OPPO Reno14 Pro vs vivo V60: ศึกเรือธงตัวท็อป รีวิวเจาะลึก สเปก กล้อง ใครแน่กว่ากัน?

สวัสดีครับเพื่อนๆ! กลับมาเจอกันอีกแล้วนะครับกับบทความเปรียบเทียบมือถือเดือดๆ ที่ทุกคนรอคอย วันนี้เราจะมาส่องกล้องซูมลึกไปที่สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการสมาร์ทโฟนระดับกลางค่อนไปทางสูง ที่บอกเลยว่าเปิดตัวมาทีไรก็สร้างแรงสั่นสะเทือนได้ตลอด นั่นก็คือการโคจรมาพบกันของ OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 ครับ! ทั้งสองรุ่นนี้ถือเป็นมวยถูกคู่ที่สเปกจัดเต็ม ดีไซน์พรีเมียม และที่สำคัญคือเรื่องกล้องที่ต่างก็ชูเป็นจุดขายหลัก ทำเอาหลายคนถึงกับกุมขมับ เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าจะเทใจไปให้ใครดี

แน่นอนว่าการจะเลือก โทรศัพท์ OPPO รุ่นไหนดี นั้นมีหลายปัจจัยให้พิจารณา แต่เมื่อเป็นการต่อสู้กันแบบตัวต่อตัวของ OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 แล้วล่ะก็ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละครับที่จะเป็นตัวตัดสิน! บทความนี้ผมจะพาทุกคนไปผ่าสเปกทุกซอกทุกมุม ตั้งแต่ดีไซน์, หน้าจอ, ประสิทธิภาพ, กล้องถ่ายรูป, แบตเตอรี่ ไปจนถึงฟีเจอร์เด็ดๆ ของแต่ละค่าย เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุด ประกอบการตัดสินใจว่าเครื่องไหนจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณได้ดีกว่ากัน พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยครับ!

เปรียบเทียบสเปกหมัดต่อหมัด: OPPO Reno14 Pro vs vivo V60

ก่อนจะไปเจาะลึกกันทีละส่วน เรามาดูตารางเปรียบเทียบสเปกโดยรวมของ OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 กันก่อนดีกว่าครับ จะได้เห็นภาพรวมว่าใครมีอะไรเด็ด และใครมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง บอกเลยว่าแค่เห็นสเปกก็ร้องว้าวแล้วครับ!

เจาะลึกดีไซน์และงานประกอบ: ใครสวยพรีเมียมกว่ากัน?

เริ่มต้นกันที่รูปลักษณ์ภายนอกซึ่งเป็นด่านแรกที่ทำให้เราตกหลุมรักสมาร์ทโฟนสักเครื่องได้เลยนะครับ ในการเปรียบเทียบดีไซน์ของ OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 ต้องบอกว่าทั้งคู่ทำการบ้านมาดีมากครับ แต่ก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันชัดเจน

OPPO Reno14 Pro: ความหรูหราในแบบฉบับ The Portrait Expert

ทางฝั่ง OPPO Reno Series ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์ที่สวยงามและบางเบามาตลอด และในรุ่น Reno14 Pro ก็ยังคง DNA นั้นไว้อย่างครบถ้วนครับ ตัวเครื่องมาพร้อมกับความบางที่น่าทึ่งเพียง 7.48 มม. ในสี Titanium Grey และ 7.58 มม. ในสี Opal White แม้น้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ 201 กรัม ซึ่งอาจจะดูเยอะ แต่ด้วยการออกแบบที่สมดุล ทำให้การจับถือยังคงรู้สึกดีเยี่ยม ฝาหลังมีการใช้พื้นผิวแบบด้านที่ช่วยลดรอยนิ้วมือได้ดี ให้ความรู้สึกพรีเมียมสมราคา การจัดวางโมดูลกล้องก็ทำได้สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ ไม่ดูเทอะทะเกินไปครับ

vivo V60: เสน่ห์แห่งความโค้งมนและสีสันที่โดดเด่น

ข้ามมาดูที่ vivo V60 กันบ้างครับ รุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์จอโค้งที่ให้ความรู้สึกหรูหราและทันสมัย ขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกับคู่แข่ง มีความหนาประมาณ 7.53 มม. และน้ำหนักเบากว่าเล็กน้อยที่ 190 กรัม ทำให้การถือใช้งานมือเดียวอาจจะรู้สึกสบายกว่านิดหน่อย จุดเด่นของ vivo คือการเล่นกับสีสันของฝาหลังที่มักจะมีเอฟเฟกต์สวยงามเมื่อแสงตกกระทบ เช่นสี Mist Grey หรือ Auspicious Gold ที่ดูมีมิติและน่าค้นหา โมดูลกล้องของ vivo ก็ออกแบบมาได้เรียบหรู ดูเป็นระเบียบ ทำให้ภาพรวมของตัวเครื่องดูสะอาดตาและน่าใช้ครับ

