รีวิว Marshall Middleton II: ลำโพงพกพาสุดโหด! สำหรับชาวร็อก

ลำโพง Marshall Middleton II วางอยู่บนพื้นหิน ท่ามกลางบรรยากาศเอาท์ดอร์ – รีวิว Marshall Middleton II

โย่ว! สวัสดีครับชาวร็อกและเหล่าคนรักเสียงเพลงที่ชีวิตขาดเสียงดนตรีไม่ได้! วันนี้ผมมีของเล่นชิ้นใหม่ที่บอกเลยว่าแค่เห็นก็ใจสั่นมานำเสนอครับ มันคือลำโพงพกพาที่เรียกตัวเองว่าเป็น “King of portable speakers” อย่างแท้ทรู! ขอเชิญพบกับ Marshall Middleton II ลำโพงที่เกิดมาเพื่อลุย! ไม่ว่าคุณจะไปตั้งแคมป์ริมทะเล, จัดปาร์ตี้บาร์บีคิวหลังบ้าน, หรือแค่ต้องการเสียงเพลงกระหึ่มๆ ในห้องนั่งเล่น เจ้าตัวนี้พร้อมตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ครับ

แต่เดี๋ยวก่อน! ด้วยค่าตัวที่ไม่ได้มาเล่นๆ คำถามสำคัญคือ…มันเจ๋งจริงสมคำคุยแค่ไหน? เสียงจะโหดเหมือนหน้าตารึเปล่า? แบตจะอึดจริงมั้ย? และเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด มันจะยืนหนึ่งได้หรือไม่? บทความ รีวิว Marshall Middleton II ฉบับนี้จะพาคุณไปขุดคุ้ยทุกซอกทุกมุมแบบไม่มีกั๊ก! เราจะมาเจาะลึกกันตั้งแต่ดีไซน์สุดคลาสสิก, ขุมพลังเสียงที่ซ่อนอยู่ภายใน, ไปจนถึงฟีเจอร์เด็ดๆ ที่ทำให้มันแตกต่าง เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปหาคำตอบกันครับว่าผลสรุปจาก รีวิว Marshall Middleton II นี้ จะทำให้คุณต้องรีบควักกระเป๋า หรือจะโบกมือลาไปหาตัวเลือกอื่น!

ภาพรวมลำโพง Marshall Middleton II สีดำสุดเท่ วางอยู่บนโขดหิน

ภาพ: ลำโพง Marshall Middleton II กับดีไซน์สุดแกร่ง พร้อมลุยทุกสถานการณ์

🦉 เลือกอ่านหัวข้อ

บทที่ 1: แค่เห็นก็หลงรัก! ดีไซน์สุดแกร่งและงานประกอบระดับตำนาน

เปิดประเด็นแรกของ รีวิว Marshall Middleton II กันด้วยเรื่องหน้าตาและงานประกอบ ที่บอกเลยว่า Marshall ไม่เคยทำให้ผิดหวังครับ! เจ้า Middleton II ไม่ใช่แค่ลำโพง แต่มันคือแฟชั่นไอเท็มที่บ่งบอกตัวตนของคนรักเสียงเพลงอย่างแท้จริง

ดีไซน์เหนือกาลเวลาในเวอร์ชันพร้อมลุย

แค่เหลือบมองก็รู้ทันทีว่านี่คือ Marshall! Middleton II ยังคงรักษา DNA ความเป็นแอมป์กีตาร์สุดคลาสสิกไว้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นโลโก้สคริปต์สีทองเหลืองอร่าม, วัสดุหุ้มลายหนังสุดเท่, และหน้ากากตะแกรงเหล็กที่แข็งแกร่ง แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือความ “บึกบึน” ที่สัมผัสได้ทันทีครับ มันถูกออกแบบมาให้เป็นลำโพงสำหรับ Outdoor อย่างแท้จริง ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน พร้อมสายหิ้วที่ถอดเก็บได้ ทำให้การพกพาสะดวกสบายกว่าที่คิด แม้ว่าน้ำหนักตัว 1.8 กิโลกรัมอาจจะดูเยอะไปนิดสำหรับบางคน แต่มันคือการแลกมากับความทนทานและคุณภาพเสียงที่อัดแน่นอยู่ภายในครับ

กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67: จะฝนตกแดดออกก็ไม่หวั่น!

