บทนำ
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกคน! แม้ว่าเราจะอยู่ในยุคของ PS5 กันแล้ว แต่ผมเชื่อว่ายังมีเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่ยังคงรักและสนุกกับเครื่อง PlayStation 4 คู่ใจกันอยู่ใช่ไหมครับ และหนึ่งในไอเทมสำคัญที่จะชี้ชะตาชัยชนะในเกมได้เลยก็คือ “จอย” นั่นเองครับ หลายคนอาจจะกำลังเจอปัญหาจอยเดิมเริ่มเก่า อนาล็อกเดินเอง ปุ่มกดยาก หรือแค่อยากอัปเกรดประสบการณ์การเล่นให้มันส์สะใจยิ่งขึ้น จนเกิดคำถามในใจว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นอาวุธคู่กายชิ้นใหม่ของเราในปี 2025 นี้
การเลือก จอย PS4 รุ่นไหนดี ไม่ใช่แค่เรื่องของการหาจอยมาแทนที่อันเก่า แต่มันคือการลงทุนเพื่อความสนุกและความได้เปรียบในการเล่นครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นสาย Competitive ที่ต้องการความแม่นยำทุกมิลลิวินาทีในเกม FPS, สาย Fighting ที่ต้องกดคอมโบแบบรัว ๆ หรือสาย Casual ที่แค่อยากได้จอยที่จับถนัดมือ เล่นนาน ๆ แล้วไม่เมื่อย ในตลาดตอนนี้มีจอยเทพ ๆ จากหลายค่ายให้เลือกเพียบเลยครับ ตั้งแต่จอยโปรที่ปรับแต่งได้ทุกอย่าง ไปจนถึงจอยที่ออกแบบมาเพื่อความสบายในการใช้งานโดยเฉพาะ
บทความนี้ผมเลยตั้งใจคัดเอา 5 สุดยอดจอยแห่งปีมาแนะนำกันแบบเพื่อนคุยกัน จัดเต็มทุกรายละเอียด เจาะลึกทุกฟีเจอร์เด็ด ๆ พร้อมบอกเลยว่าแต่ละตัวเหมาะกับใคร เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเลือก จอย PS4 รุ่นไหนดี ให้โดนใจและคุ้มค่าที่สุด ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูตารางเปรียบเทียบเรียกน้ำย่อยกันก่อนเลยครับ!
จัดอันดับ 5 สุดยอด จอย PS4 รุ่นไหนดี แห่งปี 2025
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่จะใช่สำหรับเราที่สุด ลองดูตารางเปรียบเทียบภาพรวมด้านล่างนี้ได้เลยครับ ผมสรุปจุดเด่นหลัก ๆ และคะแนนมาให้ดูแบบชัด ๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปอ่านรีวิวฉบับเจาะลึกของแต่ละรุ่นกันครับ
ตารางเปรียบเทียบสรุป
1. Nacon Revolution 5 Pro ★★★★★
“ที่สุดแห่งเทคโนโลยีจอยโปร! Hall Effect แม่นยำไร้เทียมทาน ปรับแต่งลึกถึง DNA เพื่อชัยชนะที่ยั่งยืน”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้าถามว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่เป็นที่สุดของที่สุดในปีนี้ ผมต้องยกให้ Nacon Revolution 5 Pro เลยครับ ตัวนี้ไม่ใช่แค่จอยโปรธรรมดา แต่มันคือการปฏิวัติวงการด้วยเทคโนโลยี Hall Effect ทั้งในแกนอนาล็อกและทริกเกอร์ ซึ่งหมายความว่าปัญหา “อนาล็อกเดินเอง” หรือ Stick Drift ที่เกมเมอร์ทุกคนเกลียด จะกลายเป็นแค่อดีตไปเลยครับ เพราะมันใช้สนามแม่เหล็กแทนการเสียดสีของชิ้นส่วน ทำให้มีความแม่นยำสูงสุดและทนทานกว่าจอยทั่วไปหลายเท่าตัว เหมาะสำหรับเกมเมอร์สายจริงจังที่ต้องการความแม่นยำระดับ e-sport และต้องการจอยที่ลงทุนครั้งเดียวแล้วจบ ใช้ได้ยาว ๆ แบบไม่ต้องกังวลเลยครับ
สเปกเด่น
- เทคโนโลยีแกนอนาล็อกและทริกเกอร์: Magnetic Hall Effect (ป้องกัน Stick Drift)
- การเชื่อมต่อ: Wireless (ผ่าน Dongle), Bluetooth (สำหรับเสียง), Wired (USB-C)
- ความเข้ากันได้: PS4, PS5, PC
- การปรับแต่ง: เปลี่ยนหัวอนาล็อก, D-Pad, เพิ่ม/ลดน้ำหนัก, ตั้งค่าปุ่มและทริกเกอร์ผ่านแอป
- แบตเตอรี่: ใช้งานได้นานกว่า 10 ชั่วโมง
- ปุ่มเสริม: 4 ปุ่มด้านหลัง (Shortcuts)
รีวิวแบบเจาะลึก
