10 สุดยอด เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี 2025 อัปเดตล่าสุด! ทั้ง Inkjet และ Laser คุ้มค่าทุกการใช้งาน

เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ภาพประกอบบทความแนะนำเครื่องปริ้นไร้สายคุณภาพ ปี 2025

บทนำ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้เรามาคุยกันในหัวข้อที่หลายคนสงสัยว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เหมาะกับทั้งการใช้งานที่บ้าน ออฟฟิศเล็ก ๆ หรือโฮมออฟฟิศในปี 2025 เพราะยุคนี้หมึกแบบแท้งค์ใหญ่และการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Wi-Fi ช่วยให้การพิมพ์สบายขึ้นเยอะ ไม่ต้องวุ่นวายกับสาย และไม่ต้องเสียเวลาเสียเงินเปลี่ยนตลับหมึกบ่อย ๆ ถ้าถามว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่ทั้งคุ้มค่าและตอบโจทย์ล้ำ ๆ เราจึงคัดมาให้ถึง 10 รุ่นที่มาแรงที่สุดในปีนี้ พร้อมจุดเด่น สเปกหลัก และรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อช่วยให้เพื่อนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

บทความนี้จะเล่าจากประสบการณ์ตรง เสาะหารุ่นยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี สำหรับคนเน้นคุณภาพงานพิมพ์สูง หรืองบจำกัดก็ยังมีรุ่นดี ๆ ให้เลือก อีกทั้งเรายังมีตารางเปรียบเทียบสเปกเด่นและเรตติ้งดาวให้เห็นภาพรวมอย่างชัดเจน และถ้าใครอยากดูรีวิวรุ่นอื่น ๆ เช่น เครื่องปริ้น Canon รุ่นไหนดี ก็เลือกดูได้เลยครับ การมีเครื่องปริ้นดีๆ ก็เหมือนกับการมี Laptop คู่ใจ ที่ช่วยให้งานเสร็จไวขึ้นเยอะเลยครับ

เตรียมตัวให้พร้อมเพราะเราจะพาไปสำรวจ เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี แห่งปี 2025 ทั้ง Epson, Brother, Canon, HP ไล่ตั้งแต่รุ่นท็อปถังหมึกแท้งค์ใหญ่จนถึงรุ่นเลเซอร์ไวไฟแรงจัด ที่ทุกตัวมีข้อดีเป็นของตัวเอง และส่วนที่ต้องพิจารณา เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เลือกเครื่องปริ้นที่ถูกใจที่สุด ว่าแล้วไปดูตารางสรุปกันก่อนเลยครับ!

จัดอันดับ 10 เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่สุดแห่งปี 2025

ใครที่กำลังปวดหัวว่าจะเลือก เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ให้เหมาะกับการใช้งานที่สุด ลองดูภาพรวมจากตารางเปรียบเทียบสเปกและคะแนนที่เราสรุปมาให้เห็นภาพชัด ๆ กันก่อนเลยครับ แล้วค่อยเลื่อนลงไปอ่านรีวิวเจาะลึกแต่ละรุ่นแบบจัดเต็มกันต่อได้เลย

ตารางเปรียบเทียบสรุป

คุณสมบัติ Epson EcoTank L3250 Brother DCP-T520W Canon PIXMA G3010 Epson EcoTank L5290 Epson EcoTank L4260 HP DeskJet Ink Advantage 277 Canon PIXMA E4570 Epson L3150 HP DeskJet Ink Advantage 2337 Brother HL-L2365DW
อันดับที่ 🥇 🥈 🥉 4 5 6 7 8 9 10
รูปภาพสินค้า Epson EcoTank L3250 Brother DCP-T520W Canon PIXMA G3010 Epson EcoTank L5290 Epson EcoTank L4260 HP DeskJet Ink Advantage 277 Canon PIXMA E4570 Epson L3150 HP DeskJet Ink Advantage 2337 Brother HL-L2365DW
ชื่อสินค้า (กดเพื่อเลื่อนไปดูรายละเอียด) Epson EcoTank L3250 Brother DCP-T520W Canon PIXMA G3010 Epson EcoTank L5290 Epson EcoTank L4260 HP Ink Adv 277 Canon PIXMA E4570 Epson L3150 HP Ink Adv 2337 Brother HL-L2365DW
สเปกเด่น 10.0/5.0 ipm (ขาวดำ/สี), 5760×1440 dpi, แท็งค์หมึกในตัว, Wi-Fi Direct 17/9.5 ipm (ขาวดำ/สี), 1200×6000 dpi, ถาดกระดาษ 150 แผ่น, Wi-Fi Direct 8.8/5.0 ipm (ขาวดำ/สี), 4800×1200 dpi, พิมพ์ภาพไร้ขอบ, Wi-Fi 10.0/5.0 ipm (ขาวดำ/สี), 5760×1440 dpi, ADF, Fax, Wi-Fi Direct 10.5/5.0 ipm (ขาวดำ/สี), 5760×1440 dpi, พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ, Wi-Fi Direct 7.5/5.5 ipm (ขาวดำ/สี), 1200×1200 dpi, HP Smart App, Wi-Fi 8.8/4.4 ipm (ขาวดำ/สี), 4800×1200 dpi, ADF, Fax, Wi-Fi 10.0/5.0 ipm (ขาวดำ/สี), 5760×1440 dpi, แท็งค์หมึกในตัว, Wi-Fi Direct 7.5/5.5 ipm (ขาวดำ/สี), 1200×1200 dpi, Print/Scan/Copy, USB 30 ppm, 2400×600 dpi, พิมพ์ 2 หน้าอัตโนมัติ, Wi-Fi Direct (Laser)
คะแนน ★★★★★ (9.5/10) ★★★★★ (9.3/10) ★★★★☆ (8.8/10) ★★★★☆ (8.7/10) ★★★★☆ (8.5/10) ★★★☆☆ (7.9/10) ★★★☆☆ (7.8/10) ★★★☆☆ (7.5/10) ★★★☆☆ (7.2/10) ★★★☆☆ (7.0/10)
เหมาะกับใคร บ้านและโฮมออฟฟิศที่พิมพ์บ่อย ออฟฟิศขนาดเล็กที่เน้นความเร็ว นักเรียน/นักศึกษาและงานพิมพ์ภาพ ธุรกิจที่ต้องการฟังก์ชันครบครัน ผู้ที่ต้องการประหยัดกระดาษ ผู้ใช้งานเริ่มต้น งบจำกัด โฮมออฟฟิศที่ต้องการแฟกซ์ ผู้ใช้งานทั่วไปที่เน้นความคุ้มค่า ผู้ที่ต้องการเครื่อง All-in-one พื้นฐาน ออฟฟิศที่พิมพ์เอกสารขาวดำเยอะ
เช็กราคาล่าสุด

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

 

1. Epson EcoTank L3250 ★★★★★

“ตัวจบเรื่องความคุ้ม! พิมพ์เยอะแค่ไหนก็ไม่หวั่น ด้วยแท็งค์หมึกยักษ์และ Wi-Fi สุดเสถียร”

Epson EcoTank L3250

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้ามีคนมาถามผมว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เป็นเหมือนม้างานตัวจริงสำหรับบ้านหรือโฮมออฟฟิศ ผมยกให้ Epson EcoTank L3250 เป็นอันดับหนึ่งในใจเลยครับ รุ่นนี้คือคำตอบของความคุ้มค่าอย่างแท้จริง ด้วยระบบแท็งค์หมึกในตัวที่ออกแบบมาให้เติมง่ายสุดๆ แค่เปิดฝา เสียบขวดหมึกเข้าไปก็เติมได้เลย ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะ แถมหมึกขวดหนึ่งพิมพ์ได้เป็นพันๆ แผ่น ลืมเรื่องการเปลี่ยนตลับหมึกบ่อยๆ ไปได้เลยครับ เหมาะมากสำหรับน้องๆ นักศึกษาที่ต้องพิมพ์ชีทเรียนเยอะๆ หรือบ้านที่ต้องพิมพ์งานเอกสารเป็นประจำ

สเปกเด่น

  • ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
  • เทคโนโลยีการพิมพ์: Heat-Free Technology ไม่ใช้ความร้อน
  • ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 5760 x 1440 dpi
  • ความเร็วในการพิมพ์: 10.0 ipm (ขาวดำ) / 5.0 ipm (สี)
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB 2.0
  • รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows, Mac OS X
  • ปริมาณการพิมพ์: 4,500 แผ่น (ขาวดำ), 7,500 แผ่น (สี)
จุดเด่น
  • ต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นต่ำมาก
  • เติมหมึกง่าย ไม่หกเลอะเทอะ
  • เชื่อมต่อ Wi-Fi และ Wi-Fi Direct สะดวก
  • คุณภาพงานพิมพ์คมชัด สีสันสดใส
  • ใช้เทคโนโลยี Heat-Free ช่วยประหยัดไฟ
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ (ADF)
  • ความเร็วในการพิมพ์สีอาจไม่ทันใจสำหรับงานเร่งด่วนมาก