นี่คือหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของ รีวิว Marshall Middleton II เลยครับ! การได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 หมายความว่ามันสามารถกันฝุ่นได้สมบูรณ์แบบ และทนทานต่อการจมน้ำลึก 1 เมตร ได้นานถึง 30 นาที! ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเผลอทำตกสระว่ายน้ำ หรือเจอฝนตกหนักระหว่างไปแคมป์ปิ้ง ก็ไม่ต้องกังวลเลยครับ แค่หยิบขึ้นมาเช็ดให้แห้ง ก็พร้อมกระหึ่มต่อได้ทันที! ความทนทานระดับนี้ทำให้มันเป็นเพื่อนคู่ใจที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกการผจญภัย คล้ายกับพวก หูฟังกันน้ำ ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานสมบุกสมบันโดยเฉพาะ

หล่อแล้วยังรักษ์โลก

ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมครับ Marshall Middleton II ถูกสร้างขึ้นโดยปราศจาก PVC และมีส่วนประกอบของพลาสติกรีไซเคิลจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เก่าถึง 55% เป็นการตอกย้ำว่าคุณสามารถเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์สุดเท่ โดยที่ไม่ทำร้ายโลกใบนี้ได้ครับ

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบันได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

บทที่ 2: ฟีเจอร์เด็ดและการเชื่อมต่อที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

ในบทนี้ของ รีวิว Marshall Middleton II เราจะมาดูกันว่านอกจากความหล่อแล้ว เจ้าลำโพงตัวนี้มีเทคโนโลยีอะไรเจ๋งๆ ซ่อนอยู่บ้าง

True Stereophonic: เวทีเสียง 360 องศาในแบบฉบับ Marshall

ลืมเรื่องการต้องหา “Sweet Spot” หรือจุดฟังที่ดีที่สุดไปได้เลยครับ! Middleton II มาพร้อมกับเทคโนโลยี “True Stereophonic” ซึ่งเป็นระบบเสียงหลายทิศทางที่เป็นเอกลักษณ์ของ Marshall มันจะสร้างเวทีเสียงที่กว้างและโอบล้อม ทำให้ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมไหนของลำโพง ก็จะได้รับประสบการณ์เสียงที่เต็มอิ่มและสมจริงเหมือนกันหมด ฟีเจอร์นี้เหมาะสุดๆ สำหรับการเปิดเพลงในงานปาร์ตี้หรือกิจกรรมกลางแจ้งที่ทุกคนกระจายตัวกันอยู่รอบๆ ครับ

Stack Mode: ขยายพลังเสียงให้กระหึ่มยิ่งขึ้น!

ปาร์ตี้ของคุณใหญ่กว่าที่คิด? ไม่มีปัญหา! Middleton II มี “Stack Mode” ที่ให้คุณสามารถเชื่อมต่อลำโพง Middleton II (หรือลำโพงรุ่นอื่นที่รองรับ) เข้าด้วยกันได้แบบไร้สาย เพื่อสร้างกำแพงเสียงที่ทรงพลังยิ่งขึ้น! ลองนึกภาพการวางลำโพงหลายๆ ตัวรอบบริเวณงานดูสิครับ…มันคือการยกระดับปาร์ตี้ของคุณไปอีกขั้น! การเชื่อมต่อก็ง่ายดาย แค่กดปุ่มไม่กี่ครั้งก็พร้อมใช้งานทันที ทำให้มันเป็นหนึ่งใน ลำโพงบลูทูธ ที่ยืดหยุ่นที่สุดในตลาด

