10 สุดยอด หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 อัปเดตล่าสุด! เสียงดี ไมค์ชัด ประชุมลื่น ฟังเพลงฟิน

รูปหน้าปกบทความ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี 2025 แสดงหูฟังหลายรุ่นดีไซน์ทันสมัยสำหรับเปรียบเทียบเลือกซื้อ

บทนำ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ! เคยเป็นกันไหมครับ เวลาจะประชุมออนไลน์ คุยงานกับลูกค้า หรือแม้กระทั่งอยากจะดำดิ่งไปในโลกของเกมโปรด แต่เสียงรอบข้างนี่สิ ทั้งเสียงรถ เสียงคนคุยกัน หรือเสียงก่อสร้างข้างบ้าน มันดังเข้ามาป่วนสมาธิซะหมด ทำให้การสื่อสารติดขัด ฟังไม่รู้เรื่อง พูดไปเขาก็ไม่ได้ยิน ชวนให้หงุดหงิดใจสุด ๆ เลยใช่ไหมครับ ปัญหานี้แก้ได้ไม่ยากเลยครับ แค่มี หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี สักตัว โลกทั้งใบก็จะเงียบสงบทันที! ผมเข้าใจดีเลยครับว่าการเลือกซื้อหูฟังสักตัวมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะในตลาดมีให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น แล้วแต่ละรุ่นก็มีฟีเจอร์เด็ด ๆ มาแข่งกันอีก ทำให้หลายคนเกิดคำถามคาใจว่า แล้วสรุปจะเลือก หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่จะตอบโจทย์เราได้ลงตัวที่สุด ทั้งเรื่องคุณภาพเสียง ความเทพของระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) และที่สำคัญคือคุณภาพของไมโครโฟนที่ต้องคมชัด ไม่ใช่พูดไปแล้วปลายสายได้ยินแต่เสียงลม

วันนี้ผมเลยขออาสาเป็นเพื่อนซี้คู่คิด จัดเต็มรีวิว 10 อันดับ “หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2025” มาให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันแบบเจาะลึกทุกมิติครับ เราจะไม่ได้มาคุยกันแค่เรื่องสเปกบนกระดาษ แต่จะพาไปดูถึงฟีลลิ่งการใช้งานจริง ว่าแต่ละรุ่นใส่สบายไหม แบตเตอรี่อึดแค่ไหน เสียงไมค์เวลาคุยเป็นยังไง เหมาะกับการทำงาน เล่นเกม หรือฟังเพลงมากกว่ากัน บทความนี้ผมตั้งใจรวบรวมข้อมูลจากทุกแหล่งที่น่าเชื่อถือ ทั้งรีวิวจากต่างประเทศ และเสียงจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุดในการตัดสินใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานออฟฟิศที่ต้อง Work from Home, เป็นเกมเมอร์ที่ต้องการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมแบบไม่มีสะดุด หรือเป็นคนที่รักการฟังเพลงแบบส่วนตัวในทุกการเดินทาง รับรองว่าอ่านจบคุ้มค่าแน่นอนครับ เพราะการลงทุนกับ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี สักตัว มันคือการลงทุนเพื่อความสงบสุขและประสิทธิภาพในการทำงานระยะยาวเลยทีเดียวครับ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูตารางเปรียบเทียบกันก่อนเลย!

🦉 เลือกอ่านหัวข้อ

จัดอันดับ 10 สุดยอด หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2025

ก่อนจะไปเจาะลึกกันทีละรุ่นว่า หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่จะใช่สำหรับคุณ ลองมาดูตารางเปรียบเทียบภาพรวมของทั้ง 10 อันดับที่เราคัดมาให้กันก่อนเลยครับ จะได้เห็นสเปกเด่นและคะแนนกันแบบชัด ๆ ไปเลย!

ตารางเปรียบเทียบสรุป

คุณสมบัติ Sony WH-1000XM6 Bose QuietComfort Ultra Sennheiser Momentum 4 Apple AirPods Max Bowers & Wilkins Px7 S3 Sonos Ace Sony WH-CH720N Jabra Evolve2 85 Bose QuietComfort Ultra Earbuds Sony WF-1000XM5
อันดับที่ 🥇 🥈 🥉 4 5 6 7 8 9 10
รูปภาพสินค้า Sony WH-1000XM6 Bose QuietComfort Ultra Headphones Sennheiser Momentum 4 Wireless Apple AirPods Max Bowers & Wilkins Px7 S3 Sonos Ace Sony WH-CH720N Jabra Evolve2 85 Bose QuietComfort Ultra Earbuds Sony WF-1000XM5
ชื่อสินค้า (กดเพื่อเลื่อนไปดูรายละเอียด) Sony WH-1000XM6 Bose QC Ultra Headphones Sennheiser Momentum 4 Apple AirPods Max B&W Px7 S3 Sonos Ace Sony WH-CH720N Jabra Evolve2 85 Bose QC Ultra Earbuds Sony WF-1000XM5
สเปกเด่น ANC ตัวท็อป, Hi-Res Audio, ไมค์ AI 8 ตัว, Speak-to-Chat, แบต 30 ชม. Immersive Audio, CustomTune, ANC ระดับโลก, ไมค์คมชัด, ดีไซน์พรีเมียม แบต 60 ชม., Adaptive ANC, Sound Personalization, ดีไซน์มินิมอล Spatial Audio, Adaptive EQ, ANC สุดเทพ, Transparency Mode, วัสดุพรีเมียม ไดรเวอร์ 40mm, aptX Adaptive, Hybrid ANC, ไมค์ 6 ตัว, แบต 30 ชม. Lossless Audio, Dynamic Head Tracking, Aware Mode, เชื่อมต่อ Sonos Soundbar น้ำหนักเบา, Dual Noise Sensor, DSEE, แบต 35 ชม., Multipoint ไมค์ 10 ตัว, Digital Hybrid ANC, แขนไมค์พับเก็บได้, Busylight, แบต 37 ชม. ANC ดีที่สุดใน Earbuds, Immersive Audio, ไมค์แยกเสียง, ดีไซน์กะทัดรัด ANC ระดับเรือธง, Dynamic Driver X, ไมค์ AI Bone Conductor, Hi-Res Audio
คะแนน ★★★★★ (9.8/10) ★★★★★ (9.7/10) ★★★★★ (9.5/10) ★★★★☆ (9.3/10) ★★★★☆ (9.1/10) ★★★★☆ (9.0/10) ★★★★☆ (8.8/10) ★★★★☆ (8.7/10) ★★★★☆ (8.6/10) ★★★★☆ (8.5/10)
เหมาะกับใคร คนที่ต้องการที่สุดของ ANC และคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res คนที่เน้นความสบายและประสบการณ์เสียงสมจริง Audiophile ที่ต้องการแบตเตอรี่อึดที่สุดในตลาด ผู้ใช้งานใน Apple Ecosystem ที่ต้องการความพรีเมียม คนที่ชอบดีไซน์หรูหราและเสียงที่เป็นธรรมชาติ แฟน Sonos และคนรักการดูหนังแบบโฮมเธียเตอร์ ผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการหูฟัง ANC คุ้มค่า มืออาชีพที่ต้องการหูฟังสำหรับการประชุมโดยเฉพาะ คนที่ต้องการ ANC ระดับท็อปในรูปแบบ Earbuds คนที่ต้องการ Earbuds คุณภาพเสียง Hi-Res และไมค์เทพ
เช็กราคาล่าสุด

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

1. Sony WH-1000XM6 ★★★★★

“ราชาแห่งความเงียบสงบตัวจริง เสียงระดับ Hi-Res ไมค์คมชัดด้วย AI นี่คือคำตอบสุดท้ายสำหรับคนที่ถามว่าหูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี”

Sony WH-1000XM6

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าจะให้พูดถึงตัวจบของวงการหูฟังตัดเสียงรบกวน ชื่อของ Sony ซีรีส์ 1000X ต้องโผล่ขึ้นมาเป็นชื่อแรก ๆ อย่างแน่นอนครับ และสำหรับปี 2025 นี้ Sony WH-1000XM6 ก็กลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้งแบบสมศักดิ์ศรี มันคือคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับใครก็ตามที่กำลังค้นหาว่า หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี เพราะ Sony จัดเต็มเทคโนโลยีมาให้แบบไม่กั๊ก ทั้งระบบตัดเสียงรบกวนที่ฉลาดและเงียบกว่าเดิมด้วยโปรเซสเซอร์คู่และไมโครโฟน 8 ตัว คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio Wireless ที่จะทำให้คุณได้ยินทุกรายละเอียดของเพลง และที่สำคัญคือไมโครโฟนที่ใช้ AI ช่วยตัดเสียงรอบข้าง ทำให้การคุยโทรศัพท์หรือประชุมออนไลน์ของคุณคมชัดราวกับนั่งคุยอยู่ข้าง ๆ กันเลยครับ

สเปกเด่น

  • ระบบตัดเสียงรบกวน: HD Noise Cancelling Processor QN2 และ Integrated Processor V2 พร้อมไมโครโฟน 8 ตัว
  • คุณภาพเสียง: Hi-Res Audio และ Hi-Res Audio Wireless (LDAC), DSEE Extreme
  • ไมโครโฟน: เทคโนโลยี Precise Voice Pickup พร้อม AI-based noise reduction
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 30 ชั่วโมง (เปิด ANC), ชาร์จเร็ว 3 นาที ฟังได้ 3 ชั่วโมง
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3, Multipoint Connection (เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน)
  • ฟีเจอร์อัจฉริยะ: Speak-to-Chat, Adaptive Sound Control, Quick Attention Mode
จุดเด่น
  • ระบบตัดเสียงรบกวนดีที่สุดในตลาด
  • คุณภาพเสียงยอดเยี่ยมระดับ Hi-Res
  • ไมโครโฟนคมชัดมาก ตัดเสียงรอบข้างได้เนียน
  • ฟีเจอร์อัจฉริยะใช้งานได้จริงและสะดวก
  • น้ำหนักเบา สวมใส่สบายเป็นเวลานาน
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูงกว่าคู่แข่งบางรุ่น
  • ดีไซน์อาจจะดูคล้ายกับรุ่นก่อนหน้าไปบ้าง

