10 สุดยอด โดรน DJI รุ่นไหนดี 2025 อัปเดตล่าสุด! ถ่ายสวย บินเสถียร มือใหม่-มือโปร

โดรน DJI รุ่นไหนดี รวมรุ่นแนะนำปี 2025 พร้อมสเปกโดดเด่นและภาพการบินกลางแจ้งสุดคมชัด

บทนำ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวแกดเจ็ตและสายถ่ายภาพมุมสูงทุกคน! วันนี้เรามาคุยกันเรื่องที่หลายคนอินบ็อกซ์เข้ามาถามกันเยอะมาก ๆ นั่นก็คือ โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่น่าโดนที่สุดในปี 2025 บอกเลยว่าปีนี้ DJI เขาจัดหนักจัดเต็มจริง ๆ ครับ มีโดรนออกมาใหม่หลายรุ่นที่ทำเอาเงินในกระเป๋าสั่นไปหมด ตั้งแต่รุ่นเล็กพกง่ายสำหรับมือใหม่หัดบิน ไปจนถึงรุ่นโปรที่คุณภาพกล้องระดับโปรดักชันหนังเลยทีเดียว การเลือกโดรนสักลำมันก็เหมือนการเลือกคู่หูเลยนะครับ ต้องหาตัวที่ใช่ ที่เข้ากับสไตล์การใช้งานและงบประมาณของเราที่สุด บางคนอาจจะอยากได้โดรนไว้ถ่ายคลิป Vlog สวย ๆ เวลาไปเที่ยว บางคนอาจจะเน้นบินมันส์ ๆ แบบ FPV หรือบางคนก็ต้องการคุณภาพไฟล์วิดีโอระดับเทพเพื่องานอาชีพจริงจัง ซึ่งไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเป็นสายไหน บทความนี้มีคำตอบแน่นอนครับ

ผมเข้าใจดีว่าการจะตัดสินใจเลือก โดรน DJI รุ่นไหนดี มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป วันนี้ผมเลยขอสวมบทเป็นเพื่อนซี้ที่เล่นโดรนมาก่อน มาเจาะลึกให้ดูกันแบบหมดเปลือก ไม่มีกั๊ก จัดอันดับ 10 รุ่นเด็ดที่ผมคัดมาแล้วว่า “ใช่” ที่สุดในปีนี้ เราจะมาดูกันตั้งแต่สเปกกล้อง, ระบบกันสั่น, เซ็นเซอร์กันชน, ระยะเวลาบิน ไปจนถึงฟีเจอร์อัจฉริยะต่าง ๆ ที่จะทำให้การบินโดรนของเพื่อน ๆ ง่ายและสนุกขึ้นเป็นกอง นอกจากนี้ถ้าใครกำลังมองหาอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ อย่าง กล้องถ่าย Vlog ไว้ถ่ายทำภาคพื้นดินคู่กัน หรืออยากได้ ทีวี 4K จอใหญ่ ๆ ไว้เปิดดูผลงานชิ้นโบแดงแบบคมชัดเต็มตา ก็ถือว่ามาถูกที่แล้วครับ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นคู่หูตัวใหม่ของเพื่อน ๆ ในปี 2025 นี้!

จัดอันดับ 10 โดรน DJI รุ่นไหนดี แห่งปี 2025

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ใจร้อน อยากเห็นภาพรวมก่อนว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่ติดท็อปลิสต์ของเราบ้าง ลองดูตารางเปรียบเทียบสเปกเด่นและคะแนนที่เราสรุปมาให้ดูกันก่อนได้เลยครับ ตารางนี้จะช่วยให้เห็นภาพรวมของแต่ละรุ่นได้ง่ายขึ้น ก่อนที่จะเลื่อนลงไปอ่านรีวิวเจาะลึกแบบจัดเต็มกันทีละตัวครับ

ตารางเปรียบเทียบสรุป 10 โดรน DJI รุ่นไหนดี

คุณสมบัติ DJI Mavic 4 Pro DJI Mini 4 Pro DJI Air 3S DJI Mini 4K DJI Avata 2 DJI Flip DJI Neo DJI Mavic 3 Pro DJI Inspire 3 DJI Mini 3 Pro
อันดับที่ 🥇 🥈 🥉 4 5 6 7 8 9 10
รูปภาพสินค้า โดรน DJI รุ่นไหนดี - DJI Mavic 4 Pro โดรน DJI รุ่นไหนดี - DJI Mini 4 Pro โดรน DJI รุ่นไหนดี - DJI Air 3S โดรน DJI รุ่นไหนดี - DJI Mini 4K โดรน DJI รุ่นไหนดี - DJI Avata 2 โดรน DJI รุ่นไหนดี - DJI Flip โดรน DJI รุ่นไหนดี - DJI Neo โดรน DJI รุ่นไหนดี - DJI Mavic 3 Pro โดรน DJI รุ่นไหนดี - DJI Inspire 3 โดรน DJI รุ่นไหนดี - DJI Mini 3 Pro
ชื่อสินค้า (กดเพื่อเลื่อนไปดูรายละเอียด) DJI Mavic 4 Pro DJI Mini 4 Pro DJI Air 3S DJI Mini 4K DJI Avata 2 DJI Flip DJI Neo DJI Mavic 3 Pro DJI Inspire 3 DJI Mini 3 Pro
สเปกเด่น กล้อง 3 ตัว (Hasselblad 4/3″), 5.1K ProRes, บินนาน 43 นาที, เซ็นเซอร์รอบทิศทาง, O4 Transmission น้ำหนัก <249g, กล้อง 1/1.3″, 4K/60fps HDR, ถ่ายแนวตั้ง, เซ็นเซอร์รอบทิศทาง, บินนาน 34 นาที กล้องคู่ (Wide & 3x Tele), 4K/100fps, บินนาน 46 นาที, เซ็นเซอร์รอบทิศทาง, O4 Transmission น้ำหนัก <249g, 4K/30fps, บินนาน 31 นาที, QuickShots, เหมาะสำหรับมือใหม่ FPV บินมันส์, กล้อง 1/1.3″, 4K/60fps, Super-Wide FOV, Easy ACRO, บินนาน 23 นาที พับเก็บง่าย, กล้อง 1″, 4K/60fps, บินนาน 30 นาที, ระบบกันสั่น 3 แกน, เหมาะกับสายท่องเที่ยว AI อัจฉริยะ, กล้อง 1/1.2″, 4K/120fps, บินนาน 35 นาที, ระบบติดตามวัตถุ 3.0, ดีไซน์ล้ำสมัย กล้อง 3 ตัว (Hasselblad + 2 Tele), 5.1K ProRes, บินนาน 43 นาที, เซ็นเซอร์รอบทิศทาง (รุ่นก่อน) กล้อง Full-Frame 8K/75fps, เปลี่ยนเลนส์ได้, RTK, บินนาน 28 นาที, สำหรับงานภาพยนตร์ น้ำหนัก <249g, กล้อง 1/1.3″, 4K/60fps, ถ่ายแนวตั้ง, เซ็นเซอร์ 3 ทิศทาง, บินนาน 34 นาที
คะแนน ★★★★★ (9.8/10) ★★★★★ (9.6/10) ★★★★☆ (9.4/10) ★★★★☆ (9.0/10) ★★★★☆ (8.8/10) ★★★★☆ (8.6/10) ★★★★☆ (8.5/10) ★★★☆☆ (8.3/10) ★★★☆☆ (8.1/10) ★★★☆☆ (8.0/10)
เหมาะกับใคร มือโปร, ช่างภาพ, Content Creator จริงจัง มือใหม่, สายท่องเที่ยว, Vlogger ผู้ใช้งานระดับกลาง, คนที่ต้องการความยืดหยุ่น ผู้เริ่มต้น, งบจำกัด, บินเล่นสนุกๆ สาย FPV, คนชอบความเร็ว, บินผาดโผน นักเดินทาง, คนที่ต้องการความสะดวกพกพา สายเทคโนโลยี, คนชอบฟีเจอร์ AI ล้ำๆ มือโปร (รุ่นก่อน), คนที่หาโดรนสเปกสูงมือสอง โปรดักชันเฮาส์, งานภาพยนตร์โฆษณา มือใหม่ที่อยากได้ฟีเจอร์ระดับโปรในราคาเบาๆ
เช็กราคาล่าสุด

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

 

1. DJI Mavic 4 Pro ★★★★★

“ที่สุดแห่งโดรนเรือธง! กล้อง 3 ตัวระดับเทพ ไฟล์วิดีโอสุดคมชัด บินนิ่ง ปลอดภัยขั้นสุดสำหรับมืออาชีพ”

รีวิว DJI Mavic 4 Pro โดรน DJI รุ่นไหนดี

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้ามีคนถามว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่เป็นที่สุดของที่สุดในปีนี้ คำตอบเดียวที่ผมจะให้ก็คือ DJI Mavic 4 Pro ครับ! นี่ไม่ใช่แค่โดรน แต่มันคือเครื่องมือสร้างสรรค์ผลงานระดับฮอลลีวูดที่พับเก็บใส่กระเป๋าได้สบาย ๆ จุดเด่นที่สุดของมันคือระบบกล้อง 3 ตัวที่พัฒนาร่วมกับแบรนด์ระดับตำนานอย่าง Hasselblad ทำให้ได้ไฟล์ภาพและวิดีโอที่มีสีสันสมจริงและ Dynamic Range กว้างสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำสารคดี, MV, หรือคลิปท่องเที่ยวแบบจริงจัง ตัวนี้จบได้ทุกงาน มาพร้อมเซ็นเซอร์กันชนรอบทิศทางที่ฉลาดเป็นกรด บินในที่แคบ ๆ หรือมีอุปสรรคเยอะ ๆ ได้อย่างมั่นใจ ทำให้มือโปรสามารถโฟกัสกับการจัดองค์ประกอบภาพได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเลยครับ

สเปกเด่น

  • ระบบกล้อง: กล้องหลัก Hasselblad เซ็นเซอร์ 4/3 CMOS, กล้อง Medium Tele 1/1.3-inch CMOS, กล้อง Tele 1/2-inch CMOS
  • ความละเอียดวิดีโอ: สูงสุด 5.1K/50fps, 4K/120fps, Apple ProRes 422 HQ
  • ระยะเวลาบินสูงสุด: 43 นาที
  • ระบบส่งสัญญาณ: DJI O4 (OcuSync 4.0) ส่งภาพไกลสุด 20 กม. (FCC)
  • เซ็นเซอร์กันชน: Omnidirectional Obstacle Sensing (รอบทิศทาง)
  • ฟีเจอร์อัจฉริยะ: ActiveTrack 360°, Waypoint Flight, Advanced RTH
จุดเด่น
  • คุณภาพไฟล์วิดีโอและภาพนิ่งระดับโปร
  • กล้อง 3 ตัวให้ความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพสูง
  • เซ็นเซอร์กันชนรอบทิศทาง ปลอดภัยมาก
  • บินได้นานและสัญญาณภาพเสถียรสุดๆ
  • รองรับการถ่ายวิดีโอแนวตั้งกับทุกกล้อง
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูง เหมาะกับผู้ใช้งานจริงจัง
  • น้ำหนักเกิน 250 กรัม ต้องขึ้นทะเบียน

รีวิวแบบเจาะลึก

หัวใจหลักของ Mavic 4 Pro คือระบบกล้อง 3 ตัวที่ทำให้มันเป็น โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่ยืดหยุ่นที่สุดในตลาดครับ กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ 4/3 CMOS จาก Hasselblad ให้ภาพที่คมกริบ สีสันเป็นธรรมชาติด้วยโปรไฟล์สี HNCS (Hasselblad Natural Colour Solution) และยังสามารถปรับรูรับแสงได้ตั้งแต่ f/2.8-f/11 ทำให้ควบคุมระยะชัดลึก (Depth of Field) ได้เหมือนกล้องโปรเลยทีเดียว ส่วนกล้อง Medium Tele 70mm (ซูม 3 เท่า) เหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพบุคคลหรือวัตถุโดยให้ฉากหลังละลายสวยงามและมีมิติ และสุดท้ายคือกล้อง Tele 166mm (ซูม 7 เท่า) ที่ให้เราดึงภาพจากระยะไกลเข้ามาได้โดยไม่เสียคุณภาพ เหมาะกับการถ่ายสัตว์ป่าหรือสถาปัตยกรรมที่เข้าใกล้ไม่ได้ การมี 3 ระยะเลนส์ในตัวเดียวหมายความว่าเราไม่ต้องบินเข้าไปเสี่ยงใกล้ ๆ วัตถุ แค่แตะเปลี่ยนกล้องก็ได้มุมมองที่ต้องการแล้วครับ แถมยังรองรับการถ่ายไฟล์สีแบบ 10-bit D-Log M ที่ให้ความยืดหยุ่นสูงมากในการทำสีวิดีโอ ใครที่ทำงานกับไฟล์ฟุตเทจใหญ่ๆ ก็คงต้องมองหา External HDD ยี่ห้อไหนดี ไว้เก็บข้อมูลกันด้วยนะครับ

ในด้านการบินและความปลอดภัย Mavic 4 Pro ก็ไม่เป็นสองรองใครครับ มันมาพร้อมกับระบบส่งสัญญาณภาพรุ่นล่าสุด DJI O4 ที่ให้ภาพ Live View คมชัดระดับ 1080p/60fps ที่ระยะไกลสุดถึง 20 กิโลเมตร (ในสภาวะที่เหมาะสม) สัญญาณนิ่งและดีเลย์ต่ำมาก ทำให้ควบคุมได้อย่างมั่นใจ ส่วนระบบเซ็นเซอร์กันชนรอบทิศทาง (Omnidirectional) ที่ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ Fisheye หลายตัว ทำงานร่วมกับ APAS 5.0 ทำให้โดรนสามารถตรวจจับและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้เองอย่างนุ่มนวลและชาญฉลาด ไม่ว่าจะบินไปข้างหน้า ถอยหลัง หรือด้านข้างก็ตาม ฟีเจอร์ ActiveTrack 360° ก็ได้รับการอัปเกรดให้ล็อกและติดตามวัตถุได้แม่นยำกว่าเดิม สามารถสร้างเส้นทางการบินรอบวัตถุได้อย่างสร้างสรรค์และลื่นไหลเหมือนมีตากล้องมือโปรมาบินให้เลยครับ สำหรับคนที่สงสัยว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่บินแล้วอุ่นใจที่สุด ตัวนี้คือคำตอบสุดท้ายจริง ๆ ครับ

คะแนนที่ได้

9.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ไฟล์จากกล้อง Hasselblad คือสุดจริง ๆ ครับ สีสวย คมกริบ เอาไปทำต่อง่ายมาก จบงานลูกค้าได้สบาย” – พี่เอก, ช่างภาพวิดีโอ อายุ 38
“ชอบที่มีเลนส์ซูมให้ใช้ ทำให้ได้มุมมองแปลกใหม่เยอะเลย บินก็ง่าย เซ็นเซอร์ฉลาดมาก ไม่เคยกลัวชนเลยค่ะ” – น้องมายด์, Travel Vlogger อายุ 27


2. DJI Mini 4 Pro ★★★★★

“เล็กพริกขี้หนู! ฟีเจอร์ระดับโปรในร่างจิ๋ว ถ่ายแนวตั้งได้ เซ็นเซอร์รอบทิศทาง พกไปไหนก็สะดวก”

รีวิว DJI Mini 4 Pro โดรน DJI รุ่นไหนดี

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าคำถามคือ โดรน DJI รุ่นไหนดี สำหรับสายท่องเที่ยว, Vlogger หรือมือใหม่ที่อยากได้ฟีเจอร์จัดเต็มแต่พกพาง่าย DJI Mini 4 Pro คือคำตอบที่ใช่ที่สุดครับ! ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาหวิวไม่ถึง 249 กรัม ทำให้ในหลายประเทศไม่ต้องขึ้นทะเบียนให้ยุ่งยาก (แต่ในไทยยังต้องขึ้นทะเบียนนะครับ) พับเก็บแล้วเล็กนิดเดียว ใส่กระเป๋าเป้ไปได้ทุกที่ จุดเปลี่ยนสำคัญของรุ่นนี้คือการใส่เซ็นเซอร์กันชนรอบทิศทางมาให้ ซึ่งปกติจะมีแค่ในรุ่นใหญ่อย่าง Mavic ทำให้การบินปลอดภัยขึ้นมาก และที่เด็ดที่สุดคือความสามารถในการถ่ายวิดีโอแนวตั้ง (True Vertical Shooting) ได้โดยตรงจากกล้อง ไม่ใช่การครอปภาพ ทำให้ได้ไฟล์คุณภาพเต็ม ๆ เหมาะกับทำคอนเทนต์ลง TikTok, Reels หรือ Shorts มาก ๆ ครับ

สเปกเด่น

  • น้ำหนัก: < 249 กรัม
  • กล้อง: เซ็นเซอร์ 1/1.3-inch CMOS, 48MP
  • ความละเอียดวิดีโอ: 4K/60fps HDR, 4K/100fps (Slo-Mo), 10-bit D-Log M
  • ฟีเจอร์เด่น: True Vertical Shooting (ถ่ายแนวตั้ง)
  • เซ็นเซอร์กันชน: Omnidirectional Obstacle Sensing (รอบทิศทาง)
  • ระบบส่งสัญญาณ: DJI O4
  • ระยะเวลาบินสูงสุด: 34 นาที
จุดเด่น
  • น้ำหนักเบา พกพาสะดวกมาก
  • มีเซ็นเซอร์กันชนรอบทิศทาง ปลอดภัยสุดในรุ่นเล็ก
  • ถ่ายวิดีโอแนวตั้งได้คุณภาพเต็ม
  • คุณภาพไฟล์ดีเกินตัว รองรับ 4K/60fps HDR
  • ระบบส่งสัญญาณ O4 นิ่งและไกล
ข้อควรพิจารณา
  • ต้านลมแรงได้ไม่ดีเท่ารุ่นใหญ่
  • คุณภาพในที่แสงน้อยยังเป็นรองรุ่นที่เซ็นเซอร์ใหญ่กว่า

รีวิวแบบเจาะลึก

แม้ตัวจะเล็ก แต่สเปกกล้องของ Mini 4 Pro นี่ไม่เล็กตามเลยนะครับ มันใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.3 นิ้ว ที่มี Dual Native ISO Fusion ทำให้จัดการ Noise ในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถ่ายวิดีโอได้สูงสุดถึง 4K/60fps แบบ HDR และยังถ่ายสโลโมชันที่ 4K/100fps ได้อีกด้วย! ที่สำคัญคือรองรับโปรไฟล์สี 10-bit D-Log M เหมือนรุ่นพี่ Mavic 4 Pro เลย ทำให้สายเกรดสีวิดีโอต้องร้องว้าวแน่นอน และฟีเจอร์ที่ผมชอบมากที่สุดคือ True Vertical Shooting ที่ตัวกล้องจะหมุนเป็นแนวตั้ง 90 องศาเพื่อถ่ายวิดีโอ ทำให้ได้ภาพเต็มเซ็นเซอร์ ไม่ต้องมานั่งครอปทีหลังแล้วเสียความละเอียดไป เหมาะกับยุค Social Media แบบนี้สุด ๆ ครับ ใครที่เป็นสายคอนเทนต์แล้วกำลังคิดว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ตัวนี้แหละคือคำตอบที่ลงตัวที่สุดแล้ว

การที่ DJI ใส่เซ็นเซอร์กันชนรอบทิศทางมาในโดรนไซส์มินิ ถือเป็นการปฏิวัติวงการเลยครับ มันทำให้ Mini 4 Pro ฉลาดและปลอดภัยขึ้นมาก ๆ เราสามารถใช้ฟีเจอร์ ActiveTrack 360° ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ บินตามตัวเราผ่านป่าหรือที่แคบ ๆ ได้โดยไม่ต้องกลัวชนอีกต่อไป ระบบส่งสัญญาณก็อัปเกรดมาเป็น O4 เหมือนรุ่นใหญ่ ทำให้บินได้ไกลและสัญญาณภาพนิ่งมาก ๆ หมดปัญหาภาพกระตุกกวนใจไปเลยครับ ด้วยฟีเจอร์ทั้งหมดที่อัดแน่นมาในตัวเครื่องเล็ก ๆ นี้ ทำให้ Mini 4 Pro เป็นโดรนที่เหมาะกับคนแทบทุกกลุ่ม ตั้งแต่มือใหม่ที่อยากได้โดรนที่บินง่ายและปลอดภัย ไปจนถึง Content Creator ที่ต้องการคุณภาพไฟล์ที่ดีและฟีเจอร์ที่ยืดหยุ่นในขนาดที่พกพาสะดวกครับ หากคุณต้องการอุปกรณ์เสริมสำหรับทริปถ่ายทำด้วยโดรน ลองดู กระเป๋าเป้ ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถจัดเก็บโดรนและอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัยดูนะครับ

คะแนนที่ได้

9.6/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ตัวเล็กแต่เก่งมากครับ พกไปเที่ยวต่างประเทศสบายเลย ไม่ต้องขออนุญาตวุ่นวาย แถมไฟล์วิดีโอแนวตั้งคือดีงามสุดๆ” – นนท์, Youtuber สายท่องเที่ยว อายุ 31
“เป็นโดรนตัวแรกของฉันเลยค่ะ บินง่ายมากกกก มีเซ็นเซอร์กันชนรอบตัวทำให้กล้าบินมากขึ้นเยอะเลย รูปก็สวยมากด้วย” – ฝน, มือใหม่หัดบิน อายุ 25


3. DJI Air 3S ★★★★☆

“สมดุลที่ลงตัว! กล้องคู่คุณภาพเยี่ยม บินนานสะใจ ฟีเจอร์ครบเครื่องสำหรับสายจริงจัง”

รีวิว DJI Air 3S โดรน DJI รุ่นไหนดี

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับเพื่อน ๆ ที่รู้สึกว่า Mini 4 Pro อาจจะเล็กไปนิด ส่วน Mavic 4 Pro ก็ดูจะโปรและแพงเกินไปหน่อย คำถามที่ว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่อยู่ตรงกลางระหว่างสองรุ่นนี้ คำตอบก็คือ DJI Air 3S ครับ! รุ่นนี้ถือเป็นจุดสมดุลที่ลงตัวมาก ๆ ได้ทั้งคุณภาพไฟล์ที่ดีเยี่ยมจากระบบกล้องคู่ และฟีเจอร์การบินระดับสูงในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า จุดเด่นของ Air 3S คือการมีกล้องสองตัว ได้แก่ กล้อง Wide-Angle และกล้อง Medium Telephoto (3x) ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์มุมมองภาพได้หลากหลายเหมือนรุ่น Mavic แต่มาในบอดี้ที่เบาและกะทัดรัดกว่า แถมยังบินได้นานสุด ๆ ถึง 46 นาที! ทำให้มีเวลาเหลือเฟือในการหามุมสวย ๆ หรือรอจังหวะแสงดี ๆ ได้อย่างสบายใจเลยครับ

สเปกเด่น

  • ระบบกล้อง: กล้อง Wide-Angle 1/1.3-inch CMOS และกล้อง Medium Telephoto (3x) 1/1.3-inch CMOS
  • ความละเอียดวิดีโอ: 4K/100fps, 10-bit D-Log M/HLG
  • ระยะเวลาบินสูงสุด: 46 นาที
  • ระบบส่งสัญญาณ: DJI O4
  • เซ็นเซอร์กันชน: Omnidirectional Obstacle Sensing (รอบทิศทาง)
  • ฟีเจอร์เด่น: กล้องทั้งสองตัวมีสเปกเท่ากัน, รองรับการถ่ายแนวตั้ง
จุดเด่น
  • มีกล้อง 2 ระยะให้ใช้งาน เพิ่มความยืดหยุ่น
  • บินได้นานมากถึง 46 นาที
  • คุณภาพไฟล์วิดีโอดีเยี่ยมจากกล้องทั้งสองตัว
  • เซ็นเซอร์รอบทิศทางและระบบส่งสัญญาณ O4
  • ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้
ข้อควรพิจารณา
  • ขนาดและน้ำหนักมากกว่ารุ่น Mini
  • ไม่มีรูรับแสงที่ปรับได้เหมือน Mavic Pro

รีวิวแบบเจาะลึก

ความเจ๋งของ DJI Air 3S คือการที่กล้องทั้งสองตัวใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.3 นิ้วเหมือนกัน ทำให้ไม่ว่าจะถ่ายด้วยเลนส์ Wide หรือซูม 3 เท่า คุณภาพของไฟล์ที่ได้ก็จะออกมาเนียนตา สีสันและรายละเอียดใกล้เคียงกันมาก ไม่เจอปัญหาภาพดรอปลงเวลาซูมเหมือนโดรนรุ่นเก่า ๆ ทั้งสองกล้องสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K/100fps และรองรับโปรไฟล์สี 10-bit D-Log M/HLG ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในการนำไปใช้งานระดับมืออาชีพ นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายแนวตั้งแบบครอปจากเซ็นเซอร์ ซึ่งแม้จะไม่ใช่ True Vertical แบบ Mini 4 Pro แต่ก็ยังให้คุณภาพที่ดีพอสำหรับงานโซเชียลมีเดียครับ นี่จึงเป็นคำตอบที่น่าสนใจมากสำหรับคำถามที่ว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่ให้ความคุ้มค่าด้านกล้องมากที่สุด

ในแง่ของประสิทธิภาพการบิน Air 3S จัดเต็มไม่แพ้รุ่นพี่เลยครับ มีเซ็นเซอร์กันชนรอบทิศทาง, ระบบส่งสัญญาณ O4 ที่เสถียรและไกล, และแบตเตอรี่ที่อึดสุด ๆ ถึง 46 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาบินที่ยาวนานที่สุดในกลุ่มโดรนคอนซูมเมอร์ของ DJI เลยก็ว่าได้ มันทำให้เราบินได้สนุกขึ้น ไม่ต้องพะวงเรื่องแบตจะหมดเร็ว และมีเวลาเหลือ ๆ สำหรับการใช้ฟีเจอร์อัจฉริยะอย่าง Waypoint Flight เพื่อวางแผนเส้นทางการบินล่วงหน้า หรือใช้ FocusTrack เพื่อล็อกเป้าหมายและถ่ายทำแบบอัตโนมัติได้อย่างราบรื่น ด้วยความสามารถที่รอบด้านขนาดนี้ DJI Air 3S จึงเป็นโดรนที่เหมาะมากสำหรับ Content Creator, ช่างภาพที่รับงานหลากหลาย หรือแม้แต่คนที่ทำงานด้านสำรวจพื้นที่ ที่ต้องการโดรนที่เชื่อถือได้ บินนาน และให้ไฟล์คุณภาพสูงครับ หากคุณเป็นเกมเมอร์ที่อยากได้มุมมองใหม่ๆ ในการทำคอนเทนต์ การมีโดรนดีๆ สักตัวคู่กับ เก้าอี้เกมมิ่ง ดีๆ ก็เป็นอะไรที่เข้ากันไม่น้อยเลยครับ

คะแนนที่ได้

9.4/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ชอบที่มีเลนส์ซูม 3 เท่ามากครับ ทำให้ถ่ายวิดีโอมีมิติขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องบินเข้าไปใกล้ ๆ ก็ได้ช็อตสวย ๆ แล้ว แบตก็อึดสุด ๆ” – บอย, ผู้กำกับโฆษณา อายุ 35
“เป็นโดรนที่สมดุลมากค่ะ ไม่เล็กไม่ใหญ่ไป คุณภาพไฟล์ดี บินก็นาน เหมาะกับเอาไปถ่ายงานรีวิวโรงแรม รีสอร์ทมาก ๆ” – แอน, Blogger ท่องเที่ยว อายุ 29


4. DJI Mini 4K ★★★★☆

“โดรน 4K ตัวเริ่มต้น! ราคาเบาที่สุด บินง่าย ฟีเจอร์ครบสำหรับมือใหม่”

รีวิว DJI Mini 4K โดรน DJI รุ่นไหนดี

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาถึงโดรนสำหรับเพื่อน ๆ ที่มีงบจำกัด หรือเพิ่งจะเข้าสู่วงการบินโดรนเป็นครั้งแรก แล้วกำลังถามว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่ราคาเป็นมิตรที่สุด แต่ยังได้คุณภาพที่ดีอยู่ คำตอบคือ DJI Mini 4K ครับ! รุ่นนี้เปรียบเสมือนการนำโดรนรุ่นยอดนิยมในอดีตอย่าง Mini 2 SE มาอัปเกรดให้สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K/30fps ได้ ทำให้เป็นโดรน 4K ที่มีราคาเปิดตัวถูกที่สุดของ DJI เลยทีเดียว มันยังคงมากับน้ำหนักที่เบาไม่ถึง 249 กรัม, บินได้นานถึง 31 นาที และมีโหมดการบินอัจฉริยะ QuickShots ที่ช่วยให้มือใหม่สร้างสรรค์วิดีโอสวย ๆ ได้ง่าย ๆ แค่แตะไม่กี่ครั้ง ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ สำหรับใครที่อยากลองชิมลางการถ่ายภาพมุมสูงครับ

สเปกเด่น

  • น้ำหนัก: < 249 กรัม
  • กล้อง: เซ็นเซอร์ 1/2.3-inch CMOS, 12MP
  • ความละเอียดวิดีโอ: 4K/30fps, 2.7K/60fps
  • ระยะเวลาบินสูงสุด: 31 นาที
  • ระบบส่งสัญญาณ: DJI O2 (OcuSync 2.0) ส่งภาพไกลสุด 10 กม. (FCC)
  • ฟีเจอร์อัจฉริยะ: QuickShots (Dronie, Helix, Rocket, Circle, Boomerang)
  • กันสั่น: 3-Axis Motorized Gimbal
จุดเด่น
  • ราคาเข้าถึงง่ายที่สุดในกลุ่มโดรน 4K
  • น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
  • บินง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่
  • มีโหมด QuickShots ช่วยสร้างวิดีโออัตโนมัติ
  • แบตเตอรี่บินได้นานถึง 31 นาที
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีเซ็นเซอร์กันชนด้านข้างและด้านบน
  • คุณภาพไฟล์ในที่แสงน้อยและ Dynamic Range เป็นรองรุ่นใหม่ๆ
  • ระบบส่งสัญญาณเป็นรุ่นเก่า (O2)

