บทนำ
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกคน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกไอเทมเด็ดที่ชาว PlayStation 5 ทุกคนต้องมี นั่นก็คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่จะมาอัปเกรดประสบการณ์การเล่นเกมของเราให้พุ่งทะยานไปอีกขั้นเลยครับ ตั้งแต่ที่ Sony ปล่อย PS5 ออกมา เราก็ได้เห็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ทำให้การเล่นเกมมันส์สะใจกว่าเดิมเยอะมาก แต่การมีแค่เครื่องเกมกับจอยมาตรฐานอาจจะยังดึงประสิทธิภาพของมันออกมาได้ไม่เต็มที่จริงไหมครับ? การเลือก อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ใช่จึงเป็นเหมือนการปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ ทำให้เราได้เปรียบในการแข่งขันและดื่มด่ำกับโลกของเกมได้สมจริงยิ่งขึ้น
บทความนี้ผมเลยตั้งใจคัดสรร 10 อันดับ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ดีที่สุดแห่งปี 2025 มาให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันแบบจัดเต็มครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นสาย Competitive ที่ต้องการความแม่นยำทุกการเคลื่อนไหว, สาย Casual ที่เน้นความสบายและฟีเจอร์ครบครัน, หรือสาย Streamer ที่อยากยกระดับการถ่ายทอดสดให้ดูโปรขึ้น เรามีครบทุกแนวแน่นอนครับ ในลิสต์นี้มีตั้งแต่ จอย PS5 รุ่นโปรที่ปรับแต่งได้อิสระ, หูฟัง PS5 ที่ให้มิติเสียงสมจริงเหมือนหลุดเข้าไปในเกม, ไปจนถึงแท่นชาร์จสุดล้ำและไอเทมจุกจิกที่จะทำให้ชีวิตเกมเมอร์ของเราง่ายขึ้นอีกเยอะ การมี อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เป็นการลงทุนเพื่อความสนุกและความได้เปรียบในการเล่นเกมระยะยาวเลยนะครับ
เราจะพาไปดูรีวิวแต่ละชิ้นแบบละเอียดเจาะลึก ทั้งสเปกเด่น จุดแข็ง และข้อที่ต้องพิจารณา พร้อมตารางเปรียบเทียบให้เห็นภาพรวมกันชัด ๆ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ อุปกรณ์เสริม PS5 ชิ้นโปรดกันครับ และสำหรับใครที่กำลังมองหาพื้นที่เก็บเกมเพิ่ม ก็สามารถแวะไปดูรีวิว SSD PS5 ยี่ห้อไหนดี เพิ่มเติมได้เลยครับ รับรองว่าอ่านจบแล้ว เพื่อน ๆ จะได้ไอเดียไปชอปปิงไอเทมใหม่ ๆ มาเสริมทัพให้สถานีรบ PS5 ของเราสมบูรณ์แบบที่สุดแน่นอน! ว่าแล้วก็ไปลุยกันเลยดีกว่าครับ!
จัดอันดับ 10 อุปกรณ์เสริม PS5 แห่งปี 2025 ที่เกมเมอร์ตัวจริงต้องมี!
ก่อนจะไปดูรีวิวเจาะลึก อุปกรณ์เสริม PS5 แต่ละชิ้น ลองมาดูตารางเปรียบเทียบภาพรวมกันก่อนเลยครับ ผมสรุปสเปกเด่น คะแนน และความเหมาะสมของแต่ละไอเทมมาให้แล้ว เพื่อน ๆ จะได้เห็นภาพกว้าง ๆ ว่าชิ้นไหนน่าจะโดนใจที่สุด แล้วค่อยเลื่อนลงไปอ่านรายละเอียดเต็ม ๆ กันได้เลยครับ!
1. DualSense Wireless Controller ★★★★★
“จอยมาตรฐานที่ปฏิวัติวงการ! สัมผัสทุกแรงสั่นสะเทือนและความตึงของไกปืนที่สมจริงจนวางไม่ลง”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่าทำไม DualSense Wireless Controller ถึงครองอันดับหนึ่งในฐานะ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ต้องมี เพราะมันไม่ใช่แค่จอยเกมธรรมดา แต่มันคือประตูสู่มิติใหม่ของการเล่นเกมอย่างแท้จริงครับ ด้วยเทคโนโลยี Haptic Feedback ที่ให้แรงสั่นสะเทือนแบบละเอียดอ่อนและสมจริง คุณจะรู้สึกได้ถึงทุกย่างก้าวของตัวละครบนพื้นผิวที่แตกต่างกัน หรือแรงปะทะตอนถูกโจมตี ผสานกับ Adaptive Triggers ที่สร้างแรงต้านได้ตามสถานการณ์ในเกม เช่น ความรู้สึกตึงของสายธนูตอนกำลังง้าง หรือแรงถีบของไกปืนที่แตกต่างกันไปในแต่ละกระบอก ทำให้ทุกการกระทำในเกมมีน้ำหนักและสมจริงขึ้นแบบก้าวกระโดด นี่คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ชิ้นแรกที่เกมเมอร์ทุกคนได้สัมผัส และมันก็สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการไปเรียบร้อยแล้วครับ
สเปกเด่น
- เทคโนโลยีหลัก: Haptic Feedback, Adaptive Triggers
- การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.1, USB-C
- ฟีเจอร์ในตัว: ไมโครโฟนและลำโพงในตัว, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., Motion Sensor
- แบตเตอรี่: แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จซ้ำได้ (ประมาณ 6-12 ชั่วโมง)
- ความเข้ากันได้: PlayStation 5, PC, Mac, Mobile (iOS/Android)
รีวิวแบบเจาะลึก
สิ่งที่ทำให้ DualSense โดดเด่นกว่าจอยรุ่นก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัดคือ “ความรู้สึก” ครับ เทคโนโลยี Haptic Feedback ไม่ใช่แค่การสั่นแบบ “แรง-เบา” เหมือนในอดีต แต่มันคือการจำลองพื้นผิวและแรงกระแทกที่ละเอียดอ่อนมาก ยกตัวอย่างในเกม Astro’s Playroom (เกมที่แถมมากับเครื่อง) เราจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่างการเดินบนพื้นทราย พื้นโลหะ หรือการลุยฝนที่ตกกระทบตัวละคร มันสร้างความรู้สึก “ดื่มด่ำ” (Immersion) ได้อย่างน่าทึ่ง ส่วน Adaptive Triggers ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเปลี่ยนเกมโดยสิ้นเชิง ในเกมยิงปืนอย่าง Call of Duty คุณจะรู้สึกถึงแรงต้านของไกปืนที่ไม่เท่ากัน หรือในเกมแข่งรถอย่าง Gran Turismo 7 คุณจะรู้สึกถึงแรงเบรกที่ต้องกดย้ำๆ หรือความรู้สึกตอนล้อล็อกได้ผ่านปลายนิ้วเลยทีเดียว ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้ DualSense เป็นมากกว่าแค่ อุปกรณ์เสริม PS5 แต่มันคือส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเล่นเกมที่ขาดไม่ได้เลยครับ นอกจากนี้ การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ก็ทำได้ดีมาก มีน้ำหนักที่พอดีและรูปทรงที่จับกระชับมือกว่า DualShock 4 ทำให้เล่นได้นานโดยไม่เมื่อยล้า การมีไมโครโฟนและลำโพงในตัวก็เป็นอีกหนึ่งความสะดวกสบายที่ยอดเยี่ยม ทำให้เราสามารถแชทกับเพื่อนได้ทันทีโดยไม่ต้องหา หูฟังเกมมิ่ง มาต่อให้วุ่นวาย (แม้ว่าคุณภาพเสียงจาก หูฟัง PS5 โดยตรงจะดีกว่าก็ตาม)
