10 สุดยอด หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี 2025 อัพเดตล่าสุด! คุ้มสุด! ฟีเจอร์แน่น ใช้ง่ายทุกบ้าน

หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รวม 10 รุ่นยอดนิยม ประหยัดไฟ ใช้งานง่าย

บทนำ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวคนรักของทอดแต่ก็แอบห่วงสุขภาพ! วันนี้เรามาเจาะลึกไอเทมเด็ดที่กลายเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งในครัวของหลาย ๆ บ้านไปแล้ว นั่นก็คือ “หม้อทอดไร้น้ำมัน” นั่นเองครับ บอกเลยว่าตั้งแต่มีเจ้าเครื่องนี้ การทำของอร่อย ๆ อย่างไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ หรือหมูกรอบ ก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากและไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป เพราะมันช่วยลดไขมันไปได้เยอะมาก ๆ แต่พอจะซื้อทีไร คำถามที่ปวดหัวที่สุดก็ผุดขึ้นมาทันทีว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ล่ะ? ในปี 2025 นี้ มีรุ่นใหม่ ๆ ออกมาเพียบ ฟีเจอร์ก็ล้ำขึ้น ดีไซน์ก็สวยขึ้น จนเลือกกันไม่ถูกเลยใช่ไหมครับ

ไม่ต้องกังวลไปครับ! เพราะวันนี้ผมในฐานะเพื่อนที่ชอบเข้าครัวเหมือนกัน ได้ทำการบ้านมาอย่างหนัก คัดตัวเด็ด ๆ ตัวท็อป ๆ มาให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันแบบจัดเต็มในบทความ “10 อันดับ หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2025″ นี้แล้วครับ เราจะพาไปดูกันตั้งแต่รุ่นใหญ่ไฟกระพริบที่ทำได้สารพัดเมนู ไปจนถึงรุ่นเล็กดีไซน์มินิมอลที่เหมาะกับชาวคอนโด แถมยังเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ทั้งเรื่องฟังก์ชัน ความจุ ราคา และความคุ้มค่า เพื่อให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเลือก หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่ใช่และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราที่สุด นอกจากทำของทอดแล้ว บางรุ่นยังใช้อุ่นอาหารได้ดีไม่แพ้ ไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดี เลยนะครับ

ในบทความนี้ เรามีตารางเปรียบเทียบสเปกเด่น ๆ ให้ดูกันแบบภาพรวมก่อนตัดสินใจด้วยนะครับ จะได้เห็นกันไปเลยว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่มีฟีเจอร์ที่เราต้องการ หรือถ้าใครกำลังมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวอื่น ๆ อย่าง หม้ออบลมร้อน ก็สามารถเข้าไปอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้เลยครับ เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยดีกว่าว่า 10 พระเอกของเราในวันนี้จะมีรุ่นไหนน่าโดนกันบ้าง!

🦉 เลือกอ่านหัวข้อ

จัดอันดับ 10 หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2025

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังร้อนใจว่าสรุปแล้วจะเลือก หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่คุ้มค่าที่สุด ลองดูตารางเปรียบเทียบที่เราสรุปภาพรวมของทั้ง 10 รุ่นมาให้ดูกันก่อนได้เลยครับ ชอบตัวไหนเป็นพิเศษก็กดที่ชื่อเพื่อเลื่อนลงไปอ่านรีวิวฉบับเจาะลึกกันได้เลย!

ตารางเปรียบเทียบสรุป

คุณสมบัติ Ninja Foodi MAX Ninja AF160EU COSORI 5.5 ลิตร Philips 2000 Series Xiaomi Mi Smart 3.5L ELECTROLUX E6AF1-520K Tefal EY505D66 SHARP KF-AF70DB PHILIPS NA110/00 OTTO CO-725
อันดับที่ 🥇 🥈 🥉 4 5 6 7 8 9 10
รูปภาพสินค้า Ninja Foodi MAX Ninja AF160EU COSORI 5.5 ลิตร Philips AirFryer 2000 Series Xiaomi Mi Smart Air Fryer ELECTROLUX E6AF1-520K Tefal EY505D66 SHARP KF-AF70DB PHILIPS NA110/00 OTTO CO-725
ชื่อสินค้า (กดเพื่อเลื่อนไปดูรายละเอียด) Ninja Foodi MAX Ninja AF160EU COSORI 5.5 ลิตร Philips 2000 Series Xiaomi Mi Smart 3.5L ELECTROLUX E6AF1-520K Tefal EY505D66 SHARP KF-AF70DB PHILIPS NA110/00 OTTO CO-725
คุณสมบัติเด่น 6-in-1, ย่างไร้ควัน, 2460W, Smart Cook System 5.2 ลิตร, 6 ฟังก์ชัน, Max Crisp Tech, 2400W 5.5 ลิตร, 11 โปรแกรม, ตะกร้าเหลี่ยม, 1700W 4.1 ลิตร, Rapid Air Tech, NutriU App, 1400W 3.5 ลิตร, Smart Control, จอ OLED, 1500W 5 ลิตร, 8 โปรแกรม, จอสัมผัส, 1750W 4.2 ลิตร, 2-in-1 (ย่าง+ทอด), ตะแกรงอลูมิเนียม 7 ลิตร, จอ Digital, 8 โปรแกรม, 1800W 3.2 ลิตร, Rapid Air Tech, ดีไซน์กะทัดรัด 3 ลิตร, ตั้งเวลา 30 นาที, ปรับอุณหภูมิ, 1300W
คะแนน ★★★★★ (9.8/10) ★★★★★ (9.6/10) ★★★★☆ (9.3/10) ★★★★☆ (9.0/10) ★★★★☆ (8.8/10) ★★★★☆ (8.6/10) ★★★★☆ (8.5/10) ★★★☆☆ (8.2/10) ★★★☆☆ (8.0/10) ★★★☆☆ (7.7/10)
เหมาะกับใคร คนรักการทำอาหารตัวจริง ครอบครัวที่ชอบของทอด คนชอบดีไซน์สวย ใช้งานง่าย สายสุขภาพ เชื่อมั่นในแบรนด์ สายเทค ชอบความสมาร์ท บ้านที่ต้องการความจุกลางๆ คนชอบสเต๊กและของย่าง ครอบครัวใหญ่ จุใจ 7 ลิตร คนเริ่มใช้/คอนโด พื้นที่จำกัด ผู้เริ่มต้น งบประหยัด
เช็กราคาล่าสุด

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

Lazada Shopee

 

1. Ninja Foodi MAX เตาย่างเอนกประสงค์ Grill & Hot Air Fryer ★★★★★

“ตัวจบสายทำอาหาร! ย่าง-ทอด-อบ ครบเครื่องในหนึ่งเดียว พลังสูงสะใจ”

Ninja Foodi MAX เตาย่างเอนกประสงค์ Grill & Hot Air Fryer

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาคำตอบของคำถามที่ว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่เป็นมากกว่าแค่หม้อทอด ผมขอยกให้ Ninja Foodi MAX เป็นราชาแห่งเครื่องครัวอเนกประสงค์เลยครับ! ตัวนี้ไม่ใช่แค่หม้อทอดธรรมดา แต่มันคือเตาย่างไร้ควัน (Indoor Grill) ที่มาพร้อมฟังก์ชันทอดลมร้อน (Air Fryer) ในตัว ทำให้เราสามารถทำได้ทั้งสเต๊กเนื้อฉ่ำ ๆ ที่มีลายย่างสวย ๆ ไปจนถึงเฟรนช์ฟรายส์กรอบ ๆ โดยใช้อุปกรณ์แค่เครื่องเดียว เหมาะมากสำหรับคนที่อยู่คอนโดหรือบ้านที่ไม่อยากให้มีควันฟุ้งกระจาย แต่ก็ยังอยากได้ฟีลลิ่งของการย่างบาร์บีคิวเหมือนใช้ เตาปิ้งย่างแก๊ส ดี ๆ สักตัวเลยครับ

คุณสมบัติเด่น

  • ฟังก์ชัน 6-in-1: ย่าง (Grill), ทอดลมร้อน (Air Crisp), อบ (Bake), อุ่น (Reheat), ย่างลมร้อน (Roast), และอบแห้ง (Dehydrate)
  • เทคโนโลยี Cyclonic Grilling: ลมร้อนหมุนเวียนรอบทิศทางที่อุณหภูมิสูงถึง 260°C ช่วยให้ย่างได้สุกทั่วถึงและรวดเร็ว
  • Smart Cook System: มาพร้อมเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิแกนกลางอาหาร (Food Probe) ช่วยให้ย่างสเต๊กได้ความสุกตามต้องการเป๊ะ ๆ ตั้งแต่ Rare ถึง Well-done
  • ระบบควบคุมควัน: ออกแบบมาให้ลดการเกิดควันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความจุขนาดใหญ่: ย่างสเต๊กได้ 6 ชิ้น หรือทำไก่ย่างได้ทั้งตัว (ประมาณ 1.4 กก.)
จุดเด่น
  • เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว! ทั้งย่าง ทอด อบ ครบจบ
  • ย่างสเต๊กได้สวยงามและอร่อยเหมือนร้านอาหาร
  • มี Probe วัดอุณหภูมิ ไม่ต้องเดาความสุก
  • กำลังไฟสูงมาก ทำอาหารได้รวดเร็วทันใจ
  • ลดควันได้ดีเยี่ยม เหมาะกับใช้ในบ้านหรือคอนโด
ข้อควรพิจารณา
  • ราคาสูงกว่าหม้อทอดทั่วไปพอสมควร
  • ขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บ