จุดแข็งที่สุดของ Nacon Revolution 5 Pro ที่ทำให้มันโดดเด่นกว่าใครคือเทคโนโลยี Hall Effect ครับ ตามข้อมูลจากผู้ผลิตอย่าง Nacon และเว็บไซต์รีวิวฮาร์ดแวร์ชั้นนำ เทคโนโลยีนี้ช่วยแก้ปัญหา Stick Drift ได้อย่างถาวร เพราะแกนอนาล็อกไม่มีชิ้นส่วนที่ต้องสัมผัสกันโดยตรงเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหว แต่ใช้เซ็นเซอร์แม่เหล็กแทน ทำให้ไม่เกิดการสึกหรอเมื่อใช้ไปนาน ๆ นี่คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดสำหรับใครก็ตามที่เบื่อกับการต้องซื้อจอยใหม่ทุกปีเพราะปัญหาอนาล็อกเพี้ยนครับ นอกจากความแม่นยำแล้ว ฟีลลิ่งในการควบคุมยังนุ่มนวลและตอบสนองได้ดั่งใจมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล็งเป้าหมายเล็ก ๆ ในเกม FPS หรือการควบคุมรถในเกมแข่งความเร็ว ก็ทำได้อย่างเฉียบคม นอกจากนี้ทริกเกอร์ (ปุ่ม L2/R2) ก็เป็น Hall Effect เช่นกัน ทำให้เราสามารถปรับระยะการกด (Deadzone) ได้ละเอียดสุด ๆ ผ่านซอฟต์แวร์ อยากจะให้กดนิดเดียวแล้วยิงเลย หรือต้องกดลึก ๆ เพื่อควบคุมความเร็ว ก็ตั้งค่าได้หมดจด นี่แหละครับคือเหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็นคำตอบแรกๆ เมื่อมีคนถามว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี สำหรับสายโปร
นอกเหนือจากเทคโนโลยีภายในแล้ว การปรับแต่งภายนอกก็จัดเต็มไม่แพ้กันครับ ในกล่องจะมีชุดอุปกรณ์เสริมมาให้ครบครัน ทั้งตุ้มน้ำหนัก (10g, 14g, 16g) ให้เราเลือกใส่เพื่อปรับสมดุลของจอยให้เข้ากับมือ, หัวอนาล็อกแบบเว้าและแบบนูน, รวมถึงแหวนรองแกนอนาล็อกเพื่อจำกัดระยะการโยกให้แคบลง เหมาะสำหรับเกมต่อสู้ที่ต้องการความแม่นยำในการออกท่า การปรับแต่งทั้งหมดนี้ทำได้ง่าย ๆ และเมื่อรวมกับการตั้งค่าโปรไฟล์ผ่านแอปพลิเคชันบน PC/Mac ที่ให้เรา re-map ปุ่ม, ปรับความไวอนาล็อก, ตั้งค่า deadzone ของทริกเกอร์ และอื่น ๆ ได้ถึง 4 โปรไฟล์ ทำให้เรามีจอยที่พร้อมสำหรับทุกเกม ทุกสถานการณ์ แค่กดปุ่มเปลี่ยนโปรไฟล์ที่ด้านหลังจอยเท่านั้นเองครับ และที่สำคัญคือมันยังรองรับการใช้งานกับ PS5 ได้ด้วย (แม้จะไม่รองรับ Haptic Feedback) ทำให้เป็นการลงทุนที่มองไปถึงอนาคตได้เลยครับ ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ยอมประนีประนอมกับคุณภาพและมองหา จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ Nacon Revolution 5 Pro คือคำตอบสุดท้ายครับ
คะแนนที่ได้
9.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“ตั้งแต่ใช้ตัวนี้ ลืมเรื่องอนาล็อกเดินเองไปเลยครับ เล็งคมขึ้นเยอะมากในเกมยิงปืน คุ้มค่าทุกบาทจริง ๆ” – โปร, อายุ 28
“ปรับน้ำหนักจอยได้นี่คือดีมากค่ะ ทำให้จับแล้วรู้สึกสมดุลพอดีมือ เล่นนาน ๆ ไม่เมื่อยเลย” – ฝน, อายุ 25
2. Victrix Pro BFG Wireless Controller ★★★★★
“จอยกิ้งก่าเปลี่ยนสี! ปรับเปลี่ยนโมดูลได้ตามใจนึก ตัวจบสำหรับเกมเมอร์สายแข่งขันทุกแนว”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
หาก Nacon คือที่สุดของเทคโนโลยี Victrix Pro BFG ก็คือที่สุดของ “การปรับตัว” ครับ จอยตัวนี้มาพร้อมคอนเซ็ปต์สุดล้ำคือ “Modular Design” ที่เราสามารถถอดสลับชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ! อยากได้ Layout แบบ PlayStation ปกติ? หรืออยากสลับไปใช้แบบ Xbox ที่อนาล็อกซ้ายอยู่ด้านบน? แค่ใช้ไขควงเล็ก ๆ ที่แถมมาก็สลับโมดูลได้ในไม่กี่นาที แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือมันมี “Fight Pad Module” ที่เปลี่ยนฝั่งปุ่มแอ็กชัน (X, O, □, △) ให้กลายเป็นปุ่มกด 6 ปุ่มเรียงกันแบบตู้เกมอาเขต! ทำให้ Victrix Pro BFG เป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคำถามที่ว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี สำหรับคนที่เล่นเกมหลากหลายแนว โดยเฉพาะสาย Fighting ที่ต้องการความได้เปรียบสูงสุด
สเปกเด่น
- ดีไซน์: Modular สามารถสลับตำแหน่ง D-Pad และ Analog Stick ซ้ายได้
- โมดูลเสริม: มาพร้อม Fight Pad Module (6 ปุ่ม) สำหรับเกมต่อสู้
- ทริกเกอร์: Patented Clutch Triggers™ ปรับได้ 5 ระดับ และมี Hair Trigger Mode
- ปุ่มเสริม: 4 ปุ่มด้านหลัง ตั้งค่าได้โดยไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์
- การเชื่อมต่อ: Wireless (ผ่าน Dongle), Wired (USB-C)
- ความเข้ากันได้: PS4, PS5, PC
รีวิวแบบเจาะลึก
