10 สุดยอด รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี 2025 รีวิวตัวท็อป! สายซิ่ง-สายซ้อม

รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี – ภาพรองเท้าวิ่งดีไซน์สปอร์ตเหมาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับ

บทนำ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ นักวิ่งทุกคน! วันนี้เรามาเจาะลึกกันในหัวข้อที่หลายคนกำลังให้ความสนใจเป็นพิเศษ นั่นก็คือ รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่จะมาแรงและน่าจับตามองที่สุดในปี 2025 นี้กันครับ บอกเลยว่า Puma ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์สวยเท่ แต่เทคโนโลยีในรองเท้าวิ่งของเขาก็พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะโฟม NITRO™ ที่ทั้งนุ่มเด้งและเบาสบาย ทำให้การวิ่งในทุกระยะทางเป็นเรื่องสนุกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเป็นนักวิ่งหน้าใหม่ที่กำลังมองหารองเท้าคู่แรก หรือเป็นนักวิ่งสายทำความเร็วที่อยากอัปเกรดรองเท้าคู่ใจ บทความนี้มีคำตอบแน่นอนครับ

การเลือกรองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่ก็เหมือนการหาเพื่อนร่วมทางที่รู้ใจใช่ไหมครับ? ถ้าเลือกผิด ชีวิตเปลี่ยนเลย วิ่งแล้วเจ็บ วิ่งไม่สนุก พาลจะเลิกวิ่งไปซะดื้อ ๆ ดังนั้น คำถามที่ว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี จึงไม่ใช่แค่เรื่องของแฟชั่น แต่เป็นเรื่องของ Performance และสุขภาพเท้าของเราด้วย ในบทความนี้ ผมเลยคัดมาเน้น ๆ ถึง 10 รุ่นเด็ดจาก Puma ที่ครอบคลุมทุกสไตล์การวิ่ง ตั้งแต่รองเท้าซ้อมใส่สบายทุกวัน (Daily Trainer) ไปจนถึงรองเท้าสำหรับวันแข่งขัน (Race Day) ที่จะช่วยส่งเราเข้าเส้นชัยได้เร็วขึ้น พร้อมรีวิวเจาะลึกแบบเพื่อนคุยกัน ไม่มีกั๊กแน่นอนครับ และสำหรับใครที่อยากดูภาพรวมของแบรนด์อื่น ๆ ด้วย ลองแวะไปดูบทความ 10 สุดยอด รองเท้าวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ประกอบการตัดสินใจได้เลยครับ

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วเราไปดูกันเลยว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่จะเหมาะกับสไตล์การวิ่งและเป้าหมายของเราที่สุดในปี 2025 นี้ แต่ก่อนจะไปดูรีวิวแบบจัดเต็มทีละรุ่น เรามาดูตารางเปรียบเทียบภาพรวมกันก่อนดีกว่า จะได้เห็นสเปกเด่นและคะแนนของแต่ละรุ่นแบบชัด ๆ ไปเลยครับ!

🦉 เลือกอ่านหัวข้อ

จัดอันดับ 10 รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี แห่งปี 2025

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่จะใช่สำหรับคุณที่สุด ลองดูภาพรวมจากตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติเด่นและคะแนนที่ทีมงาน TOPLISTPLUS ตั้งใจทำมาให้ดูกันก่อนได้เลยครับ แล้วค่อยเลื่อนลงไปอ่านรีวิวฉบับเจาะลึกของแต่ละรุ่นกันต่อได้เลย!

ตารางเปรียบเทียบสรุป

คุณสมบัติ PUMA Deviate NITRO™ 3 PUMA FAST-FWD NITRO™ Elite PUMA Deviate NITRO 2 PUMA Electrify NITRO 3 PUMA Aviator PUMA Redeem Profoam PUMA Softride Enzo Evo PUMA SOFTRIDE Rift PUMA Twitch Runner PUMA Flyer Flex
อันดับที่ 🥇 🥈 🥉 4 5 6 7 8 9 10
รูปภาพสินค้า PUMA RUNNING Deviate NITRO™ 3 PUMA FAST-FWD NITRO™ Elite PUMA RUNNING Deviate NITRO 2 PUMA RUNNING Electrify NITRO 3 PUMA RUNNING Aviator PUMA RUNNING Redeem Profoam PUMA RUNNING Softride Enzo Evo PUMA RUNNING SOFTRIDE Rift PUMA RUNNING Twitch Runner PUMA RUNNING Flyer Flex
ชื่อสินค้า (กดเพื่อเลื่อนไปดูรายละเอียด) PUMA Deviate NITRO™ 3 PUMA FAST-FWD NITRO™ Elite PUMA Deviate NITRO 2 PUMA Electrify NITRO 3 PUMA Aviator PUMA Redeem Profoam PUMA Softride Enzo Evo PUMA SOFTRIDE Rift PUMA Twitch Runner PUMA Flyer Flex
คุณสมบัติเด่น NITROFOAM™ Elite, แผ่นคาร์บอน PWRPLATE, PUMAGRIP, อัปเปอร์น้ำหนักเบา NITROFOAM™ Elite, PWRPLATE, ออกแบบมาเพื่อทำความเร็วระยะสั้น-กลาง NITROFOAM™ Elite, PWRPLATE, PUMAGRIP, อเนกประสงค์สำหรับทุกระยะ NITROFOAM™ 2 ชั้น, PROFOAMLITE, PUMAGRIP, คุ้มค่าสำหรับ Daily Trainer ProFoam Lite, PUMAGRIP, ระบายอากาศดี, เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น Profoam, ดีไซน์ทันสมัย, ซัพพอร์ตดี, เหมาะกับการวิ่งและออกกำลังกาย Softride EVA, ดีไซน์แบบ Bootie, ล็อกกระชับ, เหมาะกับวิ่งเบาๆ และลำลอง SOFTRIDE Foam, อัปเปอร์ผ้าถัก, น้ำหนักเบา, สวมใส่ง่าย SoftFoam+, อัปเปอร์ Mono Mesh, ทนทาน, เหมาะกับวิ่งระยะสั้น FlyerFlex Grooves, พื้นยางชั้นนอก, ยืดหยุ่นสูง, เหมาะกับวิ่งและเทรนนิ่ง
คะแนน ★★★★★ (9.8/10) ★★★★★ (9.6/10) ★★★★☆ (9.3/10) ★★★★☆ (9.0/10) ★★★★☆ (8.7/10) ★★★★☆ (8.5/10) ★★★☆☆ (8.2/10) ★★★☆☆ (8.0/10) ★★★☆☆ (7.8/10) ★★★☆☆ (7.5/10)
เหมาะกับใคร นักวิ่งจริงจัง, สายทำความเร็ว, วิ่งมาราธอน นักวิ่งสายทำความเร็ว, แข่งขัน 5-10K นักวิ่งทุกระดับ, ซ้อมและแข่งระยะไกล นักวิ่งมือใหม่-ปานกลาง, Daily Trainer นักวิ่งเริ่มต้น, วิ่งเพื่อสุขภาพ วิ่งในยิม, ออกกำลังกายทั่วไป วิ่งจ็อกกิ้ง, ใส่เดิน, เข้ายิม ใส่ลำลอง, วิ่งเบาๆ วิ่งระยะสั้น, ใช้งานประจำวัน วิ่งเบาๆ, เทรนนิ่งในยิม
เช็กราคาล่าสุด

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

 

1. PUMA RUNNING Deviate NITRO™ 3 30970701 ★★★★★

“ที่สุดของรองเท้าสาย Performance อัปเกรดใหม่หมดจดเพื่อนักวิ่งที่ต้องการทุบสถิติ!”

PUMA RUNNING Deviate NITRO™ 3 30970701

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

PUMA Deviate NITRO™ 3 คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดสำหรับคำถามที่ว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี สำหรับนักวิ่งสาย Performance ที่มองหา “ที่สุด” ในทุกมิติครับ รุ่นนี้เป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญของซีรีส์ Deviate ที่ได้รับคำชมมาอย่างล้นหลาม โดยในเวอร์ชันที่ 3 นี้ Puma ได้จัดเต็มเทคโนโลยีขั้นสุดยอดมาให้แบบไม่มีกั๊ก หัวใจหลักคือพื้นชั้นกลางที่ใช้ NITROFOAM™ Elite แบบเต็มแผ่น ซึ่งเป็นโฟมที่เบาและตอบสนองได้ดีที่สุดของ Puma ให้ความรู้สึกเด้งส่งแรงกลับคืนมาในทุกย่างก้าว ผสานการทำงานกับแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ PWRPLATE ที่ถูกออกแบบใหม่ให้มีความแข็งแรงและดีดตัวได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เป็นรองเท้าที่พร้อมจะพาคุณพุ่งทะยานไปข้างหน้าเพื่อสร้างสถิติใหม่ได้อย่างแน่นอนครับ

คุณสมบัติเด่น

  • พื้นชั้นกลาง: NITROFOAM™ Elite แบบเต็มแผ่น ให้การตอบสนองสูงสุดและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ
  • แผ่นคาร์บอน: PWRPLATE ออกแบบใหม่ เพิ่มการส่งแรงและประสิทธิภาพการวิ่ง
  • พื้นชั้นนอก: PUMAGRIP ยึดเกาะดีเยี่ยมในทุกสภาพพื้นผิว ทั้งเปียกและแห้ง
  • อัปเปอร์: Mono-mesh น้ำหนักเบา ระบายอากาศดีเยี่ยม พร้อมการเสริมความแข็งแรงด้วย PWRTAPE
  • น้ำหนัก: เบาลงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด
จุดเด่น
  • ตอบสนองและส่งแรงได้ดีที่สุดในซีรีส์
  • น้ำหนักเบามาก เหมาะสำหรับวันแข่งขัน
  • การยึดเกาะยอดเยี่ยมด้วย PUMAGRIP
  • อัปเปอร์ระบายอากาศได้ดีและล็อกเท้าได้มั่นคง
  • เป็นรองเท้าที่ครบเครื่องทั้งซ้อมเร็วและแข่งจริง
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูงกว่ารองเท้าซ้อมทั่วไป
  • อาจจะรู้สึกแข็งไปบ้างสำหรับนักวิ่งที่ชอบแนวนุ่มสบาย