รีวิวแบบเจาะลึก

ต้องยอมรับเลยครับว่า Ninja Foodi MAX ทำให้คำจำกัดความของคำว่า “หม้อทอด” เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จุดขายที่ทำให้มันโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งคือฟังก์ชัน “ย่าง” ที่ทำได้ดีเกินคาดมาก ๆ ด้วยเทคโนโลยี Cyclonic Grilling ที่เป่าลมร้อนจัด ๆ ลงมาจากด้านบน ทำให้ผิวของเนื้อสเต๊กได้ลายย่าง (Grill Marks) ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมเหมือนย่างบนเตาถ่านจริง ๆ แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือ “ควันน้อยมาก” แทบจะไม่มีเลยครับ ทำให้ปัญหาการทำอาหารในพื้นที่จำกัดหมดไป และที่ผมชอบที่สุดคือ Smart Cook System ที่มีก้านวัดอุณหภูมิมาให้ เราแค่เลือกประเภทเนื้อ (เช่น เนื้อวัว, หมู, ไก่) และเลือกระดับความสุกที่ต้องการ (เช่น Medium Rare) จากนั้นก็เสียบก้านวัดเข้าไปในชิ้นเนื้อ แล้วเครื่องจะจัดการทุกอย่างให้เอง พอสุกได้ที่เครื่องก็จะร้องเตือน เป็นอะไรที่อัจฉริยะและแก้ปัญหาการย่างเนื้อแล้วสุกเกินไปหรือไม่สุกได้แบบ 100% เลยครับ ใครที่ชอบทานสเต๊กแต่ไม่มั่นใจในฝีมือตัวเอง ตัวนี้คือคำตอบสุดท้ายจริง ๆ

ในส่วนของฟังก์ชันทอดลมร้อน หรือ Air Crisp ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันครับ ด้วยกำลังไฟที่สูงถึง 2460W ทำให้การทำความร้อนรวดเร็วมาก ไม่ต้องเสียเวลาพรีฮีทนาน ๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือของทอดที่กรอบนอกนุ่มใน สีเหลืองสวยงามน่าทาน ผมลองทำทั้งปีกไก่ทอดและเฟรนช์ฟรายส์แช่แข็ง ผลลัพธ์คือกรอบอร่อยไม่ต่างจากใช้น้ำมันท่วม ๆ เลยครับ แถมยังรีดไขมันส่วนเกินออกมาได้อีกเพียบ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ อย่างการอบขนมปัง อบพิซซ่า หรือแม้กระทั่งอบผลไม้แห้ง (Dehydrate) ก็ทำได้ ถือเป็นอุปกรณ์ที่ลงทุนครั้งเดียวแต่ใช้งานได้หลากหลายมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี และมีงบประมาณสูงหน่อย ผมว่าการเพิ่มเงินเพื่อเอาฟังก์ชันที่ครบเครื่องขนาดนี้มาไว้ในครัวถือว่าคุ้มค่ามากครับ มันช่วยเปิดโลกการทำอาหารให้สนุกและง่ายขึ้นเยอะ เหมือนมี หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่ทำงานแทนเรา แต่เปลี่ยนมาเป็นเรื่องทำอาหารแทนนั่นเองครับ

คะแนนที่ได้

9.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ย่างสเต๊กคือที่สุดของแจ้แล้วครับ เนื้อนุ่ม ความสุกเป๊ะทุกครั้ง ไม่ต้องไปกินที่ร้านเลย” – คุณเอก, อายุ 42
“ตอนแรกคิดว่าแพง แต่พอได้ใช้คือคุ้มมากค่ะ ทำได้ทุกอย่างจริง ๆ ล้างก็ง่ายด้วย” – คุณจิ๊บ, อายุ 35


2. Ninja Hot Air Fryer หม้อทอดไร้น้ํามัน AF160EU ★★★★★

“พลังทอดขั้นเทพ! กรอบนอกนุ่มใน ร้อนไวทันใจ ฟังก์ชันแน่นเกินราคา”

Ninja Hot Air Fryer หม้อทอดไร้น้ํามัน AF160EU

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

หากรุ่น Foodi MAX ดูจะอเนกประสงค์เกินความจำเป็นไปหน่อย และเพื่อน ๆ กำลังมองหา หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นความเป็น “สุดยอดนักทอด” โดยเฉพาะ ผมขอแนะนำรุ่นน้องในค่ายเดียวกันอย่าง Ninja AF160EU เลยครับ ตัวนี้ตัดฟังก์ชันย่างออกไป แต่มาเสริมทัพความสามารถในการทอดให้เทพยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยเทคโนโลยี Max Crisp ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับอาหารแช่แข็งโดยเฉพาะ ทำให้เราสามารถโยนนักเก็ตหรือเฟรนช์ฟรายส์จากช่องฟรีซเข้าเครื่องได้เลยโดยไม่ต้องรอละลาย ผลลัพธ์ที่ได้คือความกรอบระดับสิบเต็มสิบในเวลาไม่กี่นาที เป็นอะไรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เร่งรีบของคนยุคใหม่ได้ดีมาก ๆ ครับ

คุณสมบัติเด่น

  • ความจุ: 5.2 ลิตร เหมาะสำหรับครอบครัว 3-4 คน
  • กำลังไฟ: 2400W (เท่ารุ่น MAX) ร้อนเร็วมาก
  • เทคโนโลยี Max Crisp: ทำอุณหภูมิได้สูงถึง 240°C เพื่อทอดอาหารแช่แข็งให้กรอบเป็นพิเศษ
  • ฟังก์ชัน 6-in-1: Max Crisp, Air Fry, Roast, Bake, Reheat, Dehydrate
  • ตะกร้าเคลือบเซรามิก: Non-stick ทนทาน และทำความสะอาดง่าย สามารถเข้าเครื่องล้างจานได้
จุดเด่น
  • ร้อนเร็วมาก แทบไม่ต้องพรีฮีท
  • ทอดอาหารแช่แข็งได้กรอบอร่อยสุดๆ
  • ความจุใหญ่กำลังดีสำหรับครอบครัว
  • วัสดุดี แข็งแรงทนทาน ล้างทำความสะอาดง่าย
  • ฟังก์ชันครบเครื่องสำหรับการทอดและอบ
ข้อควรพิจารณา
  • เสียงพัดลมค่อนข้างดังเมื่อใช้โหมด Max Crisp
  • ดีไซน์ดูเรียบง่าย ไม่ได้หวือหวามากนัก

รีวิวแบบเจาะลึก

หัวใจหลักของ Ninja AF160EU คือ “ความเร็วและความกรอบ” ครับ ด้วยกำลังไฟที่สูงถึง 2400W ทำให้มันทำอุณหภูมิได้ถึง 240°C ในเวลาอันสั้น ซึ่งสูงกว่าหม้อทอดทั่วไปที่มักจะตันอยู่ที่ 200°C อุณหภูมิที่สูงเป็นพิเศษนี้เองที่เป็นเคล็ดลับของโหมด Max Crisp มันจะไล่ความชื้นออกจากผิวของอาหารแช่แข็งได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่กรอบสะใจแบบที่หาไม่ได้ในหม้อทอดรุ่นอื่น ๆ ใครที่ชอบซื้อของทอดแช่แข็งติดบ้านไว้ บอกเลยว่าตัวนี้จะเปลี่ยนประสบการณ์ของคุณไปเลยครับ เหมือนยกครัวร้านฟาสต์ฟู้ดมาไว้ที่บ้าน แต่ดีต่อสุขภาพกว่าเยอะ การใช้งานก็ง่ายมากครับ หน้าจอเป็นแบบดิจิทัลพร้อมปุ่มกดที่ชัดเจน เลือกโหมด ปรับอุณหภูมิและเวลาได้สะดวก ความจุ 5.2 ลิตรก็ถือว่ากำลังดี สามารถทอดเฟรนช์ฟรายส์ได้เกือบ 1 กิโลกรัม หรืออบไก่ตัวเล็ก ๆ ได้สบาย ๆ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางเลยครับ

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าประทับใจคือคุณภาพของวัสดุครับ ตัวตะกร้าทอดเคลือบเซรามิกมาอย่างดี ทำให้อาหารไม่ติดและล้างทำความสะอาดง่ายมาก ๆ แค่ใช้ฟองน้ำลูบเบา ๆ คราบก็หลุดออกหมดแล้ว หรือจะโยนเข้า เครื่องล้างจาน ก็ยังได้ (ถ้ามี) ซึ่งช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยครับ แม้ว่าดีไซน์ภายนอกอาจจะดูทื่อ ๆ ไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ แต่ถ้ามองในแง่ของประสิทธิภาพและความทนทานแล้ว Ninja ไม่เคยทำให้ผิดหวังครับ ดังนั้น หากคำถามของคุณคือ หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นประสิทธิภาพการทอดเป็นหลัก ไม่ต้องการฟังก์ชันย่างที่ซับซ้อน และอยากได้เครื่องที่แรง เร็ว กรอบสะใจ Ninja AF160EU คือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ผมกล้าแนะนำเลยครับ มันเหมือนมีผู้ช่วยฝีมือดีที่พร้อมเสิร์ฟของอร่อยให้เราได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะดูซีรีส์เรื่องโปรดบน ทีวี 55 นิ้ว จอใหญ่ หรือจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่บ้านก็เอาอยู่หมดครับ

คะแนนที่ได้

9.6/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ทอดเฟรนช์ฟรายส์แช่แข็งได้กรอบมากครับ ลูกชายชอบมาก ไม่ต้องง้อร้านเลย” – คุณนนท์, อายุ 38
“เครื่องร้อนเร็วดีค่ะ ประหยัดเวลาไปเยอะเลย ล้างง่ายด้วย ชอบตรงนี้” – คุณฝน, อายุ 31


3. COSORI หม้อทอดลมร้อนไร้มัน Air Fryer 5.5 ลิตร ★★★★☆

“ดีไซน์มินิมอล คว้าใจสายโฮมคาเฟ่! ใช้งานง่ายด้วย 11 โปรแกรมอัตโนมัติ”

COSORI หม้อทอดลมร้อนไร้มัน Air Fryer 5.5 ลิตร

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาถึงอันดับสามกับแบรนด์ที่กำลังมาแรงและเป็นขวัญใจของคนรักการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลครับ กับ COSORI Air Fryer 5.5 ลิตร ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวยงาม เรียบหรูดูแพงเกินราคาไปมาก ใครที่กำลังมองหา หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่ไม่ได้มีดีแค่ฟังก์ชัน แต่ยังเป็นเหมือนของแต่งครัวชิ้นงามได้ด้วย ผมว่าตัวนี้น่าจะถูกใจแน่นอนครับ จุดเด่นที่เห็นได้ชัดคือหน้าจอควบคุมแบบสัมผัสที่ลาดเอียงทำมุม 45 องศา ทำให้มองเห็นและใช้งานได้สะดวกโดยไม่ต้องก้มตัวลงไปดู พร้อมโปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติมาให้ถึง 11 อย่าง ครอบคลุมตั้งแต่อาหารพื้นฐานอย่างสเต๊ก, ไก่, อาหารทะเล, เบคอน ไปจนถึงของหวานอย่างขนมปังและเค้กเลยทีเดียวครับ