รีวิวแบบเจาะลึก

ถึงแม้ DJI Mini 4K จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ก็ให้คุณภาพไฟล์วิดีโอ 4K ที่คมชัดเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ดูบนโซเชียลมีเดีย หรือเปิดบน ทีวี 55 นิ้ว ก็ยังสวยงามครับ มาพร้อมกิมบอลกันสั่น 3 แกนที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้วิดีโอที่ได้นิ่งและลื่นไหลเหมือนโดรนรุ่นแพง ๆ เลยทีเดียว จุดที่ทำให้โดรนตัวนี้เป็นมิตรกับมือใหม่มาก ๆ คือโหมด QuickShots ที่มีให้เลือกหลายแบบ เช่น Dronie (บินถอยหลังซูมออก), Rocket (บินขึ้นตรง ๆ), หรือ Circle (บินวนรอบวัตถุ) ซึ่งทั้งหมดนี้โดรนจะทำให้เราอัตโนมัติ แค่เลือกเป้าหมายแล้วกดเริ่มเท่านั้น เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการได้ฟุตเทจสวย ๆ ไปอวดเพื่อนโดยไม่ต้องมีทักษะการบินขั้นสูงเลยครับ

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ราคาที่เข้าถึงง่าย Mini 4K ก็มีการตัดทอนฟีเจอร์บางอย่างออกไปครับ ที่เห็นได้ชัดคือมันมีเซ็นเซอร์กันชนแค่ด้านล่างเท่านั้น (Downward Vision System) ไม่มีเซ็นเซอร์ด้านหน้า ด้านหลัง หรือด้านข้าง ทำให้ผู้บินต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นเมื่อบินในที่ที่มีอุปสรรคเยอะ ๆ ครับ ระบบส่งสัญญาณก็เป็นรุ่น OcuSync 2.0 ซึ่งแม้จะยังเสถียรและบินได้ไกลถึง 10 กม. แต่ก็ไม่เท่ากับระบบ O4 ในรุ่นใหม่ ๆ ครับ แต่ถ้ามองในภาพรวมแล้ว สำหรับคนที่งบจำกัดและกำลังถามตัวเองว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่จะใช้เป็นตัวแรกเพื่อเรียนรู้และฝึกฝนการบิน การเริ่มต้นกับ DJI Mini 4K ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและสมเหตุสมผลมาก ๆ ครับ

คะแนนที่ได้

9.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เป็นโดรน 4K ที่ราคาดีมากครับ ซื้อมาลองบินเล่น ๆ ตอนนี้ติดใจเลย บินง่ายกว่าที่คิดเยอะ” – เจมส์, นักศึกษา อายุ 21
“ซื้อให้ลูกชายเป็นของขวัญวันเกิด เขาชอบมากเลยค่ะ โหมด QuickShots ทำให้เขาถ่ายคลิปเท่ ๆ ได้เองง่าย ๆ เลย” – คุณแม่ปุ้ย, อายุ 42


5. DJI Avata 2 ★★★★☆

“ทะยานสู่โลก FPV! บินมันส์สะใจ ภาพสวยคมชัด ปลอดภัยและง่ายกว่าที่เคย”

รีวิว DJI Avata 2 โดรน DJI รุ่นไหนดี

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

เปลี่ยนแนวมาที่สายซิ่งกันบ้างครับ! ถ้าเพื่อน ๆ เบื่อการบินโดรนแบบปกติ แล้วอยากได้ประสบการณ์ที่ตื่นเต้นเร้าใจเหมือนเราไปนั่งอยู่บนโดรนจริง ๆ คำถามที่ว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี สำหรับสาย FPV (First-Person View) คำตอบของปีนี้ต้องยกให้ DJI Avata 2 เลยครับ! รุ่นนี้เป็นการยกเครื่องใหม่หมดจด ทำให้การบิน FPV ที่เคยดูซับซ้อนและเข้าถึงยาก กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน ตัวโดรนมาพร้อมดีไซน์ที่มีการ์ดป้องกันใบพัดในตัว (Propeller Guard) ทำให้ทนทานต่อการกระแทกเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ดีขึ้น และเมื่อใช้คู่กับ DJI Goggles 3 และ DJI RC Motion 3 ก็จะให้ประสบการณ์การบินที่สมจริงและควบคุมง่ายสุด ๆ แค่ขยับมือก็บังคับทิศทางโดรนได้แล้วครับ

สเปกเด่น

  • ประเภท: FPV Drone
  • กล้อง: เซ็นเซอร์ 1/1.3-inch CMOS, Super-Wide 155° FOV
  • ความละเอียดวิดีโอ: 4K/60fps, 10-bit D-Log M
  • ระบบกันสั่น: RockSteady 3.0+ & HorizonSteady
  • ฟีเจอร์เด่น: Easy ACRO (บินตีลังกาได้ในปุ่มเดียว), Turtle Mode
  • เซ็นเซอร์: Downward/Backward Vision Sensors
  • ระยะเวลาบินสูงสุด: 23 นาที
จุดเด่น
  • ให้ประสบการณ์บิน FPV ที่สมจริงและสนุกมาก
  • ควบคุมง่ายด้วย RC Motion 3 แม้เป็นมือใหม่
  • คุณภาพวิดีโอ 4K ดีเยี่ยม พร้อมมุมมองกว้างพิเศษ
  • มีโหมด Easy ACRO ช่วยให้บินท่าผาดโผนได้ง่าย
  • ตัวลำทนทาน มีการ์ดกันใบพัดในตัว
ข้อควรพิจารณา
  • ระยะเวลาบินสั้นกว่าโดรนถ่ายภาพทั่วไป
  • เสียงดังกว่าโดรนปกติอย่างชัดเจน
  • ต้องใช้ความคุ้นเคยในการบินช่วงแรก

รีวิวแบบเจาะลึก

DJI Avata 2 ไม่ได้มีดีแค่บินสนุกครับ แต่คุณภาพกล้องก็ถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับโดรน FPV ด้วยเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.3 นิ้ว (ใหญ่กว่ารุ่นแรก) ทำให้ถ่ายวิดีโอ 4K/60fps ได้คมชัดและจัดการ Noise ในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นมาก เลนส์มุมกว้างพิเศษ 155° ให้ภาพที่ดูมีพลังและยิ่งใหญ่ เหมาะกับการถ่ายทำวิดีโอแนวแอ็คชันหรือท่องเที่ยวผจญภัยสุด ๆ แถมยังมีระบบกันสั่นขั้นเทพอย่าง RockSteady 3.0+ ที่ช่วยให้วิดีโอนิ่งสนิทแม้จะบินด้วยความเร็วสูง และ HorizonSteady ที่จะล็อกเส้นขอบฟ้าให้ตรงเป๊ะ ไม่ว่าโดรนจะเอียงหรือตีลังกายังไงก็ตาม ทำให้เราได้ฟุตเทจที่ดูโปรและนำไปใช้งานได้ทันที นี่คือจุดที่ทำให้ Avata 2 เป็นมากกว่าแค่ของเล่น และเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ผลงานที่น่าทึ่งสำหรับคนที่อยากรู้ว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่จะให้มุมมองที่แตกต่างออกไป

สิ่งที่ทำให้ Avata 2 เป็นมิตรกับมือใหม่มากคือฟีเจอร์ Easy ACRO ที่ให้เราสามารถบินตีลังกา (Flip) หรือม้วนตัว (Roll) ได้ง่าย ๆ แค่กดปุ่มและดันสติ๊กบน RC Motion 3 ซึ่งเป็นท่าที่ปกติแล้วนักบิน FPV มือโปรต้องฝึกฝนกันนานมากครับ และยังมี Turtle Mode ที่ถ้าหากโดรนตกพลิกคว่ำอยู่ ก็สามารถสั่งให้มันพลิกตัวเองกลับมาพร้อมบินต่อได้เลย ไม่ต้องเดินไปเก็บให้เสียเวลา นอกจากนี้ DJI Goggles 3 รุ่นใหม่ยังมีฟีเจอร์ Real View PiP (Picture-in-Picture) ที่ให้เรามองเห็นสภาพแวดล้อมจริงรอบตัวผ่านกล้องบนแว่นได้ด้วย เพิ่มความปลอดภัยในขณะที่กำลังดื่มด่ำกับโลก FPV อยู่ครับ สำหรับใครที่ชอบประสบการณ์ที่สมจริงแบบนี้ อาจจะสนใจ หูฟัง PS5 ที่ให้เสียงสามมิติเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมควบคู่กันไปด้วยก็ได้นะครับ

คะแนนที่ได้

8.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“โคตรมันส์! บิน FPV ครั้งแรกกับ Avata 2 คือติดใจเลยครับ ควบคุมง่ายกว่าที่คิดเยอะ ภาพในแว่นก็ชัดมาก เหมือนได้ไปบินเองจริง ๆ” – ต้น, Content Creator สาย Extreme อายุ 28
“ซื้อมาถ่ายคลิปตอนขี่เจ็ตสกีกับเพื่อนค่ะ ได้มุมมองที่แปลกใหม่และตื่นเต้นมาก โหมด Easy ACRO คือสนุกสุด ๆ ไปเลย” – พลอย, อายุ 26


6. DJI Flip ★★★★☆

“คู่หูนักเดินทาง! พับเก็บง่ายเหมือนสมาร์ทโฟน กล้อง 1 นิ้วคุณภาพสูง พร้อมบินในไม่กี่วินาที”

รีวิว DJI Flip โดรน DJI รุ่นไหนดี

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับสายท่องเที่ยวที่เน้นความคล่องตัวเป็นพิเศษและกำลังมองหาว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่พกพาง่ายที่สุด คำตอบใหม่ล่าสุดในปีนี้คือ DJI Flip ครับ! นี่คือโดรนคอนเซ็ปต์ใหม่จาก DJI ที่ออกแบบมาให้พับเก็บได้เล็กและแบนมาก ๆ เกือบจะเท่ากับ สมาร์ทโฟน เลยทีเดียว ทำให้สามารถสอดเก็บในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าเสื้อได้อย่างสบาย ๆ เหมาะสุด ๆ สำหรับการเดินทางแบบ Backpack หรือคนที่ต้องการหยิบโดรนขึ้นมาถ่ายช็อตสวย ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาประกอบให้ยุ่งยาก แม้จะตัวเล็กแต่สเปกกล้องก็ไม่ธรรมดา เพราะให้เซ็นเซอร์มาถึง 1 นิ้ว ซึ่งให้คุณภาพไฟล์ที่ดีเยี่ยมทั้งในที่แสงจ้าและแสงน้อยครับ