รีวิวแบบเจาะลึก

ถ้าจะถามว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่เรียกได้ว่าเป็น “Super Shoe” แบบเต็มตัว Deviate NITRO™ 3 คือคำตอบนั้นครับ การอัปเกรดที่สำคัญที่สุดคือการใช้โฟม NITROFOAM™ Elite ซึ่งเป็นโฟมเกรดพรีเมียมที่ผลิตด้วยกระบวนการพิเศษ ทำให้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของน้ำหนักที่เบามาก และการให้แรงส่งกลับ (Energy Return) ในระดับสูงสุด เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ฟีลลิ่งของโฟมในรุ่นนี้จะมีความเฟิร์มและเด้งมากกว่าอย่างชัดเจน มันไม่ใช่แค่นุ่มอย่างเดียว แต่เป็นความนุ่มที่มาพร้อมกับพลังในการดีดตัว ทำให้ทุกครั้งที่เท้ากระทบพื้น คุณจะรู้สึกได้ถึงแรงส่งที่ช่วยให้ก้าวต่อไปของคุณลื่นไหลและใช้พลังงานน้อยลง การผสานพลังกับแผ่นคาร์บอน PWRPLATE ที่ถูกปรับปรุงใหม่ให้มีความกว้างและแข็งขึ้น ทำให้เกิดเป็นกลไกคล้ายคานดีดที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง (Running Economy) ได้อย่างยอดเยี่ยม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการวิ่งในเพซที่เร็วขึ้น ตั้งแต่ Tempo ไปจนถึงการแข่งขันในทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นฮาล์ฟหรือฟูลมาราธอน การมีรองเท้าดีๆ แบบนี้คู่กับ 10 สุดยอด นาฬิกาวิ่ง ยี่ห้อไหนดี จะช่วยให้นักวิ่งสามารถติดตามและพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่เลยครับ

ในส่วนของอัปเปอร์ Puma เลือกใช้ผ้า Mono-mesh ที่มีน้ำหนักเบาและโปร่งมาก ช่วยให้การระบายอากาศเป็นไปอย่างดีเยี่ยม ลดปัญหาเท้าอับชื้นแม้จะวิ่งในสภาพอากาศร้อนหรือวิ่งเป็นระยะทางไกลๆ ก็ตาม แต่ความเบาไม่ได้หมายความว่าไม่แข็งแรงนะครับ เพราะ Puma ได้เสริมโครงสร้างด้วยเทคโนโลยี PWRTAPE ซึ่งเป็นแถบวัสดุที่ถูกวางไว้ในตำแหน่งสำคัญๆ เพื่อช่วยล็อกเท้าให้กระชับและมั่นคง โดยเฉพาะบริเวณกลางเท้า ทำให้คุณรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรองเท้า สามารถเข้าโค้งหรือเปลี่ยนจังหวะการวิ่งได้อย่างมั่นใจ ลิ้นรองเท้าถูกออกแบบให้บางและโอบรับหลังเท้าได้ดี ลดการเสียดสี ส่วนส้นเท้ามีการบุเสริมที่พอเหมาะ ไม่หนาจนเกินไป แต่ก็ให้ความกระชับที่มั่นคง ป้องกันส้นเท้าเลื่อนหลุดได้เป็นอย่างดี และที่ขาดไม่ได้เลยคือพื้นชั้นนอก PUMAGRIP ที่ขึ้นชื่อเรื่องการยึดเกาะ ไม่ว่าจะวิ่งบนถนนแห้งๆ หรือเจอแอ่งน้ำขัง ก็ยังสามารถให้ความมั่นใจได้เต็มร้อย ทำให้ Deviate NITRO™ 3 เป็นรองเท้าที่พร้อมลุยในทุกสถานการณ์จริงๆ ครับ

คะแนนที่ได้

9.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เด้งและส่งแรงดีมากครับ ใส่แล้วรู้สึกอยากวิ่งเร็วขึ้นตลอดเวลา ทำ New PB ไปแล้วเรียบร้อย!” – เอก, อายุ 34
“เบาสบาย ระบายอากาศดีมากค่ะ วิ่งยาวๆ แล้วเท้าไม่ร้อนเลย ชอบฟีลลิ่งตอนดีดตัวสุดๆ” – พลอย, อายุ 28


2. PUMA FAST-FWD NITRO™ Elite Men’s Running Shoes – 38008601 ★★★★★

“จรวดทางเรียบสำหรับระยะสั้น ดีไซน์สุดล้ำเพื่อการก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วที่สุด”

PUMA FAST-FWD NITRO™ Elite Men's Running Shoes - 38008601

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

หากคุณเป็นนักวิ่งสายทำความเร็วที่กำลังมองหา รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่ออกแบบมาเพื่อการแข่งขันระยะสั้นถึงกลางโดยเฉพาะ PUMA FAST-FWD NITRO™ Elite คือคำตอบที่น่าตื่นเต้นที่สุดครับ แค่เห็นดีไซน์ก็รู้เลยว่านี่ไม่ใช่รองเท้าธรรมดา ด้วยรูปทรงที่ดูล้ำสมัยและดุดัน มีการตัดทอนส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปจนสุด เพื่อให้ได้รองเท้าที่เบาและส่งเสริมการวิ่งด้วยปลายเท้า (Forefoot Striking) อย่างเต็มที่ รุ่นนี้ใช้โฟม NITROFOAM™ Elite เช่นเดียวกับรุ่นท็อป แต่มีการปรับจูนให้เหมาะกับการวิ่งในระยะ 5K ถึง 10K มากที่สุด ผสานกับแผ่นคาร์บอน PWRPLATE ที่ออกแบบมาให้ส่งแรงดีดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและทรงพลัง เป็นรองเท้าที่เกิดมาเพื่อทำลายสถิติอย่างแท้จริงครับ

คุณสมบัติเด่น

  • พื้นชั้นกลาง: NITROFOAM™ Elite ตอบสนองสูง เหมาะกับการวิ่งเร็ว
  • แผ่นคาร์บอน: PWRPLATE ออกแบบมาเพื่อการดีดตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
  • รูปทรง: ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการวิ่งด้วยปลายเท้า (Aggressive Toe-off)
  • อัปเปอร์: PWRTAPE และผ้าตาข่ายที่เบาและล็อกเท้าได้ดี
  • พื้นชั้นนอก: PUMAGRIP-LT รุ่นน้ำหนักเบาพิเศษ แต่ยังคงการยึดเกาะที่ดี
จุดเด่น
  • ส่งเสริมการวิ่งด้วยปลายเท้าได้อย่างสุดยอด
  • น้ำหนักเบามากเหมือนไม่ได้ใส่
  • ดีไซน์ดุดันและล้ำสมัย
  • ให้ฟีลลิ่งการวิ่งที่เร็วและสนุกสนาน
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่เหมาะกับนักวิ่งที่ลงส้นเท้า (Heel Striker)
  • ความทนทานอาจไม่สูงเท่ารองเท้าซ้อม
  • ไม่เหมาะกับการวิ่งระยะไกลเกินฮาล์ฟมาราธอน

รีวิวแบบเจาะลึก

ความพิเศษของ FAST-FWD NITRO™ Elite อยู่ที่ปรัชญาการออกแบบที่ชัดเจนครับ คือ “Forward Motion” หรือการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งสะท้อนออกมาในทุกส่วนของรองเท้า โดยเฉพาะรูปทรงของพื้นชั้นกลางที่มีการยกปลายเท้าให้เชิดขึ้นสูงเป็นพิเศษ (Aggressive Rocker Shape) และตัดส่วนส้นเท้าออกไปบางส่วน การออกแบบนี้จะบังคับและส่งเสริมให้นักวิ่งต้องลงน้ำหนักที่บริเวณปลายเท้า ซึ่งเป็นท่าวิ่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำความเร็วในระยะสั้น เมื่อรวมเข้ากับคุณสมบัติของโฟม NITROFOAM™ Elite ที่เด้งและตอบสนองได้ดี และแผ่นคาร์บอน PWRPLATE ที่ทำหน้าที่เป็นสปริงดีดตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือรอบขาที่หมุนได้เร็วขึ้นและการก้าวที่ทรงพลัง ทำให้คุณสามารถรักษาเพซที่ต้องการได้ง่ายขึ้น นี่จึงเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่น่าสนใจมากสำหรับคำถามที่ว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี สำหรับวันแข่งขันโดยเฉพาะ การมีรองเท้าที่ใช่ในวันแข่ง ควบคู่ไปกับการฟังเพลงปลุกใจผ่าน 9 อันดับ หูฟังบลูทูธ ออกกําลังกาย ยี่ห้อไหนดี ยิ่งช่วยเพิ่มพลังและสมาธิให้คุณได้อีกมากเลยครับ