แบตเตอรี่อึดสะใจ 20+ ชั่วโมง

อีกหนึ่งจุดแข็งที่ต้องพูดถึงใน รีวิว Marshall Middleton II ก็คือเรื่องแบตเตอรี่ครับ มันสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 20 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง! เรียกได้ว่าเปิดเพลงกันได้ทั้งวันทั้งคืนแบบไม่มีสะดุด และถ้าหากแบตใกล้หมดจริงๆ ระบบ Quick-Charge ก็พร้อมช่วยชีวิตคุณ! ชาร์จเพียง 20 นาที ก็สามารถใช้งานต่อได้ถึง 2 ชั่วโมง และใช้เวลาชาร์จจนเต็ม 100% เพียง 4.5 ชั่วโมงเท่านั้นครับ

การควบคุมที่ง่ายดายและแอปพลิเคชันคู่ใจ

บนตัวลำโพงจะมีปุ่มควบคุมหลักแบบ Multi-directional สีทองเหลือง ที่ให้คุณควบคุมการเล่นเพลง, ปรับระดับเสียง, และเปิด/ปิดเครื่องได้ในปุ่มเดียว นอกจากนี้ยังมีปุ่มสำหรับปรับเสียงเบสและเสียงแหลมได้โดยตรง ซึ่งเป็นเสน่ห์แบบแอนะล็อกที่หาได้ยากในลำโพงยุคใหม่ และแน่นอนว่ามันยังสามารถเชื่อมต่อกับแอป Marshall Bluetooth เพื่อปรับ EQ ได้ละเอียดมากขึ้น รวมถึงการอัปเดตเฟิร์มแวร์ (OTA) เพื่อให้ลำโพงของคุณมีฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่เสมอครับ

บทที่ 3: เจาะลึกคุณภาพเสียง! สมศักดิ์ศรี King of Portable หรือไม่?

มาถึงหัวใจหลักของ รีวิว Marshall Middleton II กันแล้วครับ นั่นก็คือเรื่อง “เสียง” นั่นเอง! ผมได้ลองทดสอบฟังกับเพลงหลากหลายแนว เพื่อจะบอกเล่าประสบการณ์ให้ได้ชัดเจนที่สุด

คาแรกเตอร์เสียงอันเป็นเอกลักษณ์

วินาทีแรกที่เสียงออกจากลำโพง บอกได้เลยว่านี่คือซาวด์ของ Marshall อย่างแท้จริง! เสียงมีความหนักแน่น ทรงพลัง และมีไดนามิกที่ยอดเยี่ยม เสียงเบสมาแบบเป็นลูกๆ แต่ไม่บวมเบลอจนไปกลบย่านอื่น เสียงกลางมีความชัดเจน โดยเฉพาะเสียงร้องและเสียงกีตาร์ที่พุ่งออกมาข้างหน้า ทำให้ฟังเพลงแนวร็อก, บลูส์, หรือป๊อปที่มีเครื่องดนตรีเยอะๆ ได้สนุกมากครับ ส่วนเสียงแหลมก็มีความใสและทอดตัวไปได้ไกลพอสมควร ไม่ได้รู้สึกว่าถูกตัดทอนไปครับ

Dynamic Loudness: เปิดเบาก็เพราะ เปิดดังก็ไม่แตก

Middleton II มีฟีเจอร์ Dynamic Loudness ที่ชาญฉลาด มันจะคอยปรับสมดุลของโทนเสียงให้คงที่ ไม่ว่าคุณจะเปิดเสียงดังแค่ไหนก็ตาม ผลลัพธ์คือตอนที่คุณเปิดเพลงคลอเบาๆ ในห้องนอน เสียงก็ยังคงความเต็มอิ่ม มีเบส มีแหลมครบถ้วน ไม่ได้รู้สึกว่าเสียงแบนๆ และเมื่อคุณเร่งเสียงให้ดังสุดๆ เพื่อปาร์ตี้ เสียงก็ยังคงความหนักแน่นและคมชัด ไม่เกิดอาการเสียงแตกพร่าให้รำคาญใจครับ นี่คือจุดที่ทำให้ รีวิว Marshall Middleton II โดดเด่นกว่าลำโพงพกพาทั่วไป