สเปกเด่น

  • ดีไซน์: Ultra-Compact & Foldable (พับเก็บได้แบนและเล็กมาก)
  • กล้อง: เซ็นเซอร์ 1-inch CMOS, 20MP
  • ความละเอียดวิดีโอ: 4K/60fps, 10-bit D-Log M
  • ระยะเวลาบินสูงสุด: 30 นาที
  • กันสั่น: 3-Axis Mechanical Gimbal
  • ฟีเจอร์เด่น: Quick Launch, SmartFollow
  • น้ำหนัก: ประมาณ 350 กรัม
จุดเด่น
  • พกพาสะดวกที่สุดในบรรดาโดรน DJI
  • เซ็นเซอร์กล้อง 1 นิ้ว ให้คุณภาพไฟล์ที่ดีมาก
  • พร้อมบินได้รวดเร็วด้วย Quick Launch
  • ดีไซน์สวยงามและล้ำสมัย
  • กันสั่น 3 แกนให้วิดีโอที่นิ่งสนิท
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีเซ็นเซอร์กันชนรอบทิศทาง (มีแค่ด้านหน้าและล่าง)
  • ระยะเวลาบินน้อยกว่ารุ่น Air และ Mavic
  • ราคาสูงกว่ารุ่น Mini ที่มีฟีเจอร์ใกล้เคียงกัน

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดขายหลักของ DJI Flip คือดีไซน์การพับที่ไม่เหมือนใคร ทำให้มันกลายเป็น โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่ตอบโจทย์นักเดินทางอย่างแท้จริงครับ ฟีเจอร์ Quick Launch ช่วยให้โดรนพร้อมบินภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาทีหลังจากกางแขนออก เหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องการเก็บภาพแบบฉับพลัน เช่น เจอฝูงนกสวย ๆ หรือจังหวะพระอาทิตย์ตกดินที่เกิดขึ้นแค่แป๊บเดียว กล้องที่ให้เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้วมา ถือว่าใจป้ำมากสำหรับโดรนขนาดนี้ มันทำให้ได้ภาพที่มี Dynamic Range กว้าง เก็บรายละเอียดในส่วนมืดและส่วนสว่างได้ดี และยังให้โบเก้ที่เป็นธรรมชาติเมื่อถ่ายวัตถุในระยะใกล้ การถ่ายวิดีโอ 4K/60fps ก็ลื่นไหลและคมชัด พร้อมโปรไฟล์สี 10-bit D-Log M สำหรับคนที่ต้องการนำไฟล์ไปเกรดสีต่ออย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้มาซึ่งขนาดที่เล็กและเบา DJI Flip ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนบางอย่างไปครับ มันมีเซ็นเซอร์กันชนเพียงด้านหน้าและด้านล่างเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าผู้บินยังคงต้องใช้ความระมัดระวังเมื่อบินถอยหลังหรือบินไปด้านข้าง ระยะเวลาบินที่ 30 นาทีก็ถือว่าเพียงพอ แต่ก็น้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ ในระดับราคาใกล้เคียงกัน ดังนั้น DJI Flip จึงเหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับ “ความสะดวกในการพกพา” และ “คุณภาพของกล้อง” มาเป็นอันดับแรก ถ้าคุณเป็นนักเดินทางที่ทุกกรัมในกระเป๋ามีความหมาย และต้องการโดรนที่หยิบง่ายถ่ายคล่องเหมือนหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป นี่คือ โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่สร้างมาเพื่อคุณโดยเฉพาะเลยครับ

คะแนนที่ได้

8.6/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“พกง่ายมากครับ ยัดใส่กระเป๋ากางเกงได้เลย เวลาไปเดินป่าคือสะดวกสุดๆ ไม่ต้องแบกกระเป๋าโดรนแยกให้หนัก” – เต้, Backpacker อายุ 30
“ชอบคุณภาพไฟล์จากกล้อง 1 นิ้วมากค่ะ ถ่ายตอนเย็นๆ แสงน้อยก็ยังสวยอยู่เลย ดีไซน์ก็เท่มาก มีแต่คนทัก” – ใบเฟิร์น, Instagrammer อายุ 24


7. DJI Neo ★★★★☆

“โดรน AI สุดล้ำ! บินตามอัตโนมัติอย่างชาญฉลาด ดีไซน์แห่งอนาคตสำหรับสายเทค”

รีวิว DJI Neo โดรน DJI รุ่นไหนดี

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหลในเทคโนโลยีและกำลังมองหาว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่ฉลาดที่สุดและล้ำที่สุดในปีนี้ ขอแนะนำให้รู้จักกับ DJI Neo ครับ! นี่คือโดรนที่ DJI ตั้งใจโชว์ศักยภาพด้าน AI (Artificial Intelligence) อย่างเต็มที่ มันถูกออกแบบมาให้เป็น “ตากล้องส่วนตัวที่บินได้” อย่างแท้จริง ด้วยระบบติดตามวัตถุเวอร์ชันใหม่ล่าสุด (Subject Tracking 3.0) ที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเคลื่อนไหวของเป้าหมาย ทำให้สามารถบินตามได้อย่างนุ่มนวลและแม่นยำ แม้เป้าหมายจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วหรือมีสิ่งกีดขวางก็ตาม ดีไซน์ของตัวลำก็ดูโฉบเฉี่ยวล้ำสมัยเหมือนหลุดมาจากหนังไซไฟ เหมาะกับสายเทคที่ชอบแกดเจ็ตเจ๋ง ๆ ครับ

สเปกเด่น

  • AI Features: Subject Tracking 3.0, Predictive Pathing, Auto-Framing
  • กล้อง: เซ็นเซอร์ 1/1.2-inch CMOS, 48MP
  • ความละเอียดวิดีโอ: 4K/120fps, 10-bit Color
  • ระยะเวลาบินสูงสุด: 35 นาที
  • เซ็นเซอร์กันชน: Omnidirectional + Infrared 3D Sensing
  • ดีไซน์: Futuristic, Aerodynamic Design
จุดเด่น
  • ระบบ AI ติดตามวัตถุฉลาดและแม่นยำมาก
  • คุณภาพวิดีโอดีเยี่ยม ถ่ายสโลโมชัน 4K ได้
  • ดีไซน์สวยงาม ล้ำสมัย ไม่เหมือนใคร
  • เซ็นเซอร์รอบทิศทางทำงานร่วมกับ 3D Sensing
  • เหมาะกับการถ่ายทำคนเดียว ไม่ต้องมีคนบังคับ
ข้อควรพิจารณา
  • ฟังก์ชันการควบคุมแบบ Manual มีจำกัด
  • ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโดรนที่เน้นการบินทั่วไป
  • อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องการการควบคุมกล้องที่ซับซ้อน

รีวิวแบบเจาะลึก

ความสามารถหลักของ DJI Neo อยู่ที่ชิปประมวลผล AI ที่ทรงพลังครับ มันไม่เพียงแค่บินตามวัตถุ แต่ยังสามารถทำ Auto-Framing คือการจัดองค์ประกอบภาพให้โดยอัตโนมัติ เช่น การรักษาระยะห่างจากเป้าหมาย หรือการแพนกล้องอย่างช้า ๆ เพื่อสร้างมูฟเมนต์ที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Predictive Pathing ที่ AI จะพยายามคาดเดาเส้นทางของเป้าหมายล่วงหน้า ทำให้แม้เป้าหมายจะหายไปหลังต้นไม้หรือตึกชั่วครู่ โดรนก็จะยังคงบินต่อไปในทิศทางที่ถูกต้องและกลับมาจับภาพต่อได้เมื่อเป้าหมายโผล่ออกมาอีกครั้ง ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้ DJI Neo เป็น โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่เหมาะมากสำหรับนักกีฬา, นักสเก็ตบอร์ด, หรือใครก็ตามที่อยากถ่ายคลิปตัวเองเท่ ๆ โดยไม่ต้องมีคนคอยบินโดรนให้เลยครับ

ในส่วนของฮาร์ดแวร์ DJI Neo ก็ไม่น้อยหน้าครับ มันมาพร้อมเซ็นเซอร์กล้องขนาด 1/1.2 นิ้ว ที่สามารถถ่ายวิดีโอสโลโมชันได้ถึง 4K/120fps ให้ภาพที่คมชัดและสีสันสดใส ระบบเซ็นเซอร์กันชนก็เป็นแบบไฮบริด คือใช้ทั้งเซ็นเซอร์ Fisheye รอบทิศทางและเซ็นเซอร์อินฟราเรด 3 มิติ ทำให้สามารถสร้างแผนที่ 3 มิติของสภาพแวดล้อมรอบตัวและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างแม่นยำและปลอดภัยยิ่งขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม DJI Neo ถูกออกแบบมาให้เน้นการทำงานแบบอัตโนมัติเป็นหลัก ดังนั้นฟังก์ชันการควบคุมแบบ Manual อาจจะมีไม่มากเท่าโดรนรุ่นอื่น ๆ มันจึงอาจไม่เหมาะกับช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่สำหรับใครที่อยากได้เทคโนโลยีล่าสุดและต้องการให้โดรนทำงานแทนเราให้มากที่สุด นี่คือ โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่จะทำให้คุณทึ่งในความฉลาดของมันแน่นอนครับ

คะแนนที่ได้

8.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ระบบบินตามคือสุดยอดมากครับ ผมเล่นเซิร์ฟแล้วให้มันบินตาม ถ่ายได้ช็อตสวยๆ เพียบเลย เหมือนมีคนมาถ่ายให้” – โปร, นักกีฬากระดานโต้คลื่น อายุ 29
“ดีไซน์สวยมากกกก ล้ำสุดๆ ไปเลยค่ะ ฟีเจอร์ AI ก็ใช้ง่าย แค่เลือกเป้าหมายแล้วปล่อยให้มันทำงานเอง สะดวกมาก” – จูน, Tech Reviewer อายุ 27


8. DJI Mavic 3 Pro ★★★☆☆

“อดีตเรือธง! ยังคงเก๋าด้วยกล้อง 3 ตัวคุณภาพสูง ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น”

รีวิว DJI Mavic 3 Pro โดรน DJI รุ่นไหนดี

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

แม้ว่าจะมี Mavic 4 Pro เปิดตัวมาแล้ว แต่ DJI Mavic 3 Pro ซึ่งเป็นอดีตโดรนเรือธง ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะเมื่อราคามือหนึ่งและมือสองเริ่มปรับลดลง ทำให้มันกลายเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี สำหรับคนที่อยากได้สเปกระดับโปรในราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น Mavic 3 Pro เป็นโดรนรุ่นแรกที่มาพร้อมระบบกล้อง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก Hasselblad 4/3 CMOS และกล้อง Tele อีก 2 ระยะ ซึ่งยังคงให้คุณภาพของไฟล์ที่ดีเยี่ยมและมีความยืดหยุ่นสูงในการใช้งาน มันยังคงมีเซ็นเซอร์กันชนรอบทิศทาง, บินได้นานถึง 43 นาที และรองรับการถ่ายวิดีโอ Apple ProRes ซึ่งเป็นฟีเจอร์ระดับโปรที่ยังคงทรงพลังในปีนี้ครับ