บทสรุปเรื่องดีไซน์: ถ้าคุณชอบความรู้สึกบางเฉียบและดีไซน์ที่เรียบหรูดูแพงสไตล์มินิมอล OPPO Reno14 Pro อาจจะถูกใจคุณมากกว่า แต่ถ้าคุณเป็นสายที่ชอบจอโค้งสวยๆ และสีสันฝาหลังที่มีลูกเล่นโดดเด่น vivo V60 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กันครับ ที่สำคัญ ทั้งคู่ยังได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับสูงถึง IP69 ทำให้ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจหายห่วงเลย

หน้าจอแสดงผล: ศึกจอโค้ง AMOLED ใครคมชัดสดใสกว่า?

หน้าจอคือส่วนที่เราใช้งานและจ้องมองมากที่สุด ดังนั้นคุณภาพของจอจึงเป็นเรื่องสำคัญมากครับ การปะทะกันของ OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 ในเรื่องนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะทั้งคู่ต่างก็ใช้จอ AMOLED คุณภาพสูง

• OPPO Reno14 Pro: มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 6.83 นิ้ว และที่สำคัญคือความละเอียดที่สูงกว่าถึง 1272 × 2800 พิกเซล ทำให้มีความหนาแน่นของพิกเซลที่สูงกว่า ภาพที่ได้จึงมีความคมกริบ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จะชัดเจนมากครับ บวกกับรีเฟรชเรต 120Hz และ Touch Sampling Rate สูงสุด 240Hz ทำให้การแสดงผลลื่นไหลสุดๆ การสัมผัสก็ติดนิ้ว ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ เหมาะมากสำหรับสายเกมเมอร์หรือคนที่ชอบดูคอนเทนต์ความละเอียดสูง
• vivo V60: ใช้หน้าจอขนาด 6.77 นิ้ว ความละเอียด 1080 × 2392 พิกเซล (1.5K) ซึ่งก็ถือว่าคมชัดมากๆ แล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป ถึงแม้ตัวเลขความละเอียดจะน้อยกว่าคู่แข่ง แต่ด้วยเทคโนโลยีจอ AMOLED ของ vivo ที่ขึ้นชื่อเรื่องสีสันที่สดใสและคอนทราสต์ที่จัดจ้าน ทำให้การดูหนังหรือดูรูปภาพยังคงให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมครับ และแน่นอนว่ามาพร้อมรีเฟรชเรต 120Hz และรองรับ HDR10+ เช่นกัน ทำให้การใช้งานโดยรวมยังคงลื่นไหลและสวยงามไม่แพ้กัน

บทสรุปเรื่องหน้าจอ: ถ้าคุณเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องความคมชัดของหน้าจอแบบสุดๆ และต้องการทุกพิกเซลที่คมที่สุด OPPO Reno14 Pro จะให้เปรียบในจุดนี้ครับ แต่ถ้าคุณเน้นเรื่องสีสันที่สดใสและคอนทราสต์ที่สวยงามสำหรับการดูคอนเทนต์ทั่วไป vivo V60 ก็ทำได้ดีเยี่ยมไม่แพ้กันเลย ในการใช้งานจริงความแตกต่างของความละเอียดอาจจะไม่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจนนักครับ

ประสิทธิภาพและชิปเซ็ต: Dimensity 8450 vs Snapdragon 7 Gen 4

มาถึงหัวใจหลักของเครื่องกันบ้างครับ เรื่องของประสิทธิภาพนี่แหละที่จะบอกว่ามือถือเครื่องนั้นจะอยู่กับเราไปได้นานแค่ไหน การต่อสู้ของ OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 ในสมรภูมินี้เป็นการวัดกันระหว่างสองค่ายชิปเซ็ตยักษ์ใหญ่เลยทีเดียว