รีวิวแบบเจาะลึก

สิ่งที่ทำให้ L3250 โดดเด่นและเป็นคำตอบแรกๆ สำหรับคำถามที่ว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ก็คือความง่ายในการใช้งานแบบไร้สายครับ การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ทำให้เราสามารถสั่งพิมพ์งานจากทุกที่ในบ้านได้เลย ไม่ว่าจะนั่งทำงานบนโซฟา หรือกำลังเตรียมเอกสารในครัว ขอแค่มีสัญญาณ Wi-Fi ไปถึงก็พอ นอกจากนี้ยังมี Wi-Fi Direct ที่เป็นเหมือนฮีโร่เลยครับ เพราะมันทำให้เราเชื่อมต่อมือถือเข้ากับเครื่องปริ้นได้โดยตรง ไม่ต้องผ่าน เราเตอร์ เลย เหมาะมากเวลาเพื่อนมาบ้านแล้วอยากจะพิมพ์รูป หรือเราต้องการพิมพ์ไฟล์ด่วนจากแท็บเล็ต การตั้งค่าก็ไม่ยุ่งยากเลยครับ ผ่านแอป Epson Smart Panel บนมือถือ สามารถทำทุกอย่างได้ตั้งแต่ตั้งค่าเครื่องครั้งแรก, สั่งพิมพ์, สแกน, เช็คระดับหมึก ไปจนถึงการแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง มันทำให้การจัดการเครื่องปริ้นกลายเป็นเรื่องง่ายเหมือนเล่นแอปบนมือถือเลยครับ

ในด้านคุณภาพงานพิมพ์ ต้องบอกว่า Epson ไม่เคยทำให้ผิดหวังครับ ด้วยความละเอียดสูงถึง 5760 x 1440 dpi ทำให้ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์เอกสารตัวหนังสือเล็กๆ ก็ยังคมกริบ อ่านง่ายสบายตา หรือจะพิมพ์รูปภาพสีสันก็สดใสสมจริง เก็บรายละเอียดได้ดีเยี่ยม เทคโนโลยี Heat-Free ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Epson ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจ เพราะมันช่วยให้เครื่องพิมพ์ทำงานได้เร็วขึ้นตั้งแต่เปิดเครื่อง และที่สำคัญคือประหยัดพลังงานกว่าเครื่องพิมพ์ที่ใช้ความร้อนทั่วไปครับ ฟังก์ชันการสแกนและถ่ายเอกสารก็ทำได้ดีตามมาตรฐาน สามารถสแกนเอกสารสำคัญเก็บเป็นไฟล์ดิจิทัล หรือถ่ายสำเนาบัตรประชาชนได้อย่างคมชัด สรุปง่ายๆ เลยว่าถ้าคุณกำลังมองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เป็น All-in-One ครบเครื่อง ใช้งานง่าย ประหยัดทั้งหมึกและไฟ Epson L3250 คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบและจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ

คะแนนที่ได้

9.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ซื้อมาให้ลูกใช้เรียนออนไลน์ พิมพ์ชีททั้งวันหมึกยังไม่หมดเลยค่ะ เชื่อมกับมือถือง่ายมาก ชอบตรงนี้” – คุณแม่หน่อย, อายุ 42
“ผมใช้ทำโฮมออฟฟิศ พิมพ์บิล สแกนเอกสาร ครบจบในเครื่องเดียว ต้นทุนถูกมากครับ เทียบกับเครื่องเก่าคนละเรื่องเลย” – พี่เอก, อายุ 35


2. Brother DCP-T520W ★★★★★

“เร็ว แรง ทะลุพิกัด! เพื่อนซี้ออฟฟิศเล็ก พิมพ์ไวเว่อร์ หมึกเติมง่าย ดีไซน์ฉลาด”

Brother DCP-T520W

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าความเร็วคือสิ่งที่คุณมองหา และกำลังคิดว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะมาตอบโจทย์งานด่วนในออฟฟิศขนาดเล็กหรือโฮมออฟฟิศที่วุ่นวาย ต้องยกให้ Brother DCP-T520W เลยครับ จุดเด่นที่เตะตาที่สุดคือความเร็วในการพิมพ์ที่จัดว่าเร็วมากในกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์ด้วยกัน โดยพิมพ์ขาวดำได้สูงถึง 17 ipm และสี 9.5 ipm ทำให้การพิมพ์เอกสารเยอะๆ เช่น รายงานการประชุม หรือใบเสนอราคาหลายสิบหน้าเสร็จได้ในพริบตา นอกจากนี้ดีไซน์การเติมหมึกก็ฉลาดมากครับ ตัวแท็งค์หมึกจะอยู่ด้านหน้าและมีฝาปิดใส ทำให้มองเห็นระดับหมึกได้ง่าย และขวดหมึกก็ออกแบบมาให้เติมได้สะดวก แค่เปิดฝาแล้วเสียบเข้าไปได้เลย ไม่ต้องบีบ

สเปกเด่น

  • ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
  • ความเร็วในการพิมพ์ (Fast Mode): สูงสุด 30 ppm (ขาวดำ) / 12 ppm (สี)
  • ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 17 ipm (ขาวดำ) / 9.5 ipm (สี)
  • ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 1200 x 6000 dpi
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB 2.0
  • ถาดกระดาษ: 150 แผ่น
  • ปริมาณการพิมพ์: 7,500 แผ่น (ขาวดำ), 5,000 แผ่น (สี)
จุดเด่น
  • ความเร็วในการพิมพ์สูงมาก เหมาะกับงานเยอะ
  • ถาดกระดาษมาตรฐานจุได้ถึง 150 แผ่น
  • เชื่อมต่อไร้สายได้หลากหลายและเสถียร
  • คุณภาพงานพิมพ์ละเอียด คมชัด
  • แอปพลิเคชัน Brother iPrint&Scan ใช้งานง่าย
ข้อควรพิจารณา
  • ขนาดตัวเครื่องอาจจะใหญ่ไปสำหรับโต๊ะทำงานเล็กๆ
  • ไม่มีฟังก์ชันพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ

รีวิวแบบเจาะลึก

สำหรับคนที่ทำงานกับเอกสารเยอะๆ จะรู้ดีว่าเวลาทุกนาทีมีค่าแค่ไหน การที่ต้องมายืนรอเครื่องปริ้นทำงานช้าๆ อาจทำให้หงุดหงิดได้ แต่ปัญหานี้จะหมดไปกับ DCP-T520W ครับ ด้วยความเร็วที่โดดเด่นทำให้มันเป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ต้องการความรวดเร็วเป็นพิเศษ ถาดกระดาษที่จุได้ถึง 150 แผ่นก็เป็นอีกข้อดีที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันช่วยลดความถี่ในการเติมกระดาษลงไปได้เยอะ ทำให้เราทำงานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด การเชื่อมต่อไร้สายก็ทำได้ดีเยี่ยมครับ รองรับทั้ง Wi-Fi และ Wi-Fi Direct ทำให้ทีมงานในออฟฟิศสามารถสั่งพิมพ์งานจากอุปกรณ์ของตัวเองได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น โน้ตบุ๊ก หรือสมาร์ทโฟน ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี

นอกเหนือจากความเร็วแล้ว คุณภาพงานพิมพ์ของ Brother DCP-T520W ก็ไม่ธรรมดาครับ ด้วยความละเอียดสูงถึง 1200 x 6000 dpi ทำให้งานพิมพ์ออกมาสวยงามคมชัด ทั้งตัวอักษรและรูปภาพกราฟิกต่างๆ เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารที่ต้องการความเป็นมืออาชีพ การควบคุมเครื่องก็ทำได้ง่ายผ่านจอ LCD และปุ่มกดที่หน้าเครื่อง หรือจะจัดการผ่านแอป Brother iPrint&Scan ก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน แอปนี้ทำให้เราสามารถสแกนเอกสารแล้วส่งตรงไปยังอีเมลหรือ Cloud Storage ได้ทันที ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากในยุคดิจิทัลแบบนี้ โดยรวมแล้ว หากคุณให้ความสำคัญกับความเร็ว ประสิทธิภาพ และความสะดวกในการใช้งานร่วมกันในออฟฟิศขนาดเล็ก และกำลังถามตัวเองว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของคุณ Brother DCP-T520W คือคำตอบที่ใช่เลยครับ

คะแนนที่ได้

9.3/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ที่ร้านใช้รุ่นนี้อยู่ครับ พิมพ์บิลให้ลูกค้าเร็วมาก ไม่ต้องรอนานเลย ลูกค้าแฮปปี้ครับ” – คุณอาร์ม, อายุ 38
“ใช้ในออฟฟิศเล็กๆ เวิร์คมากค่ะ ทุกคนเชื่อมต่อจากมือถือได้เลย ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องสาย” – คุณจิ๊บ, อายุ 29


3. Canon PIXMA G3010 ★★★★☆

“งานภาพต้องยอม! พิมพ์รูปไร้ขอบสวยกริ๊บ สีสดใสเหมือนอัดจากร้าน ในราคาที่จับต้องได้”

Canon PIXMA G3010

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับสายคอนเทนต์ สายอาร์ต หรือใครก็ตามที่รักการพิมพ์รูปภาพและกำลังมองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะเนรมิตงานพิมพ์สีสวยๆ ได้ดั่งใจ Canon PIXMA G3010 คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ จุดขายหลักของรุ่นนี้คือคุณภาพงานพิมพ์สีที่โดดเด่น และความสามารถในการพิมพ์ภาพถ่ายแบบไร้ขอบ (Borderless Photo Printing) ได้ถึงขนาด A4 ทำให้เราสามารถพิมพ์โปสเตอร์, ปกรายงาน, หรืองานอาร์ตเวิร์คออกมาได้อย่างสวยงามเต็มแผ่น ไม่ต้องมานั่งตัดขอบให้เสียเวลา ระบบแท็งค์หมึกของ Canon ก็ออกแบบมาดีครับ แท็งค์หมึกถูกรวมเข้าไปในตัวเครื่องทำให้ดูเรียบร้อยไม่เกะกะ และขวดหมึกก็มีดีไซน์ปลายขวดที่ช่วยป้องกันการเติมสีผิดช่องได้เป็นอย่างดี