รีวิวแบบเจาะลึก

สิ่งที่ทำให้ WH-1000XM6 โดดเด่นและเป็นคำตอบแรก ๆ ของคำถามที่ว่า หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ก็คือเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน (ANC) ที่ Sony พัฒนามาถึงจุดที่เรียกได้ว่าไร้เทียมทาน ด้วยการทำงานร่วมกันของโปรเซสเซอร์ 2 ตัว (QN2 และ V2) และไมโครโฟนถึง 8 ตัว ทำให้มันสามารถวิเคราะห์และสร้างคลื่นเสียงหักล้างเสียงรบกวนภายนอกได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องยนต์บนเครื่องบิน เสียงจอแจในร้านกาแฟ หรือเสียงคีย์บอร์ดในออฟฟิศ ทุกอย่างจะถูกลดทอนลงจนเหลือเพียงความเงียบสงบ ให้คุณได้โฟกัสกับงานหรือดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Adaptive Sound Control ที่จะปรับระดับการตัดเสียงรบกวนให้เข้ากับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมของคุณโดยอัตโนมัติ เช่น เมื่อคุณกำลังเดินอยู่ข้างถนน หูฟังจะยอมให้เสียงรอบข้างเข้ามาเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัย แต่เมื่อคุณนั่งลงบนรถไฟฟ้า มันก็จะเข้าสู่โหมดตัดเสียงรบกวนเต็มรูปแบบทันที ซึ่งเป็นความฉลาดที่ทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันสะดวกสบายมาก ๆ ครับ เหมาะมากกับการใช้งานร่วมกับ Laptop คู่ใจของคุณ

ในด้านคุณภาพเสียง Sony WH-1000XM6 รองรับการฟังเพลงแบบ Hi-Res Audio ทั้งแบบมีสายและไร้สายผ่าน Codec LDAC ที่สามารถส่งข้อมูลได้สูงกว่า Bluetooth ทั่วไปถึง 3 เท่า ทำให้คุณได้ยินรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเพลงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี DSEE Extreme ที่ใช้ AI เข้ามาช่วยอัปสเกลไฟล์เพลงดิจิทัลที่ถูกบีบอัดให้มีคุณภาพใกล้เคียงกับ Hi-Res มากขึ้น แต่จุดที่น่าประทับใจไม่แพ้กันคือคุณภาพของไมโครโฟนครับ ด้วยเทคโนโลยี Precise Voice Pickup ที่ใช้ไมโครโฟนหลายตัวร่วมกับ AI ในการแยกเสียงพูดของคุณออกจากเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้ปลายสายได้ยินเสียงของคุณชัดเจนและเป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะคุยงานท่ามกลางลมแรงหรือในที่ที่มีคนพลุกพล่าน ปัญหาสื่อสารไม่รู้เรื่องจะหมดไป นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ XM6 ไม่ใช่แค่หูฟังฟังเพลงที่ดีเยี่ยม แต่ยังเป็น หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับการทำงานในยุค Hybrid อย่างแท้จริง เมื่อรวมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง และดีไซน์ที่เบาสบาย ทำให้มันเป็นหนึ่งในหูฟังครอบหูที่สมบูรณ์แบบที่สุดในตลาดตอนนี้เลยครับ

คะแนนที่ได้

9.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ตัดเสียงรบกวนได้เงียบกริบเหมือนอยู่คนละโลกเลยค่ะ ไมค์ก็ชัดมาก ประชุมออนไลน์สบายสุด ๆ” – พลอย, อายุ 32
“เสียงดีมากครับ รายละเอียดมาครบทุกเม็ด ใส่ฟังเพลงบนเครื่องบินคือฟินจริง ๆ สมคำร่ำลือ” – เจมส์, อายุ 28


2. Bose QuietComfort Ultra Headphones ★★★★★

“ที่สุดของความสบายและเสียงที่สมจริง ดื่มด่ำไปกับโลกส่วนตัวด้วย ANC และ Immersive Audio ระดับตำนาน”

Bose QuietComfort Ultra Headphones

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้า Sony คือราชาแห่งเทคโนโลยี Bose ก็เปรียบเสมือนปรมาจารย์แห่งความสบายและคุณภาพเสียงที่เป็นธรรมชาติครับ และ Bose QuietComfort Ultra Headphones คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุด หากเพื่อน ๆ กำลังมองหาว่า หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นการสวมใส่ที่สบายที่สุดในโลก บอกเลยว่าต้องลองตัวนี้ครับ! Bose ขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบที่คำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์ ทำให้คุณสามารถใส่หูฟังตัวนี้ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่รู้สึกกดทับหรืออึดอัดเลย แต่ความพิเศษไม่ได้มีแค่นั้น เพราะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Bose Immersive Audio ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเสียงดนตรีกำลังบรรเลงอยู่รอบตัวคุณ ไม่ใช่แค่ในหู และแน่นอนว่าระบบตัดเสียงรบกวนของ Bose ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเบอร์ต้น ๆ ของวงการเช่นเคยครับ

สเปกเด่น

  • ระบบตัดเสียงรบกวน: World-class noise cancellation พร้อม Aware Mode และ ActiveSense
  • คุณภาพเสียง: Bose Immersive Audio, เทคโนโลยี CustomTune ปรับเสียงให้เหมาะกับหูแต่ละคน
  • ไมโครโฟน: ระบบไมโครโฟนที่แยกเสียงพูดได้อย่างแม่นยำ
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 24 ชั่วโมง (ปิด Immersive Audio), 18 ชั่วโมง (เปิด Immersive Audio)
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3, Snapdragon Sound with aptX Adaptive
  • วัสดุ: ดีไซน์พรีเมียม สวมใส่สบายเป็นพิเศษ
จุดเด่น
  • สวมใส่สบายที่สุดในตลาด ใส่ได้ทั้งวัน
  • Bose Immersive Audio ให้มิติเสียงที่น่าทึ่ง
  • ระบบตัดเสียงรบกวนประสิทธิภาพสูงมาก
  • ไมโครโฟนสนทนาคมชัดและเป็นธรรมชาติ
  • ดีไซน์สวยงามและใช้วัสดุระดับพรีเมียม
ข้อควรพิจารณา
  • แบตเตอรี่น้อยกว่าคู่แข่งระดับเดียวกัน
  • ราคาสูง แต่คุ้มค่ากับความสบายและคุณภาพ

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดขายหลักที่ทำให้ Bose QC Ultra Headphones แตกต่างจากคู่แข่งและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคำถาม หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี คือ “ความสบาย” และ “Bose Immersive Audio” ครับ เริ่มจากความสบายก่อนเลย วัสดุที่ใช้ทำ Earcup นุ่มมากและมีแรงกดที่พอดี ไม่บีบหูหรือศีรษะ ทำให้การใส่ทำงานหรือดูหนังนาน ๆ หลายชั่วโมงเป็นเรื่องที่สบายมาก ๆ ส่วน Bose Immersive Audio นั้นเป็นเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทางที่น่าทึ่งมากครับ มันใช้ Head Tracking เพื่อสร้างเวทีเสียงที่กว้างและสมจริง เหมือนกับเราไปนั่งฟังดนตรีสดหรืออยู่ในโรงหนังเลยทีเดียว ซึ่งมีให้เลือก 2 โหมดคือ ‘Still’ สำหรับการนั่งฟังนิ่ง ๆ และ ‘Motion’ ที่จะปรับทิศทางเสียงตามการหันศีรษะของเรา เหมาะมากกับการดูหนังหรือเล่นเกมบน แท็บเล็ต รุ่นโปรดของคุณ ควบคู่ไปกับเทคโนโลยี CustomTune ที่จะวิเคราะห์รูปทรงของช่องหูและปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคนโดยเฉพาะ ทำให้เสียงที่ได้ยินมีรายละเอียดและเบสที่ลงตัวที่สุดสำหรับคุณ

แน่นอนว่าเรื่องการตัดเสียงรบกวนยังคงเป็นมาตรฐานของ Bose ที่ทำได้ดีเยี่ยม สามารถจัดการกับเสียงย่านต่ำและย่านกลางได้อย่างหมดจด สร้างโลกส่วนตัวให้คุณได้ในทันที นอกจากนี้ Aware Mode ก็ทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก สามารถฟังเสียงรอบข้างไปพร้อมกับเสียงเพลงได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด และมี ActiveSense ที่จะช่วยลดเสียงดังที่เกิดขึ้นกะทันหันโดยอัตโนมัติ ในส่วนของไมโครโฟน Bose ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ ระบบไมโครโฟนสามารถจับเสียงพูดได้ชัดเจนและตัดเสียงรบกวนรอบ ๆ ออกไปได้ดีมาก ทำให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าคุณจะใช้คุยงานผ่าน สมาร์ทโฟน หรือประชุมออนไลน์ก็ตาม แม้ว่าแบตเตอรี่ 24 ชั่วโมงอาจจะดูน้อยกว่าคู่แข่งไปบ้าง แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญกับความสบายในการสวมใส่และประสบการณ์เสียงที่ดื่มด่ำเหนือระดับ Bose QC Ultra Headphones คือ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่จะทำให้คุณไม่อยากถอดมันออกเลยครับ

คะแนนที่ได้

9.7/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใส่สบายมากกกก! สมคำร่ำลือจริง ๆ ค่ะ ใส่นั่งทำงานทั้งวันไม่ปวดหูเลย เสียง Immersive Audio คือดีงามมาก” – มิ้นท์, อายุ 29
“ตัดเสียงดีมากครับ ไมค์ก็ชัดเจน เพื่อนร่วมงานชมว่าเสียงเคลียร์ขึ้นเยอะเลย” – อาร์ม, อายุ 35