ในแง่ของการใช้งานจริง แบตเตอรี่ของ DualSense สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 6-12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับว่าเกมนั้นๆ ใช้ฟีเจอร์ Haptic และ Adaptive Triggers หนักแค่ไหน ซึ่งสำหรับบางคนอาจรู้สึกว่าค่อนข้างสั้นไปหน่อยเมื่อเทียบกับจอยของคู่แข่ง การมีจอยสำรองหรือแท่นชาร์จจึงเป็นสิ่งที่แนะนำอย่างยิ่งครับ ตัวจอยยังรองรับการเชื่อมต่อกับ PC และอุปกรณ์มือถือได้อย่างง่ายดายผ่าน Bluetooth ทำให้มันกลายเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่มีความหลากหลายในการใช้งานสูงมาก คุณสามารถนำไปเล่นเกมบน Steam หรือ Apple Arcade ได้สบายๆ แม้ว่าฟีเจอร์ Haptic และ Triggers อาจจะไม่รองรับเต็มรูปแบบในทุกเกมบนแพลตฟอร์มอื่นก็ตาม แต่สัมผัสการควบคุมพื้นฐานก็ยังถือว่ายอดเยี่ยมอยู่ดีครับ ด้วยนวัตกรรมที่อัดแน่นมาเต็มเปี่ยมและราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้ DualSense เป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่คุ้มค่าที่สุด และเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับเกมเมอร์ทุกคนที่ก้าวเข้าสู่โลกของ PlayStation 5 ครับ ใครที่กำลังมองหา จอย PS5 รุ่นไหนดี ตัวนี้คือคำตอบแรกเสมอครับ
คะแนนที่ได้
9.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“ฟีลลิ่งตอนเล่นเกม FPS คือดีมากครับ แรงถีบของปืนที่ไกมันสมจริงสุดๆ เหมือนได้อัปเกรดฝีมือไปในตัวเลย” – นนท์, อายุ 28
“ชอบที่มันมีไมค์ในตัวมากค่ะ เวลาเล่นกับเพื่อนแล้วขี้เกียจใส่หูฟังก็คุยได้เลย สะดวกดี” – ฟ้า, อายุ 25
2. Victrix Pro BFG Wireless Controller ★★★★★
“จอยโปรสำหรับสายแข็ง! ปรับแต่งได้ทุกส่วน เปลี่ยนโมดูลได้ตามใจ สร้างความได้เปรียบในทุกสมรภูมิ”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับเกมเมอร์สายจริงจังที่มองหาความได้เปรียบสูงสุด Victrix Pro BFG คือคำตอบสุดท้ายในฐานะ อุปกรณ์เสริม PS5 ระดับโปรครับ จอยตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ จุดเด่นที่สุดคือความสามารถในการ “ปรับแต่ง” ที่ไร้ขีดจำกัด คุณสามารถสลับตำแหน่งของ D-pad และ Analog Stick ด้านซ้ายได้ หรือจะเปลี่ยนโมดูลปุ่มกดด้านขวาให้กลายเป็น Fight Pad แบบ 6 ปุ่มสำหรับเกมต่อสู้โดยเฉพาะก็ได้! ยังไม่หมดแค่นั้น ด้านหลังจอยยังมีปุ่มเสริม (Back Paddles) อีก 4 ปุ่มที่คุณสามารถตั้งค่า Macro หรือคำสั่งที่ใช้บ่อยๆ ได้ตามใจชอบ พร้อมกับ Trigger Stops ที่ปรับระยะการกดของไกปืนได้ถึง 5 ระดับ ช่วยให้คุณยิงได้เร็วกว่าคู่ต่อสู้ในเกม FPS แค่เสี้ยววินาทีก็ตัดสินแพ้ชนะได้แล้วครับ นี่คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่จะปลดปล่อยศักยภาพการเล่นของคุณอย่างเต็มที่
สเปกเด่น
- การปรับแต่ง: โมดูลสลับตำแหน่งได้ (D-pad/Analog), Fight Pad Module 6 ปุ่ม
- ปุ่มเสริม: 4 ปุ่มด้านหลัง (Remappable)
- ไกปืน: Multi-Position Clutch Triggers™ (ปรับระยะได้ 5 ระดับ)
- การเชื่อมต่อ: Wireless (USB Dongle), Wired (USB-C)
- อุปกรณ์ในกล่อง: ไขควง, โมดูลเสริม, D-pads 3 แบบ, Analog Sticks 4 แบบ, เคสพกพา
รีวิวแบบเจาะลึก
หัวใจของ Victrix Pro BFG คือ “Modular Design” หรือการออกแบบที่ถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ครับ ด้วยไขควงเล็กๆ ที่แถมมาในกล่อง คุณสามารถคลายสกรูเพียงสองตัวเพื่อพลิกโมดูลด้านซ้าย ทำให้สามารถเลือกได้ว่าจะวาง Analog Stick ไว้ด้านบน (สไตล์ Xbox) หรือด้านล่าง (สไตล์ PlayStation) ตามความถนัด ส่วนด้านขวาก็สามารถเปลี่ยนจากชุดปุ่ม 4 ปุ่มมาตรฐานเป็น Fight Pad 6 ปุ่มได้ในเวลาไม่ถึงนาที ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่คอเกมต่อสู้อย่าง Street Fighter หรือ Tekken ต้องร้องว้าว เพราะมันทำให้การกดท่าคอมโบง่ายและแม่นยำขึ้นมากครับ ปุ่มเสริมด้านหลังทั้ง 4 ปุ่มก็วางอยู่ในตำแหน่งที่นิ้วกลางและนิ้วนางพักอยู่พอดี ทำให้กดได้เป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องละนิ้วโป้งออกจาก Analog Stick เลย เหมาะสุดๆ สำหรับการตั้งค่าคำสั่งอย่างการกระโดด, สไลด์, หรือใช้ไอเทมในเกม FPS ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจนมากๆ นี่คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ออกแบบมาเพื่อชัยชนะอย่างแท้จริงครับ ถึงแม้ว่าการปรับแต่งที่หลากหลายนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยในช่วงแรก แต่เมื่อคุณเจอการตั้งค่าที่ใช่สำหรับตัวเองแล้ว มันจะกลายเป็นอาวุธคู่กายที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียวครับ
อย่างไรก็ตาม การที่ Victrix Pro BFG ตัดสินใจตัดฟีเจอร์ Haptic Feedback และ Adaptive Triggers ออกไปก็เพื่อแลกกับความเร็วและความแม่นยำในการตอบสนองสูงสุดครับ การไม่มีแรงต้านที่ไกปืนอาจทำให้ฟีลลิ่งในเกมเนื้อเรื่องลดลงไปบ้าง แต่มันก็ทำให้คุณสามารถกดซ้ำๆ ได้เร็วกว่าเดิม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเล่นแบบแข่งขัน ดังนั้นจอยตัวนี้จึงเหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับ Performance มากกว่า Immersion ครับ ตัวจอยมาพร้อมกับ Dongle สำหรับการเชื่อมต่อไร้สายที่มีความหน่วงต่ำมาก และยังสามารถใช้งานในโหมดมีสายเพื่อความเสถียรสูงสุดได้อีกด้วย ในกล่องยังให้อุปกรณ์เสริมมาแบบจัดเต็ม ทั้ง D-pad 3 แบบ (มาตรฐาน, 8 ทิศทาง, ทรงกลม), Analog Stick 4 อัน (ทรงเว้า, ทรงนูน, แบบสั้น, แบบยาว) และเคสพกพาสุดพรีเมียม ทำให้มันเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์สำหรับเกมเมอร์สายจริงจังที่ต้องการรีดประสิทธิภาพของตัวเองออกมาให้ถึงขีดสุดครับ ถ้าคุณกำลังมองหาอะไรที่เหนือกว่าจอยมาตรฐานและพร้อมจะลงทุนเพื่อความได้เปรียบ Pro BFG คือตัวเลือกที่ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ
คะแนนที่ได้
9.6/10
รีวิวสั้น ๆ
“โคตรจอยโปรเลยครับ! ปรับปุ่มหลังช่วยให้ผมเล่น Apex Legends คล่องขึ้นเยอะมาก สลับเกราะ สไลด์ได้โดยไม่ต้องปล่อย Analog เลย” – โปร, อายุ 22
“ตอนแรกคิดว่าไม่ชิน แต่พอสลับโมดูลเป็นแบบ Xbox แล้วถนัดมือมากค่ะ เล่นเกมต่อสู้ก็เปลี่ยนเป็น Fight Pad ได้อีก โคตรคุ้ม” – มิ้นท์, อายุ 29
3. GameSir Cyclone 2 Controller ★★★★☆
“จอยทางเลือกสุดคุ้ม! อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ Hall Effect กันดริฟท์ พร้อมปุ่มเสริมครบครันในราคาสบายกระเป๋า”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ใครที่กำลังมองหา อุปกรณ์เสริม PS5 ที่เป็นจอยสำรองหรือจอยสำหรับเล่นกับเพื่อนในราคาที่ไม่แรง แต่ยังได้ฟีเจอร์ระดับโปร ต้องมองมาที่ GameSir Cyclone 2 เลยครับ! จอยตัวนี้ถือเป็นม้ามืดที่น่าจับตามองมาก เพราะมันมาพร้อมกับเทคโนโลยี Hall Effect ทั้งใน Analog Sticks และ Triggers ซึ่งใช้แม่เหล็กในการตรวจจับการเคลื่อนไหว ทำให้ไม่มีการเสียดสีของชิ้นส่วนภายในเหมือนจอยทั่วไป หมดปัญหา “Analog Drift” หรืออาการจอยเดินเองที่เกมเมอร์หลายคนปวดหัวไปได้เลยครับ นอกจากนี้ยังให้ปุ่มเสริมด้านหลังมาอีก 2 ปุ่ม สำหรับตั้งค่าคำสั่งที่ใช้บ่อยๆ และยังรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายทั้ง PC, Switch และมือถืออีกด้วย ถือเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ให้ความคุ้มค่าเกินราคาไปมากจริงๆ ครับ