สเปกเด่น

  • ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
  • ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 4800 x 1200 dpi
  • ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 8.8 ipm (ขาวดำ) / 5.0 ipm (สี)
  • การพิมพ์ภาพไร้ขอบ: รองรับขนาด A4 / Letter / 4×6″ / 5×7″ / 8×10″
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, Access Point Mode, USB 2.0
  • หน้าจอ: LCD 1.2 นิ้ว
  • ปริมาณการพิมพ์: 6,000 แผ่น (ขาวดำ), 7,000 แผ่น (สี)
จุดเด่น
  • คุณภาพการพิมพ์ภาพถ่ายดีเยี่ยม สีสันสดใส
  • พิมพ์ภาพไร้ขอบได้หลากหลายขนาด
  • ระบบแท็งค์หมึกในตัว ดีไซน์สวยงาม
  • เชื่อมต่อได้ทั้ง Wi-Fi และ Access Point Mode
  • ราคาเข้าถึงง่ายสำหรับฟังก์ชันที่ได้
ข้อควรพิจารณา
  • ความเร็วในการพิมพ์ไม่สูงเท่ารุ่นอื่นในระดับเดียวกัน
  • หน้าจอ LCD มีขนาดเล็ก

รีวิวแบบเจาะลึก

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Canon PIXMA G3010 เป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี สำหรับคนรักงานภาพ คือระบบหมึกไฮบริดที่ใช้หมึกดำแบบ Pigment ทำให้ตัวอักษรคมชัด กันน้ำได้ในระดับหนึ่ง และใช้หมึกสีแบบ Dye-based ที่ให้สีสันสดใส ไล่โทนสีได้อย่างนุ่มนวล เหมาะกับการพิมพ์รูปภาพมากๆ ครับ เมื่อรวมกับความสามารถในการพิมพ์แบบไร้ขอบแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพถ่ายที่สวยงามเหมือนไปอัดมาจากร้านเลยทีเดียว การเชื่อมต่อไร้สายก็ทำได้หลากหลายครับ นอกจาก Wi-Fi และ Wi-Fi Direct แล้วยังมี Access Point Mode ที่ทำให้เครื่องปริ้นสามารถทำหน้าที่เป็นเหมือน เราเตอร์ ปล่อยสัญญาณให้มือถือเข้ามาเชื่อมต่อได้โดยตรง ซึ่งสะดวกมากๆ ในสถานการณ์ที่ไม่มีเครือข่าย Wi-Fi หลักให้ใช้งาน

การใช้งานผ่านแอป Canon PRINT Inkjet/SELPHY ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีครับ เราสามารถสั่งพิมพ์รูปภาพจากโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือ Instagram ได้โดยตรง หรือจะใช้ฟีเจอร์ Creative Park เพื่อดาวน์โหลดเทมเพลตสวยๆ มาสร้างสรรค์การ์ดหรือของตกแต่งต่างๆ ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน PosterArtist Lite ที่ช่วยให้ออกแบบโปสเตอร์หรือใบปลิวได้อย่างง่ายดาย แม้จะไม่มีพื้นฐานด้านกราฟิกดีไซน์มาก่อนก็ตาม แม้ว่าความเร็วในการพิมพ์อาจจะไม่ใช่จุดที่เร็วที่สุด แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลงานที่ได้ โดยเฉพาะงานพิมพ์สีและภาพถ่าย และกำลังมองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ผลงานชิ้นโปรดของคุณ Canon PIXMA G3010 คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและราคาได้อย่างลงตัวครับ

คะแนนที่ได้

8.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“พิมพ์สติกเกอร์ขายอยู่ค่ะ รุ่นนี้พิมพ์สีสวยมาก ไร้ขอบด้วย งานออกมาเนี๊ยบเลย” – น้องฝ้าย, อายุ 24
“ผมชอบเอามาพิมพ์รูปถ่ายจากทริปต่างๆ สีสดดีครับ ไม่ต้องไปร้านเลย ประหยัดไปเยอะ” – คุณนนท์, อายุ 33


4. Epson EcoTank L5290 ★★★★☆

“ครบเครื่องเรื่องงานออฟฟิศ! มีทั้ง ADF, แฟกซ์, Wi-Fi และพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ”

Epson EcoTank L5290

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

เมื่อการใช้งานในออฟฟิศหรือธุรกิจที่บ้านต้องการฟังก์ชันที่มากกว่าแค่การพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสาร คำถามที่ว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี จะต้องมองหาตัวเลือกที่มีความสามารถรอบด้านมากขึ้น และ Epson EcoTank L5290 ก็คือคำตอบนั้นครับ รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นศูนย์กลางงานเอกสารอย่างแท้จริง ด้วยการเพิ่มฟังก์ชันที่สำคัญสำหรับงานออฟฟิศเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ (ADF) ที่รองรับได้ถึง 30 แผ่น ทำให้การสแกนหรือถ่ายเอกสารจำนวนมากเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว และยังมีฟังก์ชันแฟกซ์ในตัวอีกด้วย ซึ่งยังคงมีความจำเป็นสำหรับธุรกิจบางประเภท

สเปกเด่น

  • ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy, Fax with ADF
  • ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 5760 x 1440 dpi
  • ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 10.0 ipm (ขาวดำ) / 5.0 ipm (สี)
  • ถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ (ADF): 30 แผ่น
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, Ethernet, USB 2.0
  • หน้าจอ: LCD สี ขนาด 1.44 นิ้ว
  • ปริมาณการพิมพ์: 4,500 แผ่น (ขาวดำ), 7,500 แผ่น (สี)
จุดเด่น
  • ฟังก์ชันครบครัน 4-in-1 (Print/Scan/Copy/Fax)
  • มี ADF ช่วยให้สแกนและถ่ายเอกสารจำนวนมากได้สะดวก
  • รองรับการเชื่อมต่อ Ethernet เพื่อความเสถียรในออฟฟิศ
  • ต้นทุนการพิมพ์ต่ำด้วยระบบ EcoTank
  • ควบคุมง่ายผ่านหน้าจอ LCD สี
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีฟังก์ชันพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ
  • ราคาสูงกว่ารุ่นพื้นฐาน

รีวิวแบบเจาะลึก

การมี ADF (Automatic Document Feeder) เปลี่ยนเกมการทำงานกับเอกสารไปอย่างสิ้นเชิงครับ จากที่ต้องคอยเปิดฝาสแกนเนอร์แล้ววางเอกสารทีละแผ่น เราสามารถวางเอกสารทั้งปึก (สูงสุด 30 แผ่น) ลงบนถาด ADF แล้วปล่อยให้เครื่องจัดการสแกนหรือถ่ายสำเนาให้เองโดยอัตโนมัติ มันช่วยประหยัดเวลาและทำให้เราสามารถไปทำงานอย่างอื่นต่อได้เลย นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ L5290 เป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี สำหรับสภาพแวดล้อมที่ต้องจัดการกับเอกสารกระดาษเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ การที่มันรองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต Ethernet (LAN) ยังเป็นข้อดีอย่างมากสำหรับออฟฟิศ เพราะให้ความเสถียรในการเชื่อมต่อที่สูงกว่า Wi-Fi เหมาะกับการใช้งานร่วมกันของพนักงานหลายๆ คน การมี คอมพิวเตอร์สเปกแรง ก็จะช่วยให้การประมวลผลไฟล์สแกนขนาดใหญ่รวดเร็วยิ่งขึ้นครับ

ในส่วนของการควบคุมและใช้งาน หน้าจอ LCD สีขนาด 1.44 นิ้ว ทำให้การตั้งค่าต่างๆ เช่น การส่งแฟกซ์, การเลือกโหมดถ่ายเอกสาร หรือการเชื่อมต่อเครือข่าย ทำได้ง่ายและเห็นภาพชัดเจนกว่าหน้าจอแบบขาวดำ แน่นอนว่ามันยังคงมาพร้อมกับระบบแท็งค์หมึก EcoTank ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และเทคโนโลยี Heat-Free ที่ช่วยประหยัดพลังงานเช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์เดียวกัน ถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะไม่มีฟังก์ชันพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ ซึ่งอาจจะเป็นข้อสังเกตเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับฟังก์ชันอื่นๆ ที่ให้มาอย่างครบครัน โดยเฉพาะ ADF และแฟกซ์ ก็ถือว่าเป็นเครื่องพิมพ์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจขนาดเล็กและโฮมออฟฟิศได้อย่างตรงจุดที่สุด หากคุณกำลังมองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เป็นมากกว่าเครื่องพิมพ์ แต่เป็นผู้ช่วยจัดการเอกสารรอบด้าน Epson L5290 คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้ามครับ

คะแนนที่ได้

8.7/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ที่ออฟฟิศใช้รุ่นนี้อยู่ค่ะ สแกนเอกสารบัญชีทีละปึกสบายมาก ไม่ต้องยืนเฝ้าเลย” – พี่ปุ้ย, อายุ 45 (ฝ่ายบัญชี)
“ฟังก์ชันแฟกซ์ยังจำเป็นสำหรับงานผมอยู่เลยครับ รุ่นนี้มีครบจบในเครื่องเดียว สะดวกดี” – คุณชาติ, อายุ 52 (ทนายความ)


5. Epson EcoTank L4260 ★★★★☆

“รักษ์โลก รักกระเป๋า! พิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ ดีไซน์สวยหรู ประหยัดทั้งหมึกทั้งกระดาษ”