หัวใจของ Victrix Pro BFG คือความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับผู้เล่นและเกมที่เล่นครับ ลองนึกภาพตามนะครับ วันนี้คุณเล่นเกม The Last of Us ก็ใช้ Layout แบบปกติ พอพรุ่งนี้อยากจะเล่น Street Fighter 6 ก็แค่ถอดโมดูลปุ่มกดด้านขวาออก แล้วใส่ Fight Pad เข้าไปแทน คุณก็จะได้จอยที่พร้อมสำหรับการกดคอมโบแบบโปร ๆ ทันที หรือถ้าคุณถนัด Layout แบบ Xbox มากกว่า ก็แค่สลับโมดูลอนาล็อกซ้ายกับ D-Pad ความยืดหยุ่นระดับนี้หาไม่ได้จากจอยตัวอื่น ๆ ครับ นอกจากนี้ ในกล่องยังให้ D-Pad มาถึง 3 แบบ (Standard, Diamond, Circle) และหัวอนาล็อกอีก 2 ขนาด ให้เลือกใช้ตามความถนัด นี่คือการออกแบบที่คิดมาเพื่อเกมเมอร์สายแข่งขันอย่างแท้จริง ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เมื่อต้องตัดสินใจว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่จะใช้ลงแข่งหรือเล่นแบบจริงจัง การมี หูฟังเกมมิ่ง ยี่ห้อไหนดี ดีๆ สักตัวมาใช้คู่กันผ่านช่องเสียบ 3.5mm ของจอย ก็จะยิ่งเพิ่มความได้เปรียบในการได้ยินเสียงฝีเท้าศัตรูอีกด้วยครับ
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่นักแข่งต้องร้องว้าวคือ “Patented Clutch Triggers™” ครับ มันคือระบบ Trigger Stop ที่ปรับระยะการกดได้ละเอียดถึง 5 ระดับ ตั้งแต่กดสุดแบบปกติไปจนถึงแบบ Hair Trigger ที่แค่แตะเบา ๆ ก็ทำงานทันที ซึ่งมีประโยชน์มากในเกม FPS ที่ต้องการความเร็วในการยิงสูงสุด นอกจากนี้ยังมีปุ่มเสริมด้านหลังอีก 4 ปุ่มที่เราสามารถตั้งค่า (map) ให้เป็นปุ่มอะไรก็ได้ และทำได้โดยตรงจากตัวจอยเลย ไม่ต้องต่อคอมพิวเตอร์ให้วุ่นวาย แค่กดปุ่ม Profile ด้านหลังค้างไว้ แล้วทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ก็พร้อมใช้งานได้ทันที แม้ว่าจอยตัวนี้จะตัดระบบสั่นออกไปเพื่อทำให้น้ำหนักเบาและเสถียรที่สุดสำหรับสายแข่ง แต่สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับตัวเหนือสิ่งอื่นใด นี่คือ จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่ตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบครับ
คะแนนที่ได้
9.6/10
รีวิวสั้น ๆ
“โมดูล Fight Pad คือเปลี่ยนโลกการเล่นเกมต่อสู้ของผมไปเลยครับ กดท่าติดง่ายขึ้นเยอะมาก” – เอก, อายุ 31
“ชอบที่สลับ Layout เป็นแบบ Xbox ได้ค่ะ จับถนัดกว่าเยอะเลย แถมจอยเบามาก เล่นนาน ๆ สบาย” – แพรว, อายุ 26
3. Razer Raiju Tournament Edition ★★★★☆
“ฟีลลิ่งกดปุ่มสะใจสไตล์ Razer! ตอบสนองไวทุกสัมผัสด้วย Mecha-Tactile พร้อมปุ่มเสริมครบเครื่อง”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้าพูดถึงอุปกรณ์เกมมิ่ง จะขาดชื่อ Razer ไปไม่ได้เลยครับ และ Razer Raiju Tournament Edition (TE) ก็คือคำตอบของแบรนด์งูเขียวสำหรับคำถามที่ว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี จุดขายที่ทำให้จอยตัวนี้แตกต่างจากชาวบ้านคือปุ่มกด “Mecha-Tactile” ครับ มันให้ฟีลลิ่งการกดที่ผสมผสานระหว่างความนุ่มของเมมเบรนและความ “คลิก” ที่คมชัดแบบเมคานิคอลสวิตช์ ใครที่เคยใช้ คีย์บอร์ดเกมมิ่ง ยี่ห้อไหนดี ของ Razer จะคุ้นเคยกับฟีลลิ่งนี้ดี มันให้ความรู้สึกที่สะใจ ตอบสนองไว และมั่นใจได้ในทุกครั้งที่กด เหมาะมากสำหรับเกมที่ต้องกดปุ่มรัว ๆ หรือต้องการความแม่นยำในการออกคำสั่ง นอกจากนี้ยังมาพร้อมปุ่มเสริม Multi-Function อีก 4 ปุ่ม (2 ปุ่มข้างทริกเกอร์ และ 2 ปุ่มด้านหลัง) ให้เราตั้งค่าได้อย่างอิสระผ่านแอปบนมือถือครับ
สเปกเด่น
- ปุ่มกด: Razer™ Mecha-Tactile Action Buttons
- ปุ่มเสริม: 4 Remappable Multi-Function Buttons
- ทริกเกอร์: มี Hair Trigger Mode สำหรับการยิงที่เร็วขึ้น
- การเชื่อมต่อ: Wireless (Bluetooth), Wired (USB)
- การตั้งค่า: ทำผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ (iOS/Android)
- Layout: Symmetrical (แบบ PlayStation)
รีวิวแบบเจาะลึก