อัปเปอร์ของรุ่นนี้ก็ถูกออกแบบมาเพื่อความเร็วเช่นกันครับ โดยใช้ผ้าตาข่ายที่บางและเบามาก แต่ยังคงความแข็งแรงและล็อกเท้าได้อย่างมั่นคงด้วยการเสริม PWRTAPE ในจุดที่สำคัญ ช่วยให้เท้าไม่เลื่อนไปมาในขณะที่วิ่งด้วยความเร็วสูง การระบายอากาศทำได้ดีเยี่ยมตามสไตล์รองเท้าแข่ง ส่วนพื้นชั้นนอก Puma เลือกใช้ PUMAGRIP-LT ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่เบากว่า PUMAGRIP ปกติ โดยลดปริมาณยางลงและวางไว้เฉพาะในจุดที่จำเป็นต่อการยึดเกาะจริงๆ เพื่อลดน้ำหนักโดยรวมของรองเท้าให้เหลือน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า FAST-FWD NITRO™ Elite เป็นรองเท้าที่มีความเฉพาะทางสูงมาก มันถูกสร้างมาเพื่อนักวิ่งที่มีฟอร์มการวิ่งที่ดีและต้องการทำความเร็วในระยะสั้นถึงกลาง ไม่เหมาะกับนักวิ่งที่ลงส้นเท้าหรือต้องการรองเท้าที่ซัพพอร์ตสูงสำหรับวิ่งยาวๆ แต่ถ้าคุณคือคนที่ใช่สำหรับรองเท้ารุ่นนี้ มันจะเป็นอาวุธลับที่ช่วยให้คุณเข้าเส้นชัยได้เร็วกว่าที่เคยแน่นอนครับ

คะแนนที่ได้

9.6/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ฟีลลิ่งมันส์มากครับ เหมือนรองเท้ามันดึงให้เราต้องวิ่งเร็วขึ้นตลอดเวลา เหมาะกับวันแข่ง 10K จริงๆ” – วิน, อายุ 29
“ดีไซน์เท่มากค่ะ เบาจนตกใจเลย ใส่แล้วรู้สึกรอบขามันไปเองเลย ชอบมากค่ะ” – มิ้นท์, อายุ 25


3. PUMA RUNNING Deviate NITRO 2 37685525 ★★★★☆

“ความสมดุลที่ลงตัวระหว่างความเร็วและความสบาย รุ่นยอดนิยมที่นักวิ่งทุกคนต้องลอง”

PUMA RUNNING Deviate NITRO 2 37685525

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

แม้ว่า Deviate NITRO™ 3 จะเปิดตัวมาอย่างยิ่งใหญ่ แต่ PUMA Deviate NITRO 2 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมและเป็นคำตอบของคำถาม รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี สำหรับนักวิ่งจำนวนมากที่มองหาความสมดุลที่สมบูรณ์แบบครับ รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับซีรีส์ Deviate อย่างแท้จริง ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความนุ่มสบายจากโฟม NITROFOAM™ Elite ที่สอดไส้อยู่ด้านบน และความมั่นคงจากโฟม NITROFOAM™ ปกติที่อยู่ชั้นล่าง ทำให้ได้ฟีลลิ่งที่ทั้งนุ่มและเด้ง แต่ยังคงความเสถียรไว้ได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับแผ่นคาร์บอน PWRPLATE ที่ช่วยส่งแรง ทำให้เป็นรองเท้าอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่การซ้อมวิ่งยาว (Long Run) ไปจนถึงการแข่งขันจริงในทุกระยะทางครับ

คุณสมบัติเด่น

  • พื้นชั้นกลาง: ผสมผสานระหว่าง NITROFOAM™ Elite และ NITROFOAM™ เพื่อความสมดุลของความนุ่มและเสถียรภาพ
  • แผ่นคาร์บอน: PWRPLATE ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและการส่งแรง
  • การล็อกส้นเท้า: ปรับปรุงใหม่ให้กระชับและสบายกว่ารุ่นแรก
  • พื้นชั้นนอก: PUMAGRIP ให้การยึดเกาะที่ไว้ใจได้
  • ความอเนกประสงค์: เหมาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับและทุกระยะทาง
จุดเด่น
  • เป็นรองเท้าที่สมดุลและใช้งานได้หลากหลายมาก
  • ฟีลลิ่งนุ่มสบายแต่ยังคงความเด้ง
  • การล็อกส้นเท้าทำได้ดีเยี่ยม
  • ทนทาน สามารถใช้เป็นรองเท้าซ้อมหลักได้
ข้อควรพิจารณา
  • น้ำหนักอาจจะมากกว่ารองเท้าแข่งโดยเฉพาะ
  • อาจไม่ดีดเท่ารองเท้า Super Shoe รุ่นใหม่ๆ

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดเด่นที่ทำให้ Deviate NITRO 2 ครองใจนักวิ่งทั่วโลกคือ “ความสมดุล” ครับ Puma ทำการบ้านมาอย่างดีในการปรับปรุงจากรุ่นแรก โดยเฉพาะการออกแบบพื้นชั้นกลางที่ใช้โฟม 2 ชนิดมาทำงานร่วมกัน ชั้นบนสุดที่ติดกับแผ่นรองเท้าเป็น NITROFOAM™ Elite ซึ่งให้ความรู้สึกนุ่มและเด้งทันทีที่สวมใส่ ส่วนชั้นล่างเป็น NITROFOAM™ ที่มีความหนาแน่นมากกว่าเล็กน้อย ช่วยสร้างฐานที่มั่นคงและเพิ่มความทนทาน เมื่อทำงานร่วมกับแผ่นคาร์บอน PWRPLATE ที่อยู่ตรงกลาง ผลลัพธ์ที่ได้คือรองเท้าที่ให้ประสบการณ์การวิ่งที่กลมกล่อมมากครับ มันสามารถพาคุณไปได้แบบสบายๆ ในการซ้อมวิ่งยาว แต่เมื่อคุณต้องการเพิ่มความเร็วในวันซ้อม Tempo หรือ Interval มันก็พร้อมที่จะตอบสนองและส่งแรงดีดให้คุณได้อย่างน่าประทับใจ นี่แหละครับคือเหตุผลที่ว่าทำไมเมื่อมีคนถามว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่คุ้มค่าและใช้ได้หลากหลายสถานการณ์ ชื่อของ Deviate NITRO 2 จึงมักจะถูกยกขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ เสมอ

อีกหนึ่งการปรับปรุงที่สำคัญในรุ่นที่ 2 คือบริเวณส้นเท้าครับ ซึ่งในรุ่นแรกมีเสียงบ่นเรื่องการล็อกส้นเท้าที่ไม่ค่อยกระชับนัก แต่ในรุ่นนี้ Puma ได้ออกแบบ Heel Counter ใหม่ให้โอบรับและล็อกส้นเท้าได้ดีขึ้นมาก ลดปัญหาส้นเท้าขยับหรือเลื่อนหลุดในขณะวิ่งได้อย่างสิ้นเชิง อัปเปอร์เป็นผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดีและมีความยืดหยุ่นเล็กน้อย ทำให้ใส่สบาย ไม่บีบรัดเท้าจนเกินไป พื้นด้านนอกยังคงเป็น PUMAGRIP ที่ไว้ใจได้เสมอ โดยรวมแล้ว Deviate NITRO 2 เป็นรองเท้าที่เหมาะกับนักวิ่งแทบทุกคน ตั้งแต่มือใหม่ที่อยากลองรองเท้ามีแผ่นคาร์บอน ไปจนถึงนักวิ่งที่มีประสบการณ์ที่ต้องการรองเท้าคู่เดียวที่สามารถใช้ได้ทั้งซ้อมและแข่ง ถ้าคุณกำลังมองหารองเท้าที่เหมือนเป็น “มีดพกสวิส” ของวงการวิ่ง รุ่นนี้คือคำตอบที่ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ

คะแนนที่ได้

9.3/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เป็นรองเท้าที่ครบเครื่องมากครับ ใส่วิ่งช้าก็สบาย พอจะเร่งก็ไปได้ดี ล็อกส้นเท้าดีขึ้นเยอะเลย” – ตั้ม, อายุ 38
“ชอบความนุ่มเด้งที่ลงตัวของมันค่ะ ไม่แข็งไป ไม่ยวบไป ใช้วิ่งซ้อมยาวประจำเลยค่ะ” – ฝน, อายุ 31


4. PUMA RUNNING Electrify NITRO 3 37845601 ★★★★☆

“คู่ซ้อมสุดคุ้ม เทคโนโลยี NITRO ในราคาที่เข้าถึงง่าย อัปเกรดใหม่ให้นุ่มและสบายกว่าเดิม”

PUMA RUNNING Electrify NITRO 3 37845601

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับนักวิ่งที่กำลังมองหา รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่เป็น Daily Trainer หรือรองเท้าสำหรับซ้อมในทุกๆ วัน ที่มาพร้อมเทคโนโลยีดีๆ ในราคาที่จับต้องได้ PUMA Electrify NITRO 3 คือตัวเลือกที่โดดเด่นมากครับ ในเวอร์ชันที่ 3 นี้ Puma ได้อัปเกรดพื้นชั้นกลางให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น โดยใช้โฟม 2 ชั้น ชั้นบนที่ใกล้กับเท้าเป็น NITROFOAM™ ที่ให้ความนุ่มและเด้ง ส่วนชั้นล่างเป็นโฟม PROFOAMLITE ที่มีความทนทานและมั่นคง การผสมผสานนี้ทำให้ได้รองเท้าที่ซัพพอร์ตดีเยี่ยม เหมาะกับการวิ่งสะสมระยะในแต่ละวัน และยังคงความสนุกในการวิ่งไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นรองเท้าที่คุ้มค่าและเหมาะจะเป็นเพื่อนคู่ใจในการซ้อมของคุณครับ

