่มีประโยชน์มากอย่าง ID Card Copy ที่ช่วยให้เราถ่ายสำเนาบัตรประชาชนทั้งด้านหน้าและด้านหลังลงบนกระดาษแผ่นเดียวได้อย่างง่ายดาย และฟังก์ชัน Auto Power ON/OFF ที่เครื่องจะเปิดเองเมื่อมีคำสั่งพิมพ์เข้ามาและปิดเองเมื่อไม่ใช้งาน ช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง การเชื่อมต่อก็ทำได้ง่ายผ่านแอป Canon PRINT Inkjet/SELPHY ที่ช่วยให้เราสั่งงานทุกอย่างได้จากบนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะสั่งพิมพ์จากคลาวด์ หรือสแกนเอกสารส่งเป็นอีเมล
ในส่วนของต้นทุนการพิมพ์ รุ่นนี้ใช้ตลับหมึกในซีรีส์ E ซึ่ง Canon ออกแบบมาให้เป็นตลับหมึกราคาประหยัด (Economy) ทำให้มีราคาถูกกว่าตลับหมึกปกติและพิมพ์ได้ในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะ (สีดำประมาณ 400 แผ่น, สีประมาณ 180 แผ่น) แม้ว่าต้นทุนต่อแผ่นอาจจะยังสูงกว่าระบบแท็งค์ แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลสำหรับผู้ที่ไม่ได้พิมพ์งานหนักมากแต่ต้องการฟังก์ชันที่ครบครันครับ คุณภาพงานพิมพ์ก็อยู่ในเกณฑ์ดีตามมาตรฐานของ Canon ตัวหนังสือคมชัดและสีสันสดใส เหมาะสำหรับงานเอกสารทางธุรกิจและรายงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น หากโฮมออฟฟิศของคุณกำลังมองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เป็นเหมือนศูนย์บัญชาการงานเอกสารในขนาดกะทัดรัดและราคาที่จับต้องได้ Canon PIXMA E4570 คือผู้เข้าแข่งขันที่น่ากลัวและตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอนครับ
คะแนนที่ได้
7.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“ที่บ้านทำธุรกิจเล็กๆ ยังต้องใช้แฟกซ์อยู่เลยค่ะ รุ่นนี้มีครบหมดเลย สะดวกมาก ไม่ต้องซื้อหลายเครื่อง” – พี่กิ๊ก, อายุ 48
“ชอบตรงที่มันพิมพ์สองหน้าให้เอง กับสแกนเอกสารหลายๆ แผ่นได้นี่แหละครับ ประหยัดเวลาไปเยอะ” – คุณตั้ม, อายุ 36
8. Epson L3150 ★★★☆☆
“รุ่นยอดนิยมในตำนาน! พิสูจน์แล้วเรื่องความทนทานและประหยัด ใช้งานง่ายไม่จุกจิก”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
แม้ว่าจะมีรุ่นใหม่ออกมามากมาย แต่ Epson L3150 ก็ยังคงเป็นชื่อที่หลายคนนึกถึงเมื่อมีคนถามว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่คุ้มค่าและไว้ใจได้ รุ่นนี้เปรียบเสมือนรุ่นพี่ใหญ่ที่ปูทางความสำเร็จให้กับเครื่องพิมพ์ EcoTank ในปัจจุบัน ด้วยชื่อเสียงด้านความทนทาน การใช้งานที่ไม่จุกจิก และความประหยัดของระบบแท็งค์หมึกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทำให้ L3150 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาเครื่องพิมพ์ที่ผ่านการพิสูจน์จากผู้ใช้งานจริงมาแล้วนับไม่ถ้วน มันคือเครื่องพิมพ์ All-in-One ที่ทำหน้าที่พื้นฐานอย่างการพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสารได้อย่างไม่มีที่ติ
สเปกเด่น
- ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
- ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 5760 x 1440 dpi
- ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 10.0 ipm (ขาวดำ) / 5.0 ipm (สี)
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB 2.0
- ระบบหมึก: EcoTank แบบแท็งค์ด้านหน้า
- การพิมพ์ภาพไร้ขอบ: รองรับขนาด 4R
- ปริมาณการพิมพ์: 4,500 แผ่น (ขาวดำ), 7,500 แผ่น (สี)