คุณสมบัติเด่น

  • ดีไซน์สวยงาม: ตัวเครื่องผิวสัมผัสแบบ Matte Finish ลดรอยนิ้วมือ พร้อมหน้าจอสัมผัสที่ทันสมัย
  • ตะกร้าทรงสี่เหลี่ยม: ความจุ 5.5 ลิตร แต่ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าตะกร้าทรงกลมในความจุเท่ากัน สามารถใส่ไก่ได้ทั้งตัว
  • โปรแกรมอัตโนมัติ 11 เมนู: แค่กดปุ่มเดียว เครื่องจะตั้งค่าอุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสมให้ทันที
  • ฟังก์ชัน Pre-Heat และ Keep Warm: สามารถอุ่นเครื่องก่อนใช้งานเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น และอุ่นอาหารให้ร้อนพร้อมเสิร์ฟได้
  • Shake Reminder: มีระบบแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาที่ต้องเขย่าหรือกลับด้านอาหาร
  • ตะกร้า Non-stick ปลอดสาร PFOA และ BPA: ปลอดภัยต่อสุขภาพและทำความสะอาดง่าย
จุดเด่น
  • ดีไซน์สวยงามมาก วางในครัวแล้วดูดี
  • ตะกร้าสี่เหลี่ยมจุของได้เยอะและจัดวางง่าย
  • โปรแกรมอัตโนมัติใช้งานสะดวกมากสำหรับมือใหม่
  • มีฟังก์ชัน Shake Reminder ช่วยให้มือใหม่ทำอาหารได้อร่อยขึ้น
  • ราคาเทียบกับดีไซน์และฟังก์ชันแล้วคุ้มค่ามาก
ข้อควรพิจารณา
  • กำลังไฟ 1700W อาจจะร้อนช้ากว่าแบรนด์ Ninja เล็กน้อย
  • ผิวเคลือบ Non-stick ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรใช้ฝอยขัด

รีวิวแบบเจาะลึก

สิ่งที่ทำให้ COSORI แตกต่างและชนะใจผู้ใช้ทั่วโลก (เป็นแบรนด์ที่ขายดีมากใน Amazon) คือความใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบครับ เริ่มจากตะกร้าที่เป็นทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งจากการใช้งานจริงมันเวิร์คกว่าทรงกลมมากครับ เพราะเราสามารถวางอาหารชิ้นยาว ๆ อย่างซี่โครงหมู หรือจัดเรียงของชิ้นเล็ก ๆ ได้เต็มพื้นที่มากกว่า ทำให้ทอดได้ปริมาณเยอะขึ้นในรอบเดียว ตัวตะกร้ายังสามารถถอดแยกออกจากหม้อชั้นนอกได้ด้วยการกดปุ่มเดียว ทำให้การเทอาหารออกมาสะดวกและปลอดภัย และยังล้างทำความสะอาดง่ายมากด้วยครับ ฟังก์ชันเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าง Pre-Heat (อุ่นเครื่อง) ก็มีประโยชน์มากครับ มันช่วยให้เราใส่อาหารลงไปตอนที่เครื่องร้อนได้ที่แล้ว ทำให้อาหารสุกทั่วถึงและกรอบกว่าเดิม ส่วนฟังก์ชัน Shake Reminder ก็เป็นมิตรกับมือใหม่มาก ๆ เพราะหลายคนมักจะลืมเขย่าตะกร้า ทำให้อาหารสุกไม่เท่ากัน แต่ COSORI จะส่งเสียงเตือนเราเองเลยครับ

สำหรับประสิทธิภาพการทำงาน แม้กำลังไฟจะอยู่ที่ 1700W ซึ่งน้อยกว่าสองอันดับแรก แต่ก็ถือว่าเพียงพอและทำผลงานได้น่าประทับใจครับ อาหารสุกทั่วถึงดี ให้สีที่สวยงาม ความกรอบอาจจะไม่เท่าโหมด Max Crisp ของ Ninja แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากสำหรับหม้อทอดทั่วไปครับ ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า แต่ได้ดีไซน์และฟังก์ชันที่ฉลาดขนาดนี้ ทำให้ COSORI เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังถามว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นความสวยงาม ใช้งานง่าย และคุ้มค่าครับ มันเป็นเหมือนการลงทุนที่ได้ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าประสิทธิภาพดีและของแต่งครัวสวย ๆ ไปพร้อมกันเลย เหมือนเราเลือก Smart Watch ที่นอกจากจะบอกเวลาและวัดค่าสุขภาพได้แล้ว ยังเป็นเครื่องประดับที่บ่งบอกสไตล์ของเราได้ด้วยนั่นเองครับ

คะแนนที่ได้

9.3/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ชอบดีไซน์มากค่ะ สวยจนเพื่อนทักทุกคนเลย ใช้งานก็ง่ายมากแค่กดปุ่มเดียว” – คุณมายด์, อายุ 28
“ตะกร้าสี่เหลี่ยมใส่ของได้เยอะจริงครับ อบซี่โครงได้สบาย ๆ เลย ชอบมาก” – คุณบอย, อายุ 34


4. Philips AirFryer 2000 Series ★★★★☆

“ต้นตำรับหม้อทอด! เทคโนโลยี Rapid Air เอกลักษณ์เฉพาะตัว ลดไขมันสูงสุด 90%”

Philips AirFryer 2000 Series

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ถ้าพูดถึงหม้อทอดไร้น้ำมันแล้วไม่พูดถึง Philips ก็คงเหมือนเล่าเรื่องสมาร์ทโฟนแล้วไม่พูดถึง Apple ล่ะครับ เพราะ Philips คือผู้บุกเบิกและเป็นต้นตำรับที่ทำให้เทคโนโลยีนี้โด่งดังไปทั่วโลก สำหรับ Philips AirFryer 2000 Series รุ่นนี้ อาจจะดูเป็นรุ่นพื้นฐาน แต่ก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เป็นหัวใจสำคัญอย่าง Rapid Air ที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ Philips ครับ ใครที่เป็นสายสุขภาพตัวจริงและกำลังมองหา หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่มั่นใจได้ในเรื่องประสิทธิภาพการลดไขมัน รุ่นนี้คือคำตอบที่น่าเชื่อถือที่สุดครับ เพราะเขาเคลมเลยว่าสามารถทำอาหารอร่อยโดยมีไขมันน้อยลงสูงสุดถึง 90% เลยทีเดียว

คุณสมบัติเด่น

  • เทคโนโลยี Rapid Air: ดีไซน์ “ปลาดาว” ที่พื้นตะกร้า ช่วยให้ลมร้อนหมุนเวียนได้เร็วและแรงกว่า ทำให้อาหารกรอบนอกนุ่มในโดยใช้น้ำมันน้อยที่สุด
  • ความจุ: 4.1 ลิตร (หรือ 0.8 กก.) เหมาะสำหรับ 2-3 คน
  • ฟังก์ชันหลากหลาย: ทอด, อบ, ย่าง, คั่ว และอุ่นอาหาร
  • ควบคุมง่าย: ใช้ปุ่มหมุนแบบแอนะล็อก 2 ปุ่มสำหรับตั้งเวลาและอุณหภูมิ (สูงสุด 200°C)
  • แอปพลิเคชัน NutriU: มีสูตรอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับ Airfryer โดยเฉพาะให้เลือกทำตามได้ฟรีกว่าร้อยเมนู
  • ทำความสะอาดง่าย: ชิ้นส่วนที่ถอดได้ทั้งหมดสามารถนำเข้าเครื่องล้างจานได้
จุดเด่น
  • เทคโนโลยี Rapid Air ลดไขมันได้จริงและมีประสิทธิภาพสูง
  • แบรนด์มีความน่าเชื่อถือสูง เป็นผู้บุกเบิกตลาด
  • ใช้งานง่ายมาก ไม่ซับซ้อน เหมาะกับผู้สูงอายุ
  • มีแอปฯ NutriU ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำอาหาร
  • ชิ้นส่วนทนทานและเข้าเครื่องล้างจานได้
ข้อควรพิจารณา
  • ความจุค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
  • ดีไซน์อาจจะดูเรียบง่ายไปหน่อยสำหรับบางคน
  • เป็นระบบแอนะล็อก อาจไม่แม่นยำเท่าดิจิทัล

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดเด่นที่สุดของ Philips Airfryer คือเทคโนโลยี Rapid Air ครับ ถ้าเราลองถอดตะกร้าออกมาดู จะเห็นว่าที่พื้นของหม้อชั้นนอกจะมีลักษณะเป็นแฉก ๆ คล้ายปลาดาว ซึ่งดีไซน์นี้ไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามนะครับ แต่มันถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อบังคับให้ลมร้อนที่เป่าลงมาเกิดการหมุนวนอย่างรวดเร็วและรุนแรงเหมือนพายุทอร์นาโดขนาดเล็ก ทำให้อาหารสัมผัสกับความร้อนได้อย่างทั่วถึงทุกอณู ผลลัพธ์คืออาหารที่สุกเร็ว กรอบ และที่สำคัญคือมันสามารถรีดไขมันส่วนเกินที่อยู่ในตัววัตถุดิบออกมาได้อย่างมหาศาลครับ ใครที่เคยใช้จะเห็นเลยว่ามีน้ำมันกองอยู่ที่พื้นหม้อเยอะมาก ซึ่งนั่นคือน้ำมันที่เราไม่ต้องกินเข้าไปครับ นี่คือเหตุผลที่ทำให้ Philips กล้าเคลมว่าลดไขมันได้ถึง 90% และเป็นจุดที่ทำให้แบรนด์อื่น ๆ ต้องพยายามพัฒนาตามครับ การควบคุมอาจจะดูโบราณไปนิดเพราะเป็นปุ่มหมุน แต่ในทางกลับกันมันก็ทำให้ใช้งานง่ายมาก ๆ ไม่ต้องมีคู่มือก็ใช้เป็นได้ทันทีเลยครับ