คุณสมบัติเด่น

  • พื้นชั้นกลาง: NITROFOAM™ ผสานกับ PROFOAMLITE EVA ให้ทั้งความนุ่มและการซัพพอร์ต
  • อัปเปอร์: Engineered Mesh ที่ระบายอากาศได้ดี พร้อมดีไซน์ที่ดูทันสมัย
  • การซัพพอร์ต: มีการเสริมโครงสร้างบริเวณส้นเท้าเพื่อความมั่นคง
  • พื้นชั้นนอก: PUMAGRIP เพื่อการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม
  • ความคุ้มค่า: ได้เทคโนโลยี NITRO ในราคาที่ไม่สูงเกินไป
จุดเด่น
  • คุ้มค่ามาก ได้เทคโนโลยี NITRO ในราคาสบายกระเป๋า
  • ซัพพอร์ตดี เหมาะกับการวิ่งซ้อมทุกวัน
  • พื้น PUMAGRIP ยึดเกาะดีเยี่ยม
  • ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี
ข้อควรพิจารณา
  • อาจไม่เด้งและเบาเท่ารุ่นที่ใช้ NITRO Elite
  • ไม่เหมาะกับการใช้วิ่งทำความเร็วสูงในวันแข่งขัน

รีวิวแบบเจาะลึก

หัวใจของ Electrify NITRO 3 คือการทำให้เทคโนโลยีระดับสูงเข้าถึงง่ายขึ้นครับ การที่ Puma นำโฟม NITRO™ มาใส่ไว้ในรองเท้าซ้อมระดับนี้ถือว่าใจป้ำมาก เพราะมันช่วยยกระดับประสบการณ์การวิ่งได้อย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับรองเท้าในกลุ่มราคาเดียวกันที่มักจะใช้โฟม EVA ธรรมดา ฟีลลิ่งของ Electrify NITRO 3 จะมีความนุ่มและยืดหยุ่นกว่าอย่างรู้สึกได้ ช่วยลดแรงกระแทกได้ดี ทำให้การวิ่งในแต่ละวันของคุณสบายขึ้นและลดความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บได้ ส่วนชั้นของ PROFOAMLITE ที่เป็นฐานอยู่ด้านล่างก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีในการสร้างความมั่นคงและเพิ่มความทนทานให้กับรองเท้า ทำให้คุณสามารถใช้งานมันได้อย่างยาวนานโดยที่โฟมไม่ยุบตัวเร็วเกินไป นี่จึงเป็นรองเท้าที่ตอบโจทย์มากสำหรับคำถามที่ว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี สำหรับการซ้อมเป็นประจำ

ในส่วนของอัปเปอร์ก็ได้รับการออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัยและเพรียวขึ้น ใช้ผ้า Engineered Mesh ที่มีแพทเทิร์นการทอที่แตกต่างกันในแต่ละส่วน เพื่อให้ทั้งการระบายอากาศที่ดีและความกระชับที่พอเหมาะ มีการเสริมโครงสร้างบริเวณส้นเท้า (Heel Counter) ที่แข็งแรง ช่วยล็อกเท้าให้มั่นคงในทุกย่างก้าว ลิ้นรองเท้าและขอบข้อเท้ามีการบุนวมมาอย่างพอดี ให้ความรู้สึกสบายและลดการเสียดสีได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่า Puma ยังคงให้พื้นนอก PUMAGRIP มาในรุ่นนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญมาก เพราะมันช่วยให้คุณวิ่งได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพถนน ไม่ต้องกังวลเรื่องการลื่นล้ม โดยรวมแล้ว PUMA Electrify NITRO 3 เป็นรองเท้าซ้อมที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ เหมาะสำหรับนักวิ่งมือใหม่ไปจนถึงนักวิ่งระดับกลางที่ต้องการรองเท้าดีๆ สักคู่ไว้ใช้วิ่งเพื่อสุขภาพและสะสมระยะทางครับ

คะแนนที่ได้

9.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“คุ้มมากครับ ได้โฟม Nitro ในราคานี้ นุ่มสบายกว่าที่คิดเยอะเลย ใส่วิ่งทุกวันเลยครับ” – บอย, อายุ 30
“เป็นรองเท้าซ้อมที่ดีมากค่ะ ซัพพอร์ตกำลังดี วิ่งแล้วไม่เจ็บเท้าเลย พื้นก็เกาะถนนดีมาก” – แอน, อายุ 35


5. PUMA RUNNING Aviator 19517502 ★★★★☆

“คู่เริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบ นุ่ม เบา สบาย ตอบโจทย์นักวิ่งหน้าใหม่และสายสุขภาพ”

PUMA RUNNING Aviator 19517502

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับเพื่อนๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่วงการวิ่ง หรือกำลังมองหา รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่เน้นความสบายและราคาเป็นมิตร PUMA Aviator คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ รุ่นนี้ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงความต้องการของนักวิ่งหน้าใหม่เป็นหลัก โดยเน้นที่การให้ความรู้สึกสบายในการสวมใส่และมีซัพพอร์ตที่ดีในระดับพื้นฐาน ด้วยพื้นชั้นกลางที่ใช้โฟม ProFoam Lite ซึ่งเป็นโฟม EVA ที่มีน้ำหนักเบาและให้การตอบสนองที่ดีกว่าโฟม EVA ทั่วไป ช่วยรองรับแรงกระแทกได้ดี ทำให้การวิ่งในช่วงแรกๆ ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดีครับ

คุณสมบัติเด่น

  • พื้นชั้นกลาง: ProFoam Lite EVA น้ำหนักเบาและรองรับแรงกระแทกได้ดี
  • อัปเปอร์: Engineered Mesh ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม
  • การออกแบบ: ได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์ Magnify Nitro ให้ความรู้สึกพรีเมียม
  • พื้นชั้นนอก: วางยางในโซนที่สำคัญเพื่อความทนทานและการยึดเกาะ
  • เหมาะสำหรับ: นักวิ่งเริ่มต้น, การวิ่งเพื่อสุขภาพ, การเดินออกกำลังกาย
จุดเด่น
  • ราคาเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  • ใส่สบาย ระบายอากาศดีมาก
  • น้ำหนักเบา ไม่รู้สึกหนักเท้า
  • ดีไซน์สวยงาม สามารถใส่ลำลองได้
ข้อควรพิจารณา
  • การซัพพอร์ตและแรงเด้งไม่เท่ารุ่น NITRO
  • อาจไม่ทนทานเท่ารองเท้าซ้อมระดับสูง

รีวิวแบบเจาะลึก

PUMA Aviator อาจจะไม่ได้มีเทคโนโลยีที่หวือหวาเท่ากับรุ่นพี่ในซีรีส์ NITRO แต่มันก็ทำหน้าที่ของตัวเองในฐานะ “รองเท้าสำหรับผู้เริ่มต้น” ได้อย่างยอดเยี่ยมครับ จุดเด่นของมันคือความเรียบง่ายที่ใช้งานได้จริง โฟม ProFoam Lite ให้ความนุ่มที่พอดี ไม่ยวบจนเกินไป สามารถรองรับแรงกระแทกจากการวิ่งจ็อกกิ้งหรือวิ่งในระยะทางสั้นๆ ประมาณ 3-5 กิโลเมตรได้เป็นอย่างดี รูปทรงของรองเท้าถูกออกแบบมาให้มีความเป็นกลาง (Neutral) สูง เหมาะกับนักวิ่งส่วนใหญ่ที่มีลักษณะเท้าปกติ อัปเปอร์เป็นผ้า Engineered Mesh ที่โปร่งและเบาสบาย ช่วยให้เท้าของคุณไม่อับชื้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ที่อาจจะยังไม่ชินกับการวิ่งเป็นเวลานานๆ การมีรองเท้าที่ระบายอากาศดีจะช่วยให้รู้สึกสบายและอยากที่จะออกไปวิ่งบ่อยขึ้นครับ

อีกหนึ่งความน่าสนใจของ Aviator คือการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้ารุ่นสูงอย่าง Magnify Nitro ทำให้มันมีหน้าตาที่ดูดีและทันสมัยเกินราคา สามารถใส่ไปเดินเล่นหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตประจำวันได้โดยไม่รู้สึกขัดเขิน พื้นรองเท้าด้านนอกมีการวางแผ่นยางไว้ในบริเวณที่มีการเสียดสีสูง เช่น ส้นเท้าและปลายเท้า เพื่อเพิ่มความทนทานและการยึดเกาะในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ได้ใช้ PUMAGRIP เต็มแผ่นเหมือนรุ่นสูงๆ แต่ก็เพียงพอสำหรับการวิ่งบนทางเท้าหรือในสวนสาธารณะทั่วไปครับ สรุปแล้ว ถ้าคุณมีงบประมาณจำกัดและกำลังถามตัวเองว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นรองเท้าคู่แรกของคุณ PUMA Aviator คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้คุณตกหลุมรักการวิ่งได้ไม่ยากเลยครับ

คะแนนที่ได้

8.7/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เป็นรองเท้าคู่แรกที่ดีมากครับ นุ่มกำลังดี ไม่แพงด้วย ใส่วิ่งตอนเช้าสบายเลย” – อาร์ม, อายุ 24
“เบาและสวยดีค่ะ ใส่เดินก็ได้ วิ่งก็ได้ ระบายอากาศดี ไม่ร้อนเท้าเลยค่ะ” – จิ๊บ, อายุ 29


6. PUMA RUNNING Redeem Profoam 37799514 ★★★★☆

“ดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัย พร้อมซัพพอร์ตที่ลงตัวสำหรับทุกการเคลื่อนไหว”

PUMA RUNNING Redeem Profoam 37799514

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าคุณกำลังมองหา รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การวิ่งบนถนน แต่ยังสามารถพาคุณไปออกกำลังกายในยิมหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อย่างมั่นใจ PUMA Redeem Profoam คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบ Active ได้อย่างลงตัวครับ รุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูทันสมัยและมีความเป็นสตรีทแวร์สูง แต่ก็ยังคงฟังก์ชันการเป็นรองเท้าวิ่งที่ดีไว้ ด้วยพื้นชั้นกลาง Profoam ที่ให้การรองรับแรงกระแทกและความนุ่มสบายที่เพียงพอสำหรับการวิ่งระยะสั้น หรือการเทรนนิ่งในรูปแบบต่างๆ เป็นรองเท้าอเนกประสงค์ที่พร้อมจะซัพพอร์ตทุกการเคลื่อนไหวของคุณครับ