สเปกเด่น

  • ระบบกล้อง: กล้องหลัก Hasselblad 4/3 CMOS, กล้อง Medium Tele 70mm, กล้อง Tele 166mm
  • ความละเอียดวิดีโอ: 5.1K/50fps, DCI 4K/120fps, Apple ProRes 422 HQ
  • ระยะเวลาบินสูงสุด: 43 นาที
  • ระบบส่งสัญญาณ: DJI O3+ (OcuSync 3+) ส่งภาพไกลสุด 15 กม. (FCC)
  • เซ็นเซอร์กันชน: Omnidirectional Obstacle Sensing
  • ฟีเจอร์อัจฉริยะ: ActiveTrack 5.0, Waypoint Flight, MasterShots
จุดเด่น
  • คุณภาพไฟล์จากกล้อง Hasselblad ยังคงยอดเยี่ยม
  • มีกล้อง 3 ระยะเลนส์ให้ใช้งาน
  • บินได้นานและมีความเสถียรสูง
  • ราคาเข้าถึงง่ายกว่ารุ่นใหม่
  • ฟีเจอร์ระดับโปรยังคงใช้งานได้ดี
ข้อควรพิจารณา
  • ระบบส่งสัญญาณเป็นรุ่นเก่า (O3+)
  • ฟีเจอร์ AI และการประมวลผลไม่ล้ำเท่ารุ่นใหม่
  • อาจหาซื้ออุปกรณ์เสริมบางอย่างได้ยากขึ้น

รีวิวแบบเจาะลึก

สิ่งที่ทำให้ Mavic 3 Pro ยังคงเป็น โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่น่าใช้อยู่ คือคุณภาพของกล้องหลัก Hasselblad ที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 4/3 CMOS ซึ่งยังคงให้ภาพที่มีมิติ, Dynamic Range กว้าง และสีสันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ การมีเลนส์ Telephoto สองระยะ (70mm และ 166mm) ก็ยังคงเป็นจุดแข็งที่ทำให้สร้างสรรค์มุมมองภาพแบบ Parallax (วัตถุฉากหน้าเคลื่อนที่เร็วกว่าฉากหลัง) ได้อย่างน่าทึ่ง หรือใช้ในการถ่ายภาพวัตถุจากระยะไกลโดยไม่รบกวนได้เป็นอย่างดี ฟีเจอร์อย่าง MasterShots ที่โดรนจะบินและถ่ายทำฟุตเทจสั้น ๆ พร้อมตัดต่อให้เป็นวิดีโอเท่ ๆ โดยอัตโนมัติ ก็ยังคงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ได้ผลงานสวย ๆ อย่างรวดเร็วครับ

แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่อย่าง Mavic 4 Pro ตัว Mavic 3 Pro ก็มีจุดที่เป็นรองอยู่บ้างครับ เช่น ระบบส่งสัญญาณที่เป็น O3+ ซึ่งแม้จะยังดีมาก แต่ก็ไม่ไกลและเสถียรเท่า O4 และระบบ AI ในการติดตามวัตถุหรือหลบหลีกสิ่งกีดขวางก็อาจจะไม่ฉลาดเท่ารุ่นล่าสุด แต่สำหรับช่างภาพหรือ Content Creator ที่มีทักษะการบินที่ดีอยู่แล้วและต้องการประหยัดงบประมาณ การเลือก Mavic 3 Pro ที่มีราคาลดลงมา ถือเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดมากครับ เพราะคุณยังคงได้หัวใจหลักคือคุณภาพไฟล์ระดับโปรจากกล้อง Hasselblad ไปใช้งาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับงานวิดีโอและภาพนิ่งครับ การมีโดรนสเปกดีๆ ก็ต้องคู่กับการ์ดที่เร็วพอ ลองดู SD Card ยี่ห้อไหนดี ที่มีความเร็วการเขียนสูงๆ เพื่อรองรับไฟล์วิดีโอ 5.1K ได้อย่างไม่มีสะดุดนะครับ

คะแนนที่ได้

8.3/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ผมซื้อมือสองมาในราคาดีมากครับ คุณภาพไฟล์ยังสู้โดรนรุ่นใหม่ๆ ได้สบายเลย คุ้มค่ามากครับ” – อาร์ม, ช่างภาพฟรีแลนซ์ อายุ 32
“ถึงจะตกรุ่นไปแล้ว แต่ฟังก์ชันก็ยังเหลือๆ สำหรับใช้งานเลยค่ะ บินนิ่งมาก กล้องสวย จบงานได้สบายๆ” – กิ๊ฟ, เจ้าของโปรดักชันเฮาส์เล็กๆ อายุ 36


9. DJI Inspire 3 ★★★☆☆

“ที่สุดของงานภาพยนตร์! กล้อง Full-Frame 8K เปลี่ยนเลนส์ได้ สำหรับโปรดักชันระดับโลก”

รีวิว DJI Inspire 3 โดรน DJI รุ่นไหนดี

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาถึงรุ่นใหญ่ที่สุด ทรงพลังที่สุด และเป็นที่สุดของวงการโดรนถ่ายทำภาพยนตร์ครับ ถ้าคำถามคือ โดรน DJI รุ่นไหนดี สำหรับกองถ่ายหนัง, โฆษณา, หรือโปรดักชันที่ต้องการคุณภาพสูงสุดแบบไม่มีการประนีประนอม คำตอบเดียวคือ DJI Inspire 3 ครับ! นี่ไม่ใช่โดรนสำหรับคนทั่วไป แต่มันคือเครื่องมือสำหรับมืออาชีพในวงการโดยเฉพาะ จุดเด่นที่สุดคือการรองรับกล้อง Zenmuse X9-8K Air ที่ใช้เซ็นเซอร์ Full-Frame และสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดถึง 8K/75fps ในฟอร์แมต CinemaDNG และ Apple ProRes RAW นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ (DL Mount) ทำให้ผู้กำกับภาพสามารถเลือกใช้เลนส์ที่ให้คาแรคเตอร์ภาพตามที่ต้องการได้เลยครับ

สเปกเด่น

  • กล้อง: Zenmuse X9-8K Air Gimbal Camera (Full-Frame)
  • ความละเอียดวิดีโอ: 8K/75fps, 4K/120fps (CinemaDNG, ProRes RAW)
  • ระบบเลนส์: DL Mount (เปลี่ยนเลนส์ได้)
  • ระบบ تحديدตำแหน่ง: RTK (Real-Time Kinematic) เพื่อความแม่นยำระดับเซนติเมตร
  • ระบบควบคุม: รองรับการควบคุม 2 คน (นักบิน และ ผู้ควบคุมกล้อง)
  • ดีไซน์: Transformable Design (ยกแขนขึ้นเพื่อไม่ให้บังกล้อง)
จุดเด่น
  • คุณภาพไฟล์วิดีโอระดับ Cinema Grade
  • สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ให้ความยืดหยุ่นสูง
  • ระบบ RTK ให้การบินที่แม่นยำและเสถียรมาก
  • รองรับการทำงานร่วมกันแบบ Dual Control
  • ดีไซน์เอื้อต่อการถ่ายทำ ไม่ติดแขนโดรน
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูงมาก เหมาะกับงานโปรดักชันใหญ่เท่านั้น
  • ขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ต้องใช้ทีมงานในการขนย้าย
  • การใช้งานและการตั้งค่าซับซ้อน ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ

รีวิวแบบเจาะลึก

DJI Inspire 3 ถูกออกแบบมาเพื่อการทำงานในกองถ่ายอย่างแท้จริงครับ ดีไซน์ของมันสามารถยกแขนขึ้นเหนือลำตัวได้หลังจากบินขึ้น ทำให้กล้องสามารถหมุนได้ 360 องศาโดยไม่มีแขนหรือใบพัดมาบดบังมุมภาพเลย รองรับการควบคุมแบบ 2 คน (Dual Control) โดยคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นนักบิน (Pilot) ส่วนอีกคนเป็นผู้ควบคุมกล้อง (Camera Operator) ทำให้สามารถสร้างสรรค์ช็อตที่ซับซ้อนและมีการเคลื่อนไหวของกล้องที่ลื่นไหลได้ นอกจากนี้ยังมีระบบ RTK ที่ช่วยให้โดรนรักษาตำแหน่งได้อย่างแม่นยำในระดับเซนติเมตร ทำให้สามารถบินซ้ำในเส้นทางเดิมเป๊ะ ๆ ได้ (Repeatable Routes) ซึ่งจำเป็นมากสำหรับงานที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษ (VFX) ครับ

แน่นอนว่าด้วยความสามารถระดับนี้ Inspire 3 จึงมาพร้อมกับราคาที่สูงมากและมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก การใช้งานแต่ละครั้งต้องมีการวางแผนและใช้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญครับ มันจึงไม่ใช่คำตอบของคำถาม โดรน DJI รุ่นไหนดี สำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับโปรดักชันเฮาส์หรือผู้สร้างภาพยนตร์ที่ต้องการคุณภาพที่ดีที่สุดเท่าที่เทคโนโลยีโดรนจะให้ได้ในปัจจุบัน DJI Inspire 3 คือเครื่องมือที่ขาดไม่ได้และไม่มีใครเทียบได้ในสนามนี้ครับ มันคือการยกระดับการถ่ายทำทางอากาศไปอีกขั้นอย่างแท้จริงครับ

คะแนนที่ได้

8.1/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“คุณภาพไฟล์จาก X9 คือสุดยอดมากครับ ยืดหยุ่นในการทำสีสูงมาก เป็นโดรนตัวหลักในงานโฆษณาของบริษัทผมเลย” – คุณตั้ม, ผู้กำกับภาพ อายุ 45
“การที่มี RTK ทำให้งาน VFX ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ บินซ้ำเส้นทางเดิมได้เป๊ะ ๆ ช่วยลดเวลาทำงาน Post-production ได้มาก” – พี่โจ้, VFX Supervisor อายุ 41


10. DJI Mini 3 Pro ★★★☆☆

“รุ่นยอดฮิตสุดคุ้ม! ฟีเจอร์โปรในร่างเล็ก ถ่ายแนวตั้งได้ ในราคาที่น่ารัก”