รีวิวแบบเจาะลึก
เสน่ห์ของ Epson L3150 อยู่ที่ความเรียบง่ายและเชื่อถือได้ มันอาจจะไม่มีฟีเจอร์หวือหวาเหมือนรุ่นใหม่ๆ เช่น ไม่มีหน้าจอ LCD หรือไม่มี Auto Duplex แต่สิ่งที่มันมอบให้คือความสบายใจในการใช้งานครับ ระบบแท็งค์หมึก EcoTank ของมันถูกออกแบบมาให้เติมง่ายและมีระบบป้องกันการหกเลอะเทอะ ทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถดูแลรักษาเครื่องได้ด้วยตัวเอง คุณภาพงานพิมพ์ก็ยังคงยอดเยี่ยมด้วยความละเอียดสูงถึง 5760 dpi ทำให้งานพิมพ์ออกมาสวยงามคมชัด ทั้งเอกสารและภาพถ่าย (รองรับการพิมพ์ไร้ขอบขนาด 4R) การเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Wi-Fi และ Wi-Fi Direct ก็ทำให้มันเป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่ยังคงทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เราสามารถสั่งพิมพ์งานจากที่ไหนในบ้านก็ได้ผ่านแอป Epson iPrint ซึ่งเป็นแอปที่ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชันที่จำเป็นครบถ้วน
L3150 เป็นเหมือนรถยนต์รุ่นยอดนิยมที่แม้จะตกรุ่นไปแล้ว แต่ก็ยังหาอะไหล่ง่ายและมีช่างที่ซ่อมเป็นอยู่ทั่วไป ด้วยความที่มันเป็นที่นิยมอย่างสูง ทำให้เราสามารถหาข้อมูลการแก้ปัญหาต่างๆ ได้ง่ายบนอินเทอร์เน็ต และหมึกพิมพ์ก็หาซื้อได้สะดวกแทบทุกร้านที่ขายอุปกรณ์ไอที การเลือก L3150 จึงเหมือนกับการลงทุนในความแน่นอน มันอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ทันสมัยที่สุด แต่เป็นตัวเลือกที่ “ปลอดภัย” ที่สุดสำหรับคนที่ไม่ต้องการความเสี่ยงและอยากได้เครื่องพิมพ์ที่ใช้งานไปได้นานๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาจุกจิกกวนใจ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับความทนทานและความคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่าฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด และกำลังมองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เป็นเหมือนเพื่อนเก่าที่ไว้ใจได้ Epson L3150 ก็ยังคงเป็นคำตอบที่ดีเสมอครับ
คะแนนที่ได้
7.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“ใช้รุ่นนี้มา 3 ปีแล้วค่ะ ยังไม่เคยงอแงเลย ทนมากจริงๆ เติมหมึกไปแค่ไม่กี่ครั้งเอง” – พี่ฝน, อายุ 38
“เพื่อนแนะนำรุ่นนี้มา บอกว่ามันทนดี ก็เลยซื้อตาม ไม่ผิดหวังครับ ใช้งานง่ายดี” – คุณวิน, อายุ 30
9. HP DeskJet Ink Advantage 2337 ★★★☆☆
“ทางเลือกสุดประหยัด! All-in-One พื้นฐานสำหรับคนเน้นใช้งานผ่านสาย USB”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
มาถึงตัวเลือกที่เรียกได้ว่าเน้นความประหยัดแบบสุดๆ กันบ้างครับกับ HP DeskJet Ink Advantage 2337 แม้ว่าบทความนี้เราจะเน้นเรื่อง เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี แต่เราก็ขอหยิบยกรุ่นนี้เข้ามาเป็นกรณีพิเศษสำหรับผู้ที่มีงบจำกัดจริงๆ และไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อไร้สายมากนัก รุ่นนี้เป็นเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันแบบ All-in-One ที่สามารถ พิมพ์, สแกน และถ่ายเอกสารได้ โดยเน้นการเชื่อมต่อผ่านสาย USB เป็นหลัก ซึ่งให้ความเสถียรและไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้วุ่นวาย แค่เสียบสายเข้ากับ คอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุ๊กแล้วลงไดรเวอร์ก็พร้อมใช้งานได้ทันที