Epson EcoTank L4260

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและต้องการลดการใช้กระดาษ หรือใครที่ต้องพิมพ์เอกสารสองหน้าบ่อยๆ และกำลังตั้งคำถามว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะมาช่วยแก้ปัญหานี้ Epson EcoTank L4260 คือฮีโร่ตัวจริงครับ จุดเด่นที่สุดของรุ่นนี้คือฟังก์ชันการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Auto Duplex Printing) ซึ่งช่วยให้เราประหยัดกระดาษได้ถึง 50% และยังช่วยให้เอกสารของเราดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นด้วย นอกจากฟังก์ชันเด็ดนี้แล้ว L4260 ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูพรีเมียมและทันสมัย ตัวเครื่องสีดำสนิทดูเรียบหรู เหมาะกับการวางในออฟฟิศหรือมุมทำงานที่ต้องการความสวยงามเป็นพิเศษ

สเปกเด่น

  • ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
  • การพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Auto Duplex): รองรับ
  • ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 5760 x 1440 dpi
  • ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 10.5 ipm (ขาวดำ) / 5.0 ipm (สี)
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB 2.0
  • หน้าจอ: LCD สี ขนาด 1.44 นิ้ว
  • ปริมาณการพิมพ์: 7,500 แผ่น (ขาวดำ), 6,000 แผ่น (สี)
จุดเด่น
  • มีฟังก์ชันพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ ช่วยประหยัดกระดาษ
  • ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม ทันสมัย
  • คุณภาพงานพิมพ์คมชัด เหมาะทั้งเอกสารและภาพสี
  • เชื่อมต่อไร้สายง่ายผ่าน Epson Smart Panel
  • ต้นทุนการพิมพ์ต่ำมาก
ข้อควรพิจารณา
  • ความเร็วในการพิมพ์สองหน้าจะช้ากว่าการพิมพ์หน้าเดียว
  • ไม่มีถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ (ADF)

รีวิวแบบเจาะลึก

ฟังก์ชัน Auto Duplex เป็นฟีเจอร์ที่เมื่อได้ลองใช้แล้วจะไม่อยากกลับไปใช้เครื่องที่ไม่มีอีกเลยครับ มันสะดวกสบายมากๆ สำหรับการพิมพ์รายงาน, E-book, หรือเอกสารสัญญาต่างๆ ที่มีหลายหน้า จากที่ต้องคอยหยิบกระดาษมาพลิกเองทีละแผ่น ซึ่งเสี่ยงต่อการใส่ผิดด้านและทำให้เสียกระดาษไปฟรีๆ L4260 จะจัดการให้เราทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ทำให้เราประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากร นี่คือเหตุผลที่ทำให้มันเป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี สำหรับคนที่ต้องการประสิทธิภาพและความประหยัดไปพร้อมๆ กัน การควบคุมเครื่องก็ทำได้ง่ายผ่านหน้าจอ LCD สีขนาด 1.44 นิ้ว ที่แสดงสถานะต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ทำให้การเลือกโหมดพิมพ์สองหน้า หรือการตั้งค่า Wi-Fi เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนเลยครับ

ในแง่ของการเชื่อมต่อ L4260 ก็จัดเต็มไม่แพ้ใครครับ รองรับทั้ง Wi-Fi และ Wi-Fi Direct ทำให้การสั่งพิมพ์จาก แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนเป็นไปอย่างราบรื่นผ่านแอป Epson Smart Panel ที่มีฟีเจอร์ให้ใช้งานอย่างครบครัน คุณภาพงานพิมพ์ก็ยังคงยอดเยี่ยมตามมาตรฐานของ Epson ด้วยความละเอียดสูงและเทคโนโลยี Heat-Free ที่ช่วยให้ได้งานพิมพ์ที่คมชัดและสีสันสดใส พร้อมทั้งประหยัดพลังงานไปในตัว แม้ว่ามันจะไม่มี ADF เหมือนรุ่น L5290 แต่สำหรับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ต้องการสแกนเอกสารจำนวนมากพร้อมๆ กัน แต่ให้ความสำคัญกับการประหยัดกระดาษและต้องการเครื่องพิมพ์ที่มีดีไซน์สวยงามทันสมัย L4260 ถือเป็นตัวเลือกที่ลงตัวและคุ้มค่ามากครับ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะช่วยให้คุณทำงานอย่างชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รุ่นนี้คือคำตอบครับ

คะแนนที่ได้

8.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ชอบมากค่ะที่พิมพ์สองหน้าเองได้ ประหยัดกระดาษไปเยอะเลย เวลาพิมพ์ชีทเรียนให้ลูก” – คุณแอน, อายุ 39
“ดีไซน์สวยดีครับ วางบนโต๊ะทำงานแล้วดูดีเลย พิมพ์งานก็เร็วใช้ได้เลยครับ” – คุณบอย, อายุ 31


6. HP DeskJet Ink Advantage 277 ★★★☆☆

“เริ่มต้นง่ายๆ ในราคาสบายกระเป๋า! เพื่อนคู่ใจสำหรับงานพิมพ์พื้นฐานในบ้าน”

HP DeskJet Ink Advantage 277

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่วงการทำงานที่บ้าน หรือมองหาเครื่องพิมพ์สำรองสำหรับงานพิมพ์เล็กๆ น้อยๆ และมีคำถามในใจว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่ราคาเป็นมิตรที่สุด HP DeskJet Ink Advantage 277 คือคำตอบที่น่าสนใจครับ รุ่นนี้มาในดีไซน์ที่เรียบง่าย กะทัดรัด สีขาวสะอาดตา วางตรงไหนของบ้านก็ดูดี ไม่กินพื้นที่ จุดเด่นคือการใช้งานที่ง่ายแสนง่ายผ่านแอปพลิเคชัน HP Smart ที่ทำให้เราสามารถสั่งพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสารได้โดยตรงจากสมาร์ทโฟน เป็นเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือครอบครัวที่ไม่ได้พิมพ์งานบ่อย แต่ต้องการเครื่องที่พร้อมใช้งานเสมอเมื่อต้องการ

สเปกเด่น

  • ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
  • ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 4800 x 1200 dpi (สี) / 1200 x 1200 dpi (ขาวดำ)
  • ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 7.5 ipm (ขาวดำ) / 5.5 ipm (สี)
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB 2.0
  • ตลับหมึก: HP 682 (ขาวดำ/สี)
  • รองรับ: HP Smart App, Apple AirPrint, Mopria
จุดเด่น
  • ราคาเริ่มต้นถูกมาก เหมาะกับผู้ใช้งานงบจำกัด
  • ตั้งค่าและใช้งานง่ายผ่านแอป HP Smart
  • ดีไซน์สวยงาม กะทัดรัด ประหยัดพื้นที่
  • รองรับการเชื่อมต่อไร้สายครบครัน
ข้อควรพิจารณา
  • ใช้ตลับหมึก ทำให้ต้นทุนต่อแผ่นสูงกว่าแบบแท็งค์
  • ความเร็วในการพิมพ์ค่อนข้างช้า
  • ไม่เหมาะกับการพิมพ์งานปริมาณมาก

รีวิวแบบเจาะลึก

แม้ว่า HP DeskJet Ink Advantage 277 จะเป็นเครื่องพิมพ์ระดับเริ่มต้น แต่เรื่องการเชื่อมต่อไร้สายนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นใหญ่ๆ เลยครับ การรองรับทั้ง Wi-Fi และ Wi-Fi Direct ทำให้มันเป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่ให้ความยืดหยุ่นสูงในราคาที่ใครๆ ก็เอื้อมถึง เราสามารถสั่งพิมพ์การบ้านของลูก, ตั๋วเครื่องบิน, หรือสูตรอาหารจากที่ไหนในบ้านก็ได้ผ่านแอป HP Smart ซึ่งเป็นแอปที่ใช้งานง่ายมากครับ หน้าตาแอปดูทันสมัย สามารถสแกนเอกสารโดยใช้กล้องมือถือแล้วสั่งพิมพ์ได้ทันที หรือจะตรวจสอบสถานะตลับหมึกก็ทำได้สะดวก แต่จุดที่ต้องพิจารณาคือรุ่นนี้ใช้ระบบตลับหมึก ไม่ใช่แบบแท็งค์ ซึ่งหมายความว่าเมื่อหมึกหมด เราต้องซื้อตลับใหม่มาเปลี่ยน ต้นทุนต่อแผ่นจึงสูงกว่าเครื่องพิมพ์ระบบแท็งค์อย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นมันจึงเหมาะกับคนที่พิมพ์ไม่บ่อย หรือพิมพ์ครั้งละไม่กี่แผ่นมากกว่าครับ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา สมาร์ทวอทช์ เพื่อสุขภาพ การมีเครื่องปริ้นไว้พิมพ์ตารางออกกำลังกายก็เป็นไอเดียที่ดีนะครับ

ในด้านคุณภาพงานพิมพ์ ถือว่าทำได้ดีสำหรับงานเอกสารทั่วไป ตัวหนังสือมีความคมชัด อ่านง่าย ส่วนงานพิมพ์สีก็ให้สีสันที่สดใสในระดับที่น่าพอใจสำหรับการใช้งานในบ้าน เช่น ทำรายงาน หรือพิมพ์กราฟิกง่ายๆ แต่คงไม่เหมาะกับงานพิมพ์ภาพถ่ายที่ต้องการความละเอียดสูงระดับมืออาชีพ ความเร็วในการพิมพ์อาจจะไม่ทันใจสำหรับคนที่ต้องการงานด่วน แต่ถ้าคุณไม่ได้รีบร้อนอะไร ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ครับ โดยสรุปแล้ว HP DeskJet Ink Advantage 277 เป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการพิมพ์ไร้สายในงบประมาณที่จำกัดที่สุด เหมาะเป็นเครื่องพิมพ์เครื่องแรกของบ้าน หรือสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการฟังก์ชันซับซ้อน ขอแค่พิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสารได้ในบางครั้งคราว รุ่นนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ

คะแนนที่ได้

7.9/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ซื้อมาติดบ้านไว้เผื่อพิมพ์งานด่วนค่ะ ตั้งค่าง่ายมาก ทำตามในแอปแป๊บเดียวก็เสร็จ” – คุณนุ่น, อายุ 28
“ราคาถูกดีครับ เหมาะกับคนพิมพ์น้อยๆ อย่างผม แค่ไว้สแกนเอกสารกับถ่ายสำเนาบัตรก็คุ้มแล้ว” – น้องเต้, อายุ 21


7. Canon PIXMA E4570 ★★★☆☆

“All-in-One สุดคุ้ม! มีแฟกซ์และ ADF ในตัว ตอบโจทย์โฮมออฟฟิศในงบประหยัด”

Canon PIXMA E4570

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

หากโฮมออฟฟิศของคุณยังมีความจำเป็นต้องใช้แฟกซ์ และต้องจัดการกับเอกสารหลายหน้าอยู่บ่อยๆ แต่มีงบประมาณจำกัด คำถามที่ว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี อาจจะดูเหมือนหาคำตอบยาก แต่ Canon PIXMA E4570 ถูกสร้างมาเพื่อสถานการณ์แบบนี้เลยครับ รุ่นนี้เป็นเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันแบบ 4-in-1 ที่มาพร้อมฟังก์ชัน พิมพ์, สแกน, ถ่ายเอกสาร และแฟกซ์ ครบจบในเครื่องเดียว แถมยังมีถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ (ADF) ที่รองรับได้ 20 แผ่น ช่วยให้การสแกนหรือส่งแฟกซ์เอกสารหลายๆ หน้าทำได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลามายืนป้อนทีละแผ่น ถือเป็นฟีเจอร์ที่หาได้ยากในเครื่องพิมพ์ราคาระดับนี้

สเปกเด่น

  • ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy, Fax
  • ถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติ (ADF): 20 แผ่น
  • การพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Auto Duplex): รองรับ
  • ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 8.8 ipm (ขาวดำ) / 4.4 ipm (สี)
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB 2.0
  • ตลับหมึก: PG-47 (ดำ), CL-57 (สี)
  • ฟีเจอร์พิเศษ: ID Card Copy, Auto Power ON/OFF
จุดเด่น
  • ฟังก์ชันครบ 4-in-1 พร้อมแฟกซ์และ ADF
  • รองรับการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ
  • ตลับหมึกราคาประหยัด พิมพ์ได้เยอะ
  • เชื่อมต่อไร้สายได้สะดวก
  • มีฟังก์ชัน ID Card Copy ที่ใช้งานง่าย
ข้อควรพิจารณา
  • ความเร็วในการพิมพ์ค่อนข้างช้า โดยเฉพาะงานสี
  • ใช้ระบบตลับหมึก ไม่ใช่แท็งค์
  • ดีไซน์อาจจะดูเทอะทะไปบ้าง

รีวิวแบบเจาะลึก

Canon PIXMA E4570 เป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เน้นความคุ้มค่าของฟังก์ชันการใช้งานอย่างแท้จริง การที่มีทั้ง ADF และ Auto Duplex ในเครื่องเดียวทำให้มันโดดเด่นกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันมากครับ ฟังก์ชันพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติช่วยประหยัดกระดาษได้มาก ส่วน ADF ก็ช่วยทุ่นแรงในการจัดการเอกสารได้อย่างมหาศาล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ ที่มีประโยชน์มากอย่าง ID Card Copy ที่ช่วยให้เราถ่ายสำเนาบัตรประชาชนทั้งด้านหน้าและด้านหลังลงบนกระดาษแผ่นเดียวได้อย่างง่ายดาย และฟังก์ชัน Auto Power ON/OFF ที่เครื่องจะเปิดเองเมื่อมีคำสั่งพิมพ์เข้ามาและปิดเองเมื่อไม่ใช้งาน ช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง การเชื่อมต่อก็ทำได้ง่ายผ่านแอป Canon PRINT Inkjet/SELPHY ที่ช่วยให้เราสั่งงานทุกอย่างได้จากบนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะสั่งพิมพ์จากคลาวด์ หรือสแกนเอกสารส่งเป็นอีเมล

ในส่วนของต้นทุนการพิมพ์ รุ่นนี้ใช้ตลับหมึกในซีรีส์ E ซึ่ง Canon ออกแบบมาให้เป็นตลับหมึกราคาประหยัด (Economy) ทำให้มีราคาถูกกว่าตลับหมึกปกติและพิมพ์ได้ในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะ (สีดำประมาณ 400 แผ่น, สีประมาณ 180 แผ่น) แม้ว่าต้นทุนต่อแผ่นอาจจะยังสูงกว่าระบบแท็งค์ แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลสำหรับผู้ที่ไม่ได้พิมพ์งานหนักมากแต่ต้องการฟังก์ชันที่ครบครันครับ คุณภาพงานพิมพ์ก็อยู่ในเกณฑ์ดีตามมาตรฐานของ Canon ตัวหนังสือคมชัดและสีสันสดใส เหมาะสำหรับงานเอกสารทางธุรกิจและรายงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น หากโฮมออฟฟิศของคุณกำลังมองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เป็นเหมือนศูนย์บัญชาการงานเอกสารในขนาดกะทัดรัดและราคาที่จับต้องได้ Canon PIXMA E4570 คือผู้เข้าแข่งขันที่น่ากลัวและตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอนครับ

คะแนนที่ได้

7.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ที่บ้านทำธุรกิจเล็กๆ ยังต้องใช้แฟกซ์อยู่เลยค่ะ รุ่นนี้มีครบหมดเลย สะดวกมาก ไม่ต้องซื้อหลายเครื่อง” – พี่กิ๊ก, อายุ 48
“ชอบตรงที่มันพิมพ์สองหน้าให้เอง กับสแกนเอกสารหลายๆ แผ่นได้นี่แหละครับ ประหยัดเวลาไปเยอะ” – คุณตั้ม, อายุ 36


8. Epson L3150 ★★★☆☆

“รุ่นยอดนิยมในตำนาน! พิสูจน์แล้วเรื่องความทนทานและประหยัด ใช้งานง่ายไม่จุกจิก”

Epson L3150

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

แม้ว่าจะมีรุ่นใหม่ออกมามากมาย แต่ Epson L3150 ก็ยังคงเป็นชื่อที่หลายคนนึกถึงเมื่อมีคนถามว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่คุ้มค่าและไว้ใจได้ รุ่นนี้เปรียบเสมือนรุ่นพี่ใหญ่ที่ปูทางความสำเร็จให้กับเครื่องพิมพ์ EcoTank ในปัจจุบัน ด้วยชื่อเสียงด้านความทนทาน การใช้งานที่ไม่จุกจิก และความประหยัดของระบบแท็งค์หมึกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทำให้ L3150 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาเครื่องพิมพ์ที่ผ่านการพิสูจน์จากผู้ใช้งานจริงมาแล้วนับไม่ถ้วน มันคือเครื่องพิมพ์ All-in-One ที่ทำหน้าที่พื้นฐานอย่างการพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสารได้อย่างไม่มีที่ติ

สเปกเด่น

  • ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
  • ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 5760 x 1440 dpi
  • ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 10.0 ipm (ขาวดำ) / 5.0 ipm (สี)
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB 2.0
  • ระบบหมึก: EcoTank แบบแท็งค์ด้านหน้า
  • การพิมพ์ภาพไร้ขอบ: รองรับขนาด 4R
  • ปริมาณการพิมพ์: 4,500 แผ่น (ขาวดำ), 7,500 แผ่น (สี)
จุดเด่น
  • เป็นรุ่นที่ได้รับการยอมรับเรื่องความทนทาน
  • ประหยัดค่าหมึกมากด้วยระบบ EcoTank
  • คุณภาพงานพิมพ์ดีเยี่ยม คมชัด
  • เชื่อมต่อ Wi-Fi และ Wi-Fi Direct ได้
  • ดีไซน์กะทัดรัด ประหยัดพื้นที่
ข้อควรพิจารณา
  • เป็นโมเดลที่ออกมานานแล้ว
  • ไม่มีหน้าจอ LCD สำหรับควบคุม
  • ไม่มีฟังก์ชันพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ

รีวิวแบบเจาะลึก

เสน่ห์ของ Epson L3150 อยู่ที่ความเรียบง่ายและเชื่อถือได้ มันอาจจะไม่มีฟีเจอร์หวือหวาเหมือนรุ่นใหม่ๆ เช่น ไม่มีหน้าจอ LCD หรือไม่มี Auto Duplex แต่สิ่งที่มันมอบให้คือความสบายใจในการใช้งานครับ ระบบแท็งค์หมึก EcoTank ของมันถูกออกแบบมาให้เติมง่ายและมีระบบป้องกันการหกเลอะเทอะ ทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถดูแลรักษาเครื่องได้ด้วยตัวเอง คุณภาพงานพิมพ์ก็ยังคงยอดเยี่ยมด้วยความละเอียดสูงถึง 5760 dpi ทำให้งานพิมพ์ออกมาสวยงามคมชัด ทั้งเอกสารและภาพถ่าย (รองรับการพิมพ์ไร้ขอบขนาด 4R) การเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Wi-Fi และ Wi-Fi Direct ก็ทำให้มันเป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่ยังคงทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เราสามารถสั่งพิมพ์งานจากที่ไหนในบ้านก็ได้ผ่านแอป Epson iPrint ซึ่งเป็นแอปที่ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชันที่จำเป็นครบถ้วน