คุณสมบัติเด่น

  • พื้นชั้นกลาง: Profoam EVA ให้การตอบสนองและรองรับแรงกระแทกได้ดี
  • แผ่นรองพื้น: SoftFoam+ ให้ความรู้สึกนุ่มสบายทันทีที่สวมใส่
  • อัปเปอร์: ดีไซน์แบบผสมผสานระหว่างผ้าและวัสดุสังเคราะห์เพื่อความทนทาน
  • พื้นชั้นนอก: ยาง Protread เพิ่มการยึดเกาะและความทนทาน
  • ความอเนกประสงค์: เหมาะทั้งการวิ่ง, เทรนนิ่ง และใส่ในชีวิตประจำวัน
จุดเด่น
  • ดีไซน์สวยงามและทันสมัย
  • เป็นรองเท้าที่ใช้งานได้หลากหลาย
  • ซัพพอร์ตดี เหมาะกับการออกกำลังกายในยิม
  • ราคาไม่สูง เข้าถึงง่าย
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่เหมาะกับการวิ่งระยะไกล
  • น้ำหนักอาจจะมากกว่ารองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ

รีวิวแบบเจาะลึก

PUMA Redeem Profoam เป็นรองเท้าที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ใช้ชีวิตแบบไม่หยุดนิ่งครับ จุดเด่นของมันคือความสามารถในการปรับตัวเข้ากับกิจกรรมที่หลากหลาย ในแง่ของการวิ่ง โฟม Profoam อาจจะไม่ได้นุ่มเด้งเท่ากับ NITRO แต่ก็ให้การซัพพอร์ตและรองรับแรงกระแทกได้ดีพอสำหรับการวิ่งจ็อกกิ้งเบาๆ หรือวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าในยิม ความมั่นคงของโฟมชนิดนี้ยังเป็นข้อดีเมื่อนำไปใช้ในการออกกำลังกายแบบ Cross-training ที่มีการเคลื่อนไหวไปด้านข้าง เช่น การทำ Burpees หรือ Box jumps ซึ่งรองเท้าวิ่งที่นุ่มเกินไปอาจจะทำให้เสียการทรงตัวได้ง่าย ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่เข้ายิมเป็นประจำและมองหา รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่จะเป็นรองเท้าคู่เดียวจบสำหรับทุกกิจกรรมในยิม Redeem Profoam ถือเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดมากครับ การมีรองเท้าที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ จะช่วยให้คุณสนุกกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น เหมือนกับการมี 10 เครื่องปั่นสมูทตี้ รุ่นไหนดี ไว้ทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหลังออกกำลังกายเสร็จนั่นเองครับ

ในส่วนของดีไซน์ ต้องยอมรับว่า Puma ทำออกมาได้น่าสนใจมากครับ การผสมผสานวัสดุที่หลากหลายบนตัวอัปเปอร์ทำให้รองเท้าดูมีมิติและไม่น่าเบื่อ มีการใช้โลโก้ PUMA Formstrip ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างโดดเด่น ทำให้มันเป็นรองเท้าที่สามารถใส่เข้ากับชุดลำลองได้อย่างง่ายดาย แผ่นรองพื้น SoftFoam+ ที่ให้มาก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ช่วยเพิ่มความสบายได้อย่างมาก มันให้ความรู้สึกนุ่มเหมือนเหยียบลงบนหมอนทันทีที่สวมใส่ ช่วยลดความเมื่อยล้าได้ดีเมื่อต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานานๆ พื้นรองเท้าด้านนอกใช้ยาง Protread ที่มีความทนทานและให้การยึดเกาะที่ดีบนพื้นผิวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นยิม, ทางเท้า หรือพื้นคอนกรีต แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่รองเท้าวิ่งที่เร็วที่สุดหรือเบาที่สุด แต่ด้วยความอเนกประสงค์, ความสบาย และดีไซน์ที่สวยงาม ทำให้ Redeem Profoam เป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ดีสำหรับคำถาม รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี สำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์แบบแอคทีฟครับ

คะแนนที่ได้

8.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใส่เข้ายิมสบายมากครับ วิ่งบนลู่ก็ได้ เล่นเวทก็มั่นคงดี ดีไซน์ก็สวยด้วยครับ” – นนท์, อายุ 27
“เป็นรองเท้าที่ใส่ได้ทุกวันเลยค่ะ เดินสบาย วิ่งเบาๆ ก็ได้ ไม่ต้องเปลี่ยนรองเท้าบ่อยๆ” – แพรว, อายุ 32


7. PUMA RUNNING Softride Enzo Evo 37704804 ★★★☆☆

“ความนุ่มสบายขั้นสุดในดีไซน์แบบสวม ล็อกกระชับ พร้อมสำหรับทุกกิจกรรมเบาๆ”

PUMA RUNNING Softride Enzo Evo 37704804

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

เมื่อพูดถึงความนุ่มสบายแบบสุดขั้ว PUMA Softride Enzo Evo คือคำตอบที่ชัดเจนสำหรับคำถาม รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่เน้นความสบายในการสวมใส่เป็นอันดับหนึ่งครับ รุ่นนี้เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสองเทคโนโลยีเด่นของ Puma คือพื้น Softride EVA ที่ให้ความนุ่มสบายอย่างเหลือเชื่อ และดีไซน์ของซีรีส์ Enzo ที่เน้นความกระชับและทันสมัย ผลลัพธ์ที่ได้คือรองเท้าที่มีฟีลลิ่งเหมือนเดินอยู่บนก้อนเมฆ แต่ยังคงความกระชับและซัพพอร์ตได้ดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการวิ่งจ็อกกิ้งเบาๆ, การเดิน, การเข้ายิม หรือใส่เป็นรองเท้าลำลองในวันที่ต้องการความสบายเป็นพิเศษครับ

คุณสมบัติเด่น

  • พื้นชั้นกลาง: Softride EVA ให้ความนุ่มและการรองรับแรงกระแทกในระดับสูงสุด
  • อัปเปอร์: ดีไซน์แบบ Bootie Construction สวมใส่ง่ายและกระชับเหมือนถุงเท้า
  • การล็อกเท้า: มีแถบยางยืดและโครงสร้าง TPU บริเวณกลางเท้าเพื่อความมั่นคง
  • แผ่นรองพื้น: SoftFoam+ เพิ่มความนุ่มสบายอีกระดับ
  • ดีไซน์: โดดเด่นด้วยโลโก้ PUMA ขนาดใหญ่ ดูทันสมัย
จุดเด่น
  • นุ่มสบายมาก เหมือนเดินบนปุยเมฆ
  • สวมใส่ง่ายและรวดเร็ว
  • ดีไซน์สวยงาม โดดเด่น
  • ราคาไม่แพง เหมาะกับใช้งานทั่วไป
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่เหมาะกับการวิ่งจริงจังหรือระยะไกล
  • การตอบสนองและแรงส่งไม่สูง

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดขายหลักของ Softride Enzo Evo คือ “ความสบาย” ที่สัมผัสได้ทันทีครับ เทคโนโลยี Softride ของ Puma คือการใช้โฟม EVA สูตรพิเศษที่มีความหนาแน่นต่ำ ทำให้มันมีความนุ่มและยุบตัวเพื่อรองรับแรงกระแทกได้ดีมาก เมื่อรวมกับแผ่นรองพื้น SoftFoam+ ที่นุ่มเป็นพิเศษอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้รองเท้ารุ่นนี้มอบประสบการณ์ความสบายในระดับที่หาได้ยากในรองเท้าราคานี้ครับ แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการวิ่งทำความเร็วหรือวิ่งระยะไกล แต่สำหรับคนที่มองหา รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี สำหรับการฟื้นฟูร่างกาย (Recovery Run) เบาๆ หลังวันซ้อมหนัก หรือสำหรับใส่เดินเยอะๆ ในชีวิตประจำวัน รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้อย่างยอดเยี่ยม ความนุ่มของมันช่วยลดภาระให้กับเท้าและข้อต่อได้เป็นอย่างดี ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

การออกแบบอัปเปอร์เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจครับ รุ่นนี้ใช้ดีไซน์แบบ Bootie Construction หรือโครงสร้างที่คล้ายกับถุงเท้า ทำให้การสวมใส่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว แค่สอดเท้าเข้าไปก็รู้สึกกระชับพอดี ไม่จำเป็นต้องมานั่งผูกเชือกให้วุ่นวาย (แม้จะมีเชือกมาให้เพื่อปรับความกระชับเพิ่มเติมก็ตาม) บริเวณกลางเท้ามีโครงสร้าง TPU และแถบยางยืดที่ช่วยโอบรัดอุ้งเท้า เพิ่มความมั่นคงและป้องกันไม่ให้เท้าพลิกได้ง่าย ดีไซน์โดยรวมมีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ด้วยโลโก้ PUMA ขนาดใหญ่ที่ด้านข้าง ทำให้มันเป็นรองเท้าที่ดูดีมีสไตล์และสามารถบ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี สรุปได้ว่า PUMA Softride Enzo Evo อาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับนักวิ่งสาย Performance แต่ถ้าคำถามของคุณคือ รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่สบายที่สุดและใช้งานได้หลากหลายในชีวิตประจำวัน รุ่นนี้คือผู้ชนะแบบนอนมาเลยครับ

คะแนนที่ได้

8.2/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“นุ่มมากจริงๆ ครับ ใส่เดินทั้งวันไม่เมื่อยเลย ชอบที่ไม่ต้องผูกเชือกด้วย สะดวกดีครับ” – เจมส์, อายุ 25
“ดีไซน์เก๋มากค่ะ ใส่ไปยิมแล้วมีแต่คนมอง พื้นนุ่มมากเหมือนที่เค้าว่าจริงๆ ค่ะ” – ฟ้า, อายุ 30