Razer Raiju TE ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์เป็นอย่างดีครับ รูปทรงของมันจะค่อนข้างอวบกว่า DualShock 4 เล็กน้อย ทำให้จับได้เต็มไม้เต็มมือ ลดอาการเมื่อยล้าเมื่อเล่นเป็นเวลานาน ปุ่มเสริม 4 ปุ่มถูกวางในตำแหน่งที่นิ้วสามารถเอื้อมไปกดได้โดยธรรมชาติ ไม่ต้องละนิ้วออกจากอนาล็อกหรือทริกเกอร์เลย ซึ่งถือเป็นความได้เปรียบอย่างมากในเกมที่ต้องเคลื่อนที่และเล็งไปพร้อม ๆ กับการใช้ไอเทมหรือสกิล การตั้งค่าทั้งหมดทำผ่านแอปบนมือถือที่เชื่อมต่อกับจอยผ่าน Bluetooth ได้โดยตรง เราสามารถสร้างโปรไฟล์, re-map ปุ่ม, ปรับระดับการสั่น, และเปิด-ปิด Hair Trigger Mode ได้อย่างง่ายดาย ทำให้ Raiju TE เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังมองหา จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่เน้นความเร็วในการตอบสนองและปรับแต่งได้สะดวก
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้สำหรับจอยสายแข่งคือ Hair Trigger Mode ครับ เมื่อเราเปิดใช้งานโหมดนี้ผ่านสวิตช์เล็ก ๆ ที่ด้านหลังจอย มันจะลดระยะการเดินทางของปุ่มทริกเกอร์ลงอย่างมาก ทำให้เราสามารถยิงปืนในเกม FPS ได้เร็วกว่าคู่ต่อสู้ที่ใช้จอยปกติเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งเสี้ยววินาทีนั้นอาจหมายถึงแพ้หรือชนะได้เลยครับ แม้ว่า D-Pad ของรุ่นนี้จะเป็นแบบปุ่มแยก 4 ทิศทาง ซึ่งอาจจะไม่ลื่นไหลเท่า D-Pad แบบชิ้นเดียวสำหรับเกมต่อสู้ แต่สำหรับเกมแนวอื่น ๆ แล้วมันให้ความแม่นยำที่ดีมากครับ โดยรวมแล้ว Razer Raiju TE คือ จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่มอบประสบการณ์การกดที่แตกต่างและเหนือกว่าจอยทั่วไป เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความเร็วและความเฉียบคมในทุกการกระทำครับ
คะแนนที่ได้
9.2/10
รีวิวสั้น ๆ
“เสียงคลิกของปุ่มคือใช่เลยครับ! กดมันส์มาก ฟีลเหมือนกดเมาส์เกมมิ่งเลย” – บาส, อายุ 24
“ตั้งค่าผ่านแอปในมือถือง่ายดีค่ะ ไม่ต้องต่อคอมให้ยุ่งยากเลย ปุ่มเสริมด้านหลังก็ช่วยให้เล่นเกมง่ายขึ้นเยอะ” – มิ้นท์, อายุ 29
4. Hori Onyx Wireless Controller ★★★★☆
“ทางเลือกใหม่สำหรับชาว PlayStation! สัมผัส Layout แบบ Xbox ที่คุ้นเคย ในจอยที่ได้รับลิขสิทธิ์แท้จาก Sony”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
มีเพื่อน ๆ หลายคนใช่ไหมครับที่เล่นเกมมาหลายเครื่อง แล้วรู้สึกติดใจกับ Layout จอยแบบ Xbox ที่มีแกนอนาล็อกซ้ายอยู่ด้านบน (Asymmetrical) แต่ก็ยังรักการเล่นเกมบน PS4 อยู่? ถ้าใช่… Hori Onyx Wireless Controller คือคำตอบสำหรับคุณเลยครับ Hori เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมชื่อดังจากญี่ปุ่นที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน และจอยตัวนี้ก็ได้รับลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการจาก Sony ด้วย ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความเข้ากันได้ 100% มันคือทางออกที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่ถามว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่ให้ฟีลลิ่งแบบ Xbox แต่ใช้งานบน PS4 ได้อย่างไร้ปัญหาครับ
สเปกเด่น
- Layout: Asymmetrical (แกนอนาล็อกซ้ายและ D-Pad สลับตำแหน่งกัน)
- การเชื่อมต่อ: Wireless (Bluetooth)
- การออกแบบ: ด้ามจับกว้างและพื้นผิวแบบด้าน จับถนัด ไม่ลื่น
- ความเข้ากันได้: PS4 (Officially Licensed by Sony)
- ฟีเจอร์พื้นฐาน: มีระบบสั่น, Touch Pad, ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm
รีวิวแบบเจาะลึก
จุดเด่นที่สุดของ Hori Onyx คือการนำเสนอ Layout ที่แตกต่างออกไปจากจอย DualShock 4 มาตรฐานครับ การวางตำแหน่งอนาล็อกซ้ายไว้ด้านบนและ D-Pad ไว้ด้านล่างนั้น เป็นที่ชื่นชอบของเกมเมอร์จำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่เล่นเกมประเภทยิงปืน, แอ็กชันผจญภัย หรือเกมกีฬา ที่มักจะใช้อนาล็อกซ้ายในการเคลื่อนที่ตัวละครเป็นหลัก การวางตำแหน่งแบบนี้ทำให้นิ้วโป้งซ้ายอยู่ในท่าทางที่เป็นธรรมชาติมากกว่า ลดความเมื่อยล้าได้ดี นอกจากนี้ตัวจอยยังมีขนาดที่กว้างกว่า DualShock 4 เล็กน้อย ทำให้คนที่มีมือใหญ่สามารถจับได้เต็มมือและมั่นคงกว่าเดิมมาก พื้นผิวของจอยเป็นพลาสติกแบบด้านที่ให้สัมผัสที่ดีและไม่ลื่นง่ายแม้เหงื่อออกที่มือก็ตามครับ สำหรับใครที่กำลังมองหา จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่เน้นความสบายและสรีระในการจับถือเป็นหลัก ตัวนี้น่าสนใจมากครับ