ตารางเปรียบเทียบสเปกกับคู่แข่งตัวฉกาจ

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นว่า Middleton II ยืนอยู่ตรงไหนในตลาด ลองมาดูตารางเปรียบเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันกันครับ

คุณสมบัติ Marshall Middleton II JBL Charge 5 Bose SoundLink Flex Sony SRS-XG300
กำลังขับ 2x 20W (Woofer), 2x 10W (Tweeter) 30W (Woofer), 10W (Tweeter) N/A N/A (มี X-Balanced Speaker)
การกันน้ำ/ฝุ่น IP67 IP67 IP67 IP67
แบตเตอรี่ 20+ ชั่วโมง 20 ชั่วโมง 12 ชั่วโมง 25 ชั่วโมง
Bluetooth 5.1 5.1 4.2 5.2
ฟีเจอร์เชื่อมต่อหลายตัว Stack Mode PartyBoost Stereo/Party Mode Party Connect
พาวเวอร์แบงค์ในตัว มี มี ไม่มี มี
น้ำหนัก (กก.) 1.8 kg 0.96 kg 0.6 kg 3.0 kg

จากตารางจะเห็นว่า รีวิว Marshall Middleton II แสดงให้เห็นว่ามันเป็นลำโพงที่มีสเปกอยู่ในระดับท็อปของกลุ่ม ทั้งในเรื่องความทนทาน, แบตเตอรี่, และฟีเจอร์การเชื่อมต่อหลายตัว แม้ว่าบางรุ่นอาจจะมีน้ำหนักเบากว่าหรือแบตอึดกว่าเล็กน้อย แต่ Middleton II ก็ชดเชยด้วยพลังเสียงและดีไซน์ที่ไม่เหมือนใครครับ

บทที่ 4: ศึกสายเลือด! Middleton II ปะทะพี่น้อง Marshall

การจะทำ รีวิว Marshall Middleton II ให้สมบูรณ์ จะไม่พูดถึงพี่น้องร่วมตระกูลก็คงไม่ได้ มาดูกันครับว่าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในไลน์อัพพกพาของ Marshall แล้ว Middleton II อยู่ในตำแหน่งไหน

Middleton II vs. Emberton II

นี่คือคู่เปรียบเทียบที่ชัดเจนที่สุดครับ Emberton II (และ III) คือน้องเล็กที่เน้นความ “คล่องตัว” อย่างแท้จริง ด้วยขนาดที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบา ทำให้พกใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้สะดวกกว่ามาก แต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือพลังเสียงและเสียงเบสที่ดรอปลงไปพอสมควร สรุปง่ายๆ คือ ถ้าคุณต้องการลำโพงคู่ใจสำหรับเดินทางคนเดียวหรือกลุ่มเล็กๆ Emberton คือคำตอบ แต่ถ้าคุณต้องการ “ขุมพลัง” สำหรับปาร์ตี้และกิจกรรมกลางแจ้ง Middleton II คือผู้ชนะแบบขาดลอยครับ

Middleton II vs. Kilburn II

แม้ว่า Kilburn II (และ III) จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มลำโพงพกพาเหมือนกัน แต่คาแรกเตอร์ของมันจะค่อนไปทาง “Home Speaker” ที่มีแบตในตัวมากกว่า ด้วยดีไซน์ทรงตั้งและปุ่มปรับเสียงแบบแอนะล็อกที่ละเอียดกว่า ทำให้มันเหมาะกับการวางเท่ๆ ในห้องแล้วหิ้วไปมาบ้างเป็นครั้งคราว ในขณะที่ Middleton II ถูกออกแบบมาเพื่อ “การลุย” โดยเฉพาะ ด้วยดีไซน์ทรงนอนที่มั่นคงกว่าและมาตรฐานกันน้ำที่สูงกว่า ในแง่ของเสียง Kilburn อาจจะให้เบสที่นุ่มลึกกว่าเล็กน้อย แต่ Middleton ก็ได้เปรียบเรื่องเวทีเสียง 360 องศาที่กระจายเสียงได้ดีกว่าในที่โล่งครับ