8. PUMA RUNNING SOFTRIDE Rift 19373905 ★★★☆☆

“เรียบง่าย เบาสบายในทุกย่างก้าว เพื่อนคู่ใจในวันสบายๆ ของคุณ”

PUMA RUNNING SOFTRIDE Rift 19373905

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

หากคุณชื่นชอบความนุ่มของเทคโนโลยี Softride แต่ต้องการดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายและมินิมอลกว่า Enzo Evo รุ่น PUMA SOFTRIDE Rift คือคำตอบที่ใช่เลยครับ สำหรับคำถามว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่เน้นความเบาสบายและสวมใส่ง่ายในราคาที่เป็นมิตรที่สุด รุ่นนี้โดดเด่นด้วยการใช้พื้น SOFTRIDE Foam แบบเต็มแผ่นที่ให้ความนุ่มสบายในทุกย่างก้าว จับคู่กับอัปเปอร์ผ้าถักที่เรียบง่ายแต่ดูดี ทำให้เป็นรองเท้าที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใส่เดินในชีวิตประจำวัน, ไปเที่ยว, หรือออกกำลังกายเบาๆ ที่ไม่ต้องการซัพพอร์ตที่ซับซ้อนมากนักครับ

คุณสมบัติเด่น

  • พื้นชั้นกลาง: SOFTRIDE Foam ให้ความนุ่มสบายและน้ำหนักเบา
  • อัปเปอร์: ผ้าถัก (Knit Upper) ที่ยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ดี
  • ดีไซน์: แบบ Slip-on สวมใส่ง่าย พร้อมเชือกสำหรับปรับความกระชับ
  • น้ำหนัก: เบามาก เหมาะกับการใส่เดินตลอดทั้งวัน
  • พื้นชั้นนอก: มีการวางแผ่นยางในจุดที่สำคัญเพื่อเพิ่มความทนทาน
จุดเด่น
  • น้ำหนักเบาและนุ่มสบายมาก
  • สวมใส่ง่าย ดีไซน์มินิมอล
  • ราคาเข้าถึงง่ายมาก
  • ระบายอากาศได้ดี
ข้อควรพิจารณา
  • การซัพพอร์ตน้อย ไม่เหมาะกับการวิ่ง
  • ความทนทานอาจไม่สูงมากนัก

รีวิวแบบเจาะลึก

SOFTRIDE Rift คือการนำเสนอแก่นแท้ของความสบายในรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุดครับ Puma ตัดทอนส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือไว้เพียงหัวใจสำคัญคือพื้น SOFTRIDE ที่นุ่มและเบา และอัปเปอร์ผ้าถักที่โอบรับเท้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ฟีลลิ่งของรองเท้ารุ่นนี้จะเน้นไปที่ความสบายในการเดินเป็นหลัก มันอาจจะไม่ได้ให้แรงส่งหรือความมั่นคงเท่ากับรองเท้าวิ่งรุ่นอื่นๆ แต่มันมอบความรู้สึกผ่อนคลายให้กับเท้าได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับเป็นรองเท้าคู่ที่สองไว้ใส่สลับกับรองเท้าวิ่งหลัก หรือเป็นรองเท้าสำหรับวันพักผ่อนสบายๆ หากจะเปรียบเทียบกับอุปกรณ์อื่นๆ มันก็เหมือนกับ 10 อันดับ เก้าอี้เกมมิ่ง ยี่ห้อไหนดี ที่แม้จะชื่อว่าเก้าอี้เกมมิ่ง แต่หลายคนก็ซื้อมันมาเพื่อความสบายในการนั่งทำงานนานๆ เช่นกันครับ SOFTRIDE Rift ก็เป็น รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่แม้จะอยู่ในหมวดวิ่ง แต่ก็โดดเด่นในด้านความสบายสำหรับการใช้งานทั่วไปมากกว่า

อัปเปอร์ผ้าถักของรุ่นนี้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับไปตามรูปเท้าของผู้สวมใส่ได้ดี และยังระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดแม้จะใส่เป็นเวลานาน ดีไซน์แบบ Slip-on ช่วยให้การสวมใส่ทำได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย แต่ก็ยังมีเชือกรองเท้ามาให้สำหรับคนที่ต้องการปรับความกระชับให้พอดีกับเท้าของตัวเองมากขึ้น พื้นรองเท้าด้านนอกมีการเสริมแผ่นยางไว้ที่บริเวณส้นเท้าและปลายเท้า ซึ่งเป็นจุดที่มีการลงน้ำหนักและเสียดสีมากที่สุด ช่วยยืดอายุการใช้งานของรองเท้าได้ในระดับหนึ่ง โดยรวมแล้ว PUMA SOFTRIDE Rift เป็นรองเท้าที่คุ้มค่ามากสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับความสบายในชีวิตประจำวันและมีงบประมาณจำกัด แม้มันจะไม่ใช่รองเท้าวิ่งที่ดีที่สุด แต่ในฐานะรองเท้าลำลองที่ใส่สบายที่สุดรุ่นหนึ่ง มันทำหน้าที่ของมันได้อย่างไม่มีที่ติเลยครับ

คะแนนที่ได้

8.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เบามากครับ ใส่เหมือนไม่ได้ใส่เลยจริงๆ นุ่มสบาย เหมาะกับใส่เดินเล่นมากครับ” – ท็อป, อายุ 33
“ชอบความเรียบง่ายของมันค่ะ แมทช์กับชุดง่ายดี ใส่ไปทำงานในวันที่ต้องเดินเยอะๆ สบายเท้ามากค่ะ” – นุ่น, อายุ 26


9. PUMA RUNNING Twitch Runner 37628903 ★★★☆☆

“ความทนทานและซัพพอร์ตที่ไว้ใจได้ในดีไซน์คลาสสิก”

PUMA RUNNING Twitch Runner 37628903

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

PUMA Twitch Runner เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคำถาม รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ในกลุ่มราคาเริ่มต้น โดยรุ่นนี้จะเน้นไปที่ความทนทานและการซัพพอร์ตที่มั่นคง เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าที่ไว้ใจได้สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันหรือวิ่งออกกำลังกายระยะสั้นๆ ด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรองเท้าวิ่ง Performance รุ่นคลาสสิกของ Puma ทำให้มันมีโครงสร้างที่แข็งแรงและให้ความรู้สึกที่มั่นคงในการสวมใส่ครับ

คุณสมบัติเด่น

  • พื้นชั้นกลาง: CMEVA (Compression-molded EVA) ให้การซัพพอร์ตที่มั่นคงและทนทาน
  • แผ่นรองพื้น: SoftFoam+ เพิ่มความนุ่มสบายในการสวมใส่
  • อัปเปอร์: Mono Mesh ที่ทนทานและระบายอากาศได้ดี
  • โครงสร้าง: มีการเสริมโครงสร้างภายในเพื่อเพิ่มความมั่นคงบริเวณกลางเท้า
  • พื้นชั้นนอก: ยางแบบเต็มแผ่นเพื่อความทนทานและการยึดเกาะสูงสุด
จุดเด่น
  • ทนทานมาก เหมาะกับการใช้งานหนัก
  • ให้ความรู้สึกมั่นคง ซัพพอร์ตดี
  • พื้นยึดเกาะถนนได้ดี
  • ราคาไม่แพง
ข้อควรพิจารณา
  • ค่อนข้างหนักและแข็งเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น
  • การตอบสนองและแรงเด้งไม่สูง

รีวิวแบบเจาะลึก

Twitch Runner แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ในลิสต์นี้ตรงที่มันไม่ได้เน้นความนุ่มฟูหรือความเด้งเป็นพิเศษ แต่เน้นไปที่ “ความทนทานและความมั่นคง” ครับ พื้นชั้นกลางใช้โฟม CMEVA ซึ่งเป็นโฟม EVA ที่ผ่านการอัดขึ้นรูป ทำให้มีความหนาแน่นและทนทานสูงกว่าโฟม EVA ทั่วไป ฟีลลิ่งของมันจะค่อนข้างเฟิร์มและมั่นคง ซึ่งอาจจะถูกใจนักวิ่งบางคนที่ไม่ได้ชอบรองเท้าที่นุ่มยวบจนเกินไป เพราะมันให้ความรู้สึกที่เชื่อมต่อกับพื้นได้ดีกว่า ความมั่นคงนี้ยังเป็นประโยชน์เมื่อต้องวิ่งบนพื้นผิวที่ไม่เรียบเล็กน้อย หรือเมื่อต้องใช้งานในชีวิตประจำวันที่ต้องมีการเดินเยอะๆ ครับ สำหรับใครที่กำลังมองหา รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่เป็นเหมือนรถกระบะที่ไว้ใจได้ มากกว่าจะเป็นรถสปอร์ตที่โฉบเฉี่ยว Twitch Runner คือคำตอบนั้นครับ

จุดเด่นที่สุดของรุ่นนี้คือพื้นรองเท้าด้านนอกที่ให้ยางมาแบบเต็มแผ่น ซึ่งแตกต่างจากรองเท้าในระดับราคาเดียวกันหลายๆ รุ่นที่มักจะลดปริมาณยางลงเพื่อลดต้นทุน การให้ยางมาเต็มๆ แบบนี้ทำให้ Twitch Runner เป็นรองเท้าที่มีความทนทานสูงมาก สามารถใช้งานได้ยาวนานและให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพอากาศ อัปเปอร์ใช้ผ้า Mono Mesh ที่มีความแข็งแรงทนทาน แต่ก็ยังระบายอากาศได้ดีในระดับหนึ่ง มีการเสริมโครงสร้างภายในเพื่อช่วยล็อกกลางเท้าให้มั่นคง ทำให้เป็นรองเท้าที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยและซัพพอร์ตได้ดี แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่รองเท้าที่ใส่สบายที่สุดหรือเบาที่สุด แต่ด้วยความทนทานและความคุ้มค่า ทำให้ PUMA Twitch Runner ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่ต้องการรองเท้าสำหรับใช้งานทั่วไปแบบสมบุกสมบันครับ