สเปกเด่น
- เซ็นเซอร์: Hall Effect Joysticks & Triggers (ป้องกัน Analog Drift)
- ปุ่มเสริม: 2 ปุ่มด้านหลัง (Remappable)
- การเชื่อมต่อ: Bluetooth, 2.4Ghz Dongle, Wired (USB-C)
- ความเข้ากันได้: PS5 (ผ่าน Dongle), PC, Nintendo Switch, iOS, Android
- ฟีเจอร์พิเศษ: Hair Trigger Mode, Turbo Function, ปรับระดับการสั่นได้
รีวิวแบบเจาะลึก
จุดขายหลักของ GameSir Cyclone 2 คือเทคโนโลยี Hall Effect ครับ สำหรับเพื่อนๆ ที่อาจจะยังไม่คุ้นเคย มันคือการใช้เซ็นเซอร์แม่เหล็กไฟฟ้าในการจับตำแหน่งของก้าน Analog และไกปืน ซึ่งแตกต่างจากจอยส่วนใหญ่ที่ใช้ Potentiometer ที่มีหน้าสัมผัสทางกายภาพและจะค่อยๆ สึกหรอไปตามการใช้งานจนเกิดอาการเพี้ยนหรือที่เรียกว่า “ดริฟท์” การใช้ Hall Effect ทำให้ Cyclone 2 มีความทนทานสูงกว่ามากและให้ความแม่นยำที่คงที่ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ปกติแล้วจะพบได้ในจอยโปรราคาแพงเท่านั้น การที่ GameSir นำเทคโนโลยีนี้มาใส่ในจอยราคาย่อมเยาจึงถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากครับ ปุ่มเสริมด้านหลัง 2 ปุ่มก็ใช้งานง่าย สามารถตั้งค่าได้โดยตรงจากตัวจอยโดยไม่ต้องผ่านซอฟต์แวร์ให้ยุ่งยาก ทำให้มันเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการเล่นของคุณได้ในราคาที่เข้าถึงง่าย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมแนว FPS, RPG หรือ Action ก็สามารถใช้ประโยชน์จากปุ่มเสริมนี้ได้ทั้งนั้นครับ
ในด้านการเชื่อมต่อ Cyclone 2 ก็ให้มาแบบครบครันทั้ง Bluetooth สำหรับมือถือและ Switch, Dongle 2.4GHz สำหรับ PC และ PS5, และโหมดใช้สายผ่าน USB-C ครับ สำหรับการใช้งานกับ PS5 นั้นจำเป็นต้องเสียบ Dongle ที่แถมมาเข้ากับตัวเครื่องก่อน ซึ่งอาจจะดูยุ่งยากเล็กน้อยแต่ก็แลกมากับการเชื่อมต่อที่เสถียรและตอบสนองได้ดีครับ ตัวจอยมีฟังก์ชัน Hair Trigger ที่ช่วยลดระยะการกดของไกปืนให้สั้นลง และฟังก์ชัน Turbo สำหรับการกดปุ่มรัวๆ ซึ่งเป็นประโยชน์มากในเกมบางประเภท แม้ว่ามันจะไม่มีฟีเจอร์เฉพาะของ PS5 อย่าง Haptic Feedback และ Adaptive Triggers และคุณภาพของพลาสติกอาจจะไม่ได้ดูพรีเมียมเท่า DualSense แต่ด้วยฟีเจอร์ที่ให้มาทั้งหมดเมื่อเทียบกับราคาแล้ว GameSir Cyclone 2 ถือเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่คุ้มค่ามากๆ ครับ เหมาะสำหรับเป็นจอยตัวที่สอง หรือเป็นจอยหลักสำหรับคนที่ต้องการความทนทานและฟังก์ชันเสริมโดยไม่ต้องการจ่ายแพงครับ
คะแนนที่ได้
9.3/10
รีวิวสั้น ๆ
“ใช้มาหลายเดือนยังไม่ดริฟท์เลยครับ สุดยอดมาก! ปุ่มหลังก็ช่วยให้เล่นเกมถนัดขึ้นเยอะ ราคาแค่นี้ได้ Hall Effect คือคุ้มจริง” – เอก, อายุ 31
“ซื้อมาไว้เล่นกับแฟนค่ะ เชื่อมต่อง่ายดี ใช้กับ Switch ก็ได้ด้วยอันเดียวจบเลย ชอบมากค่ะ” – พลอย, อายุ 26
4. DualSense Charging Station ★★★★☆
“ชาร์จไว ชาร์จง่าย แค่วาง! ไอเทมคู่บุญที่ทำให้จอยของคุณพร้อมรบเสมอ”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
เคยไหมครับ กำลังจะเปิดตี้กับเพื่อนแล้วพบว่าจอยแบตหมด? ปัญหานี้จะหมดไปถ้าคุณมี DualSense Charging Station ครับ! นี่คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่กลับช่วยแก้ปัญหาที่น่ารำคาญที่สุดของเกมเมอร์ได้อย่างตรงจุด แท่นชาร์จอย่างเป็นทางการจาก Sony ตัวนี้สามารถชาร์จจอย DualSense ได้พร้อมกันถึง 2 อัน ด้วยดีไซน์แบบ Click-in ที่ใช้งานง่ายสุดๆ แค่วางจอยลงไปบนแท่นก็เริ่มชาร์จทันที ไม่ต้องมาคอยเสียบสาย USB-C ให้วุ่นวายอีกต่อไป แถมยังช่วยให้โต๊ะเล่นเกมของคุณดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามเข้าชุดกับเครื่อง PS5 อีกด้วยครับ มันเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่เรียบง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพ และจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีจอยมากกว่าหนึ่งอันครับ
สเปกเด่น
- ความจุ: ชาร์จ DualSense Wireless Controllers ได้ 2 อันพร้อมกัน
- ดีไซน์: Click-in Design วางง่าย ล็อกอยู่
- ความเร็วในการชาร์จ: ชาร์จได้เร็วเทียบเท่ากับการเสียบสายกับเครื่อง PS5
- แหล่งจ่ายไฟ: ต่อไฟผ่าน AC Adapter (แถมมาในกล่อง) ไม่ต้องใช้พอร์ต USB ของ PS5
- ดีไซน์: ออกแบบมาให้เข้ากับดีไซน์ของเครื่อง PlayStation 5
ดีไซน์ Click-in ใช้งานง่ายและรวดเร็ว
ไม่เปลืองพอร์ต USB ของเครื่อง PS5
ช่วยจัดระเบียบโต๊ะเล่นเกมให้สวยงาม###ER##GF#### ใช้พื้นที่ในการวางเล็กน้อย
ต้องเสียบปลั๊กไฟแยกต่างหาก
รีวิวแบบเจาะลึก
ความดีงามของ DualSense Charging Station อยู่ที่ความสะดวกสบายล้วนๆ ครับ การชาร์จผ่านพอร์ต EXT ที่อยู่ด้านล่างของจอยแทนที่จะเป็นพอร์ต USB-C ด้านบน ทำให้เราไม่ต้องพะวงเรื่องการเสียบสายผิดๆ ถูกๆ หรือทำให้พอร์ต USB-C ของจอยหลวมในระยะยาว แค่เล่นเสร็จก็หยิบจอยมาวางบนแท่น กลไก Click-in ก็จะล็อกเข้าที่อย่างมั่นคงและเริ่มชาร์จทันที ซึ่งความเร็วในการชาร์จก็ทำได้ดีมากครับ สามารถชาร์จจอยที่แบตหมดเกลี้ยงให้เต็มได้ในเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เทียบเท่ากับการเสียบชาร์จกับตัวเครื่อง PS5 โดยตรงเลยทีเดียว จุดที่ผมชอบเป็นพิเศษคือมันใช้ไฟจาก AC Adapter ของตัวเอง ไม่ได้ดึงไฟจากพอร์ต USB ของเครื่อง PS5 ทำให้พอร์ต USB ของเรายังคงว่างสำหรับเสียบ อุปกรณ์เสริม PS5 อื่นๆ เช่น SSD ภายนอก หรือ ไมโครโฟน USB ได้อย่างเต็มที่ครับ
ในด้านการออกแบบ Sony ทำการบ้านมาดีมากครับ ตัวแท่นชาร์จมีดีไซน์และโทนสีที่เข้ากับเครื่อง PS5 และจอย DualSense ได้อย่างลงตัว ทำให้เมื่อวางคู่กันแล้วดูสวยงามเป็นเซ็ตเดียวกัน ช่วยยกระดับความสวยงามของมุมเล่นเกมของเราได้เป็นอย่างดี การมีที่วางจอยที่เป็นที่เป็นทางยังช่วยป้องกันการตกหล่นหรือการวางจอยทิ้งไว้เกะกะจนอาจเกิดความเสียหายได้อีกด้วย แม้ว่ามันอาจจะดูเป็นแค่ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมโดยตรง แต่ประโยชน์ในแง่ของความสะดวกสบายและการจัดการที่ดีนั้นมีค่ามากครับ สำหรับใครก็ตามที่มีจอย DualSense ตั้งแต่ 2 อันขึ้นไป หรือแม้แต่คนที่มีจอยเดียวแต่เบื่อการเสียบสายชาร์จทุกครั้งที่เล่นเสร็จ DualSense Charging Station คือการลงทุนที่คุ้มค่าและจะทำให้ชีวิตเกมเมอร์ของคุณง่ายขึ้นเยอะมากครับ บอกลาปัญหาจอยแบตหมดตอนคับขันไปได้เลย!
คะแนนที่ได้
9.1/10
รีวิวสั้น ๆ
“ต้องมีเลยครับอันนี้! ตั้งแต่ซื้อมาไม่เคยเจอปัญหาจอยแบตหมดอีกเลย เล่นเสร็จวางปุ๊บ ชาร์จปั๊บ สะดวกสุดๆ” – บอย, อายุ 34
“ชอบดีไซน์มากค่ะ วางคู่กับเครื่อง PS5 แล้วสวยมาก โต๊ะดูเป็นระเบียบขึ้นเยอะเลย” – แจน, อายุ 27
5. PlayStation Portal Remote Player ★★★★☆
“ยกเกม PS5 มาไว้ในมือคุณ! เล่นเกมโปรดได้ทุกที่ในบ้าน ผ่านหน้าจอ 8 นิ้วสุดคมชัด”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับใครที่อยากเล่นเกม PS5 แต่ทีวีไม่ว่าง หรืออยากจะย้ายไปเล่นชิลๆ บนเตียงนอนหรือในสวนหลังบ้าน PlayStation Portal คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่เกิดมาเพื่อคุณเลยครับ! อุปกรณ์ชิ้นนี้คือเครื่องเล่นเกมแบบพกพาที่สตรีมภาพและเสียงจากเครื่อง PS5 ของคุณโดยตรงผ่าน Wi-Fi มายังหน้าจอ LCD ขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด 1080p ที่ให้ภาพคมชัดและสีสันสดใส ที่เด็ดไปกว่านั้นคือตัวควบคุมด้านข้างมันคือจอย DualSense ที่ถูกผ่าครึ่ง! ทำให้คุณได้รับประสบการณ์ Haptic Feedback และ Adaptive Triggers แบบเต็มรูปแบบเหมือนเล่นอยู่หน้า ทีวี เลยครับ นี่คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่มอบอิสระในการเล่นเกมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้คุณไม่ต้องผูกติดอยู่กับหน้าจอทีวีอีกต่อไป
สเปกเด่น
- หน้าจอ: LCD ขนาด 8 นิ้ว
- ความละเอียด: 1080p Full HD
- อัตราเฟรม: สูงสุด 60 fps
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi (ต้องเชื่อมต่อเครือข่ายเดียวกับ PS5)
- ฟีเจอร์ควบคุม: Haptic Feedback, Adaptive Triggers, Touchpad (จำลองบนหน้าจอ)
รีวิวแบบเจาะลึก
PlayStation Portal ไม่ใช่ เครื่องเกมพกพา แบบ Standalone เหมือน Nintendo Switch นะครับ แต่มันคืออุปกรณ์สำหรับ Remote Play โดยเฉพาะ หลักการทำงานของมันคือการสตรีมเกมจากเครื่อง PS5 ของเราผ่านเครือข่าย Wi-Fi ในบ้าน ดังนั้นหัวใจสำคัญที่สุดคือความเสถียรของเราเตอร์ Wi-Fi ของคุณครับ เราเตอร์ ที่ดีและสัญญาณที่แรงจะทำให้การเล่นเกมลื่นไหล ไม่มีอาการกระตุกหรือดีเลย์ แต่ถ้า Wi-Fi ที่บ้านไม่แรงพอ ประสบการณ์อาจจะไม่ดีเท่าที่ควรครับ อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกอย่างลงตัว ประสบการณ์ที่ได้นั้นยอดเยี่ยมมากครับ หน้าจอขนาด 8 นิ้วให้ภาพที่ใหญ่และเต็มตากว่าการเล่นบนมือถือเยอะมาก และการที่ได้ฟีเจอร์ของ DualSense มาครบถ้วนก็ทำให้มันเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ให้ฟีลลิ่งการเล่นที่ไม่แตกต่างจากการเล่นบนจอใหญ่เลย การออกแบบตัวเครื่องก็ทำได้ดีมาก จับถนัดมือและมีน้ำหนักที่สมดุล ทำให้เล่นต่อเนื่องได้นานโดยไม่รู้สึกเมื่อยครับ
ข้อจำกัดสำคัญของ PlayStation Portal คือการที่มันไม่มี Bluetooth ในตัวครับ ถ้าคุณต้องการใช้ หูฟังไร้สาย คุณจะต้องใช้หูฟังที่รองรับเทคโนโลยี PlayStation Link ของ Sony เท่านั้น (เช่น Pulse Elite หรือ Pulse Explore) หรือไม่ก็ต้องใช้หูฟังแบบมีสายเสียบผ่านช่อง 3.5 มม. แทน ซึ่งอาจจะไม่สะดวกสำหรับบางคนครับ อย่างไรก็ตาม ลำโพงที่ติดมากับเครื่องก็ให้เสียงที่ดังและชัดเจนดีในระดับหนึ่งสำหรับการเล่นคนเดียวในห้องที่เงียบสงบ โดยรวมแล้ว PlayStation Portal เป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเล่นเกม เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีคนใช้ทีวีร่วมกันหลายคน หรือคนที่แค่อยากจะนอนเล่นเกมฟาร์มสบายๆ บนเตียงก่อนนอน ถ้าคุณเข้าใจข้อจำกัดของมันและมีเครือข่าย Wi-Fi ที่ดีพอ อุปกรณ์ชิ้นนี้จะมอบความสุขและความสะดวกสบายให้คุณได้อย่างแน่นอนครับ
คะแนนที่ได้
9.0/10
รีวิวสั้น ๆ
“ตอบโจทย์คนมีลูกมากครับ แฟนดูซีรีส์ ผมก็มานอนเล่นเกมบน Portal ในห้องได้เลย ฟีลลิ่งเหมือนเล่นบนทีวีจริงๆ” – พ่อบ้านเกมเมอร์, อายุ 35
“ภาพสวยกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ จอ 8 นิ้วคือใหญ่กำลังดีเลย เอาไว้นอนเล่นเกม RPG ก่อนนอนคือฟินมาก” – น้ำ, อายุ 29
6. PS5 Media Remote ★★★★☆
“เปลี่ยน PS5 ให้เป็นศูนย์กลางความบันเทิงเต็มรูปแบบ ควบคุมทุกแอป ทุกมีเดียได้ด้วยรีโมตเดียว”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับเพื่อนๆ ที่ใช้ PS5 เป็นมากกว่าเครื่องเล่นเกม แต่ยังเป็นเครื่องเล่นมีเดียสำหรับดูหนัง ฟังเพลง ผ่านแอปสตรีมมิ่งต่างๆ PS5 Media Remote คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นแบบคนละเรื่องเลยครับ การใช้จอย DualSense เพื่อควบคุม Netflix หรือ YouTube อาจจะรู้สึกเกะกะและไม่คล่องตัวเท่าไหร่ แต่รีโมตตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ด้วยปุ่มควบคุมพื้นฐานที่คุ้นเคย (Play/Pause, Fast Forward, Rewind) และที่เด็ดที่สุดคือปุ่มลัดสำหรับเข้าแอปยอดนิยมอย่าง Netflix, Spotify, YouTube และ Disney+ ได้ทันทีในคลิกเดียว ไม่ต้องเสียเวลาเลื่อนหาในเมนูอีกต่อไป มันเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่เปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานด้านความบันเทิงให้สะดวกสบายและรวดเร็วทันใจครับ
สเปกเด่น
- การควบคุม: ปุ่มควบคุมการเล่นมีเดีย, ปุ่มนำทางเมนู PS5
- ปุ่มลัด: Netflix, Spotify, YouTube, Disney+ (อาจแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค)
- ฟีเจอร์พิเศษ: IR Transmitter สำหรับควบคุมระดับเสียงและเปิด/ปิดทีวีที่รองรับ
- การเชื่อมต่อ: Bluetooth
- แหล่งจ่ายไฟ: แบตเตอรี่ AA 2 ก้อน
รีวิวแบบเจาะลึก
ความสามารถที่เหนือกว่าแค่การควบคุม PS5 ของ Media Remote คือ IR Transmitter ที่ติดตั้งมาในตัวครับ ฟีเจอร์นี้ทำให้รีโมตสามารถ “เรียนรู้” สัญญาณอินฟราเรดของรีโมตทีวีเครื่องเดิมของคุณได้ ทำให้คุณสามารถใช้ PS5 Media Remote เพียงอันเดียวเพื่อเปิด/ปิดทีวี และปรับระดับเสียงของ ลำโพงทีวี หรือ Soundbar ที่เข้ากันได้ ซึ่งสะดวกมากๆ เพราะช่วยลดความวุ่นวายบนโต๊ะกาแฟ ไม่ต้องมีรีโมตหลายอันอีกต่อไป การตั้งค่าก็ไม่ยุ่งยาก สามารถทำได้ผ่านเมนู Accessories ในหน้าตั้งค่าของ PS5 ครับ ตัวรีโมตมีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา จับถนัดมือ ให้ความรู้สึกเหมือนรีโมตทีวีทั่วไปมากกว่าการถือจอยเกมขนาดใหญ่เพื่อแค่การกดเลื่อนเลือกหนัง การออกแบบที่เรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริงนี้เองที่ทำให้มันเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่หลายคนอาจมองข้าม แต่เมื่อได้ลองใช้แล้วจะติดใจครับ มันช่วยเติมเต็มบทบาทของ PS5 ในฐานะศูนย์กลางความบันเทิงในห้องนั่งเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