L3150 เป็นเหมือนรถยนต์รุ่นยอดนิยมที่แม้จะตกรุ่นไปแล้ว แต่ก็ยังหาอะไหล่ง่ายและมีช่างที่ซ่อมเป็นอยู่ทั่วไป ด้วยความที่มันเป็นที่นิยมอย่างสูง ทำให้เราสามารถหาข้อมูลการแก้ปัญหาต่างๆ ได้ง่ายบนอินเทอร์เน็ต และหมึกพิมพ์ก็หาซื้อได้สะดวกแทบทุกร้านที่ขายอุปกรณ์ไอที การเลือก L3150 จึงเหมือนกับการลงทุนในความแน่นอน มันอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ทันสมัยที่สุด แต่เป็นตัวเลือกที่ “ปลอดภัย” ที่สุดสำหรับคนที่ไม่ต้องการความเสี่ยงและอยากได้เครื่องพิมพ์ที่ใช้งานไปได้นานๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาจุกจิกกวนใจ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับความทนทานและความคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่าฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด และกำลังมองหา เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่เป็นเหมือนเพื่อนเก่าที่ไว้ใจได้ Epson L3150 ก็ยังคงเป็นคำตอบที่ดีเสมอครับ

คะแนนที่ได้

7.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใช้รุ่นนี้มา 3 ปีแล้วค่ะ ยังไม่เคยงอแงเลย ทนมากจริงๆ เติมหมึกไปแค่ไม่กี่ครั้งเอง” – พี่ฝน, อายุ 38
“เพื่อนแนะนำรุ่นนี้มา บอกว่ามันทนดี ก็เลยซื้อตาม ไม่ผิดหวังครับ ใช้งานง่ายดี” – คุณวิน, อายุ 30


9. HP DeskJet Ink Advantage 2337 ★★★☆☆

“ทางเลือกสุดประหยัด! All-in-One พื้นฐานสำหรับคนเน้นใช้งานผ่านสาย USB”

HP DeskJet Ink Advantage 2337

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาถึงตัวเลือกที่เรียกได้ว่าเน้นความประหยัดแบบสุดๆ กันบ้างครับกับ HP DeskJet Ink Advantage 2337 แม้ว่าบทความนี้เราจะเน้นเรื่อง เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี แต่เราก็ขอหยิบยกรุ่นนี้เข้ามาเป็นกรณีพิเศษสำหรับผู้ที่มีงบจำกัดจริงๆ และไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อไร้สายมากนัก รุ่นนี้เป็นเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันแบบ All-in-One ที่สามารถ พิมพ์, สแกน และถ่ายเอกสารได้ โดยเน้นการเชื่อมต่อผ่านสาย USB เป็นหลัก ซึ่งให้ความเสถียรและไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้วุ่นวาย แค่เสียบสายเข้ากับ คอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุ๊กแล้วลงไดรเวอร์ก็พร้อมใช้งานได้ทันที

สเปกเด่น

  • ฟังก์ชัน: Print, Scan, Copy
  • การเชื่อมต่อหลัก: High-speed USB 2.0
  • ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 4800 x 1200 dpi (สี) / 1200 x 1200 dpi (ขาวดำ)
  • ความเร็วในการพิมพ์ (ISO): 7.5 ipm (ขาวดำ) / 5.5 ipm (สี)
  • ตลับหมึก: HP 682 (ขาวดำ/สี)
  • ขนาด: กะทัดรัดมาก ประหยัดพื้นที่
จุดเด่น
  • ราคาเครื่องถูกที่สุดในบรรดา All-in-One
  • ติดตั้งง่ายมาก แค่เสียบสาย USB
  • ขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก
  • ฟังก์ชันพื้นฐานครบสำหรับการใช้งานในบ้าน
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีการเชื่อมต่อ Wi-Fi
  • ต้นทุนต่อแผ่นสูงเพราะใช้ตลับหมึก
  • ความเร็วในการพิมพ์ไม่สูง
  • วัสดุตัวเครื่องอาจไม่ทนทานเท่ารุ่นราคาสูง

รีวิวแบบเจาะลึก

HP DeskJet Ink Advantage 2337 คือเครื่องพิมพ์ที่ยึดหลัก “Simple is the best” มันตัดทอนฟีเจอร์ที่ซับซ้อนออกไป เหลือไว้เพียงสิ่งที่จำเป็นจริงๆ สำหรับการใช้งานในบ้าน ทำให้มันมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายมาก เหมาะสำหรับเป็นเครื่องพิมพ์เครื่องแรกของน้องๆ นักเรียนที่ต้องใช้ทำรายงาน หรือสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการเครื่องถ่ายเอกสารที่ไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก การที่มันเชื่อมต่อผ่านสาย USB เท่านั้นก็มีข้อดีในแง่ของความเสถียร เราไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญาณ Wi-Fi จะหลุด หรือมีปัญหาในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายเลยครับ คุณภาพงานพิมพ์ก็ถือว่าทำได้ดีเกินราคาครับ งานเอกสารมีความคมชัด ส่วนงานพิมพ์สีก็ให้สีสันที่สดใสเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป

แน่นอนว่าด้วยราคาที่ประหยัด ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนครับ สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือการไม่มี Wi-Fi ซึ่งทำให้เราไม่สามารถสั่งพิมพ์งานจากมือถือหรือแท็บเล็ตได้โดยตรง ต้องทำผ่านคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อสายอยู่เท่านั้น และการใช้ตลับหมึกก็ทำให้มีต้นทุนต่อแผ่นที่สูงกว่าระบบแท็งค์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเครื่องนี้จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องพิมพ์งานเป็นประจำหรือพิมพ์ครั้งละจำนวนมากๆ ครับ อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นคนที่นานๆ จะพิมพ์งานที แต่ต้องการมีเครื่อง All-in-One ติดบ้านไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน และให้ความสำคัญกับราคาเครื่องเป็นอันดับแรก HP DeskJet Ink Advantage 2337 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปทุกบาททุกสตางค์ครับ

คะแนนที่ได้

7.2/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ซื้อให้แม่ใช้ถ่ายเอกสารกับสแกนบัตรค่ะใช้ง่ายดี แม่ชอบที่ไม่ต้องตั้งค่าอะไรเยอะ” – คุณปลา, อายุ 34
“ถูกและดีครับ ผมใช้แค่พิมพ์รายงานไม่กี่แผ่นต่อเดือน รุ่นนี้พอเลย” – น้องนนท์, อายุ 19


10. Brother HL-L2365DW ★★★☆☆

“ราชาแห่งความเร็ว! พิมพ์ขาวดำดุจพายุ พิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ เพื่อนแท้ชาวออฟฟิศ”

Brother HL-L2365DW

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ปิดท้ายลิสต์ เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี กันด้วยตัวเลือกเดียวที่เป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์ในบทความนี้ Brother HL-L2365DW ครับ รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวที่ชัดเจน นั่นคือ “การพิมพ์เอกสารขาวดำปริมาณมากด้วยความเร็วสูงสุด” เหมาะสำหรับออฟฟิศ, สำนักงาน, หรือนักศึกษาที่ต้องพิมพ์เอกสารที่เป็นตัวหนังสือเยอะๆ เป็นประจำ ด้วยความเร็วในการพิมพ์ที่สูงถึง 30 แผ่นต่อนาที (ppm) ทำให้คุณสามารถพิมพ์รายงานหนาเป็นร้อยหน้าได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น และที่สำคัญคือมันมาพร้อมฟังก์ชันพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Auto Duplex) ที่ช่วยประหยัดกระดาษและทำให้งานของคุณดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

สเปกเด่น

  • ประเภท: Monochrome Laser Printer (เลเซอร์ขาวดำ)
  • ฟังก์ชัน: Print (พิมพ์อย่างเดียว)
  • ความเร็วในการพิมพ์: สูงสุด 30 แผ่นต่อนาที
  • การพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Auto Duplex): รองรับ
  • ความละเอียดการพิมพ์สูงสุด: 2400 x 600 dpi
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Wi-Fi Direct, Ethernet, USB 2.0
  • ถาดกระดาษ: 250 แผ่น
จุดเด่น
  • ความเร็วในการพิมพ์สูงมาก (30 ppm)
  • ต้นทุนต่อแผ่นต่ำมากสำหรับงานขาวดำ
  • มีฟังก์ชันพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ
  • รองรับการเชื่อมต่อครบทั้ง Wi-Fi และ LAN
  • ถาดกระดาษใหญ่ ไม่ต้องเติมบ่อย
ข้อควรพิจารณา
  • พิมพ์สีไม่ได้
  • ไม่สามารถสแกนหรือถ่ายเอกสารได้
  • ขนาดเครื่องค่อนข้างใหญ่และมีน้ำหนัก
  • อาจมีเสียงดังขณะทำงาน