คะแนนที่ได้

7.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ทนมากครับ ใส่ลุยได้ทุกที่เลย พื้นยางเกาะดีมาก รู้สึกมั่นใจดีครับ” – ก้อง, อายุ 28
“อาจจะแข็งไปนิดสำหรับวิ่งนานๆ แต่ถ้าใส่เดินหรือทำงานคือดีเลยค่ะ ทนดี ไม่ต้องซื้อใหม่บ่อยๆ” – เมย์, อายุ 36


10. PUMA RUNNING Flyer Flex 19520105 ★★★☆☆

“ยืดหยุ่นไปกับทุกการเคลื่อนไหว อิสระแห่งการก้าวในดีไซน์ที่เรียบง่าย”

PUMA RUNNING Flyer Flex 19520105

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ปิดท้ายลิสต์ รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี กันด้วย PUMA Flyer Flex รองเท้าที่เน้นความยืดหยุ่นและความเป็นธรรมชาติของการเคลื่อนไหวเป็นหัวใจสำคัญครับ รุ่นนี้ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่ต้องการรองเท้าสำหรับวิ่งเบาๆ หรือเข้าคลาสออกกำลังกายที่ต้องการความคล่องตัวสูง ด้วยพื้นรองเท้าที่มีร่องบากลึก (Flex Grooves) ทั่วทั้งแผ่น ทำให้รองเท้าสามารถงอและบิดตัวไปตามการเคลื่อนไหวของเท้าได้อย่างอิสระ มอบประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับการเดินเท้าเปล่าแต่ยังคงมีการป้องกันและซัพพอร์ตในระดับพื้นฐานครับ

คุณสมบัติเด่น

  • ความยืดหยุ่น: ร่องบาก FlyerFlex ทั่วพื้นรองเท้า ให้การเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ
  • พื้นชั้นกลาง: EVA Foam ให้การรองรับแรงกระแทกในระดับพื้นฐาน
  • แผ่นรองพื้น: SoftFoam+ เพิ่มความนุ่มสบาย
  • อัปเปอร์: ผ้าตาข่ายพร้อมโลโก้ Formstrip ที่ดูโฉบเฉี่ยว
  • เหมาะสำหรับ: เทรนนิ่งในยิม, คลาสเต้น, การวิ่งระยะสั้น
จุดเด่น
  • ยืดหยุ่นสูงมาก คล่องตัวในทุกการเคลื่อนไหว
  • น้ำหนักเบา
  • ดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูดี
  • ราคาเป็นมิตรมาก
ข้อควรพิจารณา
  • การซัพพอร์ตน้อยที่สุดในลิสต์นี้
  • ไม่เหมาะกับการวิ่งบนถนนเป็นประจำ

รีวิวแบบเจาะลึก

PUMA Flyer Flex คือรองเท้าสำหรับคนที่เชื่อในปรัชญา “Less is More” ครับ มันไม่ได้มีเทคโนโลยีซัพพอร์ตที่ซับซ้อน แต่เน้นไปที่การปลดปล่อยให้เท้าของคุณได้เคลื่อนไหวอย่างอิสระที่สุด ร่องบาก FlyerFlex ที่เป็นพระเอกของรุ่นนี้ ทำให้พื้นรองเท้ามีความยืดหยุ่นสูงมาก คุณสามารถงอรองเท้าได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับการออกกำลังกายที่ต้องใช้ความคล่องตัวของข้อเท้า เช่น การเต้นแอโรบิก, Body Combat หรือการทำท่าโยคะบางท่า นอกจากนี้ ความยืดหยุ่นนี้ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ ในเท้าของคุณได้อีกด้วยครับ สำหรับคนที่กำลังคิดว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่จะใช้ในยิมเป็นหลัก รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ

พื้นชั้นกลางเป็นโฟม EVA ที่ให้การรองรับแรงกระแทกในระดับเบื้องต้น เพียงพอสำหรับการรับน้ำหนักในการกระโดดหรือวิ่งเหยาะๆ ในระยะสั้นๆ แต่ไม่แนะนำให้ใช้สำหรับการวิ่งระยะไกลบนพื้นคอนกรีตแข็งๆ เพราะการซัพพอร์ตอาจจะไม่เพียงพอครับ อัปเปอร์เป็นผ้าตาข่ายที่ดูเรียบง่ายแต่ก็ระบายอากาศได้ดี มีโลโก้ PUMA Formstrip คาดด้านข้างเพิ่มความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ แผ่นรองพื้น SoftFoam+ ช่วยเพิ่มความนุ่มสบายได้อีกขั้น ทำให้แม้จะเป็นรองเท้าที่เน้นความยืดหยุ่น แต่ก็ยังคงความสบายในการสวมใส่ไว้ได้เป็นอย่างดี สรุปแล้ว PUMA Flyer Flex เป็นรองเท้าเฉพาะทางที่ทำหน้าที่ของมันได้ดีเยี่ยมในด้านการให้ความคล่องตัวและความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับเป็นรองเท้าคู่ใจในยิมของคุณครับ

คะแนนที่ได้

7.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ยืดหยุ่นดีมากครับ ใส่เต้นแล้วคล่องตัวดี ไม่ติดขัดเลย” – บาส, อายุ 26
“เบาดีค่ะ ใส่ง่าย แต่ถ้าจะวิ่งจริงจังคงต้องเลือกรุ่นอื่นที่ซัพพอร์ตเยอะกว่านี้ค่ะ” – กิ๊ฟ, อายุ 31


มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ: การกลับมาทวงบัลลังก์ของ PUMA

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วงการรองเท้าวิ่งมีการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างยิ่ง แต่หนึ่งในแบรนด์ที่สร้างเสียงฮือฮาและกลับมาผงาดในแวดวงนี้ได้อย่างน่าทึ่งก็คือ PUMA ครับ ผู้เชี่ยวชาญจากนิตยสารวิ่งชั้นนำอย่าง Runner’s World และเหล่านักรีวิวรองเท้าวิ่งทั่วโลกต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า

“การเปิดตัวเทคโนโลยีโฟม NITRO™ ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ (Game-Changer) ที่ทำให้ PUMA กลับมายืนอยู่ในแถวหน้าของวงการรองเท้าวิ่ง Performance อีกครั้ง”

NITROFOAM™ ไม่ใช่แค่โฟม EVA ธรรมดา แต่มันคือโฟมที่ผ่านกระบวนการ Supercritical Fluid Process โดยการฉีดก๊าซไนโตรเจนเข้าไปในพลาสติกเหลว ทำให้ได้โฟมที่มีคุณสมบัติ 3 ประการที่นักวิ่งทุกคนใฝ่หา คือ เบาเป็นพิเศษ, ตอบสนองได้ดีเยี่ยม (เด้ง), และรองรับแรงกระแทกได้อย่างน่าทึ่ง การมาถึงของโฟมชนิดนี้ทำให้ Puma สามารถสร้างสรรค์รองเท้าที่ตอบโจทย์นักวิ่งได้ทุกระดับ ตั้งแต่รุ่นซ้อมในชีวิตประจำวันไปจนถึงรองเท้าระดับ Super Shoe สำหรับนักวิ่งอีลิท

PWRPLATE และ PUMAGRIP: คู่หูที่ขาดไม่ได้

แต่ความสำเร็จของ Puma ไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่โฟมครับ ผู้เชี่ยวชาญยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของอีก 2 เทคโนโลยีที่ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว

  1. PWRPLATE (Power Plate): แผ่นคาร์บอนคอมโพสิตที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อทำหน้าที่เป็นคานดีด ช่วยส่งแรงไปข้างหน้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง (Running Economy) ทำให้คุณวิ่งได้เร็วขึ้นโดยใช้พลังงานเท่าเดิม ในรองเท้าแต่ละรุ่น PWRPLATE จะมีรูปทรงและความแข็งที่แตกต่างกันไปเพื่อให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ของรองเท้ารุ่นนั้นๆ
  2. PUMAGRIP: คือหนึ่งในพื้นยาง Outsole ที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน มันให้การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพพื้นผิว ไม่ว่าจะแห้งหรือเปียก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความมั่นใจให้กับนักวิ่ง โดยเฉพาะเมื่อต้องวิ่งด้วยความเร็วสูงหรือในสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ

บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS

“การที่ Puma สามารถผสาน 3 เทคโนโลยีหลัก (NITROFOAM™, PWRPLATE, และ PUMAGRIP) เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว คือกุญแจสำคัญที่ทำให้คำถามที่ว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี กลายเป็นคำถามที่น่าค้นหาอย่างยิ่งในปัจจุบัน พวกเขาไม่ได้แค่สร้างรองเท้าที่เร็ว แต่สร้างรองเท้าที่เร็ว, มั่นคง, และวิ่งสนุก ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิ่งทุกคนต้องการ ทีมงานของเราเชื่อว่า PUMA จะยังคงพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาท้าทายวงการต่อไปอย่างแน่นอน”


เคล็ดลับการเลือกซื้อ รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ให้เหมาะกับคุณ

ภาพประกอบเคล็ดลับการเลือกรองเท้าวิ่ง Puma ที่เหมาะสม

การจะตอบคำถามว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่สุดนั้น ไม่มีคำตอบที่ตายตัวครับ เพราะรองเท้าที่ดีที่สุดคือรองเท้าที่ “เหมาะกับเราที่สุด” นี่คือเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณเลือกรองเท้าคู่ใจได้ง่ายขึ้นครับ