3. Sennheiser Momentum 4 Wireless ★★★★★

“แบตอึด 60 ชั่วโมง! คุณภาพเสียงระดับ Audiophile ที่ปรับแต่งได้ดั่งใจ เพื่อคนรักเสียงเพลงตัวจริง”

Sennheiser Momentum 4 Wireless

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

หากคุณเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับ “คุณภาพเสียง” มาเป็นอันดับหนึ่ง และกำลังมองหา หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานจนลืมชาร์จไปเลย ต้องขอแนะนำ Sennheiser Momentum 4 Wireless เลยครับ! Sennheiser เป็นแบรนด์จากเยอรมนีที่ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างสรรค์อุปกรณ์เสียงระดับมืออาชีพ และ Momentum 4 ก็ได้สืบทอด DNA นั้นมาอย่างเต็มเปี่ยม ด้วย Signature Sound ที่เป็นเอกลักษณ์ ให้เสียงที่สมดุล เป็นธรรมชาติ เบสลงได้ลึกแต่ไม่บวม และเสียงสูงที่ใสสะอาด แต่ไฮไลท์เด็ดที่ทำให้ทุกคนต้องทึ่งคือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 60 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง! ใช่ครับ ฟังไม่ผิด 60 ชั่วโมง! ทำให้มันเป็นหูฟังที่เหมาะสุด ๆ สำหรับการเดินทางไกลหรือคนที่ไม่อยากชาร์จแบตบ่อย ๆ

สเปกเด่น

  • คุณภาพเสียง: Sennheiser Signature Sound, ไดรเวอร์ขนาด 42 มม., Sound Personalization
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 60 ชั่วโมง (เปิด ANC)
  • ระบบตัดเสียงรบกวน: Adaptive Noise Cancellation พร้อม Transparency Mode
  • ไมโครโฟน: ไมโครโฟน 2 ตัวต่อข้าง พร้อม beamforming ช่วยลดเสียงรบกวน
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.2, รองรับ Codec aptX Adaptive
  • ฟีเจอร์: Smart Pause, Auto On/Off
จุดเด่น
  • แบตเตอรี่อึดที่สุดในคลาส ใช้งานได้ถึง 60 ชั่วโมง
  • คุณภาพเสียงยอดเยี่ยมสมชื่อ Sennheiser
  • ปรับแต่ง EQ และสร้างโปรไฟล์เสียงส่วนตัวได้
  • สวมใส่สบายและมีดีไซน์ที่เรียบหรู
  • ไมโครโฟนคุณภาพดีสำหรับการสนทนา
ข้อควรพิจารณา
  • ระบบตัดเสียงรบกวนยังไม่เงียบเท่า Sony หรือ Bose
  • เคสใส่หูฟังมีขนาดค่อนข้างใหญ่

รีวิวแบบเจาะลึก

หัวใจของ Momentum 4 คือคุณภาพเสียงที่โดดเด่นครับ Sennheiser ใช้ไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 42 มม. ที่ปรับจูนมาอย่างดี ทำให้ได้ซาวด์สเตจที่กว้างและรายละเอียดเสียงที่ครบถ้วน ไม่ว่าคุณจะฟังเพลงแนวไหน ตั้งแต่คลาสสิก แจ๊ส ไปจนถึงร็อกหนัก ๆ หูฟังตัวนี้ก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของเพลงออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือแอป Smart Control ที่ให้คุณปรับแต่งเสียงได้อย่างอิสระผ่าน Equalizer หรือจะใช้ฟีเจอร์ Sound Personalization ที่จะช่วยสร้างโปรไฟล์เสียงที่เหมาะกับรสนิยมการฟังของคุณโดยเฉพาะก็ได้เช่นกัน นี่คือจุดที่ทำให้ Momentum 4 เป็น หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่คนรักเสียงเพลงจะต้องหลงรักครับ นอกจากเสียงเพลงแล้ว การดูหนังผ่าน Soundbar ที่บ้านแล้วสลับมาใช้หูฟังตัวนี้ก็ยังให้ประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมไม่แพ้กัน เพราะรองรับ Codec aptX Adaptive ที่ช่วยลดความหน่วงของเสียง ทำให้เสียงกับภาพตรงกันเป๊ะ

แม้ว่าระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Adaptive ของ Momentum 4 อาจจะยังไม่เงียบสนิทเท่ากับคู่แข่งตัวท็อปอย่าง Sony หรือ Bose แต่ก็ถือว่าทำได้ดีมากพอที่จะตัดเสียงรบกวนในชีวิตประจำวันออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณมีสมาธิกับการทำงานหรือฟังเพลงได้สบาย ๆ ส่วนไมโครโฟนที่ให้มาก็มีคุณภาพที่ดีครับ ด้วยระบบ beamforming ที่ช่วยโฟกัสการรับเสียงที่ปากของเราและลดเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้การคุยโทรศัพท์หรือประชุมออนไลน์มีความชัดเจน แต่สิ่งที่ต้องย้ำอีกครั้งคือเรื่องแบตเตอรี่ครับ การใช้งานได้ถึง 60 ชั่วโมงนั้นเป็นอะไรที่เปลี่ยนประสบการณ์การใช้หูฟังไร้สายไปเลย คุณสามารถพกมันไปเที่ยวได้เป็นสัปดาห์โดยไม่ต้องพกสายชาร์จไปด้วยซ้ำ และด้วยดีไซน์ที่เปลี่ยนมาเป็นแบบมินิมอลมากขึ้น ทำให้มันดูเรียบหรูและเข้ากับการแต่งตัวได้ง่าย ดังนั้น ถ้าคุณคือคนที่อยากได้สุดยอดคุณภาพเสียงและแบตเตอรี่ที่อึดจนลืมโลก นี่คือ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่สร้างมาเพื่อคุณเลยครับ หรือถ้าอยากได้เสียงกระหึ่มกว่านี้ลองดู ลําโพงบลูทูธ เพิ่มเติมก็ได้ครับ

คะแนนที่ได้

9.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“แบตอึดมากกกก! ชาร์จทีเดียวใช้ไปเลยเป็นอาทิตย์ เสียงก็ดีมากสมชื่อ Sennheiser เลยค่ะ” – ฝน, อายุ 34
“ชอบที่ปรับ EQ ได้ละเอียดดีครับ ทำให้ฟังเพลงได้สนุกขึ้นเยอะเลย ไมค์ก็ชัดใช้คุยงานได้สบาย ๆ” – นนท์, อายุ 27


4. Apple AirPods Max ★★★★☆

“ประสบการณ์ระดับพรีเมียมสำหรับสาวก Apple เชื่อมต่อไร้รอยต่อ เสียง Spatial Audio สุดล้ำ และดีไซน์ที่แตกต่าง”

Apple AirPods Max

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับชาวสวนแอปเปิ้ล (Apple Ecosystem) ที่ใช้อุปกรณ์อย่าง iPhone, iPad, หรือ Macbook เป็นหลัก คงไม่มีตัวเลือกไหนที่จะตอบโจทย์ได้ดีไปกว่า Apple AirPods Max อีกแล้วครับ จุดเด่นที่สุดของมันคือการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Apple ได้อย่างราบรื่นและมหัศจรรย์ การสลับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ทำได้แบบอัตโนมัติและรวดเร็วมาก นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่โดดเด่น ใช้วัสดุระดับพรีเมียมอย่างอลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ทำให้มันดูหรูหราและแตกต่างจากหูฟังทั่วไปในตลาด แต่แน่นอนว่าคุณภาพเสียงและการตัดเสียงรบกวนก็อยู่ในระดับท็อปคลาสเช่นกัน โดยเฉพาะฟีเจอร์ Spatial Audio ที่จะทำให้การดูหนังหรือฟังเพลงของคุณสมจริงไปอีกระดับ

สเปกเด่น

  • คุณภาพเสียง: Spatial Audio พร้อม Dynamic Head Tracking, Adaptive EQ
  • ระบบตัดเสียงรบกวน: Active Noise Cancellation ระดับแนวหน้า, Transparency Mode ที่ดีที่สุด
  • ชิปประมวลผล: Apple H1 chip (ในแต่ละข้าง)
  • การเชื่อมต่อ: Seamless switching ระหว่างอุปกรณ์ Apple
  • ไมโครโฟน: ไมโครโฟน 9 ตัว (8 ตัวสำหรับ ANC, 3 ตัวสำหรับรับเสียงพูด)
  • วัสดุ: Anodized aluminum earcups, Knit mesh canopy
จุดเด่น
  • ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Apple ได้ดีที่สุด
  • คุณภาพเสียง Spatial Audio น่าทึ่งมาก
  • ระบบตัดเสียงรบกวนและ Transparency Mode ดีเยี่ยม
  • วัสดุและการประกอบพรีเมียม แข็งแรงทนทาน
  • Digital Crown ใช้งานง่ายและแม่นยำ
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูงมาก
  • น้ำหนักค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
  • Smart Case ไม่ได้ให้การป้องกันมากนัก
  • ใช้พอร์ต Lightning แทนที่จะเป็น USB-C

รีวิวแบบเจาะลึก

ถ้าคุณเป็นคนที่อยู่ใน Apple Ecosystem อยู่แล้ว AirPods Max จะมอบประสบการณ์ที่หูฟังยี่ห้ออื่นให้ไม่ได้ครับ ด้วยชิป H1 ที่อยู่ใน Earcup แต่ละข้าง ทำให้การเชื่อมต่อและการสลับอุปกรณ์เป็นไปอย่างอัตโนมัติ แค่หยิบ iPad ขึ้นมาดูหนัง เสียงก็จะสลับไปที่ iPad ทันที หรือถ้ามีสายเข้าที่ iPhone หูฟังก็จะสลับกลับมาให้เองโดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย และเมื่อพูดถึงการดูหนัง ฟีเจอร์ Spatial Audio พร้อม Dynamic Head Tracking คือที่สุดของความสมจริง มันจะติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะคุณและปรับทิศทางของเสียงให้สัมพันธ์กับหน้าจอ ทำให้รู้สึกเหมือนเสียงออกมาจากลำโพงรอบทิศทางจริง ๆ สำหรับคำถามที่ว่า หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี สำหรับการดูหนัง บอกเลยว่า AirPods Max คือหนึ่งในคำตอบที่ดีที่สุดครับ ส่วนคุณภาพเสียงในการฟังเพลงก็ทำได้ดีมากด้วย Adaptive EQ ที่จะปรับเสียงให้เข้ากับรูปทรงของหูและการซีลของ Earcup ทำให้ได้เสียงที่เต็มอิ่มและมีรายละเอียดที่ดีเสมอ