รีวิว DJI Mini 3 Pro โดรน DJI รุ่นไหนดี

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ปิดท้ายลิสต์กันด้วยรุ่นพี่ที่ยังคงเก๋าและเป็นขวัญใจมหาชนอย่าง DJI Mini 3 Pro ครับ! แม้จะมี Mini 4 Pro ออกมาแล้ว แต่รุ่นนี้ก็ยังเป็นคำตอบที่ดีมากสำหรับคำถาม โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่คุ้มค่าที่สุดในตอนนี้ เพราะราคาของมันปรับลดลงมาเยอะมาก แต่ฟีเจอร์ที่ได้ยังคงจัดเต็มและเพียงพอต่อการใช้งานของคนส่วนใหญ่ Mini 3 Pro เป็นโดรนไซส์มินิรุ่นแรกที่ใส่เซ็นเซอร์กันชนมาถึง 3 ทิศทาง (หน้า, หลัง, ล่าง) และเป็นรุ่นแรกที่สามารถถ่ายวิดีโอแนวตั้ง (True Vertical Shooting) ได้ ซึ่งเป็นการปฏิวัติวงการโดรนเล็กในยุคนั้นเลยทีเดียวครับ

สเปกเด่น

  • น้ำหนัก: < 249 กรัม
  • กล้อง: เซ็นเซอร์ 1/1.3-inch CMOS, 48MP
  • ความละเอียดวิดีโอ: 4K/60fps, D-Cinelike
  • ฟีเจอร์เด่น: True Vertical Shooting, FocusTrack
  • เซ็นเซอร์กันชน: Tri-Directional Obstacle Sensing (หน้า/หลัง/ล่าง)
  • ระยะเวลาบินสูงสุด: 34 นาที
จุดเด่น
  • ราคาคุ้มค่ามากในปัจจุบัน
  • ยังคงได้ฟีเจอร์เด่นอย่าง True Vertical Shooting
  • คุณภาพไฟล์ 4K/60fps ยังดีเยี่ยม
  • น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
  • มีเซ็นเซอร์กันชน 3 ทิศทาง
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีเซ็นเซอร์กันชนด้านข้าง
  • ระบบส่งสัญญาณเป็นรุ่นเก่ากว่า
  • ฟีเจอร์ ActiveTrack ไม่ฉลาดเท่ารุ่นใหม่

รีวิวแบบเจาะลึก

DJI Mini 3 Pro ยังคงเป็น โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่น่าสนใจเพราะมันให้สเปกกล้องที่แทบไม่ต่างจาก Mini 4 Pro เลยครับ คือใช้เซ็นเซอร์ 1/1.3 นิ้วเหมือนกัน ถ่ายวิดีโอ 4K/60fps ได้ และที่สำคัญคือมี True Vertical Shooting ทำให้มันยังคงเป็นเครื่องมือทำคอนเทนต์ลงโซเชียลมีเดียที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ คุณภาพของไฟล์วิดีโอและภาพนิ่งยังคงคมชัด สีสันสวยงาม และจัดการ Noise ได้ดีในระดับที่น่าพอใจ ฟีเจอร์ FocusTrack (รวม ActiveTrack, Spotlight, Point of Interest) ก็ยังทำงานได้ดี ช่วยให้การถ่ายทำแบบติดตามวัตถุง่ายขึ้นมากสำหรับมือใหม่ครับ

จุดที่แตกต่างจาก Mini 4 Pro หลัก ๆ คือเรื่องของเซ็นเซอร์กันชนครับ โดย Mini 3 Pro จะมีแค่ 3 ทิศทาง ขาดเซ็นเซอร์ด้านข้างไป ทำให้การใช้ ActiveTrack ในที่แคบ ๆ อาจจะต้องระวังมากกว่า และระบบส่งสัญญาณที่เป็น DJI O3 ก็จะมีระยะและความเสถียรเป็นรอง O4 อยู่บ้าง แต่ก็ยังถือว่าดีมากและเพียงพอต่อการใช้งานของคนส่วนใหญ่ครับ สรุปแล้ว ถ้าคุณไม่ได้ต้องการเซ็นเซอร์รอบทิศทางหรือระบบส่งสัญญาณที่ดีที่สุด แต่ให้ความสำคัญกับ “ความคุ้มค่า” และยังอยากได้ฟีเจอร์เด็ด ๆ อย่างการถ่ายแนวตั้งและไฟล์ 4K/60fps การเลือก DJI Mini 3 Pro ในราคาที่ถูกลงมา ถือเป็นดีลที่ชาญฉลาดและน่าสนใจมาก ๆ ในปีนี้ครับ

คะแนนที่ได้

8.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูสเปกเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใช้มาปีกว่าแล้วยังรักอยู่เลยครับ คุ้มมาก ๆ กับราคาที่จ่ายไป ไฟล์สวย บินง่าย พกสะดวก จบในตัวเดียว” – วิน, พนักงานออฟฟิศที่รักการถ่ายภาพ อายุ 34
“ซื้อตอนราคาลงมาแล้วค่ะ รู้สึกว่าคุ้มมาก ได้โดรนถ่ายแนวตั้งได้ในราคาไม่แรง เอาไปทำคลิปลง Reels สบายเลย” – แพรว, แม่ค้าออนไลน์ อายุ 28


มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญในวงการโดรน

จากการติดตามสื่อใหญ่ด้านเทคโนโลยีและอากาศยานไร้คนขับอย่าง DPReview และ TechRadar ทำให้เราเห็นทิศทางที่ชัดเจนของตลาดโดรนในปี 2025 ซึ่ง DJI ยังคงเป็นผู้นำที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เทรนด์สำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญต่างพูดถึงคือ:

“การทำให้ฟีเจอร์ระดับโปรเข้าถึงง่ายขึ้น (Democratization of Pro Features) DJI ได้นำเทคโนโลยีที่เคยมีเฉพาะในโดรนระดับไฮเอนด์ เช่น เซ็นเซอร์กันชนรอบทิศทาง, การถ่ายวิดีโอ 10-bit, และระบบส่งสัญญาณภาพระยะไกล มาใส่ไว้ในโดรนรุ่นเล็กอย่างซีรีส์ Mini และ Air ซึ่งเป็นการเปลี่ยนเกมและยกระดับมาตรฐานของโดรนสำหรับผู้บริโภคทั่วไปอย่างสิ้นเชิง”

ปัจจัยนี้ทำให้การตัดสินใจเลือก โดรน DJI รุ่นไหนดี ในปัจจุบัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า “รุ่นไหนมีฟีเจอร์ที่ดีที่สุด” อีกต่อไป แต่เปลี่ยนไปเป็น “รุ่นไหนมีฟีเจอร์ที่ ‘ใช่’ และ ‘พอดี’ กับการใช้งานและงบประมาณของเรามากที่สุด” ครับ

AI และ Automation คืออนาคต

ผู้เชี่ยวชาญหลายสำนักมองว่า AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบินโดรนมากขึ้นเรื่อย ๆ จากเดิมที่ใช้แค่ในการติดตามวัตถุ (ActiveTrack) ก็จะพัฒนาไปสู่การบินอัตโนมัติที่ซับซ้อนและชาญฉลาดขึ้น เช่น การวางแผนเส้นทางบินเพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวางที่ซับซ้อนได้เอง หรือแม้กระทั่งการจัดองค์ประกอบภาพและเลือกมุมกล้องที่สวยงามให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเราเริ่มเห็นเค้าลางแล้วในโดรนอย่าง DJI Neo สิ่งนี้จะช่วยลดภาระของนักบินลงอย่างมาก และทำให้คนที่ไม่เคยบินโดรนมาก่อนก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่น่าทึ่งได้

บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS

“ทีมงานของเรามองว่า การเลือก โดรน DJI รุ่นไหนดี ในปี 2025 คือการเลือกระหว่าง ‘ความสุดยอดรอบด้าน’ ของซีรีส์ Mavic, ‘ความคล่องตัวและชาญฉลาด’ ของซีรีส์ Mini, ‘ความสมดุลที่ลงตัว’ ของซีรีส์ Air และ ‘ประสบการณ์ที่แตกต่าง’ ของซีรีส์ FPV อย่าง Avata ไม่มีรุ่นไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่มีรุ่นที่ ‘ใช่ที่สุด’ สำหรับคุณเสมอ การทำความเข้าใจความต้องการของตัวเองจึงเป็นกุญแจสำคัญที่สุดในการเลือกคู่หูที่จะพาเราโบยบินไปสร้างสรรค์ผลงานครับ”


เคล็ดลับการเลือกซื้อโดรน DJI ให้เหมาะกับคุณ

โดรน DJI รุ่นไหนดี - ภาพมือจับโดรน DJI สีเทาดีไซน์พับได้ในร้านอิเล็กทรอนิกส์

หลังจากดูรีวิวทั้ง 10 รุ่นไปแล้ว หลายคนอาจจะยังมีคำถามในใจว่าจะเลือก โดรน DJI รุ่นไหนดี ให้เหมาะกับตัวเองที่สุด ผมมีเช็กลิสต์ง่าย ๆ มาให้ลองตอบคำถามตัวเองดูครับ

  1. คุณเป็นนักบินสไตล์ไหน?: ถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่อยากลองบินสนุก ๆ และพกพาง่าย DJI Mini 4 Pro หรือ Mini 4K คือจุดเริ่มต้นที่ดีเยี่ยม แต่ถ้าคุณเป็น Content Creator ที่ต้องการความยืดหยุ่นและคุณภาพไฟล์ที่ดีขึ้น DJI Air 3S คือตัวเลือกที่สมดุลมาก ๆ และถ้าคุณเป็นมืออาชีพที่รับงานจริงจัง การลงทุนกับ DJI Mavic 4 Pro จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุดครับ
  2. เน้นถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ?: โดรน DJI ทุกรุ่นถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้ดี แต่ถ้าคุณเน้นไฟล์วิดีโอเพื่อนำไปเกรดสีต่ออย่างจริงจัง ควรเลือกรุ่นที่รองรับการถ่าย 10-bit D-Log M เช่น Mini 4 Pro, Air 3S, หรือ Mavic 4 Pro ครับ
  3. สภาพแวดล้อมที่บินบ่อย ๆ เป็นอย่างไร?: หากคุณบินในเมืองหรือในป่าที่มีสิ่งกีดขวางเยอะ การเลือกรุ่นที่มีเซ็นเซอร์กันชนรอบทิศทาง (Omnidirectional) อย่าง Mini 4 Pro, Air 3S, หรือ Mavic 4 Pro จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจได้อย่างมหาศาล
  4. ต้องการฟีเจอร์ถ่ายแนวตั้งหรือไม่?: ถ้าคุณทำคอนเทนต์ลง TikTok, Reels, หรือ Shorts เป็นหลัก การเลือกรุ่นที่รองรับ True Vertical Shooting อย่าง DJI Mini 4 Pro หรือ Mini 3 Pro จะช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายและได้ไฟล์คุณภาพสูงสุดครับ
  5. งบประมาณของคุณเท่าไหร่?: ตั้งงบประมาณในใจก่อน แล้วดูว่าในงบนั้นมี โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่ตอบโจทย์การใช้งานของเราได้มากที่สุด บางครั้งการเลือกรุ่นรองท็อปหรือรุ่นก่อนหน้าอย่าง Mavic 3 Pro หรือ Mini 3 Pro ก็อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าการจ่ายเงินเพื่อฟีเจอร์ล่าสุดที่เราอาจจะไม่ได้ใช้ครับ