แม้ว่า Hori Onyx จะตัดฟีเจอร์บางอย่างของ DualShock 4 ออกไป เช่น Light Bar และลำโพงในตัว (ซึ่งหลายคนก็ไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้ว) แต่ฟังก์ชันที่จำเป็นยังอยู่ครบถ้วนครับ ทั้ง Touch Pad ที่ใช้งานได้เต็มรูปแบบ, ระบบสั่นที่ให้การตอบสนองที่ดี, และช่องเสียบหูฟัง 3.5mm สำหรับต่อ หูฟัง PS4 ยี่ห้อไหนดี เพื่อความเป็นส่วนตัว การเชื่อมต่อก็ทำได้ง่าย ๆ ผ่าน Bluetooth เหมือนจอยแท้ทุกประการครับ โดยรวมแล้ว Hori Onyx ไม่ได้ถูกวางตัวมาเพื่อแข่งกับจอยโปรที่มีฟีเจอร์ปรับแต่งมากมาย แต่มันคือทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เล่นที่ต้องการความสบายในการจับถือและ Layout ที่คุ้นเคย ในราคาที่เข้าถึงง่ายและคุณภาพที่ไว้ใจได้เพราะมีตรา Sony รับประกันครับ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ดีสำหรับคำถามที่ว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี ครับ
คะแนนที่ได้
8.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“ในที่สุดก็ได้เล่นเกม PS4 ด้วยจอย Layout แบบ Xbox สบายมือขึ้นเยอะเลยครับ จับถนัดมาก” – นนท์, อายุ 33
“จอยจับดีมากค่ะ น้ำหนักกำลังดีเลย เชื่อมต่อง่ายไม่มีปัญหาอะไรเลย ชอบมากค่ะ” – จิ๊บ, อายุ 27
5. Razer Raiju Ultimate ★★★★☆
“ขั้นสุดของจอยโปรจาก Razer! ปรับแต่งทุกอณู พร้อมไฟ Chroma RGB สร้างสไตล์ที่เป็นคุณ”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ถ้า Razer Raiju TE คือรุ่น Tournament Edition ที่เน้นความเฉียบคม, Razer Raiju Ultimate ก็คือรุ่น “จัดเต็ม” ที่อัปเกรดทุกอย่างขึ้นไปอีกขั้นครับ มันคือคำตอบสำหรับเกมเมอร์ที่ถามว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่ให้ทั้งประสิทธิภาพระดับโปรและความสามารถในการปรับแต่งที่ไร้ขีดจำกัด รุ่น Ultimate นี้ยังคงใช้ปุ่ม Mecha-Tactile ที่ให้ฟีลลิ่งการกดสุดสะใจเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือความสามารถในการเปลี่ยนชิ้นส่วนได้! คุณสามารถเลือกเปลี่ยนหัวอนาล็อก (แบบสั้น/ยาว, เว้า/นูน) และ D-Pad (แบบแยกทิศทาง หรือแบบแผ่นกลม) ได้ตามความถนัดและแนวเกมที่เล่น แต่ที่เด็ดที่สุดและเป็นเอกลักษณ์ของ Razer ก็คือไฟ “Chroma RGB” ที่วิ่งอยู่รอบ Touch Pad ซึ่งสามารถปรับแต่งสีและเอฟเฟกต์ได้กว่า 16.8 ล้านสี สร้างสไตล์ที่เป็นของคุณเองได้อย่างแท้จริงครับ
สเปกเด่น
- การปรับแต่ง: เปลี่ยนหัวอนาล็อกและ D-Pad ได้ (Interchangeable)
- ปุ่มกด: Razer™ Mecha-Tactile Action Buttons
- ปุ่มเสริม: 4 Remappable Multi-Function Buttons
- แผงควบคุม: Quick Control Panel สำหรับปรับแต่ง on-the-fly
- ไฟ: Razer Chroma™ RGB Lighting
- การเชื่อมต่อ: Wireless (Bluetooth), Wired (USB)
รีวิวแบบเจาะลึก
สิ่งที่ทำให้ Raiju Ultimate ก้าวไปอีกระดับคือ “Quick Control Panel” ครับ แผงควบคุมเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านล่างของจอยนี้ ช่วยให้เราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดแอปบนมือถือเลย ไม่ว่าจะเป็นการสลับโปรไฟล์ที่ตั้งค่าไว้, ปรับระดับเสียงหูฟัง, ปิด/เปิดไมค์, หรือแม้แต่การ re-map ปุ่ม Multi-Function ก็ทำได้แบบ on-the-fly ซึ่งสะดวกมาก ๆ ในระหว่างการเล่นเกมที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คุณสามารถเปลี่ยนจากโปรไฟล์สำหรับเกม FPS ที่ตั้งค่า Hair Trigger ไว้ ไปเป็นโปรไฟล์สำหรับเกม Open-world ที่ต้องการการควบคุมแบบปกติได้ในพริบตา นี่คือฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์เกมเมอร์ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงสุด และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นเมื่อต้องตัดสินใจว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่จะมอบความสะดวกสบายขั้นสุด