รีวิวแบบเจาะลึก

หัวใจของ Brother HL-L2365DW คือประสิทธิภาพในการพิมพ์เอกสารครับ การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ทำให้หมึกพิมพ์ (โทนเนอร์) แห้งทันทีที่พิมพ์ออกมา ไม่ต้องกังวลเรื่องหมึกซึมหรือเลอะเทอะ และตัวหนังสือที่ได้ก็จะมีความคมกริบเป็นพิเศษ แม้จะเป็นตัวอักษรขนาดเล็กก็ตาม ต้นทุนต่อแผ่นของเครื่องพิมพ์เลเซอร์สำหรับงานขาวดำนั้นต่ำกว่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทอย่างเห็นได้ชัด โทนเนอร์หนึ่งตลับสามารถพิมพ์ได้ถึง 2,600 แผ่น ทำให้มันเป็น เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่คุ้มค่าที่สุดในระยะยาวสำหรับผู้ที่พิมพ์แต่เอกสารขาวดำครับ การเชื่อมต่อก็ครบครันสมกับเป็นเครื่องพิมพ์สำหรับออฟฟิศ มีทั้งพอร์ต Ethernet (LAN) สำหรับการเชื่อมต่อที่เสถียรในเครือข่ายสำนักงาน และมี Wi-Fi กับ Wi-Fi Direct สำหรับเพิ่มความสะดวกในการสั่งพิมพ์จากอุปกรณ์พกพาต่างๆ เช่น แท็บเล็ต

ถาดกระดาษที่จุได้ถึง 250 แผ่นก็เป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ช่วยลดภาระในการทำงาน ไม่ต้องคอยลุกไปเติมกระดาษบ่อยๆ ทำให้การทำงานลื่นไหลไม่ติดขัด แม้ว่ามันจะเป็นเครื่องพิมพ์ที่ทำหน้าที่ได้เพียงอย่างเดียว (พิมพ์ขาวดำ) และไม่สามารถสแกนหรือพิมพ์สีได้ แต่มันก็ทำหน้าที่นั้นได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด หากสภาพแวดล้อมการทำงานของคุณมีการพิมพ์เอกสารเป็นหัวใจหลัก และต้องการความเร็ว ความประหยัด และความน่าเชื่อถือ การมี HL-L2365DW เป็นเครื่องพิมพ์หลักสำหรับงานเอกสาร และอาจจะมีเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทสีราคาประหยัดอีกเครื่องสำหรับงานพิมพ์สี ก็ถือเป็นการจัดสรรทรัพยากรที่ชาญฉลาดมากครับ ดังนั้น ถ้าคำถามของคุณคือ เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี สำหรับงานพิมพ์ขาวดำโดยเฉพาะ Brother HL-L2365DW คือคำตอบสุดท้ายที่ไม่มีใครเทียบได้ในเรื่องความเร็วและประสิทธิภาพครับ

คะแนนที่ได้

7.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เร็วสะใจมากครับ ที่ออฟฟิศพิมพ์บิลวันละเป็นร้อยๆ ใบ รุ่นนี้เอาอยู่สบาย” – คุณบอย, อายุ 41
“ผมเรียนกฎหมายต้องพิมพ์เอกสารอ่านเยอะมาก รุ่นนี้พิมพ์สองหน้าให้เอง ประหยัดค่ากระดาษไปได้เยอะเลยครับ” – น้องมาร์ค, อายุ 22


มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ: เบื้องหลังคำว่า “เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี”

ในวงการเทคโนโลยีการพิมพ์ คำถามที่ว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ไม่ได้มีคำตอบที่ตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับเทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี จากข้อมูลของ Rtings.com และ TechRadar ซึ่งเป็นเว็บไซต์รีวิวอุปกรณ์ไอทีชั้นนำระดับโลก ได้สรุปเทรนด์ที่น่าสนใจไว้ดังนี้ครับ

“ผู้ใช้งานในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่เครื่องพิมพ์ที่พิมพ์ได้ แต่ต้องการ ‘โซลูชันงานเอกสาร’ ที่ครบวงจรและเชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลได้อย่างราบรื่น การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi กลายเป็นมาตรฐานขั้นต่ำ แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างคือความฉลาดของซอฟต์แวร์, ต้นทุนการเป็นเจ้าของในระยะยาว (Total Cost of Ownership), และความง่ายในการใช้งานผ่านอุปกรณ์พกพา”

ผู้เชี่ยวชาญได้ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคควรพิจารณาให้ลึกซึ้งกว่าแค่สเปกบนกระดาษ:

1. ระบบนิเวศของแอปพลิเคชัน (App Ecosystem)

แอปพลิเคชันบนมือถือไม่ใช่แค่ของแถมอีกต่อไป แต่มันคือศูนย์กลางการควบคุมเครื่องพิมพ์ในยุคนี้ แอปอย่าง Epson Smart Panel, HP Smart, หรือ Brother Mobile Connect ไม่ได้ทำได้แค่สั่งพิมพ์ แต่ยังสามารถสแกนเอกสารด้วยกล้องมือถือ, จัดการไฟล์บนคลาวด์, ตรวจสอบและสั่งซื้อหมึก, ไปจนถึงการวินิจฉัยและแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง ประสบการณ์การใช้งานแอปที่ดีและลื่นไหลจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี มีความน่าใช้แตกต่างกัน

2. ต้นทุนแฝงและค่าบำรุงรักษา

ราคาเครื่องที่ถูกในตอนแรกอาจไม่ได้หมายความว่าจะประหยัดเสมอไป ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำให้ดูที่ “ต้นทุนต่อแผ่น” ซึ่งเครื่องพิมพ์ระบบแท็งค์ (Ink Tank) อย่าง Epson EcoTank หรือ Brother InkBenefit Plus มักจะให้ความคุ้มค่าในระยะยาวที่สูงกว่าระบบตลับหมึก (Cartridge) อย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงอายุการใช้งานของชิ้นส่วนสิ้นเปลืองอื่นๆ เช่น แผ่นซับหมึก (Maintenance Box) ซึ่งบางรุ่นผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเองได้ง่ายๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการส่งเครื่องเข้าศูนย์บริการได้

3. ความยั่งยืนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เทรนด์รักษ์โลกกำลังเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจเลือกซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เครื่องพิมพ์ก็เช่นกัน เทคโนโลยีอย่าง Epson Heat-Free ที่ไม่ใช้ความร้อนในการพิมพ์ช่วยประหยัดพลังงานได้มาก หรือฟังก์ชัน Auto Duplex ที่ช่วยลดการใช้กระดาษ ก็เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญ การเลือก เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่มีฟีเจอร์เหล่านี้จึงไม่เพียงแต่ดีต่อกระเป๋าเงิน แต่ยังดีต่อโลกอีกด้วย

บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS

“จากการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด ทีมงานของเรามองว่าการเลือก เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ในปี 2025 คือการหาจุดสมดุลที่ลงตัวระหว่าง ‘ราคาเริ่มต้น’, ‘ต้นทุนระยะยาว’, และ ‘ความสะดวกสบายในการใช้งาน’ เครื่องพิมพ์ระบบแท็งค์ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นผู้ชนะในด้านความคุ้มค่า ในขณะที่การเชื่อมต่อไร้สายที่เสถียรและแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่ายคือหัวใจของประสบการณ์ที่ดี ดังนั้น แทนที่จะถามว่ารุ่นไหนดีที่สุด อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นคำถามที่ว่า ‘ไลฟ์สไตล์การพิมพ์ของเราเหมาะกับเครื่องแบบไหนที่สุด’ มากกว่าครับ”


เคล็ดลับการเลือกซื้อให้ได้เครื่องปริ้น WiFi ที่ใช่และคุ้มค่าที่สุด

ภาพประกอบหัวข้อเคล็ดลับการเลือกซื้อเกี่ยวกับเครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี โดยไม่มีตัวหนังสือในภาพ

การเลือกซื้อเครื่องปริ้นสักเครื่องอาจจะดูน่าปวดหัว แต่ถ้าเรามีเช็คลิสต์ในใจก็จะง่ายขึ้นเยอะเลยครับ นี่คือเคล็ดลับจากเราที่จะช่วยให้คุณตอบคำถาม เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ได้อย่างมั่นใจ