Middleton II vs. Willen

การเปรียบเทียบนี้อาจจะไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่ เพราะ Willen คือน้องเล็กสุดในตระกูลที่เกิดมาเพื่อความสะดวกในการพกพาสูงสุดจริงๆ ครับ ด้วยขนาดเท่าฝ่ามือและสายรัดด้านหลัง ทำให้คุณสามารถเกี่ยวมันไว้กับกระเป๋าเป้หรือแฮนด์จักรยานได้อย่างง่ายดาย เสียงของมันเหมาะสำหรับการฟังส่วนตัวหรือกลุ่มเล็กๆ 2-3 คนเท่านั้น ดังนั้น ถ้าคุณกำลังมองหาลำโพงหลัก Middleton II คือตัวเลือกที่ใช่ แต่ถ้ามองหาลำโพงเสริมสำหรับพกติดตัวตลอดเวลา Willen ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

หากคุณยังลังเลและอยากเห็นภาพรวมของลำโพง Marshall ทุกรุ่น เพื่อหาตัวที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ สามารถเข้าไปอ่านบทความจัดอันดับ สุดยอด ลําโพง Marshall รุ่นไหนดี ของเราได้เลยครับ เราได้รวบรวมและเปรียบเทียบไว้ให้ครบทุกรุ่นแล้ว!

บทที่ 5: สรุปจุดเด่นและข้อควรพิจารณาของ Marshall Middleton II

มาถึงจุดที่หลายคนรอคอยใน รีวิว Marshall Middleton II นี้ครับ เราจะมาสรุปข้อดีข้อเสียกันแบบชัดๆ ตรงไปตรงมา เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

จุดเด่น
  • เสียงทรงพลังและมีมิติ: เทคโนโลยี True Stereophonic ให้เสียง 360 องศาที่น่าประทับใจ เบสแน่น เสียงกลางชัดเจน
  • ดีไซน์สุดคลาสสิกและทนทาน: สวยงามตามแบบฉบับ Marshall พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67 ลุยได้ทุกสถานการณ์
  • แบตเตอรี่อึดมาก: ใช้งานได้ต่อเนื่องเกิน 20 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชัน Quick-Charge
  • Stack Mode สุดเจ๋ง: สามารถเชื่อมต่อลำโพงหลายตัวเพื่อเพิ่มพลังเสียงได้อย่างง่ายดาย
  • ทำหน้าที่เป็น Power Bank ได้: สามารถชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นผ่านพอร์ต USB-C ได้ในยามฉุกเฉิน
  • ควบคุมง่าย: มีปุ่มปรับเบสและแหลมบนตัวเครื่องโดยตรง ตอบโจทย์คนชอบปรับเสียงเอง
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูง: เป็นหนึ่งในลำโพงพกพาที่มีราคาสูงที่สุดในตลาด
  • น้ำหนักค่อนข้างเยอะ: ด้วยน้ำหนัก 1.8 กก. อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการความคล่องตัวสูงสุด
  • ไม่มี Wi-Fi หรือฟีเจอร์ Smart Speaker: เป็นลำโพง Bluetooth แท้ๆ ไม่รองรับการสตรีมมิ่งผ่าน Wi-Fi หรือคำสั่งเสียง
  • แอปพลิเคชันมีฟังก์ชันพื้นฐาน: การปรับ EQ ในแอปยังไม่ละเอียดเท่าคู่แข่งบางแบรนด์

บทที่ 6: ฟันธง! สรุปรีวิว Marshall Middleton II เหมาะกับใคร?