แม้ว่าในภาพรวมเรื่องความจุและฟังก์ชันดิจิทัลอาจจะสู้คู่แข่งในยุคใหม่ ๆ ไม่ได้ แต่สิ่งที่ Philips ให้มาทดแทนคือ “ความน่าเชื่อถือ” และ “ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ” ที่พิสูจน์มาแล้วทั่วโลกครับ การมีแอปฯ NutriU ก็เป็นข้อดีมาก ๆ เพราะเต็มไปด้วยสูตรอาหารที่สร้างสรรค์และดีต่อสุขภาพ ทำให้เราไม่เบื่อและได้ใช้เครื่องอย่างคุ้มค่า ไม่ใช่แค่เอาไว้ทอดเฟรนช์ฟรายส์อย่างเดียว เหมือนมีโค้ชสุขภาพส่วนตัวคอยแนะนำเมนูใหม่ ๆ ให้ตลอดเวลาครับ ดังนั้น สำหรับใครที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพเป็นอันดับหนึ่ง และกำลังถามว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่มั่นใจในเทคโนโลยีได้จริง ๆ การเลือก “ต้นตำรับ” อย่าง Philips ก็ยังคงเป็นคำตอบที่ถูกต้องเสมอครับ เหมือนกับที่เรามั่นใจใน เตารีดไอน้ำ Philips ว่ารีดเรียบและทนทานนั่นแหละครับ

คะแนนที่ได้

9.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใช้มาหลายปีแล้วยังทนอยู่เลยครับ รีดไขมันออกได้เยอะจริง ๆ สบายใจเวลาทานของทอด” – คุณลุงสมชาย, อายุ 58
“ใช้ง่ายมากค่ะ แค่หมุน ๆ ไม่ต้องตั้งค่าอะไรเยอะเลย เหมาะกับคนไม่เก่งเทคโนโลยีแบบเรา” – คุณปุ้ย, อายุ 45


5. Xiaomi Mi Smart Air Fryer 3.5 ลิตร ★★★★☆

“มินิมอลตัวพ่อ! สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant พร้อมสูตรอาหารอัจฉริยะ”

Xiaomi Mi Smart Air Fryer 3.5 ลิตร

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาถึงคิวของขวัญใจมหาชนสาย Gadget อย่าง Xiaomi กันบ้างครับ กับ Mi Smart Air Fryer 3.5 ลิตร ที่แค่เห็นดีไซน์ก็ต้องร้องว้าวแล้วครับ ด้วยสีขาวคลีน ๆ สไตล์มินิมอลที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ พร้อมปุ่มควบคุมที่เป็นจอ OLED กลม ๆ ปุ่มเดียว ดูล้ำและใช้งานง่ายมาก แต่ความเจ๋งของมันไม่ได้มีแค่หน้าตาครับ เพราะนี่คือ หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่ฉลาดที่สุดในลิสต์นี้เลยก็ว่าได้ มันสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Mi Home เพื่อควบคุมการทำงานผ่านมือถือได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสูตรอาหารกว่า 100 เมนู, ตั้งเวลาล่วงหน้าได้ถึง 24 ชั่วโมง, หรือแม้กระทั่งสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และ Amazon Alexa ได้อีกด้วย!

คุณสมบัติเด่น

  • Smart Control: ควบคุมผ่านแอป Mi Home, ตั้งเวลาล่วงหน้า, และสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant/Alexa
  • จอแสดงผล OLED: ปุ่มหมุนพร้อมจอในตัวสำหรับเลือกโหมดและดูสถานะการทำงาน
  • ความจุ 3.5 ลิตร: เหมาะสำหรับ 1-3 คน หรือชาวคอนโด
  • ฟังก์ชันหลากหลาย: ไม่ใช่แค่ทอด แต่ยังสามารถทำโยเกิร์ต (หมักที่อุณหภูมิต่ำ), อบผลไม้แห้ง, และละลายน้ำแข็งได้
  • การหมุนเวียนลมร้อน 360°: ช่วยให้อาหารสุกทั่วถึง
  • ตะแกรงเสริม: ช่วยให้ทอดอาหารได้ 2 ชั้นในครั้งเดียว เพิ่มปริมาณได้เท่าตัว
จุดเด่น
  • ดีไซน์สวยมินิมอลมาก ๆ
  • ฟังก์ชันสมาร์ทโฮมจัดเต็ม สั่งงานด้วยเสียงได้
  • ทำได้หลากหลายกว่าแค่การทอด เช่น ทำโยเกิร์ต
  • ราคาเข้าถึงง่ายมากเมื่อเทียบกับฟังก์ชันที่ได้
  • จอ OLED ดูพรีเมียมและใช้งานง่าย
ข้อควรพิจารณา
  • ความจุ 3.5 ลิตร อาจจะเล็กไปสำหรับครอบครัวใหญ่
  • กำลังไฟ 1500W อาจต้องใช้เวลาทำอาหารนานกว่ารุ่นอื่นเล็กน้อย

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดแข็งที่สุดของ Mi Smart Air Fryer คือการเป็นส่วนหนึ่งของ Ecosystem ของ Xiaomi ครับ ใครที่ใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของแบรนด์นี้อยู่แล้วจะยิ่งฟิน เพราะเราสามารถควบคุมทุกอย่างผ่านแอป Mi Home ได้เลย ลองนึกภาพว่าเราเตรียมไก่หมักใส่หม้อไว้ตั้งแต่เช้า แล้วตั้งเวลาผ่านมือถือให้เครื่องเริ่มทำงานตอน 6 โมงเย็น พอเรากลับถึงบ้านก็ได้กินไก่ทอดร้อน ๆ เลยทันที มันสะดวกสบายมาก ๆ ครับ หรือตอนที่มือเลอะ ๆ กำลังทำครัวอยู่ ก็แค่พูดว่า “Hey Google, start the air fryer” เครื่องก็ทำงานให้เองเลย เป็นประสบการณ์ที่ล้ำสุด ๆ ครับ นอกจากนี้ ความสามารถในการทำงานที่อุณหภูมิต่ำ (ตั้งแต่ 40°C) ทำให้มันทำในสิ่งที่หม้อทอดอื่นทำไม่ได้ เช่น การหมักโยเกิร์ต หรือการอบผลไม้แห้ง ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับเครื่องได้เป็นอย่างดีครับ

ในแง่ของประสิทธิภาพการทอด ด้วยกำลังไฟ 1500W และระบบลมร้อน 360° ก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานครับ อาหารกรอบและสุกทั่วถึง แต่ก็อาจจะต้องใช้เวลานานกว่ารุ่นที่กำลังไฟสูง ๆ สักหน่อย ความจุ 3.5 ลิตรก็เหมาะกับการทำอาหารสำหรับ 1-2 คน หรือทำกับข้าวเล็ก ๆ น้อย ๆ ในครอบครัวครับ แต่ที่น่าสนใจคือเขาให้ตะแกรงเสริมมาด้วย ทำให้เราวางอาหารซ้อนกันเป็น 2 ชั้นได้ ช่วยเพิ่มปริมาณการทอดในแต่ละครั้งได้พอสมควรเลยครับ สรุปแล้ว ถ้าเพื่อน ๆ เป็นสายเทคโนโลยี ชอบอุปกรณ์สมาร์ท ๆ หรืออยู่กันแค่ไม่กี่คน และกำลังมองหา หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่ดีไซน์สวย ฟังก์ชันล้ำ และราคาเป็นมิตรที่สุด Xiaomi Mi Smart Air Fryer คือตัวเลือกที่นอนมาแบบไม่มีใครเทียบได้เลยครับ มันเหมือนกับที่เราเลือกใช้ เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ที่ทั้งสวยและฉลาดนั่นเองครับ

คะแนนที่ได้

8.8/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ชอบที่สั่งงานผ่านมือถือได้ค่ะ ตั้งเวลาไว้ก่อนกลับบ้าน สะดวกมาก” – คุณแอน, อายุ 29
“เครื่องสวยมากครับ วางในครัวแล้วดูดีเลย ปุ่มหมุน OLED ก็ใช้ง่ายดีครับ” – คุณอาร์ม, อายุ 32


6. ELECTROLUX หม้อทอด 5 ลิตร E6AF1-520K ★★★★☆

“แบรนด์ยุโรปคุณภาพ จุ 5 ลิตรลงตัว ใช้งานง่ายด้วย 8 โปรแกรมสัมผัส”

ELECTROLUX หม้อทอด 5 ลิตร E6AF1-520K

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาต่อกันที่แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพจากสวีเดนอย่าง Electrolux กันบ้างครับ กับรุ่น E6AF1-520K ที่มาในขนาดความจุ 5 ลิตร ซึ่งเป็นไซส์ที่หลายคนมองว่ากำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปสำหรับครอบครัวขนาดกลาง ๆ ครับ ใครที่กำลังมองหา หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่มาจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูดี และใช้งานไม่ซับซ้อน รุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ หน้าตามาในโทนสีดำล้วน ดูสุขุม แข็งแรงทนทานตามสไตล์ยุโรป พร้อมหน้าจอควบคุมแบบสัมผัสที่ใช้งานง่าย มีโปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติให้เลือก 8 เมนูหลัก ๆ ที่คนนิยมทำกัน เช่น ไก่, ปลา, สเต๊ก, และเฟรนช์ฟรายส์ เป็นต้น

คุณสมบัติเด่น

  • ความจุ 5 ลิตร: ขนาดกำลังดีสำหรับครอบครัว 3-4 คน สามารถอบไก่ตัวเล็กได้
  • กำลังไฟ 1750W: ให้ความร้อนที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ
  • โปรแกรมอัตโนมัติ 8 เมนู: ใช้งานง่ายด้วยระบบสัมผัส ไม่ต้องตั้งค่าเองให้ยุ่งยาก
  • ช่วงอุณหภูมิ 80-200°C: ครอบคลุมการทำอาหารได้หลากหลายประเภท
  • ตะกร้าทอดถอดล้างได้: เคลือบสารกันติดและสามารถนำเข้าเครื่องล้างจานได้
จุดเด่น
  • แบรนด์น่าเชื่อถือ คุณภาพตามมาตรฐานยุโรป
  • ความจุ 5 ลิตร เป็นขนาดที่ลงตัว ใช้งานได้หลากหลาย
  • ควบคุมด้วยระบบสัมผัส ใช้งานง่ายและทันสมัย
  • ราคาไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับคุณภาพแบรนด์
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มีฟังก์ชันพิเศษอย่างการแจ้งเตือนให้เขย่า (Shake Reminder)
  • ดีไซน์ค่อนข้างเรียบง่าย อาจไม่ถูกใจสายแฟชั่น