นอกจากฟังก์ชันแล้ว ความสวยงามก็เป็นเรื่องที่ Razer ไม่เคยยอมใคร ไฟ Chroma RGB ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่มันยังสามารถ Sync กับเกมที่รองรับเพื่อสร้างบรรยากาศการเล่นที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้นได้อีกด้วย เมื่อรวมกับความสามารถในการเปลี่ยนหัวอนาล็อกและ D-Pad ทำให้ Raiju Ultimate เป็นเหมือนจอยที่ปรับตัวเข้าหาเราได้ทั้งภายนอกและภายใน แม้ว่าน้ำหนักของมันอาจจะมากกว่าจอยโปรตัวอื่น ๆ อยู่บ้างเนื่องจากฟีเจอร์ที่อัดแน่นมาเต็มพิกัด แต่สำหรับคนที่ต้องการจอยที่ครบเครื่องที่สุด ทั้งประสิทธิภาพ, การปรับแต่ง, ความสะดวกสบาย และความสวยงาม การมีจอยตัวนี้คู่กับ เก้าอี้เกมมิ่ง ยี่ห้อไหนดี สักตัว ก็เหมือนกับการสร้างบัลลังก์เกมเมอร์ที่สมบูรณ์แบบเลยครับ ถ้าคุณมองหา จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่เป็น “ที่สุด” ในทุก ๆ ด้าน Razer Raiju Ultimate คือคำตอบที่ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
คะแนนที่ได้
9.4/10
รีวิวสั้น ๆ
“ไฟ RGB สวยมากครับ ปรับสีได้เยอะดี ส่วนปุ่ม Quick Control Panel ก็สะดวกสุดๆ ไม่ต้องคอยเปิดแอปเลย” – ท็อป, อายุ 26
“ชอบที่เปลี่ยนหัวอนาล็อกได้ค่ะ ทำให้คุมเกมได้ถนัดขึ้นเยอะเลย จอยจับแล้วรู้สึกพรีเมียมมาก” – พลอย, อายุ 30
มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้าน Gaming Gear
จากสื่อเกมยักษ์ใหญ่อย่าง IGN และ GamesRadar+ ได้วิเคราะห์เทรนด์ของคอนโทรลเลอร์ระดับโปรไว้ตรงกันว่า
“ผู้เล่นในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่จอยที่ใช้งานได้ แต่มองหา ‘ความได้เปรียบ’ และ ‘ความทนทาน’ ที่จับต้องได้”
ตลาดจอย 3rd-party ไม่ได้เป็นเพียงของทดแทนอีกต่อไป แต่เป็นตลาดสำหรับการอัปเกรดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
คำถามที่ว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี จึงเปลี่ยนจากการ “หาของแทน” ไปเป็นการ “หาอาวุธที่เข้ามือที่สุด” ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ามีปัจจัยสำคัญที่เกมเมอร์สายจริงจังให้ความสำคัญมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปี 2025 นี้
ปัจจัยชี้ขาดของจอยระดับโปร
- เทคโนโลยี Anti-Drift: ปัญหาอนาล็อกเดินเอง (Stick Drift) คือฝันร้ายของเกมเมอร์ การมาถึงของเทคโนโลยี Hall Effect Sensor อย่างใน Nacon Revolution 5 Pro ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานความทนทานและความแม่นยำไปอีกขั้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่านี่จะเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับจอยระดับไฮเอนด์ในอนาคต
- การปรับแต่งเชิงลึก (Customization): ไม่ใช่แค่การ re-map ปุ่มอีกต่อไป แต่รวมถึงการปรับแต่งเชิงกายภาพด้วย เช่น การเปลี่ยน Layout แบบโมดูลาร์ของ Victrix Pro BFG, การปรับน้ำหนัก, หรือการเปลี่ยนความสูงของ Thumbstick สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้เล่นสามารถสร้างจอยที่เหมาะกับสรีระและสไตล์การเล่นของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- การตอบสนองเชิงกล (Mechanical Feedback): ฟีลลิ่งการกดปุ่มก็เป็นสิ่งสำคัญ ปุ่ม Mecha-Tactile ของ Razer ที่ให้เสียง “คลิก” และการตอบสนองที่คมชัด ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการกดคอมโบหรือออกคำสั่งที่ต้องการความแม่นยำสูง
บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS
การเลือก จอย PS4 รุ่นไหนดี ในยุคนี้ คือการเลือกลงทุนกับประสบการณ์การเล่นเกมโดยตรง ทีมงานของเรามองว่า
“แม้จอย DualShock 4 เดิมๆ จะเป็นจอยที่ดี แต่จอยโปรจาก 3rd-party ได้ปลดล็อกศักยภาพในการควบคุมไปอีกระดับ การมีปุ่มเสริมด้านหลัง, Trigger Stops, และความสามารถในการปรับแต่งโปรไฟล์ คือความแตกต่างระหว่าง ‘การเล่น’ และ ‘การแข่งขัน’ การเลือกจอยที่ใช่ ไม่เพียงแต่จะทำให้เล่นเกมสนุกขึ้น แต่ยังอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ชัยชนะได้เลยครับ”