ในด้านการตัดเสียงรบกวน AirPods Max ทำได้ดีมาก ๆ สามารถบล็อกเสียงจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ที่โดดเด่นกว่าใครคือ Transparency Mode (โหมดฟังเสียงภายนอก) ที่ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดในตลาด เหมือนกับว่าคุณไม่ได้ใส่หูฟังอยู่เลย ทำให้สามารถพูดคุยกับคนอื่นได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องถอดหูฟัง ส่วนคุณภาพไมโครโฟนก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน สามารถรับเสียงพูดได้คมชัดและตัดเสียงรบกวนได้ดี ทำให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการทำงาน แม้ว่าน้ำหนักที่มากกว่าคู่แข่งและราคาที่สูงอาจจะเป็นจุดที่ต้องพิจารณา แต่ถ้าคุณคือสาวก Apple ที่ต้องการประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อและคุณภาพระดับพรีเมียมในทุก ๆ ด้าน AirPods Max คือ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่จะเติมเต็ม Ecosystem ของคุณให้สมบูรณ์แบบครับ

คะแนนที่ได้

9.3/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใช้กับ iPhone, iPad, Mac คือสะดวกสุดๆ สลับไปมาเองอัตโนมัติเลยค่ะ เสียงตอนดูหนังคือดีมาก เหมือนอยู่ในโรงหนัง” – แอปเปิ้ล, อายุ 30
“วัสดุดีมากครับ สมราคา ถึงจะหนักไปหน่อยแต่ใส่แล้วไม่ปวดหัวเลย Transparency Mode คือที่สุดจริง ๆ” – ไท, อายุ 38


5. Bowers & Wilkins Px7 S3 ★★★★☆

“หูฟังสำหรับนักฟังระดับ Hi-Fi ดีไซน์หรูหรา เสียงเป็นธรรมชาติและทรงพลัง”

Bowers & Wilkins Px7 S3

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

หากคุณเป็นคนที่หลงใหลในเสียงดนตรีคุณภาพสูง และมองว่าหูฟังไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์ แต่เป็นเหมือนเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่สะท้อนรสนิยม Bowers & Wilkins Px7 S3 คือคำตอบที่ใช่เลยครับ B&W เป็นแบรนด์เครื่องเสียงไฮเอนด์จากอังกฤษที่มีชื่อเสียงมายาวนาน และ Px7 S3 ก็ถูกสร้างขึ้นมาด้วยมาตรฐานเดียวกัน ด้วยดีไซน์ที่หรูหราใช้วัสดุพรีเมียมอย่างผ้าและโลหะ ทำให้มันดูดีมีระดับ แต่หัวใจสำคัญของมันคือคุณภาพเสียงที่ถูกปรับจูนมาอย่างพิถีพิถันโดยทีมวิศวกรเสียงระดับโลก ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติ มีไดนามิก และรายละเอียดที่คมชัด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟังเพลงในคุณภาพระดับสตูดิโอ นี่คือ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่จะยกระดับประสบการณ์การฟังของคุณไปอีกขั้น

สเปกเด่น

  • คุณภาพเสียง: ไดรเวอร์ custom-designed ขนาด 40 มม., รองรับ 24-bit high-resolution sound
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.2 พร้อม aptX Adaptive, สามารถใช้ USB-C เป็นหูฟังได้
  • ระบบตัดเสียงรบกวน: Hybrid Noise Cancellation
  • ไมโครโฟน: ไมโครโฟน 6 ตัว เพื่อคุณภาพการโทรที่คมชัด
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 30 ชั่วโมง, ชาร์จเร็ว 15 นาที ฟังได้ 7 ชั่วโมง
  • ดีไซน์: วัสดุพรีเมียม หรูหราและทนทาน
จุดเด่น
  • คุณภาพเสียงยอดเยี่ยม มีความเป็น Hi-Fi สูง
  • ดีไซน์สวยงามหรูหรา วัสดุพรีเมียม
  • รองรับ aptX Adaptive เพื่อการสตรีมเสียงคุณภาพสูง
  • แบตเตอรี่อึดและมีระบบชาร์จเร็ว
  • ไมโครโฟนสนทนาคมชัด
ข้อควรพิจารณา
  • การควบคุมยังเป็นแบบปุ่มกด ไม่ใช่ระบบสัมผัส
  • แอปพลิเคชันมีฟังก์ชันปรับแต่งไม่เยอะเท่าคู่แข่ง

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดเด่นที่สุดของ Px7 S3 คือ “เสียง” ครับ ไดรเวอร์ขนาด 40 มม. ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษนั้นถูกวางใน Earcup แบบทำมุมเล็กน้อยเพื่อสร้างเวทีเสียงที่กว้างและเป็นธรรมชาติ คล้ายกับการฟังจากลำโพง การันตีคุณภาพเสียงระดับ 24-bit Hi-Res ทำให้คุณได้ยินทุกรายละเอียดที่ศิลปินต้องการให้ได้ยิน เสียงเบสหนักแน่นแต่กระชับ เสียงกลางชัดเจนและเสียงสูงที่ทอดตัวไปได้ไกลโดยไม่บาดหู มันเป็นหูฟังที่ฟังเพลงได้สนุกทุกแนว และยังสามารถใช้เป็น USB DAC ได้ด้วยการเชื่อมต่อผ่านสาย USB-C เข้ากับคอมพิวเตอร์หรือ Gaming PC เพื่อฟังเสียงในคุณภาพสูงสุดโดยตรง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่นักฟังเพลงตัวจริงต้องชอบแน่นอนครับ นี่แหละคือคำตอบของ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี สำหรับสาย Audiophile ที่รักในเสียงดนตรี

ในส่วนของฟังก์ชันอื่น ๆ ระบบ Hybrid Noise Cancellation ก็ทำหน้าที่ได้ดี สามารถลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมได้ในระดับที่น่าพอใจ ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้โดยไม่มีอะไรมาขัดจังหวะ ไมโครโฟน 6 ตัวที่ให้มาก็ทำงานได้ดีเยี่ยมในการรับเสียงพูดและตัดเสียงรบกวน ทำให้การสนทนาทางโทรศัพท์มีความชัดเจนสูง แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ 30 ชั่วโมงก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป และยังมีระบบชาร์จเร็วที่สะดวกมาก ๆ แม้ว่าการควบคุมจะยังใช้ปุ่มกดแบบดั้งเดิมและแอปอาจจะไม่ได้มีลูกเล่นแพรวพราวเท่าแบรนด์อื่น แต่ถ้าคุณคือคนที่ไม่ต้องการความซับซ้อน แต่ต้องการคุณภาพเสียงและการออกแบบที่ยอดเยี่ยมเป็นหลัก Bowers & Wilkins Px7 S3 คือ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่จะมอบความสุขในการฟังเพลงให้กับคุณได้อย่างแน่นอนครับ นั่งฟังบน เก้าอี้เกมมิ่ง ตัวโปรดของคุณรับรองว่าฟินสุดๆ

คะแนนที่ได้

9.1/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ดีไซน์สวยมากค่ะ ดูแพงสุด ๆ เสียงก็ดีมาก ๆ ฟังเพลงแล้วเพราะขึ้นเยอะเลย” – โบว์, อายุ 31
“เสียงเป็นธรรมชาติมากครับ เบสไม่หนักเกินไป ฟังนาน ๆ ไม่ล้าหูเลย ไมค์ก็ชัดดีใช้ได้เลย” – ท็อป, อายุ 42


6. Sonos Ace ★★★★☆

“คู่หูโฮมเธียเตอร์ส่วนตัว สลับเสียงจากทีวีสู่หูฟังได้อย่างแนบเนียน พร้อมคุณภาพเสียงระดับ Lossless”

Sonos Ace

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับแฟน ๆ ของแบรนด์ Sonos หรือใครก็ตามที่รักการดูหนังฟังเพลงในบ้านเป็นชีวิตจิตใจ และกำลังมองหาว่า หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาเติมเต็มประสบการณ์ความบันเทิง ต้องนี่เลยครับ Sonos Ace! หูฟังตัวแรกจากแบรนด์เจ้าพ่อลำโพง Multi-room ที่ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะจุดเด่นของมันคือฟีเจอร์ TV Audio Swap ที่ให้คุณสลับเสียงจาก Sonos Soundbar มาที่หูฟังได้ในปุ่มเดียว! เหมาะมากสำหรับคอดึกที่อยากดูหนังแอ็กชันเสียงกระหึ่มโดยไม่รบกวนใคร นอกจากนี้ยังจัดเต็มเรื่องคุณภาพเสียงด้วย Lossless Audio ผ่านสาย USB-C และ Dynamic Head Tracking ที่จะทำให้เสียงโอบล้อมตัวคุณอย่างสมจริง