  1. ประเมินปริมาณการพิมพ์ของคุณ: นี่คือข้อที่สำคัญที่สุดครับ ถ้าคุณพิมพ์งานแทบทุกวัน หรือพิมพ์ครั้งละเยอะๆ การลงทุนกับเครื่องพิมพ์ระบบแท็งค์คือคำตอบที่ใช่ที่สุด เพราะต้นทุนต่อแผ่นถูกกว่ากันเยอะมาก แต่ถ้าคุณนานๆ พิมพ์ที การเลือกเครื่องพิมพ์ระบบตลับหมึกที่มีราคาเริ่มต้นถูกกว่าก็อาจจะเพียงพอครับ
  2. ต้องการแค่พิมพ์ หรือครบเครื่อง?: คุณต้องการแค่พิมพ์เอกสารอย่างเดียว หรือต้องการฟังก์ชันสแกนและถ่ายเอกสารด้วย? เครื่องพิมพ์แบบ All-in-One จะให้ความสะดวกสบายมากกว่า แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าต้องการแค่พิมพ์อย่างเดียว การเลือกเครื่องพิมพ์แบบ Single Function ก็จะช่วยประหยัดงบและได้เครื่องที่ขนาดเล็กกว่า
  3. ขาวดำ หรือต้องมีสี?: หากเอกสารส่วนใหญ่ของคุณเป็นแค่ตัวหนังสือ เช่น เอกสารทางกฎหมาย, บัญชี, หรือชีทเรียน การเลือกเครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำอย่าง Brother HL-L2365DW จะให้ความเร็วและความประหยัดที่เหนือกว่า แต่ถ้างานของคุณต้องมีกราฟิก, รูปภาพ, หรือแผนภูมิสีสันสดใส เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทคือคำตอบเดียวครับ
  4. เช็คฟังก์ชันเสริมที่จำเป็น: คุณต้องพิมพ์เอกสารสองหน้าบ่อยแค่ไหน? ถ้าบ่อย ฟังก์ชัน Auto Duplex จะช่วยชีวิตคุณได้มาก คุณต้องสแกนเอกสารทีละหลายๆแผ่นหรือไม่? ถ้าใช่ การมี ADF คือสิ่งจำเป็น หรือคุณยังต้องใช้แฟกซ์อยู่หรือเปล่า? ฟังก์ชันเหล่านี้คือตัวตัดสินที่จะช่วยให้คุณเลือกรุ่นที่ใช่ได้ง่ายขึ้น
  5. อย่าลืมดูเรื่องการเชื่อมต่อ: นอกจาก Wi-Fi แล้ว การมี Wi-Fi Direct จะเพิ่มความสะดวกอย่างมากเมื่อต้องการให้เพื่อนหรือแขกพิมพ์งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายหลักของเรา และถ้าจะใช้งานในออฟฟิศ การมีพอร์ต Ethernet (LAN) ก็จะให้ความเสถียรที่มากกว่าครับ
  6. อ่านรีวิวและดูวิดีโอสาธิต: ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้าย ลองใช้เวลาดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริง หรือวิดีโอสาธิตการใช้งานบน YouTube จะช่วยให้คุณเห็นภาพการทำงานจริงของเครื่องรุ่นนั้นๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ

การดูแลรักษาเครื่องปริ้น WiFi เพื่อยืดอายุการใช้งาน

ซื้อ เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี มาแล้ว ก็ต้องดูแลกันหน่อยเพื่อให้อยู่กับเราไปนานๆ ครับ การดูแลรักษาเครื่องปริ้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพงานพิมพ์ให้ดีเหมือนใหม่ได้แล้วครับ

  • ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ: สำหรับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท การเปิดใช้งานและพิมพ์งานบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง (อาจจะเป็นแค่หน้าทดสอบก็ได้) จะช่วยป้องกันปัญหาหมึกแห้งและหัวพิมพ์อุดตันได้ดีที่สุดครับ
  • ใช้ฟังก์ชันทำความสะอาดหัวพิมพ์: เครื่องพิมพ์ส่วนใหญ่จะมีฟังก์ชัน “Head Cleaning” หรือ “Printhead Cleaning” อยู่ในซอฟต์แวร์ หากรู้สึกว่างานพิมพ์เริ่มมีเส้นขาดๆ หรือสีเพี้ยน ลองใช้ฟังก์ชันนี้ดูก่อน ซึ่งมักจะช่วยแก้ปัญหาได้ครับ
  • เลือกใช้หมึกแท้: แม้ว่าหมึกเทียบเท่าจะมีราคาถูกกว่า แต่หมึกแท้จากผู้ผลิตจะถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับหัวพิมพ์ของรุ่นนั้นๆ ได้ดีที่สุด ช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาหัวพิมพ์อุดตันและยังคงคุณภาพสีที่ถูกต้องแม่นยำ แถมยังไม่ทำให้ประกันเครื่องขาดอีกด้วย
  • อัปเดตเฟิร์มแวร์เสมอ: ผู้ผลิตมักจะปล่อยอัปเดตเฟิร์มแวร์ (Firmware) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน, แก้ไขข้อบกพร่อง, หรือเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ควรเช็คและอัปเดตเฟิร์มแวร์ของเครื่องพิมพ์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอครับ
  • วางในที่ที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการวางเครื่องพิมพ์ในบริเวณที่มีแดดส่องโดยตรง, มีฝุ่นเยอะ, หรือมีความชื้นสูง เพราะปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อทั้งตัวเครื่องและคุณภาพของกระดาษได้ครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี พร้อมโน้ตบุ๊กแสดงคำว่า FAQ และเอกสารแผนภูมิที่กำลังพิมพ์ออกมา

เราได้รวบรวมคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับ เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี มาตอบให้หายข้องใจกันตรงนี้เลยครับ

ถาม: เครื่องปริ้นอิงค์เจ็ทกับเลเซอร์ แบบไหนดีกว่ากัน?
ตอบ: ไม่มีแบบไหนดีกว่าอย่างสมบูรณ์ครับ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ถ้าคุณเน้นพิมพ์รูปภาพหรืองานที่ต้องการสีสันสดใส อิงค์เจ็ทจะตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าคุณพิมพ์เอกสารขาวดำเป็นหลักและต้องการความเร็วกับต้นทุนต่อแผ่นที่ต่ำ เลเซอร์คือผู้ชนะครับ

ถาม: Wi-Fi Direct คืออะไร จำเป็นต้องมีไหม?
ตอบ: Wi-Fi Direct คือเทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องพิมพ์สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น (เช่น มือถือ, แท็บเล็ต) ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านเราเตอร์ Wi-Fi ครับ มันมีประโยชน์มากเวลาที่เราต้องการพิมพ์งานด่วนนอกสถานที่ หรือต้องการให้เพื่อนพิมพ์งานโดยไม่ต้องให้รหัสผ่าน Wi-Fi ของเรา ถือเป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกสบายได้อย่างมากครับ

ถาม: ถ้าไม่ได้ใช้งานนานๆ ควรจัดการกับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทอย่างไร?
ตอบ: ทางที่ดีที่สุดคือพยายามเปิดเครื่องและสั่งพิมพ์งานทดสอบ (Nozzle Check) อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อป้องกันหัวพิมพ์อุดตัน แต่หากจำเป็นต้องทิ้งไว้เป็นเวลานานจริงๆ ควรปิดเครื่องตามขั้นตอนปกติและถอดปลั๊กออก ไม่ควรปล่อยให้เสียบปลั๊กทิ้งไว้ครับ

ถาม: ทำไมเครื่องปริ้นเชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ได้ ควรทำอย่างไรเบื้องต้น?
ตอบ: ลองเริ่มจากการรีสตาร์ททั้งเครื่องพิมพ์และเราเตอร์ Wi-Fi ของคุณดูก่อนครับ จากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องพิมพ์และคอมพิวเตอร์/มือถือของคุณเชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย Wi-Fi วงเดียวกัน (ชื่อ Wi-Fi เดียวกัน) หากยังไม่ได้ ลองลบการตั้งค่าเครือข่ายเก่าในเครื่องพิมพ์แล้วทำการเชื่อมต่อใหม่อีกครั้งครับ


บทสรุปส่งท้าย: เลือกเครื่องปริ้น WiFi ที่ใช่สำหรับคุณ

มาถึงตรงนี้ ผมหวังว่าเพื่อนๆ น่าจะได้คำตอบในใจกันแล้วนะครับว่า เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นผู้ช่วยคนใหม่ในบ้านหรือออฟฟิศของคุณ การเลือกซื้อเครื่องพิมพ์ในปัจจุบันไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิดครับ หัวใจสำคัญคือการทำความเข้าใจความต้องการของตัวเองก่อน ว่าเราเน้นพิมพ์อะไร, พิมพ์บ่อยแค่ไหน, และต้องการฟังก์ชันเสริมอะไรบ้าง

หากคุณมองหาความคุ้มค่ารอบด้าน พิมพ์เยอะ ประหยัดหมึก และใช้งานง่าย Epson EcoTank L3250 คือตัวเลือกอันดับหนึ่งที่น่าลงทุน ถ้าคุณต้องการความเร็วเป็นพิเศษสำหรับงานออฟฟิศ Brother DCP-T520W ก็พร้อมจะตอบสนองคุณได้ทันที หรือถ้าคุณเป็นสายอาร์ตที่รักการพิมพ์ภาพถ่ายสวยๆ Canon PIXMA G3010 ก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง และสำหรับงานเอกสารขาวดำล้วนๆ ที่ต้องการความเร็วและต้นทุนต่ำสุดๆ ก็ต้องยกให้ Brother HL-L2365DW ครับ

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือก เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี การลงทุนกับเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ชีวิตและการทำงานของคุณง่ายขึ้นอีกเยอะครับ ขอให้สนุกกับการพิมพ์นะครับ!

เครื่องปริ้น WiFi รุ่นไหนดี พร้อมตะกร้าช้อปปิ้งและกล่องสินค้า บนโต๊ะไม้กับโน้ตบุ๊ก


หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • รายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติ, ราคา, และโปรโมชันของสินค้า อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากหน้าเว็บไซต์ของผู้จำหน่ายหรือแบรนด์โดยตรงอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ
  • คะแนน (เช่น 9.5/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากข้อมูลสเปก, ฟีเจอร์, ราคา ณ วันที่รีวิว, ความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง และประสบการณ์การใช้งานของผู้เขียน เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจเท่านั้น
  • รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “คุณแม่หน่อย, อายุ 42”) เป็นตัวอย่างความคิดเห็นที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานในบริบทต่างๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลและจัดอันดับจากรุ่นที่เป็นที่นิยมและน่าสนใจในช่วงเวลานี้ คุณสมบัติหรือราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลาครับ
  • การเลือกใช้หมึกพิมพ์ ควรเลือกใช้หมึกแท้จากผู้ผลิตเพื่อคุณภาพงานพิมพ์ที่ดีที่สุดและเพื่อรักษาสิทธิ์ในการรับประกันสินค้าครับ
เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ขอบพระคุณครับ