รีวิวแบบเจาะลึก

Electrolux E6AF1-520K เป็นหม้อทอดที่เน้นความเรียบง่ายและประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ครับ ไม่มีฟังก์ชันหวือหวาซับซ้อน แต่ทำหน้าที่พื้นฐานของมันได้เป็นอย่างดี การกระจายความร้อนทำได้สม่ำเสมอ ทำให้อาหารสุกทั่วถึงและมีสีสันที่น่าทานครับ ผมลองใช้โปรแกรมอัตโนมัติสำหรับทอดปลาแซลมอน ผลลัพธ์ที่ได้คือหนังปลากรอบกำลังดี แต่เนื้อในยังคงความฉ่ำไว้ได้ ซึ่งถือว่าทำได้ดีมาก ๆ ครับ การควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัสก็ตอบสนองได้ดีและเข้าใจง่าย ใครที่ไม่เคยใช้หม้อทอดมาก่อนก็สามารถใช้งานได้ทันทีครับ ตะกร้าทอดขนาด 5 ลิตรก็เป็นจุดเด่น เพราะมันใหญ่พอที่จะทำอาหารสำหรับทั้งครอบครัวได้ในครั้งเดียว ช่วยประหยัดเวลาได้ดีครับ

ในแง่ของการทำความสะอาดก็ถือว่าสะดวกสบายครับ ตะกร้าทอดสามารถถอดออกมาล้างได้ง่าย และด้วยการเคลือบสารกันติด ทำให้อาหารไม่เกาะติดแน่น แค่แช่น้ำไว้สักครู่แล้วใช้ฟองน้ำนุ่ม ๆ เช็ดก็สะอาดแล้วครับ โดยรวมแล้ว Electrolux รุ่นนี้อาจจะไม่ใช่ หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่มีฟีเจอร์ล้ำที่สุด แต่เป็นตัวเลือกที่ “ปลอดภัย” และ “ไว้ใจได้” ครับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทนทาน ใช้งานได้นาน ๆ และมาจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน เหมือนกับที่เราเลือกซื้อ เครื่องซักผ้า Electrolux ที่เน้นความทนทานและประสิทธิภาพการซักที่เชื่อถือได้นั่นเองครับ

คะแนนที่ได้

8.6/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“เครื่องดูแข็งแรงดีครับ ความร้อนสม่ำเสมอดีมาก อบเค้กกล้วยหอมออกมาสวยเลย” – คุณตั้ม, อายุ 40
“ขนาดกำลังดีเลยค่ะ ไม่ใหญ่ไม่เล็กไป ทำกับข้าวให้ที่บ้าน 3 คนกินได้สบายๆ” – คุณนก, อายุ 36


7. Tefal EY505D66 ★★★★☆

“2-in-1 ตัวจริง! ทอดกรอบก็ได้ ย่างสเต๊กก็เริ่ด ด้วยตะแกรงอลูมิเนียมหล่อ”

Tefal EY505D66

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

มาถึงอีกหนึ่งแบรนด์ดังจากฝรั่งเศสที่คนไทยคุ้นเคยกันดีอย่าง Tefal ครับ สำหรับรุ่น EY505D66 นี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจคือ Easy Fry & Grill หรือการรวมเอาฟังก์ชันทอดและย่างเข้ามาไว้ในเครื่องเดียว คล้าย ๆ กับ Ninja Foodi MAX แต่มาในราคาที่ย่อมเยากว่ามากครับ ใครที่กำลังลังเลว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถทำสเต๊กหรือของย่างได้ด้วย แต่มีงบจำกัด ตัวนี้น่าจะเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุดครับ ความลับของมันอยู่ที่ “ตะแกรงย่าง” ที่ทำจากอลูมิเนียมหล่อ (Die-cast aluminum) ซึ่งเป็นวัสดุที่นำความร้อนและเก็บความร้อนได้ดีเยี่ยม ทำให้สามารถสร้างรอยย่างสวย ๆ บนชิ้นเนื้อได้นั่นเองครับ

คุณสมบัติเด่น

  • เทคโนโลยี 2-in-1: เป็นทั้งหม้อทอดลมร้อนและเตาย่างในเครื่องเดียว
  • ตะแกรงย่างอลูมิเนียมหล่อ: ช่วยให้ย่างเนื้อได้ลายสวยงามและสุกทั่วถึง
  • ความจุ XL 4.2 ลิตร: เพียงพอสำหรับทำอาหารได้ถึง 6 ที่
  • โปรแกรมอัตโนมัติ 8 โปรแกรม: รวมถึงเมนูพิเศษอย่าง พิซซ่า และเค้ก
  • เทคโนโลยี Extra Crisp: ช่วยให้อาหารกรอบอร่อยโดยใช้น้ำมันน้อยหรือไม่ใช้เลย
  • ควบคุมอุณหภูมิแม่นยำ: ปรับได้ตั้งแต่ 80°C ถึง 200°C
จุดเด่น
  • ฟังก์ชันย่างทำได้ดีเกินคาดสำหรับหม้อทอดในราคานี้
  • ตะแกรงอลูมิเนียมหล่อให้ผลลัพธ์การย่างที่ดี
  • ความจุใหญ่ ใช้งานได้จริงสำหรับครอบครัว
  • ประหยัดพลังงานกว่าเตาอบแบบดั้งเดิม
  • ใช้งานและทำความสะอาดง่าย
ข้อควรพิจารณา
  • ไม่มี Probe วัดอุณหภูมิเหมือนรุ่นท็อป
  • ฟังก์ชันย่างอาจไม่ทรงพลังเท่า Ninja Foodi MAX

รีวิวแบบเจาะลึก

Tefal EY505D66 ถือเป็นหม้อทอดที่เข้ามาปิดช่องว่างในตลาดได้อย่างชาญฉลาดครับ สำหรับคนที่อยากได้ฟังก์ชันย่างแต่ไม่อยากจ่ายแพงเท่า Ninja รุ่นนี้คือทางออกที่ดีมาก ๆ ครับ จากที่ได้ลองใช้ตะแกรงย่างอลูมิเนียมหล่อทำสเต๊กหมูพริกไทยดำ ผลลัพธ์ที่ได้คือเนื้อสุกกำลังดี มีลายย่างขึ้นมาจาง ๆ ให้พอสวยงาม แม้อาจจะไม่คมชัดเท่าเตาย่าง chuyên nghiệp แต่ก็ถือว่าดีกว่าการใช้ตะแกรงลวดธรรมดาอย่างเห็นได้ชัดครับ มันช่วยเพิ่มกลิ่นและรสสัมผัสของการ “ย่าง” เข้ามาได้จริง ๆ ครับ ส่วนฟังก์ชันทอดก็ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Tefal ด้วยเทคโนโลยี Extra Crisp ที่ช่วยหมุนเวียนลมร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อาหารกรอบและไม่อมน้ำมันครับ

หน้าจอควบคุมเป็นแบบดิจิทัลพร้อมโปรแกรมอัตโนมัติ 8 อย่างที่ใช้งานง่าย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาคิดเรื่องอุณหภูมิและเวลาเอง ความจุ 4.2 ลิตรก็ถือว่าเพียงพอสำหรับครอบครัวเล็กถึงกลางครับ โดยรวมแล้ว Tefal EY505D66 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่อยากได้ความหลากหลายในการทำอาหาร อยากลองทำเมนูย่าง ๆ บ้าง แต่ก็ยังต้องการหม้อทอดประสิทธิภาพดีไว้ใช้งานเป็นหลัก ถ้าถามว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่ให้ความคุ้มค่าในแง่ของฟังก์ชันที่หลากหลายในราคาที่จับต้องได้ รุ่นนี้จาก Tefal ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ผมอยากแนะนำเลยครับ เหมือนได้ทั้ง กระทะไฟฟ้า และเตาย่างเล็ก ๆ ในเครื่องเดียวเลยครับ

คะแนนที่ได้

8.5/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ชอบตะแกรงย่างมากครับ ลองทำหมูย่างจิ้มแจ่วอร่อยเลย ควันไม่เยอะด้วย” – คุณวิน, อายุ 33
“คุ้มดีค่ะ ได้ทั้งทอดทั้งย่างในเครื่องเดียวเลย ประหยัดที่ในครัวไปได้เยอะ” – คุณเกด, อายุ 29


8. SHARP หม้อทอดไร้น้ํามัน รุ่น KF-AF70DB ★★★☆☆

“ใหญ่จุใจ 7 ลิตร! ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่หรือสายปาร์ตี้”

SHARP หม้อทอดไร้น้ํามัน รุ่น KF-AF70DB

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

สำหรับบ้านไหนที่เป็นครอบครัวใหญ่ หรือชอบจัดปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ่อย ๆ แล้วเจอปัญหาหม้อทอดที่มีอยู่มันเล็กเกินไป ต้องทอดหลายรอบกว่าจะได้กินกันครบทุกคน ปัญหานั้นจะหมดไปครับ! เพราะ SHARP KF-AF70DB มาพร้อมกับความจุขนาดมหึมาถึง 7 ลิตร! เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในลิสต์นี้เลยก็ว่าได้ครับ ใครที่กำลังปวดหัวกับคำถามว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่จะทำอาหารเลี้ยงคนเยอะ ๆ ได้ในครั้งเดียวจบ รุ่นนี้จาก SHARP คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดครับ สามารถอบไก่ได้ทั้งตัวใหญ่ ๆ หรือทอดเฟรนช์ฟรายส์กองโต ๆ ได้แบบสบาย ๆ เลยครับ