เคล็ดลับการเลือกซื้อ จอย PS4 รุ่นไหนดี ให้เข้ามือที่สุด
- รู้จักแนวเกมที่เล่นเป็นหลัก: ถ้าคุณเป็นสาย FPS การมี Trigger Stops และปุ่มเสริมด้านหลังคือสิ่งจำเป็น ถ้าเป็นสาย Fighting อาจต้องมองหา D-Pad ที่ดีเยี่ยมหรือโมดูลพิเศษอย่างของ Victrix Pro BFG ส่วนสาย RPG หรือ Adventure อาจจะเน้นที่ความสบายในการจับถือเป็นหลัก
- Symmetrical vs Asymmetrical Layout: นี่คือความชอบส่วนบุคคลล้วนๆ ครับ ไม่มีแบบไหนดีกว่ากัน ถ้าคุณคุ้นเคยกับ Layout ดั้งเดิมของ PlayStation ก็เลือกแบบ Symmetrical แต่ถ้าคุณรู้สึกว่า Layout แบบ Xbox จับถนัดกว่า Hori Onyx หรือจอยที่สลับโมดูลได้อย่าง Victrix ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
- ความสำคัญของปุ่มเสริม (Paddles/Back Buttons): ปุ่มเสริมด้านหลังช่วยให้คุณสามารถกดคำสั่งสำคัญๆ (เช่น กระโดด, หมอบ, ใช้ไอเทม) ได้โดยไม่ต้องละนิ้วโป้งออกจากอนาล็อก ซึ่งเป็นความได้เปรียบอย่างมหาศาลในเกมที่ต้องเคลื่อนไหวและเล็งไปพร้อมๆ กัน
- การเชื่อมต่อแบบมีสาย vs ไร้สาย: สำหรับการเล่นทั่วไป การเชื่อมต่อไร้สายสมัยนี้มีดีเลย์ (Latency) ต่ำมากจนแทบไม่รู้สึก แต่สำหรับเกมเมอร์สายแข่งขันที่ต้องการความเสถียรสูงสุดและไม่ต้องการความเสี่ยงจากสัญญาณรบกวน การเชื่อมต่อแบบมีสายยังคงเป็นตัวเลือกที่แน่นอนที่สุด
- งบประมาณในกระเป๋า: จอยโปรมีราคาตั้งแต่หลักสองพันไปจนถึงเกือบหมื่น ให้ตั้งงบประมาณที่เหมาะสมกับตัวเอง และเลือกรุ่นที่ให้ฟีเจอร์สำคัญที่คุณต้องการจริงๆ ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงที่สุดถ้าคุณไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดของมันครับ
Hall Effect คืออะไร? ทำไมถึงเป็น Game Changer ของวงการจอย
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราถึงย้ำเรื่องเทคโนโลยี Hall Effect ในจอย Nacon Revolution 5 Pro นักหนา คำตอบง่ายๆ คือ มันคือการแก้ปัญหาที่ต้นตอของ “Stick Drift” หรืออาการอนาล็อกเดินเองครับ จอยทั่วไปจะใช้ชิ้นส่วนที่เรียกว่า Potentiometer ซึ่งมีการเสียดสีกันของแผ่นคาร์บอนเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหว เมื่อใช้ไปนานๆ แผ่นคาร์บอนนี้จะสึกหรอ ทำให้การอ่านค่าผิดเพี้ยนและเกิดอาการเดินเอง
แต่ Hall Effect Sensor ใช้หลักการของสนามแม่เหล็กครับ มันไม่มีชิ้นส่วนที่ต้องสัมผัสหรือเสียดสีกันเลย ทำให้ไม่เกิดการสึกหรอเมื่อเวลาผ่านไป ผลลัพธ์คือความแม่นยำที่คงที่ตลอดอายุการใช้งานและความทนทานที่สูงกว่าจอยแบบเดิมๆ หลายเท่าตัว นี่จึงไม่ใช่แค่การตลาด แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญที่จะทำให้เราลืมฝันร้ายเรื่อง Stick Drift ไปได้เลย และเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็นฟีเจอร์ที่น่าจับตามองที่สุดสำหรับคนที่กำลังคิดว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่จะใช้ได้ยาวๆ ครับ
การดูแลรักษาจอย PS4 ของคุณให้อยู่กับเราไปนานๆ
ไม่ว่าคุณจะเลือก จอย PS4 รุ่นไหนดี การดูแลรักษาที่ถูกต้องก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของมันไปได้อีกนานครับ
- ทำความสะอาดเป็นประจำ: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดคราบเหงื่อและฝุ่น สำหรับซอกเล็กๆ อาจใช้ไม้จิ้มฟันหรือแปรงขนนุ่มค่อยๆ เขี่ยสิ่งสกปรกออก
- หลีกเลี่ยงการตกกระแทก: แม้จอยโปรจะแข็งแรง แต่การตกกระแทกแรงๆ ก็อาจทำให้กลไกภายในเสียหายได้
- อย่าชาร์จไปเล่นไปบ่อยเกินไป: การทำแบบนี้อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น ควรชาร์จให้เต็มแล้วถอดสายออกเพื่อใช้งานแบบไร้สายจะดีที่สุดครับ
- เก็บในที่ที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการเก็บจอยไว้ในที่ที่มีความร้อนสูงหรือโดนแสงแดดโดยตรง เพราะอาจทำให้พลาสติกและยางเสื่อมสภาพได้
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- ถาม: จอยโปร (Pro Controller) คุ้มค่าที่จะซื้อจริงหรือ?