การเชื่อมต่อของ Media Remote กับ PS5 ทำผ่าน Bluetooth ซึ่งทำได้ง่ายและรวดเร็วในครั้งแรก และจะเชื่อมต่ออัตโนมัติในครั้งถัดไปทันทีที่กดปุ่มใดๆ บนรีโมตครับ แม้ว่ามันจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ AA ซึ่งบางคนอาจมองว่าไม่สะดวกเท่าการชาร์จผ่าน USB แต่ด้วยการใช้งานที่ไม่หนักเท่าจอยเกม แบตเตอรี่หนึ่งคู่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายเดือนเลยทีเดียวครับ สำหรับครอบครัวที่ใช้ PS5 ร่วมกัน หรือใครก็ตามที่เบื่อความยุ่งยากในการใช้จอยเกมเพื่อดูหนังฟังเพลง การลงทุนกับ อุปกรณ์เสริม PS5 ชิ้นนี้ถือว่าคุ้มค่ามากครับ มันมอบความสะดวกสบายที่จับต้องได้และทำให้การพักผ่อนหย่อนใจกับคอนเทนต์ต่างๆ บน PS5 ของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกยิ่งขึ้น ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่ใช้เวลาไปกับการดูสตรีมมิ่งบน PS5 พอๆ กับการเล่นเกม Media Remote คือไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยครับ
คะแนนที่ได้
8.8/10
รีวิวสั้น ๆ
“สะดวกกว่าใช้จอยเยอะเลยครับ กดปุ่มเดียวเข้า Netflix ได้เลย แถมใช้เปิดปิดทีวีได้ด้วยอันเดียวจบ” – อาร์ม, อายุ 33
“ตอนแรกแฟนบ่นว่าใช้จอยเลือกหนังยาก พอซื้อรีโมตตัวนี้มาให้คือแฮปปี้เลยค่ะ ใช้ง่ายเหมือนรีโมตทีวีปกติเลย” – กิ๊ฟ, อายุ 30
7. HD Camera for PlayStation 5 ★★★★☆
“คู่หูสำหรับสายสตรีม! ถ่ายทอดทุกรีแอ็กชันของคุณด้วยภาพคมชัด Full HD”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับเกมเมอร์ที่มีความฝันอยากจะเป็นสตรีมเมอร์ หรือคนที่ชอบถ่ายทอดสดการเล่นเกมให้เพื่อนๆ ดู HD Camera for PlayStation 5 คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ชิ้นสำคัญที่จะยกระดับการสตรีมของคุณให้ดูเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้นครับ กล้องตัวนี้มาพร้อมกับเลนส์คู่ที่สามารถจับภาพได้ในความละเอียดสูงถึง 1080p (Full HD) ทำให้ภาพใบหน้าและรีแอ็กชันของคุณคมชัดทุกรายละเอียด นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับเครื่องมือ Broadcast ของ PS5 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้คุณสามารถตัดพื้นหลังออกแล้วแทนที่ด้วยภาพในเกม หรือที่เรียกว่า Chroma Key (Green Screen) ได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมเลยครับ ด้วยดีไซน์ที่กะทัดรัดและขาตั้งที่ปรับได้ ทำให้สามารถติดตั้งบนขอบ ทีวีเล่นเกม หรือจอภาพได้อย่างง่ายดาย นี่คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่จะทำให้ช่องสตรีมของคุณโดดเด่นกว่าใคร
สเปกเด่น
- ความละเอียด: 1080p (Full HD)
- เลนส์: เลนส์คู่แบบ Wide-angle
- ฟีเจอร์ในตัว: เครื่องมือลบพื้นหลัง (Background removal tools)
- การติดตั้ง: ขาตั้งในตัวแบบปรับได้ (Built-in adjustable stand)
- การเชื่อมต่อ: USB-A (เสียบเข้าด้านหลังเครื่อง PS5)
รีวิวแบบเจาะลึก
จุดเด่นที่สุดของ HD Camera คือการทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการของ PS5 ได้อย่างราบรื่นครับ เมื่อคุณกดปุ่ม Create บนจอย DualSense แล้วเลือก “Broadcast” ตัวเครื่องจะตรวจพบกล้องทันทีและแสดงตัวเลือกให้คุณสามารถปรับแต่ง Picture-in-Picture (PiP) ของคุณได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกรอบสี่เหลี่ยม กรอบวงกลม หรือที่เจ๋งที่สุดคือโหมดตัดพื้นหลัง (Cutout) ที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์และลบฉากหลังห้องของคุณออกไป เหลือไว้แต่ตัวคุณลอยอยู่บนหน้าจอเกม ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดูสะอาดตาและเป็นมืออาชีพมากโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมี Green Screen จริงๆ เลยครับ คุณภาพของภาพที่ได้จากเลนส์คู่ 1080p นั้นถือว่าคมชัดและให้สีสันที่ถูกต้อง เหมาะสำหรับการสตรีมไปยังแพลตฟอร์มอย่าง Twitch หรือ YouTube โดยตรงจากเครื่อง PS5 ของคุณ การมี อุปกรณ์เสริม PS5 ชิ้นนี้จะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดผู้ชมให้มาสนใจช่องของคุณได้มากขึ้นอย่างแน่นอนครับ
การติดตั้งก็ทำได้ง่ายมากครับ ตัวกล้องมีขาตั้งที่ออกแบบมาให้สามารถหนีบเข้ากับขอบบนของทีวีส่วนใหญ่ได้อย่างมั่นคง หรือจะวางบนโต๊ะก็ได้เช่นกัน จากนั้นก็แค่เสียบสาย USB เข้ากับพอร์ตด้านหลังของเครื่อง PS5 ก็พร้อมใช้งานทันที ไม่ต้องลงไดรเวอร์หรือซอฟต์แวร์เพิ่มเติมให้วุ่นวาย อย่างไรก็ตาม มีข้อควรทราบเล็กน้อยคือ HD Camera ตัวนี้ไม่สามารถใช้งานกับ PlayStation VR รุ่นแรกได้ (ต้องใช้ PlayStation Camera รุ่นเก่ากับอะแดปเตอร์) และตัวกล้องเองก็ไม่มีไมโครโฟนในตัว ดังนั้นคุณยังคงต้องใช้ไมโครโฟนจากจอย DualSense หรือ หูฟังสำหรับ PS5 ในการสื่อสารกับผู้ชมครับ แต่ถ้ามองในฐานะกล้องสำหรับสตรีมมิ่งโดยเฉพาะแล้ว HD Camera ถือเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ทำหน้าที่ของมันได้ดีเยี่ยม ให้ภาพที่สวยงามคมชัดและมีเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับ Content Creator ทุกคนครับ
คะแนนที่ได้
8.7/10
รีวิวสั้น ๆ
“ภาพชัดมากครับ! ฟังก์ชันตัดพื้นหลังคือดีงาม ไม่ต้องซื้อ Green Screen เพิ่มเลย สตรีมผ่านเครื่อง PS5 ได้สบายๆ” – เจมส์, อายุ 24
“ติดตั้งง่ายมากค่ะ หนีบกับขอบทีวีได้พอดีเลย ทำให้มุมกล้องสวยกำลังดี ใครอยากเริ่มสตรีมแนะนำเลยค่ะ” – ฝน, อายุ 22
8. Logitech G923 TRUEFORCE Racing Wheel ★★★★☆
“สัมผัสทุกโค้ง ทุกแรงสั่นสะเทือนของพื้นถนน! พวงมาลัยที่จะเปลี่ยนเกมแข่งรถของคุณไปตลอดกาล”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับคอเกมความเร็วที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่สมจริงที่สุด การเล่นด้วยจอยธรรมดาอาจจะยังให้ฟีลลิ่งได้ไม่เต็มที่ครับ Logitech G923 คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ประเภทพวงมาลัย (Racing Wheel) ที่จะมายกระดับการเล่นเกมแข่งรถของคุณไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง TRUEFORCE High-Definition Force Feedback ที่สามารถจำลองแรงสั่นสะเทือนและแรงต้านของพวงมาลัยได้อย่างละเอียดและสมจริง คุณจะรู้สึกได้ถึงเสียงเครื่องยนต์, การยึดเกาะของยาง, และพื้นผิวของสนามแข่งที่แตกต่างกันผ่านมือของคุณโดยตรง! ตัวพวงมาลัยหุ้มด้วยหนังแท้เย็บมือ ให้สัมผัสที่พรีเมียมและจับกระชับมือ พร้อมชุดแป้นเหยียบแบบ Progressive Brake ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเบรกรถจริง นี่คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นนักแข่งในสนามจริงๆ ครับ
สเปกเด่น
- เทคโนโลยีหลัก: TRUEFORCE High-Definition Force Feedback
- วัสดุ: พวงมาลัยหุ้มหนังแท้, โครงสร้างโลหะขัดเงา
- แป้นเหยียบ: Progressive Brake System (คันเร่ง, เบรก, คลัตช์)
- ฟีเจอร์พิเศษ: Dual-Clutch Launch Assist, ไฟ LED บอกรอบเครื่อง (Rev Indicator)
- ความเข้ากันได้: PlayStation 5, PlayStation 4, PC
รีวิวแบบเจาะลึก