สเปกเด่น

  • คุณภาพเสียง: Custom-designed dynamic driver, Lossless and Spatial Audio
  • ฟีเจอร์เด่น: TV Audio Swap (ทำงานร่วมกับ Sonos Soundbar), Dynamic Head Tracking
  • ระบบตัดเสียงรบกวน: Active Noise Cancellation, Aware Mode
  • ไมโครโฟน: Beamforming microphones สำหรับการโทรที่คมชัด
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 30 ชั่วโมง (เปิด ANC), ชาร์จเร็ว 3 นาที ฟังได้ 3 ชั่วโมง
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.4, USB-C, Wi-Fi (สำหรับ TV Audio Swap)
จุดเด่น
  • ฟีเจอร์ TV Audio Swap เหมาะกับคนมี Sonos Soundbar มาก
  • คุณภาพเสียงยอดเยี่ยม รองรับ Lossless Audio
  • Dynamic Head Tracking ทำงานได้ดี ดูหนังสนุก
  • ดีไซน์พรีเมียม สวมใส่สบาย
  • แบตเตอรี่อึดและมีชาร์จเร็ว
ข้อควรพิจารณา
  • ฟีเจอร์เด่นต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์ Sonos อื่น ๆ
  • ราคาสูงเมื่อเทียบกับฟังก์ชันทั่วไป

รีวิวแบบเจาะลึก

Sonos Ace ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นแค่หูฟังตัดเสียงรบกวนทั่วไป แต่เป็นส่วนขยายของระบบนิเวศ Sonos ภายในบ้านครับ ใครที่มีซาวด์บาร์ Sonos Arc อยู่แล้วจะฟินมาก เพราะเพียงกดปุ่มเดียว เสียงจาก ทีวี ที่ดังกระหึ่มห้องก็จะย้ายมาอยู่ในหูฟังทันที พร้อมจำลองเสียงรอบทิศทางแบบ Dolby Atmos ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์โฮมเธียเตอร์ส่วนตัวแบบเต็มรูปแบบ นี่คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับคำถาม หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี สำหรับคนรักหนังตัวจริง ในด้านการฟังเพลงก็ไม่น้อยหน้า เพราะรองรับ Lossless Audio ผ่านการเชื่อมต่อ USB-C และ aptX Lossless ผ่าน Bluetooth ทำให้คุณได้ไฟล์เสียงคุณภาพสตูดิโอมาฟังแบบไร้สายได้อย่างเต็มอรรถรส

ตัวหูฟังเองมีระบบ Active Noise Cancellation ที่ทำได้ดีมาก สามารถสร้างความเงียบให้คุณได้ดื่มด่ำกับคอนเทนต์ตรงหน้าได้อย่างเต็มที่ และมี Aware Mode ที่ให้เสียงภายนอกเข้ามาอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนไมโครโฟนก็คมชัดเพียงพอสำหรับการคุยโทรศัพท์หรือประชุมเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ ดีไซน์ของ Sonos Ace มีความมินิมอลแต่หรูหรา ใช้วัสดุคุณภาพดีและมี Memory foam ที่นุ่มสบาย ทำให้ใส่ได้นานโดยไม่เจ็บหู แม้ว่าจุดเด่นที่สุดของมันจะเปล่งประกายเมื่อใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นของ Sonos แต่ด้วยคุณภาพเสียง การตัดเสียงรบกวน และความสบายในการสวมใส่ ก็ทำให้ Sonos Ace เป็น หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี อีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจมาก ๆ ในตลาดพรีเมียมครับ

คะแนนที่ได้

9.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ฟีเจอร์สลับเสียงกับซาวด์บาร์คือเด็ดมากค่ะ ชอบดูซีรีส์ดึก ๆ ไม่ต้องกลัวเสียงดังรบกวนใครแล้ว” – กิ๊ฟ, อายุ 33
“เสียงดีมากครับ ดีไซน์ก็สวย ใส่สบายดี ANC ก็เงียบใช้ได้เลย” – วิน, อายุ 36


7. Sony WH-CH720N ★★★★☆

“ตัวเลือกสุดคุ้ม! น้ำหนักเบาที่สุดในคลาส แบตอึด พร้อม ANC และไมค์คุณภาพเกินราคา”

Sony WH-CH720N

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ใครที่งบอาจจะไม่ถึงรุ่นเรือธง แต่ยังอยากได้หูฟังคุณภาพดีจากแบรนด์ที่ไว้ใจได้ และกำลังถามว่า หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่คุ้มค่าที่สุด ต้องมองมาที่ Sony WH-CH720N เลยครับ! รุ่นนี้ถือเป็นม้ามืดที่ให้ฟีเจอร์มาแบบจัดเต็มในราคาที่จับต้องได้ง่ายมาก จุดเด่นที่สุดของมันคือน้ำหนักที่เบาเพียง 192 กรัม ทำให้มันเป็นหนึ่งในหูฟังตัดเสียงรบกวนแบบครอบหูที่เบาที่สุดในตลาด ใส่สบายมาก ๆ แต่ถึงจะเบา สเปกก็ไม่เบาตามนะครับ เพราะใช้ชิป V1 ตัวเดียวกับที่อยู่ในรุ่นพี่อย่าง 1000XM5 มาช่วยเรื่องการตัดเสียงรบกวน แถมแบตเตอรี่ยังอึดถึง 35 ชั่วโมงอีกด้วย!

สเปกเด่น

  • ระบบตัดเสียงรบกวน: Dual Noise Sensor technology และ Integrated Processor V1
  • คุณภาพเสียง: DSEE (Digital Sound Enhancement Engine) ช่วยอัปสเกลเสียง
  • ไมโครโฟน: Beamforming microphone พร้อมเทคโนโลยี Precise Voice Pickup
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 35 ชั่วโมง (เปิด ANC)
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.2, Multipoint Connection
  • น้ำหนัก: 192 กรัม (เบาเป็นพิเศษ)
จุดเด่น
  • ราคาคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้
  • น้ำหนักเบาที่สุด ใส่สบาย ไม่กดทับ
  • แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ยาวนาน
  • คุณภาพไมโครโฟนดีเกินคาดในราคานี้
  • เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกันได้
ข้อควรพิจารณา
  • วัสดุเป็นพลาสติก อาจไม่ดูพรีเมียมเท่ารุ่นพี่
  • ระบบตัดเสียงรบกวนดี แต่ไม่เงียบเท่ารุ่นเรือธง

รีวิวแบบเจาะลึก

Sony WH-CH720N เป็นข้อพิสูจน์ว่าของดีไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไปครับ แม้ว่าระบบตัดเสียงรบกวนอาจจะไม่สามารถสู้กับรุ่นท็อปอย่าง 1000XM6 ได้ แต่ด้วยชิป V1 และเทคโนโลยี Dual Noise Sensor มันก็สามารถจัดการกับเสียงรบกวนในชีวิตประจำวันอย่างเสียงแอร์ หรือเสียงพูดคุยในออฟฟิศได้ดีเกินคาด ทำให้คุณสามารถทำงานหรือฟังเพลงได้อย่างมีสมาธิมากขึ้น ที่น่าประทับใจคือคุณภาพไมโครโฟนที่ Sony นำเทคโนโลยี Precise Voice Pickup มาใส่ให้ด้วย ทำให้เสียงพูดของคุณยังคงชัดเจนแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง ถือว่าเป็น หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับการ WFH และเรียนออนไลน์มาก ๆ ในงบประมาณที่ไม่บานปลาย

ในด้านเสียง แม้จะไม่รองรับ LDAC แต่ก็มี DSEE ที่ช่วยชดเชยรายละเอียดเสียงที่หายไปจากการบีบอัดไฟล์ ทำให้เสียงที่ได้ยังคงมีคุณภาพที่ดี ฟังสนุก และยังสามารถปรับ EQ เพิ่มเติมได้ในแอป Sony | Headphones Connect อีกด้วย แต่สิ่งที่ต้องชมจริง ๆ คือความสบายในการสวมใส่ ด้วยน้ำหนักที่เบามาก ๆ ทำให้แทบไม่รู้สึกเลยว่ามีหูฟังอยู่บนหัว สามารถใส่ได้ยาว ๆ ตลอดวันโดยไม่รู้สึกเมื่อยเลยครับ เมื่อรวมกับฟีเจอร์ Multipoint ที่เชื่อมต่อสลับระหว่าง โน๊ตบุ๊ค และมือถือได้อัตโนมัติ และแบตเตอรี่ที่อึดถึง 35 ชั่วโมง ทำให้ Sony WH-CH720N เป็น หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่ครบเครื่องและคุ้มค่าที่สุดสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงานที่ต้องการหูฟังคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผลครับ

คะแนนที่ได้

8.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เบามากกกก! ใส่แล้วสบายหัวสุดๆ เลยค่ะ ตัดเสียงได้ดีเกินราคาไปมาก คุ้มจริง ๆ ค่ะ” – จ๋า, อายุ 22
“ไมค์ชัดกว่าที่คิดไว้ครับ ใช้ประชุมออนไลน์ทุกวันไม่มีปัญหาเลย แบตก็อึดมากด้วย” – โอ๊ต, อายุ 26


8. Jabra Evolve2 85 ★★★★☆

“หูฟังสำหรับมืออาชีพตัวจริง ไมค์ 10 ตัว คุยชัดทุกสถานการณ์ พร้อมฟีเจอร์เพื่อการทำงานโดยเฉพาะ”

Jabra Evolve2 85

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้างานของคุณคือการประชุมออนไลน์ การคุยโทรศัพท์กับลูกค้า หรือต้องสื่อสารอย่างมืออาชีพตลอดทั้งวัน และคำถามของคุณคือ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่เกิดมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ คำตอบก็คือ Jabra Evolve2 85 ครับ! Jabra เป็นแบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์สื่อสารสำหรับองค์กรโดยเฉพาะ และ Evolve2 85 คือรุ่นเรือธงที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเพื่อการสนทนาที่เหนือกว่าใคร ด้วยไมโครโฟนมากถึง 10 ตัว และชิปเซ็ตประมวลผลเสียงดิจิทัลขั้นสูง ทำให้มันสามารถแยกเสียงพูดของคุณออกจากเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างเด็ดขาด พร้อมฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อชาวออฟฟิศอย่าง Busylight และแขนไมค์ที่พับเก็บได้อย่างแนบเนียน