สเปกเด่น
- ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
- การเชื่อมต่อหลัก: High-speed USB 2.0
- ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 4800 x 1200 dpi (สี) / 1200 x 1200 dpi (ขาวดำ)
- ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 7.5 ipm (ขาวดำ) / 5.5 ipm (สี)
- ตลับหมึก: HP 682 (ขาวดำ/สี)
- ขนาด: กะทัดรัดมาก ประหยัดพื้นที่
รีวิวแบบเจาะลึก
HP DeskJet Ink Advantage 2337 คือเครื่องพิมพ์ที่ยึดหลัก “Simple is the best” มันตัดทอนฟีเจอร์ที่ซับซ้อนออกไป เหลือไว้เพียงสิ่งที่จำเป็นจริงๆ สำหรับการใช้งานในบ้าน ทำให้มันมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายมาก เหมาะสำหรับเป็นเครื่องพิมพ์เครื่องแรกของน้องๆ นักเรียนที่ต้องใช้ทำรายงาน หรือสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการเครื่องถ่ายเอกสารที่ไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก การที่มันเชื่อมต่อผ่านสาย USB เท่านั้นก็มีข้อดีในแง่ของความเสถียร เราไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญาณ Wi-Fi จะหลุด หรือมีปัญหาในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายเลยครับ คุณภาพงานพิมพ์ก็ถือว่าทำได้ดีเกินราคาครับ งานเอกสารมีความคมชัด ส่วนงานพิมพ์สีก็ให้สีสันที่สดใสเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป
แน่นอนว่าด้วยราคาที่ประหยัด ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนครับ สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือการไม่มี Wi-Fi ซึ่งทำให้เราไม่สามารถสั่งพิมพ์งานจากมือถือหรือแท็บเล็ตได้โดยตรง ต้องทำผ่านคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อสายอยู่เท่านั้น และการใช้ตลับหมึกก็ทำให้มีต้นทุนต่อแผ่นที่สูงกว่าระบบแท็งค์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเครื่องนี้จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องพิมพ์งานเป็นประจำหรือพิมพ์ครั้งละจำนวนมากๆ ครับ อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นคนที่นานๆ จะพิมพ์งานที แต่ต้องการมีเครื่อง All-in-One ติดบ้านไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน และให้ความสำคัญกับราคาเครื่องเป็นอันดับแรก HP DeskJet Ink Advantage 2337 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปทุกบาททุกสตางค์ครับ
คะแนนที่ได้
7.2/10
รีวิวสั้น ๆ
“ซื้อให้แม่ใช้ถ่ายเอกสารกับสแกนบัตรค่ะใช้ง่ายดี แม่ชอบที่ไม่ต้องตั้งค่าอะไรเยอะ” – คุณปลา, อายุ 34
“ถูกและดีครับ ผมใช้แค่พิมพ์รายงานไม่กี่แผ่นต่อเดือน รุ่นนี้พอเลย” – น้องนนท์, อายุ 19
10. Brother HL-L2365DW ★★★☆☆
“ราชาแห่งความเร็ว! พิมพ์ขาวดำดุจพายุ พิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ เพื่อนแท้ชาวออฟฟิศ”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ปิดท้ายลิสต์ เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี กันด้วยตัวเลือกเดียวที่เป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์ในบทความนี้ Brother HL-L2365DW ครับ รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวที่ชัดเจน นั่นคือ “การพิมพ์เอกสารขาวดำปริมาณมากด้วยความเร็วสูงสุด” เหมาะสำหรับออฟฟิศ, สำนักงาน, หรือนักศึกษาที่ต้องพิมพ์เอกสารที่เป็นตัวหนังสือเยอะๆ เป็นประจำ ด้วยความเร็วในการพิมพ์ที่สูงถึง 30 แผ่นต่อนาที (ppm) ทำให้คุณสามารถพิมพ์รายงานหนาเป็นร้อยหน้าได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น และที่สำคัญคือมันมาพร้อมฟังก์ชันพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Auto Duplex) ที่ช่วยประหยัดกระดาษและทำให้งานของคุณดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
สเปกเด่น
- ประเภท: Monochrome Laser Printer (เลเซอร์ขาวดำ)
- ฟังก์ชัน: Print (พิมพ์อย่างเดียว)
- ความเร็วในการพิมพ์: สูงสุด 30 แผ่นต่อนาที
- การพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Auto Duplex): รองรับ
- ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 2400 x 600 dpi
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, Ethernet, USB 2.0
- ถาดกระดาษ: 250 แผ่น
รีวิวแบบเจาะลึก
หัวใจของ Brother HL-L2365DW คือประสิทธิภาพในการพิมพ์เอกสารครับ การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ทำให้หมึกพิมพ์ (โทนเนอร์) แห้งทันทีที่พิมพ์ออกมา ไม่ต้องกังวลเรื่องหมึกซึมหรือเลอะเทอะ และตัวหนังสือที่ได้ก็จะมีความคมกริบเป็นพิเศษ แม้จะเป็นตัวอักษรขนาดเล็กก็ตาม ต้นทุนต่อแผ่นของเครื่องพิมพ์เลเซอร์สำหรับงานขาวดำนั้นต่ำกว่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทอย่างเห็นได้ชัด โทนเนอร์หนึ่งตลับสามารถพิมพ์ได้ถึง 2,600 แผ่น ทำให้มันเป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่คุ้มค่าที่สุดในระยะยาวสำหรับผู้ที่พิมพ์แต่เอกสารขาวดำครับ การเชื่อมต่อก็ครบครันสมกับเป็นเครื่องพิมพ์สำหรับออฟฟิศ มีทั้งพอร์ต Ethernet (LAN) สำหรับการเชื่อมต่อที่เสถียรในเครือข่ายสำนักงาน และมี Wi-Fi กับ Wi-Fi Direct สำหรับเพิ่มความสะดวกในการสั่งพิมพ์จากอุปกรณ์พกพาต่างๆ เช่น แท็บเล็ต
ถาดกระดาษที่จุได้ถึง 250 แผ่นก็เป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ช่วยลดภาระในการทำงาน ไม่ต้องคอยลุกไปเติมกระดาษบ่อยๆ ทำให้การทำงานลื่นไหลไม่ติดขัด แม้ว่ามันจะเป็นเครื่องพิมพ์ที่ทำหน้าที่ได้เพียงอย่างเดียว (พิมพ์ขาวดำ) และไม่สามารถสแกนหรือพิมพ์สีได้ แต่มันก็ทำหน้าที่นั้นได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด หากสภาพแวดล้อมการทำงานของคุณมีการพิมพ์เอกสารเป็นหัวใจหลัก และต้องการความเร็ว ความประหยัด และความน่าเชื่อถือ การมี HL-L2365DW เป็นเครื่องพิมพ์หลักสำหรับงานเอกสาร และอาจจะมีเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทสีราคาประหยัดอีกเครื่องสำหรับงานพิมพ์สี ก็ถือเป็นการจัดสรรทรัพยากรที่ชาญฉลาดมากครับ ดังนั้น ถ้าคำถามของคุณคือ เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี สำหรับงานพิมพ์ขาวดำโดยเฉพาะ Brother HL-L2365DW คือคำตอบสุดท้ายที่ไม่มีใครเทียบได้ในเรื่องความเร็วและประสิทธิภาพครับ
คะแนนที่ได้
7.0/10
รีวิวสั้น ๆ
“เร็วสะใจมากครับ ที่ออฟฟิศพิมพ์บิลวันละเป็นร้อยๆ ใบ รุ่นนี้เอาอยู่สบาย” – คุณบอย, อายุ 41
“ผมเรียนกฎหมายต้องพิมพ์เอกสารอ่านเยอะมาก รุ่นนี้พิมพ์สองหน้าให้เอง ประหยัดค่ากระดาษไปได้เยอะเลยครับ” – น้องมาร์ค, อายุ 22
มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ: เบื้องหลังคำว่า “เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี”
ในวงการเทคโนโลยีการพิมพ์ คำถามที่ว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ไม่ได้มีคำตอบที่ตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับเทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี จากข้อมูลของ Rtings.com และ TechRadar ซึ่งเป็นเว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ไอทีชั้นนำระดับโลก ได้สรุปเทรนด์ที่น่าสนใจไว้ดังนี้ครับ
“ผู้ใช้งานในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่เครื่องพิมพ์ที่พิมพ์ได้ แต่ต้องการ ‘โซลูชันงานเอกสาร’ ที่ครบวงจรและเชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลได้อย่างราบรื่น การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi กลายเป็นมาตรฐานขั้นต่ำ แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างคือความฉลาดของซอฟต์แวร์, ต้นทุนการเป็นเจ้าของในระยะยาว (Total Cost of Ownership), และความง่ายในการใช้งานผ่านอุปกรณ์พกพา”
ผู้เชี่ยวชาญได้ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคควรพิจารณาให้ลึกซึ้งกว่าแค่สเปกบนกระดาษ:
1. ระบบนิเวศของแอปพลิเคชัน (App Ecosystem)
แอปพลิเคชันบนมือถือไม่ใช่แค่ของแถมอีกต่อไป แต่มันคือศูนย์กลางการควบคุมเครื่องพิมพ์ในยุคนี้ แอปอย่าง Epson Smart Panel, HP Smart, หรือ Brother Mobile Connect ไม่ได้ทำได้แค่สั่งพิมพ์ แต่ยังสามารถสแกนเอกสารด้วยกล้องมือถือ, จัดการไฟล์บนคลาวด์, ตรวจสอบและสั่งซื้อหมึก, ไปจนถึงการวินิจฉัยและแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง ประสบการณ์การใช้งานแอปที่ดีและลื่นไหลจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี มีความน่าใช้แตกต่างกัน
2. ต้นทุนแฝงและค่าบำรุงรักษา
ราคาเครื่องที่ถูกในตอนแรกอาจไม่ได้หมายความว่าจะประหยัดเสมอไป ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำให้ดูที่ “ต้นทุนต่อแผ่น” ซึ่งเครื่องพิมพ์ระบบแท็งค์ (Ink Tank) อย่าง Epson EcoTank หรือ Brother InkBenefit Plus มักจะให้ความคุ้มค่าในระยะยาวที่สูงกว่าระบบตลับหมึก (Cartridge) อย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงอายุการใช้งานของชิ้นส่วนสิ้นเปลืองอื่นๆ เช่น แผ่นซับหมึก (Maintenance Box) ซึ่งบางรุ่นผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเองได้ง่ายๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการส่งเครื่องเข้าศูนย์บริการได้
3. ความยั่งยืนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เทรนด์รักษ์โลกกำลังเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจเลือกซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เครื่องพิมพ์ก็เช่นกัน เทคโนโลยีอย่าง Epson Heat-Free ที่ไม่ใช้ความร้อนในการพิมพ์ช่วยประหยัดพลังงานได้มาก หรือฟังก์ชัน Auto Duplex ที่ช่วยลดการใช้กระดาษ ก็เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญ การเลือก เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่มีฟีเจอร์เหล่านี้จึงไม่เพียงแต่ดีต่อกระเป๋าเงิน แต่ยังดีต่อโลกอีกด้วย
บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS
“จากการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด ทีมงานของเรามองว่าการเลือก เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ในปี 2025 คือการหาจุดสมดุลที่ลงตัวระหว่าง ‘ราคาเริ่มต้น’, ‘ต้นทุนระยะยาว’, และ ‘ความสะดวกสบายในการใช้งาน’ เครื่องพิมพ์ระบบแท็งค์ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นผู้ชนะในด้านความคุ้มค่า ในขณะที่การเชื่อมต่อไร้สายที่เสถียรและแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่ายคือหัวใจของประสบการณ์ที่ดี ดังนั้น แทนที่จะถามว่ารุ่นไหนดีที่สุด อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นคำถามที่ว่า ‘ไลฟ์สไตล์การพิมพ์ของเราเหมาะกับเครื่องแบบไหนที่สุด’ มากกว่าครับ”
เคล็ดลับการเลือกซื้อให้ได้เครื่องปริ้น WiFi ที่ใช่และคุ้มค่าที่สุด
การเลือกซื้อเครื่องปริ้นสักเครื่องอาจจะดูน่าปวดหัว แต่ถ้าเรามีเช็คลิสต์ในใจก็จะง่ายขึ้นเยอะเลยครับ นี่คือเคล็ดลับจากเราที่จะช่วยให้คุณตอบคำถาม เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ได้อย่างมั่นใจ
- ประเมินปริมาณการพิมพ์ของคุณ: นี่คือข้อที่สำคัญที่สุดครับ ถ้าคุณพิมพ์งานแทบทุกวัน หรือพิมพ์ครั้งละเยอะๆ การลงทุนกับเครื่องพิมพ์ระบบแท็งค์คือคำตอบที่ใช่ที่สุด เพราะต้นทุนต่อแผ่นถูกกว่ากันเยอะมาก แต่ถ้าคุณนานๆ พิมพ์ที การเลือกเครื่องพิมพ์ระบบตลับหมึกที่มีราคาเริ่มต้นถูกกว่าก็อาจจะเพียงพอครับ
- ต้องการแค่พิมพ์ หรือครบเครื่อง?: คุณต้องการแค่พิมพ์เอกสารอย่างเดียว หรือต้องการฟังก์ชันสแกนและถ่ายเอกสารด้วย? เครื่องพิมพ์แบบ All-in-One จะให้ความสะดวกสบายมากกว่า แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าต้องการแค่พิมพ์อย่างเดียว การเลือกเครื่องพิมพ์แบบ Single Function ก็จะช่วยประหยัดงบและได้เครื่องที่ขนาดเล็กกว่า
- ขาวดำ หรือต้องมีสี?: หากเอกสารส่วนใหญ่ของคุณเป็นแค่ตัวหนังสือ เช่น เอกสารทางกฎหมาย, บัญชี, หรือชีทเรียน การเลือกเครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำอย่าง Brother HL-L2365DW จะให้ความเร็วและความประหยัดที่เหนือกว่า แต่ถ้างานของคุณต้องมีกราฟิก, รูปภาพ, หรือแผนภูมิสีสันสดใส เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทคือคำตอบเดียวครับ
- เช็คฟังก์ชันเสริมที่จำเป็น: คุณต้องพิมพ์เอกสารสองหน้าบ่อยแค่ไหน? ถ้าบ่อย ฟังก์ชัน Auto Duplex จะช่วยชีวิตคุณได้มาก คุณต้องสแกนเอกสารทีละหลายๆแผ่นหรือไม่? ถ้าใช่ การมี ADF คือสิ่งจำเป็น หรือคุณยังต้องใช้แฟกซ์อยู่หรือเปล่า? ฟังก์ชันเหล่านี้คือตัวตัดสินที่จะช่วยให้คุณเลือกรุ่นที่ใช่ได้ง่ายขึ้น
- อย่าลืมดูเรื่องการเชื่อมต่อ: นอกจาก Wi-Fi แล้ว การมี Wi-Fi Direct จะเพิ่มความสะดวกอย่างมากเมื่อต้องการให้เพื่อนหรือแขกพิมพ์งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายหลักของเรา และถ้าจะใช้งานในออฟฟิศ การมีพอร์ต Ethernet (LAN) ก็จะให้ความเสถียรที่มากกว่าครับ
- อ่านรีวิวและดูวิดีโอสาธิต: ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้าย ลองใช้เวลาดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริง หรือวิดีโอสาธิตการใช้งานบน YouTube จะช่วยให้คุณเห็นภาพการทำงานจริงของเครื่องรุ่นนั้นๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ
การดูแลรักษาเครื่องปริ้น WiFi เพื่อยืดอายุการใช้งาน
ซื้อ เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี มาแล้ว ก็ต้องดูแลกันหน่อยเพื่อให้อยู่กับเราไปนานๆ ครับ การดูแลรักษาเครื่องปริ้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพงานพิมพ์ให้ดีเหมือนใหม่ได้แล้วครับ
- ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ: สำหรับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท การเปิดใช้งานและพิมพ์งานบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง (อาจจะเป็นแค่หน้าทดสอบก็ได้) จะช่วยป้องกันปัญหาหมึกแห้งและหัวพิมพ์อุดตันได้ดีที่สุดครับ
- ใช้ฟังก์ชันทำความสะอาดหัวพิมพ์: เครื่องพิมพ์ส่วนใหญ่จะมีฟังก์ชัน “Head Cleaning” หรือ “Printhead Cleaning” อยู่ในซอฟต์แวร์ หากรู้สึกว่างานพิมพ์เริ่มมีเส้นขาดๆ หรือสีเพี้ยน ลองใช้ฟังก์ชันนี้ดูก่อน ซึ่งมักจะช่วยแก้ปัญหาได้ครับ
- เลือกใช้หมึกแท้: แม้ว่าหมึกเทียบเท่าจะมีราคาถูกกว่า แต่หมึกแท้จากผู้ผลิตจะถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับหัวพิมพ์ของรุ่นนั้นๆ ได้ดีที่สุด ช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาหัวพิมพ์อุดตันและยังคงคุณภาพสีที่ถูกต้องแม่นยำ แถมยังไม่ทำให้ประกันเครื่องขาดอีกด้วย
- อัปเดตเฟิร์มแวร์เสมอ: ผู้ผลิตมักจะปล่อยอัปเดตเฟิร์มแวร์ (Firmware) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน, แก้ไขข้อบกพร่อง, หรือเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ควรเช็คและอัปเดตเฟิร์มแวร์ของเครื่องพิมพ์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอครับ
- วางในที่ที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการวางเครื่องพิมพ์ในบริเวณที่มีแดดส่องโดยตรง, มีฝุ่นเยอะ, หรือมีความชื้นสูง เพราะปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อทั้งตัวเครื่องและคุณภาพของกระดาษได้ครับ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
เราได้รวบรวมคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับ เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี มาตอบให้หายข้องใจกันตรงนี้เลยครับ
ถาม: เครื่องปริ้นอิงค์เจ็ทกับเลเซอร์ แบบไหนดีกว่ากัน?
ตอบ: ไม่มีแบบไหนดีกว่าอย่างสมบูรณ์ครับ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ถ้าคุณเน้นพิมพ์รูปภาพหรืองานที่ต้องการสีสันสดใส อิงค์เจ็ทจะตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าคุณพิมพ์เอกสารขาวดำเป็นหลักและต้องการความเร็วกับต้นทุนต่อแผ่นที่ต่ำ เลเซอร์คือผู้ชนะครับ
ถาม: Wi-Fi Direct คืออะไร จำเป็นต้องมีไหม?
ตอบ: Wi-Fi Direct คือเทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องพิมพ์สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น (เช่น มือถือ, แท็บเล็ต) ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านเราเตอร์ Wi-Fi ครับ มันมีประโยชน์มากเวลาที่เราต้องการพิมพ์งานด่วนนอกสถานที่ หรือต้องการให้เพื่อนพิมพ์งานโดยไม่ต้องให้รหัสผ่าน Wi-Fi ของเรา ถือเป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกสบายได้อย่างมากครับ
ถาม: ถ้าไม่ได้ใช้งานนานๆ ควรจัดการกับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทอย่างไร?