เดินทางมาถึงบทสรุปสุดท้ายของ รีวิว Marshall Middleton II กันแล้วนะครับ หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานและเจาะลึกในทุกแง่มุม ผมก็พอจะสรุปได้ว่า Marshall Middleton II ไม่ใช่แค่ลำโพง แต่เป็น “ประสบการณ์” ครับ มันคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างดีไซน์ที่เป็นอมตะ, คุณภาพเสียงที่ทรงพลัง, และความทนทานที่พร้อมจะไปกับคุณได้ทุกที่

แล้วใครล่ะที่เกิดมาเพื่อมัน?

  • คนรักแบรนด์ Marshall: ถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของดีไซน์และซาวด์ซิกเนเจอร์ของ Marshall คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน
  • สายกิจกรรม Outdoor และปาร์ตี้: ด้วยความทนทานระดับ IP67, แบตเตอรี่ที่อึดทนนาน, และเสียง 360 องศา มันเกิดมาเพื่อเป็นดาวเด่นในทุกกิจกรรมกลางแจ้ง
  • ผู้ที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์และคุณภาพ: คนที่มองว่าลำโพงเป็นเหมือนของแต่งบ้านชิ้นหนึ่ง และยอมจ่ายเพื่อคุณภาพและดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา
  • คนที่ต้องการลำโพงตัวเดียวจบ: มันทรงพลังพอที่จะใช้เป็นลำโพงหลักในห้อง และก็ทนทานพอที่จะพกพาไปข้างนอกได้อย่างสบายใจ

คำตัดสินสุดท้าย: คุ้มค่าที่จะเปย์หรือไม่?

ฟันธงเลยว่า “คุ้มค่า” ครับ…แต่สำหรับคนที่ใช่! หากคุณอยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่กล่าวมาข้างต้น และงบประมาณไม่ใช่ปัญหา การลงทุนกับ Middleton II จะมอบความสุขและความพึงพอใจให้คุณได้อย่างแน่นอน มันคือลำโพงที่จะอยู่กับคุณไปอีกนาน และจะทำให้ทุกช่วงเวลาของคุณมีเสียงเพลงที่ยอดเยี่ยมเป็นเพื่อนคู่ใจ แต่ถ้าหากคุณเป็นสายเน้นความคุ้มค่า, ต้องการลำโพงน้ำหนักเบาที่สุด, หรือมองหาฟีเจอร์ Smart Speaker ในตลาดก็ยังมีตัวเลือกอื่นที่อาจจะตอบโจทย์คุณได้ดีกว่าในราคาที่ย่อมเยาลงครับ

หวังว่า รีวิว Marshall Middleton II ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของคุณนะครับ!

“Marshall Middleton II ไม่ใช่ลำโพงสำหรับทุกคน แต่มันคือลำโพงที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่ไม่ยอมประนีประนอมกับสไตล์และพลังเสียง”

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบันได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • บทความ รีวิว Marshall Middleton II นี้ ทีมงาน TOPLISTPLUS ได้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหลากหลายแห่ง รวมถึง เว็บไซต์ Marshall Official เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครอบคลุมที่สุดครับ
  • รายละเอียดเกี่ยวกับการรับประกันสินค้า ควรตรวจสอบเพิ่มเติมจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เช่น ASH Asia หรือร้านค้าที่คุณทำการซื้อโดยตรง
  • ราคาและโปรโมชั่นของสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา กรุณาตรวจสอบจากหน้าเว็บไซต์ของผู้จำหน่ายอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ
  • บทความนี้ใช้ภาพประกอบสินค้าจากเว็บไซต์ Marshall อย่างเป็นทางการ เพื่อประกอบการรีวิวเท่านั้น
  • หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของคุณ ลองแวะไปดูบทความแนะนำ Smart Watch ยี่ห้อไหนดี หรือ 10 สุดยอด Laptop ยี่ห้อไหนดี ของเราได้ครับ มีรุ่นเด็ดๆ เพียบ!

 

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ขอบพระคุณครับ