OPPO Reno14 Pro: พลังจาก MediaTek Dimensity 8450

OPPO เลือกใช้ชิปเซ็ตตัวแรงจากค่าย MediaTek อย่าง Dimensity 8450 ซึ่งเป็นชิปที่ถูกออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลที่รวดเร็วและจัดการพลังงานได้ดีเยี่ยม เมื่อทำงานร่วมกับ RAM ขนาดใหญ่ถึง 12 GB แบบ LPDDR5X และหน่วยความจำแบบ UFS 3.1 ทำให้การเปิด-ปิดแอป, การสลับใช้งานหลายๆ แอปพร้อมกัน หรือการเล่นเกมกราฟิกสูงๆ เป็นไปอย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด ใครที่เป็นสาย performance หรือชอบเล่นเกมหนักๆ น่าจะถูกใจกับสเปกชุดนี้ของ OPPO Reno14 Pro ครับ

vivo V60: ความเสถียรที่ไว้ใจได้จาก Snapdragon 7 Gen 4

ด้าน vivo V60 เลือกใช้ชิปเซ็ตยอดนิยมจากค่าย Qualcomm อย่าง Snapdragon 7 Gen 4 ซึ่งเป็นชิปในซีรีส์ 7 ที่ถูกอัปเกรดขึ้นมาใหม่ ให้ประสิทธิภาพที่แรงและเสถียรภาพที่ไว้ใจได้ จุดเด่นของชิป Snapdragon คือการประมวลผลภาพ (ISP) ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของรูปถ่ายและวิดีโอ vivo V60 ยังให้ตัวเลือก RAM ที่หลากหลายตั้งแต่ 8 GB, 12 GB ไปจนถึง 16 GB ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองได้ การใช้งานทั่วไปรวมถึงการเล่นเกมยอดนิยมต่างๆ สามารถทำได้อย่างสบายๆ ครับ

บทสรุปเรื่องประสิทธิภาพ: ในแง่ของพลังการประมวลผลเพียวๆ ชิป Dimensity 8450 อาจจะมีภาษีดีกว่าเล็กน้อยในบางการทดสอบ แต่ Snapdragon 7 Gen 4 ก็มีความเสถียรและขึ้นชื่อเรื่องการจัดการความร้อนที่ดีเยี่ยม ในการใช้งานจริง ทั้งสองรุ่นมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วและลื่นไหลไม่ต่างกันมากนักครับ การตัดสินใจในข้อนี้อาจจะขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นในแบรนด์ชิปเซ็ตของแต่ละคนมากกว่า และไม่ว่าคุณจะมองหา โทรศัพท์ OPPO แรม 8 GB หรือรุ่นที่สูงกว่านั้น Reno14 Pro ก็จัดมาให้เต็มที่ถึง 12GB เลยทีเดียว

“The Portrait Expert” ปะทะ “Camera-Centric”: ใครคือเจ้าแห่งการถ่ายภาพ?

และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอย! เรื่องกล้องถ่ายรูปคือสนามรบหลักของ OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 เลยก็ว่าได้ครับ ทั้งสองแบรนด์ต่างชูจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพ โดยเฉพาะภาพบุคคล มาดูกันว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน

OPPO Reno14 Pro: จัดเต็มทุกเลนส์ด้วยเซ็นเซอร์ 50MP

สมกับฉายา “The Portrait Expert” จริงๆ ครับ สำหรับ โทรศัพท์ OPPO กล้องสวย รุ่นนี้ที่จัดหนักจัดเต็มด้วยชุดกล้องหลัง 3 ตัวที่ใช้เซ็นเซอร์ความละเอียดสูงถึง 50MP ทั้งหมด!

• กล้องหลัก 50MP พร้อม OIS: ให้ภาพที่คมชัด สีสันสมจริง และเก็บรายละเอียดได้ดีเยี่ยมในทุกสภาพแสง ระบบกันสั่น OIS ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือการถ่ายวิดีโอนิ่งและสมูทขึ้นมาก
• กล้อง Telephoto 50MP: นี่คือทีเด็ดเลยครับ การให้กล้องซูมความละเอียดสูงมา ทำให้การถ่ายภาพบุคคล (Portrait) มีมิติที่สวยงาม ละลายหลังได้เป็นธรรมชาติ และยังสามารถซูมแบบ Optical ได้ถึง 3.5 เท่าโดยไม่เสียรายละเอียด
• กล้อง Ultra-wide 50MP: การที่ให้เลนส์มุมกว้างมีความละเอียดสูงเท่ากล้องหลัก ทำให้คุณภาพของสีและรายละเอียดของภาพถ่ายมุมกว้างแทบไม่แตกต่างจากกล้องหลักเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในมือถือระดับเดียวกัน

นอกจากนี้กล้องหน้าก็ให้มาถึง 50MP เช่นกัน รับรองว่าสายเซลฟี่ต้องกรี๊ดสลบแน่นอนครับ ด้วยพลังของซอฟต์แวร์และ AI ในการประมวลผลภาพของ OPPO ทำให้ภาพถ่ายบุคคลที่ได้จาก Reno14 Pro มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ผิวเนียนใสแต่ยังคงรายละเอียดไว้ครบถ้วน

vivo V60: พลังซูมและซอฟต์แวร์ที่เน้นภาพสวย

ฝั่ง vivo V60 ก็ไม่ยอมน้อยหน้าครับ มาพร้อมชุดกล้องที่เน้นการใช้งานจริงและคุณภาพที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน

• กล้องหลัก 50MP: ให้คุณภาพไฟล์ที่ดีเยี่ยม ถ่ายทอดสีสันได้สดใสตามสไตล์ vivo เก็บรายละเอียดได้ดีทั้งในที่สว่างและที่แสงน้อย
• กล้อง Telephoto 50MP: ให้มาที่ความละเอียด 50MP เช่นกัน พร้อมระยะซูม Optical 3 เท่า เหมาะสำหรับการถ่าย Portrait และดึงวัตถุที่อยู่ไกลให้เข้ามาใกล้ได้อย่างคมชัด
• กล้อง Ultra-wide 8MP: จุดนี้อาจจะเป็นจุดที่แตกต่างกับคู่แข่งอย่างชัดเจนครับ ด้วยความละเอียด 8MP ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย แต่ถ้าหากต้องการซูมดูรายละเอียดหรือนำไปใช้งานที่ต้องการความละเอียดสูง อาจจะสู้ Reno14 Pro ไม่ได้

กล้องหน้าของ vivo V60 ก็ให้มาที่ 50MP เช่นกัน พร้อมกับซอฟต์แวร์ Beauty Mode ที่เป็นธรรมชาติและเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน ทำให้การเซลฟี่เป็นเรื่องสนุกและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเสมอ

บทสรุปเรื่องกล้อง: ศึกกล้อง OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 ครั้งนี้ต้องบอกว่าสูสีมากในส่วนของกล้องหลักและกล้อง Telephoto แต่ OPPO Reno14 Pro จะได้เปรียบไปเต็มๆ ในเรื่องของกล้อง Ultra-wide ที่ให้ความละเอียดมาสูงกว่ามาก ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า หากคุณเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพวิวหรือภาพมุมกว้างบ่อยๆ และต้องการคุณภาพสูงสุดในทุกระยะเลนส์ Reno14 Pro คือคำตอบครับ แต่ถ้าคุณเน้นถ่ายคนเป็นหลักและใช้เลนส์ Ultra-wide ไม่บ่อยนัก vivo V60 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ถ่ายภาพบุคคลได้สวยงามน่าประทับใจมากเช่นกันครับ

แบตเตอรี่และระบบชาร์จไว: ใครอึดกว่า ใครชาร์จเร็วกว่า?

ใช้งานหนักมาทั้งวัน ถ้าแบตหมดไวก็คงไม่สนุกใช่ไหมครับ? มาดูกันว่าเรื่องพลังงาน OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 ใครจะอึดและฟื้นตัวได้เร็วกว่ากัน

vivo V60 ดูเหมือนจะได้เปรียบในเรื่องความจุของแบตเตอรี่ ด้วยขนาด 6500 mAh ซึ่งมากกว่า OPPO Reno14 Pro ที่ให้มา 6200 mAh ความต่าง 300 mAh นี้อาจจะส่งผลให้ vivo V60 สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าเล็กน้อยในหนึ่งวัน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานจริงและประสิทธิภาพการจัดการพลังงานของชิปเซ็ตและซอฟต์แวร์ด้วยครับ ซึ่งหากเจอปัญหา แบตเตอรี่ OPPO หมดไว ก็มีวิธีแก้ไขอยู่เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงเรื่องการชาร์จกลับเข้ามา ศึกนี้จะพลิกกลับมาน่าสนใจทันทีครับ:

• vivo V60: มาพร้อมระบบชาร์จไว FlashCharge 90W ซึ่งถือว่าเร็วมากๆ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6500 mAh ได้เต็มในเวลาไม่นาน
• OPPO Reno14 Pro: ถึงแม้จะให้ชาร์จไวแบบมีสาย 80W SUPERVOOC ซึ่งช้ากว่านิดหน่อย แต่มีไม้เด็ดคือรองรับ “การชาร์จไร้สาย 50W” ครับ! นี่คือฟีเจอร์ระดับเรือธงที่หาได้ยากในมือถือระดับเดียวกัน ทำให้การใช้งานสะดวกสบายขึ้นมาก แค่วางบนแท่นชาร์จก็พร้อมใช้งานต่อได้ทันที สำหรับใครที่อยากรู้ว่า เทคโนโลยี SUPERVOOC คืออะไร ก็สามารถคลิกเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ครับ