ตอบ: ทางที่ดีที่สุดคือพยายามเปิดเครื่องและสั่งพิมพ์งานทดสอบ (Nozzle Check) อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อป้องกันหัวพิมพ์อุดตัน แต่หากจำเป็นต้องทิ้งไว้เป็นเวลานานจริงๆ ควรปิดเครื่องตามขั้นตอนปกติและถอดปลั๊กออก ไม่ควรปล่อยให้เสียบปลั๊กทิ้งไว้ครับ
ถาม: ทำไมเครื่องปริ้นเชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ได้ ควรทำอย่างไรเบื้องต้น?
ตอบ: ลองเริ่มจากการรีสตาร์ททั้งเครื่องพิมพ์และเราเตอร์ Wi-Fi ของคุณดูก่อนครับ จากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องพิมพ์และคอมพิวเตอร์/มือถือของคุณเชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย Wi-Fi วงเดียวกัน (ชื่อ Wi-Fi เดียวกัน) หากยังไม่ได้ ลองลบการตั้งค่าเครือข่ายเก่าในเครื่องพิมพ์แล้วทำการเชื่อมต่อใหม่อีกครั้งครับ
บทสรุปส่งท้าย: เลือกเครื่องปริ้น WiFi ที่ใช่สำหรับคุณ
มาถึงตรงนี้ ผมหวังว่าเพื่อนๆ น่าจะได้คำตอบในใจกันแล้วนะครับว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นผู้ช่วยคนใหม่ในบ้านหรือออฟฟิศของคุณ การเลือกซื้อเครื่องพิมพ์ในปัจจุบันไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิดครับ หัวใจสำคัญคือการทำความเข้าใจความต้องการของตัวเองก่อน ว่าเราเน้นพิมพ์อะไร, พิมพ์บ่อยแค่ไหน, และต้องการฟังก์ชันเสริมอะไรบ้าง
หากคุณมองหาความคุ้มค่ารอบด้าน พิมพ์เยอะ ประหยัดหมึก และใช้งานง่าย Epson EcoTank L3250 คือตัวเลือกอันดับหนึ่งที่น่าลงทุน ถ้าคุณต้องการความเร็วเป็นพิเศษสำหรับงานออฟฟิศ Brother DCP-T520W ก็พร้อมจะตอบสนองคุณได้ทันที หรือถ้าคุณเป็นสายอาร์ตที่รักการพิมพ์ภาพถ่ายสวยๆ Canon PIXMA G3010 ก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง และสำหรับงานเอกสารขาวดำล้วนๆ ที่ต้องการความเร็วและต้นทุนต่ำสุดๆ ก็ต้องยกให้ Brother HL-L2365DW ครับ
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือก เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี การลงทุนกับเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ชีวิตและการทำงานของคุณง่ายขึ้นอีกเยอะครับ ขอให้สนุกกับการพิมพ์นะครับ!
หมายเหตุจากผู้เขียน:
- รายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติ, ราคา, และโปรโมชันของสินค้า อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากหน้าเว็บไซต์ของผู้จำหน่ายหรือแบรนด์โดยตรงอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ
- คะแนน (เช่น 9.5/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากข้อมูลสเปก, ฟีเจอร์, ราคา ณ วันที่รีวิว, ความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง และประสบการณ์การใช้งานของผู้เขียน เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจเท่านั้น
- รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “คุณแม่หน่อย, อายุ 42”) เป็นตัวอย่างความคิดเห็นที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานในบริบทต่างๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลและจัดอันดับจากรุ่นที่เป็นที่นิยมและน่าสนใจในช่วงเวลานี้ คุณสมบัติหรือราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลาครับ
- การเลือกใช้หมึกพิมพ์ ควรเลือกใช้หมึกแท้จากผู้ผลิตเพื่อคุณภาพงานพิมพ์ที่ดีที่สุดและเพื่อรักษาสิทธิ์ในการรับประกันสินค้าครับ