กฎหมายและข้อบังคับการบินโดรนในประเทศไทย 2568: สิ่งที่ต้องรู้

การเป็นเจ้าของโดรนไม่ได้มีแค่การซื้อมาแล้วบินได้เลยนะครับ โดยเฉพาะในประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมที่ชัดเจนเพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม สรุปสั้น ๆ ที่ทุกคนต้องทำคือ:

  • ขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรน: ต้องทำการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งเป็นข้อบังคับสำหรับโดรนทุกขนาดครับ
  • ขึ้นทะเบียนโดรน: ต้องนำโดรนไปขึ้นทะเบียนกับสำนักงาน กสทช. เพื่อขอใบอนุญาตค้าและใช้วิทยุคมนาคม ซึ่งก็ทำผ่านระบบออนไลน์ได้เช่นกันครับ
  • โดรนที่มีกล้อง: โดรนทุกรุ่นที่มีกล้องถ่ายภาพได้ ถือเป็นอากาศยานที่ต้องขึ้นทะเบียนทั้งหมด ไม่ว่าจะน้ำหนักเบาแค่ไหนก็ตามครับ
  • ข้อจำกัดในการบิน: ห้ามบินในเขตห้ามบิน (No-fly zones) เช่น ใกล้สนามบิน, เขตพระราชฐาน, สถานที่ราชการสำคัญ และห้ามบินสูงเกิน 90 เมตรจากพื้นดิน รวมถึงต้องบินในระยะสายตาเสมอครับ

การปฏิบัติตามกฎหมายนอกจากจะทำให้เราบินได้อย่างสบายใจแล้ว ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยนะครับ


เปรียบเทียบระบบส่งสัญญาณ DJI O3+ vs O4: ต่างกันแค่ไหน?

หนึ่งในสเปกที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปคือระบบส่งสัญญาณภาพครับ ซึ่งในลิสต์ของเรามีทั้งรุ่นที่ใช้ OcuSync 3+ (O3+) และรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง O4 ความแตกต่างหลัก ๆ คือ:

  • ระยะทางและความเสถียร: O4 มีระยะส่งสัญญาณที่ไกลกว่า (สูงสุด 20 กม. เทียบกับ 15 กม. ของ O3+) และมีความเสถียรในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณรบกวนเยอะ (เช่น ในเมือง) ได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
  • คุณภาพ Live View: ทั้งสองระบบให้ภาพ Live View ที่ 1080p แต่ O4 สามารถส่งได้ที่ 60fps ทำให้ภาพที่เห็นในจอมือถือหรือรีโมตดูลื่นไหลและตอบสนองได้ดีกว่า ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อบินด้วยความเร็วสูง
  • ความถี่: O4 รองรับย่านความถี่ที่หลากหลายกว่า ทำให้มันสามารถเลือกช่องสัญญาณที่ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนได้โดยอัตโนมัติ

ถามว่าจำเป็นต้องเลือกรุ่นที่เป็น O4 เสมอไปไหม? ถ้าคุณเป็นมืออาชีพที่ต้องบินในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายหรือต้องการความเชื่อถือได้สูงสุด การเลือกรุ่นที่เป็น O4 อย่าง Mavic 4 Pro, Air 3S, หรือ Mini 4 Pro ก็เป็นสิ่งที่ควรทำครับ แต่สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่บินในที่โล่ง ๆ เป็นส่วนใหญ่ O3+ ก็ยังถือว่าเป็นระบบที่ยอดเยี่ยมและเพียงพอต่อการใช้งานครับ


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ภาพคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ โดรน DJI รุ่นไหนดี แสดงโดรน DJI พร้อมกล่องเครื่องหมายคำถาม

  • ถาม: สำหรับมือใหม่จริง ๆ ที่ไม่เคยบินโดรนมาก่อน ควรเลือก โดรน DJI รุ่นไหนดี?
    ตอบ: แนะนำ DJI Mini 4 Pro ครับ เพราะมีเซ็นเซอร์กันชนรอบทิศทาง ทำให้บินได้ปลอดภัยและมั่นใจมากที่สุดสำหรับมือใหม่ หรือถ้าต้องการประหยัดงบ DJI Mini 4K ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการฝึกฝนการบินครับ
  • ถาม: โดรนน้ำหนักไม่เกิน 250 กรัม ไม่ต้องขึ้นทะเบียนจริงไหม?
    ตอบ: ไม่จริงครับในประเทศไทย โดรนทุกลำที่มีกล้องบันทึกภาพได้ จะต้องทำการขึ้นทะเบียนทั้งกับ กพท. และ กสทช. โดยไม่มีข้อยกเว้นเรื่องน้ำหนักครับ
  • ถาม: ซื้อชุด Fly More Combo คุ้มกว่าไหม?
    ตอบ: คุ้มกว่ามากครับ! โดยส่วนใหญ่แล้วชุด Fly More Combo จะให้แบตเตอรี่เสริมมาอีก 2 ก้อน, Charging Hub, ใบพัดสำรอง, และกระเป๋า ซึ่งถ้าซื้อแยกทีหลังจะมีราคาสูงกว่ามาก การมีแบตเตอรี่ 3 ก้อนจะทำให้คุณบินได้อย่างต่อเนื่องและสนุกขึ้นเยอะครับ
  • ถาม: ระหว่าง DJI Air 3S กับ Mavic 4 Pro ควรเลือก โดรน DJI รุ่นไหนดี?
    ตอบ: ถ้าคุณเป็น Content Creator หรือช่างภาพที่ต้องการความยืดหยุ่นและบินนาน DJI Air 3S ถือว่าคุ้มค่าและเพียงพอมากครับ แต่ถ้าคุณเป็นมืออาชีพที่ต้องการคุณภาพไฟล์วิดีโอที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้, ต้องการไฟล์ ProRes, และต้องการความสามารถในการปรับรูรับแสง การลงทุนเพิ่มเพื่อ DJI Mavic 4 Pro จะตอบโจทย์ได้ดีกว่าในระยะยาวครับ

บทสรุป: เลือกโดรน DJI ที่ใช่ แล้วออกไปสร้างสรรค์ผลงานกัน!

มาถึงตรงนี้ ผมหวังว่าเพื่อน ๆ น่าจะได้คำตอบในใจกันแล้วนะครับว่า โดรน DJI รุ่นไหนดี ที่จะมาเป็นคู่หูตัวใหม่ของคุณในปี 2025 นี้ จะเห็นได้ว่า DJI ได้สร้างตัวเลือกที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการจริง ๆ ครับ

ถ้าให้สรุปแบบฟันธงอีกครั้ง:

  • ที่สุดของความโปร: DJI Mavic 4 Pro คือคำตอบสุดท้ายสำหรับมืออาชีพ
  • เล็กพริกขี้หนู ฟีเจอร์ล้น: DJI Mini 4 Pro คือเพื่อนที่ดีที่สุดของสายท่องเที่ยวและ Vlogger
  • สมดุลที่ลงตัว: DJI Air 3S เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคุณภาพและความยืดหยุ่นในราคาที่สมเหตุสมผล
  • เริ่มต้นสุดคุ้ม: DJI Mini 4K คือประตูบานแรกสู่โลกแห่งการบินโดรนที่ยอดเยี่ยมที่สุด
  • มันส์สะใจสายซิ่ง: DJI Avata 2 จะเปิดประสบการณ์ FPV ที่คุณจะลืมไม่ลง

สุดท้ายแล้ว ไม่มีโดรนรุ่นไหนที่ดีที่สุด มีแต่รุ่นที่ “ใช่ที่สุด” สำหรับสไตล์การใช้งานและงบประมาณของคุณครับ การเลือก โดรน DJI รุ่นไหนดี ก็เหมือนการเลือกเครื่องมือที่ใช่เพื่องานศิลปะ ขอให้เพื่อน ๆ สนุกกับการเลือกและมีความสุขกับการสร้างสรรค์ผลงานสวย ๆ จากมุมมองบนท้องฟ้านะครับ! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าครับ!

โดรน DJI รุ่นไหนดี บนพื้นไม้พร้อมรีโมทในฉากหลัง


หมายเหตุจากผู้เขียน:

  • รายละเอียดสเปก, ราคา, และโปรโมชัน อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ DJI Thailand หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ
  • คะแนน (เช่น 9.8/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากสเปก, ฟีเจอร์, ราคา ณ วันที่รีวิว, ความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงในคอมมูนิตี้ต่าง ๆ และประสบการณ์การใช้งานของผู้เขียน
  • รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “พี่เอก, อายุ 38” หรือ “น้องมายด์, อายุ 27”) เป็นตัวอย่างสมมติที่สร้างขึ้นจากความคิดเห็นโดยรวมของผู้ใช้งานจริง เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานที่หลากหลายและชัดเจนยิ่งขึ้น
  • บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลล่าสุด ณ ช่วงเวลาที่เขียน การอัปเดตเฟิร์มแวร์ในอนาคตอาจมีการเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติบางอย่างของโดรนได้
  • การบินโดรนมีความเสี่ยง ควรศึกษาคู่มือการใช้งาน, ปฏิบัติตามกฎหมายการบินในพื้นที่นั้น ๆ อย่างเคร่งครัด และบินด้วยความไม่ประมาทเสมอครับ