หัวใจของ Logitech G923 คือระบบ TRUEFORCE ครับ มันไม่ใช่แค่ Force Feedback แบบเดิมๆ ที่ให้แรงต้านซ้าย-ขวา แต่มันคือระบบที่เชื่อมต่อกับฟิสิกส์และเสียงในเกมโดยตรง ทำให้สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนความถี่สูง (Haptic) ได้ละเอียดถึง 4000 ครั้งต่อวินาที ผลลัพธ์คือคุณจะ “รู้สึก” ได้ถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เช่น แรงสั่นตอนที่ล้อรถปีนขึ้นขอบทาง, ความรู้สึกตอนที่รถเริ่มเสียการทรงตัว (Understeer/Oversteer), หรือแม้แต่แรงสั่นจากลูกสูบของเครื่องยนต์ มันสร้างความดื่มด่ำและความเข้าใจในตัวรถได้ดีขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการทำเวลาต่อรอบที่ดีขึ้นครับ ฟีเจอร์ Dual-Clutch Launch Assist ก็เป็นอีกหนึ่งความเจ๋งที่ช่วยให้คุณออกตัวจากจุดสตาร์ทได้เร็วขึ้นโดยที่ล้อไม่หมุนฟรี และไฟ LED บอกรอบเครื่องที่อยู่บนพวงมาลัยก็ช่วยให้คุณเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำในจังหวะที่เหมาะสมที่สุด ทั้งหมดนี้ทำให้ G923 เป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่เหนือกว่าแค่ของเล่น แต่เป็นเครื่องมือสำหรับฝึกฝนฝีมือการขับขี่อย่างจริงจัง
งานประกอบและวัสดุของ G923 นั้นยอดเยี่ยมสมราคาครับ พวงมาลัยที่หุ้มด้วยหนังแท้ให้สัมผัสที่ดีและทนทานต่อการใช้งานหนัก แป้น Paddle Shifter ทำจากโลหะให้ความรู้สึกที่หนักแน่นตอนเปลี่ยนเกียร์ และชุดแป้นเหยียบก็มีความแข็งแรงพร้อมสปริงแบบ Progressive ที่ทำให้แป้นเบรกมีความสมจริง ต้องใช้แรงกดมากขึ้นเมื่อเหยียบใกล้สุดเหมือนระบบเบรกในรถจริงครับ การติดตั้งจำเป็นต้องมีโต๊ะที่แข็งแรงเพื่อใช้ตัวยึด (Clamp) ที่ให้มา หรือจะให้ดีที่สุดคือการติดตั้งบนชุด Cockpit สำหรับเล่นเกมแข่งรถโดยเฉพาะครับ แม้ว่าราคาของมันจะค่อนข้างสูงและต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้ง แต่สำหรับแฟนเกม Gran Turismo, F1, หรือ Assetto Corsa ที่ต้องการความสมจริงขั้นสุดแล้วล่ะก็ Logitech G923 คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่จะมอบประสบการณ์ที่คุ้มค่าและจะเปลี่ยนวิธีการเล่นเกมแข่งรถของคุณไปตลอดกาลครับ
คะแนนที่ได้
8.5/10
รีวิวสั้น ๆ
“โคตรสมจริงครับ! ฟีลลิ่งตอนขับ Gran Turismo 7 คือคนละเรื่องกับใช้จอยเลย รู้สึกถึงพื้นถนนทุกลายละเอียดจริงๆ” – วิน, อายุ 29
“ตอนแรกคิดว่าแพงไป แต่พอได้ลองแล้วคือติดใจเลยค่ะ TRUEFORCE มันดีมากจริงๆ วัสดุก็ดีมาก จับแล้วรู้สึกพรีเมียม” – แพรว, อายุ 32
9. ONIKUMA KUMA B2 Wireless Gaming Headset ★★★☆☆
“หูฟังไร้สายสุดคุ้ม! ดีไซน์น่ารัก เสียงดีเกินราคา เชื่อมต่อได้หลากหลาย”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหา หูฟังไร้สาย สำหรับเล่นเกมในราคาสบายกระเป๋า ONIKUMA KUMA B2 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ นี่คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่มาพร้อมดีไซน์สุดน่ารักด้วยหูแมวแม่เหล็กที่ถอดเข้า-ออกได้ และไฟ RGB ที่ด้านข้าง Earcup ทำให้ดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่ความดีงามของมันไม่ได้มีแค่หน้าตาครับ หูฟังตัวนี้ให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินคาดในราคาระดับนี้ สามารถแยกทิศทางเสียงซ้าย-ขวาในเกมได้ชัดเจน และยังรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายทั้งแบบไร้สาย 2.4GHz ผ่าน Dongle และ Bluetooth ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งกับ PS5, PC, Switch และมือถือ เรียกได้ว่าเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ครบเครื่องและคุ้มค่าสำหรับเกมเมอร์งบจำกัดครับ
สเปกเด่น
- การเชื่อมต่อ: Wireless 2.4GHz (USB Dongle), Bluetooth 5.2, Wired (3.5mm)
- ไดรเวอร์: ขนาด 50mm
- ไมโครโฟน: แบบถอดได้ พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน
- แบตเตอรี่: ใช้งานได้สูงสุด 20 ชั่วโมง (ปิดไฟ RGB)
- ฟีเจอร์พิเศษ: หูแมวแม่เหล็กถอดได้, ไฟ RGB, รองรับ 7.1 Surround (บน PC)
รีวิวแบบเจาะลึก
ONIKUMA KUMA B2 สร้างความประทับใจแรกด้วยดีไซน์ครับ หูแมวที่ติดด้วยแม่เหล็กสามารถถอดออกได้ง่ายเมื่อต้องการลุคที่ดูจริงจังขึ้น และไฟ RGB ที่ Earcup ก็ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ในด้านการสวมใส่ Earcup มีขนาดใหญ่และบุด้วยฟองน้ำหุ้มหนังเทียมที่นุ่มสบาย สามารถครอบหูได้สนิทช่วยลดเสียงรบกวนภายนอกได้ในระดับหนึ่ง และก้านหูฟังก็สามารถปรับระดับได้รองรับสรีระศีรษะที่หลากหลายครับ สำหรับคุณภาพเสียง ไดรเวอร์ขนาด 50mm ให้เสียงเบสที่หนักแน่นและเสียงกลาง-แหลมที่ชัดเจนพอสมควรสำหรับการเล่นเกมและการฟังเพลงทั่วไป การแยกทิศทางเสียงในเกม FPS ทำได้ดี ทำให้รู้ตำแหน่งของศัตรูจากการฟังเสียงฝีเท้าได้ง่ายขึ้น ถือเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินราคาไปมากครับ
ความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อคืออีกหนึ่งจุดแข็งของ KUMA B2 ครับ การเชื่อมต่อหลักกับ PS5 และ PC จะใช้ Dongle 2.4GHz ซึ่งให้สัญญาณที่เสถียรและมีความหน่วงต่ำ แต่คุณยังสามารถสลับไปใช้โหมด Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับ Nintendo Switch หรือโทรศัพท์มือถือสำหรับฟังเพลงหรือดูหนังได้อีกด้วย และถ้าแบตหมดก็ยังมีช่องเสียบสาย 3.5mm ให้ใช้งานต่อได้ทันที ไมโครโฟนที่ให้มาก็สามารถถอดเก็บได้เมื่อไม่ใช้งานและมีคุณภาพเสียงที่ชัดเจนเพียงพอสำหรับการสื่อสารกับเพื่อนในทีม แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ถึง 20 ชั่วโมง (เมื่อปิดไฟ) ก็ถือว่าอึดมากสำหรับการใช้งานทั่วไปครับ แม้ว่าคุณภาพวัสดุโดยรวมอาจจะยังเป็นรองหูฟังแบรนด์ใหญ่ราคาแพง และฟีเจอร์เสียงรอบทิศทาง 7.1 จะใช้ได้แค่บน PC แต่ถ้ามองในภาพรวมแล้ว ONIKUMA KUMA B2 คือ อุปกรณ์เสริม PS5 ประเภทหูฟังไร้สายที่ให้ความคุ้มค่าสูงมาก เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือใครก็ตามที่อยากได้หูฟังดีๆ สักตัวโดยไม่ต้องจ่ายแพงครับ
คะแนนที่ได้
8.3/10
รีวิวสั้น ๆ
“น่ารักมากเลยค่ะ! ใส่แล้วเพื่อนทักทุกคนเลย เสียงก็ดีใช้ได้เลยนะคะ เล่นเกมฟังเสียงเท้าชัดดีค่ะ” – มาย, อายุ 21
“คุ้มมากครับราคานี้ ได้ทั้งไร้สาย ได้ทั้งบลูทูธ แบตก็อึดดี ใช้กับคอมก็ได้ PS5 ก็ดี ตัวเดียวจบเลย” – ท็อป, อายุ 25
10. อุปกรณ์เสริมเกมPS5 เปลี่ยนฝาเครื่อง PlayStation 5 ★★★☆☆
“แปลงโฉม PS5 ของคุณให้ไม่เหมือนใคร! เปลี่ยนสีง่ายๆ ในไม่กี่นาที”
สามารถเช็คราคา ณ ปัจจุบัน และส่วนลดได้ที่ : ⬇️