บทสรุปเรื่องแบตเตอรี่: ถ้าคุณต้องการความจุแบตเตอรี่สูงสุดและชาร์จสายที่เร็วที่สุด vivo V60 จะเป็นผู้ชนะในข้อนี้ แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายของการชาร์จไร้สาย และยอมรับความเร็วในการชาร์จสายที่ช้าลงเล็กน้อย OPPO Reno14 Pro ก็มอบฟีเจอร์ที่พรีเมียมและน่าใช้กว่ามาให้ครับ

ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์พิเศษ: ColorOS 15 vs Funtouch OS 15

ประสบการณ์การใช้งานไม่ได้จบแค่ที่ฮาร์ดแวร์ครับ ซอฟต์แวร์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สร้างความแตกต่างได้มากเลยทีเดียว

ทั้ง OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 ต่างก็มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 15 รุ่นล่าสุด แต่ครอบทับด้วย UI ของตัวเอง คือ ColorOS 15 ของ OPPO และ Funtouch OS 15 ของ vivo ครับ ซึ่งทั้งสองค่ายก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน

• ColorOS 15: ขึ้นชื่อเรื่องความลื่นไหล, เสถียร, และหน้าตาที่ดูสะอาดตาแต่ปรับแต่งได้เยอะ มีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกมากมาย เช่น Smart Sidebar, Flexible Windows สำหรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน และฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวที่แข็งแกร่ง สำหรับใครที่อยากรู้ว่า ColorOS คืออะไร ดีไหม ก็สามารถหาคำตอบได้ครับ โดยรวมแล้ว ColorOS ให้ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับ Pure Android แต่เพิ่มฟีเจอร์ที่มีประโยชน์เข้ามาอย่างลงตัว
• Funtouch OS 15: ในเวอร์ชันหลังๆ Funtouch OS ได้รับการปรับปรุงให้ดูเรียบง่ายและใช้งานง่ายขึ้นมาก มีจุดเด่นที่ Widget ที่สวยงามและปรับแต่งได้หลากหลาย, Animation ที่ลื่นไหล และฟีเจอร์สำหรับเกมเมอร์อย่าง Ultra Game Mode ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพของเครื่องและปิดกั้นการรบกวนขณะเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยม

ส่วนเรื่องการเชื่อมต่อนั้นทั้งคู่ก็ให้มาครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ 5G ของ OPPO และ vivo, Wi-Fi, Bluetooth เวอร์ชั่นล่าสุด และ NFC สำหรับการจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส ทำให้การใช้งานในยุคดิจิทัลเป็นไปอย่างราบรื่นครับ

มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ: OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 ในสายตา Tech Gurus

ประเมินคะแนนดาว: OPPO Reno14 Pro

รวบรวมรีวิวสั้นๆ จากผู้ใช้งาน OPPO Reno14 Pro

ประเมินคะแนนดาว: vivo V60

รวบรวมรีวิวสั้นๆ จากผู้ใช้งาน vivo V60

บทสรุป: เลือกใครดีระหว่าง OPPO Reno14 Pro vs vivo V60?

เดินทางมาถึงบทสรุปของการเปรียบเทียบมวยคู่เอก OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 กันแล้วนะครับ ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ น่าจะได้เห็นภาพรวมและจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละรุ่นกันไปอย่างละเอียดแล้ว ซึ่งผมขอสรุปง่ายๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจครั้งสุดท้ายดังนี้ครับ

สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครดีกว่าใครอย่างสมบูรณ์แบบครับ ทั้ง OPPO Reno14 Pro vs vivo V60 ต่างก็เป็นสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมในแบบของตัวเอง การเลือกซื้อมือถือสักเครื่องก็เหมือนการเลือกคู่หู ที่จะมาช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของเราให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น บางทีอาจจะจับคู่กับ Smart Watch ยี่ห้อไหนดี สักเรือน หรือ หูฟังบลูทูธดีๆ สักอัน เพื่อสร้าง Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบก็เป็นไอเดียที่ดีนะครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกสมาร์ทโฟนที่ถูกใจได้ง่ายขึ้นนะครับ!