  1. เข้าใจเป้าหมายการวิ่งของคุณ: คุณวิ่งเพื่ออะไร?
    • วิ่งเพื่อสุขภาพ/มือใหม่: มองหารองเท้าที่เน้นการซัพพอร์ตและความสบายเป็นหลัก เช่น PUMA Aviator หรือ Electrify NITRO 3
    • ซ้อมเป็นประจำ (Daily Training): ต้องการรองเท้าที่สมดุลระหว่างความนุ่ม, ความเด้ง, และความทนทาน เช่น Deviate NITRO 2 หรือ Electrify NITRO 3
    • ซ้อมทำความเร็ว (Tempo/Interval): ต้องการรองเท้าที่เบาและตอบสนองได้ดี เช่น Deviate NITRO 3
    • วันแข่งขัน (Race Day): ต้องการรองเท้าที่เบาที่สุดและส่งแรงได้ดีที่สุด เช่น Deviate NITRO 3 หรือ FAST-FWD NITRO™ Elite
  2. รู้จักลักษณะเท้าของตัวเอง: แม้รองเท้า Puma ส่วนใหญ่จะออกแบบมาสำหรับคนเท้าปกติ (Neutral) แต่ความกว้างของหน้าเท้าก็เป็นสิ่งสำคัญครับ คนที่มีหน้าเท้ากว้างอาจจะต้องลองเผื่อไซส์ขึ้นเล็กน้อย หรือเลือกรุ่นที่มีอัปเปอร์ยืดหยุ่นสูง ทางที่ดีที่สุดคือการไปลองสวมใส่จริงที่ร้านครับ
  3. กำหนดงบประมาณ: รองเท้าวิ่ง Puma มีราคาตั้งแต่หลักพันต้นๆ ไปจนถึงเกือบหมื่น การตั้งงบประมาณไว้ในใจจะช่วยให้คุณจำกัดตัวเลือกให้แคบลงและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ จำไว้ว่ารองเท้าที่แพงที่สุดอาจไม่ใช่รองเท้าที่เหมาะกับเราที่สุดเสมอไป
  4. อย่ามองข้ามพื้น Outsole: ถ้าคุณมักจะวิ่งในสวนสาธารณะที่มีพื้นเปียกหรือลื่นบ่อยๆ การเลือกรองเท้าที่มีพื้น PUMAGRIP จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจให้คุณได้อย่างมากครับ
  5. อ่านรีวิวและเปรียบเทียบ: ศึกษาข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง และดูบทความเปรียบเทียบอย่างบทความนี้ จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมและข้อดีข้อเสียของแต่ละรุ่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นก่อนตัดสินใจซื้อครับ

การดูแลรักษารองเท้าวิ่ง Puma เพื่อยืดอายุการใช้งาน

เมื่อเราลงทุนกับรองเท้าวิ่งดีๆ แล้ว การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานและคงประสิทธิภาพของรองเท้าไว้ได้ดีที่สุดครับ

  • การทำความสะอาด: หลีกเลี่ยงการนำรองเท้าไปซักในเครื่องซักผ้าเด็ดขาด เพราะจะทำให้โครงสร้างและกาวเสื่อมสภาพ ควรใช้แปรงขนนุ่มกับน้ำสบู่อ่อนๆ ขัดเบาๆ บริเวณที่สกปรก แล้วใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดออก
  • การตากแห้ง: ห้ามนำรองเท้าไปตากแดดโดยตรงหรือใช้ไดร์เป่าผม เพราะความร้อนสูงจะทำลายโฟมและทำให้รองเท้าเสียรูปทรง ควรนำกระดาษหนังสือพิมพ์ยัดเข้าไปในรองเท้าเพื่อช่วยดูดความชื้น แล้วนำไปผึ่งลมในที่ร่มจนแห้งสนิท
  • การเก็บรักษา: เก็บรองเท้าไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรเก็บไว้ในรถที่ร้อนจัดหรือในกล่องที่ปิดทึบเป็นเวลานาน
  • สลับคู่ใช้งาน: หากคุณวิ่งเป็นประจำ การมีรองเท้าวิ่งอย่างน้อย 2 คู่สลับกันใส่ จะช่วยให้โฟมในรองเท้าแต่ละคู่มีเวลา “พัก” และคืนตัวได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของโฟมได้ครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับรองเท้าวิ่ง Puma

ภาพประกอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรองเท้าวิ่ง Puma

  • ถาม: รองเท้าวิ่ง Puma เหมาะกับคนหน้าเท้ากว้าง (Wide Feet) ไหม?
    ตอบ: รองเท้า Puma ส่วนใหญ่จะมีทรงที่ค่อนข้างมาตรฐาน (Standard Fit) ครับ สำหรับคนที่มีหน้าเท้ากว้างมากๆ อาจจะต้องลองขยับไซส์ขึ้น 0.5 – 1 ไซส์ หรือเลือกรุ่นที่ใช้อัปเปอร์เป็นผ้าถัก (Knit) ที่มีความยืดหยุ่นสูง เช่น SOFTRIDE Rift ครับ ทางที่ดีที่สุดคือการไปลองสวมใส่ด้วยตัวเองครับ
  • ถาม: อายุการใช้งานของโฟม NITRO™ อยู่ที่ประมาณกี่กิโลเมตร?
    ตอบ: โดยทั่วไปแล้ว รองเท้าวิ่งที่มีโฟมประสิทธิภาพสูงอย่าง NITRO™ จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 600 – 800 กิโลเมตรครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของนักวิ่ง, ท่าวิ่ง, และสภาพพื้นผิวที่วิ่งเป็นประจำด้วยครับ
  • ถาม: รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่เหมาะกับการวิ่งในยิมและเล่นเวทที่สุด?
    ตอบ: สำหรับการใช้งานในยิมที่หลากหลาย ขอแนะนำ PUMA Redeem Profoam หรือ PUMA Flyer Flex ครับ เพราะมีฐานที่ค่อนข้างมั่นคงและมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการเคลื่อนไหวหลายทิศทางมากกว่ารองเท้าวิ่งระยะไกลโดยเฉพาะครับ
  • ถาม: จำเป็นต้องซื้อรองเท้ามีแผ่นคาร์บอนอย่าง Deviate NITRO หรือไม่?
    ตอบ: ไม่จำเป็นเสมอไปครับ รองเท้าที่มีแผ่นคาร์บอนจะเห็นผลชัดเจนเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง (เพซ 5 หรือเร็วกว่า) หากคุณเป็นนักวิ่งที่วิ่งเพื่อสุขภาพด้วยเพซสบายๆ รองเท้าที่ไม่มีแผ่นคาร์บอนอย่าง Electrify NITRO 3 อาจจะให้ความรู้สึกที่สบายและเป็นธรรมชาติมากกว่าในราคาที่ย่อมเยากว่าครับ

บทสรุป: เลือก รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่ใช่สำหรับคุณ

มาถึงตรงนี้ ผมหวังว่าเพื่อนๆ น่าจะได้คำตอบสำหรับคำถามที่ว่า รองเท้าวิ่ง Puma รุ่นไหนดี ที่จะเหมาะกับตัวเองที่สุดในปี 2025 นี้กันแล้วนะครับ จะเห็นได้ว่า Puma ได้พัฒนาและนำเสนอรองเท้าวิ่งที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของนักวิ่งอย่างแท้จริง

สำหรับนักวิ่งสาย Performance ที่ต้องการทุบสถิติใหม่ PUMA Deviate NITRO™ 3 คือที่สุดของเทคโนโลยีที่ Puma มีในตอนนี้ แต่ถ้าคุณเป็นสายทำความเร็วระยะสั้น PUMA FAST-FWD NITRO™ Elite ก็เป็นตัวเลือกที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน ส่วนใครที่มองหาความสมดุลที่ลงตัว ใช้งานได้หลากหลายทั้งซ้อมและแข่ง PUMA Deviate NITRO 2 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเสมอ

สำหรับนักวิ่งมือใหม่และสายซ้อมประจำวันที่มองหาความคุ้มค่า PUMA Electrify NITRO 3 คือคำตอบที่ใช่ เพราะให้เทคโนโลยี NITRO ในราคาที่เข้าถึงง่าย และสำหรับสายไลฟ์สไตล์และรักความสบาย รองเท้าในตระกูล Softride ก็พร้อมจะมอบความนุ่มสบายให้คุณในทุกย่างก้าวครับ

สุดท้ายนี้ การเลือกรองเท้าวิ่งก็เหมือนการเลือกเพื่อนร่วมทางที่ดีที่สุดครับ ลองพิจารณาจากเป้าหมาย, สไตล์การวิ่ง, และงบประมาณของคุณ แล้วเลือกรองเท้าคู่ที่ “ใช่” ที่สุดสำหรับคุณ รับรองว่ามันจะทำให้ทุกการวิ่งของคุณเต็มไปด้วยความสุขและแรงบันดาลใจอย่างแน่นอนครับ!

ภาพสรุปรองเท้าวิ่ง Puma รุ่นต่างๆ


หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • รายละเอียดคุณสมบัติ, ราคา, และโปรโมชั่นของรองเท้าแต่ละรุ่น อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากร้านค้าทางการของ PUMA Thailand หรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตอีกครั้งครับ
  • คะแนน (เช่น 9.8/10 หรือ 9.0/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากข้อมูลทางเทคนิค, นวัตกรรม, ฟีเจอร์, ราคา, และความคิดเห็นจากนักวิ่งผู้ใช้งานจริง เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบการตัดสินใจ
  • รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “เอก, อายุ 34” หรือ “พลอย, อายุ 28”) เป็นความคิดเห็นสมมุติที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานจากมุมมองที่หลากหลายเท่านั้น
  • บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่ คุณสมบัติบางอย่างอาจมีการอัปเดตจากทางแบรนด์ในอนาคตครับ
เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ขอบพระคุณครับ