ปิดท้ายลิสต์ อุปกรณ์เสริม PS5 ของเราด้วยไอเทมสำหรับสายคัสตอมที่อยากให้เครื่องเกมของตัวเองมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร นั่นก็คือ Faceplates หรือฝาเครื่องสำหรับเปลี่ยนสี นั่นเองครับ! แต่เดิมเครื่อง PS5 มาพร้อมกับฝาสีขาวมาตรฐาน ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจทุกคน หรืออาจจะไม่เข้ากับสไตล์การแต่งห้องของบางคน Faceplates เหล่านี้จึงเป็นทางออกที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการแปลงโฉมเครื่องของคุณให้เป็นสีสันต่างๆ ที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสีดำด้านสุดเท่, สีแดงเพลิงร้อนแรง, หรือสีอื่นๆ อีกมากมายที่มีให้เลือกในท้องตลาด การเปลี่ยนฝาเครื่องนี้เป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่เน้นด้านความสวยงามเป็นหลัก แต่ก็ช่วยสร้างความสุขและความเป็นตัวของตัวเองให้กับเจ้าของเครื่องได้เป็นอย่างดีครับ
สเปกเด่น
- วัสดุ: ส่วนใหญ่ทำจากพลาสติก ABS คุณภาพสูง
- การติดตั้ง: ออกแบบมาให้ถอดเปลี่ยนได้ง่าย (Snap-on/off)
- สีสัน: มีให้เลือกหลากหลายสี เช่น Cosmic Red, Midnight Black, Starlight Blue, Galactic Purple, Nova Pink และสีจากผู้ผลิต Third-party
- ความเข้ากันได้: มีทั้งรุ่นสำหรับ PS5 Standard Edition (มีช่องใส่แผ่น) และ Digital Edition
- ฟีเจอร์เพิ่มเติม: บางรุ่นอาจมีช่องระบายอากาศเสริมเพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น
รีวิวแบบเจาะลึก
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าจริงๆ แล้ว Sony ออกแบบฝาเครื่อง PS5 มาให้ถอดออกได้ค่อนข้างง่ายอยู่แล้วครับ (เพื่อทำความสะอาดพัดลมหรือติดตั้ง SSD เพิ่ม) ซึ่งนี่ก็เป็นช่องทางให้เกิดตลาด อุปกรณ์เสริม PS5 ประเภท Faceplates ขึ้นมานั่นเอง วิธีการเปลี่ยนก็ไม่ซับซ้อนเลยครับ เพียงแค่ยกมุมของฝาเดิมขึ้นเล็กน้อยแล้วสไลด์ออก จากนั้นก็นำฝาใหม่มาสไลด์เข้าที่ให้ลงล็อก “คลิก” ก็เป็นอันเสร็จสิ้น สามารถทำได้เองที่บ้านในเวลาไม่ถึง 5 นาทีโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เลยครับ Faceplates ที่เป็นของ Official จาก Sony จะมีคุณภาพวัสดุและสีที่ตรงกับจอย DualSense สีต่างๆ ทำให้สามารถจัดเซ็ตเข้าคู่กันได้อย่างสวยงามลงตัว ส่วน Faceplates จากผู้ผลิต Third-party ก็มีตัวเลือกที่หลากหลายและราคาที่ย่อมเยากว่า บางรุ่นอาจมีการออกแบบช่องระบายอากาศเพิ่มเติม ซึ่งผู้ผลิตอ้างว่าช่วยให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้นเล็กน้อยด้วยครับ
การเลือกซื้อ Faceplates สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเลือกรุ่นให้ถูกต้องกับเครื่อง PS5 ของเราครับ ว่าเป็นรุ่น Standard ที่มีช่องใส่แผ่น หรือรุ่น Digital ที่ไม่มีช่องใส่แผ่น เพราะฝาทั้งสองรุ่นนี้มีขนาดไม่เท่ากันครับ และหากเลือกซื้อจากผู้ผลิต Third-party ก็ควรอ่านรีวิวและเช็กคุณภาพของวัสดุให้ดีก่อนตัดสินใจครับ แม้ว่า Faceplates จะไม่ได้ช่วยให้คุณเล่นเกมเก่งขึ้นโดยตรง แต่มันเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ตอบสนองความต้องการด้านสุนทรียภาพและความเป็นตัวตนได้อย่างยอดเยี่ยม การได้เห็นเครื่องเกมของเราในสีที่ชอบทุกวันก็เป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เรารักในมุมเล่นเกมของเรามากยิ่งขึ้นครับ สำหรับใครที่เบื่อสีขาวเดิมๆ หรืออยากจะคุมโทนสีของอุปกรณ์บนโต๊ะให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน การลงทุนกับ Faceplates ถือเป็นอะไรที่ง่ายและเห็นผลทันทีเลยครับ
คะแนนที่ได้
8.0/10
รีวิวสั้น ๆ
“เปลี่ยนเป็นสีดำแล้วเท่มากครับ เข้ากับโต๊ะคอมผมเลย เปลี่ยนง่ายกว่าที่คิดเยอะมาก” – กัน, อายุ 26
“ซื้อสีชมพูมาเข้ากับจอยสีเดียวกัน น่ารักมากๆ เลยค่ะ ทำให้เครื่องดูไม่ใหญ่เทอะทะเหมือนตอนเป็นสีขาว” – บี, อายุ 23
มุมมองจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ: อุปกรณ์เสริมไม่ใช่แค่ “ของเล่น” อีกต่อไป
“ในยุคของคอนโซล Gen 9 ตลาด อุปกรณ์เสริม PS5 และ Xbox ไม่ได้เป็นเพียงตลาดเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป แต่มันได้กลายเป็นส่วนสำคัญของ Ecosystem ที่ช่วยขยายประสบการณ์และตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของเกมเมอร์ ตั้งแต่จอยโปรที่มอบความได้เปรียบในการแข่งขัน ไปจนถึงอุปกรณ์ Remote Play ที่ให้อิสระในการเล่นนอกจอทีวี” – นักวิเคราะห์จาก IGN
ผู้เชี่ยวชาญจากสื่อเกมชั้นนำหลายสำนักต่างเห็นตรงกันว่า บทบาทของ อุปกรณ์เสริม PS5 ได้เปลี่ยนไปจากในอดีตอย่างสิ้นเชิงครับ จากที่เคยเป็นเพียง “ของเล่น” หรือ “ตัวเลือกเสริม” สำหรับคนที่มีงบประมาณเหลือเฟือ ปัจจุบันมันได้กลายเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับเกมเมอร์หลายกลุ่มไปแล้ว
- สำหรับสาย Competitive: จอยโปรอย่าง Victrix Pro BFG หรือ Scuf Reflex ไม่ใช่แค่ความหรูหรา แต่เป็นอาวุธที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง ปุ่มเสริมด้านหลังและ Trigger Stops ช่วยลดเวลาตอบสนองลงเสี้ยววินาที ซึ่งมีความหมายอย่างยิ่งในเกมระดับสูง
- สำหรับสาย Content Creator: HD Camera และ ไมโครโฟนคุณภาพสูง กลายเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดูเป็นมืออาชีพและดึงดูดผู้ชม
- สำหรับสาย Casual และครอบครัว: อุปกรณ์อย่าง PlayStation Portal หรือ Media Remote ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ทีวีหนึ่งเครื่องต้องถูกใช้งานร่วมกันหลายคน ทำให้การเล่นเกมและความบันเทิงไม่จำเป็นต้องผูกติดอยู่กับห้องนั่งเล่นเสมอไป
บทวิเคราะห์จากทีมงาน TOPLISTPLUS
“ทีมงานของเรามองว่า Sony เองก็ตระหนักถึงความสำคัญนี้ จึงได้ออกแบบให้เครื่อง PS5 มีความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อกับ อุปกรณ์เสริม PS5 ที่หลากหลาย ทั้งที่เป็นของ Official และจาก Third-party การเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมในวันนี้จึงไม่ใช่แค่การ ‘ซื้อของเพิ่ม’ แต่เป็นการ ‘ลงทุน’ เพื่อปรับแต่งประสบการณ์การเล่นเกมให้เข้ากับตัวตนและสไตล์การเล่นของเรามากที่สุด การลงทุนกับจอยโปรดีๆ สักตัว หรือหูฟังที่ให้มิติเสียงสมจริง อาจจะเปลี่ยนวิธีการเล่นและมุมมองที่คุณมีต่อเกมโปรดของคุณไปเลยก็ได้”
เคล็ดลับการเลือกซื้อ อุปกรณ์เสริม PS5 ให้โดนใจและคุ้มค่าที่สุด
การเลือกซื้อ อุปกรณ์เสริม PS5 อาจจะดูน่าสับสนเพราะมีตัวเลือกมากมายในตลาด แต่ถ้าเรามีหลักในการพิจารณา ก็จะสามารถเลือกไอเทมที่ใช่สำหรับเราได้ไม่ยากเลยครับ ลองใช้เคล็ดลับเหล่านี้ดูนะครับ
- ถามตัวเองก่อน: “สไตล์การเล่นของเราเป็นแบบไหน?” นี่คือคำถามที่สำคัญที่สุดครับ
- สายบู๊ล้างผลาญ (Action/FPS): มองหาจอยโปรที่มีปุ่มเสริมด้านหลังและ Trigger Stops เช่น Victrix Pro BFG จะช่วยให้คุณตอบสนองได้ไวกว่า
- สายเนื้อเรื่อง (RPG/Adventure): จอย DualSense มาตรฐานก็ให้ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำยอดเยี่ยมอยู่แล้ว หรืออาจจะเพิ่ม หูฟัง 3D Audio ดีๆ สักตัวเพื่อความฟินขั้นสุด
- สายความเร็ว (Racing): ถ้าคุณจริงจังกับเกมแข่งรถ การลงทุนกับพวงมาลัยอย่าง Logitech G923 จะเปลี่ยนโลกของคุณไปเลย
- สายสตรีมเมอร์: HD Camera และไมโครโฟนดีๆ คือการลงทุนที่จำเป็นครับ