สเปกเด่น

  • ไมโครโฟน: 10-microphone technology เพื่อความคมชัดสูงสุด
  • ระบบตัดเสียงรบกวน: Digital Hybrid Active Noise Cancellation (ANC)
  • ฟีเจอร์เพื่อการทำงาน: ก้านไมค์แบบพับเก็บได้, Busylight ไฟแสดงสถานะไม่ว่าง, Certified for Microsoft Teams
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 37 ชั่วโมง (ปิด ANC)
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0, USB-A/USB-C dongle, ช่องต่อ 3.5 มม.
  • ลำโพง: Leak-tolerant 40mm speakers
จุดเด่น
  • คุณภาพไมโครโฟนดีที่สุดสำหรับการสนทนา
  • มีก้านไมค์ช่วยให้รับเสียงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • ฟีเจอร์ Busylight มีประโยชน์มากในออฟฟิศ
  • ได้รับการรับรองสำหรับแพลตฟอร์มประชุมออนไลน์
  • แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ทั้งสัปดาห์ทำงาน
ข้อควรพิจารณา
  • คุณภาพเสียงในการฟังเพลงอาจไม่โดดเด่นเท่าคู่แข่ง
  • ราคาสูง เน้นกลุ่มผู้ใช้งานเฉพาะทาง

รีวิวแบบเจาะลึก

Jabra Evolve2 85 คือเครื่องมือทำมาหากินสำหรับคนที่ต้องสื่อสารเป็นหลักครับ สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจากหูฟัง ANC ทั่วไปคือระบบไมโครโฟน 10 ตัว ที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้าง “ห้องประชุมส่วนตัว” รอบตัวคุณ ไม่ว่าเพื่อนร่วมงานจะคุยกันเสียงดังแค่ไหน หรือคุณจะนั่งทำงานใน Co-working space ที่วุ่นวาย ปลายสายจะได้ยินเสียงคุณชัดเจนเหมือนนั่งอยู่ในห้องเงียบ ๆ และการที่มีก้านไมค์ (Boom arm) ที่สามารถเลื่อนลงมาไว้ใกล้ปากได้ ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความคมชัดและตัดเสียงลมได้ดียิ่งขึ้นไปอีก เมื่อไม่ได้ใช้งานก็สามารถพับเก็บเข้าไปใน Earcup ได้อย่างสวยงาม นี่คือความใส่ใจในรายละเอียดที่ทำให้มันเป็น หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี สำหรับคนทำงานอย่างแท้จริง

อีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ดคือ Busylight หรือไฟ LED สีแดงที่จะติดขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่อคุณกำลังใช้สาย เพื่อเป็นสัญญาณบอกเพื่อนร่วมงานว่า “ตอนนี้ไม่ว่างนะ!” ช่วยลดการถูกรบกวนได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก Microsoft Teams และแพลตฟอร์ม UC อื่น ๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในส่วนของ ANC ก็ทำได้ดีพอที่จะตัดเสียงรบกวนในออฟฟิศออกไปได้สบาย ๆ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ถึง 37 ชั่วโมงก็เหลือเฟือสำหรับการทำงานทั้งสัปดาห์ แม้ว่าคุณภาพเสียงในการฟังเพลงอาจจะไม่ใช่จุดเด่นที่สุดเมื่อเทียบกับแบรนด์สาย Audiophile แต่ถ้าโจทย์ของคุณคือการสื่อสารที่ชัดเจนและเป็นมืออาชีพที่สุด Jabra Evolve2 85 คือ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่ไม่มีใครเทียบได้ในสนามนี้ครับ

คะแนนที่ได้

8.7/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ไมค์ชัดมากค่ะ ลูกค้าไม่เคยบ่นเรื่องเสียงไม่ชัดอีกเลยตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้ตัวนี้ ไฟ Busylight ก็ช่วยได้เยอะเลยค่ะ” – นุ่น, อายุ 35 (ฝ่ายบริการลูกค้า)
“เป็นหูฟังประชุมที่ดีที่สุดที่เคยใช้มาครับ ก้านไมค์พับเก็บได้สะดวกดีมาก แบตก็อึดสุดๆ” – เอก, อายุ 40 (Project Manager)


9. Bose QuietComfort Ultra Earbuds ★★★★☆

“พลังแห่งความเงียบในขนาดพกพา ANC ดีที่สุดในโลก Earbuds พร้อมเสียง Immersive สุดล้ำ”

Bose QuietComfort Ultra Earbuds

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับคนที่ไม่ชอบความเทอะทะของหูฟังแบบครอบหู แต่อยากได้ประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนระดับเทพ Bose QuietComfort Ultra Earbuds คือคำตอบที่ใช่ที่สุดครับ! นี่คือ หูฟังไร้สาย TWS ที่ Bose กล้าเคลมว่ามีระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดในโลก และจากรีวิวทั่วโลกก็ต้องยอมรับว่ามันทำได้จริง ๆ ครับ ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก แต่กลับสามารถสร้างโลกที่เงียบสงบให้คุณได้ไม่แพ้หูฟังรุ่นใหญ่เลย นอกจากนี้ยังยกเทคโนโลยี Immersive Audio และ CustomTune มาจากรุ่นพี่แบบครอบหูด้วย ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่สงสัยว่า หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ในรูปแบบ Earbuds

สเปกเด่น

  • ระบบตัดเสียงรบกวน: World-class noise cancellation พร้อม CustomTune technology
  • คุณภาพเสียง: Bose Immersive Audio, ActiveSense technology
  • ไมโครโฟน: ไมโครโฟนที่ตัดเสียงรบกวนได้อย่างน่าทึ่ง
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 6 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง), รวมเคส 24 ชั่วโมง
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3, Snapdragon Sound with aptX Adaptive
  • ดีไซน์: สวมใส่กระชับด้วยจุกหูฟังและ Stability bands
จุดเด่น
  • ระบบตัดเสียงรบกวนดีที่สุดในบรรดา Earbuds
  • Bose Immersive Audio ให้เสียงที่สมจริง
  • สวมใส่สบายและกระชับ ไม่หลุดง่าย
  • คุณภาพไมโครโฟนดีเยี่ยมสำหรับการโทร
  • ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
ข้อควรพิจารณา
  • แบตเตอรี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งไม่สูงมาก
  • เคสชาร์จยังไม่รองรับ Wireless Charging ในตัว

รีวิวแบบเจาะลึก

Bose QC Ultra Earbuds ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการหูฟัง TWS ในเรื่องการตัดเสียงรบกวนครับ มันสามารถจัดการกับเสียงได้ทุกย่านความถี่ ตั้งแต่เสียงฮัมต่ำ ๆ ของเครื่องปรับอากาศ ไปจนถึงเสียงพูดคุยที่จอแจได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากเทคโนโลยี CustomTune ที่ไม่เพียงแต่ปรับเสียงให้เหมาะกับหูของคุณ แต่ยังปรับประสิทธิภาพของ ANC ให้ดีที่สุดด้วย ทำให้คุณสามารถดื่มด่่ำกับเสียงเพลงหรือพอดแคสต์ได้อย่างเต็มที่แม้จะอยู่บนรถไฟฟ้าที่คนแน่น ๆ ก็ตาม และเมื่อต้องการได้ยินเสียงรอบข้าง Aware Mode ก็ทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก ๆ ทำให้เป็น หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองที่ต้องการความคล่องตัวสูง

เรื่องเสียงก็ไม่ธรรมดา ด้วย Bose Immersive Audio ที่ทำให้เสียงมีมิติและเวทีเสียงที่กว้างขึ้น เหมือนมีลำโพงเล็ก ๆ มาเล่นอยู่รอบหูคุณ เหมาะมากกับการดูหนังหรือฟังเพลงที่บันทึกมาในระบบเสียงรอบทิศทาง ในส่วนของไมโครโฟน Bose ก็ทำการบ้านมาดีมาก สามารถแยกเสียงพูดออกจากเสียงรบกวนรอบข้างได้ดี ทำให้การคุยโทรศัพท์ในที่ที่มีลมแรงหรือเสียงดังยังคงชัดเจน นอกจากนี้ดีไซน์ของจุกหูฟังและ Stability bands ที่ให้มาหลายขนาดก็ช่วยให้สวมใส่ได้กระชับและสบาย ไม่ต้องกลัวหลุดร่วง แม้ว่าแบตเตอรี่ 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จอาจจะดูเป็นรองคู่แข่งไปบ้าง แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญกับ ANC ที่ดีที่สุดในขนาดที่เล็กที่สุด Bose QC Ultra Earbuds คือผู้ชนะอย่างไร้ข้อกังขาครับ

คะแนนที่ได้

8.6/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ANC คือเงียบจริง ๆ ค่ะ ไม่คิดว่าหูฟังตัวเล็กแค่นี้จะทำได้ขนาดนี้ ใส่วิ่งแล้วก็ไม่หลุดด้วยค่ะ” – เมย์, อายุ 25
“เสียงดีมากครับ โดยเฉพาะโหมด Immersive Audio ไมค์ก็ชัดดี แฟนบอกว่าเสียงเคลียร์กว่าหูฟังตัวเก่าเยอะเลย” – บอย, อายุ 31


10. Sony WF-1000XM5 ★★★★☆

“ที่สุดของ Earbuds สำหรับคนรักเสียงเพลง ANC ระดับท็อป ไมค์ AI สุดล้ำ ในดีไซน์ที่เล็กลงและสบายขึ้น”

Sony WF-1000XM5

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ปิดท้ายลิสต์ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี กันด้วยอีกหนึ่งสุดยอด Earbuds จาก Sony อย่าง WF-1000XM5 ครับ! ถ้า Bose คือเจ้าแห่ง ANC ใน Earbuds, Sony ก็คือเจ้าแห่งคุณภาพเสียงและเทคโนโลยีอัจฉริยะในฟอร์มแฟคเตอร์เดียวกัน WF-1000XM5 ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีขนาดเล็กลงและเบาลงกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ทำให้สวมใส่สบายขึ้นมาก แต่ภายในยังคงอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีระดับเรือธง ทั้งระบบตัดเสียงรบกวนที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์คู่, ไดรเวอร์ Dynamic Driver X ที่ให้เสียงยอดเยี่ยม และที่เด็ดสุดคือระบบไมโครโฟนที่ใช้ AI และ Bone Conduction Sensor เพื่อให้เสียงพูดของคุณคมชัดในทุกสถานการณ์