คุณสมบัติเด่น

  • ความจุขนาดใหญ่พิเศษ: 7 ลิตร เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ 5-7 คน
  • กำลังไฟ 1800W: ให้ความร้อนได้รวดเร็วแม้จะมีขนาดใหญ่
  • หน้าจอ Digital Touch Screen: ควบคุมง่ายด้วยระบบสัมผัส พร้อม 8 โปรแกรมอัตโนมัติ
  • เทคโนโลยี Rapid Hot Air: ช่วยกระจายลมร้อนได้อย่างทั่วถึง ทำให้อาหารชิ้นใหญ่สุกถึงข้างใน
  • ตะกร้าทอดถอดล้างได้: เคลือบ Non-stick ทำความสะอาดง่าย
จุดเด่น
  • ความจุใหญ่มาก ทำอาหารได้เยอะในครั้งเดียว
  • เหมาะกับครอบครัวใหญ่และงานปาร์ตี้
  • หน้าจอสัมผัสใช้งานง่าย ทันสมัย
  • ประสิทธิภาพการทำอาหารดี สุกทั่วถึง
ข้อควรพิจารณา
  • ขนาดเครื่องใหญ่มาก ต้องมีพื้นที่จัดวางโดยเฉพาะ
  • ใช้พลังงานค่อนข้างสูง
  • อาจจะใหญ่เกินความจำเป็นสำหรับครอบครัวเล็ก

รีวิวแบบเจาะลึก

จุดขายหลักของ SHARP รุ่นนี้คือ “ขนาด” ที่โดดเด่นเหนือใครครับ การมีความจุถึง 7 ลิตรหมายความว่าเราสามารถใส่ไก่ตัวละเกือบ 2 กิโลกรัมเข้าไปอบได้ทั้งตัวโดยไม่ต้องหั่น หรือจะทำหมูกรอบชิ้นใหญ่ ๆ ก็ทำได้สบาย ซึ่งหม้อทอดขนาดเล็กกว่านี้ไม่สามารถทำได้ครับ มันช่วยลดความยุ่งยากและประหยัดเวลาในการเตรียมอาหารสำหรับคนจำนวนมากได้อย่างมหาศาลครับ แม้เครื่องจะใหญ่แต่กำลังไฟ 1800W ก็ถือว่าให้มาสมตัวครับ สามารถทำความร้อนได้ดีและค่อนข้างสม่ำเสมอด้วยเทคโนโลยี Rapid Hot Air ทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารชิ้นโต ๆ จะสุกถึงเนื้อใน ไม่ใช่แค่กรอบแต่ข้างนอกครับ การควบคุมก็ทำได้ง่ายผ่านหน้าจอสัมผัส มีโปรแกรมอัตโนมัติมาให้ 8 อย่างครอบคลุมเมนูพื้นฐานที่ต้องใช้ครับ

แน่นอนว่าด้วยขนาดที่ใหญ่โต ก็ต้องแลกมากับพื้นที่ในการจัดเก็บครับ ใครที่ครัวเล็ก ๆ อาจจะต้องคิดหนักหน่อย แต่ถ้าบ้านไหนมีพื้นที่และสมาชิกในบ้านเยอะ การลงทุนกับหม้อทอดขนาดใหญ่อย่างนี้ถือว่าคุ้มค่ามากครับ มันช่วยให้การทำอาหารมื้อใหญ่ ๆ ง่ายขึ้นเยอะ ไม่ต้องมานั่งทอดทีละนิดทีละหน่อยให้เสียเวลาครับ โดยรวมแล้ว SHARP KF-AF70DB คือคำตอบสำหรับคนที่มองหา หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นความจุเป็นหลัก ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบครับ เหมือนมี เครื่องซักผ้า 20 กิโล ที่ซักผ้านวมผืนใหญ่ได้สบาย ๆ นั่นแหละครับ

คะแนนที่ได้

8.2/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ใหญ่สะใจมากครับ บ้านผมคนเยอะ ตัวนี้ตัวเดียวเอาอยู่เลย” – คุณเป้, อายุ 45
“อบไก่ได้ทั้งตัวเลยค่ะ สะดวกมากเวลาทำอาหารเลี้ยงญาติ ๆ” – คุณติ๊ก, อายุ 41


9. PHILIPS หม้อทอดไร้น้ํามัน 1000 series รุ่น NA110/00 ★★★☆☆

“เล็กพริกขี้หนู! ไซส์มินิ คุณภาพคับแก้วจาก Philips เหมาะกับชาวคอนโด”

PHILIPS หม้อทอดไร้น้ํามัน 1000 series รุ่น NA110/00

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

กลับมาที่แบรนด์ต้นตำรับอย่าง Philips อีกครั้ง แต่คราวนี้มาในไซส์มินิกับรุ่น 1000 series NA110/00 ครับ รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนเมืองที่อาศัยอยู่ในคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ที่มีพื้นที่ครัวจำกัดโดยเฉพาะเลยครับ ใครที่อยู่คนเดียวหรืออยู่กันเป็นคู่ แล้วกำลังถามตัวเองว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่ขนาดกะทัดรัด ไม่เกะกะ แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพและเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ รุ่นนี้คือคำตอบที่ใช่เลยครับ แม้จะตัวเล็ก แต่ก็ยังคงใช้เทคโนโลยี Rapid Air ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Philips ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องประสิทธิภาพการทำอาหารที่กรอบอร่อยและดีต่อสุขภาพครับ

คุณสมบัติเด่น

  • ดีไซน์กะทัดรัด: ประหยัดพื้นที่ เหมาะสำหรับครัวขนาดเล็ก
  • ความจุ 3.2 ลิตร: เพียงพอสำหรับการทำอาหาร 1-2 ที่
  • เทคโนโลยี Rapid Air: ให้ผลลัพธ์ที่กรอบนอกนุ่มใน และลดไขมันได้ดีเยี่ยม
  • ควบคุมง่าย: ใช้ปุ่มหมุนแบบแอนะล็อก ตั้งเวลาและอุณหภูมิได้สะดวก
  • ประหยัดพลังงาน: ด้วยขนาดที่เล็กและกำลังไฟที่เหมาะสม ทำให้ไม่กินไฟมากนัก
จุดเด่น
  • ขนาดเล็กมาก ประหยัดพื้นที่จัดเก็บสุดๆ
  • ยังคงได้เทคโนโลยี Rapid Air ของ Philips
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
  • เหมาะสำหรับคนโสดหรือคู่รัก
  • ราคาเข้าถึงง่าย
ข้อควรพิจารณา
  • ความจุน้อยมาก ไม่เหมาะกับทำอาหารปริมาณเยอะ
  • ไม่มีหน้าจอดิจิทัลหรือโปรแกรมอัตโนมัติ
  • ฟังก์ชันการทำงานค่อนข้างพื้นฐาน

รีวิวแบบเจาะลึก

Philips NA110/00 คือการย่อส่วนประสิทธิภาพของรุ่นใหญ่ลงมาอยู่ในแพ็คเกจที่เล็กลงครับ มันถูกสร้างมาเพื่อแก้ปัญหาของคนที่มีพื้นที่จำกัดอย่างแท้จริง การใช้งานก็แสนจะง่ายดาย มีแค่ปุ่มหมุน 2 ปุ่มสำหรับตั้งอุณหภูมิและเวลา ไม่ต้องเรียนรู้อะไรใหม่เลยครับ แม้ความจุจะแค่ 3.2 ลิตร แต่ก็เพียงพอสำหรับการอุ่นครัวซองต์ตอนเช้า, ทอดนักเก็ตสำหรับมื้อด่วน, หรือย่างอกไก่สำหรับสลัดมื้อเย็นของคนหนึ่งถึงสองคนครับ ประสิทธิภาพการทอดก็ยังคงทำได้ดีตามมาตรฐานของ Philips อาหารออกมาสวยงามและกรอบอร่อยครับ

แน่นอนว่าด้วยขนาดและราคาที่ย่อมเยา ก็ต้องมีการตัดทอนฟังก์ชันบางอย่างออกไปครับ รุ่นนี้จะไม่มีหน้าจอดิจิทัล, ไม่มีโปรแกรมอัตโนมัติ, และไม่มีฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ เป็นหม้อทอดที่ทำหน้าที่พื้นฐานของมันอย่างซื่อสัตย์ครับ ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่ไม่ได้ต้องการความหวือหวา แค่อยากได้ หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่เล็ก ๆ น่ารัก ๆ ไว้ทำอาหารง่าย ๆ ในคอนโด และเชื่อมั่นในคุณภาพของแบรนด์ Philips รุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์ได้ตรงจุดมาก ๆ ครับ เหมือนมี เครื่องซักผ้ามินิ ที่เหมาะกับพื้นที่จำกัด แต่ยังซักผ้าได้สะอาดนั่นเอง

คะแนนที่ได้

8.0/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ขนาดกำลังดีเลยค่ะ อยู่คอนโดคนเดียว ใช้ตัวนี้พอดีเลย ไม่เกะกะ” – คุณฟ้า, อายุ 27
“เครื่องเล็กแต่ร้อนเร็วดีครับ ใช้อุ่นของทอดที่ซื้อมาก็กรอบเหมือนเดิมเลย” – คุณท็อป, อายุ 30


10. OTTO หม้อทอดไร้น้ํามัน รุ่น CO-725 ★★★☆☆

“ตัวเริ่มต้นสุดประหยัด! ฟังก์ชันพื้นฐานครบ ใช้งานง่าย คุ้มค่าทุกบาท”

OTTO หม้อทอดไร้น้ํามัน รุ่น CO-725

สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️

🔖 Lazada Thailand 🏷️ Shopee Thailand

ปิดท้ายลิสต์ของเรากันด้วยตัวเลือกสำหรับสายประหยัดงบโดยเฉพาะครับ กับ OTTO CO-725 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าคู่ครัวคนไทยมาอย่างยาวนาน ใครที่เพิ่งอยากจะลองเข้าวงการหม้อทอดไร้น้ำมัน แต่ยังไม่อยากลงทุนเยอะ หรือกำลังมองหา หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่ราคาเป็นมิตรที่สุด แต่ยังใช้งานได้จริง รุ่นนี้คือคำตอบที่ใช่เลยครับ ด้วยราคาที่สบายกระเป๋ามาก ๆ แต่ก็ยังให้ฟังก์ชันพื้นฐานมาอย่างครบถ้วน ทั้งการปรับอุณหภูมิได้สูงสุด 200°C และตั้งเวลาได้ถึง 30 นาที ทำให้สามารถทำเมนูทอดง่าย ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหาครับ

คุณสมบัติเด่น

  • ราคาประหยัดมาก: เป็นเจ้าของหม้อทอดไร้น้ำมันได้ในงบไม่ถึงพันบาท
  • ความจุ 3 ลิตร: เพียงพอสำหรับการใช้งาน 1-2 คน
  • ควบคุมง่าย: ใช้ปุ่มหมุนแบบแอนะล็อก 2 ปุ่ม ไม่ซับซ้อน
  • กำลังไฟ 1300W: เพียงพอสำหรับการทำอาหารทั่วไป
  • มีไฟแสดงสถานะ: ช่วยให้ทราบว่าเครื่องกำลังทำงานและทำความร้อนอยู่
จุดเด่น
  • ราคาถูกมาก เข้าถึงง่ายสุดๆ
  • ใช้งานง่ายมาก เหมาะกับผู้เริ่มต้น
  • ขนาดกะทัดรัด ไม่เปลืองพื้นที่
  • ทำเมนูพื้นฐานได้ดีคุ้มราคา
ข้อควรพิจารณา
  • วัสดุอาจไม่พรีเมียมเท่าแบรนด์ราคาสูง
  • การกระจายความร้อนอาจไม่สม่ำเสมอเท่ารุ่นแพงๆ
  • ไม่มีฟังก์ชันเสริมใดๆ

รีวิวแบบเจาะลึก

OTTO CO-725 คือหม้อทอดที่เน้นการเข้าถึงง่ายและตอบโจทย์การใช้งานขั้นพื้นฐานครับ มันอาจจะไม่มีเทคโนโลยีล้ำ ๆ, ไม่มีหน้าจอดิจิทัล, หรือไม่มีโปรแกรมอัตโนมัติเหมือนรุ่นพี่ในลิสต์นี้ แต่มันสามารถทำหน้าที่หลักของมันคือ “การทอดด้วยลมร้อน” ได้ครับ จากการใช้งานจริง มันสามารถทอดนักเก็ต, ไส้กรอก, หรืออุ่นของทอดให้กลับมากรอบได้ดีในระดับที่น่าพอใจเลยครับ สำหรับคนที่แค่อยากได้เครื่องมือมาช่วยทำของทอดง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเยอะ และไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์ระดับภัตตาคาร รุ่นนี้ถือว่าทำได้คุ้มค่าตัวมาก ๆ ครับ การควบคุมก็ตรงไปตรงมา แค่หมุนปุ่มตั้งอุณหภูมิกับเวลาที่ต้องการ แล้วก็รอจนกว่าเสียง “ติ๊ง!” จะดังขึ้น เป็นอันเสร็จพิธีครับ

แน่นอนว่าด้วยราคาขนาดนี้ เราก็ไม่สามารถคาดหวังวัสดุที่พรีเมียมหรือความทนทานระดับสิบปีได้ครับ แต่ถ้าใช้งานและดูแลรักษาอย่างดี มันก็สามารถเป็นผู้ช่วยในครัวให้เราได้นานพอสมควรเลยครับ โดยสรุปแล้ว OTTO CO-725 คือคำตอบของคำถามที่ว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี สำหรับคนที่มีงบจำกัดจริง ๆ หรือนักศึกษาที่อยู่หอพักที่อยากได้เครื่องทำอาหารง่าย ๆ สักเครื่อง มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำความรู้จักกับโลกของหม้อทอดไร้น้ำมันโดยไม่ต้องเจ็บตัวเยอะครับ เหมือนกับ สมาร์ทโฟนราคาถูกและดี ที่แม้ฟีเจอร์ไม่เท่าเรือธง แต่ก็ยังโทรได้ เล่นเน็ตได้ ตอบโจทย์พื้นฐานครบถ้วนนั่นเองครับ

คะแนนที่ได้

7.7/10

>>> 👁️‍🗨️ ดูคุณสมบัติเด่น + รีวิวแบบเจาะลึก + <<<

รีวิวสั้น ๆ

“ซื้อมาลองใช้ดูเพราะราคาถูก ก็ใช้ดีเกินคาดนะครับ ทอดไก่ทอดหมูได้ปกติเลย” – คุณเบิร์ด, อายุ 25
“เหมาะกับคนงบน้อยแบบเรามากค่ะ ใช้งานง่ายดี ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ” – คุณน้ำ, อายุ 22


มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องครัว

จากข้อมูลของเว็บไซต์รีวิวเครื่องครัวชื่อดังอย่าง Good Housekeeping และ Consumer Reports ได้ให้ทรรศนะที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดหม้อทอดไร้น้ำมันในปี 2025 ไว้ว่า

“ผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่หม้อทอดที่ทำให้อาหารกรอบ แต่พวกเขามองหา ‘ผู้ช่วยในครัวอัจฉริยะ’ ที่สามารถทำได้หลากหลายเมนู, ใช้งานง่าย, และที่สำคัญคือต้องทำความสะอาดสะดวกด้วย เทรนด์ของหม้อทอดจึงมุ่งไปสู่การเป็นอุปกรณ์ Multi-Function มากขึ้น”

นั่นหมายความว่า การแข่งขันในตลาดไม่ได้วัดกันที่ว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่ร้อนเร็วที่สุด แต่เป็นการแข่งขันว่ายี่ห้อไหนจะสามารถมอบ “ประสบการณ์” การทำอาหารที่ง่ายและสนุกกว่ากัน ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยสำคัญหลายอย่างครับ

เทรนด์สำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญจับตามอง

  • ความอเนกประสงค์ (Versatility): หม้อทอดที่ทำได้แค่ทอดกำลังจะตกยุค ผู้ผลิตต่างพยายามเพิ่มฟังก์ชันอื่น ๆ เข้ามา เช่น ย่าง, อบ, นึ่ง, หรือแม้กระทั่ง Sous-vide เพื่อให้เครื่องเดียวสามารถทำอาหารได้ครบวงจรมากขึ้น
  • การเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connectivity): การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน, การสั่งงานด้วยเสียง, หรือการเข้าถึงสูตรอาหารออนไลน์ กำลังจะกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานที่ช่วยให้การทำอาหารง่ายและแม่นยำขึ้นสำหรับทุกคน
  • ขนาดและความจุที่หลากหลาย: ตลาดมีความเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้มีหม้อทอดตั้งแต่ขนาดเล็กสำหรับคนโสด ไปจนถึงขนาดใหญ่พิเศษสำหรับครอบครัวใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
  • วัสดุและการทำความสะอาด: การเลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัย (BPA/PFOA-Free) และการออกแบบชิ้นส่วนให้ถอดล้างในเครื่องล้างจานได้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญอย่างมาก

บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS

“จากการวิเคราะห์ของเรา คำถามที่ว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ในปี 2025 จะไม่มีคำตอบที่ตายตัวอีกต่อไปครับ แต่มันขึ้นอยู่กับว่า ‘คุณเป็นเชฟสไตล์ไหน’ หากคุณเป็นสายทดลอง ชอบทำอาหารหลากหลาย Ninja Foodi MAX คือคำตอบ หากคุณเป็นสายสุขภาพที่เชื่อมั่นในเทคโนโลยี Philips ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่ง หรือถ้าคุณเป็นสายแต่งบ้านที่รักในดีไซน์และความคุ้มค่า COSORI และ Xiaomi ก็ทำได้น่าประทับใจ ดังนั้น การเลือกหม้อทอดที่ดีที่สุดคือการเลือกเครื่องที่เข้ากับไลฟ์สไตล์, ขนาดครอบครัว, และงบประมาณของคุณมากที่สุดครับ”


เคล็ดลับการเลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันให้โดนใจ

ภาพหม้อทอดไร้น้ำมันสีดำวางบนเคาน์เตอร์ครัว สำหรับประกอบบทความ "หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี"
การจะตัดสินใจว่า หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี อาจจะดูน่าปวดหัว แต่ถ้าเรามีเช็คลิสต์ในใจก็จะง่ายขึ้นเยอะเลยครับ ลองใช้เคล็ดลับเหล่านี้ดูนะครับ

  1. ขนาดความจุต้องมาก่อน: นี่คือข้อที่สำคัญที่สุดครับ ลองถามตัวเองว่าปกติทำอาหารสำหรับกี่คน?
    • 1-2 คน: เลือกขนาด 2-3.5 ลิตรก็เพียงพอแล้วครับ (เช่น Xiaomi, PHILIPS NA110/00)
    • 3-4 คน: มองหาขนาด 4-5.5 ลิตร จะกำลังดีมาก (เช่น Philips 2000, COSORI, Ninja AF160EU)
    • 5 คนขึ้นไป หรือสายปาร์ตี้: จัดไซส์ใหญ่ 6-7 ลิตรขึ้นไปเลยครับ จะได้ไม่เสียเวลาทำหลายรอบ (เช่น SHARP)
  2. รูปทรงของตะกร้า: หลายคนอาจมองข้ามข้อนี้ แต่ตะกร้าทรงสี่เหลี่ยมมักจะมีพื้นที่ใช้สอยจริงมากกว่าทรงกลมในความจุที่เท่ากันนะครับ ทำให้จัดวางอาหารได้ง่ายกว่าด้วย
  3. ฟังก์ชันการใช้งาน: คุณต้องการแค่ “ทอด” หรือเปล่า? ถ้าใช่ รุ่นพื้นฐานก็เพียงพอ แต่ถ้าอยาก “ย่าง” สเต๊กสวย ๆ หรือ “อบ” ขนมเค้กด้วย ก็ควรเลือกรุ่นที่เป็น Multi-Function (เช่น Ninja Foodi MAX, Tefal)
  4. ระบบควบคุม: ชอบความง่ายแบบคลาสสิกของปุ่มหมุน (Analog) หรือชอบความแม่นยำและทันสมัยของหน้าจอสัมผัส (Digital)? ระบบดิจิทัลมักจะมาพร้อมโปรแกรมอัตโนมัติที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะครับ
  5. การทำความสะอาด: มองหารุ่นที่ตะกร้าเคลือบ Non-stick คุณภาพดี และระบุว่าสามารถนำเข้าเครื่องล้างจานได้ (Dishwasher-safe) จะช่วยทุ่นแรงไปได้มหาศาลเลยครับ
  6. งบประมาณ: สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ตั้งงบในใจไว้ก่อนครับ หม้อทอดมีตั้งแต่ราคาหลักร้อยปลาย ๆ ไปจนถึงหลักหมื่น การมีงบจะช่วยให้เราตัดตัวเลือกที่ไม่ใช่ออกไปได้ง่ายขึ้นครับ

หม้อทอดไร้น้ำมัน vs. หม้ออบลมร้อน: ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี?

เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตเลยครับว่าเจ้าสองเครื่องนี้มันต่างกันยังไง จริง ๆ แล้วหลักการทำงานของมันคล้ายกันมากคือใช้พัดลมเป่าลมร้อนให้หมุนเวียนในพื้นที่ปิดเพื่อทำให้อาหารสุก แต่ก็มีความแตกต่างสำคัญอยู่ที่ “ดีไซน์” และ “การใช้งาน” ครับ

  • หม้อทอดไร้น้ำมัน (Air Fryer): จะมีขนาดกะทัดรัดกว่า พื้นที่ทำอาหารจะเล็กและแคบ ทำให้ลมร้อนหมุนเวียนได้อย่างรวดเร็วและรุนแรงมาก ส่งผลให้อาหารมีความ “กรอบ” เหมือนการทอดจริง ๆ มากกว่า เหมาะกับเมนูที่ต้องการความกรอบเป็นพิเศษ เช่น ไก่ทอด, เฟรนช์ฟรายส์, หมูกรอบ
  • หม้ออบลมร้อน (Convection Oven): มักจะเป็นโถแก้วขนาดใหญ่ มีพื้นที่ภายในกว้างกว่า ทำให้ลมร้อนหมุนเวียนได้ไม่รุนแรงเท่าหม้อทอด ผลลัพธ์ที่ได้จะใกล้เคียงกับการ “อบ” หรือ “ย่าง” มากกว่า เหมาะกับการทำอาหารชิ้นใหญ่ ๆ เช่น อบไก่ทั้งตัว, ทำบาร์บีคิว, หรืออบขนมปัง

สรุปง่าย ๆ: ถ้าคุณคือ “สายกรอบ” ชอบของทอดเป็นชีวิตจิตใจ ให้เลือกหม้อทอดไร้น้ำมันครับ แต่ถ้าคุณคือ “สายอบ-ย่าง” ชอบทำอาหารชิ้นใหญ่ ๆ หม้ออบลมร้อนอาจจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับ


เทคนิคการใช้หม้อทอดไร้น้ำมันให้เหมือนโปร: อาหารอร่อยขึ้น 100%

ได้หม้อทอดดี ๆ มาแล้ว ก็ต้องใช้ให้คุ้มใช่ไหมครับ ลองเอาเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ไปใช้ดู รับรองว่าอาหารของคุณจะอร่อยขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลย!

  1. อย่าใส่อาหารแน่นเกินไป: นี่คือข้อผิดพลาดที่เจอบ่อยที่สุด! การอัดอาหารเข้าไปแน่นเกินไปจะทำให้ลมร้อนหมุนเวียนไม่สะดวก อาหารจะสุกไม่ทั่วถึงและไม่กรอบครับ ควรเว้นที่ว่างให้อากาศได้ไหลผ่านบ้าง
  2. Pre-heat เครื่องก่อนเสมอ: เหมือนกับการวอร์มเตาอบครับ การอุ่นเครื่องสัก 3-5 นาทีก่อนใส่อาหารเข้าไป จะช่วยให้อาหารสุกเร็วขึ้นและได้ผิวที่กรอบสวยงาม
  3. เขย่า! เขย่า! เขย่า!: สำหรับอาหารชิ้นเล็ก ๆ อย่างเฟรนช์ฟรายส์หรือนักเก็ต การเปิดออกมาเขย่าตะกร้าทุก ๆ 5-7 นาที จะช่วยให้ทุกชิ้นโดนความร้อนเท่า ๆ กันและกรอบทั่วถึงครับ (หรือเลือกรุ่นที่มี Shake Reminder อย่าง COSORI ก็จะสบายเลย)
  4. ซับอาหารให้แห้ง: ก่อนนำอาหารเข้าหม้อ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ควรใช้กระดาษซับให้แห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ความชื้นที่น้อยลงจะช่วยให้ผิวของอาหารกรอบเร็วขึ้นครับ
  5. ใช้น้ำมันเล็กน้อย: แม้จะชื่อว่าหม้อทอด “ไร้” น้ำมัน แต่การพ่นสเปรย์น้ำมันหรือคลุกน้ำมันเล็กน้อย (ประมาณ 1 ช้อนชา) กับอาหารบางชนิด เช่น ผัก หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ค่อยมีไขมัน จะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นมากครับ ทั้งสีสันที่สวยงามและป้องกันไม่ให้อาหารแห้งเกินไป
  6. ลงทุนกับอุปกรณ์เสริม: กระดาษรองหม้อทอด (Parchment Liners) คือเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณครับ มันช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นเยอะมาก หรือจะลองหาซื้อถาดซิลิโคนสำหรับอบเค้ก หรือตะแกรงเสริมสำหรับทำอาหาร 2 ชั้น ก็จะช่วยให้คุณใช้เครื่องได้หลากหลายขึ้นครับ เหมือนมี อุปกรณ์เสริม Nintendo Switch ที่ทำให้เล่นเกมสนุกขึ้นนั่นแหละครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ภาพตกแต่งหมวดคำถามที่พบบ่อย พร้อมหม้อทอดไร้น้ำมันบนโต๊ะไม้ สำหรับบทความ “หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี

  • ถาม: หม้อทอดไร้น้ำมันกินไฟไหม?
    ตอบ: กินไฟพอสมควรครับ เพราะต้องใช้พลังงานสูงในการสร้างความร้อน แต่เมื่อเทียบกับการใช้เตาอบขนาดใหญ่แล้ว หม้อทอดไร้น้ำมันจะใช้เวลาทำอาหารสั้นกว่ามาก ทำให้โดยรวมแล้วอาจจะประหยัดพลังงานกว่าในหลาย ๆ เมนูครับ
  • ถาม: จำเป็นต้องใช้น้ำมันเลยไหม?
    ตอบ: สำหรับอาหารที่มีไขมันในตัวอยู่แล้วอย่างหมูกรอบหรือปีกไก่ ไม่จำเป็นต้องใช้เลยครับ แต่สำหรับอาหารที่แห้ง ๆ อย่างอกไก่หรือผัก การใช้น้ำมันเล็กน้อยจะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นและไม่แห้งกระด้างครับ
  • ถาม: ทำความสะอาดยากไหม?
    ตอบ: ไม่ยากเลยครับ รุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ตะกร้าจะเคลือบ Non-stick มาอย่างดีและถอดล้างได้ง่าย หลายรุ่นยังเข้าเครื่องล้างจานได้ด้วย เคล็ดลับคือหลังจากใช้งานเสร็จ ให้แช่ตะกร้าในน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานไว้สักพัก คราบจะหลุดออกง่ายมากครับ
  • ถาม: นอกจากของทอดแล้ว ทำเมนูอื่นได้อีกไหม?
    ตอบ: ได้สบายมากครับ! เราสามารถใช้หม้อทอดในการ ย่างปลา, อบมัฟฟิน, ทำพิซซ่า, อุ่นอาหาร, หรือแม้กระทั่งคั่วถั่วได้ด้วยครับ ลองดูสูตรอาหารจากแอปฯ ของแต่ละแบรนด์ (เช่น NutriU ของ Philips หรือ Mi Home ของ Xiaomi) จะช่วยเปิดไอเดียได้เยอะเลยครับ

บทสรุปส่งท้าย: เลือกหม้อทอดที่ใช่ ให้ชีวิตอร่อยและง่ายขึ้น

และแล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายของการเดินทางตามหา หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี ที่สุดสำหรับปี 2025 กันแล้วนะครับ ผมหวังว่าข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมาให้แบบจัดเต็มนี้ จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ จะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันไป ไม่มีรุ่นไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่จะมีรุ่นที่ “ใช่ที่สุด” สำหรับไลฟ์สไตล์ของเราครับ

ถ้าคุณคือสุดยอดเชฟประจำบ้านที่รักการทำอาหารหลากหลายและงบถึง Ninja Foodi MAX คือคำตอบสุดท้ายที่ครบเครื่องที่สุด แต่ถ้าเน้นความกรอบสะใจและรวดเร็ว Ninja AF160EU ก็เป็นตัวเลือกที่น่าประทับใจ สำหรับสายแต่งบ้านที่ชอบดีไซน์สวยงามและฟังก์ชันฉลาด ๆ COSORI และ Xiaomi ก็โดดเด่นมาก ๆ ในขณะที่สายสุขภาพที่เชื่อมั่นในแบรนด์และเทคโนโลยี Philips ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ไว้ใจได้เสมอครับ

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือก หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้เครื่องมือที่มาช่วยให้การทำอาหารเพื่อสุขภาพเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น สนุกขึ้น และอร่อยขึ้นครับ ขอให้เพื่อน ๆ มีความสุขกับการเข้าครัวและสร้างสรรค์เมนูอร่อย ๆ ให้กับตัวเองและคนที่คุณรักนะครับ!

ภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับประกอบอาหารพร้อมอาหารทอดกรอบ แสดงตัวเลือกหม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี


หมายเหตุจากผู้เขียน: หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี

  • รายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติ, ราคา, หรือการรับประกันสินค้า ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของผู้ผลิตแต่ละแบรนด์อีกครั้ง ได้แก่ Ninja, COSORI, Philips, Xiaomi, Electrolux, Tefal, SHARP, และ OTTO ครับ
  • คะแนน (เช่น 9.8/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากข้อมูลจำเพาะ, ฟังก์ชันการใช้งาน, ราคา, รีวิวจากผู้ใช้งานจริง, และประสบการณ์ตรงของผู้เขียน เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจครับ
  • รีวิวสั้น ๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “คุณเอก, อายุ 42”) เป็นความคิดเห็นสมมุติที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานในมุมมองที่หลากหลายเท่านั้น
  • บทความนี้รวบรวมข้อมูล ณ ช่วงเวลาที่เผยแพร่ คุณสมบัติและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ขอบพระคุณครับ