- กำหนดงบประมาณที่ชัดเจน: อุปกรณ์เสริม PS5 มีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น การกำหนดงบประมาณไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้เราจำกัดตัวเลือกและไม่บานปลายครับ อย่าลืมว่าของแพงที่สุดอาจไม่ใช่ของที่เหมาะกับเราที่สุดเสมอไป
- เช็กความเข้ากันได้ (Compatibility): ก่อนซื้อ ต้องแน่ใจว่าอุปกรณ์นั้นๆ ได้รับการรับรองว่าใช้งานกับ PS5 ได้อย่างเป็นทางการ (Official Licensed) หรือมีรีวิวที่ยืนยันว่าใช้งานได้จริงโดยไม่มีปัญหา โดยเฉพาะอุปกรณ์จาก Third-party
- อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง: นอกจากรีวิวจากสื่อต่างๆ แล้ว การอ่านความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริงในเว็บบอร์ดอย่าง Reddit หรือในหน้าสินค้านั้นๆ จะช่วยให้เราเห็นภาพการใช้งานในชีวิตประจำวันและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ดีที่สุดครับ
- มองหาความอเนกประสงค์: อุปกรณ์เสริม PS5 บางชิ้นสามารถใช้งานกับแพลตฟอร์มอื่นได้ด้วย เช่น จอยหรือหูฟังที่รองรับทั้ง PS5, PC, และมือถือ การเลือกอุปกรณ์ที่มีความยืดหยุ่นสูงจะทำให้การลงทุนของคุณคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นครับ
จัดเซ็ต อุปกรณ์เสริม PS5 ตามสไตล์เกมเมอร์
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองมาดูตัวอย่างการจัดเซ็ต อุปกรณ์เสริม PS5 สำหรับเกมเมอร์แต่ละสายกันครับ
- เซ็ตสำหรับ The Pro Player (สาย FPS/แข่งขัน):
- จอย: Victrix Pro BFG Wireless Controller (เพื่อความแม่นยำและปุ่มเสริม)
- หูฟัง: Sony INZONE H9 (เพื่อ 3D Audio ที่แม่นยำและ ANC)
- จอภาพ: จอคอมเกมมิ่ง 144Hz+ (เพื่อความลื่นไหลสูงสุด)
- อื่นๆ: KontrolFreek (ปุ่มเสริม Analog Stick เพื่อความแม่นยำ)
- เซ็ตสำหรับ The Story Lover (สายเสพเนื้อเรื่อง/RPG):
- จอย: DualSense Wireless Controller (เพื่อ Haptic Feedback เต็มรูปแบบ)
- หูฟัง: Sony Pulse 3D Wireless Headset (เพื่อดื่มด่ำกับ 3D Audio)
- จอภาพ: ทีวี OLED จอใหญ่ (เพื่อภาพที่สวยงามและคอนทราสต์จัดเต็ม)
- อื่นๆ: PlayStation Portal (เพื่อย้ายไปนอนเล่นบนเตียง)
- เซ็ตสำหรับ The Family Man (สายครอบครัว/Casual):
- จอย: DualSense Wireless Controller 2-4 ตัว
- แท่นชาร์จ: DualSense Charging Station (เพื่อให้จอยพร้อมเสมอ)
- รีโมต: PS5 Media Remote (เพื่อให้ทุกคนใช้ดู Netflix ได้ง่าย)
- อื่นๆ: PlayStation Portal (เพื่อให้พ่อได้เล่นเกมตอนทีวีไม่ว่าง)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ อุปกรณ์เสริม PS5
- ถาม: อุปกรณ์เสริมของ PS4 สามารถนำมาใช้กับ PS5 ได้หรือไม่?
ตอบ: ได้บางอย่างครับ เช่น จอย DualShock 4 สามารถใช้เล่น “เกม PS4” บนเครื่อง PS5 ได้ แต่ไม่สามารถใช้เล่น “เกม PS5” ได้ครับ ส่วนหูฟัง Platinum/Gold Wireless Headset และหูฟัง Third-party ที่ต่อผ่าน USB/Audio Jack ส่วนใหญ่จะยังใช้งานได้ครับ พวงมาลัยแข่งรถและ Arcade Sticks ที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการส่วนใหญ่ก็จะใช้ได้เช่นกันครับ - ถาม: จอยโปรจำเป็นต้องมีไหม? มันช่วยให้เล่นเก่งขึ้นจริงหรือ?
ตอบ: ไม่จำเป็นสำหรับทุกคนครับ แต่สำหรับเกมเมอร์ที่เล่นเกมแนวแข่งขันอย่างจริงจัง ปุ่มเสริมด้านหลังและ Trigger Stops สามารถสร้างความได้เปรียบได้อย่างชัดเจน เพราะช่วยให้คุณทำแอ็กชันสำคัญๆ (เช่น กระโดด, สไลด์, รีโหลด) ได้โดยไม่ต้องละนิ้วโป้งออกจาก Analog Stick ทำให้ควบคุมตัวละครและเป้าได้ต่อเนื่องและดีขึ้นครับ - ถาม: การเพิ่ม SSD M.2 ถือเป็น อุปกรณ์เสริม PS5 หรือไม่?
ตอบ: ถือเป็นอุปกรณ์เสริมที่สำคัญมากชิ้นหนึ่งครับ! การเพิ่ม SSD สำหรับ PS5 จะช่วยขยายพื้นที่ในการติดตั้งเกม PS5 ได้โดยตรง ทำให้ไม่ต้องคอยลบเกมเก่าเพื่อลงเกมใหม่ และยังโหลดเกมได้เร็วเทียบเท่ากับ SSD ในเครื่องเลยครับ - ถาม: มีวิธีดูแลรักษาจอย DualSense ให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานๆ ไหม?
ตอบ: มีครับ คุณสามารถเข้าไปที่ Settings > Accessories > Controllers แล้วปรับลดความสว่างของไฟแสดงสถานะ (Indicator Brightness), ลดความแรงของการสั่น (Vibration Intensity), และลดความแรงของไกปืน (Trigger Effect Intensity) ได้ ซึ่งจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งได้อย่างเห็นผลครับ
บทสรุป: เลือก อุปกรณ์เสริม PS5 ที่ใช่ เพื่อประสบการณ์ที่เป็นคุณ
มาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ คงเห็นแล้วนะครับว่าโลกของ อุปกรณ์เสริม PS5 นั้นมีอะไรมากกว่าที่เราคิด และแต่ละชิ้นก็ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไป การเลือกซื้อจึงไม่มีคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงหนึ่งเดียว แต่ขึ้นอยู่กับว่า “คุณ” เป็นเกมเมอร์สไตล์ไหน และต้องการยกระดับประสบการณ์ด้านใดเป็นพิเศษ
ถ้าคุณคือเกมเมอร์ส่วนใหญ่ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ Next-gen อย่างเต็มรูปแบบ DualSense Controller ที่มากับเครื่องก็ยอดเยี่ยมในตัวของมันอยู่แล้ว การเพิ่ม DualSense Charging Station และ หูฟัง Pulse 3D ก็เป็นการเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าคุณคือผู้เล่นสายแข็งที่ทุกเสี้ยววินาทีคือความเป็นความตาย การลงทุนกับจอยโปรอย่าง Victrix Pro BFG หรือพวงมาลัย Logitech G923 ก็จะปลดล็อกศักยภาพของคุณได้อย่างก้าวกระโดด ในขณะที่ PlayStation Portal และ HD Camera ก็เข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่นและอยากแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ให้กับคนอื่น
สุดท้ายนี้ ผมหวังว่ารีวิว 10 อันดับ อุปกรณ์เสริม PS5 ในบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกซื้อไอเทมคู่ใจชิ้นใหม่ได้ง่ายขึ้นนะครับ อย่าลืมว่าหัวใจสำคัญที่สุดคือการเล่นเกมอย่างมีความสุข การเลือกอุปกรณ์ที่ใช่สำหรับเราก็คือหนทางหนึ่งที่จะนำไปสู่ความสุขนั้นนั่นเองครับ ขอให้สนุกกับการเล่นเกมนะครับ!
หมายเหตุจากผู้เขียน:
- รายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติ, ราคา, และการรับประกันของ อุปกรณ์เสริม PS5 แต่ละชิ้น ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของ PlayStation, Victrix, GameSir, Logitech G, และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
- คะแนน (เช่น 9.8/10) เป็นการประเมินโดยทีมงาน TOPLISTPLUS โดยอ้างอิงจากสเปก, ฟีเจอร์, นวัตกรรม, ราคา, และรีวิวจากผู้ใช้งานจริงทั้งในและต่างประเทศ
- รีวิวสั้นๆ จากผู้ใช้งาน (เช่น “นนท์, อายุ 28”) เป็นตัวอย่างที่เรียบเรียงขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพการใช้งานจริงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลล่าสุด ณ ช่วงเวลาที่เผยแพร่ คุณสมบัติหรือราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตตามการประกาศจากผู้ผลิตครับ