สเปกเด่น

  • ระบบตัดเสียงรบกวน: HD Noise Cancelling Processor QN2e และ Integrated Processor V2
  • คุณภาพเสียง: Dynamic Driver X, Hi-Res Audio Wireless (LDAC), DSEE Extreme
  • ไมโครโฟน: AI-based noise reduction algorithm และ bone conduction sensor
  • แบตเตอรี่: สูงสุด 8 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง), รวมเคส 24 ชั่วโมง, รองรับ Wireless Charging
  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.3, Multipoint Connection
  • ดีไซน์: เล็กลง 25%, เบาลง 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
จุดเด่น
  • คุณภาพเสียงดีที่สุดในบรรดา Earbuds รองรับ Hi-Res
  • ระบบตัดเสียงรบกวนยอดเยี่ยมมาก
  • ไมโครโฟนคมชัดด้วยเทคโนโลยี AI และ Bone Conduction
  • ดีไซน์ใหม่ เล็ก เบา และใส่สบายขึ้น
  • รองรับ Wireless Charging และมี Multipoint
ข้อควรพิจารณา
  • จุกหูฟังแบบโฟมอาจต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ
  • ราคาสูงในกลุ่ม TWS

รีวิวแบบเจาะลึก

Sony WF-1000XM5 คือ Earbuds ที่สร้างมาเพื่อเอาใจคนรักเสียงเพลงอย่างแท้จริงครับ ด้วยไดรเวอร์รุ่นใหม่ Dynamic Driver X ทำให้มันสามารถถ่ายทอดเสียงเบสที่หนักแน่นและเสียงร้องที่ใสเคลียร์ได้อย่างน่าทึ่ง และการรองรับ LDAC ก็ทำให้การฟังเพลงผ่านบริการสตรีมมิ่งคุณภาพสูงเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ระบบตัดเสียงรบกวนที่ใช้โปรเซสเซอร์ 2 ตัว ก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมไม่แพ้รุ่นพี่แบบครอบหู สามารถลดเสียงรบกวนย่านต่ำได้ดีมาก ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้แม้จะอยู่บนรถโดยสารหรือเครื่องบินก็ตาม นี่คือ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่จะทำให้คุณพกพาคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi ไปได้ทุกที่

จุดที่พัฒนาขึ้นมากและน่าประทับใจสุด ๆ คือระบบไมโครโฟนครับ Sony ใช้ AI ในการเรียนรู้และกรองเสียงรบกวนรอบข้างออกไป แต่ที่ล้ำไปกว่านั้นคือการใช้ Bone Conduction Sensor หรือเซ็นเซอร์จับการสั่นสะเทือนของกระดูกกรามขณะพูด เพื่อให้แน่ใจว่าเสียงที่จับได้นั้นเป็นเสียงของคุณจริง ๆ ผลลัพธ์คือเสียงสนทนาที่คมชัดและเป็นธรรมชาติมาก แม้จะอยู่ในที่ที่มีเสียงดังหรือลมแรงก็ตาม เมื่อรวมกับดีไซน์ที่เล็กลงและใส่สบายขึ้น แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมง และเคสที่รองรับการชาร์จไร้สาย ก็ทำให้ Sony WF-1000XM5 เป็น หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ในรูปแบบ Earbuds ที่สมบูรณ์แบบและตอบโจทย์การใช้งานได้รอบด้านที่สุดอีกหนึ่งรุ่นในตลาดปัจจุบันครับ

คะแนนที่ได้

8.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ตัวเล็กแต่เสียงดีมากกกก รายละเอียดเพลงมาเต็มเลยค่ะ ANC ก็เงียบดีมาก ชอบที่เคสชาร์จไร้สายได้ สะดวกดีค่ะ” – นิว, อายุ 28
“ไมค์ชัดจริงครับ ลองคุยตอนเดินข้างถนน ปลายสายยังบอกว่าได้ยินชัดอยู่เลย สุดยอดมาก” – เอ็ม, อายุ 34


มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ: เทรนด์ของหูฟัง ANC ในปี 2025

การเลือกซื้อ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ในปี 2025 ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การดูว่ารุ่นไหนตัดเสียงได้เงียบที่สุดอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของการผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพ ความฉลาด และประสบการณ์ของผู้ใช้งาน เว็บไซต์รีวิวเครื่องเสียงชื่อดังอย่าง What Hi-Fi? ได้ให้ทรรศนะไว้อย่างน่าสนใจว่า:

“เทรนด์สำคัญที่เราเห็นในปีนี้คือ ‘Personalization’ หรือการปรับแต่งให้เข้ากับผู้ใช้แต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการปรับจูนเสียงให้เข้ากับสรีระของหู (เช่น เทคโนโลยี CustomTune ของ Bose) หรือการใช้ AI เพื่อปรับระดับการตัดเสียงรบกวนให้เข้ากับสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ ผู้ผลิตกำลังแข่งขันกันเพื่อสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและไร้รอยต่อมากที่สุด”

ขณะที่ Rtings.com ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการทดสอบเชิงลึก ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของคุณภาพไมโครโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

“ในยุคของการทำงานแบบไฮบริด คุณภาพของไมโครโฟนได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ เราเห็นการนำเทคโนโลยี AI และเซ็นเซอร์เพิ่มเติมอย่าง Bone Conduction มาใช้เพื่อแยกเสียงพูดออกจากเสียงรบกวน ซึ่งช่วยยกระดับให้หูฟัง ANC ไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์เพื่อความบันเทิง แต่เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการทำงาน”

บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า การตัดสินใจว่าจะเลือก หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี นั้น ต้องมองให้ลึกกว่าแค่สเปกหลัก ๆ ทีมงานของเราวิเคราะห์ว่า

“ผู้ชนะในตลาดหูฟังปี 2025 คือแบรนด์ที่สามารถสร้าง ‘สมดุล’ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดระหว่าง 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) ประสิทธิภาพหลัก (ANC และคุณภาพเสียง) 2) ความอัจฉริยะของซอฟต์แวร์ (ฟีเจอร์อำนวยความสะดวกและ Personalization) และ 3) การออกแบบเพื่อการใช้งานจริง (ความสบาย, แบตเตอรี่, และคุณภาพไมโครโฟน) การลงทุนในหูฟังหนึ่งตัวในปัจจุบัน คือการลงทุนเพื่อเพิ่มทั้งประสิทธิภาพในการทำงานและคุณภาพชีวิตไปพร้อม ๆ กัน”


เคล็ดลับการเลือกซื้อ หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ให้โดนใจที่สุด

หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี

เพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถเลือก หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ได้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ มาฝากกันครับ

  1. เข้าใจรูปแบบการใช้งานหลักของคุณ: คุณซื้อไปเพื่ออะไรเป็นหลัก? ถ้าเพื่อประชุมออนไลน์จริงจัง Jabra Evolve2 85 ที่มีก้านไมค์อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าเน้นฟังเพลงระดับ Hi-Res บนเครื่องบิน Sony WH-1000XM6 หรือ Sennheiser Momentum 4 จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
  2. ความสบายคือราชา: โดยเฉพาะหูฟังแบบครอบหู ถ้ามีโอกาสควรไปลองสวมใส่ของจริงก่อนตัดสินใจ เพราะรูปทรงศีรษะและขนาดใบหูของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หูฟังที่สบายที่สุดสำหรับคนหนึ่งอาจไม่สบายสำหรับอีกคนก็ได้ครับ
  3. อย่ามองข้ามคุณภาพไมโครโฟน: หากต้องใช้คุยโทรศัพท์บ่อย ๆ ลองหาดูรีวิวใน YouTube ที่มีการทดสอบเสียงไมโครโฟนในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง จะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าเสียงปลายสายจะได้ยินเราเป็นอย่างไร
  4. Ecosystem มีผล: หากคุณใช้อุปกรณ์ Apple ทั้งหมด การเลือก AirPods Max จะมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นกว่า ในขณะเดียวกัน ถ้าคุณมี Sonos Soundbar อยู่แล้ว Sonos Ace ก็จะปลดล็อกฟีเจอร์สุดพิเศษที่หูฟังอื่นให้ไม่ได้
  5. แบตเตอรี่ต้องเพียงพอ: ลองประเมินพฤติกรรมการใช้งานของคุณ หากคุณเป็นคนเดินทางบ่อยและไม่ชอบชาร์จของจุกจิก การเลือกหูฟังที่แบตอึดระดับ 30 ชั่วโมงขึ้นไปอย่าง Sennheiser Momentum 4 หรือ Sony WH-CH720N จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมากครับ

เทคโนโลยีเบื้องหลังไมโครโฟนสุดเทพ: Beamforming และ AI ทำงานอย่างไร?