ตอบ: คุ้มค่ามากครับ โดยเฉพาะถ้าคุณเล่นเกมแนวแข่งขัน (FPS, Fighting, Battle Royale) หรือเล่นเกมเป็นประจำ การตอบสนองที่ดีขึ้นและความสบายในการจับถือจะเปลี่ยนประสบการณ์การเล่นของคุณไปเลย แต่ถ้าคุณเล่นเกมแบบ Casual นานๆ ครั้ง จอย DualShock 4 เดิมก็ยังเพียงพอครับ - ถาม: ระหว่างจอยแบบ Symmetrical (PlayStation) กับ Asymmetrical (Xbox) แบบไหนดีกว่ากัน?
ตอบ: ไม่มีแบบไหนดีกว่ากันอย่างชัดเจนครับ เป็นเรื่องของความถนัดส่วนบุคคลล้วนๆ บางคนรู้สึกว่าแบบ Asymmetrical ทำให้นิ้วโป้งซ้ายอยู่ในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติกว่าเมื่อเล่นเกมที่ต้องเคลื่อนที่ตลอดเวลา ทางที่ดีที่สุดคือลองหาโอกาสจับของจริงดูทั้งสองแบบครับ - ถาม: Hair Triggers ช่วยให้เล่นเกมยิงปืนเก่งขึ้นจริงหรือ?
ตอบ: มันช่วยให้คุณ “ยิงได้เร็วขึ้น” ครับ เพราะมันลดระยะการกดของปุ่มทริกเกอร์ลงอย่างมาก ซึ่งในจังหวะที่ต้องดวลกันแบบ 1 ต่อ 1 การยิงได้เร็วกว่าคู่ต่อสู้เพียง 0.1 วินาทีก็สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้เลย แต่มันไม่ได้ช่วยให้คุณเล็งแม่นขึ้นนะครับ อันนั้นต้องฝึกฝนเองครับ - ถาม: จอย PS4 สามารถใช้กับเครื่อง PS5 ได้ไหม?
ตอบ: ได้ครับ แต่มีเงื่อนไขคือ “สามารถใช้เล่นเกมของ PS4 บนเครื่อง PS5 ได้เท่านั้น” คุณจะไม่สามารถใช้จอย PS4 เพื่อเล่นเกมที่ทำออกมาสำหรับ PS5 โดยเฉพาะได้ครับ (เช่น God of War Ragnarök เวอร์ชั่น PS5) เพราะเกมเหล่านั้นต้องใช้ฟีเจอร์ของจอย DualSense อย่าง Haptic Feedback และ Adaptive Triggers ครับ
บทสรุป: เลือก จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่ใช่สำหรับคุณที่สุด
มาถึงตรงนี้ ผมหวังว่าเพื่อนๆ คงจะได้คำตอบในใจกันแล้วนะครับว่า จอย PS4 รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นคู่หูคนใหม่ของเรา การตัดสินใจครั้งสุดท้ายขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่น, ความถนัด และงบประมาณของคุณเป็นหลักครับ
ถ้าคุณคือเกมเมอร์ที่ไม่ยอมประนีประนอมกับคุณภาพ ต้องการเทคโนโลยีล่าสุดที่ทนทานและแม่นยำที่สุด และพร้อมที่จะลงทุนเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด Nacon Revolution 5 Pro คือคำตอบสุดท้ายที่ไม่มีข้อกังขา แต่ถ้าคุณคือผู้เล่นสายแข่งขันที่รักการปรับแต่งและต้องการจอยที่ปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ Victrix Pro BFG ก็คือตัวเลือกที่ยืดหยุ่นและน่าทึ่งไม่แพ้กัน ส่วนใครที่เป็นสาวก Razer และหลงใหลในฟีลลิ่งการกดแบบ Mecha-Tactile พร้อมไฟสวยๆ Razer Raiju Ultimate ก็พร้อมจะมอบประสบการณ์ระดับโปรให้คุณได้อย่างครบเครื่อง
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกจอยรุ่นไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้สนุกไปกับโลกของเกมอย่างเต็มที่ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการช่วยเพื่อนๆ ตัดสินใจเลือก จอย PS4 รุ่นไหนดี นะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเล่นเกมครับ!
หมายเหตุจากผู้เขียน:
- รายละเอียดเกี่ยวกับฟีเจอร์, ซอฟต์แวร์, หรือการรับประกัน ควรตรวจสอบเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของ Nacon, Victrix, Razer, และ Hori เพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด
- คะแนน (เช่น 9.8/10 หรือ 8.8/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากสเปก, เทคโนโลยี, ความสามารถในการปรับแต่ง, วัสดุ, ราคา, และรีวิวจากผู้ใช้งานจริงทั้งในและต่างประเทศ
- รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “โปร, อายุ 28” หรือ “ฝน, อายุ 25”) เป็นตัวอย่างสมมติที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานจากมุมมองที่หลากหลายเท่านั้น
- บทความนี้รวบรวมข้อมูล ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 คุณสมบัติและราคาของสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