เคยสงสัยไหมครับว่าทำไม หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี รุ่นใหม่ ๆ ถึงสามารถทำให้เสียงพูดของเราชัดแจ๋วได้แม้จะอยู่ในที่เสียงดัง? คำตอบอยู่ที่เทคโนโลยีที่เรียกว่า Beamforming และ AI Noise Reduction ครับ

Beamforming คือการใช้ไมโครโฟนหลายตัว (Multi-mic array) ที่อยู่บนหูฟังทำงานร่วมกัน โดยซอฟต์แวร์จะวิเคราะห์ความแตกต่างของเวลาและทิศทางที่เสียงเดินทางมาถึงไมโครโฟนแต่ละตัว มันจะทำการ “โฟกัส” ไปยังทิศทางที่เสียงพูดของเราออกมา และในขณะเดียวกันก็จะ “ลด” ความไวในการรับเสียงจากทิศทางอื่น ๆ เปรียบเสมือนการสร้างลำแสงเสียง (Beam) พุ่งตรงจากปากเราไปยังไมโครโฟน ทำให้เสียงพูดดังและชัดเจนกว่าเสียงรบกวนรอบข้าง

ส่วน AI Noise Reduction คือขั้นกว่าของการตัดเสียงรบกวนครับ โดย AI จะถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลเสียงเป็นล้าน ๆ ตัวอย่าง ทำให้มันสามารถแยกแยะได้ว่าเสียงไหนคือ “เสียงพูดของมนุษย์” และเสียงไหนคือ “เสียงรบกวน” (เช่น เสียงลม, เสียงพิมพ์ดีด, เสียงรถยนต์) เมื่อเราพูด AI จะทำการกรองเอาเฉพาะเสียงรบกวนเหล่านั้นออกไปแบบเรียลไทม์ เหลือไว้แต่เสียงพูดของเราที่ใสสะอาด ทำให้การเลือก หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ในปัจจุบัน ต้องพิจารณาถึงความฉลาดของ AI ประจำตัวหูฟังรุ่นนั้น ๆ ด้วยครับ


Over-Ear vs Earbuds: เลือกฟอร์มแฟคเตอร์แบบไหนให้เหมาะกับคุณ?

การตัดสินใจว่าจะเลือก หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี มักจะมาพร้อมกับคำถามคลาสสิกที่ว่า “จะเอาแบบครอบหู (Over-Ear) หรือแบบยัดหู (Earbuds) ดี?” ทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปครับ

  • หูฟังครอบหู (Over-Ear):
    • ข้อดี: โดยทั่วไปให้คุณภาพเสียงและเวทีเสียงที่ดีกว่าเพราะมีไดรเวอร์ขนาดใหญ่กว่า, แบตเตอรี่อึดกว่ามาก, ตัดเสียงรบกวนแบบ Passive (จากการครอบปิดหู) ได้ดีกว่า, ใส่สบายกว่าสำหรับการใช้งานต่อเนื่องนาน ๆ
    • ข้อเสีย: ขนาดใหญ่ เทอะทะ พกพาลำบาก, อาจทำให้ร้อนหูเมื่อใช้งานในที่อากาศร้อน
    • เหมาะกับ: การใช้งานที่บ้าน/ออฟฟิศ, การเดินทางไกล (บนเครื่องบิน/รถทัวร์), การฟังเพลงอย่างจริงจัง, การดูหนัง
  • หูฟังเอียร์บัด (Earbuds):
    • ข้อดี: ขนาดเล็กมาก พกพาสะดวก, เหมาะกับการออกกำลังกายมากกว่า, ไม่ร้อนหู
    • ข้อเสีย: แบตเตอรี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งน้อยกว่า, คุณภาพเสียงและ ANC โดยรวมอาจยังเป็นรองรุ่นครอบหูระดับท็อป, มีโอกาสหล่นหายได้ง่ายกว่า
    • เหมาะกับ: การเดินทางในชีวิตประจำวัน (通勤), การออกกำลังกาย, คนที่ไม่ชอบความรู้สึกเทอะทะบนศีรษะ

สรุปคือไม่มีแบบไหนดีกว่ากันอย่างสมบูรณ์แบบครับ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณเป็นหลัก บางคนอาจจะมีทั้งสองแบบเพื่อใช้งานในสถานการณ์ที่แตกต่างกันก็ได้ครับ!


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี

เราได้รวบรวมคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการเลือก หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี มาตอบให้หายข้องใจกันตรงนี้เลยครับ

ถาม: คุณภาพไมค์ของหูฟังแบบไม่มีก้านไมค์ (Boom Mic) ดีพอสำหรับการประชุมจริงจังไหม?
ตอบ: ดีพอแน่นอนครับ! ในปัจจุบัน หูฟังรุ่นท็อปอย่าง Sony WH-1000XM6 หรือ Bose QC Ultra ใช้เทคโนโลยี Beamforming และ AI ที่ล้ำหน้ามาก ทำให้สามารถแยกเสียงพูดออกจากเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยมไม่แพ้หูฟังที่มีก้านไมค์เลยครับ เหมาะสำหรับการประชุมออนไลน์ส่วนใหญ่ แต่หากคุณทำงานในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังมาก ๆ หรือเป็น Call Center การมีก้านไมค์อย่าง Jabra Evolve2 85 ก็จะช่วยให้ได้เปรียบเรื่องความคมชัดสูงสุดครับ

ถาม: หูฟังตัดเสียงรบกวน (ANC) สามารถป้องกันเสียงที่เป็นอันตรายต่อการได้ยินได้หรือไม่?
ตอบ: ไม่ได้ครับ ANC ถูกออกแบบมาเพื่อลดเสียงรบกวนที่มีความถี่ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ (เช่น เสียงเครื่องยนต์, เสียงแอร์) แต่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันเสียงดังที่เกิดขึ้นกะทันหันและมีความเข้มสูง (เช่น เสียงปืน, เสียงระเบิด) หากต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังมาก ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันการได้ยินโดยเฉพาะ เช่น ที่อุดหูหรือที่ครอบหูนิรภัยครับ

ถาม: จำเป็นต้องเปิด ANC ตลอดเวลาหรือไม่? มันกินแบตเตอรี่เยอะไหม?
ตอบ: ไม่จำเป็นครับ หูฟังทุกรุ่นมีตัวเลือกให้ปิด ANC หรือเปิดโหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency/Aware Mode) ได้ การเปิด ANC จะใช้พลังงานแบตเตอรี่มากกว่าการปิดอย่างแน่นอนครับ โดยทั่วไปแล้วจะลดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ลงประมาณ 20-30% ดังนั้นหากคุณอยู่ในที่ที่เงียบอยู่แล้ว การปิด ANC ก็จะช่วยยืดเวลาการใช้งานหูฟังของคุณได้ครับ


บทสรุป: เลือกคู่หูสร้างโลกส่วนตัวที่ใช่สำหรับคุณ

มาถึงตรงนี้ ผมหวังว่าเพื่อน ๆ น่าจะได้คำตอบในใจกันแล้วนะครับว่า หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี ที่จะมาเป็นคู่หูคนใหม่ของคุณในปี 2025 นี้ จะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นที่เราคัดมานั้นมีจุดเด่นและคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน การเลือกซื้อจึงไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่ารุ่นไหนดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด

หากคุณคือผู้ที่ต้องการ “ที่สุดของที่สุด” ในทุกด้าน ทั้งการตัดเสียงรบกวนที่เงียบสนิท คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res และไมโครโฟนที่คมชัดด้วย AI การลงทุนกับ Sony WH-1000XM6 คือคำตอบสุดท้ายที่ไม่มีผิดหวัง แต่ถ้า “ความสบาย” คือหัวใจหลักของคุณ และอยากได้ประสบการณ์เสียงที่โอบล้อมสมจริง Bose QuietComfort Ultra Headphones ก็พร้อมจะมอบความสุขให้คุณได้ตลอดทั้งวัน สำหรับคนรักเสียงเพลงที่ต้องการแบตเตอรี่ที่อึดจนลืมโลก Sennheiser Momentum 4 Wireless คือตัวเลือกที่หาใครเทียบได้ยาก และสำหรับชาวออฟฟิศที่ต้องการการสื่อสารที่เฉียบคมและเป็นมืออาชีพที่สุด Jabra Evolve2 85 ก็เกิดมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ หรือถ้าคุณต้องการความคล่องตัวในรูปแบบ Earbuds ทั้ง Bose QC Ultra Earbuds และ Sony WF-1000XM5 ก็พร้อมจะมอบประสิทธิภาพระดับเรือธงในขนาดพกพาให้คุณได้เช่นกัน

สุดท้ายนี้ การเลือก หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี คือการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสมาธิในการทำงาน รวมถึงยกระดับความสุขในการพักผ่อนและเดินทาง ขอให้เพื่อน ๆ สนุกกับการเลือกซื้อและมีความสุขกับโลกส่วนตัวใบใหม่ที่หูฟังคู่ใจของคุณจะสร้างขึ้นมานะครับ!

หูฟังพร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน ยี่ห้อไหนดี


หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • รายละเอียดเกี่ยวกับสเปก, ฟีเจอร์, หรือการรับประกัน ควรตรวจสอบเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของแบรนด์นั้น ๆ เช่น Sony, Bose, Sennheiser, Apple, และ Jabra เพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุดครับ
  • บทความนี้เขียนขึ้นอย่างเป็นกลาง ไม่ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ใด ๆ จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน หากมีการคลิกลิงก์เพื่อตรวจสอบราคาหรือซื้อสินค้า เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อยเพื่อนำมาพัฒนาเว็บไซต์ต่อไป โดยไม่มีผลต่อราคาสินค้าหรือการจัดอันดับแต่อย่างใดครับ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา
  • บทความนี้มีการใช้ AI ช่วยในกระบวนการรวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหลากหลายแห่ง อย่างไรก็ตาม หากพบข้อผิดพลาดหรือข้อมูลคลาดเคลื่อน แนะนำให้ตรวจสอบกับเว็บไซต์ผู้ผลิตโดยตรงอีกครั้งครับ
  • คะแนน (เช่น 9.8/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากหลายปัจจัย ทั้งสเปก, ฟีเจอร์, ราคา ณ วันที่รีวิว, และความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงในหลายแพลตฟอร์ม
  • รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “พลอย, อายุ 32”) เป็นข้อความที่เรียบเรียงขึ้นใหม่โดยสรุปมาจากความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริงหลาย ๆ ท่าน เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพรวมและเข้าใจง่ายขึ้นครับ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ หากท่านใช้งานต่อ ระบบจะถือว่าท่านยินยอมตามนโยบายคุกกี้ของเรา ขอขอบพระคุณครับ